วันเวลาดำเนินมาเรื่อย ๆ จนครบขวบปี บัวบูชาก็ตัดสินใจบอกแม่ถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับคุณศิราในวันที่เจ้าตัวสำเร็จการศึกษา แต่ท่าทางของแม่ดูไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่กับคำบอกกล่าวนี้เท่าที่ควร มันทำให้บัวบูชาค่อนข้างแปลกใจอยู่มาก สุดท้ายจึงได้รู้ว่าแม่ทราบเรื่องนี้นานแล้ว
ในสายตาผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนก็เดาได้ไม่ยาก ที่จริงแม่เริ่มสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนที่เธอต้องไปนอนค้างที่ทำงานบ่อย ๆ แล้ว ไหนจะเรื่องเงินที่ใช้จ่ายภายในบ้าน ค่ายา ค่าจ้างพยาบาลพิเศษ หรือแม้แต่รถยนต์คันหรูที่เธอใช้ขับ แต่แค่ไม่รู้ว่าคนที่คอยช่วยเหลือเป็นใครเท่านั้น
จนวันหนึ่งบัวบูชาพาศิรามาเยี่ยมแม่ ซึ่งในตอนแรกเธอแนะนำให้แม่รู้แค่ว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพี่ที่สนิทเท่านั้น แต่ทุกอย่างก็ไม่สามารถเล็ดลอดสายตาของแม่ไปได้
ในวันรับปริญญา คุณศิราซื้อบ้านให้เธอหนึ่งหลังเป็นรางวัล บัวบูชา ยังจำวันนั้นได้ดี ในตอนที่เธอกำลังถ่ายรูปรับปริญญากับแม่ และเพื่อน ๆ อยู่นั้น
คุณศิราพร้อมกับเพื่อนทั้งสองคน เดินฝ่าฝูงชนตรงมายังที่ที่เธอกำลังยืนอยู่ มือหนาถือดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ พร้อมยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เธอหนึ่งซอง<
วันเวลาดำเนินมาเรื่อย ๆ จนครบขวบปี บัวบูชาก็ตัดสินใจบอกแม่ถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับคุณศิราในวันที่เจ้าตัวสำเร็จการศึกษา แต่ท่าทางของแม่ดูไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่กับคำบอกกล่าวนี้เท่าที่ควร มันทำให้บัวบูชาค่อนข้างแปลกใจอยู่มาก สุดท้ายจึงได้รู้ว่าแม่ทราบเรื่องนี้นานแล้วในสายตาผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนก็เดาได้ไม่ยาก ที่จริงแม่เริ่มสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนที่เธอต้องไปนอนค้างที่ทำงานบ่อย ๆ แล้ว ไหนจะเรื่องเงินที่ใช้จ่ายภายในบ้าน ค่ายา ค่าจ้างพยาบาลพิเศษ หรือแม้แต่รถยนต์คันหรูที่เธอใช้ขับ แต่แค่ไม่รู้ว่าคนที่คอยช่วยเหลือเป็นใครเท่านั้นจนวันหนึ่งบัวบูชาพาศิรามาเยี่ยมแม่ ซึ่งในตอนแรกเธอแนะนำให้แม่รู้แค่ว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพี่ที่สนิทเท่านั้น แต่ทุกอย่างก็ไม่สามารถเล็ดลอดสายตาของแม่ไปได้ในวันรับปริญญา คุณศิราซื้อบ้านให้เธอหนึ่งหลังเป็นรางวัล บัวบูชา ยังจำวันนั้นได้ดี ในตอนที่เธอกำลังถ่ายรูปรับปริญญากับแม่ และเพื่อน ๆ อยู่นั้นคุณศิราพร้อมกับเพื่อนทั้งสองคน เดินฝ่าฝูงชนตรงมายังที่ที่เธอกำลังยืนอยู่ มือหนาถือดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ พร้อมยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เธอหนึ่งซอง
เปลือกตาสีไข่ขยับยุกยิก เพราะรู้สึกว่ามีอะไรเย็น ๆ มาสัมผัสบริเวณแก้มขาว ซึ่งมันรบกวนการนอนของเธออย่างมาก มือเล็กจึงปัดออกด้วยความรำคาญ“ตื่นได้แล้วค่ะ คนเก่ง วันนี้ฝึกงานวันแรกนะคะ” สิ้นประโยคดังกล่าว ดวงตากลมโตเบิกกว้างเป็นไข่ห่าน กระวีกระวาดลุกจากเตียงวิ่งตรงไปยังห้องน้ำทันที“ตายแล้ว! สายแน่ ๆ เลย” คนตัวเล็กแทบจะร้องไห้ เธอไม่อยากไปฝึกงานสายตั้งแต่วันแรกนะ“รีบอาบน้ำนะ พี่เตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว”“ขอบคุณค่ะ พี่ศิรา” ใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูยื่นหน้าออกมาจากห้องน้ำ พร้อมส่งรอยยิ้มมาให้จนตาหยี“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่น ได้ไหมครับ?” เสียงทุ้มกล่าว พร้อมด้วยสายตาหวานเยิ้มจนทำให้ร่างบางหน้าแดงระเรื่อ“พี่ไม่แกล้งแล้ว รีบไปอาบน้ำเถอะ ออกพร้อมพี่เลยนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”“โอเคค่ะ”“ตั้งใจ ฝึกงานนะครับ เย็นนี้ให้พี่แวะมารับไหม?”“ไม่เป็นไรค่ะ เย็นนี้หนูว่าจะแวะไปหาแม่”“ได้ค่ะ งั้นเจอกันที่ห้องเลยนะครับ&r
ตี๊ดดเสียงสัญญาณประตูห้องดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มแสนมีเสน่ห์ ศิราในชุดทำงานเสื้อเชิ้ตตัวในสีขาวพับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก กับกางเกงสแล็กส์สีกรม มันช่างดูเข้ากันเป็นอย่างมากในสายตาของบัวบูชาคนร่างสูงยื่นเสื้อสูทสีเดียวกันกับกางเกงให้คนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังมองมาที่เขานิ่งราวกับรูปปั้น“หนู เป็นอะไรคะ?”“เปล่าค่ะ” บัวบูชาตอบพร้อมกับส่ายหัวรัว ทำให้ศิรายิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“พี่ศิรา จะทานข้าวหรือว่าอาบน้ำก่อนดีคะ?”“พี่ว่ากินข้าวก่อนดีกว่า ถ้าอาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะไม่ได้กินข้าวเอา”“…”ร่างบางอึกอัก ทำตัวไม่ถูกกับคำพูดเย้าหยอกของอีกฝ่าย ใบหน้าจิ้มลิ้มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวลูกตำลึงสุกจนลามไปถึงใบหู“หน้าแดงใหญ่แล้ว หนูเขินเหรอคะ?” ร่างสูงเอ่ยแซว“พี่ศิรา ไม่แกล้งหนูสิ”“โอเคค่ะ พี่ยังไม่แกล้งตอนนี้ เรามากินข้าวกันก่อนดีกว่าเนอะ ตอนนี้พี่หิวมากเลย”“โห น่ากินจังเลยครับ” ศ
มือเรียวสวยหยิบนามบัตรใบเล็กสีดำขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งเป็นรอบที่เท่าไหร่ของคืนนี้แล้วก็ไม่อาจนับได้ “ศิรา กิจธนะวรกุล” ชื่อเจ้าของนามบัตรเด่นชัดอยู่ตรงหน้า พร้อมเบอร์โทรติดต่อ“เฮ้ออออ” เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้นจากร่างบาง ทำให้ใบตองที่นั่งข้าง ๆ หันมามองด้วยความสงสัย“พี่บัว เป็นอะไรไปตองเห็นพี่ทำหน้ากลุ้มใจแบบนี้มาหลายวันแล้วนะ” หญิงสาวอดไม่ได้จึงเอ่ยถามออกไป“พี่มีเรื่องให้ตัดสินใจนิดหน่อยน่ะ”“ปรึกษา ตอง ได้นะพี่” ใบตองสาวสวยเด็กนั่งดริ๊งก์ประจำร้านเอ่ย“ขอบใจจ้ะ”“ว่าแต่ช่วงนี้ไม่เห็นคุณศิราเลยเนอะ ปกติเขาจะมาหาพี่เกือบทุกคืน” หญิงสาวชวนคุย“บ้า มาหาพี่ที่ไหนกัน” บัวบูชา ก้มหน้าพูดกลบเกลื่อน“แหม พี่บัว ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้น ดูก็รู้ว่าคุณเขาชอบพี่มาก ๆ เลยนะ”“…”“เป็นตองนะ ไม่ปล่อยให้หลุดมือหรอก ถึงไม่ได้เป็นแฟน เป็นกิ๊กก็ยังดี”“เดี๋ยวเหอะ แก่แดดเกินไปแล้วนะเรา
“แหมมมม มึง วาสนาคนเรานี่มันไม่เท่ากันซะจริงจริ้ง มึงว่าไหม?”“นั่นนะสิ บางคนทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาด ทิปไม่ได้สักบาท” บัวบูชาหยุดชะงักฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเดิน เนื่องจากได้ยินเสียงพูดคุยของพนักงานหญิงสาวสองคนที่อยู่ตรงทางเดินแว่วมาเข้าหู“ส่วนคนบางคนเดินชม้อยชม้ายส่งสายตายั่วแขกก็ได้ทิปเป็นปึก ๆ สบายไปเลย ตอนนี้เดือน ๆ ได้หลายหมื่นแล้วมั้ง”“ก็วาสนามึงมีไม่เท่าเขาอะเนาะ ก็ต้องทำใจ”“แล้วก็ชอบทำเป็นเล่นตัวนะ อ่อยคนนั้นคนนี้ไปทั่ว แต่ละคนหน้าไม่เคยซ้ำ”บัวบูชาหยุดฟังจนบทสนทนาดังกล่าวจบไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง ทำได้แค่ก้มหน้าเดินผ่านไป เลี่ยงทำเป็นไม่ได้ยินบทสนทนากระแหนะกระแหนเมื่อสักครู่หญิงสาวไม่ต้องการเป็นศัตรูกับใคร ที่มาทำงานก็เพื่อหาเงิน ใครจะคิดยังไง จะว่ายังไงเธอไม่สน ร่างบางรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนยังไง ผู้หญิงพวกนั้นก็แค่พวกขี้อิจฉา ที่เห็นคนอื่นได้ดีกว่าตัวเองไม่ได้ ก็เท่านั้น“คุณศิรา รอนานไหมคะ” หลังเลิกงานบัวบูชารีบเดินออกมาจากร้านทันทีเพราะกลัวว่าอีก
บัวบูชาหลังจากที่เดินออกมาจากโต๊ะนั้น หญิงสาวก็เข้ามาสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ จากตอนแรกที่ใจเต้นแรงเพราะใบหน้าหล่อเหลานั้น ตอนนี้กลับกลายเป็นอารมณ์โกรธมากกว่า นึกว่าจะแตกต่างจากผู้ชายคนอื่น ที่แท้ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่แกหวังอะไรอยู่เนี่ย บัวบูชา ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ ขณะกำลังจะก้าวขาออกจากห้องน้ำ ร่างบางก็ต้องสะดุดกับชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนแทบจะสิงกันอยู่ตรงทางเดินหน้าห้องน้ำบัวบูชาตกใจตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นชัด ๆ ว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร ตอนนี้จะออกไปก็ไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ยืนฟังบทสนทนาที่ดังแว่วมาเบา ๆ“คืนนี้ คุณศิรา มีนัดที่ไหนต่อไหมคะ?” สองแขนเรียวถือวิสาสะยกขึ้นคล้องคอหนาของศิราเอาไว้“ไม่มีครับ” ศิราตอบกลับ พลางยกมือข้างหนึ่งขึ้นโอบรอบเอวของเจ้าหล่อน ใครมันจะยอมให้ผู้หญิงยั่วอยู่ฝ่ายเดียว เขาก็เสือผู้หญิงคนหนึ่ง เรื่องโปรยเสน่ห์เขาถนัดนัก“งั้น คืนนี้ไปดื่มต่อที่ห้องดาวไหมคะ?”“ชวนผู้ชายไปที่ห้อง คุณดาว ไม่กลัวเหรอครับ?” ศิราเอียงคอมองผู้หญิงตรงหน้าเล็กน้อย อย่างล