Share

อยากได้ปะป๊า

last update Last Updated: 2025-06-01 21:01:58

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู”

เสียงเพลงวันเกิด และเสียงปรบมือดังขึ้นภายในบ้านสีขาวหลังใหญ่ ทำให้สาวน้อยตัวอ้วนกลมเจ้าของวันเกิดยิ้มตาหยีจนแก้มแทบจะปริ สายตากลมโตจ้องมองเค้กวันเกิดก้อนใหญ่ ที่เป็นรูปตุ๊กตายอดฮิตอย่างเจ้าลาบูบู้ไม่วางตา พลางกลืนน้ำลายเสียงดัง จนทำให้ผู้เป็นแม่อย่างบัวบูชาหัวเราะออกมาเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู

วันนี้เจ้าตัวน้อยน้องบัวงาม (ผู้งดงามดั่งดอกบัว) ลูกสาวคนสวยของแม่บัวบูชาอายุครบสี่ขวบแล้ว

มือเล็ก ๆ สั้น ๆ พนมมือขึ้นไหว้ขอบคุณ และรอรับเค้กหน้าตาน่ารักจากผู้เป็นแม่ แก้มอ้วนทั้งสองข้างยกยิ้มอย่างมีความสุขที่จะได้กินเค้กแสนอร่อย ดวงตากลมโตสีดำขลับที่ได้จากผู้เป็นพ่อเป็นประกายวิบวับ แต่ก่อนที่มือน้อย ๆ จะทันเอื้อมไปหยิบช้อนที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมานั้น เสียงของผู้เป็นแม่ก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ยังกินไม่ได้นะคะ หนูต้องอธิษฐานก่อนค่ะ”

“เอ๋! จริง ๆ ด้วยค่ะ หม่าม้าคนสวย น้องงามเกือบลืมไปเลย น้องงามต้องอธิษฐานถึงพี่นางฟ้าใจดีก่อน” เด็กน้อยยิ้มร่าดีดแข้งดีดขาไปมาดุ๊กดิ๊ก

“หม่าม้า ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าลูกสาวของหม่าม้าอธิษฐานขออะไรจากพี่นางฟ้าใจดีกันน้า” มือเรียวเอื้อมไปลูบหัวลูกสาวเบา ๆ อย่างแสนรัก

“น้องงามขอเหมือนเดิมค่ะ แต่ว่าปีที่แล้วพี่นางฟ้าใจดีทำให้ไม่ได้” ลูกสาวตัวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ เห็นลูกสาวเป็นแบบนี้มีหรือคุณแม่อย่างบัวบูชาจะไม่รู้สึกเสียใจ เธอรู้ดีว่าเด็กหญิงตัวน้อยปรารถนาอะไร

บัวงามเฝ้ารอคอยให้ถึงวันเกิดทุกปี วันเกิดที่ไม่ได้ต้องการเค้กหรือของขวัญใด ๆ แต่เด็กหญิงเฝ้ารอจะได้อธิษฐานถึงพี่นางฟ้าใจดีเพื่อให้คำขอที่ตัวเองเฝ้าฝันเป็นจริงในสักวัน

“ครั้งนี้หม่าม้าเชื่อว่า พี่นางฟ้าใจดีต้องทำให้คำอธิษฐานของหนูเป็นจริงแน่นอนค่ะ”

“จริงเหรอคะ หม่าม้า” เด็กน้อยเอ่ยถามดวงตากลมโตลุกวาวด้วยความดีใจ

“จริงจ้ะ มาค่ะ หลับตา อธิษฐานก่อนนะคะ เดี๋ยวเราจะได้มากินเค้กพี่ลาบูบู้กัน” เพื่อไม่ให้เจ้าของวันเกิดตัวน้อยรู้สึกเศร้าใจมากนัก คุณแม่เลยต้องรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้เจ้าตัวหันมาสนใจเค้กแสนน่ากินตรงหน้าแทน

มือเล็กยกขึ้นพนมมือ ปากน้อย ๆ อธิษฐานเสียงดังฟังชัด มันดังเข้าไปในหัวใจของคนเป็นแม่ จนพานทำให้ดวงตาเรียวคู่สวยของบัวบูชาคลอไปด้วยน้ำตาเพราะสงสารลูก

“พี่นางฟ้าใจดีขา ปีนี้พาปะป๊ามาหาน้องงามทีนะคะ น้องงามอยากเจอปะป๊าม้ากมากค่ะ”

ฟู่ ๆ ปากน้อยเป่าเทียนเล่มเล็กเบา ๆ จนดับ จากนั้นเสียงปรบมือจากทุกคนก็ดังขึ้น งานวันเกิดปีนี้ของสาวน้อยบัวงามก็เหมือนเช่นทุกปี

มีคุณหม่าม้าคนสวย คุณยาย คุณป้าฤดีคนใจดีเพื่อนของหม่าม้า ป้าน้อยแม่บ้าน แถมยังเป็นแม่นมที่เลี้ยงดูบัวงามมาตั้งแต่แบเบาะ และคนสุดท้าย คือลุงชาติ คนขับรถพ่วงตำแหน่งคนสวนซึ่งเป็นสามีของป้าน้อย

“สุขสันต์วันเกิดนะคะลูกสาวคนสวยของหม่าม้า มีความสุขมาก ๆ หม่าม้ารักหนูนะ” บัวบูชา อวยพรวันเกิดให้ลูกสาวก่อนใคร พร้อมก้มลงหอมแก้มอ้วนทั้งสองข้างอย่างแสนรัก

“ขอบคุณค่ะ หนูก็รักหม่าม้า ที่สุดในปฐพีเลยค่ะ”

“โอ้โห ในปฐพีเลยเหรอคะ คำพูดคำจานะเรา” ผู้เป็นแม่หัวเราะร่วน

“สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ หลานรักของป้า” ณฤดี เลขาสาวพ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของบัวบูชา พูดขึ้นบ้างพลางยื่นกล่องของขวัญกล่องใหญ่ให้กับสาวน้อย

“ว้าว! ขอบคุณค่ะ ป้าฤดีคนใจดี”

“ใจดีอย่างเดียวเหรอคะ ลูก” ณฤดี ลูบหัวทุยเล็กเบา ๆ

“สวยด้วยค่ะ สวยที่สุดในโลกค่ะ” บัวงามตอบมือน้อยก็กอดกล่องของขวัญไว้แน่น

“อุ๊ย! ปากหวานได้ใครเนี่ยหลานสาวป้า มาให้ป้าหอมแก้มที ป้าอดใจไม่ไหวแล้วลูก” ก่อนที่แก้มขาว ๆ อวบ ๆ จะถูกผู้เป็นป้าฟัดในเวลาต่อมา เรียกเสียงหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขจากสาวน้อยบัวงาม

“ส่วนอันนี้ของยายจ้ะ เป็นเด็กดี เรียนหนังสือเก่ง ๆ นะลูก” ยายอุบลลูบหัวหลานสาวเพียงคนเดียวอย่างเอ็นดู

“ขอบคุณค่ะ คุณยาย”

“สุขสันต์วันเกิด มีความสุขมาก ๆ นะคะ คุณหนูงามของป้าน้อยของลุงชาติ” ปิดท้ายด้วยสองสามีภรรยาที่ติดตามรับใช้บัวบูชามาตั้งแต่ที่เธอย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ในช่วงแรก ๆ

ภายในห้องอาหารหรูหรา มีทั้งอาหารคาวหวาน น้ำหวาน และขนมหวานหน้าตาน่าทานมากมายเต็มโต๊ะ ซึ่งขนมส่วนมากจะเป็นของชอบเจ้าของวันเกิดเกือบทั้งนั้น

วันนี้ยายอุบลลงมือทำอาหารเองเพื่อเอาใจหลานสาว โดยมีป้าน้อยเป็นผู้ช่วย ส่งผลให้ทุกคนพลอยได้กินอาหารอร่อย ๆ ฝีมือระดับเซฟกระทะเหล็กของยายอุบลไปด้วย โดยเฉพาะณฤดีที่ชมไม่ขาดปาก แต่รายนั้นกินไปบ่นไปด้วย เพราะกลัวอ้วน

หลังจากทุกคนทานข้าวกันเรียบร้อยก็มาถึงคิวเจ้าเค้กรูปตุ๊กตาลาบูบู้ตัวโต บัวงามไม่รอช้าจัดการเจ้าเค้กแสนน่ากินตรงหน้าทันทีที่ทานข้าวเสร็จ

“กินช้า ๆ ลูก ระวังติดคอนะคะ”

“ค่ะ หม่าม้า” อย่างที่ทุกคนในบ้านรู้ดีว่า บัวงามกับของหวานเป็นของคู่กัน เหมือนพ่อไม่มีผิด รายนั้นเป็นผู้ชายตัวโต หน้าเข้มซะเปล่า แต่ชอบทานของหวานเป็นชีวิตจิตใจ ที่ผ่านมาไม่มีเธอคอยควบคุมอาหารการกินให้ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นโรคเบาหวานไปแล้วหรือเปล่านะ

ในที่สุดเจ้าเค้กก้อนโตก็หายไปเกือบครึ่ง โดยที่บัวงามกินไปคนเดียวถึงสองชิ้น หลังเค้กคำสุดท้ายของก้อนที่สองหมดลง ดวงตาคมกลมโตก็เล็งไปที่เค้กชิ้นต่อไปทันที

“วันนี้ หม่าม้าให้ทานได้สองชิ้น หนูกินเยอะแล้ว เดี๋ยวจะปวดท้องเอานะคะ”

“ก็ได้ค่ะ งั้นพรุ่งนี้ น้องงามขอทานก่อนไปโรงเรียนอีกหนึ่งชิ้น ได้ไหมคะ”

“ได้สิจ๊ะ”

“เย้ ๆ หม่าม้าขา น้องงามอิ่มแล้ว น้องงามขอไปแกะกล่องของขวัญได้ไหมคะ”

“ได้จ้ะ งั้นหนูไปนั่งแกะที่ห้องรับแขกกับป้าน้อยนะลูก เดี๋ยวหม่าม้าทานข้าวเสร็จ หม่าม้าตามไป”

“โอเค้ ค้า หม่าม้าคนสวย” บัวบูชา อุ้มร่างอ้วนป้อมลงจากโต๊ะทานข้าว

“อุ๊ย!” ก่อนจะโดนเจ้าตัวเล็กขโมยหอมแก้มคุณแม่ไปหนึ่งที บัวงามหัวเราะคิกคักถูกอกถูกใจที่แกล้งหม่าม้าให้ตกใจได้ เด็กน้อยวิ่งปรู๊ดไปที่ห้องรับแขกอย่างมีความสุข บัวบูชายกมือลูบแก้มเบา ๆ ริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กน้อย ในใจหวนนึกถึงใครบางคน

ลูกสาวเธอยิ่งโตนิสัยยิ่งเหมือนกับใครคนนั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้พบเจอ ไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน และเป็นเธอที่เลี้ยงมาเองกับมือ แต่ทำไมช่างเหมือนได้มากขนาดนี้กันนะ

“บัว แกคิดยังไงกับคำพูดของบัวงาม แกจะให้พ่อลูกได้เจอกันอยู่ใช่ไหม?” ณฤดี เอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้นหลังจากที่หลานสาวเดินออกไปแล้ว

“ให้เจอสิ เขาต้องได้รู้ ว่าบัวงามเป็นลูก”

“บัว แม่ว่าเราอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวนั้นอีกเลยนะลูก” อุบล ผู้เป็นแม่ ที่ปีนี้อายุย่าง ๖๓ ปีแล้ว มองลูกสาวด้วยสายตาแสดงถึงความเป็นห่วง

“แม่ไม่ต้องห่วงหนูนะจ๊ะ ตอนนี้หนูไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว และบัวบูชาคนนี้จะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำอะไรครอบครัวเราได้ ที่หนูอยากให้เขาได้รู้ เพราะหนูสงสารลูก ยิ่งบัวงามรู้ความมากขึ้นเท่าไหร่ ลูกก็ถามถึงแต่พ่อ”

“และถ้าหากว่าฝ่ายนั้นไม่รับผิดชอบ เขาผลักไสบัวงามล่ะลูก ความรู้สึกบัวงามจะเป็นยังไง แม่ไม่อยากเสี่ยง แม่สงสารหลาน” ผู้เป็นยายรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของหลานสาวตัวน้อย

“แม่จ๊ะ แต่เรื่องนี้เราต้องเสี่ยง” บัวบูชา เอ่ยกับผู้เป็นแม่ด้วยสีหน้าจริงจัง

อุบล และณฤดีเองก็มีสีหน้าที่เคร่งเครียด และเมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรออกมา บัวบูชาจึงพูดต่อ

“เราไม่มีทางรู้หรอกว่าฝ่ายนั้นจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ หากว่ายอมรับก็เป็นเรื่องดีไป ผู้ชายคนนั้นจะได้ทำหน้าที่พ่อเพื่อชดเชยให้กับบัวงามบ้าง ส่วนบัวงามก็จะได้เติมเต็มในส่วนที่ลูกต้องการมาโดยตลอด”

“แล้วถ้าเกิดว่าเขาไม่ยอมรับล่ะ แกจะรับมือกับความรู้สึกของหลานฉันยังไง” ณฤดี ถามกลับ

“ฉันจะบอกบัวงามว่าเขาเป็นพ่อก็ต่อเมื่อฉันมั่นใจว่าเขายอมรับลูกของฉันจริง ๆ เท่านั้น แต่ถ้าหากว่าเขาไม่ยอมรับ ก็ไม่เป็นไร เมื่อถึงเวลาที่ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ฉันจะบอกเรื่องนี้กับบัวงามเอง บัวงามต้องได้เรียนรู้ความผิดหวังด้วยตัวของตัวเอง ฉันเชื่อว่าวันนั้นลูกจะเข้าใจ และยอมรับความจริงได้” บัวบูชา เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ฉันสงสารหลาน” ณฤดี มีสีหน้าเศร้าสร้อย

“จะให้ทำยังไงได้ บัวงามยิ่งโตขึ้นทุกวันก็ยิ่งรู้ความ เห็นเพื่อนคนอื่นมีพ่อก็อยากมีบ้างตามประสาเด็ก ตั้งแต่นั้นมา แกก็เห็นว่าทุกปีในวันเกิดบัวงามอธิษฐานขออะไร”

“งั้นฉันภาวนาของให้ผู้ชายคนนั้นรักหลานของฉัน ขอให้เขาโดนความน่ารักของน้องงามตกจนต้องมาขอร้องอ้อนวอนแกเพื่อขอทำหน้าที่พ่อ หลานสาวของฉันจะได้มีความสุขสักที”

“แล้วบัวได้คิดคำตอบในเรื่องต่อจากนี้ไว้หรือยังลูก และถ้าหากว่าคุณศิราไม่ต้องการรับผิดแค่ลูก ถ้าเขาอยากกลับมา บัวยังจะให้อภัยเขาอยู่ไหม?” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม

“เรื่องของหนูกับคุณศิรามันผ่านมานานมากแล้วจ้ะแม่ หนูไม่ได้ต้องการให้เขากลับมา ขอแค่เขาทำหน้าที่พ่อให้บัวงามบ้าง ให้บัวงามเติบโตมาอย่างดีโดยที่ไม่มีคำถามค้างคาใจว่าพ่อตัวเองเป็นใคร เท่านั้นก็พอแล้วจ้ะ” ใบหน้าสวยหวานหมองลงไปเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเป็นปกติในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของผู้เป็นแม่อย่างอุบลได้

“เอาเป็นว่าให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันนะ บัวจะตัดสินใจแบบไหนแม่ก็ไม่ขัด แม่ก็แก่ขึ้นทุกวัน อะไรที่ทำให้ลูกหลานมีความสุขแม่ก็ไม่ว่า ถึงฝ่ายนั้นจะไม่รับผิดชอบก็ไม่เป็นไร แม่เชื่อว่าครอบครัวเราทดแทนในส่วนที่ขาดให้บัวงามได้” อุบลพูดดักไว้เพราะหญิงสูงวัยมั่นใจว่าลูกสาวยังรักพ่อของหลานอยู่ ไม่อย่างงั้นคงแต่งงานหรือมีแฟนใหม่ไปนานแล้ว

“ฉันเห็นด้วยกับแม่ ไม่ว่าแกจะทำอะไร อย่าลืมว่ามีฉัน ฉันอยู่ข้างแกเสมอ” ณฤดี บีบมือเพื่อนเบา ๆ

“ขอบใจแกมาก ที่ผ่านมาแกช่วยฉันมาเยอะมากจริง ๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ถ้าไม่มีแก ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะมาถึงจุดจุดนี้ได้ยังไง” บัวบูชา เอ่ยประโยคที่ทำเอาเพื่อนอย่างณฤดีตัวลอย

“แกก็อวยยศฉันเกินไป ทุกอย่างที่แกมีตอนนี้ แกสร้างมันมาจากสมอง จากสองมือและหัวใจของแกเอง ฉัน แม่อุบล และน้องงามก็แค่คนที่คอยให้กำลังใจแกเท่านั้นเอง แต่เรื่องงานฉันไม่เถียงนะ ฉันช่วยแกได้มากจริง ๆ เพราะฉันเก่ง ทั้งสวย ทั้งเก่ง คนอะไร ไม่ใช่คนหรือเปล่า นี่มันนางฟ้าชัดๆ”

เสียงหัวเราะจากยายอุบล และบัวบูชาดังขึ้นทันทีที่ได้ยินเจ้าตัวเอ่ยชมตัวเอง ทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดเมื่อครู่ผ่อนคลายลง ณฤดีเป็นเช่นนี้เสมอ ด้วยความที่เป็นนิสัยที่เป็นคนร่าเริง ตลก และจริงใจ ทำให้เป็นเพื่อนรักกันมายาวนานตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงทุกวันนี้

“จ้า แม่คนเก่ง แม่เลขาสาวแสนสวยพราวเสน่ห์ เพอร์เฟกต์ สุดยอด เยี่ยมยอด ที่หนึ่ง”

“พอ ๆ อันนี้เรียกประชด” ก่อนที่บัวบูชาจะทันได้พูดต่อ ณฤดีก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน

หลังจากงานเลี้ยงเลิกรา บัวบูชาที่อาบน้ำทำธุระส่วนตัวแล้วเสร็จ ก็เดินเข้าไปยังห้องของลูกสาว บัวงามแยกห้องนอนกับเธอแล้วเมื่อเดือนก่อน เจ้าตัวเดินมาขอเอง เพราะอยากนอนคนเดียวเหมือนเพื่อนที่โรงเรียน เธอเองก็ไม่ขัดใจลูก ลองให้ลูกได้ทำ จะทำได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่อง ที่ผ่านมาเธอสอนลูกในเรื่องการช่วยเหลือตัวเองมาตลอด นิสัยของบัวงามเลยค่อนข้างที่จะโตกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันอยู่มาก

มือขาวเรียวสวยหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ลูกสาว พลางจ้องมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ละม้ายคล้ายคนเป็นพ่อ ไม่ว่าจะสีตา สีผม นิสัยใจคอแม้กระทั่งท่านอนที่ชอบนอนตะแคงเอามือแนบแก้มก็เหมือนกันอย่างกะแกะ

อุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือน ได้เธอมาแค่สีผิวเท่านั้นโลกช่างลำเอียงเสียจริง ก่อนที่จะก้มลงหอมแก้มนุ่มนิ่ม และหน้าผากกลมมนไปอย่างละที

“ฝันดีค่ะคนเก่ง หม่าม้าสัญญาว่าจะทำให้คำอธิษฐานของหนูเป็นจริงเองค่ะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บัวเหนือศิรา   ตอนพิเศษ น้องบัวเหนือ

    “ปะป๊าขา วันนี้คุณครูใบเตย ฝากความคิดถึงให้ปะป๊าด้วยค่ะ” สาวน้อยบัวงามพูดขึ้นทันทีหลังจากที่ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่น“คุณครูใบเตยไหนคะ?” เสียงหวานหันมาถามลูก แต่สายตาพิฆาตกลับถูกส่งมาให้ศิราซวยแล้วสิ นี่คือเสียงในหัวของศิรา ชายหนุ่มทำหน้าเลิ่กลั่ก เหงื่อแตกพลั่ก“คุณครูที่โรงเรียนค่ะ” บัวงามตอบคำถามของผู้เป็นแม่“อ๋อ...แล้วทำไมต้องฝากความคิดถึงมาให้เหรอคะ แล้วไปรู้จักกันตอนไหน” รับคำลูกสาวเสร็จก็หันมาถามสามีที่นั่งยิ้มแห้งอยู่ที่โซฟา“รู้จักตอนที่พี่ไปรับลูก นานแล้วจ้ะ”“มิน่า ถึงอยากไปรับลูกที่โรงเรียนบ่อย ๆ”“โธ่...ไม่ใช่นะครับ คุณแม่อย่าอารมณ์เสียสิครับ เดี๋ยวตัวเล็กในท้องจะเครียดเอาได้นะครับ”“...”“ปะป๊าก็แค่อยากช่วยแบ่งเบาภาระของหม่าม้านะครับ ตอนนี้หม่าม้ากำลังท้องอยู่นะครับ”“อย่าให้รู้นะ” บัวบูชาพูดเสียงเรียบ จ้องหน้าศิราเขม็ง“ไม่ให้รู้แน่นอนครับ”“ยังไงนะคะ!” บัวบูชาขมวดคิ้ว“เฮ้ย! ไม่ใช่ครับ ปะป๊าพูดผิด ปะป๊าจะพูดว่ามันจะไม่มีอะไรทั้งนั้นครับ ปะป๊ารักหม่าม้า รักบัวงาม

  • บัวเหนือศิรา   ตอนพิเศษ ซ้อมเข้าห้องหอ

    เวลาเที่ยงตรงในวันศุกร์ ศิราที่เคลียร์งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็รีบออกเดินทางไปที่สนามบินทันทีหลังทานข้าวเสร็จ ชายหนุ่มเลือกเที่ยวบินในช่วงเวลาบ่ายโมง ไปถึงเชียงใหม่ก็บ่ายสองโมงครึ่งพอดี มีเวลาเหลือเฟือในการไปรอรับบัวงามลูกสาวเขาจะต้องดีใจมากแน่ๆ บัวงามเคยบ่นอยู่บ้างเหมือนกันว่าอยากให้ปะป๊าไปรับที่โรงเรียนบ่อย ๆ โดยปกติเขาจะเลือกเดินทางในช่วงเย็นซะส่วนใหญ่ เพราะกว่าจะเคลียร์งานแล้วเสร็จก็ปาไปเกือบ ๕-๖ โมงเย็นแล้วยิ่งวันศุกร์ยิ่งแล้วใหญ่งานเยอะมาก หากศุกร์ไหนมีประชุม หรือมีงานด่วนเขาก็ต้องเลื่อนการเดินทางไปเป็นวันเสาร์ช่วงเช้าแทนถามว่าทำแบบนี้เหนื่อยไหม ตอบเลยว่าเหนื่อยมาก และถ้าถามว่าให้เลิกทำแบบนี้ไหมเขาก็ตอบเลยว่า ‘ไม่มีทาง’ ถึงจะเหนื่อยแต่เมื่อได้เห็นหน้าคนที่รัก คนเป็นพ่ออย่างศิราก็รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งแล้วหลังจากลงจากเครื่อง และโทรบอกแม่ของลูกเรียบร้อยแล้วว่าจะเป็นคนไปรับลูกสาวเอง ศิราก็เลือกที่จะนั่งแท็กซี่ไปรับ เพราะไม่อยากเสียเวลาวนไปเอารถของบัวบูชาที่บริษัท และอีกอย่างมันค่อนข้างที่จะเสียเวลาด้วย เขาไม่อยาก

  • บัวเหนือศิรา   ตอนพิเศษ ไม่ติดค้าง

    วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ ศิราเดินทางขึ้นมาเชียงใหม่พร้อมกับผู้เป็นมารดา เพื่อมาหาเรื่องหาฤกษ์งามยามดีงานแต่งให้“วันนี้พวกแม่สองคน ว่าจะไปหาหลวงพ่อที่วัดสักหน่อยนะลูก” จันทรรัตน์พูดขึ้นกลางโต๊ะอาหารขณะทุกคนกำลังทานข้าวกันอยู่“ครับ ขอฤกษ์แบบเร็วที่สุดเลยนะครับ คุณแม่” ศิรายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับบัวบูชาที่ตอนนี้นั่งหน้าแดงหูแดงเถือก“...”“บัวงามอยากเล่นกับน้องแล้ว ใช่ไหมครับลูก?”“ใช่ค่ะ เมื่อไหร่น้องจะมาเล่นกับน้องงามคะ น้องงามรอนานแล้วนะ” เด็กน้อยทำหน้างอใส่ผู้เป็นพ่อ เพราะว่าผ่านมาหลายวันแล้วบัวงามยังไม่เห็นน้องเลย“ใจเย็นลูก ให้พ่อกับแม่เขาแต่งงานกันก่อนนะจ๊ะ” อุบลพูดขึ้นอย่างเอ็นดูหลานสาว“แม่จ๊ะ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ หนูกับคุณศิราว่าจะไปเยี่ยมคุณน้ำเพชรสักหน่อยนะจ๊ะ”“อืม ก็ดีเหมือนกันลูก นี่ก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว หวังว่าความแค้นของเธอจะเบาบางลงไปบ้างนะ” อุบล กล่าวพร้อมพยักหน้า“หนูก็หวังว่าอย่างนั้นจ้ะ แม่”“แล้วบัวงามจะไปวัดกับคุณย่าคุณยายไหมลูก” จันทรรัตน์หันไปถามหลานสาวตัวน้อย“ไปค่ะ”เวล

  • บัวเหนือศิรา   บทส่งท้าย

    ในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังของเชียงใหม่ บัวบูชากำลังนั่งอยู่ข้างเตียงของบัวงาม พร้อมกับกุมมือลูกน้อยไว้ตลอดเวลา ใบหน้าเล็กน่ารักหลับตาพริ้ม ซึ่งเป็นผลพวงมาจากยาสลบ คุณหมอบอกว่าปริมาณเท่านี้ไม่มีผลข้างเคียงอะไร แต่เพราะบัวงามยังเป็นเด็ก บวกกับความอ่อนเพลียแถมยังไม่ได้กินข้าว เลยทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะหลับลึกตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแค่รอให้หนูน้อยตื่นขึ้นมาเองเท่านั้น ถึงกระนั้นคนเป็นแม่ที่ห่วงลูกมากอย่างบัวบูชาก็ไม่ยอมหลับยอมนอน แม้เวลาจะผ่านไปจนเกือบเที่ยงคืนแล้วก็ตามตอนนี้ในห้องพักพิเศษของทางโรงพยาบาลมีณฤดีนั่งอยู่เป็นเพื่อน ส่วนพวกคนสูงวัยทั้งสามคนนั้นกลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้วเรียบร้อยในส่วนของศิรานั้นต้องไปที่สถานีตำรวจ เพื่อจัดการเรื่องคดีความ เพราะก่อนหน้านั้นเธอได้ไปแจ้งความเอาไว้ เมื่อสักครู่ชายหนุ่มได้โทรมาบอกว่าจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะขับรถมาที่นี่“แกนอนพักก่อนไหม? เดี๋ยวฉันดูบัวงามให้เอง”“ไม่เป็นไรฤดี ฉันยังไหว” บัวบูชาส่ายหน้า“แกควรพักเอาแรงก่อนนะ ดูสิ ตาก็บวม จมูกก็แดง ไม่สบายไป

  • บัวเหนือศิรา   แม่มดใจร้ายกลับมาแล้ว

    ในมุมมุมหนึ่งของไนต์คลับ ร่างของหญิงสาวหน้าตาสะสวย แต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยเสื้อผ้า และกระเป๋าแบรนด์ดัง กำลังนั่งดื่มเครื่องดื่มมึนเมาอยู่คนเดียว ใบหน้าที่สวยงามในตอนนี้ไม่ได้ดูน่ามองสักเท่าไหร่นัก เพราะเจ้าของใบหน้ากำลังทำหน้าตาเหมือนกำลังโมโหอะไรอยู่สักอย่างปากก็บ่นพึมพำคนเดียวตลอดเวลา ในมือมีโทรศัพท์เครื่องหรู ที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังจ้องอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ด้วย“มีความสุขกันจริง ๆ เลยนะ ช่างเป็นครอบครัวที่น่าอิจฉาซะจริงเลย มีความสุขกันเข้าไปเยอะ ๆ เวลาสูญเสียมันจะได้เจ็บเจียนตาย”“พวกมึงสองคนแม่ลูก แย่งพี่ศิราไปจากกู”“บัวบูชากูเกลียดมึง กูอยากรู้จริง ๆ ว่าถ้ามึงต้องสูญเสียของรักไปอย่างกูบ้างมึงจะยังยิ้มได้แบบนี้ไหม”น้ำเพชรยกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้วแล้วเก่าเล่าลงคอราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า ตั้งแต่เกิดเรื่องในงานแถลงข่าววันนั้น ครอบครัวก็ส่งหญิงสาวไปพักผ่อนที่ประเทศอังกฤษทันที และพอเห็นว่าสภาพจิตใจของลูกสาวดีขึ้นมากแล้ว สองสามีภรรยาก็ไปรับตัวลูกสาวกลับบ้านเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองแต่ใครจะรู้ว่าสี

  • บัวเหนือศิรา   ลูกสาวของปะป๊าศิรา

    เย็นวันหนึ่งขณะศิรากลับมาถึงบ้าน ชายหนุ่มก็ต้องรู้สึกแปลกใจที่เจอผู้เป็นพ่อนั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น และตอนนี้เขาก็มาอยู่ภายในห้องทำงานของผู้เป็นบิดาเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศในห้องตอนนี้แตกต่างออกไปจากทุกที มันไม่ได้อึดอัดและมีแรงกดดันเหมือนเมื่อก่อนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อในตอนนี้ถือว่าดีกว่าแต่ก่อนมาก จนตัวเขาเองก็แทบไม่เชื่อ“คุณพ่อ มีอะไรครับ?”“เห็นแม่เขาบอกว่าอาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดบัวงาม” ชายสูงวัยเอ่ยถาม มือเหี่ยวย่นขยับแว่นตาที่ใส่เล็กน้อย“ครับ”“วันที่เท่าไหร่?”“วันที่ ๖ ครับ ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ ผมว่าจะลางานแล้วไปก่อนสักหนึ่งวัน” ศิราตอบเสียงเรียบ“ช่วงนี้งานก็ไม่ได้เยอะอะไร”“ครับ?” ศิราทำหน้างง ไม่เข้าใจว่าผู้เป็นพ่อต้องการที่จะสื่อถึงอะไร“งานไม่เยอะก็ลาสักสามสี่วัน”“…”“เดี๋ยวฉันกับแม่แกจะตามไปทีหลัง อาจจะเป็นวันศุกร์ตอนเช้า ยังไงฉันจะเข้าไปช่วยดูที่บริษัทให้ ในช่วงที่แกไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status