Home / วาย / บัวเหนือศิรา / อยากได้ปะป๊า

Share

อยากได้ปะป๊า

last update Last Updated: 2025-06-01 21:01:58

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู”

เสียงเพลงวันเกิด และเสียงปรบมือดังขึ้นภายในบ้านสีขาวหลังใหญ่ ทำให้สาวน้อยตัวอ้วนกลมเจ้าของวันเกิดยิ้มตาหยีจนแก้มแทบจะปริ สายตากลมโตจ้องมองเค้กวันเกิดก้อนใหญ่ ที่เป็นรูปตุ๊กตายอดฮิตอย่างเจ้าลาบูบู้ไม่วางตา พลางกลืนน้ำลายเสียงดัง จนทำให้ผู้เป็นแม่อย่างบัวบูชาหัวเราะออกมาเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู

วันนี้เจ้าตัวน้อยน้องบัวงาม (ผู้งดงามดั่งดอกบัว) ลูกสาวคนสวยของแม่บัวบูชาอายุครบสี่ขวบแล้ว

มือเล็ก ๆ สั้น ๆ พนมมือขึ้นไหว้ขอบคุณ และรอรับเค้กหน้าตาน่ารักจากผู้เป็นแม่ แก้มอ้วนทั้งสองข้างยกยิ้มอย่างมีความสุขที่จะได้กินเค้กแสนอร่อย ดวงตากลมโตสีดำขลับที่ได้จากผู้เป็นพ่อเป็นประกายวิบวับ แต่ก่อนที่มือน้อย ๆ จะทันเอื้อมไปหยิบช้อนที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมานั้น เสียงของผู้เป็นแม่ก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ยังกินไม่ได้นะคะ หนูต้องอธิษฐานก่อนค่ะ”

“เอ๋! จริง ๆ ด้วยค่ะ หม่าม้าคนสวย น้องงามเกือบลืมไปเลย น้องงามต้องอธิษฐานถึงพี่นางฟ้าใจดีก่อน” เด็กน้อยยิ้มร่าดีดแข้งดีดขาไปมาดุ๊กดิ๊ก

“หม่าม้า ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าลูกสาวของหม่าม้าอธิษฐานขออะไรจากพี่นางฟ้าใจดีกันน้า” มือเรียวเอื้อมไปลูบหัวลูกสาวเบา ๆ อย่างแสนรัก

“น้องงามขอเหมือนเดิมค่ะ แต่ว่าปีที่แล้วพี่นางฟ้าใจดีทำให้ไม่ได้” ลูกสาวตัวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ เห็นลูกสาวเป็นแบบนี้มีหรือคุณแม่อย่างบัวบูชาจะไม่รู้สึกเสียใจ เธอรู้ดีว่าเด็กหญิงตัวน้อยปรารถนาอะไร

บัวงามเฝ้ารอคอยให้ถึงวันเกิดทุกปี วันเกิดที่ไม่ได้ต้องการเค้กหรือของขวัญใด ๆ แต่เด็กหญิงเฝ้ารอจะได้อธิษฐานถึงพี่นางฟ้าใจดีเพื่อให้คำขอที่ตัวเองเฝ้าฝันเป็นจริงในสักวัน

“ครั้งนี้หม่าม้าเชื่อว่า พี่นางฟ้าใจดีต้องทำให้คำอธิษฐานของหนูเป็นจริงแน่นอนค่ะ”

“จริงเหรอคะ หม่าม้า” เด็กน้อยเอ่ยถามดวงตากลมโตลุกวาวด้วยความดีใจ

“จริงจ้ะ มาค่ะ หลับตา อธิษฐานก่อนนะคะ เดี๋ยวเราจะได้มากินเค้กพี่ลาบูบู้กัน” เพื่อไม่ให้เจ้าของวันเกิดตัวน้อยรู้สึกเศร้าใจมากนัก คุณแม่เลยต้องรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้เจ้าตัวหันมาสนใจเค้กแสนน่ากินตรงหน้าแทน

มือเล็กยกขึ้นพนมมือ ปากน้อย ๆ อธิษฐานเสียงดังฟังชัด มันดังเข้าไปในหัวใจของคนเป็นแม่ จนพานทำให้ดวงตาเรียวคู่สวยของบัวบูชาคลอไปด้วยน้ำตาเพราะสงสารลูก

“พี่นางฟ้าใจดีขา ปีนี้พาปะป๊ามาหาน้องงามทีนะคะ น้องงามอยากเจอปะป๊าม้ากมากค่ะ”

ฟู่ ๆ ปากน้อยเป่าเทียนเล่มเล็กเบา ๆ จนดับ จากนั้นเสียงปรบมือจากทุกคนก็ดังขึ้น งานวันเกิดปีนี้ของสาวน้อยบัวงามก็เหมือนเช่นทุกปี

มีคุณหม่าม้าคนสวย คุณยาย คุณป้าฤดีคนใจดีเพื่อนของหม่าม้า ป้าน้อยแม่บ้าน แถมยังเป็นแม่นมที่เลี้ยงดูบัวงามมาตั้งแต่แบเบาะ และคนสุดท้าย คือลุงชาติ คนขับรถพ่วงตำแหน่งคนสวนซึ่งเป็นสามีของป้าน้อย

“สุขสันต์วันเกิดนะคะลูกสาวคนสวยของหม่าม้า มีความสุขมาก ๆ หม่าม้ารักหนูนะ” บัวบูชา อวยพรวันเกิดให้ลูกสาวก่อนใคร พร้อมก้มลงหอมแก้มอ้วนทั้งสองข้างอย่างแสนรัก

“ขอบคุณค่ะ หนูก็รักหม่าม้า ที่สุดในปฐพีเลยค่ะ”

“โอ้โห ในปฐพีเลยเหรอคะ คำพูดคำจานะเรา” ผู้เป็นแม่หัวเราะร่วน

“สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ หลานรักของป้า” ณฤดี เลขาสาวพ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของบัวบูชา พูดขึ้นบ้างพลางยื่นกล่องของขวัญกล่องใหญ่ให้กับสาวน้อย

“ว้าว! ขอบคุณค่ะ ป้าฤดีคนใจดี”

“ใจดีอย่างเดียวเหรอคะ ลูก” ณฤดี ลูบหัวทุยเล็กเบา ๆ

“สวยด้วยค่ะ สวยที่สุดในโลกค่ะ” บัวงามตอบมือน้อยก็กอดกล่องของขวัญไว้แน่น

“อุ๊ย! ปากหวานได้ใครเนี่ยหลานสาวป้า มาให้ป้าหอมแก้มที ป้าอดใจไม่ไหวแล้วลูก” ก่อนที่แก้มขาว ๆ อวบ ๆ จะถูกผู้เป็นป้าฟัดในเวลาต่อมา เรียกเสียงหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขจากสาวน้อยบัวงาม

“ส่วนอันนี้ของยายจ้ะ เป็นเด็กดี เรียนหนังสือเก่ง ๆ นะลูก” ยายอุบลลูบหัวหลานสาวเพียงคนเดียวอย่างเอ็นดู

“ขอบคุณค่ะ คุณยาย”

“สุขสันต์วันเกิด มีความสุขมาก ๆ นะคะ คุณหนูงามของป้าน้อยของลุงชาติ” ปิดท้ายด้วยสองสามีภรรยาที่ติดตามรับใช้บัวบูชามาตั้งแต่ที่เธอย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ในช่วงแรก ๆ

ภายในห้องอาหารหรูหรา มีทั้งอาหารคาวหวาน น้ำหวาน และขนมหวานหน้าตาน่าทานมากมายเต็มโต๊ะ ซึ่งขนมส่วนมากจะเป็นของชอบเจ้าของวันเกิดเกือบทั้งนั้น

วันนี้ยายอุบลลงมือทำอาหารเองเพื่อเอาใจหลานสาว โดยมีป้าน้อยเป็นผู้ช่วย ส่งผลให้ทุกคนพลอยได้กินอาหารอร่อย ๆ ฝีมือระดับเซฟกระทะเหล็กของยายอุบลไปด้วย โดยเฉพาะณฤดีที่ชมไม่ขาดปาก แต่รายนั้นกินไปบ่นไปด้วย เพราะกลัวอ้วน

หลังจากทุกคนทานข้าวกันเรียบร้อยก็มาถึงคิวเจ้าเค้กรูปตุ๊กตาลาบูบู้ตัวโต บัวงามไม่รอช้าจัดการเจ้าเค้กแสนน่ากินตรงหน้าทันทีที่ทานข้าวเสร็จ

“กินช้า ๆ ลูก ระวังติดคอนะคะ”

“ค่ะ หม่าม้า” อย่างที่ทุกคนในบ้านรู้ดีว่า บัวงามกับของหวานเป็นของคู่กัน เหมือนพ่อไม่มีผิด รายนั้นเป็นผู้ชายตัวโต หน้าเข้มซะเปล่า แต่ชอบทานของหวานเป็นชีวิตจิตใจ ที่ผ่านมาไม่มีเธอคอยควบคุมอาหารการกินให้ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นโรคเบาหวานไปแล้วหรือเปล่านะ

ในที่สุดเจ้าเค้กก้อนโตก็หายไปเกือบครึ่ง โดยที่บัวงามกินไปคนเดียวถึงสองชิ้น หลังเค้กคำสุดท้ายของก้อนที่สองหมดลง ดวงตาคมกลมโตก็เล็งไปที่เค้กชิ้นต่อไปทันที

“วันนี้ หม่าม้าให้ทานได้สองชิ้น หนูกินเยอะแล้ว เดี๋ยวจะปวดท้องเอานะคะ”

“ก็ได้ค่ะ งั้นพรุ่งนี้ น้องงามขอทานก่อนไปโรงเรียนอีกหนึ่งชิ้น ได้ไหมคะ”

“ได้สิจ๊ะ”

“เย้ ๆ หม่าม้าขา น้องงามอิ่มแล้ว น้องงามขอไปแกะกล่องของขวัญได้ไหมคะ”

“ได้จ้ะ งั้นหนูไปนั่งแกะที่ห้องรับแขกกับป้าน้อยนะลูก เดี๋ยวหม่าม้าทานข้าวเสร็จ หม่าม้าตามไป”

“โอเค้ ค้า หม่าม้าคนสวย” บัวบูชา อุ้มร่างอ้วนป้อมลงจากโต๊ะทานข้าว

“อุ๊ย!” ก่อนจะโดนเจ้าตัวเล็กขโมยหอมแก้มคุณแม่ไปหนึ่งที บัวงามหัวเราะคิกคักถูกอกถูกใจที่แกล้งหม่าม้าให้ตกใจได้ เด็กน้อยวิ่งปรู๊ดไปที่ห้องรับแขกอย่างมีความสุข บัวบูชายกมือลูบแก้มเบา ๆ ริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กน้อย ในใจหวนนึกถึงใครบางคน

ลูกสาวเธอยิ่งโตนิสัยยิ่งเหมือนกับใครคนนั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้พบเจอ ไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน และเป็นเธอที่เลี้ยงมาเองกับมือ แต่ทำไมช่างเหมือนได้มากขนาดนี้กันนะ

“บัว แกคิดยังไงกับคำพูดของบัวงาม แกจะให้พ่อลูกได้เจอกันอยู่ใช่ไหม?” ณฤดี เอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้นหลังจากที่หลานสาวเดินออกไปแล้ว

“ให้เจอสิ เขาต้องได้รู้ ว่าบัวงามเป็นลูก”

“บัว แม่ว่าเราอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวนั้นอีกเลยนะลูก” อุบล ผู้เป็นแม่ ที่ปีนี้อายุย่าง ๖๓ ปีแล้ว มองลูกสาวด้วยสายตาแสดงถึงความเป็นห่วง

“แม่ไม่ต้องห่วงหนูนะจ๊ะ ตอนนี้หนูไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว และบัวบูชาคนนี้จะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำอะไรครอบครัวเราได้ ที่หนูอยากให้เขาได้รู้ เพราะหนูสงสารลูก ยิ่งบัวงามรู้ความมากขึ้นเท่าไหร่ ลูกก็ถามถึงแต่พ่อ”

“และถ้าหากว่าฝ่ายนั้นไม่รับผิดชอบ เขาผลักไสบัวงามล่ะลูก ความรู้สึกบัวงามจะเป็นยังไง แม่ไม่อยากเสี่ยง แม่สงสารหลาน” ผู้เป็นยายรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของหลานสาวตัวน้อย

“แม่จ๊ะ แต่เรื่องนี้เราต้องเสี่ยง” บัวบูชา เอ่ยกับผู้เป็นแม่ด้วยสีหน้าจริงจัง

อุบล และณฤดีเองก็มีสีหน้าที่เคร่งเครียด และเมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรออกมา บัวบูชาจึงพูดต่อ

“เราไม่มีทางรู้หรอกว่าฝ่ายนั้นจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ หากว่ายอมรับก็เป็นเรื่องดีไป ผู้ชายคนนั้นจะได้ทำหน้าที่พ่อเพื่อชดเชยให้กับบัวงามบ้าง ส่วนบัวงามก็จะได้เติมเต็มในส่วนที่ลูกต้องการมาโดยตลอด”

“แล้วถ้าเกิดว่าเขาไม่ยอมรับล่ะ แกจะรับมือกับความรู้สึกของหลานฉันยังไง” ณฤดี ถามกลับ

“ฉันจะบอกบัวงามว่าเขาเป็นพ่อก็ต่อเมื่อฉันมั่นใจว่าเขายอมรับลูกของฉันจริง ๆ เท่านั้น แต่ถ้าหากว่าเขาไม่ยอมรับ ก็ไม่เป็นไร เมื่อถึงเวลาที่ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ฉันจะบอกเรื่องนี้กับบัวงามเอง บัวงามต้องได้เรียนรู้ความผิดหวังด้วยตัวของตัวเอง ฉันเชื่อว่าวันนั้นลูกจะเข้าใจ และยอมรับความจริงได้” บัวบูชา เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ฉันสงสารหลาน” ณฤดี มีสีหน้าเศร้าสร้อย

“จะให้ทำยังไงได้ บัวงามยิ่งโตขึ้นทุกวันก็ยิ่งรู้ความ เห็นเพื่อนคนอื่นมีพ่อก็อยากมีบ้างตามประสาเด็ก ตั้งแต่นั้นมา แกก็เห็นว่าทุกปีในวันเกิดบัวงามอธิษฐานขออะไร”

“งั้นฉันภาวนาของให้ผู้ชายคนนั้นรักหลานของฉัน ขอให้เขาโดนความน่ารักของน้องงามตกจนต้องมาขอร้องอ้อนวอนแกเพื่อขอทำหน้าที่พ่อ หลานสาวของฉันจะได้มีความสุขสักที”

“แล้วบัวได้คิดคำตอบในเรื่องต่อจากนี้ไว้หรือยังลูก และถ้าหากว่าคุณศิราไม่ต้องการรับผิดแค่ลูก ถ้าเขาอยากกลับมา บัวยังจะให้อภัยเขาอยู่ไหม?” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม

“เรื่องของหนูกับคุณศิรามันผ่านมานานมากแล้วจ้ะแม่ หนูไม่ได้ต้องการให้เขากลับมา ขอแค่เขาทำหน้าที่พ่อให้บัวงามบ้าง ให้บัวงามเติบโตมาอย่างดีโดยที่ไม่มีคำถามค้างคาใจว่าพ่อตัวเองเป็นใคร เท่านั้นก็พอแล้วจ้ะ” ใบหน้าสวยหวานหมองลงไปเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเป็นปกติในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของผู้เป็นแม่อย่างอุบลได้

“เอาเป็นว่าให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันนะ บัวจะตัดสินใจแบบไหนแม่ก็ไม่ขัด แม่ก็แก่ขึ้นทุกวัน อะไรที่ทำให้ลูกหลานมีความสุขแม่ก็ไม่ว่า ถึงฝ่ายนั้นจะไม่รับผิดชอบก็ไม่เป็นไร แม่เชื่อว่าครอบครัวเราทดแทนในส่วนที่ขาดให้บัวงามได้” อุบลพูดดักไว้เพราะหญิงสูงวัยมั่นใจว่าลูกสาวยังรักพ่อของหลานอยู่ ไม่อย่างงั้นคงแต่งงานหรือมีแฟนใหม่ไปนานแล้ว

“ฉันเห็นด้วยกับแม่ ไม่ว่าแกจะทำอะไร อย่าลืมว่ามีฉัน ฉันอยู่ข้างแกเสมอ” ณฤดี บีบมือเพื่อนเบา ๆ

“ขอบใจแกมาก ที่ผ่านมาแกช่วยฉันมาเยอะมากจริง ๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ถ้าไม่มีแก ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะมาถึงจุดจุดนี้ได้ยังไง” บัวบูชา เอ่ยประโยคที่ทำเอาเพื่อนอย่างณฤดีตัวลอย

“แกก็อวยยศฉันเกินไป ทุกอย่างที่แกมีตอนนี้ แกสร้างมันมาจากสมอง จากสองมือและหัวใจของแกเอง ฉัน แม่อุบล และน้องงามก็แค่คนที่คอยให้กำลังใจแกเท่านั้นเอง แต่เรื่องงานฉันไม่เถียงนะ ฉันช่วยแกได้มากจริง ๆ เพราะฉันเก่ง ทั้งสวย ทั้งเก่ง คนอะไร ไม่ใช่คนหรือเปล่า นี่มันนางฟ้าชัดๆ”

เสียงหัวเราะจากยายอุบล และบัวบูชาดังขึ้นทันทีที่ได้ยินเจ้าตัวเอ่ยชมตัวเอง ทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดเมื่อครู่ผ่อนคลายลง ณฤดีเป็นเช่นนี้เสมอ ด้วยความที่เป็นนิสัยที่เป็นคนร่าเริง ตลก และจริงใจ ทำให้เป็นเพื่อนรักกันมายาวนานตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงทุกวันนี้

“จ้า แม่คนเก่ง แม่เลขาสาวแสนสวยพราวเสน่ห์ เพอร์เฟกต์ สุดยอด เยี่ยมยอด ที่หนึ่ง”

“พอ ๆ อันนี้เรียกประชด” ก่อนที่บัวบูชาจะทันได้พูดต่อ ณฤดีก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน

หลังจากงานเลี้ยงเลิกรา บัวบูชาที่อาบน้ำทำธุระส่วนตัวแล้วเสร็จ ก็เดินเข้าไปยังห้องของลูกสาว บัวงามแยกห้องนอนกับเธอแล้วเมื่อเดือนก่อน เจ้าตัวเดินมาขอเอง เพราะอยากนอนคนเดียวเหมือนเพื่อนที่โรงเรียน เธอเองก็ไม่ขัดใจลูก ลองให้ลูกได้ทำ จะทำได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่อง ที่ผ่านมาเธอสอนลูกในเรื่องการช่วยเหลือตัวเองมาตลอด นิสัยของบัวงามเลยค่อนข้างที่จะโตกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันอยู่มาก

มือขาวเรียวสวยหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ลูกสาว พลางจ้องมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ละม้ายคล้ายคนเป็นพ่อ ไม่ว่าจะสีตา สีผม นิสัยใจคอแม้กระทั่งท่านอนที่ชอบนอนตะแคงเอามือแนบแก้มก็เหมือนกันอย่างกะแกะ

อุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือน ได้เธอมาแค่สีผิวเท่านั้นโลกช่างลำเอียงเสียจริง ก่อนที่จะก้มลงหอมแก้มนุ่มนิ่ม และหน้าผากกลมมนไปอย่างละที

“ฝันดีค่ะคนเก่ง หม่าม้าสัญญาว่าจะทำให้คำอธิษฐานของหนูเป็นจริงเองค่ะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บัวเหนือศิรา   เป็นของศิรา

    ตี๊ดดเสียงสัญญาณประตูห้องดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มแสนมีเสน่ห์ ศิราในชุดทำงานเสื้อเชิ้ตตัวในสีขาวพับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก กับกางเกงสแล็กส์สีกรม มันช่างดูเข้ากันเป็นอย่างมากในสายตาของบัวบูชาคนร่างสูงยื่นเสื้อสูทสีเดียวกันกับกางเกงให้คนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังมองมาที่เขานิ่งราวกับรูปปั้น“หนู เป็นอะไรคะ?”“เปล่าค่ะ” บัวบูชาตอบพร้อมกับส่ายหัวรัว ทำให้ศิรายิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“พี่ศิรา จะทานข้าวหรือว่าอาบน้ำก่อนดีคะ?”“พี่ว่ากินข้าวก่อนดีกว่า ถ้าอาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะไม่ได้กินข้าวเอา”“…”ร่างบางอึกอัก ทำตัวไม่ถูกกับคำพูดเย้าหยอกของอีกฝ่าย ใบหน้าจิ้มลิ้มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวลูกตำลึงสุกจนลามไปถึงใบหู“หน้าแดงใหญ่แล้ว หนูเขินเหรอคะ?” ร่างสูงเอ่ยแซว“พี่ศิรา ไม่แกล้งหนูสิ”“โอเคค่ะ พี่ยังไม่แกล้งตอนนี้ เรามากินข้าวกันก่อนดีกว่าเนอะ ตอนนี้พี่หิวมากเลย”“โห น่ากินจังเลยครับ” ศ

  • บัวเหนือศิรา   ทางที่เลือก

    มือเรียวสวยหยิบนามบัตรใบเล็กสีดำขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งเป็นรอบที่เท่าไหร่ของคืนนี้แล้วก็ไม่อาจนับได้ “ศิรา กิจธนะวรกุล” ชื่อเจ้าของนามบัตรเด่นชัดอยู่ตรงหน้า พร้อมเบอร์โทรติดต่อ“เฮ้ออออ” เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้นจากร่างบาง ทำให้ใบตองที่นั่งข้าง ๆ หันมามองด้วยความสงสัย“พี่บัว เป็นอะไรไปตองเห็นพี่ทำหน้ากลุ้มใจแบบนี้มาหลายวันแล้วนะ” หญิงสาวอดไม่ได้จึงเอ่ยถามออกไป“พี่มีเรื่องให้ตัดสินใจนิดหน่อยน่ะ”“ปรึกษา ตอง ได้นะพี่” ใบตองสาวสวยเด็กนั่งดริ๊งก์ประจำร้านเอ่ย“ขอบใจจ้ะ”“ว่าแต่ช่วงนี้ไม่เห็นคุณศิราเลยเนอะ ปกติเขาจะมาหาพี่เกือบทุกคืน” หญิงสาวชวนคุย“บ้า มาหาพี่ที่ไหนกัน” บัวบูชา ก้มหน้าพูดกลบเกลื่อน“แหม พี่บัว ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้น ดูก็รู้ว่าคุณเขาชอบพี่มาก ๆ เลยนะ”“…”“เป็นตองนะ ไม่ปล่อยให้หลุดมือหรอก ถึงไม่ได้เป็นแฟน เป็นกิ๊กก็ยังดี”“เดี๋ยวเหอะ แก่แดดเกินไปแล้วนะเรา

  • บัวเหนือศิรา   หลุมพราง

    “แหมมมม มึง วาสนาคนเรานี่มันไม่เท่ากันซะจริงจริ้ง มึงว่าไหม?”“นั่นนะสิ บางคนทำงานเหนื่อยสายตัวแทบขาด ทิปไม่ได้สักบาท” บัวบูชาหยุดชะงักฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเดิน เนื่องจากได้ยินเสียงพูดคุยของพนักงานหญิงสาวสองคนที่อยู่ตรงทางเดินแว่วมาเข้าหู“ส่วนคนบางคนเดินชม้อยชม้ายส่งสายตายั่วแขกก็ได้ทิปเป็นปึก ๆ สบายไปเลย ตอนนี้เดือน ๆ ได้หลายหมื่นแล้วมั้ง”“ก็วาสนามึงมีไม่เท่าเขาอะเนาะ ก็ต้องทำใจ”“แล้วก็ชอบทำเป็นเล่นตัวนะ อ่อยคนนั้นคนนี้ไปทั่ว แต่ละคนหน้าไม่เคยซ้ำ”บัวบูชาหยุดฟังจนบทสนทนาดังกล่าวจบไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง ทำได้แค่ก้มหน้าเดินผ่านไป เลี่ยงทำเป็นไม่ได้ยินบทสนทนากระแหนะกระแหนเมื่อสักครู่หญิงสาวไม่ต้องการเป็นศัตรูกับใคร ที่มาทำงานก็เพื่อหาเงิน ใครจะคิดยังไง จะว่ายังไงเธอไม่สน ร่างบางรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนยังไง ผู้หญิงพวกนั้นก็แค่พวกขี้อิจฉา ที่เห็นคนอื่นได้ดีกว่าตัวเองไม่ได้ ก็เท่านั้น“คุณศิรา รอนานไหมคะ” หลังเลิกงานบัวบูชารีบเดินออกมาจากร้านทันทีเพราะกลัวว่าอีก

  • บัวเหนือศิรา   ลูกแกะตัวน้อย

    บัวบูชาหลังจากที่เดินออกมาจากโต๊ะนั้น หญิงสาวก็เข้ามาสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ จากตอนแรกที่ใจเต้นแรงเพราะใบหน้าหล่อเหลานั้น ตอนนี้กลับกลายเป็นอารมณ์โกรธมากกว่า นึกว่าจะแตกต่างจากผู้ชายคนอื่น ที่แท้ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่แกหวังอะไรอยู่เนี่ย บัวบูชา ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ ขณะกำลังจะก้าวขาออกจากห้องน้ำ ร่างบางก็ต้องสะดุดกับชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนแทบจะสิงกันอยู่ตรงทางเดินหน้าห้องน้ำบัวบูชาตกใจตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นชัด ๆ ว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร ตอนนี้จะออกไปก็ไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ยืนฟังบทสนทนาที่ดังแว่วมาเบา ๆ“คืนนี้ คุณศิรา มีนัดที่ไหนต่อไหมคะ?” สองแขนเรียวถือวิสาสะยกขึ้นคล้องคอหนาของศิราเอาไว้“ไม่มีครับ” ศิราตอบกลับ พลางยกมือข้างหนึ่งขึ้นโอบรอบเอวของเจ้าหล่อน ใครมันจะยอมให้ผู้หญิงยั่วอยู่ฝ่ายเดียว เขาก็เสือผู้หญิงคนหนึ่ง เรื่องโปรยเสน่ห์เขาถนัดนัก“งั้น คืนนี้ไปดื่มต่อที่ห้องดาวไหมคะ?”“ชวนผู้ชายไปที่ห้อง คุณดาว ไม่กลัวเหรอครับ?” ศิราเอียงคอมองผู้หญิงตรงหน้าเล็กน้อย อย่างล

  • บัวเหนือศิรา   ศิรา กิจธนะวรกุล

    หลังจากวันนั้นก็เป็นเวลากว่าสี่เดือนแล้ว ที่บัวบูชาทำงานที่บาร์แห่งนี้ ตอนนี้เรียกได้ว่าเธอรู้จักพนักงานในร้านทุกคนแล้ว โดยเฉพาะรุ่นน้องที่ชื่อใบตอง อายุน้อยกว่าเธอหนึ่งปีใบตองคือคนที่คอยช่วยเหลือเธอตลอดทั้งเรื่องงานหรือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเวลาเจอกับพวกลูกค้าผู้ชายที่มือไวใจเร็ว ชอบแตะนิดแตะหน่อย หรือพวกที่ชอบพูดจาสองแง่สองง่าม แทะโลมต่าง ๆ นานาแรก ๆ บัวบูชาก็ทำตัวไม่ถูกเพราะไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้ แต่พอปรับตัวได้หญิงสาวก็เริ่มเอาตัวรอดเป็น อยู่ต่อหน้าลูกค้าก็พูดจาคะขา เอาอกเอาใจเก่ง ทำให้ตอนนี้รายได้จากทิปคืนหนึ่งก็ปาไปเกือบสี่พันบาทแล้วแต่ก็นั่นแหละ ใช่ว่าทุกคนในร้านจะดีกับเธอทุกคน มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด โดยเฉพาะกับพวกสาว ๆ ที่ทำงานที่ร้านมาก่อน พอเธอเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ก็เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ทำให้คนพวกนั้นไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่บัวบูชาตัดความฟุ้งซ่านทิ้งไป ทุกวันนี้เธอพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแค่นั้นก็พอ ตอนนี้เธอต้องรีบกอบโกยเงินให้ได้มากที่สุด เพราะปลายเทอมหน้าก็เป็นเทอมสุดท้ายของภาคเรียนแล้วซึ่งเป็นเวลา

  • บัวเหนือศิรา   ท้อนะ แต่ถอยไม่ได้

    ในเช้าวันจันทร์ที่อากาศสดใส บัวบูชาตื่นมาช่วยแม่เตรียมของตอนตีสามเหมือนเช่นเคย เช้านี้เธอได้ยินแม่บ่นว่าปวดขามากกว่าทุกวัน แถมอาการหายใจติดขัด หอบเหนื่อยง่ายที่เป็นอยู่ก่อนหน้านี้บ่อย ๆ ก็เหมือนจะมีอาการมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา“แม่ไหวไหมจ๊ะ? ถ้าไม่ไหววันนี้หนูขายเอง” บัวบูชาเอ่ยหลังสังเกตเห็นสีหน้าซีดเซียวของผู้เป็นแม่“แม่ไหวลูก มีเรียนก็ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงแม่” อุบลเอ่ย“แม่...แม่อย่าฝืนนะ เดี๋ยวจะไม่ไหวเอา”“แม่ยังไหว บัวเตรียมของไว้ให้แม่ก็แล้วกัน แม่ขอไปนั่งพักก่อน เดี๋ยวตีห้าแม่ออกไปช่วยขาย”“จ้ะแม่ แต่ถ้าวันนี้อาการยังไม่ดีขึ้น เย็นนี้หยุดขายผัดไทยก่อนนะแม่ เลิกเรียนหนูจะรีบกลับบ้าน” บัวบูชาที่ยังรู้สึกเป็นห่วงจึงเอ่ยกำชับผู้เป็นแม่อีกครั้ง“จ้ะ”ครืน ครืน เสียงสั่นจากโทรศัพท์เครื่องเล็กซึ่งตกรุ่นมาหลายปีแล้วดังขึ้น เพื่อนที่นั่งเรียนข้าง ๆ ได้ยินเสียงสั่นก็หันมามอง บัวบูชารีบล้วงมือถือขึ้นมาจากกระเป๋าผ้าใบเก่งพบว่าเป็นเบอร์ของแม่ที่โทรเข้ามา คิ้วขมวดเป็นปมอย่างนึกสงสัยว่าผู้เป็นแม่มีธุระอะไร มือบางจึงรีบกดรับสายทันที“แม่ ว่าไงจ๊ะ”“สวัสดีครับ ผมโทรจากกู้ภัยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณเป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status