MasukChapter6
“กรี๊ดดด! ปล่อยเอมนะไอ้บ้า” ชะเอมกรีดร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก มือเล็ก ๆ กระหน่ำทุบตีเขาอย่างรุนแรง แต่มันไม่สะเทือนคนร่างโตเลยแม้แต่น้อย
“ทุบไปฉันก็ไม่ได้รู้สึกอะไร จำใส่สมองเอาไว้ว่าเธอเป็นของฉัน” ธานินทร์ดึงข้อมือของชะเอมให้ตามมาที่รถ
“ปล่อยนะ ไอ้คนโรคจิต!”
“โรคจิตกับผู้หญิงร่านแบบเธอก็เหมาะสมกันดีนะ”
“ฉันไปร่านตอนไหนไม่ทราบ!” ชะเอมแผดเสียงใส่ชายหนุ่ม
“หึ! เธอมันสมองปลาทอง”
“คุณมากกว่าที่เป็น ปล่อยนะ”
“ไปกับฉัน ถ้าไม่ไปฉันจะจับเธอแก้ผ้าอยู่ตรงนี้แหละ” น้ำเสียงดุดันทำเอาชะเอมชะงักหยุดดิ้นรนทันที
“ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้ คุณมันพูดไม่รู้เรื่องจริง ๆ”
“ไปกับฉัน อย่ามาปากดีให้มันมาก”
“คุณพายุโอนเงินให้คุณแล้ว เอมใช้หนี้คุณแล้ว จบเรื่องที่เรามีต่อกันได้แล้ว”
“หึหึ แล้วมันได้บอกไหมว่าฉันโอนคืนแล้ว”
ชะเอมTALK
ฉันอยากจะกรี๊ดกับพูดของคนเฮงซวยตรงหน้า นี่เขาเป็นบ้าอะไรถึงได้มาตามตอแยฉันไม่จบไม่สิ้น แถมยังตีมึนไล่ไม่ไป
“เอมบอกให้ปล่อย”
“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าฉันจะฆ่าแม่เธอถ้าเธอไม่ยอม และฉันก็ทำจริง!” เขาพูดเสียงกระด้าง แต่ฉันคิดว่ามันก็แค่คำขู่ เขาไม่ทำจริงหรอก
“ปล่อยเอม”
“ถ้าฉันยอมปล่อย ฉันคงปล่อยไปนานแล้ว” โอ้ย! ไอ้คนเฮงซวย ฉันอยากจะกรี๊ดเป็นพันครั้งกับท่าทางกักขฬะของเขา
“ปล่อยเอมนะ” พยายามสะบัดตัว แต่ก็ไม่พ้นการจับกุม มือหนาเริ่มบีบข้อมือเล็กแรงขึ้นจนฉันต้องเบ้หน้าอย่างเจ็บปวด
“แควก!”
“กรี๊ดดด!!” มืออีกข้างของเขากระตุกเสื้อกันหนาวหนาแรง ๆ จนกระดุมข้างหน้ามันขาด
“ไปกับฉัน” เขากระชากร่างแน่งน้อยบอบบางของฉัน พร้อมกับยัดเข้าไปในรถแรง ๆ นี่เหรอการกระทำของผู้ชาย เขามันไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยแม้แต่น้อย
'เอาสิ! ดีกับคนทั้งโลกร้ายกับอีเอมคนเดียว ให้ตายเถอะ!' ฉันได้แต่ค่อนขอดเขาอยู่ในใจ
ธานินทร์วิ่งไปขึ้นรถฝั่งคนขับ แต่เรื่องอะไรฉันจะยอมง่าย ๆ มือเรียวยื่นไปจะเปิดประตู ฉันต้องลงไปหนีไปให้พ้นจากผู้ชายใจร้ายคนนี้
“ลงไปเลย ฉันจะไม่ตามเธอ แต่จะไปฆ่าแม่เธอแทนชะเอม” น้ำเสียงกระด้างนั้นทำให้ฉันรู้สึกกลัว แต่ก็ฝืนความรู้สึกเอาไว้เพราะคำพูดของผู้ชายคนนี้อาจจะแค่ขู่ก็ได้
“...”
“เธอคิดว่าฉันขู่เหรอ? ลูกน้องฉันเฝ้าหน้าบ้านไว้แล้ว และพร้อมที่จะทำตามที่ฉันสั่ง” เขาหยิบโทรศัพท์แล้วโยนมาที่ตักฉัน มันเป็นภาพในข้อความไลน์ที่เขาสั่งลูกน้องเฝ้าบ้านแม่ของฉันเอาไว้
ถึงแม้แม่จะทำไม่ดีกับหลายอย่างแต่ท่านก็เลี้ยงฉันมาตั้งแต่เล็ก ๆ ฉันคงยอมไม่ได้ที่จะเห็นท่านเป็นอะไรไป
“อย่าทำแม่เอมนะ” ฉันอ้อนวอนต้องอ้อนวอน อ้อนวอนเขาเท่านั้นมารดาฉันถึงจะไม่เป็นอันตราย
“ก็ไปกับฉันและทำตามข้อตกลงซะดี ๆ” เขาพูดแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
ฉันเงียบเขาก็ไม่เอ่ยคำพูดใดๆออกมา ได้ยินเสียงเครื่องยนต์พร้อมกับเสียงเพลงเปิดคลอเบา ๆ ฉันไม่กล้าจะพูดคุยกับเขา เพราะผู้ชายที่นั่งอยู่กับฉันตอนนี้หน้าบูดบึ้งไปตลอดทาง
ยิ้มให้ฉันบ้างมันจะตายหรือไง?
“คุยเรื่องสัญญากัน” อยู่ดี ๆ เขาก็โพล่งขึ้นมา
“มันไม่มีสัญญาอะไรทั้งนั้น ที่จริงคุณรับเงินไปแล้วมันก็จบ แต่นี่คุณยังดื้อดึงทำเรื่องเล็ก ๆ ให้เป็นเรื่องใหญ่” ฉันพูดแล้วกระชับเสื้อกันหนาวของตนเอง
“ที่จริงเธอยอมฉันมันก็จบแล้ว เธอคิดว่าผู้ชายอย่างฉันจะยอมให้ผู้หญิงร่าน ๆ แบบเธอ เข้าหาไอ้พายุเหรอ ที่มันทำดีกับเธอก็เพราะมันเป็นคนดีไม่ได้รู้จักนิสัยเสแสร้งแกล้งทำของเธอเท่านั้นเอง” เขาพ่นคำพูดเผ็ดร้อนออกมาสาดใส่ฉันอย่างเจ็บแสบ ฉันอยากจะกรี๊ดรอบที่ล้านทำไมเขาถึงเป็นผู้ชายที่นิสัยไม่ดีได้ขนาดนี้
“ที่เขาทำดีก็เพราะเขาอาจจะชอบผู้หญิงร่านแบบเอมก็ได้ ในเมื่อเอมรักเขาแล้วเขาก็อาจจะมีใจให้เอม คุณก็ไม่ควรมายุ่งเรื่องนี้” ฉันพ่นคำพูดเจ็บแสบตอกหน้าคืนไม่ต่างกัน ให้มันรู้ไปสิว่าฉันจะยอมให้เขาพ่นคำพูดอยู่ฝ่ายเดียว
“เคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น นิสัยไม่เคยเปลี่ยน”
“หึ! พูดยังกับรู้จักเอมมานาน เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อย่าลืม และเอมก็ไม่รับข้อเสนอของคุณด้วย”
“เธอไม่ยอมรับก็ช่างเธอ”
“ทำไมคุณถึงไม่ปล่อยเอม”
“เธอมันร่าน ฉันคงไม่ให้ผู้หญิงอย่างเธอไปวุ่นวายกับไอ้พายุ คนร่านแบบเธอไม่มีค่าพอกับคนดี ๆ แบบมัน”
เออ ฉันมันร่าน ร่านเพราะคำพูดร้ายๆของเขานั่นแหละ เขามันปากคอเราะร้าย พ่นคำพูดเจ็บแสบออกมาไม่หยุดเลย ฉันเม้มปากแน่นมองทางข้างหน้า
“ผู้หญิงร่าน ผู้หญิงไม่ดีแล้วมายุ่งทำไมไม่ทราบ!” ฉันต่อปากต่อคำอย่างไม่ลดละ
“ผู้หญิงสกปรก”
“หึ ตัวเองสะอาดตายล่ะ ต่อหน้าคนอื่นแสร้งทำเป็นคนดี แต่กับเอมคุณมันก็แค่ผู้ชายเลว ๆ คนหนึ่งเท่านั้น กรี๊ด!” ฉันกรีดร้องออกมาทันทีเมื่อ เมื่อผู้ชายเฮงซวยเร่งความเร็วรถยนต์ หนำซ้ำยังขับฉวัดเฉวียนจนฉันหวาดกลัวกรีดร้องออกมา
นี่เขากะจะฆ่าฉันให้ตายหรือไง?
รถสปอร์ตสุดหรูขับแล่นอย่างผาดโผนทำเอาหัวใจของฉันแทบหยุดเต้น เท้าของฉันเกร็งอย่างหนักเหมือนกำลังเหยียบเบรกเพื่อให้รถหยุดหรือชะลอความเร็ว แต่ดูเหมือนมันไม่ช่วยอะไรเลยเมื่อผู้ชายที่อยู่ข้างฉันกับเร่งความเร็วมากกว่าเดิม
“กรี๊ด ไอ้บ้า นี่จะฆ่าเอมให้ตายหรือไง?”
“เธอไม่ตายเพราะรถหรอก แต่เธอจะตายเพราะบทรักที่เร่าร้อนของฉัน”
“ผู้ชายเฮงซวย!”
“หึหึ” ไม่นานนักรถก็มาจอดที่ลานจอดรถคอนโดหรูร่างของฉันถูกเขากระชากลงจากรถแรง ๆ ไอ้คนเฮงซวยโรคจิต ฉันเกลียดเขา
“ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้”
“หึ! เดินเข้าไปในลิฟท์ด้วยกันซะดี ๆ” เขาพูดกระชากแขนบางเล็ก ทำเอาฉันต้องระเห็จไปกับเขา
'ไอ้คนเฮงซวย' คำก่นด่าในใจครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ กับผู้ชายอย่างเขาไม่คำไหนดีไปกว่านี้แล้ว เขามันคนนิสัยไม่ดี
ถ้าเขายอมรับเงินนั่นไปดี ๆ ฉันก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแย่ ๆ เหมือนอย่างวันนี้
“เดินเข้าไปดี ๆ อย่าคิดตุกติก”
ตุบ! พอถึงห้องร่างบางก็ถูกเหวี่ยงลงบนที่นอนหนานุ่ม ตามด้วยร่างสูงเข้ามาทาบทับ เขากำลังจะข่มขืนฉันเป็นแน่
ปึก! ปึก!
มือเล็กกระหน่ำทุบตีคนบนร่าง แต่มันกลับไม่สะเทือนเลยแม้แต่น้อย มันยิ่งกลับเพิ่มอารมณ์คนบนร่างให้ลุกโชนขึ้น
“ทุบฉันเจ็บมากเท่าไหร่ เธอต้องครางใต้ร่างของฉันมากกว่านั้น” สิ้นคำพูดเขาก็บดขยี้ริมฝีปากลงริมฝีปากบางเล็กอย่างป่าเถื่อน ยิ่งฉันดิ้นเขาก็ยิ่งรุนแรง เขาจูบดุเดือดราวกับทะเลเดือด หัวใจของฉันเต้นรัวระริกเร็ว จุมพิตเร่าร้อนราวกับจะสูบวิญญาณฉันออกไปจากร่าง
“ปะ... ปล่อยนะ” ฉันรีบท้วงเมื่อปากเป็นอิสระ พยายามผลักไสร่างหนาให้พ้นกาย เขาจะทำแบบนี้ไม่ได้ มือหนาของเขาแยกสาปเสื้อกันหนาวของฉันออกแล้วสอดมือเข้ามาในเสื้อของฉัน
“กรี๊ดดดด!! ปล่อยนะ! อุป” ยังไม่ทันที่ฉันจะกรีดร้องต่อริมฝีปากหนาก็บดขยี้ริมฝีปากของฉันอีกครั้งจูบนี้เร่าร้อน เว้าวอนหนักเบา ทำเอาฉันแทบขาดใจตายลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปากเพื่อละเอียดซิมรสหวาน
มือแกร่งรั้งท้ายทอยริมฝีปากร้อนบดเบียดริมฝีปากอย่างรุนแรง ฉันถึงกับใจเต้นไม่เป็นส่ำในตอนนี้ ฉันพยายามหันหน้าหนีเมื่อเขาสูบลมหายใจของฉันจนฉันแทบขาดใจ
'ไอ้คนเฮงซวย!'
“อื้อ” ยิ่งปัดป้องเขายิ่งเพิ่มความเร่าร้อน สมองของฉันขาวโพลน มึนงงในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น จิตใต้สำนึกในร่างกายของฉันเริ่มลดน้อย มือที่สอดใต้เสื้อของฉันในตอนแรก บีบปทุมถันของฉันแรง ๆ เขาสอดมือเข้าไปในบราตัวจิ๋ว แล้วเขี่ยวนปลายถันเบา ๆ
มืออีกข้างรั้งท้ายทอย ปากของเขาก็ทำงานสอดผสาน ร่างของฉันถูกตรึงด้วยร่างหนาจนกระดิกไม่ได้
“อื้อ” พยายามดิ้นรนครั้งสุดท้าย แต่คนบนร่างกัดปากของฉันแรง ๆ
“อ้ะ!” ฉันเจ็บมากและดิ้นอีกครั้งจนปากเป็นอิสระ แต่เขากลับจูบฉันอีก ปากของฉันบวมเจ่อเพราะถูกคนป่าเถื่อนกระทำ กลิ่นคาวเลือดคล้ายสนิมคละคลุ้งทั่วปาก ผู้ชายที่จูบฉันกวาดต้อนความหวานและดูดดื่มเลือดในปากของฉันจนหมด
“ยอมฉันก็จบแล้ว” เขาผละจูบแล้วเอ่ยออกมา
Chapter36เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นบนโต๊ะอาหาร วันนี้ทุกคนทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา คุณธานินทร์ไปเชิญแม่มาลีกับพ่อของฉันมาร่วมรับประทานอาหารด้วย ฉันรู้สึกมีความสุขมาก แต่ก็แอบเสียใจที่ผู้เป็นมารดาไม่ได้มาอยู่ร่วมรับประทานอาหารด้วย“เอม วันนี้พาผู้หญิง 2 คนมาให้รู้จัก” คุณพายุเอ่ยเเล้วยิ้ม“ใครเหรอคะ?” ฉันเอ่ยถาม ไม่รู้หรอกค่ะว่าผู้หญิงที่เขาหมายถึงคือใคร หรืออาจจะเป็นญาติของเขาก็เป็นได้“มาถึงเอมก็รู้เองแหละ” น้ำค้างเอ่ย คุณธานินทร์เลื่อนมือมาจับมือของฉัน เขาดูมีความสุขมากเลยค่ะกับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งของเรา“รักเอมนะ”“ค่ะ”“แหวะ กูจะอ้วก!” คุณวิคเตอร์เอ่ยแล้วเดินเข้ามาพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าให้เดาก็คงเป็นเมียของเขา“สัส”“ฮ่า ๆ” คุณวิคเตอร์หัวเราะร่าแล้วเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงเก้าอี้“เอมนี่คือเซลีนนะเป็นเมียของไอ้วิคเตอร์”“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ เธอยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร“สวัสดีค่ะ” หลังจากที่ทุกคนแนะนำตัวฉันฉันรู้จักเราก็รับประทานอาหารต่อไม่นานนักเสียงรถก็วิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน ทุกคนดูตื่นเต้นและมองหน้ากัน“น่าจะมาแล้วแหละถ้าเอมเห็นผู้หญิงสองค
Chapter35ฉันจ้องมองน้ำค้างที่ยังเชิดหน้าฉันอยู่ ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนที่ฉันยังรักคุณพายุอยู่ ฉันคงจะหมั่นไส้เด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นแน่ ตอนนี้เธอนั่งตัวตรงไขว่ห้างแล้วกอดอกใบหน้าเรียวเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อยดูจองหองมาก“น้ำค้าง” ฉันนั่งลงตรงข้าม แต่เธอยังเชิดหน้า ไม่คอเคล็ดก็ให้มันรู้ไป“มีอะไร” น้องแอบเสียงกระด้างเล็กน้อย ฉันยิ้มค่ะ ฉันมาอย่างเป็นมิตรน้ำค้างอาจจะให้อภัยฉัน“เอมขอโทษนะที่เคยคิดแย่งคุณพายุตอนนั้น”“ชิ” เธอจิ้ปากเบา ๆ“ตอนนี้เอมเข้าใจความรู้สึกของน้ำค้างแล้วในตอนนี้ ในเมื่อเรารักใครสักคนเราก็ไม่อยากจะถูกแย่ง หรือมีใครมาพรากเขาไปจากเรา” น้ำค้างก้มหน้าลงในระดับเดียวกันกับฉัน เธอมองหน้าแต่ยังไม่เอื้อนเอ่ยคำพูดใดออกมา“น้ำค้าง” ฉันจับมือน้ำค้าง เธอไม่สะบัดออก นั่นเท่ากับว่าฉันมีหวังที่เธอจะยกโทษให้“...”“เอมขอโทษ เอมอยากเป็นเพื่อนกับน้ำค้างนะ ตอนนี้เอมกำลังท้องลูกของคุณธานินทร์ เอมไม่มีทางที่จะไปแย่งคุณพายุอีก”“....”“คุณธานินทร์เขาคือผู้ชายที่เอมรักสมัยเรียนไฮสคูล แต่มีเหตุที่ทำให้เราเลิกกันไปหลายปี” ฉันเว้นวรรคเพื่อให้คนตรงหน้าอยากรู้ มันได้ผลค่ะเมื่อเ
Chapter34เรามาทวนความทรงจํากันดูหน่อยดีกว่า” ธานินทร์เอ่ย“อะไรกันคะ มันยังไม่มืดเลย” ชะเอมรีบท้วงใบหน้าแดงก่ำ ธานินทร์ได้มองก็ยิ่งชอบ เขายื่นมือไปลูบแก้มของเธอเบา ๆ“มืดไม่มืดไม่ใช่ประเด็น ฉันรู้แต่ว่าตอนนี้ฉันอยากกินเธอ”“ว้าย! คะ... คุณธานินทร์คะ” ชะเอมหวีดร้องเมื่อถูกเขาช้อนตัวเธอขึ้นในอ้อมแขน ใบหน้าหวานจ้องมองเขาอย่างตื่นตระหนก ท่อนแขนกลมกลึงรอบคอชายหนุ่มเอาไว้แน่น“เรามาต่อแขนต่อขาลูกดีกว่านะ”“ไม่เอาค่ะ” ชะเอมเอ่ยพร้อมหลบสายตาของเขาที่มองเธอด้วยสายตากรุ้มกริ่ม“เฮ้อ” ยิวถอนหายใจออกมาแรงๆ เเล้วลากกระเป๋าวางในบ้าน “รีบไปเอากันให้เสร็จ ๆ เดี๋ยวผมจะเตรียมอาหารเตรียมยาไว้รอ“ฮ่า ๆ ไอ้เวร” ธานินทร์ถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อได้ฟังประโยคที่ลูกน้องอื่น เขากระชับอ้อมกอดแน่น ๆ แล้วอุ้มชะเอมขึ้นไปข้างบน“เลือกหรือยังว่าอยากอยู่ห้องไหน?”“เอมเลือกห้องใหญ่สุดอยู่ตรงขวามือค่ะ”“งั้นเราไปฟิตเจอริ่งกันในห้องใหญ่นั่นแหละ”“บ้าอ่ะคุณธานินทร์”“บ้าอะไรถึงบ้าก็บ้ารักนะ” เขาเปิดประตูแล้วใช้เท้าปิดประตู เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ“ฉันอยากจะตายอยู่แล้ว”“แต่เอมท้องอยู่ ถ้ารุนแรงไปมันก็ไ
Chapter33“ถ้าฉันไม่ทำเรื่องเลวร้ายในวันนั้น ทุกอย่างมันคงจะดีกว่านี้ ลูกสาวของฉันก็คงจะไม่ต้องมีชะตากรรมที่เลวร้าย เราทั้งสองก็จะยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทับทิมเอ่ยพลางถอนหายใจออกมาแรง ๆ หวนคิดไปถึงอดีตอันแสนเลวร้ายที่เธอเคยกระทำต่อแองจี้เพื่อนรักของเธอ“ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ไว้ในวันนั้น เราก็คงจะยังเป็นเพื่อนรักกัน”วันนั้น“ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะดังไปทั่วบริเวณ ทับทิมกับแองจี้นั่งดื่มฉลองเรียนจบกันอย่างครื้นเครง“อีจี้ แกอย่างเมานะเว้ย เดี๋ยววัตเขาไปอุ้มแกไปนอนไม่ได้” ทับทิมพยายามเอ่ยปรามเพื่อนเมื่อเห็นว่าแองจี้เริ่มลิ้นพันกัน เมื่อได้ดื่มของมึนเมาเข้าไป“ฮ่า ๆ วันนี้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก ๆ เรียนจบแล้วแถมยังได้เกียรตินิยมอันดับ 1 อีกต่างหาก คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วแหละ” แองจี้หัวเราะร่าในขณะที่ทับทิมสบตากับธีรวัฒน์ เท้าเล็กเขี่ยที่ขาของชายหนุ่มเบา ๆ เพียงแค่สบตาก็รู้ว่าคิดอะไรแต่มันก็แค่สัมพันธ์ทางกายเท่านั้น ไม่ได้รักไม่ได้ชอบ เป็นเพียงความสัมพันธ์แบบฉาบฉวย“งั้นดื่มให้เมาปลิ้นเลยแล้วกัน เดี๋ยวฉันช่วยวัตเก็บซากแกเอง” ทับทิมพูดติดตลก ในขณะที่แองจี้ยกแก้วเหล้ากระดกไม่หยุด ว
Chapter32แก้วสีสันสดใสวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะชะเอมกำลังง่วนอยู่กับการทาสีแก้ว เธอบรรจงวาดรูปครอบครัวที่มีธานินทร์อยู่ด้วยอย่างเบามือ เป็นแก้วครอบครัวที่เขียนชื่อและวาดรูปเอาไว้ชัดเจน เธอยิ้มแล้ววางแก้วไว้อีกโต๊ะเพื่อรอให้แห้งวันนี้แก้วครอบครัวเสร็จไปหลายใบ เผื่อสักวันเธอจะมีโอกาสได้ส่งไปให้เขา ป่านนี้เขาคงจะคิดถึงเธอเหมือนที่เธอคิดถึงเขาเธอมาทาสีแก้วที่เหลือ พอทาเสร็จเธอก็เก็บแก้วครอบครัวที่ทำเอาไว้ครั้งก่อนใส่ในกล่องแล้วไปวาดรูปสัตว์น่ารักเอาไว้ให้มาลีขาย การได้ทำพวกของเหล่านี้มันทำให้เพลิดเพลิน ลืมเรื่องราวร้าย ๆ ไปได้ชั่วขณะครอบครัวบิดาของเธอทำงานหารายได้อยู่หลายอย่าง รวมถึงการทำแก้วเซรามิคด้วย โดยที่มาลีแม่ใหม่ของเธอทำเป็นทำอาชีพเสริม ส่วนบิดาของเธอทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เวลาว่างก็จะช่วยกันทำแก้วทำขนมหลาย ๆ อย่างไว้ขาย“ชะเอมมีคนมาหาจ้ะลูก” มาลีเอ่ยพร้อมกับถือแก้วนมยื่นให้หญิงสาว“ใครเหรอคะ เขาได้บอกชื่อไหม”“เขาบอกว่าชื่อปั้นสิบกับวิคเตอร์จ้ะ” ชะเอมทำหน้าฉงน แล้วจัดแจงล้างมือแล้วรับแก้วนมมาดื่ม “ขอบคุณนะคะ”“รีบไปเถอะ เดี๋ยวคุณเขาจะคอยนาน”“ค่ะ” ชะเอมเดิ
Chapter31“ผมอยากจะรู้ที่อยู่ของเอมครับแม่ทับทิม” ธานินทร์เอ่ยพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน เขาอยากรู้ที่อยู่ชะเอม เขาจะรีบไปหาเธอกับลูกอย่างไม่ลังเลเลย เขาพร้อมที่จะสละทุกอย่างเพื่อได้อยู่กับเธอกับลูกทับทิมมองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วพ่นลมหายใจออกมา ถึงจะอยากบอกเธอก็บอกไม่ได้“...”“แม่ทับทิมครับ ได้โปรดเถอะ”“เกรงว่าฉันจะบอกคุณไม่ได้ ฉันก็ไม่รู้ว่าเอมอยู่ที่ไหน ตอนเอมไปเอมไม่ได้บอกฉันค่ะ”“แม่ทับทิมครับ ตอนนี้ผมเป็นห่วงเอมมากนะครับ เธอจะไปใช้ชีวิตยังไงใครจะดูแลเธอ”“ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” ทับทิมเอ่ย ถ้าบอกไปเธอเกรงว่าบุตรสาวกับหลานเธอไม่ปลอดภัย เธอเชื่อว่าแองจี้ไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่ อีกอย่างเธอรับปากกับแองจี้ไว้แล้วว่าจะไม่ให้ชะเอมข้องเกี่ยวกับธานินทร์อีกถึงจะสงสารบุตรเขยมากเพียงไร แต่ความปลอดภัยลูกกับหลานต้องมาก่อน“พวกเขาคือลูกเมียของผมนะครับ ผมอยากเจอพวกเขา ฮึก ๆ ได้โปรดบอกผมเถอะ” ธานินทร์เอ่ยเสียงสั่นเครือปนสะอื้น ส่งสายตาวิงวอน“ขอโทษนะคะ ฉันคงบอกอะไรคุณไม่ได้” คำตอบของทับทิมทำเอาธานินทร์แทบจะร้องไห้ออกมา ทับทิมรู้ว่าธานินทร์รักบุตรสาวของตน แต่เธอไม่สามารถบอ







