LOGINChapter5
ร่างบางอยู่ในชุดกันหนาวหนาระบายยิ้มออกมาอย่างดีใจ พายุกลับมาแล้ว เธอมีที่พึ่งพาแล้ว
ชะเอมใส่รองเท้าแล้วสะพายกระเป๋าออกมาจากบ้าน เธอยืนอยู่ข้างทางเพื่อรอรถแท็กซี่ อากาศวันนี้ช่างสดใส หิมะแล้วบนพื้นถนนก็ถูกละลายหิมะด้วยน้ำเกลือ ทำให้หิมะละลายเร็วพื้นถนนก็ไม่ลื่นแล้ว
จิตใจเธอก็ดีขึ้นเมื่อได้ฟังข่าวดี ทุกอย่างนับจากนี้จะดีขึ้น และมันจะดีขึ้นกว่านี้ถ้าพายุกับเธอเป็นแฟนกัน เธอจะได้มีเขาคอยปกป้อง
เขายังไม่มีแฟน... เธอยังไม่มีใคร เธออยากมีคนให้ความรักและคอยปกป้อง
ชะเอมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกกดเล่น หลังจากที่เธอเปิดเครื่องแล้ว ข้อความต่าง ๆ ของธานินทร์ก็ไม่เด้งเข้ามาอีกเลย
“เฮ้อ! โล่งใจไป”
“สวัสดีครับ” ชายชาวต่างชาติเอ่ยทักทายพร้อมกับยืนข้าง ๆ
“สวัสดีค่ะ” เธอยิ้มให้เขา
“คุณพักอยู่ที่นี่เหรอครับ?”
“ค่ะ เพิ่งเข้ามาพักเองค่ะ แล้วคุณล่ะคะ”
“ผมก็เพิ่งมาพักครับ ผมชื่อวาเลนนะครับ”
“ฉันชื่อชะเอมค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” เขายื่นมือมาทักทายเธอ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ชะเอมลังเลเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือสัมผัสมือแกร่งของชายหนุ่มเป็นการทักทายตอบ
“คุณเอมจะไปไหนครับ?”
“ไปทำงานค่ะ แล้วคุณล่ะคะ?”
“ไปทำงานเหมือนกันครับ” วาเลนเอ่ยแล้วยิ้มให้ชะเอม “รถมาแล้วครับ”
วาเลนชี้ไปยังรถแท็กซี่ที่เลื่อนมาหาจอดตรงหน้าของทั้งสอง
“คุณเอมไปก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปคันหลัง”
“เอมไปคันหลังดีกว่าค่ะ คุณวาเลนไปก่อนเถอะค่ะ” ชะเอมเอ่ยตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก ไปคันหลังคงพอดีกับเวลางาน
“คุณเอมไปก่อนดีกว่าครับ ผมเป็นผู้ชายควรสละให้ผู้หญิงไปครับ”
“ขอบคุณค่ะ” ชะเอมคลี่ยิ้มแล้วขึ้นไปบนรถ การกระทำของทั้งสองอยู่ในสายตาคมกริบคู่หนึ่งอยู่ตลอดเวลา
ชะเอมนั่งรถไปจนกระทั่งถึงบริษัท ขาเรียวสวยก้าวลงจากแท็กซี่แล้วจ่ายเงินค่าโดยสาร มือเล็กหยิบโทรศัพท์ออกมากดดูเวลาแล้วเดินเข้าไป
วันนี้ดีมากที่ได้มาทำงานที่เธอรักกับผู้ชายที่เธอรักอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะคุณพายุ” ชะเอมเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้พายุในขณะที่ชายหนุ่มกำลังเดินเข้าบริษัทไม่ต่างจากเธอ
“ครับ แล้วเป็นบ้างล่ะ หยุดไปหลายวันเลยมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“มีปัญหาที่บ้านนิดหน่อย บวกกับเอมไม่ค่อยสบายเลยไม่ได้มา”
“อืม อากาศช่วงนี้หนาวมาก อีกสักเดือนคงจะอุ่นขึ้น ยังไงก็รักษาสุขภาพแล้วกัน”
“ค่ะ” ชะเอมครุ่นคิดก่อนตัดสินใจคุณเรื่องธานินทร์กับพายุ “คุณพายุคะ”
“ครับ”
“อะ... เอ่อคือเอม...” แต่ไม่ทันที่จะพูดจบเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแทรก
“พายุ!” ชะเอมหันไปมองเป็นธานินทร์ที่เดินเข้ามา ใบหน้าของเขายิ้มแย้มที่เห็นพายุ เขาแสดงออกว่าดีกับทุกคนยกเว้นเธอ
“อืมว่าไง? บริษัทยุ่งมากไหมกูไม่อยู่”
“ก็ยุ่ง พอดีมีคนหนีงานไปน่ะ ว่าแต่มึงไปดูงานที่มาเลย์เป็นไงบ้างวะ?” ว่าพลางปรายตามองหน้าชะเอม สายตาอำมหิต ฉายชัดออกมาจนเธอรู้สึกได้
เขามันโรคจิต...
“ก็ดีนะ เอาไว้ไปคุยในบริษัทเถอะ ตอนนี้กูหนาวว่ะ”
“อืม” ธานินทร์ปรายตามองชะเอมอีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปพร้อมกับพายุ
“เฮ้อ” ชะเอมระบายลมหายใจออกมาแล้วเดินเข้าไปในบริษัทเช่นกัน เธอยังรู้สึกกลัวนัยน์ตาคู่นั้นไม่หาย ธานินทร์ไม่ยอมจบเรื่องนี้แน่
ชะเอมดูตารางเวลางานของพายุ วันนี้ไม่มีนัดกับลูกค้าคนไหนเลย เหมือนจะคุยเรื่องธานินทร์กับพายุได้ง่าย ๆ แต่เปล่าเลย เพราะธานินทร์เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูด
ธานินทร์เอาแต่วน ๆ เวียน ๆ เข้าออกห้องของพายุจนเธอแทบไม่เป็นอันทำงาน บางครั้งก็มาหยุดยืนที่โต๊ะทำงานของเธอ มันทำให้เธออดรู้สึกไม่ปลอดภัยไม่ได้
ผ่านไปอีกหลายชั่วโมงที่เขาเอาแต่วนเวียน ทำให้เธอไม่มีโอกาสที่จะคุยเรื่องของธานินทร์กับพายุเลย
“เอมเลิกงานได้แล้ว” พายุเอ่ย
“ค่ะ คุณพายุคะ เอมขอคุยอะไรด้วยหน่อยค่ะ” ชะเอมเอ่ยเเล้วหยิบกระเป๋าของตนเอง
“ว่ามาเลยครับ”
“เอมว่าจะคุยเรื่องเงินน่ะค่ะ เอมมีความจำเป็นจริง ๆ”
“อ๋อครับ ต้องการเท่าไหร่?”
“เอมว่าจะยืมอีก 5 แสนโครนา คุณพายุจะพอให้เอมยืมได้ไหมคะ?”
“ได้ครับ เดี๋ยวโอนให้เลย”
“ช่วยโอนไปใช้หนี้คุณธานินทร์ให้เอมหน่อยนะคะ พอดีแม่เอมยืมเขา”
“อ๋อ ได้ครับ” พายุหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด ไม่นานนักข้อความเงินออกก็เด้งเข้าโทรศัพท์ของพายุ
“ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ เอมมีเอมจะรีบคืนนะคะ”
“มีตอนไหนค่อยคืนก็ได้ กลับเถอะวันนี้อากาศเย็นเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
“ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงเอม”
“ฉันก็ห่วงทุกคนนั้นแหละ แล้วที่เคยบอกว่าปวดหัวตอนนั้นหายแล้วใช่ไหม?”
ชายหนุ่มเอ่ยถามแสดงท่าทางห่วงใย ยิ่งทำให้ชะเอมปลื้มปริ่มหัวใจ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเธอไม่เคยได้รับคำถามแบบนี้หรือความห่วงใยจากใคร แม้กระทั่งมารดาก็ไม่เคยถามสักครั้ง ว่าเหนื่อยไม่สบายหรือทุกข์ใจบ้างไหม?
“หายแล้วค่ะ”
“วันนี้ไปพักเถอะ แล้วเธอนั่งรถอะไรมาล่ะ”
“เอมนั่งแท็กซี่มาค่ะ”
“อ๋อ” พายุพยักหน้า “แล้วพักอยู่แถวไหนล่ะ?”
“ตอนนี้เอมแยกไปอยู่ต่างหากค่ะ อยู่แถวww”
“พักอยู่ใกล้ ๆ กันกับบ้านไอ้ธานินทร์เลย”
“ถะ... แถวบ้านใครนะคะ” ชะเอมถามหน้าตาตื่น รู้สึกตกใจกับคำพูดของพายุ
“ใกล้บ้านไอ้ธานินทร์ รีบไปเถอะฉันจะไปส่ง” พายุเอ่ยในขณะที่โทรศัพท์ของเขาสั่นไม่หยุดเพราะมีสายเรียกเข้า เขาหยิบขึ้นมาดูแล้วเก็บไว้ใส่ในกระเป๋าเช่นเดิม
“ค่ะ” ชะเอมมองซ้ายมองขวาแล้วเดินตามพายุไปที่รถ ไม่นานนักรถหรูก็ขับเคลื่อนออกไป
“แล้วบ้านเดิมอยู่ไหนล่ะ”
“อยู่ตีนเขาbb”
“อยู่ใกล้ ๆ ฉันเลย บ้านฉันอยู่บนเขา แต่ถ้าเธอกลับไปอยู่ที่เดิม ก็ติดรถฉันมาทุกวันก็ได้จะได้ไม่ต้องนั่งแท็กซี่มาทำงาน”
“ค่ะ” ความอบอุ่นของชายหนุ่มข้าง ๆ แผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ เขาช่างแสนดีจนเธออย่างจะฝากชีวิตเอาไว้กับเขา
Rrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ของเธอดังต่อเนื่องนานมาก ชะเอมหยิบขึ้นมาแล้วปิดเครื่อง
“ทำไมไม่รับ? “
“เอ่อ เอมตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้เฉย ๆ ค่ะ แล้วโทรศัพท์ของคุณพายุล่ะคะทำไมถึงไม่รับสักทีเอมเห็นมันดังนานแล้วนะคะ”
“เอาไว้ฉันกลับไปถึงบ้านฉันถึงจะคุยครับ ถ้าจะมาคุยตอนนี้คงจะไม่เหมาะ” พายุเอ่ยพร้อมกับยิ้มออกมา ที่เขาไม่รับโทรศัพท์เพราะคนปลายสายจะต้องรบเร้าให้เขาเปิดกล้อง เขาจะเปิดได้อย่างไรล่ะในเมื่อปลายสายของเขานั้นแต่งตัวยั่วยวนขนาดไหน ถ้าเขาเปิดกล้องคนอื่นก็เห็นกันพอดีว่าน้ำค้างแต่งตัวอย่างไรมาคุยกับเขาในวันนี้
และน้ำค้างคงจะไม่ชอบใจที่เห็นเขาคุยหรืออยู่กับผู้หญิง พายุเชื่อว่าน้ำค้างจะต้องโวยวายเป็นแน่ก็เธอหวงขนาดนั้น เขาไม่อยากมีปัญหากับเจ้าหล่อน
“คนที่โทรมาเป็นแฟนเหรอคะ?” ชะเอมเอ่ยถาม หัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ กลัวคำตอบที่เธอได้รับคือผู้ชายที่เธอรักมีเมียหรือคนรักแล้ว
“ไม่ใช่ครับ เป็นน้องสาวญาติ เธอติดฉันมากสมัยอยู่เมืองไทย” คำตอบของชายหนุ่มทำให้ชะเอมดีใจมาก อย่างน้อยเธอก็ยังคงมีหวัง
“อ๋อค่ะ เอ่อ เอมมีเรื่องจะคุยอีกเรื่อง”
“เรื่องอะไรครับ”
“เรื่องคุณธานินทร์”
“ไอ้ธานินทร์ มีอะไรหรือเปล่า? หรือว่ามันไปจีบเอม” พายุหัวเราะในลำคอเบา ๆ
“ปะ... เปล่าค่ะ แต่เขาคุกคามเอม”
“มันแค่แกล้งล่ะมั้ง ปกติมันน่ารักกับทุกคนเลยนะ ลองคุยกับมันดูจะได้รู้ว่ามันน่ารัก”
“เอ่อ...”
“ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากเลย”
“ค่ะ แล้วคุณพายุอยู่กับใครคะที่บ้าน”
“อยู่คนเดียวครับ”
ชะเอมพูดคุยกับพายุอย่างมีความสุข วันนี้เธอรู้สึกว่าระยะทางจากบ้านพักกับบ้านพักมันช่างใกล้เหลือเกิน เวลาแห่งความสุขมันช่างน้อย เธออยากจะอยู่กับเขาทั้งวันทั้งคืน และอยู่ตลอดไป
“ถึงแล้วครับ” พายุเอ่ย
“ขอบคุณค่ะ”
“งั้นฉันกลับก่อนนะ”
“ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ”
“ครับ” ชะเอมยืนยิ้มอยู่หน้าบ้านพร้อมกับมองรถของชายหนุ่มที่ขับออกไปอย่างรวดเร็ว วันนี้เธอมีความสุขมากที่ได้รับความห่วงใยจากผู้ชายที่เธอรัก
บรืนนนน!! บรืนนนน!! เอี๊ยดดดด!!
รถสปอร์ตสุดหรูขับมาอย่างรวดเร็ว แล้วเบรกกระทันหันจนล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนจนเกิดเสียงดัง ประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับร่างกำยำของคนคุ้นตา ชะเอมเบิกตาโพลงถอยหลังอัตโนมัติทันที
“คะ...คุณ... ธะ... ธานินทร์”
“อย่าคิดว่าจะหนีฉันพ้น ในเมื่อสัญญาของฉันมันเริ่มขึ้นแล้ว” ธานินทร์ปรี่เข้าไปหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ชะเอมถอยหลังแล้วรีบวิ่งเพื่อเข้าไปในบ้าน แต่ทว่าข้อมือของเธอถูกกระชากอย่างแรงจนกระทั่งร่างเล็กประทะกับอกแกร่งของเขา
นัยน์ตาคู่นั้นของเขาครุกรุ่นไปด้วยไฟโทสะราวกับจะแผดเผาร่างบางเล็กของเธอให้มอดไหม้เป็นเถ้าธุรี เพียงแค่สบนัยน์ตาคมกริบนั้น ร่างบางของชะเอมก็สั่นขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามปรามได้
“ปล่อยเอมนะ!”
“ถ้าเธอไม่ยอม ฉันจะฆ่าแม่เธอ” น้ำเสียงห้วนกระด้างนั้นบ่งบอกว่าผู้เป็นเจ้าของ โกรธจัดมากเพียงใด
“นายมันโรคจิต”
“เธอมันก็แค่ผู้หญิงร่าน!”
Chapter36เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นบนโต๊ะอาหาร วันนี้ทุกคนทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา คุณธานินทร์ไปเชิญแม่มาลีกับพ่อของฉันมาร่วมรับประทานอาหารด้วย ฉันรู้สึกมีความสุขมาก แต่ก็แอบเสียใจที่ผู้เป็นมารดาไม่ได้มาอยู่ร่วมรับประทานอาหารด้วย“เอม วันนี้พาผู้หญิง 2 คนมาให้รู้จัก” คุณพายุเอ่ยเเล้วยิ้ม“ใครเหรอคะ?” ฉันเอ่ยถาม ไม่รู้หรอกค่ะว่าผู้หญิงที่เขาหมายถึงคือใคร หรืออาจจะเป็นญาติของเขาก็เป็นได้“มาถึงเอมก็รู้เองแหละ” น้ำค้างเอ่ย คุณธานินทร์เลื่อนมือมาจับมือของฉัน เขาดูมีความสุขมากเลยค่ะกับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งของเรา“รักเอมนะ”“ค่ะ”“แหวะ กูจะอ้วก!” คุณวิคเตอร์เอ่ยแล้วเดินเข้ามาพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าให้เดาก็คงเป็นเมียของเขา“สัส”“ฮ่า ๆ” คุณวิคเตอร์หัวเราะร่าแล้วเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงเก้าอี้“เอมนี่คือเซลีนนะเป็นเมียของไอ้วิคเตอร์”“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ เธอยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร“สวัสดีค่ะ” หลังจากที่ทุกคนแนะนำตัวฉันฉันรู้จักเราก็รับประทานอาหารต่อไม่นานนักเสียงรถก็วิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน ทุกคนดูตื่นเต้นและมองหน้ากัน“น่าจะมาแล้วแหละถ้าเอมเห็นผู้หญิงสองค
Chapter35ฉันจ้องมองน้ำค้างที่ยังเชิดหน้าฉันอยู่ ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนที่ฉันยังรักคุณพายุอยู่ ฉันคงจะหมั่นไส้เด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นแน่ ตอนนี้เธอนั่งตัวตรงไขว่ห้างแล้วกอดอกใบหน้าเรียวเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อยดูจองหองมาก“น้ำค้าง” ฉันนั่งลงตรงข้าม แต่เธอยังเชิดหน้า ไม่คอเคล็ดก็ให้มันรู้ไป“มีอะไร” น้องแอบเสียงกระด้างเล็กน้อย ฉันยิ้มค่ะ ฉันมาอย่างเป็นมิตรน้ำค้างอาจจะให้อภัยฉัน“เอมขอโทษนะที่เคยคิดแย่งคุณพายุตอนนั้น”“ชิ” เธอจิ้ปากเบา ๆ“ตอนนี้เอมเข้าใจความรู้สึกของน้ำค้างแล้วในตอนนี้ ในเมื่อเรารักใครสักคนเราก็ไม่อยากจะถูกแย่ง หรือมีใครมาพรากเขาไปจากเรา” น้ำค้างก้มหน้าลงในระดับเดียวกันกับฉัน เธอมองหน้าแต่ยังไม่เอื้อนเอ่ยคำพูดใดออกมา“น้ำค้าง” ฉันจับมือน้ำค้าง เธอไม่สะบัดออก นั่นเท่ากับว่าฉันมีหวังที่เธอจะยกโทษให้“...”“เอมขอโทษ เอมอยากเป็นเพื่อนกับน้ำค้างนะ ตอนนี้เอมกำลังท้องลูกของคุณธานินทร์ เอมไม่มีทางที่จะไปแย่งคุณพายุอีก”“....”“คุณธานินทร์เขาคือผู้ชายที่เอมรักสมัยเรียนไฮสคูล แต่มีเหตุที่ทำให้เราเลิกกันไปหลายปี” ฉันเว้นวรรคเพื่อให้คนตรงหน้าอยากรู้ มันได้ผลค่ะเมื่อเ
Chapter34เรามาทวนความทรงจํากันดูหน่อยดีกว่า” ธานินทร์เอ่ย“อะไรกันคะ มันยังไม่มืดเลย” ชะเอมรีบท้วงใบหน้าแดงก่ำ ธานินทร์ได้มองก็ยิ่งชอบ เขายื่นมือไปลูบแก้มของเธอเบา ๆ“มืดไม่มืดไม่ใช่ประเด็น ฉันรู้แต่ว่าตอนนี้ฉันอยากกินเธอ”“ว้าย! คะ... คุณธานินทร์คะ” ชะเอมหวีดร้องเมื่อถูกเขาช้อนตัวเธอขึ้นในอ้อมแขน ใบหน้าหวานจ้องมองเขาอย่างตื่นตระหนก ท่อนแขนกลมกลึงรอบคอชายหนุ่มเอาไว้แน่น“เรามาต่อแขนต่อขาลูกดีกว่านะ”“ไม่เอาค่ะ” ชะเอมเอ่ยพร้อมหลบสายตาของเขาที่มองเธอด้วยสายตากรุ้มกริ่ม“เฮ้อ” ยิวถอนหายใจออกมาแรงๆ เเล้วลากกระเป๋าวางในบ้าน “รีบไปเอากันให้เสร็จ ๆ เดี๋ยวผมจะเตรียมอาหารเตรียมยาไว้รอ“ฮ่า ๆ ไอ้เวร” ธานินทร์ถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อได้ฟังประโยคที่ลูกน้องอื่น เขากระชับอ้อมกอดแน่น ๆ แล้วอุ้มชะเอมขึ้นไปข้างบน“เลือกหรือยังว่าอยากอยู่ห้องไหน?”“เอมเลือกห้องใหญ่สุดอยู่ตรงขวามือค่ะ”“งั้นเราไปฟิตเจอริ่งกันในห้องใหญ่นั่นแหละ”“บ้าอ่ะคุณธานินทร์”“บ้าอะไรถึงบ้าก็บ้ารักนะ” เขาเปิดประตูแล้วใช้เท้าปิดประตู เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ“ฉันอยากจะตายอยู่แล้ว”“แต่เอมท้องอยู่ ถ้ารุนแรงไปมันก็ไ
Chapter33“ถ้าฉันไม่ทำเรื่องเลวร้ายในวันนั้น ทุกอย่างมันคงจะดีกว่านี้ ลูกสาวของฉันก็คงจะไม่ต้องมีชะตากรรมที่เลวร้าย เราทั้งสองก็จะยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทับทิมเอ่ยพลางถอนหายใจออกมาแรง ๆ หวนคิดไปถึงอดีตอันแสนเลวร้ายที่เธอเคยกระทำต่อแองจี้เพื่อนรักของเธอ“ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ไว้ในวันนั้น เราก็คงจะยังเป็นเพื่อนรักกัน”วันนั้น“ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะดังไปทั่วบริเวณ ทับทิมกับแองจี้นั่งดื่มฉลองเรียนจบกันอย่างครื้นเครง“อีจี้ แกอย่างเมานะเว้ย เดี๋ยววัตเขาไปอุ้มแกไปนอนไม่ได้” ทับทิมพยายามเอ่ยปรามเพื่อนเมื่อเห็นว่าแองจี้เริ่มลิ้นพันกัน เมื่อได้ดื่มของมึนเมาเข้าไป“ฮ่า ๆ วันนี้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก ๆ เรียนจบแล้วแถมยังได้เกียรตินิยมอันดับ 1 อีกต่างหาก คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วแหละ” แองจี้หัวเราะร่าในขณะที่ทับทิมสบตากับธีรวัฒน์ เท้าเล็กเขี่ยที่ขาของชายหนุ่มเบา ๆ เพียงแค่สบตาก็รู้ว่าคิดอะไรแต่มันก็แค่สัมพันธ์ทางกายเท่านั้น ไม่ได้รักไม่ได้ชอบ เป็นเพียงความสัมพันธ์แบบฉาบฉวย“งั้นดื่มให้เมาปลิ้นเลยแล้วกัน เดี๋ยวฉันช่วยวัตเก็บซากแกเอง” ทับทิมพูดติดตลก ในขณะที่แองจี้ยกแก้วเหล้ากระดกไม่หยุด ว
Chapter32แก้วสีสันสดใสวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะชะเอมกำลังง่วนอยู่กับการทาสีแก้ว เธอบรรจงวาดรูปครอบครัวที่มีธานินทร์อยู่ด้วยอย่างเบามือ เป็นแก้วครอบครัวที่เขียนชื่อและวาดรูปเอาไว้ชัดเจน เธอยิ้มแล้ววางแก้วไว้อีกโต๊ะเพื่อรอให้แห้งวันนี้แก้วครอบครัวเสร็จไปหลายใบ เผื่อสักวันเธอจะมีโอกาสได้ส่งไปให้เขา ป่านนี้เขาคงจะคิดถึงเธอเหมือนที่เธอคิดถึงเขาเธอมาทาสีแก้วที่เหลือ พอทาเสร็จเธอก็เก็บแก้วครอบครัวที่ทำเอาไว้ครั้งก่อนใส่ในกล่องแล้วไปวาดรูปสัตว์น่ารักเอาไว้ให้มาลีขาย การได้ทำพวกของเหล่านี้มันทำให้เพลิดเพลิน ลืมเรื่องราวร้าย ๆ ไปได้ชั่วขณะครอบครัวบิดาของเธอทำงานหารายได้อยู่หลายอย่าง รวมถึงการทำแก้วเซรามิคด้วย โดยที่มาลีแม่ใหม่ของเธอทำเป็นทำอาชีพเสริม ส่วนบิดาของเธอทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง เวลาว่างก็จะช่วยกันทำแก้วทำขนมหลาย ๆ อย่างไว้ขาย“ชะเอมมีคนมาหาจ้ะลูก” มาลีเอ่ยพร้อมกับถือแก้วนมยื่นให้หญิงสาว“ใครเหรอคะ เขาได้บอกชื่อไหม”“เขาบอกว่าชื่อปั้นสิบกับวิคเตอร์จ้ะ” ชะเอมทำหน้าฉงน แล้วจัดแจงล้างมือแล้วรับแก้วนมมาดื่ม “ขอบคุณนะคะ”“รีบไปเถอะ เดี๋ยวคุณเขาจะคอยนาน”“ค่ะ” ชะเอมเดิ
Chapter31“ผมอยากจะรู้ที่อยู่ของเอมครับแม่ทับทิม” ธานินทร์เอ่ยพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน เขาอยากรู้ที่อยู่ชะเอม เขาจะรีบไปหาเธอกับลูกอย่างไม่ลังเลเลย เขาพร้อมที่จะสละทุกอย่างเพื่อได้อยู่กับเธอกับลูกทับทิมมองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วพ่นลมหายใจออกมา ถึงจะอยากบอกเธอก็บอกไม่ได้“...”“แม่ทับทิมครับ ได้โปรดเถอะ”“เกรงว่าฉันจะบอกคุณไม่ได้ ฉันก็ไม่รู้ว่าเอมอยู่ที่ไหน ตอนเอมไปเอมไม่ได้บอกฉันค่ะ”“แม่ทับทิมครับ ตอนนี้ผมเป็นห่วงเอมมากนะครับ เธอจะไปใช้ชีวิตยังไงใครจะดูแลเธอ”“ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” ทับทิมเอ่ย ถ้าบอกไปเธอเกรงว่าบุตรสาวกับหลานเธอไม่ปลอดภัย เธอเชื่อว่าแองจี้ไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่ อีกอย่างเธอรับปากกับแองจี้ไว้แล้วว่าจะไม่ให้ชะเอมข้องเกี่ยวกับธานินทร์อีกถึงจะสงสารบุตรเขยมากเพียงไร แต่ความปลอดภัยลูกกับหลานต้องมาก่อน“พวกเขาคือลูกเมียของผมนะครับ ผมอยากเจอพวกเขา ฮึก ๆ ได้โปรดบอกผมเถอะ” ธานินทร์เอ่ยเสียงสั่นเครือปนสะอื้น ส่งสายตาวิงวอน“ขอโทษนะคะ ฉันคงบอกอะไรคุณไม่ได้” คำตอบของทับทิมทำเอาธานินทร์แทบจะร้องไห้ออกมา ทับทิมรู้ว่าธานินทร์รักบุตรสาวของตน แต่เธอไม่สามารถบอ







