Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-05-12 13:00:46

แม่ม่ายยังสาว

ชุนเอ๋อร์อยู่ในสถานะแม่ม่ายมายี่สิบหนาวแล้ว!

ยี่สิบหนาวเป็นเวลาไม่น้อยสำหรับมนุษย์ มากพอที่จะทำให้เด็กคนหนึ่งโตเป็นผู้ใหญ่ได้ อย่างเช่นบุตรชายของนาง

แต่ตัวชุนเอ๋อร์กลับไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด ตอนนี้นางยังคงนั่งอยู่ที่ศาลาตัวเดิม เป็นสตรีอายุ 41 หนาวที่มองภายนอกเหมือนสาวอายุยี่สิบตอนต้น

ชุนเอ๋อร์ไม่ทราบว่าทำไมตนไม่แก่ขึ้นเลย แอบนึกสงสัยไม่น้อยว่าทำไมคนในหมู่บ้านสาวสองพันปีถึงไม่แปลกใจกับความหน้าเด็กตลอดกาลนี้ ทุกคนยังใช้ชีวิตปกติ ไม่มีใครว่านางเป็นแม่มดหมอผี

กลับกัน...

หากนางอยู่ที่เมืองหลวง ตอนนี้คงถูกจับถ่วงน้ำไปแล้ว เพราะแบบนี้กระมัง ตอนนั้นนางถึงรู้สึกว่าหมู่บ้านสาวสองพันปีดู

‘พิศวง’

“สิบปีแล้วสินะ ที่เฟิงเอ๋อร์จากไป”

ชุนเอ๋อร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าซึม ที่นางกล่าวว่าเฟิงเอ๋อร์จากไป ไม่ได้หมายความว่าบุตรชายลาจากโลกนี้ไปแล้ว

ตอนหลันเฟิงอายุ 15 หนาวได้ออกเดินทางจากหมู่บ้านไปฝึกวิชายุทธ์กับจอมยุทธ์ที่สำนักแห่งหนึ่ง

ชีวิตที่ไม่มีบุตรชายคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ ทำให้ชุนเอ๋อร์รู้สึกโดดเดี่ยวมาก ยังดีที่มีเฉียนจิ่นหงคอยมาสนทนาด้วยอยู่เสมอ

เขาก็คือรุ่นพี่ที่ชุนเอ๋อร์ให้ความนับถือ ช่วยนางหลบหนีจากอดีตสามีเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว

“เหม่ออีกแล้วชุนเอ๋อร์”

ชุนเอ๋อร์หันหน้าไปยังต้นเสียงก็เห็นร่างสูงของเฉียนจิ่งหงในชุดสีขาวมีรัศมีสูงศักดิ์ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มให้นางแล้วเดินเข้ามานั่งในศาลาที่นั่งตรงข้ามกับชุนเอ๋อร์

“วันนี้มาเร็วกว่าทุกวันนะเจ้าคะพี่เฉียน”

“เพิ่งเลิกงานนะ เจ้าล่ะ กำลังคิดอะไรอยู่”

“หลายเรื่องเลยเจ้าค่ะ ทั้งเรื่องของเฟิงเอ๋อร์ ตัวข้าและพี่เฉียน”

เฉียนจิ่นหงเลิกคิ้ว “คิดถึงข้าด้วยหรือ”

เฉียนจิ่นหงเอนกายไปยังพนักพิงหลัง กอดอกมองชุนเอ๋อร์ยิ้ม ๆ

“แค่นึกสงสัยว่าเหตุใดรูปร่างหน้าตาของข้ายังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย พี่เฉียนก็ด้วย”

ดวงตารูปกวางสำรวจเฉียนจิ่นหงอย่างชัดเจนไม่ปิดบังจนคนตรงข้ามหัวเราะเสียงแผ่ว

“โลกนี้มีอะไรที่น่าพิศวงรอให้เจ้าเรียนรู้อีกเยอะ ไม่มองโลกแบบแคบ ๆ เป็นดีที่สุด”

“เจ้าค่ะ” ชุนเอ๋อร์พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

นางไม่ได้เชื่อฟังเขาเพียงนี้เรื่องเท่านั้น แต่ยังฟังคำโน้มน้าวเรื่องการฝึกวิชาต่างแดนของหลันเฟิงด้วย

เฉียนจิ่นหงเห็นศักยภาพในตัวหลันเฟิง ไม่อยากให้เขาถูกขังอยู่ในหมู่บ้านที่มีแต่สตรี อยู่อย่างไร้อนาคตแบบนี้

ชุนเอ๋อร์กลัวบุตรชายเป็นคนโลกแคบ นางจึงยอมให้หลันเฟิงไปฝึกวิชายุทธ์ที่ต่างแดน จากวันนั้นก็ผ่านมาแล้วกว่าสิบหนาว

“นี่ก็ปีที่สิบแล้ว รออีกหน่อยเถิด เดี๋ยวเฟิงเอ๋อร์ก็กลับมา”

ชุนเอ๋อร์คิดในใจ...กลับมาคราวนี้ก็อายุ 25 โตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วสินะ

“ข้าควรเตรียมใจหรือไม่เจ้าคะ เผื่อกลับมาครั้งนี้เขาหอบลูกเมียมาด้วย รู้ตัวอีกทีข้าก็ได้เป็นย่าคนแล้ว”

ชุนเอ๋อร์พูดติดตลก หากวันนั้นบุตรชายนางหอบลูกกลับมาด้วย นางก็ไม่รู้ว่าตัวเองยังตลกออกหรือไม่

“ไม่หรอก”

เฉียนจิ่นหงเห็นแววตาของชุนเอ๋อร์ไม่ได้ยิ้มเหมือนมุมปากจึงได้กล่าวให้นางสบายใจ ในใจเขาคิด...

เจ้าเด็กนั่นรักแม่ที่สุด มีหรือจะยอมออกเรือนในเร็ววันนี้

“ขอบคุณที่ปลอบข้าเจ้าค่ะ แล้วนี่ทานอะไรมาหรือยังเจ้าคะ”

เฉียนจิ่นหงส่ายหน้า “ยังเลย เจ้าทำกับข้าวไว้เผื่อข้าหรือ”

ชุนเอ๋อร์ยิ้มแห้ง “ไม่ได้ทำเจ้าค่ะ”

“แล้วกล่าวเหมือนจะชวนทานข้าว...ไป! วันนี้ข้าจะพาเข้าเมืองไปเปลี่ยนบรรยากาศ ทานข้าวไปเสพความวุ่นวายของคนเมืองไป”

“พี่เฉียนจะเลี้ยงหรือเจ้าคะ”

“แล้วข้าจะให้สตรีเลี้ยงอาหารได้อย่างไร”

“พี่เฉียนใจดีที่สุด ข้ารู้ดีกว่าใคร”

เฉียนจิ่นหงส่ายหน้าให้ชุนเอ๋อร์ แต่พอหมุนกายเดินนำออกไปจากศาลากลับยิ้มมุมปาก ในใจคิด...

นิสัยเหมือนเด็กน้อยจริง ๆ

หนึ่งเค่อ[1]ต่อมา...

ชุนเอ๋อร์และเฉียนจิ่นหงนั่งรถม้าออกมาจากหมู่บ้านสาวสองพันปีที่สมาชิกในหมู่บ้านล้วนเป็นแม่ม่าย สามีตาย ไม่ก็ถูกสามีหย่าขาดทำให้เป็นที่อับอายของคนทั้งเมือง ญาติพี่น้องไม่ต้อนรับ

สตรีในหมู่บ้านล้วนมีปมฝังลึกกันทั้งนั้น จากการเล่าของเฉียนจิ่นหง ชุนเอ๋อร์จึงรู้ว่าตนไม่ใช่คนแรกที่เขาพามาอยู่หมู่บ้านแห่งนี้

สตรีที่อยากจบชีวิตตัวเองล้วนถูกเฉียนจิ่นหงช่วยไว้และพามาอยู่ในหมู่บ้าน สมาชิกทุกคนเห็นเฉียนจิ่นหงจะรีบทำความเคารพดุจลูกน้องทำความเคารพเจ้านาย ต่างจากนางที่เป็นกันเองกับเขาเหมือนพี่น้อง

ชุนเอ๋อร์ให้เหตุผลในข้อสงสัยนี้ว่าเฉียนจิ่นหงเอ็นดูที่นางมีลูกติดท่ามกลางสตรีหลายร้อยคนในหมู่บ้านจึงมีเพียงนางที่สนิทกับเขา

“พี่เฉียนเจ้าคะ เพราะหมู่บ้านมีแต่สตรีหรือไม่ เฟิงเอ๋อร์ถึงไม่รีบกลับมาหาข้าเสียที”

ชุนเอ๋อร์ถามเสียงเครียด ความโคลงเคลงของรถม้าทำให้ศีรษะนางส่ายไปมาจนเริ่มรู้สึกวิงเวียน

“เขาอาจจะฝึกวิชาเสร็จแล้วก็ได้ แต่ไม่อยากกลับหมู่บ้าน”

“คิดมาก ข้าก็เป็นบุรุษยังเดินเข้าหมู่บ้านหน้าระรื่น”

เฉียนจิ่นหงไม่เพียงกล่าวออกมาเท่านั้น ยังยื่นนิ้วไปดีดหน้าผากชุนเอ๋อร์เบา ๆ ลงโทษที่นางคิดเล็กคิดน้อย

“สถานการณ์ไม่เหมือนกันเสียหน่อย แต่ก็ขอบคุณนะเจ้าคะ กำลังเมารถม้าอยู่พอดีเลย พอพี่เฉียนดีดนิ้วมาที่หน้าผากข้าเมื่อครู่...หายเลย!”

“หึ! เด็กน้อย”

เห็นนางยิ้มสดใสเช่นนี้ เฉียนจิ่นหงก็พลอยมีความสุขไปกับนางด้วย ระหว่างทางในรถม้าไม่เงียบเลย

เพราะทั้งคู่สนทนากันตลอดทางจนกระทั่งรถม้าแล่นเข้าในเมืองมาถึงโรงเตี๊ยมที่เป็นจุดหมายในวันนี้

[1] เค่อ หมายถึง สิบห้านาที

***แม่ม่าย

เขียนอย่างนี้นะคะ

ไม่ใช่

แม่หม้าย
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 103

    บางคนเกิดมาเพื่อทำลายชีวิตของผู้คน แต่สำหรับบางคนนั้นก็เกิดมาเพื่อทำหน้าที่เป็น ‘พี่เลี้ยงเด็ก’ สำหรับจางจงกว่าน ก่อนคลอดเขาปฏิญาณตนไว้แล้วว่าให้ตายอย่างไรก็จะไม่แตะต้องบุตรชายของอี้เฟยเป็นอันขาด (หากเป็นเด็กผู้ชาย) เพราะในใจเขาคิดว่า เด็กผู้ชายคนนี้ก็คงจะน่าชังไม่ต่างจากพ่อของเขา

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 102

    ๙๒มาได้ถูกจังหวะ แม้จะโดนปฏิเสธแล้ว แต่อี้เฟยก็ไม่คิดจะหนีไปไหน ยังคงคอยตามเฝ้าตามมองชุนเอ๋อร์อยู่ทุกครั้งที่มีโอกาส ครั้งไหนที่เจอหน้ากันตรง ๆ เขาจะตีหน้าเศร้าใช้สายตาอ้อนขอความรักอยู่เช่นนั้นจนคนที่หัวเสียแทนเป็นหลันเฟิง นั่นเพราะว่าเขาตัวกับมารดาตลอด การที่ต้องมาทนมองบ

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 101

    “เจ้านี่!” ด้วยไม่อยากเป็นฝ่ายดึงแขนมารดา จึงได้ลุกขึ้นยืนแล้วแกะนิ้วของอี้เฟยออกเสียเลย คนในพรรคที่ไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาความคิดเห็นต่างกัน บ้างก็พากันผิวปากแซวอี้เฟย บ้างก็ว่าหลันเฟิงช่างหวงญาติสาวถึงเพียงนี้ แต่สำหรับเกาจี้เฉินและโจวฉือเหอนั้นนิ่งอึ้ง ไม่

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 100

    ๙๑สองแม่ลูกใจอมหิต หลังจากที่หลันเฟิงกล่าวว่า ‘แล้วเจ้าจะเสียใจ’ ลู่จั๋วหรานก็ต้องเสียใจจริง ๆ เมื่อพัดของรักของหวงของหายากในยุทธภพโดนกระชากออกจากมืออย่างง่ายดาย นี่ไม่ใช่การขโมยอาวุธของผู้อื่นเพื่อตัดกำลังเท่านั้น แต่ยังทำลายอาวุธจนไม่เหลือซาก ทีนี้จะจัดการเจ้าของอาวุธก็ไม่ใช่เ

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 99

    “เหมือนสตรีผู้นั้นจะมีปัญหากับท่านนะขอรับ ให้ข้าไปจัดการให้หรือไม่” อี้เฟยยกนิ้วชี้ไปทางสตรีที่ว่าตรง ๆ ชุนเอ๋อร์มองตามปลายนิ้วยาวไปก็ถึงกับถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย “ฮูหยินคนปัจจุบันของอดีตสามีข้าเอง ไม่รู้จะจับผิดอะไรกันนักหนา ก่อนเข้างานก็ป่าวประกาศกับชาวบ้านว่าข้าเล่นชู้กับพี่

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 98

    ๙๐อี้เฟยได้เลือด ชุนเอ๋อร์ตกใจกับภาพที่เห็นมาก ยกสองมือขึ้นปิดปาก ตะลึงค้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สายตาจับจ้องร่างสูงที่กำลังจะลงจากเวทีประลอง มือสองข้างกดทับแผลห้ามเลือดไว้ ครู่ต่อมาก็มีคนพาเขาแยกไปทางหนึ่ง “ไม่ตามไปหรือ” ชุนเอ๋อร์หันมามองหน้าเฉียนจิ่นหง อย่างขอความมั่น

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 97

    “ก็...ก็เมื่อครู่เจ้าออกหน้าช่วยข้าไว้ อย่าเพิ่งเข้าใจว่าข้าให้เจ้าผ่านด่านนะ แต่อย่างไรก็ต้องขอบคุณเจ้า” “คู่ที่สองรอบนี้ การแข่งขัน…เริ่มได้!” ชุนเอ๋อร์หันไปสนใจที่เวทีประลองอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เป็นเกาจี้เฉินที่เป็นคนลงสนามประลอง อาวุธที่ใช้ในรอบนี้คือมีดสั้น ทำให้ชุนเอ

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 96

    ๘๙การประลอง ทางด้านหลันเฟิงและสมาชิกพรรคมารไฮ้เซินทั้งเก้าคนที่จะต้องประลองยุทธ์กับเก้าสำนักถูกจัดให้นั่งล้อมเป็นวงกลมของเวทีการประลอง ทั้งสิบสำนักจะต้องต่อสู้กันแบบคู่ต่อคู่ ในห้าคู่นี้ สำนักไหนชนะมากกว่ากันสำนักนั้นจะเป็นฝ่ายเข้าสู่รอบต่อไป ฝั่งแพ้ตกรอบ ส่วนห้าสำนักสุดท

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 95

    “ลู่ฮูหยินกล่าวหนักเกินไปแล้ว ขออธิบายอีกครั้งว่าเราสองคนเป็นเพียงแค่พี่น้องที่สนิทกันมากเท่านั้น ดูเหมือนฮูหยินจะยังเข้าใจความสัมพันธ์ของเราอย่างผิด ๆ” “เหอะ! พี่น้องท้องชนกันสิไม่ว่า” สาวใช้คนสนิทของจิงเหมยกล่าวอย่างเหยียดหยันอีกครั้ง เมื่อก่อนแม่สาวใช้คนนี้ก็ทำเจ็บแสบกับชุนเอ๋อร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status