ホーム / รักโบราณ / บุปผาสีชาด / ตอนที่15พบเจอกันอีกครั้ง

共有

ตอนที่15พบเจอกันอีกครั้ง

last update 最終更新日: 2025-07-22 15:45:40

หลังจากขันทีจากวังหลวงกลับไปแล้ว เสียงกระซิบก็เริ่มดังขึ้นรอบบริเวณ

เรื่องขององค์ชายห้ากับตระกูลอวี้ นับเป็นสิ่งที่ผู้คนในเมืองหลวงต่างเคยกล่าวถึงกันอยู่ไม่น้อย

หลายปีก่อน อวี้หลันบุตรีคนรองที่เกิดจากฮูหยินตระกูลไป๋เคยถูกวางตัวให้เป็นคู่หมั้นหมายขององค์ชายห้าหลี่จื้อหยวน บุตรชายลำดับที่ห้าแห่งฮ่องเต้ผู้ทรงอำนาจกับฮองเฮาองค์ปัจจุบัน

แม้สัญญาหมั้นนั้นจะยังไม่ถูกประกาศอย่างเป็นทางการจากราชสำนัก แต่ก็มีการตกลงกันระหว่างฮองเฮากับสกุลอวี้ เป็นคำมั่นที่กล่าวกันต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ด้วยชื่อเสียงของท่านรองเสนาบดีฝ่ายพิธีการในขณะนั้น ทั้งยังเกี่ยวดองกับตระกูลไป๋ที่ทรงอำนาจในเมืองหลวง การหมั้นหมายระหว่างบุตรสาวกับองค์ชายราชวงศ์จึงไม่ใช่เรื่องเกินเอื้อม

แต่แล้ว…ทุกอย่างกลับพังทลายลงในพริบตา

ตระกูลฝั่งมารดาของคุณหนูรองอวี้หลัน ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่กลับต้องโทษ เครือญาติถูกกวาดล้าง สินทรัพย์ถูกยึด ส่วนผู้ที่เหลือรอดถูกถอดยศปลดตำแหน่ง

แม้ตัวอวี้หลันจะยังมีสถานะเป็นบุตรีของรองเสนาบดี แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับบ้านเดิมมารดาของนางกลับกลายเป็นมลทินในสายตาผู้อื่น

ในเวลาไม่นาน การหมั้นหมายที่เคยเป็นเพียง "วาจา" จึงถูกปล่อยให้เงียบหาย ไม่มีใครกล่าวถึงอีก ราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน

กระทั่งวันนี้ การหมั้นหมายนั้นได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ทว่าชื่อของผู้ที่หมั้นหมายกับองค์ชายห้ากลับไม่ใช่คุณหนูรองอวี้หลัน แต่เป็นคุณหนูใหญ่อวี้เหมย บุตรีของเซิ่งซื่อ ผู้ที่พึ่งได้ยกฐานะขึ้นเป็นฮูหยินเอก ทั้งตอนนี้ตระกูลเดิมของนางกลับกำลังรุ่งโรจน์

อวี้หลันยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จับจ้อง นางไม่กล่าวสิ่งใด ดวงตากลมงามกวาดมองผู้คนรอบด้านอย่างเงียบงัน สีหน้าสงบเสงี่ยม แต่เมื่อพวกเขาสังเกตดีๆ ก็จะเห็นความหม่นเศร้าเจืออยู่ในแววตาคู่นั้น

ครู่หนึ่งนางจึงคลี่ยิ้มบางเบา ราวกับพยายามฝืนยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบาอย่างอ่อนหวาน ทว่าเจือด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจปิดบัง

"ขอแสดงความยินดีกับฮูหยิน และพี่สาวด้วยเจ้าค่ะ"

เสียงนุ่มนวลนั้นทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบลงชั่วครู่ ทุกสายตาจับจ้องมายังนางอย่างไม่ได้นัดหมาย ต่างเฝ้ารอดูว่านางจะเอ่ยสิ่งใดต่อ หรือจะแสดงท่าทีใดออกมา

แต่กลับไม่มีคำใดหลุดจากริมฝีปากอีก หญิงสาวเพียงก้มหน้าต่ำลงเล็กน้อย ดวงตาแดงเรื่อเหมือนพยายามกลั้นหยาดน้ำตา ก่อนจะหันหลังอย่างเงียบงัน เดินเข้าสู่ศาลาด้วยฝีเท้าเบาหวิว

อวี้หลันนั่งลงตรงตำแหน่งของตนอย่างเรียบร้อย งามสง่า กิริยาทุกอย่างยังคงละเมียดละไมไม่ต่างจากเดิม ทว่าเงาของนางในขณะนั้นกลับดูเปราะบางและโดดเดี่ยวอย่างน่าประหลาด

ไม่มีคำพูด ไม่มีการโต้แย้ง มีเพียงเงาที่แผ่วบางดุจสายหมอกในยามเช้า ทิ้งรอยบางอย่างไว้ในใจของทุกผู้คน

ผู้ใดว่าหญิงสาวไม่รู้สึก...หากแต่รู้สึกเสียจนมิอาจเอื้อนเอ่ยออกมา

แต่ไหนเลยจะมีใครมองเห็น รอยยิ้มเล็กๆ ที่ผุดขึ้นใต้ผ้าคลุมหน้าผืนบางของสตรีผู้น่าสงสารในสายตาผู้คนเมื่อครู่

อวี้หลันปลายตามองแม่เลี้ยงของตนเล็กน้อย ในเมื่ออยากเห็นนางเจ็บปวดทุกข์ใจ และรู้สึกพ่ายแพ้ เช่นนั้นก็จะขอสนองให้เสียหน่อย ถือเสียว่าเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากลูกเลี้ยงผู้งดงามเช่นข้า

หญิงสาวกระชับปลายผ้าคลุมหน้าเล็กน้อยก่อนจะลดสายตาลง ดวงหน้าใต้ผืนผ้านั้นยังคงเรียบนิ่ง แต่รอยยิ้มมุมปากกลับยังไม่จางหาย

ยามที่อวี้หลันหมุนกาย ก้าวเท้าเข้าสู่ศาลา เงาร่างของบุรุษผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสายตาของผู้คน เขาคือองค์ชายห้าหลี่จื้อหยวน ผู้ที่เพิ่งมีพระนามปรากฏในราชโองการจากวังหลวง และตอนนี้ก็เป็นคู่หมั้นบุตรีคนโตของสกุลอวี้เรียบร้อยแล้ว

หลี่จื้อหยวนมาถึงจวนสกุลอวี้หลังจากที่ผู้นำราชโองการจากวังหลวงกลับออกไป

และทันทีที่ย่างเท้าเข้าสู่ลานหน้าศาลา แม้จะคอยย้ำเตือนตัวเองว่าให้ละทิ้งเรื่องราวในอดีต แต่สายตาของเขากลับไม่ได้จับจ้องไปที่ใครอื่น นอกจากเด็กสาวในชุดสีชมพูอ่อนผู้นั้นที่พึ่งจะหันหลังเดินออกไป โดยไม่แม้แต่จะปรายตามองมาที่เขาเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่เมื่อก่อนนางมักจะเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นเขาเสมอ

แต่อาจจะเป็นเพราะนาง จดจำเขาไม่ได้ก็ได้ เพราะเป็นเวลากว่าแปดปีแล้วที่เราไม่ได้พบกัน

หลันเอ๋อร์ของเขาเป็นคนขี้หลงขี้ลืมมาแต่ไหนแต่ไร

คิดได้เช่นนั้น ใบหน้าหล่อเหลาก็คล้ายจะปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ อย่างหาได้ยาก

ส่วนเขา มองเห็นนางตั้งแต่ที่ก้าวเท้าเข้ามาในจวนสกุลอวี้

แม้ว่าจะไม่ได้พบเจอกันมานานหลายปี แต่เขาก็จดจำได้ในทันทีว่าเป็นนาง

เรือนกายอ้อนแอ้นบอบบางของนางดูโดดเด่นราวกิ่งหลิวยามต้องลม มิใช่ร่างเจ้าเนื้อแก้มป่อง เหมือนเมื่อครั้งเยาว์วัยอีกต่อไปแล้ว

อาภรณ์บางเบาสีอ่อนยามสะท้อนแสงแดด ยิ่งขับให้นางดูเปล่งประกายโดดเด่นอยู่ท่ามกลางผู้คน ดวงหน้ารูปไข่เรียวเล็กซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าคลุมหน้าโปร่งบาง แต่กลับแฝงไว้ด้วยเสน่ห์บางอย่างที่ยากจะละสายตา ท่าทางอ่อนแอนุ่มนิ่มนั้น ทำให้นางดูน่าทะนุถนอม น่าปกป้อง

แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาที่สุด กลับเป็นดวงตาคู่งามของนาง ดวงตาหวานล้ำที่เปล่งประกายสดใส ราวกับน้ำใสสะอาดที่ส่องประกายอยู่กลางแสงแดดอ่อน

เขาไม่อาจล่วงรู้ ว่าภายใต้ผ้าคลุมหน้าบางเบานั้น ความงามของนางจะงดงามเพียงใด แต่รู้ว่าหลันเอ๋อร์ของเขาต้องงดงามมากเป็นแน่ แค่ดวงตาอ่อนหวาน และลุ่มลึกคู่นั้น ยิ่งมองก็ยิ่งน่าค้นหา เพียงพอจะดึงดูดสายตาให้หันไปมองโดยไม่อาจละสายตาได้อีก

หลี่จื้อหยวนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น คล้ายถูกตรึงด้วยบางสิ่งในใจ ความยินดีพลันตีขึ้นมาจุกแน่นในอก เพียงเพราะได้เห็นนางอีกครั้ง แต่ในเวลาต่อมา ความยินดีนั้นก็ถูกกลบด้วยความรู้สึกมากมายที่ไม่อาจอธิบายออกมาได้

ราชโองการเพิ่งจะถูกประกาศออกไป การหมั้นหมายที่ควรจะเป็นของเขากับนาง กลับถูกแทนที่ด้วยสตรีอื่น

และเขาเป็นคนเลือกเอง เป็นคนตัดสัมพันธ์ระหว่างนางกับเขาเองกับมือ

ถึงแม้เบื้องหลังจะมีเหตุผลมากมาย แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

"อวี้เหมย คารวะองค์ชายห้าเพคะ"

เสียงหวานดังขึ้น พร้อมกับร่างระหงของคุณหนูใหญ่แห่งจวนรองเสนาบดีก้าวเข้ามายอบกายคำนับด้วยท่าทางอ่อนช้อย งดงามตามแบบฉบับของสตรีชั้นสูงที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี

แก้มเนียนละเอียดของอวี้เหมยแดงระเรื่อราวกลีบบุปผาแรกแย้ม แววตาวับวาวสะท้อนความปลาบปลื้มใจไม่ปิดบัง หัวใจของนางเต้นแรงเมื่อได้ยืนต่อหน้าบุรุษที่นางเฝ้าฝันถึงมาตลอดหนึ่งปี

องค์ชายห้าหลี่จื้อหยวน องค์ชายผู้สูงศักดิ์ บุรุษผู้มากด้วยเสน่ห์และอำนาจ ผู้ที่นางตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ แม้จะรู้ว่าเขาคือว่าที่คู่หมั้นของน้องสาว แต่หัวใจของนางกลับไม่เคยลังเลที่จะใฝ่หา นางกลับยิ่งมุ่งมั่นอยากจะครอบครองให้ได้

และในวันนี้ ความฝันของนางก็เป็นจริง บุรุษที่เคยอยู่ไกลเกินเอื้อม กลับกลายมาเป็นคู่หมั้นของนางโดยสมบูรณ์

หัวใจอวี้เหมยเต้นแรงราวจะทะลุอก ความสุขล้นจนกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่อยู่

หลี่จื้อหยวนจ้องมองนาง พยักหน้ารับเบาๆ เป็นเชิงตอบรับ ดวงตาคมคู่นั้นสบเข้ากับดวงตาของอวี้เหมยโดยตรง แววตาของเขาอ่อนลงเล็กน้อย พร้อมกับรอยยิ้มบางผุดขึ้นตรงมุมปาก ราวกับแสงแดดยามสายที่อุ่นละมุน

อวี้เหมยหัวใจสั่นไหวอย่างรุนแรง ดวงหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม นางก้มหน้างุดอย่างขัดเขิน ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู

ในขณะที่หัวใจของอวี้เหมยล่องลอย เฝ้าจินตนาการถึงวันข้างหน้าอันแสนหวาน แววตาที่เคยมองนางอย่างอ่อนโยนเมื่อครู่พลันกลับมาเรียบเฉยเย็นชาอย่างเคย ภายในใจของเขาเยือกเย็นเสียยิ่งกว่าใครจะรู้

สายตาของหลี่จื้อหยวนมองผ่านเลยร่างของสตรีตรงหน้าไป ก่อนจะหันไปรับการคารวะจากเจ้าของจวน บรรดาขุนนาง และแขกที่มาร่วมงาน 

โดยมีอวี้เหมยติดตามอยู่ด้านหลังไม่ห่าง นางเชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างสง่างาม รับคำแสดงความยินดีจากเหล่าผู้คนด้วยรอยยิ้มพึงพอใจในโชคชะตาของตน ในที่สุด สิ่งที่นางปรารถนาก็อยู่ในกำมือแล้ว

"กระหม่อมไม่ทราบว่าพระองค์จะเสด็จมา จึงมิได้จัดเตรียมการต้อนรับที่เหมาะสม ต้องขออภัยต่อพระองค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ"

รองเสนาบดีอวี้จิ้งเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ สีหน้าเรียบนิ่ง ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมา ในฐานะบิดาต้องยอมรับว่า เขารู้สึกไม่พอใจในตัวขององค์ชายห้าผู้นี้ ลึกๆ ในใจนั้นรู้สึกขุ่นเคืองอีกฝ่ายไม่น้อยเลยทีเดียวที่ทำให้บุตรสาวคนรองของเขาต้องเสียชื่อเสียง

แต่ถึงกระนั้น แม้จะรู้สึกขัดเคืองเพียงใด เขาก็ยังต้องเก็บซ่อนความรู้สึกทั้งหมดไว้ เพราะในความเป็นจริง ทั้งเขาและองค์ชายห้า ต่างก็กำลังเดินบนเส้นทางเดียวกัน เพื่อบางสิ่งที่ต่างก็ไม่อาจยอมปล่อยให้หลุดมือไปได้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งตนและคนผู้นี้นั้น เป็นคนประเภทเดียวกัน

เขาเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าอีกฝ่ายนัก

บางครั้งผลประโยชน์ก็ทำให้มนุษย์คล้ายคลึงกันมากกว่าที่คิด

"ใต้เท้าอวี้อย่าได้กล่าวเช่นนั้น เป็นข้าเองที่มาโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า"

องค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนหันไปสบตากับอีกฝ่าย ก่อนจะยกมือขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงปฏิเสธ

ถ้อยคำเรียบง่าย แต่น้ำเสียงยังคงแฝงไว้ด้วยความมั่นคง สะท้อนถึงการวางตัวที่สุขุมเยือกเย็นตามแบบเชื้อพระวงศ์ผู้มากด้วยบารมี

"เช่นนั้นเชิญองค์ชายห้าเสด็จทางด้านนี้พ่ะย่ะค่ะ"

เมื่อกล่าวจบ รองเสนาบดีอวี้จิ้งก็ผายมือเชิญผู้สูงศักดิ์ไปยังศาลาอันเป็นสถานที่จัดเลี้ยง ซึ่งถูกจัดเตรียมไว้อย่างงดงามสำหรับงานเลี้ยงในวันนี้

หลี่จื้อหยวนหันไปมองยังทิศทางที่เจ้าของจวนนำทาง ภายในใจของเขาพลันหนักอึ้งขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ คล้ายจะมีมือที่มองไม่เห็นบีบรัด ภายในอกปั่นป่วนไม่ต่างจากผิวน้ำที่ถูกรบกวน

นั่นมิใช่ทางที่หลันเอ๋อร์เดินไปหรอกหรือ

ความลังเลแทรกซึมเข้ามาภายในใจ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าการพบเจอนางในวันนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในใจลึกๆ ก็ยังแอบหวั่นไหว

เขาจะต้องยืนอยู่ตรงหน้านาง ในฐานะคู่หมั้นของพี่สาวนางจริงหรือ

แต่เขาจะยอมให้เรื่องเล็กน้อยเท่านี้ มาขัดขวางเส้นทางของตนได้อย่างไร และหากเขามัวแต่หลบ เขาจะหลบเลี่ยงไปได้ถึงเมื่อใด วันนี้ไม่พบ วันหน้าก็ย่อมต้องเผชิญอยู่ดี

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่16เมื่อต้องเผชิญหน้า

    ในที่สุด หลี่จื้อหยวนก็ฝืนยกเท้าขึ้น ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าสงบนิ่ง ทว่าภายในกลับเต็มไปด้วยคลื่นอารมณ์ที่โถมซัดไม่หยุด และเพียงก้าวเท้าเข้าไปเพียงไม่กี่ก้าว สายตาของเขาก็มองเห็นนางแต่ไกล โดยที่ไม่ต้องมองหาเลยด้วยซ้ำ หัวใจของเขากระตุกวูบ ความรู้สึกผิดปะปนกับความคิดถึงแล่นเข้ามาพร้อมกันอย่างโหดร้ายคนที่อยู่ภายในศาลาเมื่อรู้ว่าองค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนเสด็จมาก็รีบออกมารอรับเสด็จ ยกโขยงกันออกไปรออย่างพร้อมเพรียง หนึ่งในนั้นย่อมมีอวี้หลัน ซึ่งเพิ่งจะทรุดกายนั่งลงได้ไม่นาน นางยังไม่ทันจะได้ยกชาขึ้นจิบดับกระหายเลยด้วยซ้ำ ก็ต้องฝืนลุกขึ้นอีกครั้งริมฝีปากภายใต้ผ้าคลุมหน้าจึงเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความขัดเคืองใจปนหงุดหงิดคนโบราณนี่ช่างยุ่งยากจริงๆ ใครจะมาใครจะไป ก็ต้องยกโขยงออกไปต้อนรับกันให้วุ่นอวี้หลันสบถในใจอย่างเบื่อหน่ายแต่เหตุใด นามขององค์ชายผู้นี้จึงรู้สึกคุ้นหูนัก เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนคิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองฉิงหว่านที่ติดตามอยู่เบื้องหลัง คิดจะถามอีกฝ่ายว่าคนผู้นั้นเป็นใคร แต่พอเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอึดอัดคับข้องใจราวกับจะร้องไห้ของสาวใช้คนสนิทก็พลันกระจ่

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่15พบเจอกันอีกครั้ง

    หลังจากขันทีจากวังหลวงกลับไปแล้ว เสียงกระซิบก็เริ่มดังขึ้นรอบบริเวณเรื่องขององค์ชายห้ากับตระกูลอวี้ นับเป็นสิ่งที่ผู้คนในเมืองหลวงต่างเคยกล่าวถึงกันอยู่ไม่น้อยหลายปีก่อน อวี้หลันบุตรีคนรองที่เกิดจากฮูหยินตระกูลไป๋เคยถูกวางตัวให้เป็นคู่หมั้นหมายขององค์ชายห้าหลี่จื้อหยวน บุตรชายลำดับที่ห้าแห่งฮ่องเต้ผู้ทรงอำนาจกับฮองเฮาองค์ปัจจุบันแม้สัญญาหมั้นนั้นจะยังไม่ถูกประกาศอย่างเป็นทางการจากราชสำนัก แต่ก็มีการตกลงกันระหว่างฮองเฮากับสกุลอวี้ เป็นคำมั่นที่กล่าวกันต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ด้วยชื่อเสียงของท่านรองเสนาบดีฝ่ายพิธีการในขณะนั้น ทั้งยังเกี่ยวดองกับตระกูลไป๋ที่ทรงอำนาจในเมืองหลวง การหมั้นหมายระหว่างบุตรสาวกับองค์ชายราชวงศ์จึงไม่ใช่เรื่องเกินเอื้อมแต่แล้ว…ทุกอย่างกลับพังทลายลงในพริบตาตระกูลฝั่งมารดาของคุณหนูรองอวี้หลัน ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่กลับต้องโทษ เครือญาติถูกกวาดล้าง สินทรัพย์ถูกยึด ส่วนผู้ที่เหลือรอดถูกถอดยศปลดตำแหน่งแม้ตัวอวี้หลันจะยังมีสถานะเป็นบุตรีของรองเสนาบดี แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับบ้านเดิมมารดาของนางกลับกลายเป็นมลทินในสายตาผู้อื่นในเวลาไม่นาน การหมั้นหมายที่เคย

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่14ราชโองการ

    งานเลี้ยงช่วงเย็นของจวนรองเสนาบดีจัดขึ้นในสวนด้านทิศตะวันออก งดงาม หรูหราตระการตาไปทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นพุ่มดอกเหมยที่แต่งแต้มทั่วศาลา เสียงดนตรีบรรเลงแผ่วเบาจากมุมหนึ่งของเรือน กลิ่นหอมจากบุปผานานาพันธุ์คลุ้งในอากาศ และอาหารหรูหรารสเลิศหลายสิบชนิดถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะอย่างงดงาม ทุกอย่างล้วนแสดงถึงฐานะของเจ้าภาพได้อย่างชัดเจนบ่าวไพร่เดินกันขวักไขว่ บรรดาแขกสูงศักดิ์เริ่มทยอยเดินทางมาร่วมงานพร้อมรอยยิ้มแขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเป็นผู้มีฐานะสูงส่งในเมืองหลวง ทั้งตระกูลขุนนางและตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจและอิทธิพล แม้งานเลี้ยงจะถูกจัดขึ้นเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับเซิ่งซื่อ แต่ความจริงแล้ว ทุกคนต่างก็ล้วนมีจุดประสงค์ของตนเอง บางคนหวังสร้างสายสัมพันธ์ บางคนหวังหาโอกาสผูกสัมพันธ์ หรือแม้แต่เล็งเห็นประโยชน์จากฝ่ายตรงข้าม ทุกอย่างล้วนเป็นเกม เป็นหมากทางการเมืองบรรดาบุรุษแยกตัวออกไปยังศาลาอีกด้านหนึ่ง พูดคุยกันเรื่องบ้านเมือง อำนาจ และถกเถียงกันเรื่องราชสำนัก แววตาแต่ละคนต่างสังเกตชั่งน้ำหนักว่าใครมีแนวโน้มจะก้าวหน้ากว่ากันในอนาคตทางฝั่งสตรีกลับมีบรรยากาศต่างออกไป เหล่าฮูหยินและคุณหนูจากตระกูลใหญ่

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่13เปิดศึก

    สายลมยามสายพัดผ่านสวนดอกเหมยภายในเรือนฮวาหงอย่างแผ่วเบา กลีบดอกสีแดงสดปลิวว่อนราวภาพวาดงดงามในความฝัน อวี้หลันนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตั่งคนงามหน้าชานเรือน บนใบหน้าแต่งแต้มรอยยิ้มน้อยๆ ราวกับกำลังฝันดี ข้างกายมีฉิงหว่านกำลังบีบนวดให้อย่างเอาอกเอาใจทว่าภายในเรือนฮูหยินเอกของจวนรองเสนาบดีกลับร้อนระอุดั่งถูกโยนเข้ากองเพลิงเสียงถ้วยชาราคาแพงกระแทกพื้นแตกกระจายสะท้อนก้องไปทั่วเรือน ความเงียบงันหลังจากนั้นปรากฏเสียงลมหายใจหอบถี่ปนสะอื้นของหญิงผู้หนึ่งที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่กลางห้องเซิ่งซื่อกัดฟันแน่น ดวงหน้าแปรเปลี่ยนจากความสง่างามอ่อนโยนเป็นบิดเบี้ยวด้วยเพลิงโทสะวันนี้ควรจะเป็นวันของนาง วันเฉลิมฉลองที่จัดขึ้นเพื่อยกย่องสถานะและเกียรติยศของนางในฐานะฮูหยินเอก นางสมควรที่จะโดดเด่นและเชิดหน้าขึ้นสูงได้อย่างเต็มภาคภูมิ แต่กลับกลายเป็นวันแห่งหายนะ ทุกอย่างพังลงอย่างไม่เป็นท่า ทั้งนางยังพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ถูกเหยียบย่ำต่อหน้าบ่าวไพร่ทั้งจวน"อวี้หลัน นังเด็กสารเลว"เสียงของเซิ่งซื่อหลุดออกมาจากลำคอด้วยความเกลียดชังสุดขีด ตั้งแต่ที่แต่งเข้าจวนรองเสนาบดีมา นี่นับเป็นครั้งที่สองที่นางโกรธจนแทบคลั่งและเ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่12เปิดหน้าทวงสินเดิม

    ภายในห้องโถง บรรยากาศยังคงอึมครึมมืดครึ้ม ไม่มีใครกล้าเอ่ยวาจา อวี้จิ้งปลายสายตาเย็นชามองภรรยาที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้างกาย"เจ้า! ช่างดีนัก หึ"เซิ่งซื่อที่เห็นสามีมองนางด้วยสายตาเย็นชาและดุดันก็พลันหน้าถอดสี ร่างบางสั่นสะท้านเล็กน้อย รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจจนน้ำตาคลอ นางเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง มองอีกฝ่ายอย่างตัดพ้อ ก่อนจะเบือนสายตาหันมาทางอวี้หลันด้วยสีหน้าราวกับรู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด"เป็นแม่ที่เลอะเลือน มองคนไม่ออก ปล่อยให้บ่าวชั่วพวกนั้นล่วงเกินหลันเอ๋อร์ถึงเพียงนี้"เซิ่งซื่อเอ่ยเสียงสั่นเครือเจือสะอื้นแผ่วเบา ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดหางตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอ ราวกับคนที่สะเทือนใจอย่างสุดซึ้ง"แม่ผิดต่อหลันเอ๋อร์แล้ว"สีหน้าของเซิ่งซื่อเต็มไปด้วยความเศร้าสลด หากใครมองเพียงผิวเผินก็คงหลงนึกว่านางเสียใจจริงๆเหอะ เลอะเลือน มองคนไม่ออก หญิงนางนี้ช่างกล้าพูดได้อย่างไม่อายปากเป็นนาง ที่จงใจส่งคนพวกนั้นมาจับตามองเรือนฮวาหงตั้งแต่แรกไม่ใช่หรอกหรือ แล้วอีกอย่าง ใครเป็นลูกของนางกัน ลูกของนางนั่งโง่งมอยู่ตรงนั้นต่างหากอวี้หลันปรายตามองอวี้เหมยและอวี้คุนที่นั่งหน้าซีดตัวส

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่11กำจัดหนูสกปรก

    หลังจากทุกคนนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดูเหมือนจะสงบลงชั่วครู่ แต่ความสงบนั้นกลับอยู่ได้ไม่นานอวี้เหมยที่ถูกบังคับให้กลืนเลือดไหนเลยจะอดใจไม่ให้เอ่ยสิ่งใดออกมาได้ สายตาของนางเหลือบมองการแต่งกายอันแสนเรียบง่ายของน้องสาวต่างมารดา สายตากวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาไม่ปิดบังความดูแคลน ก่อนจะยกยิ้มบาง เอ่ยถ้อยคำเชือดเฉือนออกมาทันที"น้องรองช่างสมถะเสียเหลือเกิน วันงานเลี้ยงของท่านแม่ทั้งที กลับแต่งกายเรียบง่ายเสียจนนึกว่าเป็นสาวใช้จากเรือนใดหลงเข้ามา"คำพูดนั้นทำเอาทุกคนบนโต๊ะถึงกับชะงัก แม้รอยยิ้มของอวี้เหมยจะดูละมุน แต่แววตากลับฉายชัดว่าไม่คิดจะไว้ไมตรีอวี้หลันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาหวานลึกล้ำดั่งสายน้ำ มองสบอีกฝ่ายอย่างสงบ ไม่มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มอ่อนโยนประหนึ่งไม่ได้ถือสาหาความในขณะที่อวี้จิ้งนั่งเงียบ สีหน้าของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันทีที่ได้ยินคำพูดของบุตรสาวคนโต สายตาเหลือบมองอวี้หลัน ก่อนจะกวาดตามองการแต่งกายของนางอย่างพิจารณาหัวคิ้วของรองเสนาบดีขมวดแน่นอย่างไม่อาจปกปิดในทุกปี ทุกๆ เทศกาล เสื้อผ้าและเครื่องประดับล้วนถูกส่งไปย

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status