Home / รักโบราณ / บุปผาแห่งสายลมเหนือ / บทที่ 9 เงามืดที่เคลื่อนไหว

Share

บทที่ 9 เงามืดที่เคลื่อนไหว

last update Last Updated: 2025-06-28 17:16:43

หลังจากตกลงร่วมมือกัน เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนก็เริ่มวางแผนปฏิบัติการอย่างลับๆ เป้าหมายแรกของพวกเขาคือการรวบรวมหลักฐานมัดตัวเฉินกุ้ย นายด่านเก็บภาษีจอมฉ้อฉลแห่งเล่าหยาง

เฟิงซือเฟิงใช้เครือข่ายพ่อค้าของนางในการปล่อยข่าวลือและสังเกตพฤติกรรมของเฉินกุ้ย นางให้คนสนิทแฝงตัวเข้าไปทำงานในโรงเตี๊ยมและหอนางโลมที่เฉินกุ้ยมักจะไปใช้บริการ เพื่อดักฟังข้อมูลและจับตาดูว่ามีใครบ้างที่เข้าพบเขาอย่างลับๆ

ส่วนหลี่จิ่งหยวนก็ให้จ้าวอู่และองครักษ์ของเขาคอยสะกดรอยตามคนสนิทของเฉินกุ้ย และพยายามหาช่องทางที่จะเข้าไปค้นหาหลักฐานในจวนของเขา จ้าวอู่ซึ่งมีความสามารถในการปลอมตัวและแทรกซึมเป็นเลิศ ได้ปลอมเป็นคนงานเข้าไปซ่อมแซมหลังคาในจวนของเฉินกุ้ย และลอบทำแผนผังภายในจวนออกมาได้สำเร็จ

"จากข้อมูลที่ได้มา เฉินกุ้ยมักจะเก็บเอกสารสำคัญและของมีค่าไว้ในห้องลับใต้ดินห้องหนึ่งในห้องหนังสือของเขา"

จ้าวอู่รายงานต่อหลี่จิ่งหยวนและเฟิงซือเฟิงในการนัดพบครั้งล่าสุด ซึ่งจัดขึ้นในกระท่อมร้างแห่งหนึ่งนอกเมืองเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของผู้คน

"ห้องลับใต้ดินรึ?" เฟิงซือเฟิงทวนคำ

"ทางเข้าคงจะถูกปิดบังไว้อย่างดีเป็นแน่"

"ขอรับ จากการสังเกตการณ์หลายวัน ข้าพบว่ากลไกเปิดทางเข้าน่าจะอยู่ที่ชั้นหนังสือด้านทิศตะวันออกของห้อง"

จ้าวอู่ชี้ไปยังจุดที่เขาร่างไว้ในแผนผัง

หลี่จิ่งหยวนมองแผนผังนั้นอย่างพิจารณา

"คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด เหมาะแก่การลงมือ" เขาตัดสินใจ

"จ้าวอู่ เจ้ากับข้าจะลอบเข้าไปในจวนของเฉินกุ้ย ส่วนซือเฟิง ข้าอยากให้ท่านช่วยสร้างสถานการณ์บางอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของยามและคนในจวน"

เฟิงซือเฟิงครุ่นคิดเล็กน้อย "ข้ามีวิธี"

นางยิ้มอย่างมีเลศนัย

"เฉินกุ้ยมีอนุภรรยาคนโปรดอยู่คนหนึ่ง นางชื่อว่าเหมยเหนียง ได้ข่าวว่านางกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ และเฉินกุ้ยก็รักและห่วงใยนางมาก หากมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับเหมยเหนียงในคืนนี้

เฉินกุ้ยคงจะวุ่นวายจนไม่มีสมาธิสนใจเรื่องอื่นเป็นแน่"

"ท่านจะทำอะไรกับนาง?"

หลี่จิ่งหยวนถามด้วยความกังวลเล็กน้อย เขาไม่ต้องการให้ผู้บริสุทธิ์ต้องมาเดือดร้อน

"วางใจเถอะ ข้าไม่ทำร้ายคนท้องหรอก"

เฟิงซือเฟิงรีบอธิบาย

"ข้าจะให้คนของข้าที่แฝงตัวเป็นหมอตำแยเข้าไปบอกกับเหมยเหนียงว่าครรภ์ของนางมีปัญหาเล็กน้อย และต้องทำพิธีสวดมนต์ขอพรเป็นกรณีพิเศษในคืนนี้ที่ศาลเจ้าร้างท้ายเมือง พิธีนี้ห้ามให้เฉินกุ้ยรู้ เพราะจะถือเป็นลางร้ายต่อเด็กในครรภ์ เหมยเหนียงซึ่งกำลังกังวลเรื่องลูกย่อมต้องเชื่อและแอบหนีออกมาแน่ และเมื่อเฉินกุ้ยรู้ว่าอนุภรรยาสุดที่รักหายตัวไปในยามวิกาล เขาจะต้องสั่งคนให้ออกตามหาจ้าละหวั่นอย่างแน่นอน"

แผนการของนางทำให้หลี่จิ่งหยวนและจ้าวอู่อดที่จะทึ่งไม่ได้

"คุณหนู...เอ่อ...ซือเฟิง ท่านช่าง...รอบคอบยิ่งนัก" จ้าวอู่เอ่ยชม

คืนนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เฟิงซือเฟิงให้คนไปดำเนินการเรื่องเหมยเหนียงตามที่นางวางแผน ไม่นานนัก ข่าวอนุภรรยาคนโปรดของนายด่านเฉินกุ้ยหายตัวไปก็แพร่สะพัดไปทั่วจวน สร้างความโกลาหลเป็นอย่างมาก เฉินกุ้ยโกรธจัดและเป็นกังวล สั่งให้ยามและคนรับใช้เกือบทั้งหมดออกตามหาเหมยเหนียง ทำให้การป้องกันภายในจวนหละหลวมลงอย่างมาก

หลี่จิ่งหยวนและจ้าวอู่อาศัยจังหวะนั้นลอบเข้าไปในจวนของเฉินกุ้ยได้อย่างง่ายดาย พวกเขาหลบหลีกยามที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คน มุ่งตรงไปยังห้องหนังสือ เมื่อเข้าไปถึง จ้าวอู่ก็ตรงไปยังชั้นหนังสือด้านทิศตะวันออกทันที เขาลองขยับหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้อยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พบกลไกที่ซ่อนไว้ เมื่อเขาดึงหนังสือเล่มหนึ่งออกมา ชั้นหนังสือทั้งแผงก็เลื่อนออกอย่างเงียบกริบ เผยให้เห็นทางเดินลับที่ทอดลงไปสู่ชั้นใต้ดิน

ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า หลี่จิ่งหยวนนำทางลงไปก่อนอย่างระมัดระวัง ภายในห้องลับใต้ดินนั้นมีหีบเหล็กอยู่หลายใบ เมื่อเปิดออกดูก็พบกับทองคำแท่ง เงินตำลึง และอัญมณีมีค่ามากมาย นอกจากนี้ยังมีบัญชีรายชื่อพ่อค้าที่จ่ายส่วย และเอกสารลับที่บันทึกการทุจริตต่างๆ ของเฉินกุ้ยและผู้ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก

"เจอแล้ว!" หลี่จิ่งหยวนอุทานเบาๆ แววตาของเขาฉายประกายแห่งความสำเร็จ

 "นี่คือหลักฐานที่เราต้องการ!"

พวกเขารีบเก็บรวบรวมเอกสารสำคัญเหล่านั้นใส่ในห่อผ้าที่เตรียมมา ก่อนจะจัดทุกอย่างให้กลับเข้าที่เดิม แล้วจึงลอบออกจากจวนของเฉินกุ้ยไปอย่างเงียบเชียบ โดยไม่มีใครสังเกตเห็น

เมื่อกลับมาถึงจุดนัดพบ เฟิงซือเฟิงซึ่งรออยู่แล้วด้วยความเป็นห่วงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าทั้งสองปลอดภัยกลับมาพร้อมกับห่อผ้าขนาดใหญ่

"สำเร็จหรือไม่?" นางถามอย่างตื่นเต้น

หลี่จิ่งหยวนยิ้มกว้าง ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่หาดูได้ยากยิ่งจากเขา

"สำเร็จอย่างงดงาม"

เขาคลี่ห่อผ้าออกให้เฟิงซือเฟิงดูเอกสารเหล่านั้น

"นี่คือหลักฐานที่จะมัดตัวเฉินกุ้ยและพรรคพวกของเขาได้อย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณแผนการอันชาญฉลาดของเจ้า...ซือเฟิง"

เฟิงซือเฟิงมองเอกสารเหล่านั้นด้วยความยินดี

"ยอดเยี่ยมมาก! ต่อไปเราจะทำอย่างไรกับหลักฐานเหล่านี้?"

"ข้าจะทำและส่งสำเนาส่วนหนึ่งกลับไปให้คนของข้าที่อยู่ที่เป่ยเหลียง ส่วนที่เหลือ เราจะหาทางนำมันไปมอบให้กับขุนนางตงฉินในราชสำนักต้าถังที่พอจะไว้ใจได้ เพื่อให้พวกเขาดำเนินการขั้นต่อไป"

หลี่จิ่งหยวนอธิบายแผนการ

"ข้ารู้จักขุนนางบางท่านที่อาจจะช่วยเหลือเราได้"

เฟิงซือเฟิงเสนอ

"แต่เราต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะเรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย และอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากพลาดพลั้งไป"

"ข้าเข้าใจ" หลี่จิ่งหยวนพยักหน้า

"แต่เพื่อโค่นล้มเครือข่ายคอร์รัปชันนี้ให้สิ้นซาก เราจำเป็นต้องเสี่ยง"

เงามืดที่เคยปกคลุมเมืองเล่าหยางเริ่มมีแสงสว่างรำไรสาดส่องเข้ามา ความร่วมมือกันของบุปผาจากแดนใต้และสายลมจากแดนเหนือได้เริ่มขึ่นแล้ว และมันกำลังจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่จะสั่นสะเทือนบัลลังก์ของเหล่าคนชั่วในไม่ช้า...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 10 เปลวไฟในวารี

    ค่ำคืนนั้น หลังจากจัดส่งบุตรธิดาเข้านอนเรียบร้อย ทิ้งความวุ่นวายของวันไว้เบื้องหลัง เฟิงซือเฟิงรู้สึกอ่อนล้าทั้งกายและใจจากงานที่เบียดเสียด และจากความซุกซนของหลี่หยางฉีกับหลี่เหมยลี่ นางปรารถนาแต่ช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายในอ่างอาบน้ำที่อบอวลไปด้วยไอน้ำอุ่นห้องอาบน้ำส่วนพระองค์ของตำหนักมังกรเหมยนั้นกว้างขวางและงดงามเสมือนห้องโถงเล็กๆ แสงเทียนจากโคมไฟกระดาษที่แขวนอยู่รอบห้องส่องแสงนวลตา ขับไล่ความมืดและสร้างบรรยากาศอันอบอุ่น อ่างหินอ่อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง น้ำอุ่นที่ผสมสมุนไพรหอมส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว กลีบโบตั๋นสีชมพูอ่อนและดอกเหมยขาวลอยอยู่บนผิวน้ำที่ปล่อยไอเบาๆ ดุจม่านหมอกเฟิงซือเฟิงค่อยๆ ถอดผ้าไหมบางเบาออกทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า ผิวพรรณเนียนใสของนางเปล่งประกายใต้แสงเทียน สวยงามราวหยกเนื้อดีที่เพิ่งขัดเกลา นางก้าวลงสู่น้ำอุ่นอย่างแผ่วเบา รู้สึกถึงความอุ่นที่ซึมซาบเข้าสู่ร่างที่เหนื่อยล้า ความสบายแผ่ซ่านไปทั่วกาย นางเอนตัวพิงขอบอ่าง หลับตาลง ดื่มด่ำกับความสงบที่โอบล้อมไม่นานนัก เสียงฝีเท้าคุ้นเคยก็ดังมาในห้อง หลี่จิ่งหยวนในชุดลำลองผ้าไหมสีเข้มเดินเข้ามาเงียบเชียบ ดวงตาคมกริบจับจ้องร

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 9 สัญญาใต้ผืนฟ้า

    ในค่ำคืนสุดท้ายก่อนที่ดวงตะวันจะทอแสงแห่งการจากลา เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนกลับมายังศาลาริมน้ำอันเป็นที่โปรดปรานของพวกเขา ศาลาแห่งนี้ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในสวนลับของเรือนพัก ที่ซึ่งพวกเขาเคยแบ่งปันทั้งแผนการลับและหัวใจให้แก่กันยามค่ำคืน แสงจันทร์สีเงินนวลสาดส่องลงมายังผิวน้ำในสระบัวที่นิ่งสงบ สร้างประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวนับพันดวงได้หล่นลงมาเต้นระบำอยู่บนผิวน้ำยามราตรี กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกบัวยามค่ำคืนลอยอบอวลมาตามสายลมบางเบา คลอเคล้ากับเสียงหรีดหริ่งเรไรที่ขับขานเป็นบทเพลงแห่งความอาลัยอาวรณ์ทั้งสองยืนเคียงข้างกันบนศาลาไม้ สัมผัสถึงไอเย็นจากผิวน้ำที่พัดขึ้นมาปะทะกาย อ้อมแขนของหลี่จิ่งหยวนโอบรอบเอวบางของเฟิงซือเฟิงอย่างหลวมๆ แต่แฝงไว้ด้วยความมั่นคงอันหนักแน่น ราวกับจะบอกว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยนางไป สายตาของพวกเขาเงยขึ้นมองไปยังดวงดาวนับล้านดวงที่ส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้ายามค่ำคืนของเล่าหยาง เป็นดวงดาวที่สว่างไสวกว่าทุกค่ำคืนที่ผ่านมา ราวกับเป็นพยานรู้เห็นถึงพันธสัญญาแห่งหัวใจที่กำลังจะเกิดขึ้น"ข้ากลัวเหลือเกินจิ่งหยวน" เฟิงซือเฟิงเอ่ยเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน เสียงของนางสั่นเครือเ

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 8 ลมพัดเปลี่ยนใจ

    ยามค่ำคืนที่แสงจันทร์สีเงินนวลสาดส่องลงมายังเรือนพักลับอันเงียบสงัดของเฟิงซือเฟิง แสงนั้นขับไล่ความมืดมิดภายนอกให้เลือนหายไป แต่กลับมิอาจขับไล่เงามืดแห่งความกังวลที่กำลังปกคลุมจิตใจของคนทั้งสอง แผนการปฏิรูปประเทศที่หลี่จิ่งหยวนและเฟิงซือเฟิงร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นนั้น แม้จะเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม นำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เมืองเล่าหยางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หากแต่คลื่นใต้น้ำแห่งความไม่พอใจจากเหล่าขุนนางเก่าที่เสียผลประโยชน์ก็เริ่มก่อตัวขึ้น ราชสำนักต้าถังที่เคยนิ่งเฉย บัดนี้เริ่มแสดงความกังวลถึงอิทธิพลของหลี่จิ่งหยวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงกระซิบกระซาบถึง "อำนาจที่เติบโตเกินกว่าจะควบคุม" และ "ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับบุตรีแม่ทัพ" เริ่มแพร่สะพัดดุจไฟลามทุ่ง เฟิงซือเฟิงเองก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามา ทั้งจากสายตาที่จับจ้อง และความระแวงที่แผ่กระจายไปทั่วในค่ำคืนที่เงียบสงัดนั้น หลังจากที่เฟิงซือเฟิงผล็อยหลับไปบนเตียง หลี่จิ่งหยวนยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ข้างเตียงของนาง ไม่ยอมหลับลง แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้อง เผยให้เห็นใบหน้าที่หมดจดเกลี้ยงเกลาของนางที่ดูสงบยามหลับใหล แพขนต

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 7 สัมผัสต้องห้าม

    ค่ำคืนนั้น หลังจากการหลบหนีจากการตามล่าของเหล่ามือสังหารเงาตามตัวมาได้อย่างหวุดหวิด เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนก็กลับมายังเรือนพักลับของเขาที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของเมืองเล่าหยางที่เงียบสงัดราวกับถูกซ่อนไว้จากโลกภายนอก เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ยังคงหอบถี่ด้วยความเหนื่อยล้าและหวาดกลัวที่ยังคงเกาะกุมอยู่ในจิตใจ แม้กายจะพ้นจากอันตราย แต่ใจก็ยังคงสั่นระริกราวกับใบไม้ต้องลมยามพายุโหมกระหน่ำ สายฝนภายนอกเริ่มซาลง เหลือเพียงเสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาแผ่วเบา คลอเคล้ากับเสียงฟืนในเตาผิงที่ลุกไหม้อย่างช้าๆ ให้ความอบอุ่นแก่เรือนพักภายในห้องที่สว่างไสวด้วยแสงเทียนสีนวลอ่อนๆ จากตะเกียงทองเหลืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง แสงนั้นขับไล่ความมืดมิดและสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นละมุนละไม หลี่จิ่งหยวนในชุดที่เปรอะเปื้อนคราบดินโคลนและร่องรอยของการต่อสู้ กำลังบรรจงปฐมพยาบาลบาดแผลเล็กน้อยที่หัวไหล่ของเฟิงซือเฟิงอย่างอ่อนโยน ใบหน้าคมคายของเขาฉายแววเคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนแผ่วเบาและพิถีพิถัน ราวกับกลัวว่าการสัมผัสเพียงน้อยนิดจะทำให้นางเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เฟิงซือเฟิงอยู่ใ

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 6 ใต้เงาเพลิงไฟ

    งานเลี้ยงเฉลิมฉลองความสำเร็จในการฟื้นฟูเมืองเล่าหยางถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ณ โถงกลางของจวนผู้ว่าการเมืองที่เพิ่งได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ แสงไฟจากโคมนับพันดวงส่องสว่างเรืองรองขับไล่ความมืดมิดยามค่ำคืน ผ้าแพรไหมเนื้อดีสีแดงสดและสีทองอร่ามประดับประดาไปทั่วทุกซอกมุมของโถง แสดงถึงความมั่งคั่งและปิติยินดี เสียงดนตรีบรรเลงขับขานก้องกังวานไปทั่วงาน เสียงพิณที่ไพเราะราวเสียงน้ำตก เสียงขลุ่ยที่อ่อนหวานราวสายลมพัดต้องกลีบดอกไม้ และเสียงกลองที่เร่งเร้าราวจังหวะหัวใจที่เต้นรัว ผู้คนมากมายทั้งขุนนาง พ่อค้าใหญ่ และผู้มีอิทธิพลจากทั่วสารทิศต่างมารวมตัวกันอย่างคับคั่ง ใบหน้าของทุกคนเปื้อนยิ้มแห่งความสุขและความพึงพอใจ กลิ่นหอมของสุราเลิศรส อาหารเลิศรส และเครื่องหอมนานาชนิดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวา แต่ภายใต้ความคึกคักนั้น ยังคงมีกระแสคลื่นใต้น้ำแห่งการเมืองและผลประโยชน์ที่มองไม่เห็นไหลวนอยู่เฟิงซือเฟิงในชุดผ้าไหมสีเข้มเรียบง่าย ซึ่งเป็นชุดที่นางจงใจเลือกเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตมากเกินไป แต่ก็ยังคงความสง่างามตามธรรมชาติของบุตรีแม่ทัพไว้ได้อย่างครบถ้วน เส้นผมดำขลับ

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ    ตอนพิเศษที่ 5 แววตาใต้ตะเกียง

    ค่ำคืนนั้น หลังจากการวิ่งหนีการตามล่าของเหล่ามือสังหารเงาตามตัวมาได้อย่างหวุดหวิด เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนก็กลับมายังเรือนพักลับของเขาที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของเมืองเล่าหยางที่เงียบสงัด เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ยังคงหอบถี่ด้วยความเหนื่อยล้าและหวาดกลัวที่ยังคงเกาะกุมอยู่ในจิตใจ แม้กายจะพ้นจากอันตราย แต่ใจก็ยังคงสั่นระริกราวกับใบไม้ต้องลมยามพายุโหมกระหน่ำ แสงเทียนจากตะเกียงทองเหลืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ส่องสว่างนวลตาขับไล่ความมืดมิดและสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นเล็กๆ ให้กับห้องพักที่เรียบง่ายแต่เป็นที่พึ่งพิงในยามนี้หลี่จิ่งหยวนในชุดที่เปรอะเปื้อนคราบดินโคลนและร่องรอยของการต่อสู้ กำลังบรรจงปฐมพยาบาลบาดแผลเล็กน้อยที่แขนของเฟิงซือเฟิงอย่างอ่อนโยน ใบหน้าคมคายของเขาฉายแววเคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนแผ่วเบาและพิถีพิถัน ราวกับกลัวว่าการสัมผัสเพียงน้อยนิดจะทำให้นางเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เฟิงซือเฟิงในชุดผ้าไหมบางเบาที่บัดนี้เปื้อนคราบเลือดแห้งกรังเล็กน้อย มองดูเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ แสงเทียนส่องกระทบใบหน้าของเขา เผยให้เห็นรอยเหนื่อยล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status