Home / รักโบราณ / บุปผาแห่งสายลมเหนือ / บทที่ 10 พันธะแห่งการปฏิรูป

Share

บทที่ 10 พันธะแห่งการปฏิรูป

last update Last Updated: 2025-06-28 17:17:38

หลักฐานการทุจริตของนายด่านเฉินกุ้ยและพรรคพวกถูกส่งไปยังขุนนางตงฉินในราชสำนักต้าถังอย่างลับๆ ผ่านช่องทางที่เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนร่วมกันวางแผนอย่างแยบยล ไม่นานนัก พายุลูกใหญ่ก็พัดกระหน่ำเข้าใส่กลุ่มขุนนางกังฉินในเล่าหยาง เฉินกุ้ยและผู้เกี่ยวข้องหลายคนถูกปลดออกจากตำแหน่งและจับกุมตัวไปสอบสวน สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่ววงการข้าราชการและพ่อค้า แม้ว่าตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังจะยังคงลอยนวล แต่ก็นับเป็นการตัดแขนตัดขาคนสำคัญของพวกมันไปได้มากโข

ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้ความร่วมมือระหว่างเฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น พวกเขานัดพบกันบ่อยครั้งขึ้น (อย่างลับๆ เช่นเคย) เพื่อหารือถึงแผนการขั้นต่อไป

"การโค่นล้มเฉินกุ้ยเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เท่านั้น"

หลี่จิ่งหยวนกล่าวขึ้น ในการพบปะกันครั้งหนึ่ง ณ โรงน้ำชาเก่าแก่แห่งหนึ่งที่เฟิงซือเฟิงเป็นเจ้าของโดยลับๆ ทำให้นางสามารถจัดเตรียมห้องส่วนตัวที่ปลอดภัยสำหรับการพูดคุยได้

"ปัญหาที่แท้จริงคือ ระบบที่บ่มเพาะให้คนอย่างเฉินกุ้ยเติบโตขึ้นมาได้ต่างหาก"

เฟิงซือเฟิงเห็นด้วยอย่างยิ่ง

"ระบบการค้าของเราเต็มไปด้วยช่องโหว่ กฎระเบียบที่ไม่ชัดเจน และการใช้อำนาจในทางมิชอบ ทำให้พ่อค้าที่สุจริตต้องเดือดร้อน ส่วนคนขี้โกงกลับร่ำรวยขึ้น"

นางถอนหายใจ

"ข้าฝันอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงมานานแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน"

หลี่จิ่งหยวนมองใบหน้าของนางที่ฉายแววจริงจังและมุ่งมั่น เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น

"ซือเฟิง ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะขอความช่วยเหลือจากท่าน และมันอาจจะเป็นสิ่งที่เราทั้งคู่ต้องการเห็นก็เป็นได้"

"เรื่องอะไรหรือ จิ่งหยวน?"

เฟิงซือเฟิงเลิกคิ้วด้วยความสนใจ

"ข้าต้องการปฏิรูประบบการค้าในแถบชายแดนนี้"

หลี่จิ่งหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ไม่ใช่แค่การปราบปรามการทุจริต แต่เป็นการวางรากฐานระบบใหม่ที่โปร่งใส เป็นธรรม และเอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายอย่างแท้จริง ข้าเชื่อว่าหากการค้าชายแดนรุ่งเรืองอย่างถูกต้อง ความสัมพันธ์ระหว่างต้าถังและเป่ยเหลียงก็จะดีขึ้นด้วย"

ข้อเสนอของเขาทำให้เฟิงซือเฟิงตาเป็นประกาย

"ปฏิรูประบบการค้างั้นหรือ! นั่นเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก!"

หัวใจของนางเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น นี่คือสิ่งที่นางใฝ่ฝันมาตลอด แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ทำมันจริงๆ

"แต่...มันเป็นงานที่ใหญ่และยากมากนะ เราจะทำได้อย่างไร?"

"ข้ามีอำนาจบางส่วนในเป่ยเหลียงที่จะผลักดันเรื่องนี้จากฝั่งของข้าได้"

หลี่จิ่งหยวนอธิบาย

"แต่ข้าต้องการความรู้ความเข้าใจในระบบการค้าของต้าถังอย่างลึกซึ้ง รวมถึงเครือข่ายและอิทธิพลในหมู่พ่อค้า ซึ่งท่านมีสิ่งเหล่านั้นครบถ้วน ซือเฟิง ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าร่างแผนการปฏิรูปนี้ และช่วยผลักดันมันจากฝั่งของท่าน"

เฟิงซือเฟิงรู้สึกราวกับเลือดในกายสูบฉีดด้วยความกระตือรือร้น

"จิ่งหยวน ท่านเชื่อใจข้างั้นหรือ ว่าข้าจะทำได้?"

แม้จะตื่นเต้น แต่นางก็ยังมีความลังเลเล็กน้อย เพราะนี่คือภารกิจที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่นางเคยรับผิดชอบมา

หลี่จิ่งหยวนมองลึกเข้าไปในดวงตาของนาง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น

"ข้าไม่เคยสงสัยในความสามารถของท่านเลย ซือเฟิง สิ่งที่ท่านทำกับกิจการของสกุลเฟิง และแผนการจัดการกับเฉินกุ้ย พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าท่านมีความเฉลียวฉลาดและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลเพียงใด"

คำชมของเขาทำให้นางรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

"ถ้าเช่นนั้น...ข้าตกลง!"

เฟิงซือเฟิงตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้าง

"ข้ายินดีที่จะร่วมมือกับท่านอย่างเต็มที่เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ให้สำเร็จ!"

พันธะสัญญาใหม่ได้ถูกก่อตั้งขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่เพียงเพื่อการปราบปรามคนชั่ว แต่เพื่อการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนเริ่มทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วยามในการหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่างแผนการปฏิรูประบบการค้า เฟิงซือเฟิงนำความรู้และประสบการณ์จริงจากการค้ามาปรับใช้กับหลักการปกครองและยุทธศาสตร์ของหลี่จิ่งหยวน ทำให้เกิดเป็นแผนการที่ทั้งลึกซึ้งและปฏิบัติได้จริง

ในระหว่างการทำงานร่วมกันนี้เอง ที่พวกเขาได้เริ่มเรียนรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของกันและกันมากขึ้น เฟิงซือเฟิงได้เห็นว่าภายใต้ท่าทีเย็นชาและเคร่งขรึมของหลี่จิ่งหยวนนั้น ซ่อนไว้ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่จะสร้างสิ่งที่ดีงามเพื่อประชาชนของเขา และเขาก็มีความอ่อนโยนและความเห็นอกเห็นใจซ่อนอยู่ลึกๆ ซึ่งจะเผยออกมาในบางครั้งที่เขาเผลอตัว

ส่วนหลี่จิ่งหยวนก็ยิ่งประทับใจในความฉลาดเฉลียว ความกล้าหาญ และความมีชีวิตชีวาของเฟิงซือเฟิง นางไม่ได้เป็นเพียงคุณหนูที่เอาแต่ใจหรือหญิงสาวที่เก่งกาจเรื่องค้าขายเท่านั้น แต่นางยังมีความคิดที่ลุ่มลึก ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้เขารู้สึกว่านางเป็นสหายร่วมอุดมการณ์ที่หาได้ยากยิ่ง การทำงานร่วมกันอย่างหนักและความใกล้ชิดที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ความรู้สึกบางอย่างในใจของคนทั้งคู่เริ่มชัดเจนขึ้นทีละน้อย...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 10 เปลวไฟในวารี

    ค่ำคืนนั้น หลังจากจัดส่งบุตรธิดาเข้านอนเรียบร้อย ทิ้งความวุ่นวายของวันไว้เบื้องหลัง เฟิงซือเฟิงรู้สึกอ่อนล้าทั้งกายและใจจากงานที่เบียดเสียด และจากความซุกซนของหลี่หยางฉีกับหลี่เหมยลี่ นางปรารถนาแต่ช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายในอ่างอาบน้ำที่อบอวลไปด้วยไอน้ำอุ่นห้องอาบน้ำส่วนพระองค์ของตำหนักมังกรเหมยนั้นกว้างขวางและงดงามเสมือนห้องโถงเล็กๆ แสงเทียนจากโคมไฟกระดาษที่แขวนอยู่รอบห้องส่องแสงนวลตา ขับไล่ความมืดและสร้างบรรยากาศอันอบอุ่น อ่างหินอ่อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง น้ำอุ่นที่ผสมสมุนไพรหอมส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว กลีบโบตั๋นสีชมพูอ่อนและดอกเหมยขาวลอยอยู่บนผิวน้ำที่ปล่อยไอเบาๆ ดุจม่านหมอกเฟิงซือเฟิงค่อยๆ ถอดผ้าไหมบางเบาออกทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า ผิวพรรณเนียนใสของนางเปล่งประกายใต้แสงเทียน สวยงามราวหยกเนื้อดีที่เพิ่งขัดเกลา นางก้าวลงสู่น้ำอุ่นอย่างแผ่วเบา รู้สึกถึงความอุ่นที่ซึมซาบเข้าสู่ร่างที่เหนื่อยล้า ความสบายแผ่ซ่านไปทั่วกาย นางเอนตัวพิงขอบอ่าง หลับตาลง ดื่มด่ำกับความสงบที่โอบล้อมไม่นานนัก เสียงฝีเท้าคุ้นเคยก็ดังมาในห้อง หลี่จิ่งหยวนในชุดลำลองผ้าไหมสีเข้มเดินเข้ามาเงียบเชียบ ดวงตาคมกริบจับจ้องร

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 9 สัญญาใต้ผืนฟ้า

    ในค่ำคืนสุดท้ายก่อนที่ดวงตะวันจะทอแสงแห่งการจากลา เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนกลับมายังศาลาริมน้ำอันเป็นที่โปรดปรานของพวกเขา ศาลาแห่งนี้ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในสวนลับของเรือนพัก ที่ซึ่งพวกเขาเคยแบ่งปันทั้งแผนการลับและหัวใจให้แก่กันยามค่ำคืน แสงจันทร์สีเงินนวลสาดส่องลงมายังผิวน้ำในสระบัวที่นิ่งสงบ สร้างประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวนับพันดวงได้หล่นลงมาเต้นระบำอยู่บนผิวน้ำยามราตรี กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกบัวยามค่ำคืนลอยอบอวลมาตามสายลมบางเบา คลอเคล้ากับเสียงหรีดหริ่งเรไรที่ขับขานเป็นบทเพลงแห่งความอาลัยอาวรณ์ทั้งสองยืนเคียงข้างกันบนศาลาไม้ สัมผัสถึงไอเย็นจากผิวน้ำที่พัดขึ้นมาปะทะกาย อ้อมแขนของหลี่จิ่งหยวนโอบรอบเอวบางของเฟิงซือเฟิงอย่างหลวมๆ แต่แฝงไว้ด้วยความมั่นคงอันหนักแน่น ราวกับจะบอกว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยนางไป สายตาของพวกเขาเงยขึ้นมองไปยังดวงดาวนับล้านดวงที่ส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้ายามค่ำคืนของเล่าหยาง เป็นดวงดาวที่สว่างไสวกว่าทุกค่ำคืนที่ผ่านมา ราวกับเป็นพยานรู้เห็นถึงพันธสัญญาแห่งหัวใจที่กำลังจะเกิดขึ้น"ข้ากลัวเหลือเกินจิ่งหยวน" เฟิงซือเฟิงเอ่ยเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน เสียงของนางสั่นเครือเ

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 8 ลมพัดเปลี่ยนใจ

    ยามค่ำคืนที่แสงจันทร์สีเงินนวลสาดส่องลงมายังเรือนพักลับอันเงียบสงัดของเฟิงซือเฟิง แสงนั้นขับไล่ความมืดมิดภายนอกให้เลือนหายไป แต่กลับมิอาจขับไล่เงามืดแห่งความกังวลที่กำลังปกคลุมจิตใจของคนทั้งสอง แผนการปฏิรูปประเทศที่หลี่จิ่งหยวนและเฟิงซือเฟิงร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นนั้น แม้จะเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม นำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เมืองเล่าหยางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หากแต่คลื่นใต้น้ำแห่งความไม่พอใจจากเหล่าขุนนางเก่าที่เสียผลประโยชน์ก็เริ่มก่อตัวขึ้น ราชสำนักต้าถังที่เคยนิ่งเฉย บัดนี้เริ่มแสดงความกังวลถึงอิทธิพลของหลี่จิ่งหยวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงกระซิบกระซาบถึง "อำนาจที่เติบโตเกินกว่าจะควบคุม" และ "ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับบุตรีแม่ทัพ" เริ่มแพร่สะพัดดุจไฟลามทุ่ง เฟิงซือเฟิงเองก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามา ทั้งจากสายตาที่จับจ้อง และความระแวงที่แผ่กระจายไปทั่วในค่ำคืนที่เงียบสงัดนั้น หลังจากที่เฟิงซือเฟิงผล็อยหลับไปบนเตียง หลี่จิ่งหยวนยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ข้างเตียงของนาง ไม่ยอมหลับลง แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้อง เผยให้เห็นใบหน้าที่หมดจดเกลี้ยงเกลาของนางที่ดูสงบยามหลับใหล แพขนต

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 7 สัมผัสต้องห้าม

    ค่ำคืนนั้น หลังจากการหลบหนีจากการตามล่าของเหล่ามือสังหารเงาตามตัวมาได้อย่างหวุดหวิด เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนก็กลับมายังเรือนพักลับของเขาที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของเมืองเล่าหยางที่เงียบสงัดราวกับถูกซ่อนไว้จากโลกภายนอก เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ยังคงหอบถี่ด้วยความเหนื่อยล้าและหวาดกลัวที่ยังคงเกาะกุมอยู่ในจิตใจ แม้กายจะพ้นจากอันตราย แต่ใจก็ยังคงสั่นระริกราวกับใบไม้ต้องลมยามพายุโหมกระหน่ำ สายฝนภายนอกเริ่มซาลง เหลือเพียงเสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาแผ่วเบา คลอเคล้ากับเสียงฟืนในเตาผิงที่ลุกไหม้อย่างช้าๆ ให้ความอบอุ่นแก่เรือนพักภายในห้องที่สว่างไสวด้วยแสงเทียนสีนวลอ่อนๆ จากตะเกียงทองเหลืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง แสงนั้นขับไล่ความมืดมิดและสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นละมุนละไม หลี่จิ่งหยวนในชุดที่เปรอะเปื้อนคราบดินโคลนและร่องรอยของการต่อสู้ กำลังบรรจงปฐมพยาบาลบาดแผลเล็กน้อยที่หัวไหล่ของเฟิงซือเฟิงอย่างอ่อนโยน ใบหน้าคมคายของเขาฉายแววเคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนแผ่วเบาและพิถีพิถัน ราวกับกลัวว่าการสัมผัสเพียงน้อยนิดจะทำให้นางเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เฟิงซือเฟิงอยู่ใ

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 6 ใต้เงาเพลิงไฟ

    งานเลี้ยงเฉลิมฉลองความสำเร็จในการฟื้นฟูเมืองเล่าหยางถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ณ โถงกลางของจวนผู้ว่าการเมืองที่เพิ่งได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ แสงไฟจากโคมนับพันดวงส่องสว่างเรืองรองขับไล่ความมืดมิดยามค่ำคืน ผ้าแพรไหมเนื้อดีสีแดงสดและสีทองอร่ามประดับประดาไปทั่วทุกซอกมุมของโถง แสดงถึงความมั่งคั่งและปิติยินดี เสียงดนตรีบรรเลงขับขานก้องกังวานไปทั่วงาน เสียงพิณที่ไพเราะราวเสียงน้ำตก เสียงขลุ่ยที่อ่อนหวานราวสายลมพัดต้องกลีบดอกไม้ และเสียงกลองที่เร่งเร้าราวจังหวะหัวใจที่เต้นรัว ผู้คนมากมายทั้งขุนนาง พ่อค้าใหญ่ และผู้มีอิทธิพลจากทั่วสารทิศต่างมารวมตัวกันอย่างคับคั่ง ใบหน้าของทุกคนเปื้อนยิ้มแห่งความสุขและความพึงพอใจ กลิ่นหอมของสุราเลิศรส อาหารเลิศรส และเครื่องหอมนานาชนิดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวา แต่ภายใต้ความคึกคักนั้น ยังคงมีกระแสคลื่นใต้น้ำแห่งการเมืองและผลประโยชน์ที่มองไม่เห็นไหลวนอยู่เฟิงซือเฟิงในชุดผ้าไหมสีเข้มเรียบง่าย ซึ่งเป็นชุดที่นางจงใจเลือกเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตมากเกินไป แต่ก็ยังคงความสง่างามตามธรรมชาติของบุตรีแม่ทัพไว้ได้อย่างครบถ้วน เส้นผมดำขลับ

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ    ตอนพิเศษที่ 5 แววตาใต้ตะเกียง

    ค่ำคืนนั้น หลังจากการวิ่งหนีการตามล่าของเหล่ามือสังหารเงาตามตัวมาได้อย่างหวุดหวิด เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนก็กลับมายังเรือนพักลับของเขาที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของเมืองเล่าหยางที่เงียบสงัด เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ยังคงหอบถี่ด้วยความเหนื่อยล้าและหวาดกลัวที่ยังคงเกาะกุมอยู่ในจิตใจ แม้กายจะพ้นจากอันตราย แต่ใจก็ยังคงสั่นระริกราวกับใบไม้ต้องลมยามพายุโหมกระหน่ำ แสงเทียนจากตะเกียงทองเหลืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ส่องสว่างนวลตาขับไล่ความมืดมิดและสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นเล็กๆ ให้กับห้องพักที่เรียบง่ายแต่เป็นที่พึ่งพิงในยามนี้หลี่จิ่งหยวนในชุดที่เปรอะเปื้อนคราบดินโคลนและร่องรอยของการต่อสู้ กำลังบรรจงปฐมพยาบาลบาดแผลเล็กน้อยที่แขนของเฟิงซือเฟิงอย่างอ่อนโยน ใบหน้าคมคายของเขาฉายแววเคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนแผ่วเบาและพิถีพิถัน ราวกับกลัวว่าการสัมผัสเพียงน้อยนิดจะทำให้นางเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เฟิงซือเฟิงในชุดผ้าไหมบางเบาที่บัดนี้เปื้อนคราบเลือดแห้งกรังเล็กน้อย มองดูเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ แสงเทียนส่องกระทบใบหน้าของเขา เผยให้เห็นรอยเหนื่อยล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status