Share

5

last update Last Updated: 2025-05-10 14:57:10

ภายหลังจากที่แก้วกัลยาเดินจากไป หม่อมราชวงศ์รวิยังคงยืนอยู่ที่เดิมภายใต้ร่มเงาของต้นชมพู่มะเหมี่ยว ความรู้สึกอบอุ่นจากสัมผัสมือของเธอยังคงหลงเหลืออยู่บนฝ่ามือของเขา แววตาที่สับสนแต่ก็แฝงไว้ด้วยความรู้สึกบางอย่างของแก้วกัลยา ทำให้เขามั่นใจว่าความรู้สึกที่เขามีให้เธอ ก็ได้รับการตอบสนองกลับมาเช่นกัน

ตลอดทั้งวัน หม่อมราชวงศ์รวิครุ่นคิดถึงแก้วกัลยา เขาพยายามทำความเข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจตนเอง มันไม่ใช่แค่ความชื่นชมในความงดงามภายนอก แต่เป็นความรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้ง ราวกับรู้จักเธอมานาน เขาประทับใจในความอ่อนหวาน จิตใจดี และความรู้ความสามารถของเธอในหลาย ๆ ด้าน การได้พูดคุยกับเธอทำให้เขารู้สึกสบายใจและเป็นตัวของตัวเองอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ในเย็นวันนั้น หม่อมราชวงศ์รวิตัดสินใจเขียนจดหมายถึงเพื่อนสนิทที่บางกอก เล่าถึงการเดินทางมาเชียงใหม่ และความรู้สึกพิเศษที่เขามีต่อหญิงสาวชาวเหนือผู้หนึ่ง เขาบรรยายถึงความงดงามของแก้วกัลยา ความมีเสน่ห์ และความน่ารักที่ทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหว

“...ข้าไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับใครมาก่อน ราวกับว่าดวงใจของข้าได้รับการเติมเต็มเมื่อได้อยู่ใกล้นาง แม้จะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ข้ารู้สึกผูกพันกับนางอย่างประหลาด นางมิได้งดงามเพียงรูปลักษณ์ภายนอก หากแต่จิตใจของนางก็งดงามไม่แพ้กัน...” ส่วนหนึ่งของจดหมายที่หม่อมราชวงศ์รวิเขียน

ขณะเดียวกัน ที่เรือนของพ่อเลี้ยงอินถา แก้วกัลยาก็เก็บความรู้สึกสับสนไว้ในใจ คำพูดและการสัมผัสของหม่อมราชวงศ์รวิยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ เธอไม่เคยมีชายใดแสดงความรู้สึกเช่นนี้กับเธอมาก่อน ความอบอุ่นและความจริงใจที่เขาแสดงออกมาแตกต่างจากความรู้สึกที่เธอมีต่อเจ้าศิริวัฒน์อย่างสิ้นเชิง

แก้วกัลยารู้ดีว่าการที่เธอรู้สึกเช่นนี้เป็นสิ่งที่ผิด เพราะเธอกำลังจะเข้าพิธีหมั้นหมายกับผู้อื่น แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับหม่อมราชวงศ์รวินั้นกลับรุนแรงและยากที่จะควบคุม

ในคืนนั้นเอง เจ้าสรุศักดิ์ได้เดินทางมาเยี่ยมพ่อเลี้ยงอินถาตามปกติ เขามักจะแวะเวียนมาพูดคุยและสอบถามสารทุกข์สุกดิบอยู่เสมอ เจ้าสรุศักดิ์เป็นคนสุภาพ อ่อนโยน และมีน้ำใจ ทำให้พ่อเลี้ยงอินทาและแก้วกัลยารู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้เขา

“สวัสดีครับคุณพ่อเลี้ยง สวัสดีครับแม่แก้ว” เจ้าสรุศักดิ์กล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีจ้ะคุณสรุศักดิ์” พ่อเลี้ยงอินทาตอบรับ

“สวัสดีค่ะคุณสรุศักดิ์” แก้วกัลยากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

เจ้าสรุศักดิ์สังเกตเห็นว่าแก้วกัลยาดูเงียบ ๆ ไปกว่าปกติ “แม่แก้วดูไม่ค่อยสบายหรือเปล่าครับ?”

“เปล่าจ้ะคุณสรุศักดิ์ สบายดี” แก้วกัลยารีบตอบ

พ่อเลี้ยงอินทาเสริมขึ้น “สงสัยแม่แก้วจะเหนื่อยกับการเตรียมงานหมั้นน่ะ”

เจ้าสรุศักดิ์พยักหน้ารับ แต่ในใจเขากลับรู้สึกเป็นห่วงแก้วกัลยาอย่างบอกไม่ถูก เขาสังเกตเห็นแววตาที่เศร้าสร้อยของเธอ

ขณะที่ทั้งสามนั่งสนทนากันอยู่นั้นเอง แม่หญิงเดือนฉายก็เดินทางมาที่เรือนของพ่อเลี้ยงอินถาอีกครั้ง เธอมาพร้อมกับขนมและผลไม้

“สวัสดีค่ะคุณพ่อเลี้ยง สวัสดีค่ะแม่แก้ว” แม่หญิงเดือนฉายกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มที่ดูฝืน ๆ เล็กน้อย เมื่อเห็นเจ้าสรุศักดิ์นั่งอยู่ด้วย

“อ้าว... แม่หญิงเดือนฉาย มาอีกแล้วหรือ” พ่อเลี้ยงอินทากล่าว

“ค่ะ ดิฉันนำขนมมาฝากค่ะ” แม่หญิงเดือนฉายยื่นตะกร้าขนมให้

แก้วกัลยารับขนมมาด้วยความสุภาพ “ขอบคุณค่ะ”

แม่หญิงเดือนฉายหันไปพูดคุยกับพ่อเลี้ยงอินถาและเจ้าสรุศักดิ์อย่างออกรส แต่สายตาของเธอก็มักจะเหลือบมองไปยังแก้วกัลยาอยู่เสมอ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและจับผิด

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสนทนากันอยู่นั้นเอง หม่อมราชวงศ์รวิก็เดินทางมาถึงเรือนของพ่อเลี้ยงอินถาอีกครั้ง เขามาพร้อมกับหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เชียงใหม่ที่จะนำมามอบให้พ่อเลี้ยงอินถา

เมื่อแม่หญิงเดือนฉายเห็นหม่อมราชวงศ์รวิ ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มหวานขึ้นทันที “ท่านหม่อมราชวงศ์มาถึงพอดีเลยค่ะ”

หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวทักทายทุกคนด้วยความสุภาพ แต่สายตาของเขากลับจับจ้องไปที่แก้วกัลยาเป็นพิเศษ รอยยิ้มที่มุมปากของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกยินดีที่ได้พบเธออีกครั้ง

แก้วกัลยารู้สึกอบอุ่นในหัวใจเมื่อได้สบตากับเขา เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกพิเศษที่หม่อมราชวงศ์รวิมีให้เธอ... ความรู้สึกที่เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ จนยากที่จะปฏิเสธได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   40

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป ความรักและความผูกพันของแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิยังคงเบ่งบานและหยั่งรากลึกในหัวใจของลูกหลาน พวกเขาได้สร้างครอบครัวที่อบอุ่นและเป็นที่รักของคนรอบข้าง เรื่องราวความรักของทั้งสองกลายเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นในนครพิงค์ในวัยชรา แก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิยังคงอยู่เคียงข้างกันและกัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ความรักและความเข้าใจของพวกเขาก็ไม่เคยจางหาย ทั้งสองใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยความสงบสุข มองดูลูกหลานเติบโตและสร้างครอบครัวของตนเองวันหนึ่ง ในยามเช้าที่อากาศสดใส แก้วกัลยานั่งอยู่บนเก้าอี้หวายในสวน มองดูดอกไม้ที่ยังคงเบ่งบานงดงาม หม่อมราชวงศ์รวิเดินเข้ามานั่งเคียงข้างเธอ จับมือของเธออย่างอ่อนโยน“วันนี้อากาศดีจริง ๆ นะครับ” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยรอยยิ้มแก้วกัลยามองตอบด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “ค่ะ ทุกวันที่ได้อยู่กับท่านก็เป็นวันที่ดีเสมอ”ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันอย่างเงียบ ๆ สูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ และฟังเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว ความเงียบนั้นไม่ได้น่าอึดอัด แต่กลับเต็มไปด้วยความเข้าใจและความผูกพันที่ลึกซึ้ง“ท่านยังจำวันที่เราพบกันครั้งแรกได้ไหมคะ?” แก้วกัลยาเ

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   39

    กาลเวลาผันผ่านไป บุตรชายและบุตรสาวของแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มสาว พวกเขาได้รับการสั่งสอนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม และมีความรักใคร่ในครอบครัว เฉกเช่นที่บิดามารดาเคยปฏิบัติบุตรชายคนโตของพวกเขาเติบโตขึ้นมาเป็นคนเฉลียวฉลาดและมีความมุ่งมั่น เขาได้รับการศึกษาอย่างดีและได้ช่วยแบ่งเบาภาระของหม่อมราชวงศ์รวิในการบริหารจัดการกิจการต่าง ๆ ในเมืองส่วนบุตรสาวคนเล็กก็มีความงดงามและมีจิตใจโอบอ้อมอารี เธอได้รับการอบรมให้เป็นกุลสตรีที่ดี และเป็นที่รักใคร่ของทุกคนในครอบครัวแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิมองดูลูก ๆ เติบโตด้วยความภาคภูมิใจ ความสุขของพวกเขาทวีคูณยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นลูก ๆ มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตพ่อเลี้ยงอินทาและมารดาของแก้วกัลยาก็แก่ชราลง แต่ท่านทั้งสองก็ยังคงแข็งแรงและเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับลูกหลาน ความรักและความอบอุ่นในครอบครัวยังคงเหนียวแน่นเจ้าสรุศักดิ์ยังคงเป็นเพื่อนสนิทของครอบครัว เขามักจะมาเยี่ยมเยียนและเล่นกับหลาน ๆ เป็นประจำ แม้จะไม่ได้มีครอบครัวเป็นของตนเอง แต่เขาก็มีความสุขที่ได้เห็นความสุขของเพื่อนวันหนึ่ง แก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวินั่งอยู่ด้วยกัน

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   38

    ภายหลังจากพิธีแต่งงานครั้งที่สอง แก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิก็ได้เริ่มต้นชีวิตคู่ร่วมกันอย่างแท้จริง เรือนของพ่อเลี้ยงอินทาอบอวลไปด้วยความรักและความสุข แก้วกัลยาปรับตัวเข้ากับการเป็นภรรยาได้อย่างราบรื่น เธอเรียนรู้การดูแลเรือนและการจัดการต่าง ๆ จากป้าเมี้ยน และได้รับการเอาใจใส่ดูแลจากหม่อมราชวงศ์รวิเป็นอย่างดีหม่อมราชวงศ์รวิยังคงปฏิบัติราชการด้วยความซื่อสัตย์และขยันขันแข็ง เขาให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก และมักจะหาเวลาอยู่กับแก้วกัลยาเสมอทั้งสองใช้เวลาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในสวน การอ่านหนังสือ การสนทนา หรือการไปเยี่ยมเยียนญาติมิตร ความรักและความเข้าใจของพวกเขายิ่งแน่นแฟ้นขึ้นในทุก ๆ วันพ่อเลี้ยงอินทาและมารดาของแก้วกัลยามีความสุขที่ได้เห็นลูกสาวมีความสุข ท่านทั้งสองเอ็นดูหม่อมราชวงศ์รวิเหมือนลูกชายแท้ ๆ และมักจะให้คำแนะนำและช่วยเหลือทั้งสองเสมอเจ้าสรุศักดิ์เองก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีของทั้งคู่ เขามักจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและร่วมรับประทานอาหารด้วยกันเสมอ แม้ในใจลึก ๆ จะยังคงมีความรู้สึกบางอย่าง แต่เขาก็เลือกที่จะยินดีกับความสุขของเพื่อนกาลเวลาผ่

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   37

    ข่าวการจับกุมแม่หญิงเดือนฉายได้ถูกส่งไปถึงแก้วกัลยาที่บ้านเดิมของเธอ ป้าเมี้ยนเป็นคนนำข่าวดีนี้ไปบอก เมื่อแก้วกัลยาทราบว่าอันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว ความรู้สึกโล่งใจก็ท่วมท้นหัวใจ เธอรู้ว่าหม่อมราชวงศ์รวิได้ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอในจดหมายที่หม่อมราชวงศ์รวิส่งมาพร้อมกับข่าวนี้ เขาได้เขียนถึงความรักและความคิดถึงที่มีต่อเธออย่างลึกซึ้ง และขอให้เธอกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันอีกครั้งเมื่ออ่านจดหมายจบ แก้วกัลยารู้สึกอบอุ่นหัวใจ เธอรู้ว่าที่ที่เธอควรอยู่คือข้างกายหม่อมราชวงศ์รวิ เธอตัดสินใจที่จะกลับไปหาเขาในทันทีแก้วกัลยาเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว และร่ำลาพ่อเลี้ยงและมารดาด้วยความรัก ท่านทั้งสองดีใจที่เห็นแก้วกัลยาตัดสินใจเช่นนั้น และอวยพรให้เธอมีความสุขกับหม่อมราชวงศ์รวิการเดินทางกลับมายังเรือนของพ่อเลี้ยงอินทาเต็มไปด้วยความรู้สึกตื้นตัน เมื่อรถม้ามาถึงหน้าเรือน แก้วกัลยารีบลงจากรถและมองไปยังเรือนที่คุ้นเคย หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความคิดถึงหม่อมราชวงศ์รวิที่รอคอยการกลับมาของเธออยู่แล้ว รีบออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรัก เมื่อทั้งสองได้พบกัน พวกเขาก็โผเข้ากอดกันอย่างแนบแน่น ค

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   36

    ภายหลังจากที่หม่อมราชวงศ์รวิและเจ้าสรุศักดิ์วางแผนการอย่างรอบคอบ พวกเขาก็เริ่มดำเนินการตามล่าแม่หญิงเดือนฉายอย่างเงียบ ๆ พวกเขาสืบหาเบาะแสจากคนรู้จักและแหล่งข่าวต่าง ๆ จนในที่สุดก็ทราบว่าแม่หญิงเดือนฉายได้หลบซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมร้างนอกเมืองหม่อมราชวงศ์รวิและเจ้าสรุศักดิ์นำกำลังคนจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังกระท่อมร้างแห่งนั้นในคืนหนึ่ง แสงจันทร์ส่องสว่างพอให้เห็นทาง แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเงียบสงัดและน่าหวาดหวั่นเมื่อไปถึงกระท่อม หม่อมราชวงศ์รวิสั่งให้คนล้อมกระท่อมไว้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้แม่หญิงเดือนฉายหลบหนีไปได้“ระวังตัวด้วยนะครับท่านหม่อมราชวงศ์” เจ้าสรุศักดิ์กระซิบเตือนหม่อมราชวงศ์รวิพยักหน้า เขาเดินนำหน้าเข้าไปในกระท่อมอย่างระมัดระวัง ภายในกระท่อมมืดสนิท แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของใครบางคน“ออกมาเถิดแม่หญิงเดือนฉาย เรารู้ว่าท่านอยู่ในนี้” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นความเงียบปกคลุมอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เสียงหัวเราะเยาะจะดังขึ้นจากมุมมืด“เก่งนี่ท่านหม่อมราชวงศ์ ตามหาฉันจนเจอ” เสียงของแม่หญิงเดือนฉายดังขึ้นจากเงามืด แม่หญิงเดือนฉายปรากฏตัวออกมา เธอมีสีหน้าที่บิดเบี้ย

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   35

    แม้จะรู้สึกเจ็บปวดกับการจากลาของแก้วกัลยา แต่หม่อมราชวงศ์รวิก็ไม่ยอมแพ้โดยง่ายดาย เขารู้ดีว่าการตัดสินใจของแก้วกัลยามาจากความหวาดกลัวและความปรารถนาที่จะปกป้องเขา เขาเชื่อมั่นในความรักที่พวกเขามีให้กัน และไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาจบลงเช่นนี้ตลอดหลายวันที่แก้วกัลยาไม่อยู่ หม่อมราชวงศ์รวิใช้เวลาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เขาคิดถึงความสุขที่เคยมีร่วมกัน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความผูกพันที่ลึกซึ้ง เขาไม่สามารถจินตนาการถึงชีวิตที่ไม่มีแก้วกัลยาได้หม่อมราชวงศ์รวิตัดสินใจว่าจะไม่ปล่อยให้ความหวาดกลัวมาพรากคนรักของเขาไป เขาจะหาทางพิสูจน์ให้แก้วกัลยาเห็นว่าเข้มแข็งพอที่จะปกป้องเธอได้ และความรักของพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าความแค้นของแม่หญิงเดือนฉายหม่อมราชวงศ์รวิเริ่มวางแผนบางอย่าง เขารู้ว่าแม่หญิงเดือนฉายยังคงเป็นภัยคุกคาม และตราบใดที่เธอยังไม่ถูกจัดการ ทุกคนก็ยังคงไม่ปลอดภัยเขาได้ปรึกษากับเจ้าสรุศักดิ์ถึงเรื่องนี้ เจ้าสรุศักดิ์เองก็เห็นด้วยว่าพวกเขาไม่ควรปล่อยให้แม่หญิงเดือนฉายลอยนวล“เราต้องหาทางจับตัวแม่หญิงเดือนฉายให้ได้” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่“ท่านมีแผนอย่างไรห

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   34

    คำพูดของแก้วกัลยาสร้างความเงียบงันและความตกตะลึงให้กับทุกคนในที่นั้น หม่อมราชวงศ์รวิรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลาย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจเช่นนี้ หลังจากที่พวกเขาได้ฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย“แก้วกัลยา... คุณพูดจริงหรือ?” หม่อมราชวงศ์รวิถามด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดแก้วกัลยามองหน้าเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ค่ะ ดิฉันคิดว่า... นี่คือทางที่ดีที่สุดสำหรับเรา”“ทางที่ดีที่สุด?” หม่อมราชวงศ์รวทวนคำด้วยความไม่เข้าใจ “การที่เราต้องจากกันนี่น่ะหรือคือทางที่ดีที่สุด?”“ดิฉันไม่อยากให้ท่านต้องมาเสี่ยงอันตรายเพราะดิฉันอีกต่อไป” แก้วกัลยากล่าวเสียงสั่น “แม่หญิงเดือนฉายยังคงมีความแค้น และดิฉันกลัวว่าเธอจะกลับมาทำร้ายท่านอีก”“แต่ผมไม่กลัว!” หม่อมราชวงศ์รวิตอบอย่างหนักแน่น “ผมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งเพื่อคุณ”“แต่ดิฉันไม่ต้องการให้ท่านต้องเป็นเช่นนั้น” แก้วกัลยากล่าว “ดิฉันอยากให้ท่านมีชีวิตที่สงบสุข ปลอดภัย”พ่อเลี้ยงอินทาและมารดาพยายามที่จะพูดเกลี้ยกล่อมแก้วกัลยา แต่เธอก็ยืนยันในการตัดสินใจของตนเอง“ลูกคิดดีแล้วหรือแม่แก้ว?” มารดาถามด้วยความเป็นห่วง“ค่ะแม่” แก้วกัลยาตอบด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่เจ้าสรุ

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   33

    ภายหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายและการต่อสู้ในงานแต่งงาน ทุกคนต่างก็อยู่ในอาการตกใจและเหนื่อยล้า ผู้บาดเจ็บได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และบรรยากาศแห่งความสุขได้แปรเปลี่ยนเป็นความเงียบเหงาและความกังวลแก้วกัลยาดูแลบาดแผลของหม่อมราชวงศ์รวิด้วยความเป็นห่วง เธอใช้ผ้าสะอาดพันรอบแขนของเขาอย่างเบามือ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องบาดเจ็บ“ดิฉันขอโทษนะคะ ที่ทำให้ท่านต้อง...” แก้วกัลยากล่าวเสียงแผ่วหม่อมราชวงศ์รวจับมือเธอเบา ๆ “อย่าโทษตัวเองเลยครับ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ ผมยินดีที่จะปกป้องคุณเสมอ”พ่อเลี้ยงอินทาและมารดาของแก้วกัลยาเข้ามาด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย ท่านทั้งสองรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันมงคลของบุตรี“พวกเราขอโทษด้วยนะแม่แก้ว ที่ปกป้องลูกได้ไม่ดีพอ” มารดากล่าวพลางลูบศีรษะของแก้วกัลยาเบา ๆ“ไม่เป็นไรค่ะแม่ อย่างน้อยทุกคนก็ปลอดภัย” แก้วกัลยากล่าวให้กำลังใจเจ้าสรุศักดิ์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “เราต้องแจ้งทางการให้มาจัดการเรื่องนี้ แม่หญิงเดือนฉายทำเกินไปแล้ว”หม่อมราชวงศ์รวิเห็นด้วย “ผมจะไปแจ้งความด้วยตัวเอง”ในขณะที่หม่อมราชวงศ์รวิกำลังจะไปแจ้งความ แก้ว

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   32

    ความโกลาหลและความวุ่นวายปกคลุมทั่วบริเวณงานแต่งงาน กลุ่มชายฉกรรจ์ที่แม่หญิงเดือนฉายส่งมาเข้าโจมตีแขกเหรื่ออย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงร้องด้วยความตกใจ เสียงข้าวของแตก และเสียงปะทะดังสนั่นไปทั่วสวนหม่อมราชวงศ์รวิรีบดึงแก้วกัลยามาไว้ข้างหลังเพื่อปกป้องเธอ เขามองไปยังกลุ่มผู้บุกรุกด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและพร้อมที่จะต่อสู้“คุณอยู่ตรงนี้ อย่าไปไหน” หม่อมราชวงศ์รวิกระซิบกับแก้วกัลยาด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันหน้าเผชิญหน้ากับอันตรายเจ้าสรุศักดิ์และคนของพ่อเลี้ยงอินทารีบเข้ามาช่วยต่อสู้ พวกเขาพยายามที่จะต้านทานกลุ่มผู้บุกรุกและปกป้องแขกเหรื่อ แต่จำนวนของศัตรูนั้นมีมาก ทำให้การต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบากพ่อเลี้ยงอินทาแม้จะตกใจ แต่ก็พยายามตั้งสติและสั่งให้คนของตนเองที่เหลืออยู่เข้ามาช่วยเสริมกำลังแก้วกัลยามองภาพการต่อสู้ด้วยความหวาดกลัว เธอเห็นหม่อมราชวงศ์รวิต่อสู้อย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องเธอและคนอื่น ๆ เธอรู้สึกเป็นห่วงเขาจับใจแม่หญิงเดือนฉายยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสะใจ เธอต้องการที่จะทำลายความสุขของแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิให้พังพินาศในระหว่างการต่อสู้ หม่อมราชวง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status