Share

4

last update Dernière mise à jour: 2025-05-10 14:56:41

ภายหลังจากที่แม่หญิงเดือนฉายกลับไปพร้อมกับความไม่พอใจ หม่อมราชวงศ์รวิก็ใช้เวลาสนทนากับพ่อเลี้ยงอินถาและแก้วกัลยาต่ออีกสักพัก บรรยากาศกลับมาผ่อนคลายและเป็นกันเองอีกครั้ง หม่อมราชวงศ์รวิเล่าเรื่องราวการเดินทางและการทำงานในบางกอกให้ทั้งสองฟัง ส่วนแก้วกัลยาก็เล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่และประเพณีที่น่าสนใจของชาวเชียงใหม่

“คุณแก้วกัลยาดูจะมีความรู้เรื่องสมุนไพรและดอกไม้มากทีเดียว” หม่อมราชวงศ์รวิเอ่ยชม เมื่อเห็นแก้วกัลยาอธิบายสรรพคุณของดอกไม้แต่ละชนิดในสวนได้อย่างละเอียด

“ดิฉันเติบโตมากับสิ่งเหล่านี้เจ้าค่ะ พ่อของดิฉันท่านชอบปลูกต้นไม้และสมุนไพร” แก้วกัลยาตอบด้วยรอยยิ้ม

“น่าสนใจมาก หากมีโอกาส ผมอยากจะขอความรู้จากคุณบ้าง” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวอย่างจริงใจ

“ด้วยความยินดีเจ้าค่ะ” แก้วกัลยารู้สึกดีใจที่หม่อมราชวงศ์รวิให้ความสนใจในสิ่งที่เธอรัก

เมื่อถึงเวลาสมควร หม่อมราชวงศ์รวิก็ขอตัวกลับ พ่อเลี้ยงอินถาเดินไปส่งเขาที่หน้าเรือนด้วยความเต็มใจ

“ขอบคุณท่านมากนะขอรับที่มาเยี่ยมเยียนวันนี้ หวังว่าท่านคงจะสบายใจที่เชียงใหม่” พ่อเลี้ยงอินทากล่าว

“กระผมรู้สึกดีมากขอรับ ผู้คนและวัฒนธรรมที่นี่น่าประทับใจยิ่งนัก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง... การได้รู้จักคุณแก้วกัลยา” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหมาย

พ่อเลี้ยงอินทายิ้มรับเล็กน้อย “ถ้าเช่นนั้นก็ดีใจด้วยขอรับ”

หลังจากที่หม่อมราชวงศ์รวิกลับไปแล้ว แก้วกัลยาก็ยังคงรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เขาได้มอบให้ คำพูดและการกระทำของเขามีบางอย่างที่แตกต่างจากชายอื่น ๆ ที่เธอเคยรู้จัก มันเป็นความจริงใจและความใส่ใจที่ทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหว

ในวันรุ่งขึ้น แก้วกัลยาตัดสินใจเดินเล่นในสวนดอกไม้ตามลำพัง เธอต้องการทบทวนความรู้สึกของตนเองอย่างเงียบ ๆ กลิ่นหอมของดอกไม้ช่วยให้จิตใจของเธอสงบลงได้บ้าง แต่ภาพใบหน้าของหม่อมราชวงศ์รวิก็ยังคงวนเวียนอยู่ในความคิด

ขณะที่เธอกำลังเพลิดเพลินกับความงามของดอกไม้ เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

“บังเอิญจังเลยนะครับที่ได้พบคุณที่นี่อีกครั้ง”

แก้วกัลยารีบหันกลับไปก็พบว่าเป็นหม่อมราชวงศ์รวิ เขายืนยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น

“ท่านหม่อมราชวงศ์...” แก้วกัลยาอุทานด้วยความประหลาดใจและยินดี

“ผมตั้งใจมาที่นี่ เพราะอยากจะพบคุณอีกครั้ง” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

แก้วกัลยารู้สึกแก้มร้อนผ่าว เธอไม่เคยถูกใครพูดเช่นนี้มาก่อน

“ดิฉันก็... รู้สึกยินดีที่ได้พบคุณอีกครั้งเช่นกันค่ะ” เธอตอบเสียงแผ่ว

ทั้งสองเดินชมสวนดอกไม้ด้วยกันอย่างเงียบ ๆ ราวกับกำลังดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและความรู้สึกที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจ

“คุณชอบดอกไม้ชนิดไหนมากที่สุดครับ?” หม่อมราชวงศ์รวิเอ่ยถาม

“ดิฉันชอบดอกเอื้องผึ้งค่ะ มันมีกลิ่นหอมหวานและสีเหลืองอร่าม ดูสดใสและมีชีวิตชีวา” แก้วกัลยาตอบพลางชี้ไปยังต้นเอื้องผึ้งที่กำลังออกดอกสะพรั่ง

“ดอกเอื้องผึ้งสวยงามจริง ๆ” หม่อมราชวงศ์รวิพยักหน้าเห็นด้วย “มันเหมือนกับ... ความสดใสในตัวของคุณ”

คำชมนั้นทำให้แก้วกัลยารู้สึกเขินอาย แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก

หม่อมราชวงศ์รวิหยุดเดินใต้ร่มเงาของต้นชมพู่มะเหมี่ยว เขาหันมาเผชิญหน้ากับแก้วกัลยาด้วยแววตาที่จริงจัง

“คุณแก้วกัลยา... ตั้งแต่ที่เราได้พบกันครั้งแรก ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างที่เชื่อมโยงเราไว้ด้วยกัน ผมรู้สึกสบายใจและมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้คุณ”

คำพูดของหม่อมราชวงศ์รวิทำให้หัวใจของแก้วกัลยาเต้นระรัว เธอไม่กล้าสบตาเขาโดยตรง

“ดิฉันก็... รู้สึกเช่นเดียวกันค่ะ” เธอตอบเสียงเบา

หม่อมราชวงศ์รวิค่อย ๆ เอื้อมมือไปสัมผัสมือของแก้วกัลยาอย่างแผ่วเบา สัมผัสนั้นทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและสั่นสะท้านไปทั้งตัว

“ผมรู้ว่าคุณกำลังจะเข้าพิธีหมั้นหมาย...” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เศร้าลงเล็กน้อย “แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่า... ผมรู้สึกดีกับคุณมาก”

แก้วกัลยาสบตากับเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความหวั่นไหว ความสับสน และความเห็นใจ

“ท่านหม่อมราชวงศ์...” เธอเอ่ยเสียงแผ่ว ราวกับกำลังจะเปิดเผยความลับบางอย่างในใจ

ทันใดนั้นเอง เสียงเรียกของป้าเมี้ยนก็ดังมาจากทางเรือน “แม่แก้ว... อยู่ตรงนั้นหรือลูก?”

แก้วกัลยารีบดึงมือกลับด้วยความตกใจ หม่อมราชวงศ์รวิเองก็ปล่อยมือเธออย่างรวดเร็ว

“ดิฉันต้องขอตัวก่อนค่ะ” แก้วกัลยากล่าวด้วยความรีบร้อน ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้หม่อมราชวงศ์รยืนมองตามด้วยความรู้สึกที่ค้างคา... การพบกันครั้งที่สองในสวนดอกไม้ได้เผยให้เห็นความรู้สึกที่แท้จริงของทั้งสองมากขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับความลับและความกังวลที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์นั้น

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   40

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป ความรักและความผูกพันของแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิยังคงเบ่งบานและหยั่งรากลึกในหัวใจของลูกหลาน พวกเขาได้สร้างครอบครัวที่อบอุ่นและเป็นที่รักของคนรอบข้าง เรื่องราวความรักของทั้งสองกลายเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นในนครพิงค์ในวัยชรา แก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิยังคงอยู่เคียงข้างกันและกัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ความรักและความเข้าใจของพวกเขาก็ไม่เคยจางหาย ทั้งสองใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยความสงบสุข มองดูลูกหลานเติบโตและสร้างครอบครัวของตนเองวันหนึ่ง ในยามเช้าที่อากาศสดใส แก้วกัลยานั่งอยู่บนเก้าอี้หวายในสวน มองดูดอกไม้ที่ยังคงเบ่งบานงดงาม หม่อมราชวงศ์รวิเดินเข้ามานั่งเคียงข้างเธอ จับมือของเธออย่างอ่อนโยน“วันนี้อากาศดีจริง ๆ นะครับ” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยรอยยิ้มแก้วกัลยามองตอบด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “ค่ะ ทุกวันที่ได้อยู่กับท่านก็เป็นวันที่ดีเสมอ”ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันอย่างเงียบ ๆ สูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ และฟังเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว ความเงียบนั้นไม่ได้น่าอึดอัด แต่กลับเต็มไปด้วยความเข้าใจและความผูกพันที่ลึกซึ้ง“ท่านยังจำวันที่เราพบกันครั้งแรกได้ไหมคะ?” แก้วกัลยาเ

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   39

    กาลเวลาผันผ่านไป บุตรชายและบุตรสาวของแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มสาว พวกเขาได้รับการสั่งสอนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม และมีความรักใคร่ในครอบครัว เฉกเช่นที่บิดามารดาเคยปฏิบัติบุตรชายคนโตของพวกเขาเติบโตขึ้นมาเป็นคนเฉลียวฉลาดและมีความมุ่งมั่น เขาได้รับการศึกษาอย่างดีและได้ช่วยแบ่งเบาภาระของหม่อมราชวงศ์รวิในการบริหารจัดการกิจการต่าง ๆ ในเมืองส่วนบุตรสาวคนเล็กก็มีความงดงามและมีจิตใจโอบอ้อมอารี เธอได้รับการอบรมให้เป็นกุลสตรีที่ดี และเป็นที่รักใคร่ของทุกคนในครอบครัวแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิมองดูลูก ๆ เติบโตด้วยความภาคภูมิใจ ความสุขของพวกเขาทวีคูณยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นลูก ๆ มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตพ่อเลี้ยงอินทาและมารดาของแก้วกัลยาก็แก่ชราลง แต่ท่านทั้งสองก็ยังคงแข็งแรงและเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับลูกหลาน ความรักและความอบอุ่นในครอบครัวยังคงเหนียวแน่นเจ้าสรุศักดิ์ยังคงเป็นเพื่อนสนิทของครอบครัว เขามักจะมาเยี่ยมเยียนและเล่นกับหลาน ๆ เป็นประจำ แม้จะไม่ได้มีครอบครัวเป็นของตนเอง แต่เขาก็มีความสุขที่ได้เห็นความสุขของเพื่อนวันหนึ่ง แก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวินั่งอยู่ด้วยกัน

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   38

    ภายหลังจากพิธีแต่งงานครั้งที่สอง แก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิก็ได้เริ่มต้นชีวิตคู่ร่วมกันอย่างแท้จริง เรือนของพ่อเลี้ยงอินทาอบอวลไปด้วยความรักและความสุข แก้วกัลยาปรับตัวเข้ากับการเป็นภรรยาได้อย่างราบรื่น เธอเรียนรู้การดูแลเรือนและการจัดการต่าง ๆ จากป้าเมี้ยน และได้รับการเอาใจใส่ดูแลจากหม่อมราชวงศ์รวิเป็นอย่างดีหม่อมราชวงศ์รวิยังคงปฏิบัติราชการด้วยความซื่อสัตย์และขยันขันแข็ง เขาให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก และมักจะหาเวลาอยู่กับแก้วกัลยาเสมอทั้งสองใช้เวลาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในสวน การอ่านหนังสือ การสนทนา หรือการไปเยี่ยมเยียนญาติมิตร ความรักและความเข้าใจของพวกเขายิ่งแน่นแฟ้นขึ้นในทุก ๆ วันพ่อเลี้ยงอินทาและมารดาของแก้วกัลยามีความสุขที่ได้เห็นลูกสาวมีความสุข ท่านทั้งสองเอ็นดูหม่อมราชวงศ์รวิเหมือนลูกชายแท้ ๆ และมักจะให้คำแนะนำและช่วยเหลือทั้งสองเสมอเจ้าสรุศักดิ์เองก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีของทั้งคู่ เขามักจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและร่วมรับประทานอาหารด้วยกันเสมอ แม้ในใจลึก ๆ จะยังคงมีความรู้สึกบางอย่าง แต่เขาก็เลือกที่จะยินดีกับความสุขของเพื่อนกาลเวลาผ่

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   37

    ข่าวการจับกุมแม่หญิงเดือนฉายได้ถูกส่งไปถึงแก้วกัลยาที่บ้านเดิมของเธอ ป้าเมี้ยนเป็นคนนำข่าวดีนี้ไปบอก เมื่อแก้วกัลยาทราบว่าอันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว ความรู้สึกโล่งใจก็ท่วมท้นหัวใจ เธอรู้ว่าหม่อมราชวงศ์รวิได้ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอในจดหมายที่หม่อมราชวงศ์รวิส่งมาพร้อมกับข่าวนี้ เขาได้เขียนถึงความรักและความคิดถึงที่มีต่อเธออย่างลึกซึ้ง และขอให้เธอกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันอีกครั้งเมื่ออ่านจดหมายจบ แก้วกัลยารู้สึกอบอุ่นหัวใจ เธอรู้ว่าที่ที่เธอควรอยู่คือข้างกายหม่อมราชวงศ์รวิ เธอตัดสินใจที่จะกลับไปหาเขาในทันทีแก้วกัลยาเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว และร่ำลาพ่อเลี้ยงและมารดาด้วยความรัก ท่านทั้งสองดีใจที่เห็นแก้วกัลยาตัดสินใจเช่นนั้น และอวยพรให้เธอมีความสุขกับหม่อมราชวงศ์รวิการเดินทางกลับมายังเรือนของพ่อเลี้ยงอินทาเต็มไปด้วยความรู้สึกตื้นตัน เมื่อรถม้ามาถึงหน้าเรือน แก้วกัลยารีบลงจากรถและมองไปยังเรือนที่คุ้นเคย หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความคิดถึงหม่อมราชวงศ์รวิที่รอคอยการกลับมาของเธออยู่แล้ว รีบออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรัก เมื่อทั้งสองได้พบกัน พวกเขาก็โผเข้ากอดกันอย่างแนบแน่น ค

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   36

    ภายหลังจากที่หม่อมราชวงศ์รวิและเจ้าสรุศักดิ์วางแผนการอย่างรอบคอบ พวกเขาก็เริ่มดำเนินการตามล่าแม่หญิงเดือนฉายอย่างเงียบ ๆ พวกเขาสืบหาเบาะแสจากคนรู้จักและแหล่งข่าวต่าง ๆ จนในที่สุดก็ทราบว่าแม่หญิงเดือนฉายได้หลบซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมร้างนอกเมืองหม่อมราชวงศ์รวิและเจ้าสรุศักดิ์นำกำลังคนจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังกระท่อมร้างแห่งนั้นในคืนหนึ่ง แสงจันทร์ส่องสว่างพอให้เห็นทาง แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเงียบสงัดและน่าหวาดหวั่นเมื่อไปถึงกระท่อม หม่อมราชวงศ์รวิสั่งให้คนล้อมกระท่อมไว้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้แม่หญิงเดือนฉายหลบหนีไปได้“ระวังตัวด้วยนะครับท่านหม่อมราชวงศ์” เจ้าสรุศักดิ์กระซิบเตือนหม่อมราชวงศ์รวิพยักหน้า เขาเดินนำหน้าเข้าไปในกระท่อมอย่างระมัดระวัง ภายในกระท่อมมืดสนิท แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของใครบางคน“ออกมาเถิดแม่หญิงเดือนฉาย เรารู้ว่าท่านอยู่ในนี้” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นความเงียบปกคลุมอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เสียงหัวเราะเยาะจะดังขึ้นจากมุมมืด“เก่งนี่ท่านหม่อมราชวงศ์ ตามหาฉันจนเจอ” เสียงของแม่หญิงเดือนฉายดังขึ้นจากเงามืด แม่หญิงเดือนฉายปรากฏตัวออกมา เธอมีสีหน้าที่บิดเบี้ย

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   35

    แม้จะรู้สึกเจ็บปวดกับการจากลาของแก้วกัลยา แต่หม่อมราชวงศ์รวิก็ไม่ยอมแพ้โดยง่ายดาย เขารู้ดีว่าการตัดสินใจของแก้วกัลยามาจากความหวาดกลัวและความปรารถนาที่จะปกป้องเขา เขาเชื่อมั่นในความรักที่พวกเขามีให้กัน และไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาจบลงเช่นนี้ตลอดหลายวันที่แก้วกัลยาไม่อยู่ หม่อมราชวงศ์รวิใช้เวลาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เขาคิดถึงความสุขที่เคยมีร่วมกัน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความผูกพันที่ลึกซึ้ง เขาไม่สามารถจินตนาการถึงชีวิตที่ไม่มีแก้วกัลยาได้หม่อมราชวงศ์รวิตัดสินใจว่าจะไม่ปล่อยให้ความหวาดกลัวมาพรากคนรักของเขาไป เขาจะหาทางพิสูจน์ให้แก้วกัลยาเห็นว่าเข้มแข็งพอที่จะปกป้องเธอได้ และความรักของพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าความแค้นของแม่หญิงเดือนฉายหม่อมราชวงศ์รวิเริ่มวางแผนบางอย่าง เขารู้ว่าแม่หญิงเดือนฉายยังคงเป็นภัยคุกคาม และตราบใดที่เธอยังไม่ถูกจัดการ ทุกคนก็ยังคงไม่ปลอดภัยเขาได้ปรึกษากับเจ้าสรุศักดิ์ถึงเรื่องนี้ เจ้าสรุศักดิ์เองก็เห็นด้วยว่าพวกเขาไม่ควรปล่อยให้แม่หญิงเดือนฉายลอยนวล“เราต้องหาทางจับตัวแม่หญิงเดือนฉายให้ได้” หม่อมราชวงศ์รวิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่“ท่านมีแผนอย่างไรห

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   34

    คำพูดของแก้วกัลยาสร้างความเงียบงันและความตกตะลึงให้กับทุกคนในที่นั้น หม่อมราชวงศ์รวิรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลาย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจเช่นนี้ หลังจากที่พวกเขาได้ฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย“แก้วกัลยา... คุณพูดจริงหรือ?” หม่อมราชวงศ์รวิถามด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดแก้วกัลยามองหน้าเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ค่ะ ดิฉันคิดว่า... นี่คือทางที่ดีที่สุดสำหรับเรา”“ทางที่ดีที่สุด?” หม่อมราชวงศ์รวทวนคำด้วยความไม่เข้าใจ “การที่เราต้องจากกันนี่น่ะหรือคือทางที่ดีที่สุด?”“ดิฉันไม่อยากให้ท่านต้องมาเสี่ยงอันตรายเพราะดิฉันอีกต่อไป” แก้วกัลยากล่าวเสียงสั่น “แม่หญิงเดือนฉายยังคงมีความแค้น และดิฉันกลัวว่าเธอจะกลับมาทำร้ายท่านอีก”“แต่ผมไม่กลัว!” หม่อมราชวงศ์รวิตอบอย่างหนักแน่น “ผมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งเพื่อคุณ”“แต่ดิฉันไม่ต้องการให้ท่านต้องเป็นเช่นนั้น” แก้วกัลยากล่าว “ดิฉันอยากให้ท่านมีชีวิตที่สงบสุข ปลอดภัย”พ่อเลี้ยงอินทาและมารดาพยายามที่จะพูดเกลี้ยกล่อมแก้วกัลยา แต่เธอก็ยืนยันในการตัดสินใจของตนเอง“ลูกคิดดีแล้วหรือแม่แก้ว?” มารดาถามด้วยความเป็นห่วง“ค่ะแม่” แก้วกัลยาตอบด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่เจ้าสรุ

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   33

    ภายหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายและการต่อสู้ในงานแต่งงาน ทุกคนต่างก็อยู่ในอาการตกใจและเหนื่อยล้า ผู้บาดเจ็บได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และบรรยากาศแห่งความสุขได้แปรเปลี่ยนเป็นความเงียบเหงาและความกังวลแก้วกัลยาดูแลบาดแผลของหม่อมราชวงศ์รวิด้วยความเป็นห่วง เธอใช้ผ้าสะอาดพันรอบแขนของเขาอย่างเบามือ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องบาดเจ็บ“ดิฉันขอโทษนะคะ ที่ทำให้ท่านต้อง...” แก้วกัลยากล่าวเสียงแผ่วหม่อมราชวงศ์รวจับมือเธอเบา ๆ “อย่าโทษตัวเองเลยครับ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ ผมยินดีที่จะปกป้องคุณเสมอ”พ่อเลี้ยงอินทาและมารดาของแก้วกัลยาเข้ามาด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย ท่านทั้งสองรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันมงคลของบุตรี“พวกเราขอโทษด้วยนะแม่แก้ว ที่ปกป้องลูกได้ไม่ดีพอ” มารดากล่าวพลางลูบศีรษะของแก้วกัลยาเบา ๆ“ไม่เป็นไรค่ะแม่ อย่างน้อยทุกคนก็ปลอดภัย” แก้วกัลยากล่าวให้กำลังใจเจ้าสรุศักดิ์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “เราต้องแจ้งทางการให้มาจัดการเรื่องนี้ แม่หญิงเดือนฉายทำเกินไปแล้ว”หม่อมราชวงศ์รวิเห็นด้วย “ผมจะไปแจ้งความด้วยตัวเอง”ในขณะที่หม่อมราชวงศ์รวิกำลังจะไปแจ้งความ แก้ว

  • บุพเพสันนิวาสแห่งนครพิงค์   32

    ความโกลาหลและความวุ่นวายปกคลุมทั่วบริเวณงานแต่งงาน กลุ่มชายฉกรรจ์ที่แม่หญิงเดือนฉายส่งมาเข้าโจมตีแขกเหรื่ออย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงร้องด้วยความตกใจ เสียงข้าวของแตก และเสียงปะทะดังสนั่นไปทั่วสวนหม่อมราชวงศ์รวิรีบดึงแก้วกัลยามาไว้ข้างหลังเพื่อปกป้องเธอ เขามองไปยังกลุ่มผู้บุกรุกด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและพร้อมที่จะต่อสู้“คุณอยู่ตรงนี้ อย่าไปไหน” หม่อมราชวงศ์รวิกระซิบกับแก้วกัลยาด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันหน้าเผชิญหน้ากับอันตรายเจ้าสรุศักดิ์และคนของพ่อเลี้ยงอินทารีบเข้ามาช่วยต่อสู้ พวกเขาพยายามที่จะต้านทานกลุ่มผู้บุกรุกและปกป้องแขกเหรื่อ แต่จำนวนของศัตรูนั้นมีมาก ทำให้การต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบากพ่อเลี้ยงอินทาแม้จะตกใจ แต่ก็พยายามตั้งสติและสั่งให้คนของตนเองที่เหลืออยู่เข้ามาช่วยเสริมกำลังแก้วกัลยามองภาพการต่อสู้ด้วยความหวาดกลัว เธอเห็นหม่อมราชวงศ์รวิต่อสู้อย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องเธอและคนอื่น ๆ เธอรู้สึกเป็นห่วงเขาจับใจแม่หญิงเดือนฉายยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสะใจ เธอต้องการที่จะทำลายความสุขของแก้วกัลยาและหม่อมราชวงศ์รวิให้พังพินาศในระหว่างการต่อสู้ หม่อมราชวง

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status