แชร์

บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า
บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า
ผู้แต่ง: ไฉ่เลี่ยงหรง

บทที่ 1 ในกาลก่อนที่ข้าโง่งม (1/2)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-23 18:05:26

1

ในกาลก่อนที่ข้าโง่งม

            ชั่วชีวิตนางทำแต่ความดี ไม่เคยสักคราที่กระทำสิ่งชั่วร้ายต่อผู้อื่น แต่เหตุใดจึงต้องกลายเป็นเช่นนี้ หรือแท้จริงเป็นเพราะนางโง่งม คิดดีและมองแต่ด้านดีๆ เกินไป จึงไม่รู้เท่าทันบุรุษเลวสตรีชั่วคู่นั้น

            ดวงตาที่จ้องมองสหายรักถูกสามีที่พร่ำบอกรักนางหนักหนาโอบกอดเริ่มพร่ามัวลงไปทุกที ยาพิษที่ถูกกรอกใส่ปากนางคงเริ่มออกฤทธิ์แล้ว

             ชั่วครู่หนึ่งนางเห็นแววตาสำนึกผิดของสามีที่จับจ้องอยู่ แต่สำนึกผิดแล้วอย่างไร ในเมื่อพวกเจ้าได้ลงมือก่อกรรมกับข้าแล้ว

            “หากสวรรค์ไม่ไร้เมตตา หากนรกรับรู้ถึงความเจ็บช้ำ ข้าขอให้พวกเจ้าเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่า จะตายก็ตายไม่ได้ จะอยู่ก็ทรมาน” สิ้นเสียงกล่าวฟ้าด้านนอกผ่าเปรี้ยงราวกับสวรรค์และนรกรับรู้ถึงคำสาปแช่งนี้ แต่เพราะที่แห่งนี้คือคุกลับใต้ดินของจวนเจ้ากรมอาญาซู คนที่อยู่ภายในจึงไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอก

            “หึ...สวรรค์ไม่เมตตาสตรีที่แย่งวาสนาข้าหรอก มารดาเจ้าแย่งวาสนามารดาข้า มิเช่นนั้นป่านนี้ข้าคงได้เป็นบุตรสาวเจ้ากรมอาญาแทนเจ้า”

            “ที่แท้เจ้าก็ริษยาข้ามาโดยตลอด”

            “ใช่ แต่เรื่องเดียวที่ข้าไม่ริษยาเจ้า คือพี่เหลียงอี้รักมั่นแต่เพียงข้า เขาไม่เคยรักเจ้า สิ่งที่เขาต้องการจากเจ้ามีเพียงตำแหน่งเจ้ากรมอาญาของบิดาเจ้า” คำกล่าวของอดีตสหายทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งดวงใจ

            “ที่รถม้าบิดาข้าตกเขาคงเป็นฝีมือพวกเจ้าสินะ” เกรงว่าการที่สามีชั่วผู้นี้เข้าช่วยเหลือนางในวันนั้นก็คงเป็นแผนการด้วยสินะ ตั้งแต่ต้นจนจบนางคงเป็นเพียงเบี้ยหมากที่มอบประโยชน์ให้แก่คนพวกนี้

            “ทั้งหมดเป็นความผิดเจ้า หากไม่มีเจ้าเป็นบุตร บิดาเจ้าก็คงไม่ต้องมาตายเช่นนี้”

            “ถุย...ตนเองทำเรื่องชั่วช้าแต่กลับโยนความผิดให้ข้าหมด สุดท้ายเจ้าก็รักแค่ตนเอง มิเช่นนั้นคงไม่ยินยอมปล่อยให้บุรุษของเจ้ามาแต่งกับข้า” นางบ้วนเลือดใส่หน้าอีกฝ่ายที่ก้มเข้ามาใกล้

            เพียะ ฝ่ามือที่เคยบีบจับเพื่อให้กำลังใจฟาดลงบนหน้านางอย่างเต็มแรง แรงที่ฟาดลงมาบนหน้าทำให้นางยิ่งตาสว่างมากขึ้น ที่ผ่านมานางเป็นเพียงสตรีโง่เขลารองมือรองเท้าให้หญิงชั่วชายโฉดได้เหยียบหัวปีนขึ้นสู่ที่สูง

            จากมือปราบ ใช้อำนาจความเป็นบุตรเขยเจ้ากรมอาญาไต่เต้าขึ้นจนได้เป็นถึงรองเจ้ากรมอาญา

            “พอเถิดลี่อิน อย่าได้ทำให้ตนเองเจ็บตัวเลย อย่างไรนางก็ต้องตายอยู่ดี”

            “หึ...ฮ่าๆ ช่างรักกันปานจะกลืนกิน” ขนาดคนใกล้ตายอย่างนางยังอดสะอิดสะเอียนกับความห่วงใยจอมปลอมของคนคู่นี้ไม่ได้

            แต่เหนือสิ่งอื่นใด นางเสียใจที่วันนั้นไม่หยุดฟังคำเตือนของบิดา นางดื้อรั้นไม่ยอมฟังที่บิดาคัดค้านการตบแต่งกับกวางเหลียงอี้เพียงเพราะห่วงชื่อเสียง

            ‘ท่านพ่อ ลูกขอโทษ ลูกผิดไปแล้ว”

            หากย้อนเวลาได้ นางจะไม่ดื้อรั้นกับบิดา มาถึงตอนนี้นางอยากเห็นรอยยิ้มและแววตาอบอุ่นของบิดาอีกครั้ง...

            “รีบๆ ตายไปเสีย ข้าจะได้แต่งเข้าเป็นฮูหยินของเจ้ากรมอาญากวางเหลียงอี้”

            ร่างกายของนางเริ่มไร้เรี่ยวแรง ความเจ็บปวดทรมานใกล้จะสิ้นสุดแล้ว นางหวังว่าเมื่อตนกลายเป็นผี จะได้มีโอกาสเฝ้าดูความฉิบหายของหญิงชั่วชายโฉดคู่นี้

            “แล้วคู่หมั้นของข้า บุรุษสวมหน้ากากผู้นั้น ท่านส่งคนไปจัดการแล้วใช่หรือไม่” แม้จะร่ำรวยอยู่บ้าง แต่มีเสียงเล่าลือว่าใบหน้าภายใต้หน้ากากนั่นมีแผลเป็นขนาดใหญ่จนทำให้เขามิอาจเปิดเผยหน้าได้

            บุรุษที่มีดีแต่เงินทอง แต่ไม่อาจเชิดหน้าชูตาได้ นางจะเก็บไว้เป็นตัวถ่วงด้วยเหตุใด

            “อืม พี่ให้คนจัดการเรียบร้อยแล้ว”

            “ดีมากเจ้าค่ะ เป็นแค่คหบดีต่ำต้อย หน้าตายังไม่คิดจะเปิดเผย แต่กลับคิดจะกินเนื้อหงส์เช่นข้า เขาหวังสูงเกินไปแล้ว” ฮูหยินคหบดีหรือจะมีอำนาจหน้าตาสู้ฮูหยินเจ้ากรมอาญาได้

            ‘คุณชายซวน ข้าขอให้ท่านปลอดภัยอย่าได้มีจุดจบเช่นข้า’ แม้จะเคยพบเจอบุรุษผู้นั้นเพียงไม่กี่ครั้งแต่นางก็ปรารถนาให้เขาปลอดภัยอย่าได้มีจุดจบเช่นตน ขออย่าให้เขาพลาดพลั้งจนต้องตายด้วยน้ำมือของหญิงโฉดชายชั่วคู่นี้

            “หากเจ้ากับบิดายอมสนับสนุนข้ามากกว่านี้ เจ้าก็คงไม่ต้องมีจุดจบเช่นนี้ อย่าได้ถือโทษโกรธข้าเลยหนิงเซียน” รองเจ้ากรมอาญากวางเหลียงอี้ทอดสายตามองฮูหยินของตนพลางเอ่ยวาจาไร้เสียง

            ‘ข้าไม่มีวันให้อภัยพวกเจ้า’ นั่นคือจิตสุดท้ายของนางก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง

            เฮือก ราวกับฝันไป จู่ๆ ร่างระหงในอาภรณ์ที่มีรอยฉีกขาด ก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมาก่อนจะผุดลุกนั่ง

            ดวงตาดอกท้อกวาดสายตามองไปรอบตัวจึงเห็นว่าตนคล้ายกับกำลังอยู่กลางป่าที่มีแต่ต้นไม้ แม้ท้องฟ้าจะมืดมิดเพราะเป็นคืนเดือนมืด แต่ทว่าเมื่อเพ่งมองจึงพอจะคาดเดาได้ว่านางกำลังอยู่ที่ใด

            ‘นี่อดีตสามีชั่วกับอดีตสหายรักคิดว่านางตายแล้วจึงนำร่างมาทิ้งไว้กลางป่าหรือนี่’ คงหวังจะให้สัตว์ป่ามากัดกินซากศพนาง

            ชั่วช้ายิ่งนัก ในเมื่อสวรรค์ให้ทางรอดแก่ข้า ข้าจะต้องเอาคืนบุรุษและสตรีชั่วช้าให้ได้

            ‘โอ๊ย! บัดซบข้าเจ็บข้อเท้า’ นางทรุดตัวลงในทันทีที่พยายามยืนขึ้น สายตาที่กวาดมองไปทั่วเห็นแต่ความมืดและต้นไม้ เสียงลมหวีดหวิวทำให้รู้สึกหวาดหวั่น นางยกมือขึ้นกอดอกตัวเองหวังปลอบประโลม

            แม้จะหวาดกลัวเพียงใด นางก็ต้องรีบพาตนเองออกไปจากป่าแห่งนี้ ก่อนที่สัตว์ร้ายจะโผล่มา

......................................

แม้จะทุลักทุเลแต่ก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้ สู้ ๆ นะ

           

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (3/3)

    “เรื่องนั้นท่านอย่าได้ห่วงเลยเจ้าค่ะ พี่เหลียงอี้ เขาไปลาดตระเวนตรวจตราที่บริเวณจวนของนางอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นนางปลอดภัยไม่มีอันตรายแน่นอน” ‘สตรีโง่ ข้าอยากจะบอกเจ้าเหลือเกินว่า คู่หมั้นข้านางผู้นั้นมีของล้ำค่ามากกว่าปิ่นที่เจ้าจะซื้อให้อีก’ ยิ่งได้เห็นความใสซื่อของซูหนิงเซียน ความสนใจในตัวคู่หมั้นก็เริ่มลดลง หากไม่ติดที่ว่ามีบุญคุณช่วยชีวิตเขาก็คงไม่คิดสนใจไยดีแล้ว น่าแปลกที่เขาเชื่อวาจาที่ซูหนิงเซียนบอกกล่าวออกมามากกว่าที่ได้รับฟังจากหม่าลี่อิน “ข้าเลือกชิ้นนี้เจ้าค่ะ ลี่อินนางชอบไข่มุก ข้าว่านางต้องดีใจมากแน่นอนเจ้าค่ะที่ได้ปิ่นนี้” “อืม” รอยยิ้มจริงใจของคุณหนูซูทำให้เขาเอ่ยวาจาไม่ออก “คุณหนูซูท่านช่างโชคดีเหลือเกินขอรับ วันนี้นายท่านของร้านเราใจดี สั่งลดราคาเครื่องประดับให้กับลูกค้าคนที่สิบเก้า ซึ่งคือท่าน” “ลดราคาเช่นนั้นหรือเจ้าคะ” “ใช่ขอรับ เพื่อเป็นการแสดงความยินดีที่ม้าตัวโปรดของนายท่านคลอดลูกม้า นายท่านสั่งลดราคาเครื่องประดับให้ลูกค้าคนที่สิบเก้าครึ่งราคา นั่นเท่ากับว่าวันนี้คุณหน

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (2/3)

    ดวงหน้าหวานที่โผล่ออกมาจากรถม้าทำให้ใจของเขาสั่นไหว เมื่อนางเผยรอยยิ้มเขาแทบจะกระโดดลงจากชั้นสองของโรงเตี๊ยมเพื่อไปหานาง “แม่นางหนิงเซียน” เสียงทุ้มของบุรุษที่ดังขึ้นดึงความสนใจของซูหนิงเซียนให้หันไปมอง “คารวะคุณชายซวนเจ้าค่ะ” ยามเห็นหน้ากากจึงจดจำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคู่หมั้นของสหาย “ท่านมาคนเดียวหรือ” “เจ้าค่ะ วันนี้ข้าจะมาหาซื้อผ้าไปตัดชุดให้สาวใช้คนสนิท จึงตั้งใจมาด้วยตัวเองไม่ได้ชวนลี่อินมาด้วย” นางเข้าใจว่าเขาถามหาสตรีในดวงใจ “ข้ามีความรู้เรื่องผ้าไม่น้อย ให้ข้าช่วยเลือกดีหรือไม่ ไม่แน่เจ้าอาจจะได้ผ้าเนื้อดีที่ราคาถูก” “หากมิรบกวนคุณชายซวนเกินไป…” ซูหนิงเซียนยังกล่าวไม่ทันจบเขาก็รีบเอ่ยแทรกขึ้นก่อน “เรื่องนี้มิได้เหลือบ่ากว่าแรง จะถือว่ารบกวนข้าได้อย่างไร” “เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ” นางตอบรับแล้วยกยิ้มเล็กน้อย บุรุษสวมหน้ากากช่วยนางเลือกผ้าได้หลายพับ แต่เมื่อจ่ายเงินนางกลับพบว่านางได้ของดีแต่ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ “ท่านหลงจู๊ ลองคิดเงินใหม่อีกครั้งดีหรือไม่

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (1/3)

    ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า บริเวณชั้นบนของโรงเตี๊ยมเลี่ยงจิน บุรุษสวมหน้ากากจ้องมองคู่หมั้นของตนที่กำลังเดินอยู่ท่ามกลางผู้คน ดวงหน้าหวานแต่งแต้มรอยยิ้มสดใสพาลทำให้บุรุษรอบตัวต่างหันมามอง แต่เขากลับถูกสตรีนางหนึ่งดึงดูดสายตาให้จ้องมอง สตรีนางนั้นคล้ายจะเป็นสหายของคุณหนูหม่า แม้ดวงหน้านางจะแต่งแต้มรอยยิ้มบาง แต่ทว่ากลับดึงดูดเขาได้อย่างน่าประหลาด และดูเหมือนว่าแท้จริงบุรุษเหล่านั้นจะจ้องมองนางเสียมากกว่า พลันในอกรู้สึกไม่ชอบใจอย่างประหลาด ความรู้สึกหวงแหนก่อตัวขึ้นในใจของเขาอย่างไม่รู้ตัว เหตุใดกับคู่หมั้นตน เขาถึงไม่รู้สึกเช่นนี้ พรึ่บ ไวกว่าความคิดร่างสูงโปร่งของบุรุษรูปงามก็ปรากฏตัวด้านหลังสตรีทั้งสอง ก่อนจะเอ่ยทักทาย “ลี่อินเจ้ามาเดินเที่ยวเล่นหรือ” เขาทราบว่ามันเป็นคำถามที่ดูโง่งม แต่เขาไม่รู้จะเอ่ยถามอันใดออกไป “คารวะคุณชายซวนเจ๋อเจ้าค่ะ” สายตาที่มีประกายรังเกียจพาดผ่านทำให้เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่คู่หมั้นจะแสดงความเคารพเขา หลายครั้งที่นางมองเขาเช่นนี้ คงเพราะหวาดกลัวหน้ากากที่ปกปิดบนใบหน้าเขา การเป

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : คุณชายหมิงอี้เฉิน (2/2)

    “คนของเจ้าสืบได้ละเอียดถึงเพียงนั้น” หมิงอี้เฉินหรี่ตามองอย่างจับผิด “เรื่องที่คิดกำจัดนางกับท่านพ่อตา คนของข้าได้ยินหม่าลี่อินวาดฝันกับกวางเหลียงอี้ เมื่อเห็นว่าเป็นภัยต่อนาง คนของข้าจึงนำมารายงานข้าด้วย” “...” “เบื้องต้นข้ามีหลักฐานที่กลุ่มนักเลงพวกนั้นสารภาพ เจ้าอยากดูหรือไม่” “อืม” เขายกชามสุราขึ้นจิบก่อนจะตอบรับ “นี่คือจดหมายรับสารภาพของนักเลงที่ดักปล้นรถม้าแต่ถูกข้าซ้อนแผนจับเป็นทั้งหมด ก่อนจะนำมาทรมานเพื่อเค้นความจริง” หยางซีซวนยื่นจดหมายที่เพิ่งนำออกมาจากอกเสื้อให้เขา “หม่าลี่อินชั่วช้ายิ่งนัก คิดจะให้พวกนักเลงข่มเหงนาง” จากคำสารภาพของนักเลง กวางเหลียงอี้เพียงแต่ตั้งใจทำให้นางตกใจ แต่หม่าลี่อินกลับซ้อนแผนให้นักเลงพวกนั้นข่มเหงนางก่อนที่กวางเหลียงอี้จะไปช่วย คงกลัวว่าหากเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ของตนได้พบเจอนางจะเปลี่ยนใจ จึงสร้างมลทินให้ซูหนิงเซียน “เพราะเหตุนี้ข้าจึงแสร้งสติฟั่นเฟือนเพื่อจะได้อยู่ในจวนตระกูลซูต่อไป เพื่อจะได้ปกป้องนางและบิดาด้วยตนเอง” “เรื่องนี้เจ้าสามารถใช้ผ

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : คุณชายหมิงอี้เฉิน (1/2)

    คุณชายหมิงอี้เฉิน เมื่อได้รับข่าวว่าสหายในวัยเด็กเดินทางกลับมาจากเมืองซานโจวแล้ว เขาจึงรีบไปหา แต่ใครจะคิดเล่าว่าการพบเจอครั้งนี้จะพ่วงบุรุษผู้นั้นมาด้วย ชายที่มองอย่างไรก็ไม่คล้ายคนสติฟั่นเฟือน ท่าทางออดอ้อนนั้นแลดูเหมือนบุรุษเจ้ามารยาเสียมากกว่า คุณชายหมิงเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืน แล้วยืนนิ่งราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง “คุณชายขอรับ นี่ก็เป็นปลายยามไฮ่ (21.00-22.59) แล้ว น้ำค้างก็ลงมากแล้วอย่างไร...” บ่าวรับใช้คนสนิทยังกล่าวไม่ทันจบ คุณชายเจ้าของจวนก็เอ่ยวาจาแทรกขึ้นก่อน “เจ้าไปนอนก่อนเถิด ข้าจะยืนชมดาวอีกสักหน่อยก็จะไปนอนแล้ว” “ขอรับ” เมื่อคุณชายกล่าวเช่นนั้น บ่าวรับใช้คนสนิทก็ได้แต่เดินจากไป พรึ่บ บุรุษชุดดำกระโดดลงมาตรงหน้าเขาหลังจากบ่าวรับใช้เดินหายไปไม่นาน “มาแล้วหรือ” คุณชายหมิงเอ่ยวาจาทักทายผู้มาเยือน “เจ้าอยากพบข้าด้วยเหตุใด” หากบุรุษผู้นี้ไม่ค้นพบการมีตัวตนของผู้ติดตาม เขาก็คงคิดว่า ซือเย่ผู้นี้เป็นเพียงบัณฑิตอ่อนปวกเปียกที่ไม่กล้าฆ่าแม้แต่ไก่ “ท่านควรแจ้งถึงจุดประสงค์ในก

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ท่านแม่กำลังไปตามหาน้องให้ (3/3)

    “พี่ไม่ได้รังแกเจ้า พี่มอบความโปรดปรานให้เจ้า” “หน้าอกท่านแน่นเสียจริง” “หากเจ้าอยากลูบไล้ยามไร้อาภรณ์ ก็จงรีบกลับจวนกับพี่” “ไม่เอา ข้ายังไม่อยากกลับ กว่าจะได้ออกมาเที่ยวเช่นนี้ไม่ง่ายเลย ต้องขอบคุณท่านแม่นะเจ้าคะ ที่เมตตาข้า” “มิเป็นไรๆ เจ้าอยู่สนุกกับเหล่าชายงามต่อเถิด แม่ต้องกลับไปรับโทษ...ไม่ใช่ แม่ต้องรีบกลับแล้ว” กล่าวจบหยางฮูหยินก็หันไปมองใบหน้าบึ้งตึงของสามี ‘ครั้งนี้นางคงหยอกเย้าบุตรชายมากเกินไป จึงทำให้ฟูจวิน ของนางโกรธขึ้นมาจริงๆ’ ต่อจากนี้คงต้องทนปวดเอวเพื่อง้อท่านแม่ทัพใหญ่หลายคืนอีกแล้ว “ได้เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าจะสนุกกับพี่ชายคนงามแทนท่านแม่เองเจ้าค่ะ” นางกล่าวพลางลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินโซซัดโซเซไปหากลุ่มชายงาม แต่กลับโดนสามีโอบรั้งเอวคอดกิ่วเอาไว้ “พี่ชายคนงามพวกนี้ อยากกลับไปพักผ่อนแล้ว เจ้าอย่าได้รบกวนพวกเขาเลย” น้ำเสียงที่เอ่ยกับฮูหยินตนช่างอ่อนโยนยิ่งนัก ต่างจากสายตาที่จ้องมองคล้ายจะเข้าขย้ำเหยื่อตรงหน้าของราชสีห์ “จริงหรือเจ้าคะพี่ชาย” “จริงขอรับ”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status