แชร์

ตอนที่ 9 : ดูลาดเลาบังหน้า

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-15 23:19:27

ตอนที่

[8]

ดูลาดเลาบังหน้า

 เยี่ยนซีมองตามแผ่นหลังของเยว่จินที่เดินทางออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา เมื่อคืนเขาได้ยินเสียงกุกกักที่ด้านนอก ในใจคิดเอาไว้ว่านางคงกำลังเก็บของเตรียมตัวจะจากไป 

 คิดแล้วจึงได้ค่อย ๆ ใช้ไม้ค้ำพยุงตนเองเข้าไปในห้องเช่นเดิม 

 หากแต่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้แท้จริงเยว่จินที่ได้รับรู้ว่าตนเองมีดินแดนอนันต์อยู่กับตนเองก็รีบจัดการกับลูกพลับที่จะไปขายที่ตลาดในอำเภอ (แบบไม่จริงจัง) เสร็จแล้ว ก็รีบพาตนเองเข้าไปอาบน้ำและนอนในบ้านที่อยู่ในดินแดนอนันต์ทันที อยู่ในดินแดนอนันต์ทำให้ความลำบากกายตลอดหนึ่งวันหนึ่งคืนนับตั้งแต่มาอยู่ที่นี่หายไป ด้วยในบ้านมีที่นอนนุ่ม ๆ และยังอบอุ่น แถมยังได้อาบน้ำอุ่นทำให้สบายตัวสุด ๆ ไปเลย ที่จริงนางก็อยากให้เขาได้พบเจอกับเรื่องเหล่านี้เช่นกัน แต่เขาไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ ต่อไปคงต้องขึ้นอยู่กับการวางแผนของนางแล้ว ว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่อย่างไรคงไม่ต้องตรากตรำในการหาเงินมาก เพราะที่มีอยู่ก็น่าจะใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ก่อนจะตั้งนาฬิกาให้ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ นางต้องตื่นก่อนที่เขาจะออกมาแล้วพบว่านางไม่ได้นอนอยู่ที่ด้านนอก 

 และถามว่านางรู้จักทางไปตลาดของตำบลเลี่ยงลี่ที่อยู่ห่างออกไปหรือไม่ ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ แม้กระทั่งเยี่ยนซีก็ไม่รู้ นางถามเขา เขาก็ตอบสั้น ๆ ว่าไม่รู้ ถามเด็กน้อยทั้งสองตอนที่เก็บลูกพลับด้วยกันในป่า พวกเขาก็ตอบว่าไม่รู้เช่นกัน เพราะพวกเขาไม่เคยออกจากหมู่บ้านเลยสักครั้ง รู้เพียงแต่ว่าหากอยากออกไปที่ตลาดในตำบล ทุกวันจะมีเกวียนเทียมวัวของลุงจ้าวที่จะออกเดินทางไปตลาดเพียงวันละรอบเท่านั้น แต่นางยังไม่อยากเปิดเผยตนเองว่าอยู่ที่นี่ จึงไม่คิดจะไปใช้บริการของลุงจ้าวที่ว่า ส่วนเรื่องเส้นทางนั้นนางไม่ได้กังวลอะไรมาก เพราะนางมีผู้อาวุโสที่แสนรู้และปราดเปรื่อง สามารถบอกเส้นทางให้นางได้อย่างละเอียด อยากไปไหนก็ย่อมได้หมด 

นางชมข้าใช่หรือไม่นะ ผู้อาวุโสอี้ 

 จะห่วงก็แต่เรื่องการเดินทาง ที่นางต้องเดินเท้าไปเอง ได้ข่าวว่าตลาดในตำบลนั้นก็ไกลไม่น้อย แม้จะไม่ต้องแบกลูกพลับไปตลอดทางเพราะสามารถเอาใส่ในดินแดนอนันต์ได้ แต่ก็นะ เดินเช่นนั้นหรือ 

 “เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้ามีรองเท้าที่สามารถทำให้เดินเท่าใดก็ไม่เหนื่อยอยู่ รับรองว่าเจ้าไม่เหนื่อยอันใดแน่ แต่อย่างไรก็สลับกับออกกำลังตนเองบ้างก็ดี ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น” ระหว่างที่เยว่จินกำลังนอนคิดหนักอยู่บนเตียง เสียงของผู้อาวุโสอี้ก็ดังขึ้น หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ใจของเยว่จินก็รู้สึกปลอดโปร่ง จากนั้นจึงตัดสินใจปิดเปลือกตาลงนอนหลับได้อย่างสบายใจ ด้านชายชราที่ราวกับภาพเลือนรางก็กำลังยืนมองหญิงสาวที่กำลังนอนหลับใหลด้วยความคิดบางอย่างเช่นกัน

 ขอให้นางทำสำเร็จทีเถิด 

 เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เยว่จินเดินออกจากบ้านแล้ว จากนั้นพยายามลัดเลาะไปที่ชายป่า นางไม่อยากเดินตัดผ่านหมู่บ้าน ด้วยคิดว่าไม่อยากให้ผู้อื่นเห็นว่ามีนางอยู่ที่นี่ในตอนนี้ มิเช่นนั้นเรื่องก็อาจจะยืดยาวออกไป จึงได้พยายามไปทางลัดที่ผู้อาวุโสอี้บอก รองเท้าที่ว่านั่นทำให้นางเดินเร็วขึ้นจริง ๆ ทั้งยังไม่เหนื่อยอีกด้วย นางแอบไปดูบ้านของเด็กน้อยทั้งสองว่าเป็นอย่างไร ก็พบว่าสภาพบ้านของพวกเขาไม่ต่างจากเรือนนาของเยี่ยนซีเลยสักนิด ท่านย่าของพวกเขาก็แก่ชรามากแล้วจริง ๆ ระหว่างที่มองดูนางก็ต้องแอบหลบเพราะเห็นว่าพวกเขาก็กำลังออกจากบ้านเช่นกัน ส่วนทิศทางนั้นคงไปที่เรือนนาอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อวานนางรู้ดีว่าพวกเขาอยากติดตามนางไปที่ตลาด เพราะไม่เคยออกไปจากหมู่บ้าน แต่นางยังไม่พร้อมที่จะให้พวกเขาติดตามออกไปด้วยตอนนี้ด้วยมีความลับที่ต้องปิดบังแต่ในอนาคตนางสัญญากับตนเองว่าจะต้องพาพวกเขาไปเปิดหูเปิดตาดูโลกภายนอกอย่างแน่นอน 

 คิดแล้วจึงได้ถอนหายใจก่อนจะเดินทางไปตลาดในตำบลเสียที 

ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ครึ่งชั่วยามนางก็ถึงที่ตลาดในตำบลเลี่ยงลี่ โดยปกติหากเดินทางด้วยเกวียนจะต้องใช้เวลาถึงหนึ่งเกือบสองชั่วยาม (สองถึงสี่ชั่วโมง) หากเป็นการเดินยิ่งไม่ต้องพูดถึง บอกเลยว่าต้องใช้เวลาทั้งวันทั้งเดินทางไปกลับ และเยี่ยนซีก็คงจะคิดว่านางจะต้องเป็นเช่นนั้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นนางคิดว่าหลังจากขายลูกพลับแล้ว นางก็จะเดินเล่นสำรวจตลาดแห่งนี้เสียหน่อยว่ามีอะไรบ้าง จะได้หาเส้นทางในการหาเงินบังหน้า เพื่อที่จะได้มีข้ออ้างในการเอาเงินในดินแดนอนันต์มาใช้ได้อย่างไม่มีข้อสงสัยว่าเอาเงินมาจากที่ใด ถามว่าใครที่จะสงสัย 

หึ ก็เจ้าคนที่อยู่ที่เรือนนานั่นอย่างไรเล่า 

“แม่หนูลูกพลับนี่ขายอย่างไรหรือ” ด้วยไม่ได้คาดคิดว่าจะทำเงินกับลูกพลับอันใดนางจึงแค่ปูผ้าและวางลูกพลับที่เอาออกมาจากดินแดนอนันต์ก่อนเข้ามาที่ตลาดอย่างง่าย ๆ แต่ไม่คาดคิดว่าเพียงแค่นางวางลูกแรกลงก็มีท่านยายผู้หนึ่งมาถามซื้อเสียแล้ว จากนั้นไม่นานก็มีมาอีกหลาย ๆ คนในคราเดียว 

“เอ่อ ลูกละหนึ่งอีแปะเจ้าค่ะ” 

“หา ถูกถึงเพียงนี้เชียว”

“ลูกพลับลูกโตผลสวยน่ากินถึงเพียงนี้เจ้าแน่ใจหรือว่าจะขายเพียงลูกละหนึ่งอีแปะ” สตรีอีกผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น 

“เอาเช่นนี้ ลูกละสองอีแปะก็แล้วกัน ข้าไม่อยากเอาเปรียบเจ้า เจ้าคงเป็นแม่ค้าใหม่สินะ” สตรีวัยกลางคนที่จับจูงหลานสาวตัวน้อยมาด้วย เอ่ยพลางมองไปยังแม่ค้าขายลูกพลับที่มีหมวกสานปิดบังหน้าตาเอาไว้ 

 แท้จริงหากได้สำรวจตลาดจริง ๆ จะเห็นได้ว่าลูกพลับที่เยว่จินนำมาขายนี้สามารถขายได้ถึงลูกละสิบอีแปะเลยทีเดียว

แต่เยว่จินนางไม่ได้สนใจและเห็นว่านางไม่ได้เสียหายอะไรมาก อีกทั้งลูกพลับก็มีมากมายตอนที่เก็บก็ไม่ได้เหนื่อยอันใดออกจะเพลิดเพลินเสียด้วยซ้ำจึงได้พยักหน้าตกลง จากนั้นกลุ่มสตรีที่มุงอยู่ก็พากันเลือกลูกพลับกันอย่างเมามันทันที ที่จริงจะว่าเลือกก็ไม่ถูกเพราะลูกพลับต่างมีแต่ลูกที่สวยงาม ต้องเรียกว่ายื้อแย่งกันมากกว่า หนึ่งในกลุ่มคนหลังจากจ่ายเงินแล้ว ก็ส่งให้กับสามีและลูกกัดกินตรงนั้นทันที 

และเมื่อคำแรกเข้าสู่โพรงสัมผัสในปากพวกเขาก็ต้องตาเบิกกว้างขึ้น 

“หวาน!!”

“กรอบมาก”

“หวานมาก อร่อยมาก ข้าไม่เคยกินลูกพลับที่อร่อยเช่นนี้มาก่อน” สิ้นเสียงสามพ่อแม่ลูกกล่าว สงครามการยื้อแย่งลูกพลับก็ยิ่งดุเดือดขึ้น

ไม่นานลูกพลับหวานที่เยว่จินนำมากระบุงใหญ่ก็หมดลงในระยะเวลาอันรวดเร็ว ไม่ทันจะได้เหนื่อยอันใดเลยด้วยซ้ำ 

“แม่นาง พรุ่งนี้เจ้าจะนำมาขายอีกหรือไม่ ข้าไม่ทันเลย”  

“นั่นสิ ข้าก็ได้ลูกเดียว อดใจลองชิมดูไม่ได้ อร่อยมาก” สตรีในอาภรณ์สีเขียวอ่อน ชูลูกพลับที่มีรอยฟันของตนต่อหน้าเยว่จิน พลางรู้สึกเสียดายที่ตนแย่งชิงมาได้เพียงลูกเดียว

หลังจากที่ทั้งสองคนเอ่ยถามคำถามนางก็รับรู้ได้ถึงสายตาที่คาดหวังจากอีกหลาย ๆ คน เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ไม่อยากที่จะทำให้พวกเขาผิดหวัง 

“ได้ พรุ่งนี้ข้าจะมาใหม่เจ้าค่ะ”

เพียงเท่านั้นรอยยิ้มกว้างของหลายคนก็ปรากฏขึ้น

“เจ้ารับปากแล้วนะ พรุ่งนี้พวกข้าจะมารอที่นี่” 

“เจ้าค่ะ ข้าจะมา” เยว่จินผงกศีรษะเพื่อยืนยัน จากนั้นเหล่าลูกค้าก็กระจายตัวกันออกไป ในใจต่างคิดว่าขอให้มีคนรู้เรื่องนี้น้อยที่สุด เพราะกลัวว่าจะซื้อไม่ทัน 

การค้าที่เริ่มต้นและจบลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เยว่จินมีเวลาว่างที่จะเดินสำรวจตลาดในตำบลแห่งนี้ แม้จะอยู่ในตำบลที่ห่างไกล แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่นี่คึกคักไม่น้อย เยว่จินเลือกเข้าโรงเตี๊ยมขนาดกลางแห่งหนึ่งสั่งอาหารมากินสามสี่อย่าง พลางมองดูวิถีชีวิตของคนในยุคนี้ด้วยความเพลิดเพลิน จากนั้นก็เดินเท้าหากินขนมที่ขึ้นชื่อของที่นี่ สองเท้าทอดน่องไปเรื่อย ๆ พลางเก็บข้อมูลไปด้วย

เมื่อเห็นคร่าว ๆ แล้วว่าที่นี่มีอะไรบ้างสุดท้ายนางก็ตรงเข้าไปซื้อของที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตทันที เช่นว่าพวกเครื่องปรุง อุปกรณ์ทำครัว เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ทั้งที่ที่จริงแล้วของเหล่านี้ในดินแดนนอนันต์ล้วนแต่มีหมด แถมคุณภาพยังดีกว่าด้วย แต่น่าเสียดายที่นางยังเปิดเผยตรง ๆ ไม่ได้ ต้องซื้อบังหน้าไปก่อน เพราะคนผู้นั้นจะยิ่งไม่ไว้ใจและหวาดระแวงนางยิ่งกว่าเดิม เมื่อได้ของที่ต้องการทั้งหมดแล้วนางก็จ้างเกวียนให้ขนของทั้งหมดพาไปส่งนอกตำบลออกไป ยามที่ออกมาจนพ้นเขตตำบลและไร้ผู้คนแล้ว จึงได้บอกให้ผู้ขับเกวียนหยุด ก่อนจะให้เขาช่วยขนของลง แม้ว่าเขาจะแปลกใจว่าเหตุใดจึงได้ให้ส่งที่กลางป่าไร้ผู้คนเช่นนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถามอันใดมาก เพียงทำตามหน้าที่และรับค่าจ้างไปก็เท่านั้น 

เยว่จินมองซ้ายแลขวา เมื่อเห็นว่ารอบข้างไม่มีผู้ใดนางก็กวาดของทั้งหมดเข้าไปในดินแดนอนันต์ทันที ก่อนจะเดินทางกลับเรือนนาด้วยความสบายใจ 

ปลายยามโหย่วด้วยเพราะอากาศหนาวจึงทำให้ความมืดมิดคืบคลานมาเร็วกว่าปกติ เยี่ยนซีกัดกินลูกพลับที่เยว่จินเก็บมาไว้ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง หากทว่าสายตาของเขากลับเผลอมองไปที่ประตู ราวกับว่าจะมีใครมา แต่เมื่อคิดได้ว่าตนเองคิดฟุ้งซ่านไปแล้ว จึงได้ส่ายศีรษะและตั้งใจกัดกินลูกพลับที่มีรสชาติอร่อยที่สุดตั้งแต่เคยได้กินมาต่อ 

ทว่าระหว่างนั้นเขากลับได้ยินเสียงประหลาด 

ตึก ตึก ตึก 

เขารีบคว้าไม้ค้ำและพร้าที่เยว่จินทิ้งเอาไว้เดินเข้าไปใกล้ประตูมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่ก่อนที่จะคิดอันใดมากไปกว่านี้เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ท่านเปิดประตูให้ข้าที ข้าหนัก แฮก ๆ” 

และทันทีที่เขารู้ว่าหลังบานประตูเป็นผู้ใด ดวงตาเรียบนิ่งก็มีระลอกคลื่นบางอย่างปรากฏขึ้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บุรุษอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านผู้นี้คือสามีข้า   ตอนพิเศษที่ 3 : ทำรากบัวเชื่อมกัน

    ตอนพิเศษที่[3]ทำรากบัวเชื่อมกัน หลังจากที่แต่งงานกันมาหลายปีสามีก็เอ่ยว่า อยากจะพานางไปที่ที่หนึ่ง ซึ่งรับรองว่านางต้องชอบเป็นแน่ นางจึงตกลงไปด้วยความตื่นเต้น “เอ๋ สระบัวหรือเจ้าคะ” ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยดอกบัวที่งดงามมากมายมีส่วนที่เป็นสระน้ำและส่วนที่เต็มไปด้วยดอกบัวที่เกิดขึ้นกลางดินนางรู้สึกคุ้นเคยและแปลกใจก่อนจะหันไปมองหน้าเขา “ตอนที่อยู่ที่หมู่บ้านซินเฉียว พี่ไม่ค่อยได้ช่วยเจ้าทำรากบัวเลย มาวันนี้มีโอกาสและนึกขึ้นได้ว่าครอบครัวมีที่ดินที่มีสระบัวงดงามอยู่ผืนหนึ่ง จึงคิดอยากจะชวนเจ้ามาทำรากบัวเชื่อมกัน ให้เจ้าช่วยสอนพี่ทำแล้วจากนั้นค่อยเอาไปแจกจ่ายทุกคนดีหรือไม่” “ดีเจ้าค่ะ” นางก็ไม่ได้ทำรากบัวเชื่อมนานแล้ว ครั้งล่าสุดก็ตั้งแต่อยู่ที่ท้ายเรือนนา คิดแล้วก็อยากกินเหมือนกัน แต่ทำไมนางจึงรู้สึกว่าสายตาของสามีนั้นมีความวาววับบางอย่างนะ มันดูแปลก ๆ แค่ทำรากบัวเชื่อมเหตุใดต้องดูตื่นเต้นถึงเพียงนั้นแต่ดูเหมือนว่านางจะคิดไปเอง เพราะหลังจากที่ตกลงกัน นางและเขาก็ช่วยกันทำรากบัวกันอย่างจริงจัง เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือขุดรากบัว…รากบัวที่นี่มีขนาดหัวใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่หมู่บ้านซินเฉียวเส

  • บุรุษอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านผู้นี้คือสามีข้า   ตอนพิเศษที่ 2 : อวี๋ซิ่ง อวี๋หรูกับชีวิตที่ไม่คาดฝัน

    ตอนพิเศษที่[2]อวี๋ซิ่ง อวี๋หรูกับชีวิตที่ไม่คาดฝัน อวี๋ซิ่งและอวี๋หรูหรูนั้น พวกเขาคิดว่าชีวิตของพวกเขาคงจะอยู่ได้แค่ในหมู่บ้านซินเฉียวเท่านั้น ด้วยท่านย่าก็แก่ชราแล้วยากที่จะมีโอกาสได้ออกไปสัมผัสโลกภายนอก พวกเขาไม่แม้แต่จะมีโอกาสได้เข้าไปในตลาดตำบลด้วยซ้ำ ชีวิตจึงวนอยู่กับการช่วยท่านย่าหารายได้และขึ้นไปหาของป่าเพื่อประทังชีวิตกัน แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของพวกเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อได้พบกับสตรีผู้งดงามและใจดีอย่างพี่เยว่จิน พี่สาวผู้นั้นเป็นราวกับเทพธิดาลงมาโปรด ทำให้พวกเขามีรายได้ด้วยตนเองเป็นครั้งแรก ได้กินของอร่อย ได้ไปเที่ยวตลาดในตำบลกับท่านย่า ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ ได้นั่งรถม้าคันใหญ่โต นอกจากนั้นยังได้ย้ายออกไปอยู่บ้านใหม่ที่หลังใหญ่โตมาก ทั้งชีวิตไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้อยู่ที่นี่แม้ว่าก่อนออกมาจะพบเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักเพราะท่านย่านั้นต้องบาดเจ็บ แต่ก็เป็นพี่สาวผู้นั้นที่เป็นผู้รักษาให้พวกเขาจึงคิดเอาไว้ว่านางนั้นถือว่าเป็นผู้ที่มีพระคุณกับพวกเขา ในอนาคตพวกเขาสองพี่น้องจะต้องรักและตอบแทนนางให้จงได้ แม้ต้องตายแทนก็ยอม…ต่อมาพวกเขาก็ต้องพบเรื่องไม่คาดฝันอีกครั้งเพราะพี่

  • บุรุษอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านผู้นี้คือสามีข้า   ตอนพิเศษที่ 1 : ความเจ้าคิดเจ้าแค้นของเซี่ยเยว่จิน

    ตอนพิเศษที่[1]ความเจ้าคิดเจ้าแค้นของเซี่ยเยว่จิน เยว่จินไม่ใช่คนที่ปล่อยวางอะไรได้ง่ายถึงเพียงนั้น โดยเฉพาะเมื่อหากตอนที่โดนรังแกหรือเมื่อคนที่รักถูกรังแก ไม่ว่าตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันนางไม่เคยที่จะปล่อยมันไปโดยง่าย จะต้องหาทางระบายเพื่อให้ความคับข้องใจให้หายไปและในคืนนี้ก็เช่นกัน…. หลังจากที่ทุกคนได้แยกย้ายเข้าพักในห้องของตนในบ้านหลังใหม่หลังออกจากหมู่บ้านซินเฉียวแล้ว ในช่วงค่ำของคืนนั้นเยว่จินได้เตรียมอำพรางตัว ก่อนที่จะลอบเดินเท้าด้วยรองเท้าพิเศษกลับไปที่หมู่บ้านอีกครั้ง ในตอนที่ทุกคนหลับใหลและไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น หญิงสาวยกยิ้มขึ้นราวกับมีแผนการบางอย่าง… เยว่จินแอบหยดบางอย่างลงไปในน้ำของชาวบ้านที่มาหาเรื่องตนและท่านย่าในวันนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้นำหมู่บ้านที่ไร้จริยธรรมและบ้านหานที่ไร้น้ำใจ นอกจากนั้นนางยังเอาฉี่แมวที่ให้ผู้อาวุโสอี้ไปรวบรวมนำมันไปราดที่หน้าบ้านของแต่ละคน เจ้าแก้แค้นเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย ผู้อาวุโสอี้ กลิ่นฉี่แมวนั่นกลิ่นแรงฉุนเตะจมูกนัก นางในโลกก่อนก็เคยเลี้ยง จึงได้คิดว่ากลุ่มคนที่มีจิตใจสกปรกเช่นพวกเขา ก็ต้องได้รับอะไรที่สาสมกันเช่นนี้ เมื่อทุก

  • บุรุษอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 53 : บทสรุปความสุขที่หอมหวาน (ตอบจบ) 1/3

    ตอนที่[36]บทสรุปความสุขที่หอมหวาน (ตอบจบ)บุรุษที่อยู่เรือนนาผู้นั้น ที่แท้เป็นถึงซ่งกั๋วกงและที่เขาเป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าถูกพิษ บัดนี้ชุนเยว่เกิดความละอายใจไม่น้อย กับความคิดของตนด้วยตนนั้นก็อัปลักษณ์แต่มีสิทธิ์อันใดไปตัดสินและรังเกียจผู้อื่นเช่นนั้น โดยที่ไม่รู้จักเขาดีเลยสักนิด“พี่เยี่ยนซีไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องนั้นหรอกเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องคิดมาก แล้วท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ” ล่าสุดที่รู้คืออีกฝ่ายกระโดดน้ำตายไปแล้วยามนั้นชุนเยว่จึงได้นึกเรื่องราวในวันนั้นก่อนจะเล่าออกมา“วันนั้นข้าตั้งใจที่จะกระโดดน้ำให้ตายไป ด้วยเสียใจที่ถูกบังคับและเสียใจที่ท่านพ่อท่านแม่ทำราวกับข้ามิใช่ลูก เพราะว่าข้าเกิดมาเป็นคนอัปลักษณ์ แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าในขณะที่ร่างของข้าลอยออกไปและกำลังจะหมดลมหายใจ กลับมีคนผู้หนึ่งมาดึงข้าขึ้นจากน้ำ…”“คนผู้นั้นนอกจากจะไม่รังเกียจข้า ยังให้กำลังใจและยอมรับทุกอย่างที่ข้าเป็นอย่างไม่นึกรังเกียจ เขาพาข้าเดินทางมาเริ่มชีวิตใหม่ที่เมืองหลวง รู้ตัวอีกทีก็มีบุตรกับเขาสองคนเสียแล้ว” ชุนเยว่ลูบท้องของตนไปมา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรักใคร่และความสุขยามพูดถึงสามีที่รออยู

  • บุรุษอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 52 : บทสรุปความสุขที่หอมหวาน (ตอบจบ) 1/2

    ตอนที่[36]บทสรุปความสุขที่หอมหวาน (ตอบจบ)ปกติหญิงสาวมักจะไม่ปล่อยเรื่องราวพวกนี้ไปโดยง่าย แต่เหตุใดวันนี้จึงได้เอาแต่ยกยิ้มแปลก ๆ อยู่เช่นนั้น ทว่า“จัดการอยู่เบื้องหลังสนุกกว่าอยู่เบื้องหน้าอีกนะเจ้าคะท่านพี่” เมื่อได้ยินภรรยากล่าวเช่นนั้นเขาก็รู้แล้วว่าทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างตาเห็น เมืองหนี่หรู่เป็นเมืองสุดท้ายที่พวกเขาจะบริจาคสิ่งของ แล้วจากนั้นก็จะได้เดินทางกลับเมืองหลวงเสียที ก่อนที่จะเดินทางกลับจึงเป็นเวลาที่พวกเขาจะได้ต่างแยกย้ายไปพักผ่อนกันก่อน แน่นอนว่าสองสามีภรรยาแห่งจวนตระกูลซ่งนั้นเลือกที่จะไปรำลึกความหลังกันที่บ้านเช่าหลังนั้น… พวกเขาได้ขอเช่าจากเจ้าของบ้านเป็นเวลาสามวันและให้บ่าวรับใช้ไปปัดกวาดเช็ดถูก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะเข้าไปอยู่ “ท่านพี่ อ๊ะตรงนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ” เสียงหวานเอ่ยทักท้วงก่อนที่จะน้ำเสียงจะแปรเปลี่ยนเป็นความเย้ายวนบางประการเมื่อสามีพยายามสัมผัสจุดอ่อนไหวของนาง ซ่งเยี่ยนซีเอาวนอยู่กับร่างกายหอมของภรรยาอย่างไม่รู้เบื่อพวกเขาใช้เวลาอยู่ที่บ้านเช่าหลังนั้นอย่างเต็มที่และคุ้มค่ามากที่สุด องค์รัชทายาทที่รู้ว่าสหายและภรรยานั้นหนีไปทำอันใดกันก็ได้แต่เขี่ย

  • บุรุษอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 51 : บทสรุปความสุขที่หอมหวาน (ตอบจบ) 1/1

    ตอนที่[36]บทสรุปความสุขที่หอมหวาน (ตอบจบ) ด้านเถาเจียที่ได้ยินคนพูดถึงชื่อของสตรีผู้หนึ่งที่ตนไม่ได้ยินมานานและไม่ชอบหน้าจนกระทั่งกุข่าวลือที่ไม่ใช่เรื่องจริงเพื่อใส่ความอีกฝ่ายจนเกิดการแพร่กระจายออกไปช่วงหนึ่ง ก็ชะงักแข็งค้างไปครู่หนึ่ง เพราะความทรงจำครั้งล่าสุดจากสตรีผู้นี้ไม่ดีนัก ในค่ำคืนนั้นที่สตรีผู้นี้ย้อนกลับมาเล่นงานตน…‘ถ้าไม่อยากหน้าเน่าแล้วก็ปากเน่าก็อย่าเที่ยวเอาปากไปพูดจาสกปรกที่ใดอีก’ คำพูดนี้น่ากลัวนัก จากที่คิดว่าวันนี้จะได้ทำตัวโดดเด่นเพื่อไปเตะตาองค์รัชทายาทและซ่งกั๋วกงให้มากที่สุดก็เป็นอันต้องพับเก็บไป ได้แต่พยายามทำตัวให้ไร้ตัวตนมากที่สุด สตรีผู้นั้นจะได้ไม่เห็นนาง หากเป็นไปได้นางอยากจะกลับหมู่บ้านไปด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถกลับได้ เพราะต้องรอรับของบริจาคก่อน ทั้งไม่มียานพาหนะกลับไปอีก “สตรีไร้น้ำใจผู้นั้นเหตุใดจึงได้ไปนั่งในรถม้าของผู้สูงศักดิ์เช่นนั้น” ชาวบ้านหมู่บ้านซินเฉียวผู้หนึ่งยังไม่หายสงสัย ที่จู่ ๆ เห็นเยว่จินมากับผู้สูงศักดิ์จึงพากันเอ่ยความสงสัยของตนออกมา ทว่ามีหนึ่งในชาวบ้านหมู่บ้านที่ได้ยินพวกเขากล่าวไม่ค่อยดีเท่าไรนักจึงได้รีบเอ่ยขึ้น

  • บุรุษอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 50 : การจากลา 1/2

    ตอนที่[35]การจากลา“ข้าขอบคุณเจ้าอีกครั้งนะนังหนูที่ช่วยเหลือข้า แม้เจ้าจะขี้บ่นและดื้อไปบ้าง แต่สุดท้ายก็ยอมทำตามแต่โดยดี ไม่สิ ดีกว่าที่คาดไว้มาก ข้าต้องขอบคุณจริงๆ”“ก็ท่านชอบกวนอารมณ์ข้านี่เจ้าคะ แถมยังชอบให้ทำอะไรแปลก ๆ ด้วย” เยว่จินกล่าวพร้อมรอยยิ้มทว่าในใจรู้สึกวูบโหวงไม่น้อยที่คนตรงหน้ากำลังจะจากไป “เจ้าดูแลตัวเองด้วย เห็นหรือไม่ข้าบอกแล้วว่าเจ้าจะมีอนาคตที่ดี นี่ก็มีจริง ๆ ข้าไม่ได้ผิดคำพูดนะ” เขาเอ่ยเย้า“ไม่เปลี่ยนใจอยู่ต่อจริง ๆ หรือเจ้าคะ” ทว่าเซี่ยเยว่จินกลับกล่าวอีกเรื่อง“ไม่ได้แล้ว เบื้องบนเรียกตัวข้าแล้ว แต่หากมีโอกาสคงได้พบกันใหม่” “เช่นนั้นข้าขอให้ท่านพบแต่ความสงบสุขนะเจ้าคะ ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือข้ามาโดยตลอด” เซี่ยเยว่จินกล่าวด้วยใบหน้าจริงจังนัยน์ตากลมโตเริ่มแดงเรื่อขึ้น“พูดเช่นนี้ก็เป็นด้วย ข้าแทบน้ำตาไหลแน่ะ” ทว่ากลับถูกเย้าอีกเสียได้“ท่านนี่นะ” เซี่ยเยว่จินส่ายหัวด้วยความอ่อนใจ “เจ้าหนุ่มเยี่ยนซี ข้าเห็นเจ้ามาตั้งแต่เด็กและก็คิดว่าเจ้านั้นมีพรสวรรค์และเจ้าก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ด้วย ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยเหลือหลานชายข้ามาโดยตลอด” “เป็นหน้าที่ของกระหม่อมพ่ะย

  • บุรุษอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 49 : การจากลา 1/1

    ตอนที่[35]การจากลา อี้ห่าวเมื่อเห็นว่าคนที่เขารอคอยมาถึงเขาก็รีบหมุนตัวกลับไปก่อนที่จะเข้าไปสวมกอดคนทั้งสองทันที “พวกเจ้ามาแล้วหรือ เป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือไม่”เมื่อได้ยินเสียงของผู้ที่จากไปนาน จิ้นกว่างฮ่องเต้ก็หลั่งน้ำตาออกมาทันที “เสด็จพ่อ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง แล้วที่นี่คือที่ใด ท่านอยู่ที่นี่มาตลอดเลยหรือ…” “ข้าสบายดี และใช่ข้าอยู่ที่นี่มาตลอด ยังไม่ได้ไปเกิดที่ใดเลย” “เพราะเหตุใดกันเล่า ทุกปีกระหม่อมจะต้องทำพิธีรำลึกถึงพระองค์ ขอให้พระองค์มีความสุขบนสรวงสวรรค์และที่นี่ใช่สวรรค์หรือไม่” “ไม่ใช่ที่นี่ไม่ใช่สวรรค์ ข้ามันเรียกว่าดินแดนอนันต์ซึ่งนี่เป็นของนังหนูเยว่จิน” จากนั้นเขาจึงค่อย ๆ เล่าเรื่องทุกอย่างให้ทั้งสองฟังโดยละเอียด “ข้ารอวันที่เยว่จินมาถึง เพื่อต้องการให้นางได้ช่วยเหลือเยี่ยนซี จากนั้นเขาจึงจะได้ไปช่วยเหลือพวกเจ้าได้” “เหตุใดจึงต้องเป็นเยี่ยนซีหรือเสด็จปู่” องค์ชายสามเอ่ยถามเสด็จปู่ของตนด้วยความไม่เข้าใจ เข้าใจว่าซ่งเยี่ยนซีคือผู้ช่วยคนสำคัญของเขา แต่เขารู้สึกว่ามันมีนัยที่มากกว่านั้น“หากไม่มีเยี่ยนซีพวกเจ้าจะผ่านเรื่องราวพวกนี้ไปไม่ได้” “เสด็จพ่อกล่าวว่าห

  • บุรุษอัปลักษณ์ท้ายหมู่บ้านผู้นี้คือสามีข้า   ตอนที่ 48 : วันมงคลที่รอคอย 1/2

    ตอนที่[34]วันมงคลที่รอคอยราวดังฝัน….ไม่นานก็มาถึงวันมงคลของนางกับพี่เยี่ยนซีเสียแล้ว ในตอนที่เข้าหอใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุราพร้อมทั้งมองนางด้วยแววตาฉ่ำเยิ้ม และหลังจากที่ดื่มสุรามงคลเขาก็เอาแต่พร่ำบอกรักนางซ้ำไปซ้ำมา“จินเออร์ พี่รักเจ้า รักเจ้ามากที่สุด รักแค่คนเดียวเท่านั้น เจ้าเป็นคนเดียวที่ไม่เคยรังเกียจพี่และดูแลพี่เป็นอย่างดีทั้งชีวิตนี้ คงหาสตรีเช่นเจ้าจากที่ใดไม่ได้อีก” นางถูกอ้อมกอดอันอบอุ่นจนถึงขั้นร้อนของเขาดึงเข้าไปสวมกอดเอาไว้แน่น เยว่จินในตอนแรกคิดว่าอยากจะช่วยเหลือเขาเพื่อให้ได้มีชีวิตดี ๆ ก็เท่านั้น แต่ต่อมาเพียงแค่ได้อยู่ใกล้ ได้สัมผัส ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนางก็พบว่าตนเองใจเต้นแรงกับบุรุษผู้นี้นับครั้งไม่ถ้วน คิดอีกทีก็อยากอยู่เคียงข้างเขาตลอดไปเช่นนี้เสียแล้ว “เช่นนั้นต่อไปก็ดูแลข้าให้ดี ๆ นะเจ้าคะ”“ด้วยชีวิตของพี่ พี่สัญญาว่าจะดูแลเจ้าให้ดีที่สุด และจะมีเจ้าเพียงคนเดียวในชีวิตนี้” กล่าวจบไม่รอช้าชายหนุ่มก็โน้มใบหน้าลงประกบริมฝีปากของตนลงที่ริมฝีปากงามของเยว่จินด้วยความอ่อนโยน ค่อย ๆ ลิ้มรสความหอมหวานนั้นอย่างใจเย็น ก่อนที่ไม่นานจะแปรเปลี่ยนเป็นความดุดันด

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status