ตื้นตันใจวันนี้อาเธอร์ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทุกคนรวมทั้งปั้นหยาและภาคินด้วย จึงเดินทางมาที่โรงพยาบาลกันอีกครั้ง เพื่อมารับกลับบ้าน“ขอลุงหมอดูหน่อยนะครับ” นพดลเอ่ยบอก พร้อมกับตรวจดูร่างกายของเด็กน้อยอาเธอร์อีกรอบ อย่างละเอียด“อยู่นิ่งๆครับคนเก่ง” ทินกรเอ่ยบอกเสียงนุ่มกับอาเธอร์อีกที“เรียบร้อยแล้วครับ ทุกอย่าโอเค ลุงหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ครับ” นพดลเอ่ยขึ้นบอกอีกที“เย้...ขอบคุณครับ” เสียงเล็กดีใจของอาเธอร์ พร้อมกับคำขอบคุณ“เจ๊...” เสียงที่คุ้นเคยของ ภาคิน น้องชายในสายเลือดของพิพิมเอง เอ่ยเรียกขึ้น เมื่อเปิดประตูเข้ามาตามหลัง“คิน” เสียงเรียกกลับ เมื่อหันไปทางประตู แล้ววิ่งเข้าไปสวมกันทันที อย่างแสนคิดถึง“คิดถึงเจ๊ที่สุดเลย” ภาคินเอ่ยพร้อมกับสวมกอดพี่สาวแน่นขึ้น โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาของคนที่อยู่ภายในห้องด้วยเลยแม้แต่น้อย“เฮ้ยๆ เบาๆหน่อยเมียพี่น่ะ” ทินกรรีบเอ่ยห้ามขึ้นมา เมื่อเห็นว่าภาคินกอดพิพิมแน่นมากไป“โห่...พี่ทีม คนไม่ได้เจอกันตั้งนาน กอดแค่นี้ทำเป็นหวงไปได้ นี้น้องนะครับ” ภาคินปล่อยอ้อมแขนออกจากกอดของพี่สาว แล้วหันมาเอ่ยแซวกับทินกรในอาการหวง“แกก็เวอร์ไปน่ะคิน”
สำนึกผิดตกเย็น“คุณหมอทีมยังอยู่ที่นี่อีกเหรอค่ะ นุชคิดว่าแต่กลับไปแล้วเสียอีก เห็นหมอนพราวน์วอร์ดช่วงเย็นแทน” นุชนารถถามขึ้น เมื่อเห็นทินกรถือของเต็มไม้เต็มมือ กำลังจะเข้าไปในลิฟต์ เพราะหมอหนุ่มยังสวมเสื้อกาวน์อยู่“...” ทินกรไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกลับไป ได้แต่เข้าไปในลิฟต์แบบเงียบๆ“ลูกชายน้องพิมนี้โชคดีน่ะค่ะ ได้คุณหมอทีมให้เลือดเอง แถมยังได้อยู่ห้องพักพิเศษระดับของผู้บริหารอีก ทั้งๆที่น้องพิมก็เป็นแค่พยาบาลฝึกหัด” นุชนารถเอ่ยเหน็บแนมขึ้นมาทันที ที่เข้ามาในลิฟต์กับหมอหนุ่ม“พยาบาลฝึกหัด แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับห้องพักพิเศษหรือครับ” ทินกรพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กระแทกกระทั้นใส่ พร้อมกับใบหน้าที่พยามยามเก็บอาการเอาไว้“นุชเข้าใจนะคะ ว่าคุณหมอทีมชอบน้องพิม แต่นุชว่าคนแบบคุณหมอจะหาสาวๆ สวยๆ บริสุทธิ์ก็มีตั้งเยอะแยะไป ทำไมคุณหมอไม่ลองเปิดใจดูบ้างละคะ” นุชนารถยังคงพูดขึ้นมาอีกเรื่อยๆ“...” ทินกรไม่ได้เอ่ยตอบอะไร“ผู้ชายทุกคนล้วนชอบคนสวยกันทั้งนั้น แต่คนสวยที่โสดไม่มีพันธะไม่มีบ่วงก็เยอะนะคะคุณหมอทีม” นุชนารถพูดขึ้น เพราะพิพิมก็เป็นคนที่หน้าตาดีในระดับหนึ่ง ไม่แปลกที่จะมาคนมาชอบ“มีบ่วงแล้วยังไง
คนที่อยากเจอที่สุด“แม่ปิ่น...มาได้ยังไงกันคระ...อาคิม อาพาย เออ. สะ สวัสดีครับ” ทินกรเอ่ยขึ้นถามอย่างตกใจ เมื่อเปิดประตูเข้าไปที่ห้องพักฟื้นของอาเธอร์แต่เจอเข้ากับปิ่นลดา และต้องตกใจไปมากกว่านั้น เมื่อคนที่อยู่ภายในห้องมีทั้งคิมหันต์และพระพาย พ่อแม่ของพิพิมรวมอยู่ด้วย“พิพิม!” สองเสียงของคิมหันต์และพระพายเอ่ยขึ้นมาพร้อมกันทันที เมื่อเจอหน้าของลูกสาวที่เดินเข้ามาตามหลังของทินกร“พ่อจ๋า แม่จ๋า” พิพิมวิ่งเข้าไปสวมกอดท่านทั้งสองทันที หลังจากไม่ได้เจอหน้ากันนานนับ 5 ปี พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินดั่งสายน้ำ“พิพิมลูกพ่อ” คิมหันต์เอ่ยขึ้นเบาๆ พร้อมกับลูบไปที่ศรีษะของลูกสาวอย่างอ่อนโยน และแสนคิดถึงมานาน“พิมจ๋าของแม่จ๋าไปอยู่ที่ไหนมาคะลูก” พระพายถามขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ห้ามเอาไว้ไม่อยู่ ไหลออกมาอาบทั้งสองแก้ม“พิมขอโทษค่ะ พ่อจ๋าแม่จ๋า พิมขอโทษ” พิพิมได้แต่เอ่ยคำว่าขอโทษเท่านั้น พร้อมกับเสียงสะอื้น“พิมจ๋า” เสียงเล็กของอาเธอร์ดังขึ้นมาจากห้องข้างใน เอ่ยเรียกชื่อของพิพิม ทุกคนจึงหันไปมองเป็นทางเดียวกันและเป็นทินกรเองที่รีบเดินเข้าไปหาอาเธอร์ทันที พิพิมจึงเดินเข้าไปตามหลัง ให้ทุกคนนั่งรอกันอยู่ที่ด้
ความจริงปารกฏ“หนูพิม ทำไมอยู่ที่นี่” หมอโปรดถามขึ้นมา เมื่อเดินมาถึงที่ แล้วเห็นพิพิมยืนอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดด้วยกับลูกสาวเขา เพราะปั้นหยาแค่บอกว่าอาเธอร์เป็นลูกของเพื่อน แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเพื่อนคนไหน“พ่อโปรดรีบเข้าไปข้างในก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวก็รู้เรื่องทั้งหมดเอง” ปั้นหยารีบเอ่ยบอก เมื่อพ่อทำหน้าสงสัยอยู่ เพราะเธอก็พึ่งจะรู้เมื่อกี้นี้เองว่าอาเธอร์คือลูกของพิพิมกับพี่ชายเธอ“แค่เคสลูกเพื่อนน้องสาว กลับถึงขึ้นต้องโทรตามพ่อมาเลยเหรอ แถมยังให้เลือดเองด้วย” หมอโปรดพูดขึ้นมาทันที ที่ฌดินเข้าไปหาทินกร ที่นั่งให้เลือดอยู่อีกฝั่งหึ่งของห้องผ่าตัด“ลูกชายพิพิมครับ” ทินกรเอ่ยบอก โดยไม่ได้มองหน้าของพ่อ แต่กลับมองไปทางเด็กน้อยที่นอนรออยู่บนเตียง“อะไรน่ะ ลูกชายหนูพิม แล้วที่ให้เลือดนี้ ก็แสดงว่า...” หมอโปรดเลิกคิ้วขึ้นถาม อย่างตกใจ เมื่อรู้ว่าเด็กน้อยที่ปั้นหยาพามาคือลูกชายของพิพิม แล้วก็ต้องตกใจเมื่อนึกขึ้นมาได้ และมองไปยังลูกชายที่ยังอยู่ตรงนี้ อย่างต้องการคำตอบเพื่อความแน่ใจอีกที“ครับ” ทินกรตอบรับเพียงคำเดียว“แล้วทำไม ลูกไม่เป็นคนจัดการเองล่ะ” หมอโปรดถามลูกชายขึ้นมา“ทีมไม่กล้าครับ ก
เลือดเนื้อเชื้อไขช่วงสายของวันร่างสูงตื่นขึ้นมา พร้อมกับเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นมาไม่หยุด ทินกรลุกขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ มองดูหญิงสาวที่ยังคงหลับสนิท แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย“ครับพ่อโปรด ทีมจะรีบเข้าไปเดี๋ยวนี้ครับ” ทินกรรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นพ่อโทรมา แล้วรีบลุกขึ้นแต่งตัวอย่างรีบร้อน เดินทางออกไปยังโรงพยาบาลทันที เพราะพ่อโทรมาว่ามีเคสด่วน ปล่อยให้หญิงสาวได้พัก เขาจึงไม่ได้ปลุก แต่กลับสวมเสื้อเพียงตัวเดียวไว้ให้เธอโรงพยาบาลโยธินนารัตน์“มีเรื่องอะไรกันครับพ่อโปรด ตัวแสบทำไมอยู่ที่นี่” ทินกรรีบสวมเสื้อกาวน์อย่างรีบร้อน แล้วเดินออกมาถามพ่อที่อยู่ห้องทำงานทันที พร้อมกับต้องตกใจที่เห็นน้องสาวอยู่ที่นี่ด้วย“ทำไมมาเอาป่านนี้ หน้าตาดูไม่ได้เลย เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ” เสียงทุ้มของหมอโปรดถามขึ้นมาทันที ที่เห็นลูกชายพึ่งจะเข้ามาที่ห้องเอาป่านนี้“มีปัญหานิดหน่อยครับ เดี๋ยวทีมเล่าให้ฟังทีมหลังน่ะ แล้วหยามาที่นี่ได้ยังไง” ทินกรเอ่ยบอกพ่อ แล้วหันหน้าไปถามน้องสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย“อาเธอร์เกิดเรื่องค่ะ” ปั้นหยาเอ่ยบอกพี่ชาย และไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ฟัง“อาเธอร์เหรอ อ่อ...ตัวแส
โดนเล่นงานNCภายในงานยังคงดำเนินการไปจนถึงดึก ทินกรให้การต้อนรับแก่นายอพทย์คนใหม่เป็นอย่างดี แต่ระหว่างที่พูดคุยทักทายกันนั้น สายตาก็พยายามที่จะมองหาพิพิมอยู่ตลอดเวลา“หมอทีมมองหาใครหรือครับ” นพดล นายแพทย์คนใหม่ถามขึ้นมา เมื่อคุยอยู่กับเขาแต่สายตาของทินกรกลับเอาแต่มองหาใครบางคนอยู่ตลอดเวลา“เปล่าหรอกครับ...หมอนพดื่มได้เลยน่ะครับ พอดีผมขับรถมาเอง ดื่มไม่ได้ครับ” ทินกรตอบกลับไป และพยายามปฏิเสธรับเครื่องดื่มทุกชนิดที่ทุกคนยื่นให้“พยาบาลที่นี่...มีแต่สาวสวยๆกันทั้งนั้นเลยนะครับ แบบนี้พอจะมีคนไหนว่าง ที่พอจะเข้าตาผมบ้างไหม หรือว่าหมอทีมมีใครที่อยากจะแนะนำผมเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่าครับ” นพดลพูดแซวขึ้นมา พร้อมกับสายตาที่กวาดมองดูเหล่าบรรดาพยาบาลสาวสวยที่อยู่ภายในงานนี้“เรื่องนี้...ผมขอปฏิเสธก่อนเลยครับ” ทินกรพูดขึ้น พร้อมกับสายตาที่ไปสะดุดเข้ากับหญิงสาวรายหนึ่งที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากพิพิม ที่กำลังเดินออกไปทางด้านนอก“...” นพดลไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ แต่กลับยกเครื่องดื่มขึ้นจิบเพียงเล็กน้อย พอให้เป็นพิธี“ผมขอตัวก่อนนะครับ...” ทินกรรีบขอตัวลาทันที เมื่อสายตาเห็นพิพิ