/ โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 100%

공유

บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 100%

last update 최신 업데이트: 2024-12-28 19:30:29

“ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่คงทำงานหนักน่าดูเลยนะคะ น้องอายเห็นท่านไม่ค่อยกลับบ้านเลย นี่ก็เห็นว่าต้องขึ้นเหนือไปดูแปลงเพาะปลูกของเกษตรกรอีก”

“ใช่ค่ะ ตอนนี้บริษัทเราประมูลได้ออเดอร์ล็อตใหญ่จากดูไบ พวกผู้บริหารตื่นเต้นกันใหญ่เลยค่ะ วันก่อนเพิ่งประชุมกันว่าต้องมีการลงทุนเพิ่ม รวมถึงการจ้างพนักงานเพิ่มด้วย เพราะที่นี่ก็มีพนักงานแค่สามสิบกว่าคน ถ้าต้องทำล็อตของดูไบ คนแค่นี้ไม่พอแน่ ๆ”

หวานอธิบายไปยิ้มไป เพราะการมีออเดอร์ล็อตใหญ่เข้ามา รายได้ของบริษัทก็ต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานอย่างพวกเธอก็ต้องหวังผลไปถึงโบนัสปลายปีด้วย

ถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมาบริษัทจะประสบสภาวะขาดทุน เพราะข่าวลือ และการใส่ร้ายป้ายสีเรื่องวัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพ รวมถึงโดนตัดราคาจากแบรนด์น้องใหม่ แต่ประธานบริหารก็ไม่ยอมปลดพนักงานออกแม้แต่คนเดียว ทั้งยังจ่ายโบนัสให้กับทุกคนตอนสิ้นปีตามปกติอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะแค่เดือนเดียวก็ตาม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพนักงานทุกคนจึงยอมทุ่มเทแรงกายแรงใจและสมอง รวมถึงความจงรักภักดีกับองค์กรอย่างถึงที่สุด

“สามสิบกว่าคน เดี๋ยวนี้บริษัทเรามีพนักงานสามสิบกว่าคนแล้วหรือคะ”

รวิชาถามอย่างไม่เชื่อหู รู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันที เพราะเธอเข้าใจมาตลอดว่าบริษัทของบิดามารดานั้นมีพนักงานแค่สิบกว่าคนเหมือนเมื่อหลายปีก่อนที่เธอเคยเดินตามพวกท่านเข้ามาในนี้

“ใช่ค่ะ นี่เฉพาะแค่ในโรงงาน และในส่วนของออฟฟิศเท่านั้นนะคะ ยังไม่นับรวมถึงพนักงานขายตามห้างอีกด้วย”

ผู้จัดการสาวตอบพลางใช้มือผลักบานประตูที่มีป้ายพลาสติกสีขาว ตัวหนังสือสีแดงแผ่นใหญ่แปะเอาไว้ด้านหน้าว่า “ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต”

“นี่เป็นห้องสูตรผสมค่ะ จะเอาไว้ใช้เก็บน้ำมันกลิ่นต่าง ๆ ที่สกัดออกมาได้ ห้องเล็ก ๆ นั่นจะเป็นห้องทดลองกลิ่น คุณวิมักจะอยู่แต่ในนั้นเกือบทั้งวันทั้งคืนเพื่อทดลองกลิ่นใหม่ ๆ น้องอายจะลองเดินเข้าไปดูก็ได้นะคะ”

รวิชามองตามมือของผู้จัดการแล้วเดินไปยังห้องดังกล่าวทันที ภีมพลหันมองขวดน้ำมันต่าง ๆ ที่วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบบนชั้น แต่ละชั้นจัดวางตามชนิดของกลิ่นที่ได้มา แต่ละแถวจะมีป้ายขนาดเล็กสีขาวพิมพ์รหัสบางอย่างแปะเอาไว้ด้านหน้า

“ทำไมแต่ละแถวรหัสไม่เหมือนกันล่ะครับ ทั้งที่มันก็เป็นกลิ่นจากดอกไม้ชนิดเดียวกันทั้งหมด”

ชายหนุ่มอดถามขึ้นไม่ได้ แม้จะไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำตอบ เพราะเดาว่าคงเป็นสูตรลับของกระบวนการทำ...และก็เป็นจริงดังว่า

“ที่ไม่เหมือนก็เพราะว่าแต่ละแถวจะใช้วิธีสกัดต่างกันค่ะ รวมไปถึงอายุของพืชที่เราได้มาด้วย ส่วนจะเป็นยังไงนั้นหวานบอกไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เพราะเป็นความลับ” หญิงสาวยิ้มแหยให้ ซึ่งชายหนุ่มก็เข้าใจดี

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”

ภีมพลหันมองไปทางห้องที่รวิชาเดินหายเข้าไปซึ่งเป็นห้องทดลองกลิ่น เขาก้าวเท้าไปหาแล้วหยุดยืนอยู่หน้าประตู จึงทันได้เห็นไหล่เล็ก ๆ ของเธอสั่นเล็กน้อย ก่อนเจ้าตัวจะยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแล้วหันมาส่งยิ้มให้

ภีมพลเดินเข้าไปตบบ่าเบา ๆ อย่างปลุกปลอบ และไม่อยากถามอะไรให้มากความ เขากวาดตามองไปรอบห้องอย่างสนใจ ในนี้มีหลอดทดลองหลายใบ กลิ่นหอมรวยรินอบอวลกำจายไปทั่วทั้งห้อง บนโต๊ะติดผนังมีรูปของรวิชาในช่วงอายุต่าง ๆ ตัดแปะใส่กระดาษสาพร้อมกับประโยคสั้น ๆ เขียนด้วยลายมือของเด็กสาวในกระดาษที่ตัดเป็นรูปคำพูดต่าง ๆ แปะซ้อนเข้าไป ทั้งหมดถูกใส่อยู่ในกรอบไม้สีขาวขนาดใหญ่เท่าโปสเตอร์

“ของขวัญชิ้นนี้น้องอายทำให้คุณพ่อคุณแม่ตอนครบรอบแต่งงานของพวกท่านเมื่อหลายปีก่อนค่ะ ตอนนั้นน้องอายเรียนอยู่ม.หนึ่งเอง” รวิชาอธิบายไปยิ้มไป แม้นัยน์ตากลมโตยังคงมีน้ำเอ่อคลออยู่บ้างเล็กน้อย

“น่ารักดีครับ”

ชายหนุ่มส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เขายกมือขึ้นวางบนศีรษะของเธอแล้วโยกไปมาเบา ๆ อย่างเอ็นดู ก่อนจะเหลือบไปเห็นตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กที่วางแอบไว้ตรงมุมห้อง รวิชามองตาม น้ำตาจึงเริ่มรื้นขึ้นมาอีกหน

“สงสัยคุณพ่อคุณแม่ต้องคิดว่าที่นี่เป็นบ้านหลังที่สองแน่เลย ถึงได้ขนเสื้อผ้ามาไว้ด้วย ข้างในมีหมอนด้วยนะคะ เมื่อกี้น้องอายไปเปิดดู”

ถึงแม้จะพยายามทำน้ำเสียงให้ร่าเริงแค่ไหน แต่สีหน้าและแววตากลับไม่ได้ร่าเริงไปด้วยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มจึงชวนอีกฝ่ายออกไปเดินดูในส่วนอื่นต่อ

ระหว่างที่เดินไปยังส่วนของบรรจุภัณฑ์ ภีมพลนึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงถามผู้จัดการสาว

“ผมได้ยินพี่อาทิตย์บอกว่าจะลงทุนซื้อเครื่องแปะฉลากกับเครื่องซีลสินค้าเพิ่มด้วยใช่ไหมครับ”

“ใช่ค่ะ ตอนนี้เรามีแค่ตัวเดียว สินค้าบางอย่างเช่นสบู่เราก็จะบรรจุกันด้วยแรงงานคน ก่อนจะส่งไปบรรจุภัณฑ์ แต่บางครั้งก็ทำให้งานล่าช้าเพราะเครื่องจักรมักมีปัญหาบ่อย ๆ จะซื้อใหม่ก็ยังลังเลเพราะเครื่องจักรพวกนี้ราคาค่อนข้างสูง”

ผู้จัดการสาวพาทั้งคู่เดินมาถึงส่วนบรรจุพอดี โรงบรรจุผลิตภัณฑ์นี้มีพนักงานมากกว่าส่วนอื่น เพราะเป็นแผนกที่ต้องคัดแยกสินค้าตามชนิดและน้ำหนัก จดบันทึกทำรายการไว้เป็นหมวดหมู่สำหรับส่งต่อให้ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าเป็นลำดับต่อไป

จากนั้นทั้งหมดก็เดินมาจนถึงส่วนท้ายสุดของโรงงาน ซึ่งเป็นโรงคัดแยกวัตถุดิบ ดอกไม้ เปลือกไม้ พืชที่มีกลิ่นหอมนานาชนิดมากมายทั้งที่ล้างทำความสะอาดแล้ว และยังไม่ได้ล้างกองรวมกันนิ่งอยู่ในกระบะขนาดหนึ่งเมตร สูงประมาณฝ่ามือวางเรียงซ้อนกันแยกกันเป็นสัดส่วน กลิ่นหอมของพฤกษานานาพันธุ์ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในบรรยากาศจนรู้สึกสดชื่นน่ารื่นรมย์ แม้ว่าพื้นที่เหยียบย่างอยู่นี้จะเปียกแฉะก็ตาม

“อุ๊ย!”

รวิชาใจหายวาบเมื่อจู่ ๆ ก็ไถลลื่นจนเกือบล้มก้นจ้ำเบ้า โชคดีที่วงแขนแข็งแรงของใครบางคนที่คอยตามประกบไม่ห่างตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาในนี้เอื้อมมาโอบรอบเอวของเธอแล้วกอดไว้ได้ทัน จนแผ่นหลังแนบไปกับแผ่นอกของเขา

“ระวังหน่อยน้องอายในนี้มันลื่น เดินเกาะแขนอาไว้ก็ได้”

เขาจับมือนุ่มมาวางไว้บนท่อนแขนตนเอง แล้ววางทาบมือของตนกับมือเธอ ก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พาเดินต่อ

ทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ที่โรงงานประมาณสองชั่วโมงกว่าก็ขอตัวกลับ ระหว่างทางกลับบ้าน รวิชาเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ภีมพลนึกว่าเธอคงเหนื่อยจึงไม่ได้ชวนคุยหรือซักถาม แต่จู่ ๆ คนนั่งข้างกายกลับมีเสียงสะอื้นไห้

“น้องอาย ร้องไห้ทำไมครับบอกอาได้ไหม” น้ำเสียงอาทรห่วงใยของคนถาม ยิ่งทำให้หญิงสาวน้ำตาร่วงพรู ก่อนจะเอ่ยสิ่งที่อัดอั้นออกมา

“น้องอายเป็นลูกที่แย่มาก ไม่เคยรู้เรื่องบริษัทของตัวเองเลยว่าเป็นยังไง หรือไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว แค่จำนวนพนักงานที่อยู่ในโรงงานน้องอายก็ยังไม่รู้ ไม่เคยรู้ว่าคุณพ่อกับคุณแม่ทำงานหามรุ่งหามค่ำจนต้องนอนที่โรงงานบ่อย ๆ กลับเอาแต่นึกน้อยใจท่านที่ทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียวจนคิดประชดอยากไปเรียนต่อเมืองนอก เพราะอยากรู้ว่าท่านจะสนใจน้องอายบ้างไหม น้องอายเอาแต่ไร้สาระใช้เงินไปวัน ๆ ในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยมีวันหยุดพักผ่อน น้องอาย...แย่มากเลยใช่ไหมคะอาภีม”

เสียงหวานสั่นพร่าเจือสะอื้น ภีมพลตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าจอดข้างทางแล้วเอื้อมคว้ามือเธอมากุมไว้อย่างปลุกปลอบให้กำลังใจ

“อย่าคิดมากสิครับ น้องอายไม่ได้แย่ น้องอายยังเป็นลูกที่ดีของพ่อกับแม่อยู่ ที่ผ่านมาเราไม่เคยทำให้ท่านผิดหวัง น้องอายยังดีกว่าอีกหลายคนนะที่คิดอยากช่วย และแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ ในขณะที่เด็กวัยรุ่นคนอื่นไม่ได้คิดเรื่องนี้อยู่ในหัวเลย อาเชื่อว่าท่านทั้งสองจะต้องภูมิใจในตัวน้องอายอย่างแน่นอนถ้ารู้ว่าลูกสาวอยากมาช่วยทำงาน เชื่ออานะครับ อย่าร้องไห้เลย หมดสวยแล้วเห็นไหม”

เขาพูดพลางใช้นิ้วเช็ดน้ำตาบนพวงแก้มออกให้อย่างอ่อนโยน ตาคมปลาบอาบแววหวานเชื่อมมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาคู่สวยที่ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำอย่างหลงใหล

รวิชาหลุบตาลงต่ำเพราะไม่กล้าสบตาด้วย ในขณะที่คนตัวโตโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนปะทะพวงแก้ม สัมผัสจากริมฝีปากอุ่นที่ประทับลงบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา ส่งผลให้ความร้อนจากบริเวณที่ถูกสัมผัสลามเลียสูบฉีดไปทั่วใบหน้าจนต้องก้มหน้าต่ำลงกว่าเดิม

แม้ตอนนี้เขาจะกลับไปนั่งหลังพวงมาลัยตามเดิม ทว่ารอยประทับยังคงติดตรึงอยู่บนผิวเนื้อราวกับสัมผัสนั้นไม่ได้จากไปไหน เขาจะรู้บ้างไหมว่าทำอะไรกับเธอไว้บ้าง เขาทำให้เธอรู้สึกราวกับหัวใจกำลังจะถูกปลิดออกจากขั้วเพราะมันเต้นกระหน่ำรัว และสั่นสะเทือนไปถึงมือทั้งสองข้างจนต้องบีบเข้าหากันแน่น

ไม่ต่างกันกับคนที่กำลังนั่งบังคับพวงมาลัย รอยยิ้มกระจายเกลื่อนเต็มวงหน้า ความรื่นรมย์สะท้อนออกมาจากแววตาระยิบระยับ เขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะค่อย ๆ ไล่ระดับความสูงลงมาทีละนิดโดยเริ่มจากวันนี้ที่เริ่มต้นเดินทางที่หน้าผากเนียนสวยของเธอ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 100%

    “อ้าว! วันนี้คุณอายไม่เข้าบริษัทหรือ” เมื่อเช้าก็ออกมาด้วยกันแท้ ๆ แต่แม่เจ้าประคุณแอบหนีไปเที่ยวไหนกันล่ะนี่ ชายหนุ่มคิดอย่างเข่นเขี้ยวในใจเมื่อเจอ “เซอร์ไพรส์” สุดพิเศษจากศรีภรรยาภีมพลยิ้มกริ่มอย่างหมายมาด เห็นทีต้องรีบกลับไปรับขวัญก่อนเวลาเสียแล้ว ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถออกมา เหลือบไปเห็นแฟ้มงานสองแฟ้มที่ยังคงแผ่หราอยู่เต็มโต๊ะ แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังดูค้างเอาไว้ เขากวาดตามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ใจจริงเขามีตัวเลือกเอาไว้อยู่แล้ว เมื่อตัดสินใจได้เขาก็คว้าแฟ้มขวามือเดินออกจากห้องทันที จากนั้นจึงไปยื่นให้กับเลขาฯ ส่วนตัว“ผมเลือกของบริษัทนี้ ให้ฝ่ายจัดซื้อทำเรื่องได้เลย อ้อ วันนี้ผมไม่เข้าแล้วนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ผละออกไป และต้องหยุดชะงักเมื่อเลขาฯ รีบวิ่งมาถามถึงงานบางอย่างที่เขาให้เตรียมไว้สำหรับช่วงบ่ายนี้“คุณภีมคะ แล้วเรื่องที่ให้เตรียมเอาไว้บ่ายนี้ล่ะคะ”“ยังคอนเฟิร์มอยู่ แต่ว่าคุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ”ภีมพลหันมายิ้มพรายเต็มวงหน้าเมื่อคิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 70%

    อดคิดไปถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วไม่ได้ ท่านทั้งสองช่างมีความอดทนและมุมานะอย่างล้นเหลือที่สู้ฝ่าฟันจนกระทั่งบริษัทเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้ นึกมาถึงตอนนี้แล้วก็โกรธตัวเองที่ตอนนั้นเอาแต่น้อยใจ คิดว่าท่านทำแต่งานจนไม่สนใจใยดีกับเธอผู้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว‘รวิชา แปลว่าลูกพระอาทิตย์ เพราะฉะนั้นหนูต้องเข้มแข็ง อดทนให้สมกับที่เป็นลูกสาวของพ่อ ชีวิตของหนูจะต้องรุ่งโรจน์สดใสเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า’ถ้อยคำจากบิดายังคงดังก้องอยู่ในหัวทุกครั้งที่นึกถึงเวลาเมื่อรู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าไม่มีแม่นมชราและสามีที่คอยเป็นกำลังใจให้ ป่านนี้ชีวิตเธอจะหักเหไปทางไหนแล้วบ้างก็สุดรู้“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับจุมพิตเบา ๆ ที่ข้างแก้ม จากนั้นคนตัวโตก็ทรุดตัวลงนั่งซ้อนหลังไว้พร้อมกับดึงบ่าของเธอให้เอนซบลงมาบนตัวเขา“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” หญิงสาวทักทายกลับไปก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของสามี“จำเป็นต้องตื่นเช้าน่ะ จู่

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 35%

    หลังจากถวายสังฆทานจนกระทั่งกรวดน้ำเสร็จเรียบร้อย ภีมพล รวิชา และนมพิมก็พากันเดินออกมาเทน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้ากุฏิ ชายหนุ่มสวดบทกรวดน้ำพึมพำโดยไม่ออกเสียง ในขณะที่หญิงสาวและนมพิมอธิษฐานเพื่อส่งผลบุญให้แก่ผู้ล่วงลับอยู่ในใจวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของบิดามารดาของรวิชา นมพิมเปรยเอาไว้หลายวันก่อนหน้าแล้วว่าอยากมาทำบุญให้ท่านทั้งสอง ซึ่งเธอเองก็เห็นด้วยเพราะคิดไว้เหมือนกันว่าจะมาทำบุญวันนี้ จึงชวนสามีหนุ่มให้มาด้วยกัน และเขาก็ไม่ขัดข้อง เพราะตั้งแต่ผ่านพ้นพิธีแต่งงานมาได้สองเดือน ภีมพลก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกเลยจากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางกลับบ้าน พอมาถึง ชายหนุ่มปล่อยให้รวิชาได้อยู่กับแม่นมตามลำพังเพราะคิดว่าทั้งสองคนคงมีเรื่องอยากพูดคุยกัน เขาเองก็เห็นใจคนแก่อย่างนมพิม เพราะตั้งแต่รวิชาเรียนจบมาก็เอาแต่ทำงาน แถมหลังจากนั้นสองเดือนก็เข้าพิธีแต่งงานกับเขา ทำให้บางคืนรวิชาไม่ได้กลับไปนอนบ้านตัวเอง ถึงแม้เขากับรวิชาจะแก้ปัญหาด้วยการสลับบ้านนอนเป็นวันเว้นวันแล้วก็ตาม แต่หัวอกคนแก่ก็คงหงอยเหงาเป็นธรรมดา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 100%

    “ตอบแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย อย่างนี้ต้องให้รางวัล”ชายหนุ่มจับล็อกปลายคางมนของหญิงสาวไว้ แล้วก้มลงตบรางวัลให้คนปากหวานช่างจำนรรจาจนเขากระชุ่มกระชวยทุกทีที่ได้ฟังนาทีนี้ภีมพลเหมือนจะคลั่งเสียให้ได้ สาวน้อยช่างหวานจับจิตจับใจสมกับที่รอคอยมานานแสนนาน ถ้าไม่ติดว่าเธอยังใหม่กับความสัมพันธ์แบบนี้แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าทั้งเขาและเธอยังคงนัวเนียกันอยู่บนเตียงเป็นแน่“อื้ม...อาภีมขา นี่มันริมถนนนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”แค่หญิงสาวพูดเบา ๆ แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วน้ำเสียงสั่นพร่านิด ๆ นั้นช่างฟังดูเซ็กซี่ยั่วยวนดีเหลือเกิน เขานึกถึงตอนเธอครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา ทั้งภาพทั้งเสียงยังคงติดตาตรึงใจเสียจนอะไร ๆ มันพรักพร้อมขึ้นมาอีกแล้ว“เราเข้าหมู่บ้านมาแล้ว ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมาหรอก รถอาก็มืด ใครจะมองเข้ามาเห็นล่ะคะ”เอาอีกแล้ว ลงท้ายด้วยคะ ขาแบบนี้แปลว่าเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วเป็นแน่ ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไร แต่ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน“แวะบ้านอาก่อนนะคะ”แค่เห็นแววตาระยิบระยับแพรวพราวของเข

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 70%

    “ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้อยู่กับอาทั้งคืนได้ไหม ตามใจอาหน่อยได้ไหมคะ”เขาถามพร้อมกับประพรมจุมพิตไปทั่วหน้าอย่างหลงใหล ก่อนจะเอ่ยประโยคสำคัญที่ทำให้คนฟังหัวใจพองฟูคับอก“อาก็รักน้องอาย ไม่ใช่แค่คืนนี้ที่อาอยากให้น้องอายอยู่ด้วยแต่เป็นทุก ๆ คืน และตื่นมาตอนเช้าก็เห็นหน้าน้องอายเป็นคนแรกในทุก ๆ เช้า”ชายหนุ่มหยุดพูด แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอีกครั้งหนึ่งแล้วไต่ระเรื่อยมาจนถึงใบหู ใจอยากจะโจนจ้วงเข้าหาร่างเย้ายวนนี้ให้สมกับที่รอคอยมานานแสนนาน แต่ก็อยากให้หญิงสาวได้สัมผัสกับความสวยงามจากประสบการณ์ในรักครั้งแรกมากกว่า เขาจึงต้องอ่อนโยนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ว่าความต้องการจะอัดแน่นจนแทบระเบิดแล้วก็ตาม“แต่งงานกับอานะคะ”ไหน ๆ เธอก็เรียนจบแล้ว มีงานมีการทำถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หนำซ้ำยังจดทะเบียนสมรสเป็นคนคนเดียวกันในทางกฎหมายแล้วด้วย เขาจึงคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรออีกต่อไป เพราะเขากับเธอก็แทบจะเป็นของกันและกันอยู่แล้ว จะเหลือก็แต่การอยู่ร่วมบ้านเดียวกันในฐานะของสามีภรรยาเท่านั้นรวิชาคลี่ยิ้มกว้างพล

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 35%

    ภีมพลยืนยิ้ม มองภรรยาทางนิตินัยที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนานกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อยู่ข้างล่างด้วยแววตาทอดอ่อน เมื่อวานสอบวันสุดท้าย วันนี้รวิชาจึงขออนุญาตเขาพาเพื่อน ๆ มาสนุกกันที่คลับอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการฉลองจบการศึกษา อีกทั้งฉลองที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปานั้นทะลุเป้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้พอสมควรสาวน้อยของเขาเรียนจบแล้ว...ปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งคู่หมั้น สองปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งสามีตามกฎหมาย รวมแล้วร่วมสี่ปีเต็มกับการเฝ้าดูแลเด็กสาวคนหนึ่งให้เติบโตเป็นหญิงสาวแสนสวย และมากความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปเมื่อก่อนเขาเอาแต่นั่งนับวันเวลาว่าเมื่อไรเธอจะเรียนจบ เพราะอยากตีตราจองเธอเอาไว้ด้วยร่างกาย ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวตามประสาผู้ชายทั่วไปที่คิดอยากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนรัก ทว่าพอวันเวลาผ่านไป ความคิดของเขาก็ค่อยปรับเปลี่ยนไปทีละนิดตามความผูกพันที่เพิ่มขึ้นระหว่างเขากับเธอเซ็กซ์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่เขาต้องการจากเธอเพียงอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน เพราะมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกมั่นคงในรัก และการรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งขอ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status