ค่ำคืนอันเร่าร้อนได้ทิ้งร่องรอยไว้ในใจของแพรไหมอย่างลึกซึ้ง แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาในห้องนอนใหญ่ไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกสับสนในใจของเธอจางหายไปเลย แพรไหมลืมตาขึ้นช้าๆ ข้างกายของเธอว่างเปล่า คริสเตียน ไม่ได้อยู่บนเตียงแล้ว เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจางๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนผ้าปูที่นอน ราวกับว่าเขาเพิ่งลุกจากไปไม่นาน
เธอลูบไล้ริมฝีปากของตัวเองเบาๆ สัมผัสถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยจากการจูบที่ดุดันเมื่อคืน ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ ทุกสัมผัส ทุกอารมณ์ที่รุนแรง และความรู้สึกที่เร่าร้อนจนเธอแทบจะหลอมละลายไปกับเขา มันเป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับความปรารถนาที่รุนแรงถึงเพียงนั้น แรงดึงดูดระหว่างเธอกับคริสเตียนนั้นปฏิเสธไม่ได้เลย
แต่เมื่อความเร่าร้อนจางหายไป ความสับสนก็เข้ามาแทนที่ แพรไหมรู้สึกผิดที่ร่างกายของเธอตอบสนองต่อเขาอย่างง่ายดายถึงเพียงนั้น เธอควรจะรังเกียจเขา เธอควรจะเกลียดเขา แต่ทำไมทำไมร่างกายและหัวใจของเธอถึงได้มีความรู้สึกที่แปลกประหลาดนี้เกิดขึ้น
เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างเชื่องช้า เดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปยังสวนสวยด้านนอก ทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิม แต่โลกภายในของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ลีโอนำอาหารเช้ามาเสิร์ฟถึงห้องเหมือนเคย แพรไหมพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แต่ลีโอสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเธอ
“คุณแพรไหมดูไม่สดใสเลยนะครับ” ลีโอเอ่ยทักด้วยความเป็นห่วง
แพรไหมยิ้มบางๆ “ฉันสบายดีค่ะคุณลีโอ แค่นอนไม่ค่อยหลับ”
ลีโอพยักหน้าเล็กน้อย แต่แววตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความกังวล
หลังจากรับประทานอาหารเช้า แพรไหมเริ่มเรียนรู้มารยาททางสังคมและการจัดการคฤหาสน์ตามตารางที่คริสเตียนกำหนดไว้ เธอพยายามจดจ่อกับการเรียน เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องคิดถึงเรื่องเมื่อคืน แต่ภาพของคริสเตียนยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของเธอ
ตลอดทั้งวันเธอรู้สึกถึงความอึดอัดที่แผ่ซ่านไปทั่วคฤหาสน์ แพรไหมสังเกตเห็นว่าคนรับใช้ดูจะเงียบกว่าปกติ และมีบางอย่างผิดปกติที่เธอยังไม่เข้าใจ
ตกบ่ายแพรไหมกำลังเรียนภาษาอิตาลีอยู่ในห้องสมุด เสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ เธอเห็นรถคันหรูของโซเฟียจอดอยู่ตรงลานหน้าบ้าน
หัวใจของแพรไหมเต้นรัวด้วยความกังวล โซเฟียกลับมาแล้วเร็วกว่าที่เธอคิดไว้มากนัก
แพรไหมพยายามสงบสติอารมณ์ เธอรู้ว่าการเผชิญหน้ากับโซเฟียเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในโลกของคริสเตียน
ไม่นานนัก เสียงของโซเฟียก็ดังขึ้นมาจากโถงทางเข้า เธอไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่แต่งกายภูมิฐานและดูเย่อหยิ่งไม่แพ้โซเฟีย
“คริสเตียน! ที่รัก! ฉันคิดถึงคุณจังเลยค่ะ!” เสียงหวานเยิ้มของโซเฟียดังขึ้น
แพรไหมเดินไปที่ระเบียง มองลงไปเห็นโซเฟียกอดแขนคริสเตียนอย่างสนิทสนม และหันไปพูดคุยกับหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“นี่คุณหญิงพิมลพรรณค่ะ ท่านเป็นเพื่อนสนิทของคุณแม่ และเป็นแขกคนสำคัญของเราในวันนี้” โซเฟียแนะนำด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ราวกับว่าเธอเป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้
แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอีกครั้ง โซเฟียกำลังใช้คุณหญิงพิมลพรรณเป็นเครื่องมือในการแสดงอำนาจและสถานะของเธอ
คริสเตียนดูจะไม่มีความสุขกับการมาของโซเฟีย แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีปฏิเสธมากนัก แพรไหมสังเกตเห็นว่าคริสเตียนมีสีหน้าที่เคร่งเครียดกว่าปกติ และสายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาที่เธอคุ้นเคย
“คุณมาทำอะไรที่นี่ โซเฟีย” คริสเตียนถามเสียงเรียบ
“โอ้ คริสเตียน อย่าทำเป็นใจร้ายไปหน่อยเลยค่ะ” โซเฟียยิ้มหวาน
“ฉันแค่อยากมาเยี่ยมคุณ และถือโอกาสพาคุณหญิงพิมลพรรณมาแนะนำให้คุณรู้จักอย่างเป็นทางการด้วย”
โซเฟียเหลือบมองขึ้นมาบนระเบียงห้องนอนของคริสเตียน ดวงตาของเธอจับจ้องแพรไหมอย่างจงใจ แพรไหมสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มเหยียดหยามที่มุมปากของโซเฟีย
“ไหนล่ะคะ ‘ภรรยา’ ของคุณคริสเตียน ฉันได้ยินมาว่าเธอสวยมากนี่คะ” โซเฟียพูดเสียงดังราวกับจงใจให้แพรไหมได้ยิน
คริสเตียนหันมามองแพรไหม ดวงตาของเขาดูซับซ้อน แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
ลีโอ เดินเข้ามาใกล้แพรไหม
“คุณแพรไหมครับ นายต้องการให้คุณลงไปที่ห้องรับแขกครับ”
แพรไหมพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า เธอรู้ว่าเธอต้องเผชิญหน้ากับโซเฟียแล้วในตอนนี้
เมื่อแพรไหมเดินลงมาถึงห้องรับแขก เธอเห็นโซเฟียกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาข้างคริสเตียน คุณหญิงพิมลพรรณนั่งอยู่โซฟาตรงข้าม มองแพรไหมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาประเมิน
“นี่สินะคะภรรยาของคริสเตียน” โซเฟียพูดด้วยน้ำเสียงที่เน้นคำว่าภรรยาอย่างจงใจ
“แพรไหม เธอคงจะยังไม่คุ้นเคยกับแขกคนสำคัญของคริสเตียนสินะจ๊ะ”
แพรไหมยิ้มบางๆ “สวัสดีค่ะคุณหญิงพิมลพรรณ”
คุณหญิงพิมลพรรณเพียงแค่พยักหน้ารับเล็กน้อย โดยไม่เอ่ยปากพูดอะไร แพรไหมรู้สึกถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากทั้งสองคน
“แพรไหม นั่งสิ” คริสเตียนพูดเสียงเรียบ เขาไม่ได้มองแพรไหม แต่จ้องไปที่โซเฟีย
แพรไหมเดินไปนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโซเฟีย เธอพยายามทำตัวให้สงบที่สุดเท่าที่จะทำได้
“คริสเตียนคะ ฉันได้ยินมาว่าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่โรมเหรอคะ” โซเฟียเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอดูเป็นห่วง แต่แววตากลับซ่อนความยินดีบางอย่างไว้
คริสเตียนขมวดคิ้วเล็กน้อย “เรื่องของผม ไม่จำเป็นต้องให้คุณรู้”
“โอ้ คริสเตียน” โซเฟียถอนหายใจ “ฉันก็แค่ห่วงคุณ คุณรู้ดีว่าฉันเข้าใจธุรกิจของคุณดีแค่ไหน ฉันสามารถช่วยคุณได้นะคะ”
คำพูดของโซเฟียทำให้แพรไหมรู้สึกอึดอัด เธอรู้ว่าโซเฟียกำลังพยายามแสดงให้เห็นว่าเธอสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อคริสเตียนมากกว่าแพรไหม
“ผมจัดการเองได้” คริสเตียนตอบเสียงเรียบ
“แต่บางครั้ง ผู้ชายก็ต้องการผู้หญิงที่เข้าใจและคอยสนับสนุนอยู่ข้างๆ นะคะ” โซเฟียหันมามองแพรไหมด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่รู้แต่เรื่องในครัวเรือน”
คำพูดของโซเฟียทำให้แพรไหมหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอรู้สึกเหมือนถูกดูถูกอย่างรุนแรง
“ฉันคิดว่าหน้าที่ภรรยาที่ดีก็คือการดูแลสามีและบ้านให้ดีที่สุดค่ะ” แพรไหมตอบกลับเสียงเรียบ แต่แววตาของเธอแข็งกร้าว โซเฟียเลิกคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนไม่คิดว่าแพรไหมจะกล้าตอบโต้
“โอ้โห… ดูเหมือนแม่บ้านคนสวยของเราจะมีความคิดเป็นของตัวเองด้วยนะคะ” โซเฟียหัวเราะเยาะ
“แต่มันจะเพียงพอที่จะทำให้คุณยืนอยู่ในโลกของคริสเตียนได้นานแค่ไหนกัน”
คุณหญิงพิมลพรรณมองโซเฟียด้วยความชื่นชม และมองแพรไหมด้วยสายตาเหยียดหยาม
“ผมคิดว่าคุณควรจะหยุดพูดจาดูถูกภรรยาของผมได้แล้ว โซเฟีย” คริสเตียนเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ ดวงตาของเขาฉายแววอันตราย
โซเฟียยิ้มหวาน “ฉันก็แค่พูดความจริงนี่คะ คริสเตียน ฉันรู้ว่าใครกันแน่ที่เหมาะจะยืนอยู่เคียงข้างคุณ”
แพรไหมรู้สึกเจ็บปวดกับการโต้เถียงกันของทั้งสองคน เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในการแข่งขันของพวกเขา
“ฉันขอตัวไปเตรียมชาเพิ่มนะคะ” แพรไหมพูดขึ้น เธอรู้สึกว่าเธอต้องหนีไปจากสถานการณ์นี้
“คุณแพรไหมไม่จำเป็นต้องทำอะไรหรอกค่ะ” โซเฟียพูดเสียงเรียบ
“ที่นี่มีคนรับใช้เยอะแยะ คุณแค่ทำตัวให้เป็นคุณนายที่สมบูรณ์แบบก็พอแล้ว”
คำพูดของโซเฟียทำให้แพรไหมรู้สึกเหมือนถูกตรึงไว้กับที่ เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีจนจมดิน
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปพักผ่อนสักครู่ค่ะ” แพรไหมพูด ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องรับแขกไปอย่างรวดเร็ว เธอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของโซเฟียไล่หลังมา
แพรไหมเดินตรงไปยังห้องนอนของคริสเตียน เธอทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง น้ำตาคลอเบ้า เธอรู้สึกอับอายและเจ็บปวดกับคำพูดของโซเฟีย และเธอรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าเหลือเกินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่เพียบพร้อมอย่างโซเฟีย
'ฉันไม่คู่ควรกับคริสเตียนจริงๆ เหรอ' แพรไหมคิดในใจ คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเธอซ้ำไปซ้ำมา
หลังจากนั้นไม่นานลีโอก็เข้ามาในห้องนอน
“คุณแพรไหมครับ นายเป็นห่วงคุณนะครับ” ลีโอเอ่ยขึ้น
แพรไหมส่ายหน้า “เขาไม่ได้ห่วงฉันหรอกค่ะ เขาแค่ห่วงภาพลักษณ์ของเขา”
ลีโอถอนหายใจ “นายไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดหรอกครับ ท่านแค่ไม่แสดงออก”
“ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะอยู่ที่นี่ต่อไปดีไหมค่ะคุณลีโอ” แพรไหมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันรู้สึกเหมือนฉันเป็นแค่ตัวปัญหา”
ลีโอเดินเข้ามาใกล้แพรไหม เขาวางมือลงบนไหล่ของเธอเบาๆ “คุณแพรไหมไม่ใช่ตัวปัญหาครับ คุณเป็นคนสำคัญของนาย”
คำพูดของลีโอทำให้แพรไหมรู้สึกแปลกใจ เธอไม่เคยคิดว่าเธอจะสำคัญสำหรับคริสเตียน
คุณพักผ่อนเถอะครับ” ลีโอพูด “ผมจะจัดการทุกอย่างให้เอง”
ลีโอเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้แพรไหมอยู่กับความคิดของตัวเอง เธอคิดถึงคำพูดของโซเฟียที่ดูถูกเธอ และคำพูดของลีโอที่พยายามจะปลอบโยนเธอ
'ฉันควรจะเชื่อใครดี' แพรไหมถามตัวเอง
ค่ำคืนนั้นคริสเตียนกลับเข้ามาในห้องนอน แพรไหมยังคงแกล้งหลับ เธอรู้สึกถึงน้ำหนักของเขาที่ยุบลงบนเตียงอีกด้านหนึ่ง แพรไหมรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากตัวเขา และกลิ่นหอมจางๆ ของน้ำหอมประจำตัวของเขาที่ทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคย
คริสเตียนพลิกตัวเข้าหาแพรไหม เขาดึงร่างของเธอเข้ามากอดไว้แน่น แพรไหมรู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่รินรดบนเส้นผมของเธอ
“อย่าไปสนใจสิ่งที่โซเฟียพูด” คริสเตียนกระซิบเสียงแผ่ว
“คุณดีที่สุดแล้วสำหรับผม”
คำพูดของเขาทำให้หัวใจของแพรไหมเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เธอไม่เคยคิดว่าคริสเตียนจะพูดคำพูดแบบนี้กับเธอได้ แพรไหมรู้สึกถึงความผูกพันบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเธอ ความผูกพันที่ไม่ใช่แค่ทางกาย แต่เป็นทางอารมณ์ด้วย
เธอไม่รู้ว่าคำพูดของเขาเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงวิธีที่จะทำให้เธอสบายใจขึ้น แต่ในขณะนั้น แพรไหมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ เธอหลับตาลงอย่างช้าๆ ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงไปในอ้อมกอดของคริสเตียน
เธอไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่มันเป็นความรู้สึกที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้เลย
ตอนที่ 80 เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวหลังผ่านบทพิสูจน์แห่งผู้นำ และการกอบกู้วิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ อเล็กซานเดอร์ ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย แต่สิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเขาและ ลลิล ให้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงคือ ข่าวดีที่สุด ที่พวกเขารอคอยมาตลอด เสียงเล็กๆ ในอนาคตกำลังจะกลายเป็นความจริง และนำพาความสุขมาสู่ตระกูลคาร์ดินัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหลังจากที่ทั้งสองคนได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเรื่องการมีทายาท อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อแม่ ลลิลเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการดูแลทารกอย่างละเอียด ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มจัดเตรียมห้องเล็กๆ ในคอนโดเพื่อรอรับสมาชิกใหม่ความคาดหวังเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน แต่พวกเขาก็พยายามไม่กดดันตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ลลิลรู้สึกไม่สบายตัว อาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียทำให้เธอสงสัย เธอตัดสินใจใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความสุขและความตื่นเต้นสองขีดสีชมพู ปรากฏชัดเจน ลลิลกรีดร้องด้วยความดีใจ เธอไม่สามารถเก็บความลับนี้ไว้คนเดียวได้ เธอตัดสินใจจะบอกข่าวดีนี้กับอเล็กซานเดอร์ในทันที แต่เธอ
ตอนที่ 79 บทพิสูจน์แห่งผู้นำท่ามกลางความกังวลเรื่องทายาทและความสุขในชีวิตคู่ อเล็กซานเดอร์ ก็ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญในบทบาทของผู้นำ นั่นคือการแก้ไขวิกฤตการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความท้าทายนี้ไม่เพียงเป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณธรรมและความโปร่งใสที่ กลุ่มคาร์ดินัล ยุคใหม่ยึดมั่นเมื่อหลักฐานเริ่มชัดเจนว่ามีการทุจริตจริงในบริษัทสตาร์ทอัพที่คาร์ดินัลลงทุนไป อเล็กซานเดอร์ ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรอบคอบ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่จับตัวผู้กระทำผิด แต่ต้องการถอนรากถอนโคนปัญหา เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอเล็กซานเดอร์เรียกประชุมทีมงานคนสำคัญของคาร์ดินัลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ รวมถึง เดฟ และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาชื่อเสียงและความโปร่งใสของบริษัท“เราจะไม่ยอมให้การทุจริตใดๆ มาแปดเปื้อนชื่อเสียงของคาร์ดินัลอีกแล้ว” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในห้องประชุม “เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด”เขามอบหมายให้ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าม
ตอนที่ 78 บททดสอบใหม่และเสียงเล็กๆ ในอนาคตชีวิตคู่ของ อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ดำเนินไปอย่างราบรื่นและอบอุ่น แต่ในโลกของธุรกิจและความรับผิดชอบที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ย่อมมี ความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งของพวกเขาเสมอ และท่ามกลางความท้าทายเหล่านั้น เสียงเล็กๆ ในอนาคตก็เริ่มดังขึ้นในหัวใจของทั้งคู่ในขณะที่โครงการเยียวยาชุมชนของมูลนิธิคาร์ดินัลดำเนินไปอย่างงดงาม และได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ปัญหาใหม่กลับเกิดขึ้นภายในอาณาจักรธุรกิจของคาร์ดินัลเองคริสเตียน ได้มอบหมายให้ อเล็กซานเดอร์ เข้ามาดูแลการลงทุนใน โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่คาร์ดินัลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก แต่โครงการนี้กลับประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นมีรายงานว่าบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่คาร์ดินัลเข้าไปลงทุน มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการภายใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ล่าช้ากว่ากำหนด และที่สำคัญที่สุดคือ มี ข่าวลือเรื่องการทุจริต ของผู้บริหารระดับสูงบางรายในบริษัทนั้น“พ่อว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยนะอเล็กซานเดอร์” คริสเตียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องทำงานของเขา “เราไม่อยากให้ชื่อเสียงของคา
ตอนที่ 77 บทใหม่แห่งชีวิตร่วมหลังพิธีวิวาห์ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความหมาย อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็ได้เริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักที่โรแมนติก แต่ยังรวมถึงการปรับตัว การเรียนรู้ และการเติบโตไปพร้อมกันในทุกๆ วันชีวิตคู่เริ่มต้นขึ้นที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "เรือนหอ" ที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัวของพวกเขา แม้จะเคยมาพักอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แต่การย้ายข้าวของทั้งหมดเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างถาวร ก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปลลิลใช้ความสามารถด้านการออกแบบของเธอเข้ามาเนรมิตห้องชุดให้เป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของทั้งคู่ได้อย่างลงตัว เธอเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆ และเปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือและงานศิลปะที่เธอชื่นชอบ ทำให้คอนโดแห่งนี้มีชีวิตชีวาและเป็น "บ้าน" อย่างแท้จริง“คุณชอบไหมครับคุณ” อเล็กซานเดอร์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ลลิลจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยลลิลโอบแขนรอบเอวเขา “ฉันชอบมากค่ะที่รัก มันเป็นบ้านของเราจริงๆ”การปรับตัวเข้าหากันในรายละเอียด
ตอนที่ 76 ถักทอความรัก สู่พิธีวิวาห์หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ได้ขอ ลลิล แต่งงานอย่างเป็นทางการ บรรยากาศของความสุขและความตื่นเต้นก็ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์คาร์ดินัล การเตรียมงานแต่งงานเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนถึงความรักที่มั่นคงและบริสุทธิ์ของทั้งคู่ทั้งอเล็กซานเดอร์และลลิลต่างเห็นพ้องต้องกันว่างานแต่งงานของพวกเขาจะต้อง เรียบง่าย อบอุ่น และเป็นส่วนตัว โดยเน้นไปที่ความหมายและความผูกพันของสองครอบครัวมากกว่าความหรูหราอลังการ“ฉันอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นวันที่เราได้แบ่งปันความสุขกับคนที่เรารักและห่วงใยค่ะที่รัก” ลลิลบอกกับอเล็กซานเดอร์ในขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันเรื่องการจัดงานอเล็กซานเดอร์ยิ้ม “ผมก็คิดอย่างนั้นครับคุณ”พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดพิธีหมั้นและงานแต่งงานเล็กๆ ที่ คฤหาสน์คาร์ดินัล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลลิลมีความทรงจำดีๆ มากมาย และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเธอ โดยจะมีเพียงญาติสนิทและเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเชิญแพรไหม ผู้เป็นแม่ของอเล็กซานเดอร์ เป็นผู้ดูแลการเตรียมงานทั้งหมดอย่างละเอียดอ่อน เธอต้องการให้งานแต่งงานของลูกชายออกมาสมบู
ตอนที่ 75 จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตคู่หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคและร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ มาด้วยกัน อเล็กซานเดอร์ ก็ตระหนักแล้วว่า ลลิล คือผู้หญิงที่ฟ้าส่งมาให้เขา เขาไม่ต้องการรออีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ความรักของพวกเขาจะก้าวไปอีกขั้น สู่การเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ชัดเจนและมั่นคงการขอแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูด แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกและช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ อเล็กซานเดอร์ใช้เวลาหลายวันในการวางแผน เขาอยากให้การขอแต่งงานครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ลลิลจะไม่มีวันลืมเขาปรึกษาเรื่องนี้กับ แพรไหม ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นคนที่เข้าใจหัวใจของผู้หญิงดีที่สุด“ลูกอยากขอแต่งงานกับลลิลครับแม่” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “ผมอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดสำหรับเธอ”แพรไหมยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่ดีใจด้วยนะลูก แม่รู้ว่าลลิลคือคนที่ใช่สำหรับลูกจริงๆ”แพรไหมช่วยอเล็กซานเดอร์วางแผนอย่างละเอียด เธอแนะนำให้เขาเลือกสถานที่ที่มีความหมายกับทั้งคู่ และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว อเล็กซานเดอร์คิดถึง บ้านพักที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ความรักของเขาและลลิลเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงเขาจัดเตรียมทุกอย่