08.30 น.
“กรี๊ดดด” เสียงกรี๊ดแปดหลอดแสบแก้วหูดังสนั่นหวั่นไหวออกมาด้านนอกจนคนที่กำลังนั่งอ่านข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์พร้อมจิบกาแฟแบบสบายๆต้อนรับเช้าวันใหม่ตรงโต๊ะอาหารเกิดอาการสะดุ้งตกใจและรีบวางทุกอย่างที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นเดินแกมวิ่งไปทางต้นเสียงที่เขารู้ดีว่าคือที่ไหนอย่างรีบร้อนด้วยสีหน้าเป็นกังวลเพราะกลัวว่าคนในนั้นจะเป็นอะไรร้ายแรง “มีเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอจัสมิน” อนาวินถามเสียงเครียดแล้วรีบกวาดสายตามองรอบห้องนอนซึ่งก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ ได้แต่มองร่างบาง บนเตียงที่นั่งปิดหน้าปิดตาสะอึกสะอื้นน้ำตาไหลพรากเหมือนเด็กตัวเล็กๆถูกรังแกงอแงอย่างน่าสงสาร เห็นแล้วอดไม่ได้จึงขยับตัเข้าไปใกล้แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างเตียง พลางดึงรั้งร่างที่สั่นเทาเพราะแรงสะอื้นเข้ามากอดเพื่อปลอบประโลม “ฮือๆ” “เป็นอะไรครับคนเก่ง จัสมินร้องไห้ทำไมบอกได้ไหมครับ” น้ำเสียงทุ้มนุ่มชวนฟังถามอย่างใจเย็นไม่เร่งรัดจะเอาคำตอบ แม้อยากจะรู้ใจแทบขาดก็ตาม “หนู...หนู ฮึก...ฮือ” พูดยังไม่ทันรู้เรื่องจัสมินก็ปล่อยโฮออกมาอีกระลอกใหญ่ ใบหน้าสวยใสแดงก่ำเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตามากมายที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย พลางเอียงแก้มเข้าซบกับอกอุ่น มือบางขยุ้มเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดเอาไว้แน่นจนยับยู่ยี่ในพริบตา ชุดที่พร้อมออกไปทำงานเห็นทีต้องเปลี่ยนใหม่ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะปัญหาหลักใหญ่อยู่ที่สาวเจ้าน้ำตาที่ยังไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น “หนูอะไรพูดให้ชัดๆ สิครับจัสมิน พูดไปร้องไห้ไปแบบนี้ฟังไม่รู้เรื่องเลย” เขาตระกองกอดร่างหอมเอาไว้แนบอกไม่ยอมปล่อย ตื่นขึ้นมาก็ร้องห่มร้องไห้เล่นเอาจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย จัสมินสะอึกสะอื้นไม่ยอมหยุด มองหน้าคู่กรณีด้วยดวงตาวาววับ ริมฝีปากสั่นระริกขบเม้มเป็นระยะ สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกเรี่ยวแรง “ปล้ำหนูทำไม ฮึก...ฮือ” พูดจบก็ปล่อยโฮอีกรอบ ทุบตีร่างกายแกร่งไม่ยั้งจนมือแดง “ปล้ำ!” อนาวินอุทานออกมาอย่างตกใจในข้อกล่าวหาของแม่หนูในอ้อมแขน ที่ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรนี่จัสมินคิดว่าถูกเขาทำมิดีมิร้าย อยากจะขำนักแต่ก็ดันขำไม่ออกเพราะหากพูดผิดหูหรือหัวเราะคงจะโดนหนักกว่าข้อกล่าวหาแน่ๆ นี่ขนาดร้องไห้เสียใจอยู่ยังมีแก่ใจมองค้อนตาคว่ำทำปากยื่นให้มันเขี้ยว “ทำไมจัสมินถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ หืม” ถามอย่างสงสัย “ก็ทุกอย่างมันชี้ชัดขนาดนี้ยังต้องถามอีกเหรอคะว่าทำไมถึงคิด” ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักก็เงยขึ้นมองหน้าอนาวินอย่างหาเรื่องเมื่อสงบสติอารมณ์และอาการฟูมฟายลงได้บ้าง เมื่อคืนนี้เธอไม่ได้กลับบ้าน เช้าตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของผู้ชายคนนี้ ที่รู้ก็เพราะกรอบรูปตรงหัวเตียงตั้งเด่นหรา เสื้อผ้าถูกผลัดเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคล่ง ด้านในที่ควรมีชุดชั้นในทั้งบนทั้งร่างก็ไม่มีแบบนี้จะให้คิดยังไง “อืม ถ้าผมปล้ำจริงๆคุณคิดว่าผมควรจะทำยังไงกับคุณต่อดี ลองแสดงความคิดเห็นมาสิครับจัสมิน” เขาลองหยั่งเชิงคนที่คิดเป็นตุเป็นตะด้วยสีหน้าจริงจัง ดิ้นรนขัดขืนออกจากอ้อมแขนให้ตายเขาก็ยังไม่มีทางยอมปล่อยง่ายๆหรอก อยากมาพูดจากล่าวหาลอยๆ ดีนักเดี๋ยวเล่นให้สมบทบาทไปเลยดีไหมเนี่ย จัสมิส่ายหน้า เม้มปากแน่น สมองในตอนนี้มันคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น มีแต่ความเสียใจที่ทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนี้ พลางคิดโทษตัวเองที่โง่เชื่อใจ น้ำตาก็พาลจะไหลออกมาอีกรอบ อนาวินถอนหายใจแต่ก็ยังคงอมยิ้มน้อยๆ หยิกแก้มนุ่มที่แดงเพราะการร้องไห้เบาๆ อย่างเอ็นดู การแสดงออกที่ไม่มีหมกเม็ดทำให้เขารู้สึกสงสารแต่ก็อยากจะแกล้งไปในคราวเดียวกัน “เราสองคนมาแต่งงานกันดีไหม ในเมื่อผมล่วงเกินคุณไปแล้วรับผิดชอบด้วยวิธีนี้น่าจะดีที่สุด โอเคไหมครับจัสมิน” อนาวินจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากเกลี้ยงแล้วแอบซ่อนรอยยิ้มขบขันเอาไว้อย่างแนบเนียน เมื่อเห็นสีหน้าตื่นๆของจัสมิน “แต่งงาน!!!” “ใช่ แต่งงานกัน”“คล้ายกันนิดหน่อยก็ไม่ได้ด้วยเหรอคะ พี่เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเมียพี่หวงสามีแม้กระทั่งคำพูด” อนาวินนิ่วหน้าคล้ายไม่ทันเกมของภรรยาแสนดื้อที่ชักจะเจ้าเล่ห์ขึ้นทุกวัน“ต้องหวงสิคะ กับสามีนี่ยิ่งต้องหวงหนักเลย เพราะว่ามันมีค่าลิขสิทธิ์ พี่วินต้องจ่ายค่าปรับให้แก่หนูซึ่งก็คือรองเท้าคู่ใหม่ที่เพิ่งวางขายไปเมื่อวานนี้สักสองคู่เป็นอย่างต่ำ น้อยกว่านี้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ทราบว่ายินยอมพร้อมใจที่จะตอบโอเคเลยไหมคะสามีขา” ถึงไม่ใช้วิธีนี้แกล้งเขา แค่เพียงเธอเอ่ยปากบอกว่าอยากได้มันมาครอบครองพี่วินก็ยอมซื้อให้แล้ว“นี่พี่ต้องโดนอีกแล้วใช่ไหมคะเนี่ย” เขาแกล้งทำสีหน้าสลดไปอย่างนั้นเพื่อเพิ่มสีสัน ใจนั้นยินดีจะจ่ายค่าปรับแสนแพงให้อย่างไม่มีเงื่อนไขอยู่แล้ว“จะไม่ยอมจ่ายให้หนูเหรอคะ”“ตรงกันข้ามจะรีบจ่ายให้ทันทีเมื่อกลับเข้ากรุงเทพ”“มันต้องแบบนี้สิคะสามีขา” มือเรียวประคองใบหน้าคมสันไว้แล้วจุมพิตแบบไม่มีกั๊ก หัวเราะคิกเมื่อถูกอนาวินยึดแก้มไว้แล้วระดมจูบกลับคืนมาชุดใหญ่“รักเมียขานะคะ”“หนูก็รักสามีขานะคะ”อนาวินรัดร่างกลมกลึงที่ยังคงนอนอยู่บนตัวเขาเอาไว้แน่น อากาศที่ค่อนข้างร้อนกลับไม่ส่งผลให้ทั้งสองคนอยากแยก
อนาวินพลิกตัวนอนหงายเพื่อรองรับร่างกายนุ่มนิ่มไปทุกสัดส่วนที่ปีนป่ายขึ้นมานอนทับอยู่บนตัวแทนการนอนแคร่ไม้ไผ่ โดยแนบแก้มหอมกรุ่นกลิ่นแป้งเด็กไว้ตรงหัวไหล่ข้างหนึ่ง ไม่ได้หลับหรือละเมอแต่กำลังตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือในมือ เดิมทีแค่พาดขาก่ายแต่ตอนนี้ภรรยาตัวน้อยปรับเปลี่ยนท่าทางอีกแล้ว พลางชะโงกหน้าจูบที่ขมับบางอยู่หลายครั้งติดอย่างมันเขี้ยวปนเอ็นดูเมียรัก ยกมือขึ้นลูบไล้เส้นผมนุ่มสลวยสูดหอมละมุนเข้าปอดอย่างชื่นใจ เขาชอบที่จะให้จัสมินคลอเคลียทำตัวติดกัน และไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น คนสวยของเขาก็ชอบเกาะติดสามีขาเช่นเดียวกัน วันไหนที่มีเหตุไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่เป็นอันทำงานทำการอะไรเท่าไหร่ เพราะเอาแต่โทรหากันจนเครือข่ายโทรศัพท์ไฟแทบลุกไหม้ เนื่องจากไม่ได้พักผ่อนคู่สาย อันนี้เขาไม่ได้พูดเองแต่น้องสาวสุดที่รักเป็นคนค่อนขอด“พี่วินขา หนูอยากกินกีวีจังเลยค่ะ ป้อนหนูหน่อยค่ะสามีขา” เสียงใสร้องบอกสามีสุดที่รักโดยที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่หน้านิตยสารแฟชั่นฉบับล่าสุดของเดือนนี้ ไม่ได้ชื่นชอบแฟชั่นจ๋าก็จริง แต่อะไรที่ออกมาใหม่แล้วโนจัสมินคนนี้ก็ไม่เคยพลาด“อ้าปากค่ะ” กีวีชิ้นพอดีคำยื่นมาจ่อตรงปากสีสดทั
“ง่วงจังค่ะสามีขา” จัสมินเอนแผ่นหลังพิงอกสามีที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังอย่างผ่อนคลาย “ยังไม่ให้ง่วงตอนนี้หรอก” ใบหน้าคมสันยื่นจูบเรียวปากสวย เลาะเล็มชิมความหวานสลับดูดเม้มตามจุดที่พึงปรารถนา พลางเคล้นคลึงดอกบัวตูมปริ่มน้ำ ขับไล่ความง่วงงุนที่เริ่มเข้ามาเกาะกินจัสมินให้กระเด็นออกไปไกล ๆ“อืม” เสียงครางยาวดังขึ้นเมื่อคนเกียจคร้านและอยู่ในอาการอยากนอนถูกปรับเปลี่ยนการนั่งจากหันหลังให้แก่กัน กลายเป็นนั่งคร่อมตักกว้างเอาไว้ พลางแนบซบใบหน้าผุดผาดกับซอกคอแกร่ง โดยมีฝ่ามืออบอุ่นคอยลูบไล้ “สองรอบแล้วสามีขาจะให้เมียขานอนตามสบายโอเคไหมคะ” จุมพิตลาดไหล่เนียน ซุกไซ้หลังลำคอ พลางโยกร่างบอบบางบนตักให้ร่างกายได้เสียดสีกัน“กินมากเดี๋ยวจุกกันพอดีค่ะ” อนาวินหัวเราะในลำคออย่างเอ็นดูก่อนจะจูบเม้มที่เรียวปากจิ้มลิ้มฉ่ำวาว “จุกไม่กลัว พี่กลัวจะกินไม่อิ่มมากกว่า” ตอบคนช่างฉอเลาะที่ผงกศีรษะขึ้นมาตวัดค้อนอย่างน่ารัก เขายิ้มรับและก้มหน้าลงครอบอครองยอดอกสีหวานแทน “งื้อ” จัสมินครางเสียงหงุงหงิง แล้วแอ่นตัวไปด้นหลังอย่างเผลอไผล เป็นการเปิดทางให้คนหิวได้กินถนัดถนี่มากกว่าเดิม และเหมือนน้ำอุ่นมันจะร้อนขึ้นด้วย“ขา
“พี่วินชักจะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะคะ” ต่อว่าสามีเสียงเง้างอด และเตรียมตั้งท่าจะขยับกายลงจากเตียงเมื่อสามีสุดที่รักล่าถอยห่างออกไปหลายก้าว ภายใต้บุคลิกนิ่งเฉยที่พี่วินแสดงออกมันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น“พี่เอาแต่ใจกับเมียผิดด้วยเหรอคะ เอาล่ะเลิกต่อว่าสามีขาได้แล้ว พี่พาไปล้างตัวดีกว่า แต่เห็นทีพี่คงไม่สามารถบริการหนูทั้งในชุดนี้ได้คงต้องถอดมันออกก่อน” มือใหญ่เริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ภรรยาช่างอ้อนและช่างเอาใจเลือกให้ใส่ ยิ้มใส่นัยน์ตาคู่สวยที่ตวัดค้อนให้ควักอย่างมันเขี้ยว “ถ้าลุกหนีคืนนี้พี่จะทำโทษทั้งคืนนะคะ โปรแกรมเที่ยวที่วางเอาไว้ก็ยกเลิกด้วย จะคิดว่าพี่แค่ขู่ก็ได้นะ” เท่านั้นแหละหน้างอง้ำเป็นจวักตักแกงเลย “ใจร้าย” ทำปากยื่นแล้วยกแขนเกี่ยวคอให้สามีอุ้มอย่างไม่อิดออดหรือเล่นตัว มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องยอมให้ท่านประธานใหญ่เขาบริการให้ตามใจชอบ ดีจะตายมีคนคอยอาบน้ำขัดตัวให้ถึงแม้จะมือปลาหมึกไปหน่อยก็ตาม“พี่เคยใจร้ายจริงจังสักกี่ครั้งหืม” อนาวินพาภรรยาสาวน้อยมายืนใต้ฝักบัว สายน้ำเย็นฉ่ำที่รินรดช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ร่างกายสดชื่น ใบหน้างามเลยผุดเผยรอยยิ้มกว้างกระจ่างใส เลยทำให้เขาพลอยยิ้
“นอนหงายหน่อยดีไหมคะ” “พี่วินไม่ฟังหนู”“พี่อยากเป็นคนนวดให้จัสมินด้วยตัวเองค่ะ เรื่องงานพี่ไว้ทีหลังได้เอาตามที่พี่พูด ตกลงไหมครับ” เขาชอบที่จะเอาใจเมียแบบนี้ ไม่ว่าใครจะมีความคิดเห็นอย่างไรเขาไม่เคยเก็บมาใส่ใจหรือใส่สมองให้มันเปลืองพื้นที่โดยใช่เหตุ เขาอยากให้จัสมินได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่ตนเองจะทำให้ได้“หนูขัดพี่วินไม่เคยได้เลย” พูดเสียงยุ่งแต่ก็ยอมพลิกกายนอนหงายตามที่สามีแนะนำ คนที่กลืนน้ำลายกลายเป็นอนาวินเมื่อดอกบัวตูมของเขาผลิบานไร้สิ่งปกปิดความงดงาม ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ค่อยชอบใจที่จะให้ภรรยาตนเองมานอนนวด แม้จะอยู่ในโรงแรม ห้องหับมิดชิด คนดูแลมีอายุก็ตามอนาวินลงมือกับความเต่งตึงของก้อนเนื้อที่นูนเด่นขึ้นมาทั้งสองข้างอย่างตั้งใจ ลำคอแห้งผากขึ้นมากะทันหัน เห็นอยู่ทุกวันและสัมผัส ทุกวันอีกเช่นกัน ก็ไม่อาจทำให้หายจากอาการตื่นเต้นได้ แต่ก็ยังคงควบคุมอาการของตัวเองได้เป็นอย่างดี ส่วนฝ่ายคนได้รับการบริการระดับพรีเมียมจากท่านประธานใหญ่เริ่มบิดกายเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยปิดสนิท ริมฝีปากขบกัน หน้าท้องแบนราบแขม่วเกร็งเป็นระยะ ตรงส่วนนี้แม้แต่ป้าสายก็ไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้อง มีแ
ก่อนที่เราสองคนจะแต่งงานกันพี่วินงอแงหัวเสียแทบทุกวัน เหตุผลคืออยากนอนกอดทุกคืนแต่ทำอย่างใจคิดไม่ได้ ในระยะหลังจึงชอบหาข้ออ้างในการไปทำงานต่างจังหวัดแล้วพาเธอไปโน่นไปนี่ด้วยเป็นประจำ แถมยังชอบจับกินด้วย ยิ่งวิชาที่ลงเรียนก่อนจะจบมีแค่สองตัวด้วยเลยทำให้มีเวลาว่างเยอะ พี่วินเลยหอบหิ้วพาไปเที่ยวด้วยได้อย่างที่วางแผนเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า และถึงอย่างนั้นใช่ว่าป๋าจะยอมโดยง่าย ทุกครั้งที่ไปจะต้องมีเพื่อนรักตามติดก้นไปด้วยเสมอ โดยที่ป๋าท่านไม่ทราบเลยว่าเพื่อนรักของลูกสาวคนนี้น่ะเข้าข้างพี่วินมากกว่าป๋าที่บอกกันว่ากลัวนักกลัวหนาซะอีกและถึงจะแต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ป๋าก็ยังคงเขม่นพี่วินอยู่แต่น้อยกว่าเดิมเยอะเลย เพราะพี่วินเขาเข้าไปช่วยป๋าทำงานด้วยน่ะสิ มามี๊เลยชอบหยอกล้ออยู่บ่อยครั้งว่าอย่างนี้จะไม่รักลูกเขยแสนดีคนนี้ได้ยังไงไหว ส่วนเธอการปรับเปลี่ยนตัวเองหลังจากแต่งงานเธอก็ไม่ต้องปรับอะไรมากนอกเสียจากทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเพื่อให้สมกับตำแหน่งภรรยาของท่านประธานใหญ่ แต่พี่วินเขาบอกว่าอยากให้เธอเป็นเธอมากกว่า ไม่ว่ายังไงก็รักไม่เปลี่ยนแปลง อบอุ่นหัวใจเมื่อสามีบอกรักแทบทุกเวลาอา...