"ผมขอคุยกับตัวแทนคนในชุมชนเป็นการส่วนตัวได้ไหมครับ"
ชาวียังใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหวเขาต้องการที่จะคุยกับผู้นำชุมชนเพื่อที่จะอธิบายทุกอย่างให้ฟังอย่างชัดเจนเพราะหากคุยกันอยู่ตรงนี้กับชาวบ้านหลายๆคนอธิบายให้ตายยังไงคงไม่รู้เรื่องเป็นแน่เพราะมากคนก็จะมากความ
"ใครจะอาสาคุยกับท่านประธานเป็นการส่วนตัวครับ"
แดนเทพหาอาสาที่จะพูดคุยกับชาวี
"ผมเอง"
และแล้วก็มีชายสูงอายุที่ดูท่าน่าจะเป็นแกนนำพาทุกคนมาที่นี่ยกมือขึ้น
"เชิญตามผมมาทางนี้ครับ"
ชาวีเห็นดังนั้นก็รีบเดินนำหน้าชายสูงอายุมาพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว
ครู่ต่อมา
"ลุงชื่ออะไรครับ"
ชาวีพาชายสูงอายุมาที่ห้องทำงานของเขาและพูดคุยกับอีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร
"ผมชื่อเกรียง"
ชายสูงอายุตอบชาวีอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นักแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไร
"ลุงเกรียงครับผมจะอธิบายให้ฟังแบบนี้นะครับเรื่องที่ชุมชนถูกเผาพวกผมไม่รู้เรื่องจริงๆและถ้าทุกคนถูกขู่ให้ขายที่เรื่องนี้ผมต้องขอโทษด้วยผมจะสั่งคนของผมไม่ให้ทำแบบนี้อีกขอให้ลุงเกรียงสบายใจได้ครับแต่ถ้าหากคนในชุมชนหาหลักฐานมาได้ว่าเป็นคนของผมไปเผาชุมชนจริงผมก็จะยอมรับผิดโดยไม่มีข้อแม้ครับ"
ชาวีพูดคุยกับอีกฝ่ายด้วยท่าทีจริงจังเขารู้ว่าใครทำให้เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นแต่เขาไม่สามารถพูดมันออกมาได้จริงๆเขาคิดว่าคำสัญญาของลูกผู้ชายอย่างเขาจะพอทำให้ชายตรงหน้าเชื่อใจและจะพากันกลับไปได้
"พูดให้มันเป็นคำพูดด้วยนะคุณและจะบอกให้ทราบตรงนี้ให้ตายยังไงคนในชุมชนก็ไม่มีวันขายที่ให้พวกคุณผมขอตัว"
เกรียงไกรค่อนข้างพอใจกับคำมั่นของชาวีแต่เขาก็ขอยื่นคำขาดให้ประธานหนุ่มได้รู้ว่ายังไงคนในชุมชนก็ไม่ยอมขายที่ให้พวกเขาแน่นอนแม้ว่าจะใช้วิธีใดมาบีบบังคับพวกเขาก็ตามเมื่อพูดจบจึงรีบเดินกลับไปทันทีเพราะคิดว่าเรื่องนี้ได้พูดคุยกันรู้เรื่องแล้ว
"ครับ"
สิบนาทีต่อมา
"เฮ้อออ.."
เมื่อรู้ว่าคนในชุมชนได้กลับกันไปเรียบร้อยแล้วชาวีก็นั่งกุมขมับถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหนักใจ
“โอเคไหมครับคุณวี"
แดนเทพคอยดูอาการของชาวีอยู่ไม่ห่าง
"เย็นนี้ผมจะเข้าไปหาคุณพ่อไปคุยกับท่านเรื่องนี้ใหม่อีกที"
"จ..จะดีเหรอครับ"
แดนเทพไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดของชาวีเท่าไหร่นักเพราะรู้ว่าคนอย่างชนะพลยังไงก็ไม่ยอมฟังชาวีเป็นแน่หากชาวีไปก็จะทำให้หมางใจกับคนเป็นพ่อบุญธรรมเปล่าๆ
"ผมคงปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้"
ชาวีรู้ว่าพ่อของเขาคงจะไม่ยอมฟังเขาดีๆแต่เรื่องนี้ยังไงเขาก็ต้องคัดค้านให้ได้เพราะถ้าหากชาวบ้านยอมขายที่ดีๆเขาจะไม่ว่าอะไรเลยแต่นี่มันคือการบังคับเขาไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้เท่าไหร่
12.00 น.
แคนทีน
"พี่นุชว่าเมื่อเช้าท่านประธานคุยอะไรกับหัวหน้าชุมชนอะถึงได้กลับไปง่ายๆแบบนั้น"
สองสาวเฌอริตากับจิตรานุชนั่งทานข้าวกันอยู่ที่โรงอาหารของบริษัทเฌอริตาเองยังสงสัยกับเรื่องเมื่อเช้าไม่หายว่าประธานหนุ่มทำอย่างไรหัวหน้าชุมชนคนนั้นถึงยอมกลับไปโดยดี
"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน...แต่เอาที่พี่คิดนะพี่คิดว่าท่านประธานเราคงน่าจะไม่ใช่คนที่สั่งการเรื่องที่ให้ไปกว้านซื้อแน่"
จิตรานุชเองก็ไม่รู้ว่าประธานหนุ่มของเธอใช้วิธีไหนเช่นกันแต่ที่เธอคิดว่าเรื่องที่เกิดมันไม่ได้เป็นฝีมือของประธานหนุ่มแน่นอน
"ทำไมเหรอ"
เฌอริตาเห็นว่าจิตรานุชน่าจะมีความคิดคล้ายๆกับเธอจึงถามความคิดของอีกฝ่ายอย่างอยากรู้
"ก็เพราะพี่รู้มาว่าท่านประธานเราไม่ได้มีสิทธิ์กับเงินกองกลางอะไรในบริษัทเลยที่มาทำงานบริหารระดับสูงนี้ก็ได้แค่เงินเดือนเท่านั้นแล้วจะเอาอำนาจที่ไหนไปตัดสินใจกว้านซื้อที่ดินได้"
"ที่พี่นุชพูดหมายถึงต้องคนเป็นพ่อเท่านั้นใช่ไหมถึงจะทำแบบนี้ได้"
"หัวไวนะเรา...กินข้าวกันเถอะ"
"ค่ะๆ"
เฌอริตาพยักหน้าเข้าใจเธอคิดว่าชนะพลน่าจะใช้ชาวีเป็นหัวโขนออกหน้าให้ตัวเองก็เท่านั้นหากเป็นอย่างที่จิตรานุชพูดมา
เย็นของวัน
คฤหาสน์หรู
"แกจะไปสนใจอะไรกับพวกชาวบ้านพวกนั้นที่ำเป็นโวยวายเพราะอยากได้เงินเพิ่มล่ะสิไม่ว่า"
ชนะพลเห็นว่าเรื่องที่ชาวีมาคุยกับเขาวันนี้มันเป็นสิ่งที่ขัดใจเขาอยู่ไม่น้อย
"แต่ถึงยังไงคุณพ่อก็ไม่น่าไปเผาไล่ที่พวกเค้าแบบนั้นนะครับ"
ชาวีพูดกับคนเป็นพ่อด้วยสีหน้าที่เจื่อนลงเล็กน้อย
"แกรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นคนทำ"
ชนะพลหันมาจ้องชาวีตาเขม็ง
"......"
ชาวียังคงก้มหน้าก้มตานิ่งไม่พูดอะไรเขารู้ได้อย่างไรงั้นหรือเพราะเรื่องนี้มันเดาได้ไม่ยากเลยสำหรับเขา
"คนอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาสอนหรือสั่งฉันและคนอย่างแกก็ต้องทำทุกอย่างตามคำสั่งของฉันเท่านั้นจำใส่หัวของแกเอาไว้...ออกไปได้แล้ววันนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะคุยกับแกแล้ว"
ชนะพลพูดกับลูกชายบุญธรรมของเขาด้วยเสียงแข็งและท่าทีที่ไม่พอใจที่ดูว่าลูกชายคนนี้จะแข็งข้อและหาเรื่องขัดคำสั่งของเขาอยู่บ่อยครั้งจึงต้องคอยเตือนกันอยู่เรื่อยทั้งสั่งให้ชายหนุ่มกลับไปก่อนที่เขาจะคุมอารมณ์ไม่อยู่
"ครับ"
ชาวีหันหลังกลับอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเลยปากไล่
"อีกอย่างนะถึงคนพวกนั้นจะหาหลักฐานมาได้ว่าฉันเป็นคนทำแต่แกก็รู้ว่ากฏหมายทำอะไรฉันไม่ได้"
ชนะพลทิ้งท้ายให้ชาวีได้รับรู้ว่าคนอย่างเขาถ้าหมายใจจะทำอะไรก็ไม่มีใครมาห้ามได้ทั้งนั้น
"......"
ชาวีหยุดฟังคำพูดของพ่อเขาครู่หนึ่งและจึงเดินออกไปจากคฤหาสน์ด้วยสีหน้าอมทุกข์
อาทิตย์ต่อมารัสเซียคฤหาสน์หรู"น้าดาว.."เฌอริมาเห็นอิงดาวเข้ามาในห้องก็รีบวิ่งเข้ามากอดหญิงสาวทันที"น้องเฌอ..พี่ริตาไหนดาวขอดูหน้าหลานหน่อยนะคะ"อิงดาวยิ้มหน้าบานตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าหลานชายตัวน้อย"ในเปลน่ะจะพึ่งหลับไปเมื่อกี้นี้เอง..ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะดาว""เอ่อ..ค่ะ.."อิงดาวแอบสะดุดคำว่าต้อนรับกลับบ้านเล็กน้อยเธอเองไม่รู้เลยว่าเธอจะอยู่ที่นี่กี่วัน"น้องอยู่ไหนคะน้องเฌอคิดถึงน้องค่ะ"เฌอริมารีบเงยหน้าถามอิงดาวทันทีว่าลีน่าอยู่ไหนเพราะคิดถึงน้องสาวของเธอมากถึงขนาดบ่นอยากไปหากับคนเป็นแม่ทุกวัน"อยู่นี่ค่ะ.."ลีโอนาโดอุ้มลูกสาววัยเก้าเดือนของเขาเข้ามาเรียกเฌอริมาเข้ามาหา"ลีน่า...""แอ้...."ฟอดดดดดเฌอริมาเห็นน้องเข้ามาก็รีบกอดรีบหอมตามประสาคนคิดถึงกันจนลีน่าแก้มเริ่มแดงขึ้นมาและเริ่มส่งเสียงประท้วงเล็กน้อย"ท่าจะคิดถึงมากนะเนี่ย.."เฌอริตาพรางมองสองพี่น้องกอดกันด้วยรอยยิ้ม"เราไปนั่งเล่นกับลีน่าตรงโน้นดีกว่านะคะน้องเฌอ""ค่ะคุณลุง"ลีโอนาโดไม่อยากกวนในห้องนี้มากกลัวว่าเสียงเด็กๆจะทำให้ทารกน้อยหลานชายในเปลของเขาตื่นจึงพาเด็กๆทั้งสองออกไปนั่งเล่นข้างนอกด้วยกัน"คุณภัสไม่ได้
ครู่ต่อมาอิงดาวนั่งจัดเสื้อผ้าของลูกเธอเข้าตะกร้าหวายไปเพลินๆในขณะที่ลูกของเธอหลับแกร๊กกกก..."หืม..."อิงดาวได้ยินดใเสียงรถมาจอดหน้าบ้านเธอจึงรีบออกไปดูเพราะกลัวว่าข้าวฟ่างจะลืมของอะไรหรือเปล่าแต่เทื่อเห็นคนที่เดินลงมาจากรถไม่ใช่ข้าวฟ่างแต่เป็นลีโอนาโดเธอจึงรีบหันหลังกลับเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว"ดาว..."ลีโอนาโดเห็นว่าหญิงสาวกำลังเดินหนีเขาจึงรีบวิ่งมาคว้าตัวเธอเอาไว้ก่อน"คุณสิงห์...มาทำไมคะ"อิงดาวถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจเพราะเธอพูดก่อนจะมาไว้แล้วว่าไม่อยากเห็นหน้าชายหนุ่มอีก"ฉันทนคิดถึงเธอกับลูกไม่ไหวแล้วนะดาว""ดาวไม่อยากเห็นหน้าคุณ..ไม่อยากได้ยินคำพูดลวงโลกของคุณ"อิงดาวสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนชายหนุ่ม"ดาว..เดี๋ยวสิดาว"ลีโอนาโดคว้าตัวเธอเอาไว้อย่างรวดเร็วทั้งยังเหลือบไปเห็นตุ๊กตาตัวที่เขาเคยให้เธอเมื่อตอนที่หยอดตู้ได้เมื่อเห็นว่าเธอเก็บเอาไว้จึงรู้ได้ทันทีว่าอิงดาวยังคงไม่ลืมเขาไปง่ายๆแน่นอนเหมือนกับคำที่เฌอริตาได้พูดเอาไว้"นั่นตุ๊กตา...เธอยังรักฉันอยู่ใช่ไหมดาว""ไม่..."อิงดาวหน้าเสียเล็กน้อยที่โดนอีกฝ่ายจับได้ว่าเธอยังไม่ลืมเขาแต่ก็ยังปากแข็งตอบคำตอบที่ตรงข้ามกับหัวใจใ
"ดาว.."ข้าวฟ่างขับรถมาถึงก็รีบหอบข้าวหอบของเข้ามาหาหลานสาวตัวน้อยวัยหกเดือนกว่าของเธอทันที"ข้าวฟ่าง...มาคนเดียวเหรอ""อืม...น้าพรรณติดดูแลลูกค้าน่ะ..""แอ้ๆ.."เด็กหญิงส่งเสียงทักทายข้าวฟ่างด้วยรอยยิ้มชวนหมั่นเขี้ยว"ทักทายน้าเหรอคะลีน่า..จ้ำม่ำน่าฟัดจริงเชียว""เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้นะ""ขอบใจจะ"20.00 น."ที่นี่บ้านคนน้อยเหลือเกินฉันเป็นห่วงแกจังเลยอยู่กับลูกแค่สองคน"หลังจากที่ลีน่าหลับไปแล้วสองสาวก็มานั่งคุยกันที่ระเบียงบ้านชมดาวฟังเสียงหรีดหริ่งเรไรร้องไปเรื่อยๆอย่างสบายอารมณ์"ไม่ต้องห่วงหรอกคนที่นี่อยู่กันเหมือนพี่เหมือนน้องปลอดภัย"อิงดาวหันมายิ้มให้เพื่อนเธอให้อีกฝ่ายมั่นใจว่าไม่ต้องห่วงเธอ"อืม..งั้นก็ดีแล้วได้ยินอย่างนี้ค่อยโล่งใจ...แล้วสามีแกล่ะ"ข้าวฟ่างพอจะรู้มาว่าทำไมเพื่อนเธอถึงกลับมาอยู่ที่นี่และอีกอย่างในใจเธอลึกๆก็อยากให้ทั้งสองลองปรับเข้าหากันใหม่ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคืองใจแทนเพื่อนเธอกับสิ่งที่ลีโอนาโดได้กระทำกับอิงดาวแต่เธอรู้ว่าเนื้อแท้ของลีโอนาโดไม่ใช่คนที่ร้ายอะไรอีกอย่างทั้งเพื่อนเธอและลีโอนาโดก็มีใจให้กันทั้งยังมีลูกด้วยกันอีกการที่หันหน้าเข้าหากันเธอว่ามันน่าจ
"คุณทำอะไรแม่ดาว....ถามว่าคุณทำอะไร.."อิงดาวมาถึงก็รีบเข้าไปผลักชายหนุ่มทั้งทุบตีเขาด้วยความโมโหแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะรู้ตัวว่าเรื่องมันเกิดส่วนหนึ่งก็เพราะเขา"ดาวใจเย็นๆก่อนนะ..."เฌอริตารีบรวบตัวอิงดาวมานั่งสงบสติก่อนที่เธอจะโวยวายอะไรไปมากกว่านี้แกร๊กกกก"หมอครับคุณดารารายเป็นยังไงบ้างครับ"ชัยพฤกษ์เห็นหมอหนุ่มเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินก็รีบเข้าไปถามอาการของดารารายทันที"หมอเสียใจด้วยนะครับคนไข้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจริงๆครับ"หมอหนุ่มพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักเมื่อแจ้งเรื่องเรียบร้อยแล้วเขาจึงกลับไปทำหน้าที่ของเขาต่อ".. หา.."ลีโอนาโดถึงกับยืนตัวชาวาบทำอะไรไม่ถูก"ม..แม่คะ...อึก..ฮือๆๆๆ..ฮื่ออ..ๆๆ..สะใจคุณรึยังห้ะ..สะใจพอรึยังงง...อ๊ายยยยย..."อิงดาวควบคุมสติตัวเองไม่อยู่เมื่อรู้ว่าต้องเสียแม่ของเธอไปทั้งยังต่อว่าแผดเสียงใส่ลีโอนาโดที่ยืนแน่นิ่งอยู่จนสลบไปแล้วก็เป็นเฌอริตาที่ต้องคอยเฝ้าอิงดาวในห้องพักฟื้น"เรื่องมันเป็นยังไง"ชัยพฤกษ์นั่งคุยกับลีโอนาโดถึงเรื่องราวก่อนหน้าเขาอยากจะรู้ว่าทำไมลีโอนาโดถึงไปเจอกับดารารายในเวลานี้ได้"ผมไปขอร้องคุณดาราว่าให้ยกเลิกที่จะพาดาวกับล
23.00 น.คฤหาสน์"จะรีบไปไหนของเธอ"อิงดาวกลับมาถึงคฤหาสน์ได้ก็รีบอุ้มลูกน้อยที่กำลังหลับเดินหนีลีโอนาโดที่ตามหลังเธอมาติดๆเข้าห้องอย่างไม่สนใจอีกฝ่าย"ต่อจากนี้ดาวกับลูกจะไม่อยู่กวนใจคุณอีกดาวจะไปอยู่กับแม่ค่ะ"เมื่อเธอวางลูกของเธอลงเปลนอนได้หญิงสาวก็หันมาคุยกับลีโอนาโดด้วยสีหน้าจริงจัง"อยากอยู่กับเค้าในขณะที่แม่เธอไม่ได้ต้องการเธอเลยงั้นเหรอ"ลีโอนาโดหน่วงในใจเล็กน้อยที่ได้ยินคำพูดของหญิงสาวทั้งบอกกับเธอกลับให้เธอนั้นคิดดีๆเพราะคนที่เธอจะไปอยู่ด้วยเขาเองก็ได้ยินมากับหูว่าฝ่ายนั้นไม่ต้องการหญิงสาวเลย"คุณก็ไม่ได้ต้องการดาวเหมือนกัน...ดาวจะอยู่ที่ไหนมันก็ไม่สำคัญต่อใครเหมือนกันนั่นแหละค่ะ"อิงดาวตอกกลับชายหนุ่มทันควันจนลีโอนาโดแน่นิ่งไปสองวันต่อมาอิงดาวและลีโอนาโดไม่ได้คุยกันอีกเลยหลังจากวันที่กลับมาจากงานประมูลเครื่องเพชรแล้วทะเลาะกันเป็นเวลาที่น่าห่อเหี่ยวหัวใจของทั้งคู่อย่างมากแต่ลีโอนาโดก็ยังถือตัวไม่ยอมเข้าหาอีกฝ่ายก่อนอยู่วันยังค่ำ"จะเก็บของไปไหน"ลีโอนาโดหน้าเสียเมื่อต้องเห็นว่าหญิงสาวจะไปจริงๆ"ก็ดาวบอกว่าจะไปอยู่กับแม่ไงคะ""เธอจะไปไหนก็ไปแต่ลูกต้องอยู่กับฉัน"ชายหนุ่มหา
"เล่นอะไรของแก"ชัยพฤกษ์เอ่ยกับลีโอนาโดด้วยสีหน้าไม่พอใจไม่รู้ว่าลูกชายของเขาอยากจะปั่นหัวใครเล่นอีกแต่ที่เขารู้คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คืออิงดาว"ก็ไม่ได้เล่นอะไรนี่ครับ"ลีโอนาโดตอบด้วยน้ำเสียงที่ปนขำเล็กน้อย"แคทอยากไปนั่งทางโน้นค่ะลีโอ"แคทตี้ดึงแขนลีโอนาโดให้ตามเธอไปอย่างไม่สนมารยาท"โอเค.."ลีโอนาโดเองก็ปล่อยให้หญิงสาวจูงไปไหนตามสบายและแอบเหลือบมองหน้าอิงดาวเล็กน้อยหมายใจว่าเธอน่าจะมีอาการอะไรบ้างแต่เปล่าเลยเจ้าตัวยังยืนหน้าตาเฉยทำเขาหงุดหงิดใจเพิ่มขึ้นอีกเท่าและอยากจะเอาชนะอารมณ์นิ่งๆของเธอให้ได้"ดาว.."เฌอริตาหันมาจับมือให้กำลังใจอิงดาว"ดาวโอเคค่ะ..ไปหาโต๊ะนั่งกันดีกว่าค่ะ"อิงดาวฝืนยิ้มเล็กๆออกมาและทำไม่สนใจลีโอนาโดจะดีกว่าเพราะที่เธอมางานนี้ก็เพราะแม่เธอเท่านั้นครู่ต่อมา"สามีแกทำไมถึงได้เดินควงผู้หญิงคนอื่นไม่เกรงใจแกแบบนั้นล่ะ"ดารารายเห็นพฤติกรรมทั้งหมดของลีโอนาโดก็รีบเดินตามมานั่งกับอิงดาวและถามลูกสาวของเธออย่างไม่พอใจ"ช่างเขาเถอะค่ะแม่...แล้วนี่แม่สบายดีไหมคะวันนั้นยังไม่ได้คุยกันเท่าไรเลย"อิงดาวยิ้มออกที่แม่ของเธอเดินมาหาในเวลานี้เธอไม่อยากพูดอะไรถึงลีโอนาโดเ