เธอไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอไม่คิดว่าเมเดลีนจะทำอะไรแบบนั้น และนั่นทำให้เธอตกใจมากทีเดียวหลังจากนั้นไม่นาน เมเดลีนก็ผลักชายหนุ่มออกไปอย่างรู้สึกไม่สบอารมณ์ ปรากฏแววตาดูเหยียดหยามในดวงตาขณะที่เธอพูดว่า “อย่าแตะต้องฉันอีก”หัวใจของเจเรมี่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เมื่อเขาต้องเผชิญกับความว่างเปล่าเฉยชา เขารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาถูกกรีดเปิดออก“ลินนี่”“ฉันจะให้เวลาคุณห้านาที อีกห้านาทีฉันจะมารับลิลลี่และแจ็คกลับ”เมเดลีนหันหลังแล้วเดินออกไป ในขณะนี้เด็กทั้งสองโผล่หัวออกมาจากห้อง แจ็คสันถามอย่างเป็นกังวล “คุณแม่ แดดดี้ ทะเลาะกันเหรอครับ?”เจเรมี่ยิ้มให้ลูกชายอย่างอบอุ่นและจับไหล่ของเมเดลีน “เปล่าเลย แดดดี้ไม่เคยทะเลาะกันครับ อย่าคิดอะไรแบบนั้น”เมเดลีนมองเจเรมี่ด้วยความรังเกียจ แต่เพื่อที่จะหยุดลูกชายของเธอไม่ให้คิดมากเกินไปจนเกิดความกังวล เธอจึงยิ้มรับ“ตรงนั้นแดงมากเลยนะคะ คุณสุดหล่อ” ลิเลียนชี้ไปที่น่องซ้ายของเจเรมี่เมเดลีนก้มลงดูบาดแผลของเจเรมี่ และพบว่ามันฉีกออกจนเลือดสีแดงสดไหลออกมาเปื้อนผ้าก๊อซเธออยากจะทำเป็นไม่สนใจ แต่ในท้ายที่สุดเธอเรียกหาหมอให้เข้ามาดูบาดแผลข
เมเดลีนพูดออกมาด้วยความสงบ แต่คำพูดของเธอเปรียบเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่ทับถมอยู่ในใจของเจเรมี่เขามองไปที่แผ่นหลังของเมเดลีนและฝืนทนกับความเจ็บปวดแล้วเดินตามเธอไปยังประตูเขาเห็นไรอันเปิดประตูให้เธอ จากนั้นเธอก็ยิ้มและเข้าไปข้างในก่อนจะจากไปพร้อมกันภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน สายตาของเจเรมี่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง'ลินนี่ พวกเราไม่ได้ถูกลิขิตให้มาคู่กันใช่ไหม?‘ถ้าเป็นเช่นนั้น เหตุใดพระเจ้าจึงปล่อยให้เราพบกันอีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายปีล่ะ?‘ทำไมเขาถึงปล่อยให้เรารักกันและทำลายกัน?'บางทีสิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำให้คุณได้ ก็คงเป็นสิ่งนี้'เขาก้มศีรษะลงเพื่อมองดูแหวนที่นิ้วนางของตัวเอง ขณะที่ความเย็นยะเยือกปรากฏอยู่ภายในแววตาของเขา…ภายในรถเมเดลีนมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่พูดอะไรเธอมองไปยังนิ้วที่ปราศจากแหวนของเธอและแตะมันเบา ๆเมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดง ไรอันสังเกตเห็นว่าเมเดลีนดูซึมไปเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้เขาจึงถามเบา ๆ ด้วยความกังวลว่า “มีอะไรหรือเปล่าครับ คุณนายวิทแมน”"คุณโจนส์ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร คุณเรียกฉันว่าเอวลีนหรือมิสมอนต์โกเมอรี่ก็ได้นะคะ”ไรอันครุ่นคิดอยู่สองสามวินาทีก่อ
“ดูเหมือนว่าไรย์ของเราจะสนใจคุณมอนต์โกเมอรี่นะ ตอนเขาพานาโอมิมาบ้านตอนนั้น เขาไม่เคยตักอาหารให้เธอเลย แต่เขาตักอาหารให้คุณมอนต์โกเมอรี่ไปตั้งห้าครั้งแล้ว!”“คุณมอนต์โกเมอรี่งดงามนะ แต่เธอแต่งงานมีลูกตั้งสามคนแล้ว”“ค่ะ ฉันคิดว่าไรย์ควรรักษาระยะห่างกับคุณมอนต์โกเมอรี่ กลัวว่าจะมีคนแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับพวกเขาอีก”มาดามโจนส์พยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นเธอก็ส่งข้อความถึงไรอันเพื่อบอกให้เขารู้ เมื่อไรอันเห็นข้อความของผู้เป็นแม่ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าพวกท่านหวังดี แต่เขาก็รู้เหมือนกันว่าเมเดลีนกำลังจะหย่ากับเจเรมี่เมเดลีนไม่สามารถบอกคนนอกได้ว่าทำไมเธอถึงต้องการหย่ากับเจเรมี่เธอทำได้เพียงกล้ำกลืนความสิ้นหวังและความคับแค้นใจของตัวเองเอาไว้…เจเรมี่ที่นั่งอยู่เงียบ ๆ และมองดูเวลาผ่านไป ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว แต่เมเดลีนยังกลับมาไม่ถึงบ้านเขาไม่รู้จักไรอันและเพิ่งได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอีกฝ่ายเมื่อไม่นานมานี้เอง ไรอันเป็นจิตรกรหนุ่มฝีมือดีและเรียนต่างประเทศมาตลอด และสุดท้ายก็กลับมาที่นี่ไรอันดูไร้ที่ติและเหมือนว่าเขาจะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกเรื่องจุดด่างพร้อยเดียวเกี่ยวกับไรอันคือค
เขาเรียกเธอได้ไม่เต็มปากนัก ทว่าก็กอดเธอไว้แน่นในอ้อมแขนเมเดลีนเองก็ไม่ได้ผลักไส และปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอย่างไม่ขาดสายเธอรักและโหยหาเขามากพอ ๆ กับที่เธอเกลียดเขาและไม่อยากเจอเขาในตอนนี้เลยทว่า เธอก็หยุดตัวเองไม่ได้“ฉันเจ็บมากนะ เจเรมี่ คุณรู้ไหมว่าฉันต้องเจ็บปวดขนาดไหน? ทำไมคุณถึงทำร้ายพ่อแม่ของฉันและลูกของเราล่ะ?“ตอนนั้นที่เราพบกัน ฉันแค่อยากจะรักคุณ แต่ทำไมคุณต้องทำให้ฉันต้องเลิกรักและเกลียดคุณแทนล่ะ? ทำไม?“ฉันรับได้ที่คุณลืมฉันและเย็นชากับฉัน... ฉันรับได้ที่คุณไปอยู่กับลาน่าทั้งวันทั้งคืน แต่คุณจะให้ฉันยอมรับความจริงที่ว่าคุณฆ่าพ่อกับแม่ของฉันได้ยังไง? ทำยังไง? ฉันจะรับมือกับมันยังไง? บอกฉันสิ บอกฉัน!"เมเดลีนระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างหนักหน่วง เธอรู้สึกเจ็บปวดเจียนจะขาดใจ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ คนที่เธออยากจะรัก แต่กลับทำไม่ได้เจเรมี่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไร้การควบคุม ดวงตาของเขาแดงก่ำ และหยดน้ำตาก็เปียกลงบนไหล่บางของเมเดลีน“ผมขอโทษ ลินนี่ ผมขอโทษ...” เขาเอ่ยขอโทษซ้ำ ๆ ขณะที่รู้สึกราวกับว่าโดนมีดคมนับพันทิ่มแทงเข้าที่หัวใจ และเจ็บเสียจนหายใจแทบไม่ออกแต
เธอบอกไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ดูเหมือนว่าเขากำลังเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มถามตัวเองด้วยคำถามเดิมซ้ำ ๆ แล้วเดินไปเดินมา แววตาที่เคยเฉียบคมและชาญฉลาดในตอนนี้กลับมืดมนไม่นานเจเรมี่ก็หยิบเอกสารการหย่าจากพื้นขึ้นมาฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ต่อหน้าเมเดลีน“ลินนี่ ผมไม่อยากหย่ากับคุณ คุณจะได้เป็นภรรยาของผมตลอดไป”“ผมจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับคุณและพุดดิ้งอีก ผมจะคอยดูแลพวกคุณอยู่ข้างนอก”“...”เมเดลีนนั่งลงบนเตียงด้วยความมึนงง เธอมองแผ่นหลังของเจเรมี่โดยที่ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่หลังจากที่สติสัมปชัญญะกลับมา เธอก็รู้สึกราวกับว่าความเจ็บปวดจากหัวใจได้ลุกลามไปทั่วทั้งตัวเธอไม่รู้ว่าเจเรมี่จะเฝ้าประตูตลอดทั้งคืนหรือเปล่า แต่เธอก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่หน้าประตูเจเรมี่เดินไปมาที่หน้าประตู ในขณะที่มือก็กำแน่นและคลายออกซ้ำ ๆเขาอยากจะสูบบุหรี่อีกแล้วราวกับว่าความหงุดหงิดที่เขามีจะสามารถคลายลงได้ด้วยการสูบบุหรี่เท่านั้นหากเขาไม่มีเหตุผลและสติเหลืออยู่ วันนี้เขาอาจบังคับให้เมเดลีนทำในสิ่งที่เธอไม่ต้องการ'ทำไมถึงเป็นแบบนี้?'เจเรมี่รู้สึกสับสนก่อนเกิดอุบัติเหตุเมื่อวาน
เธอเห็นชายคนนั้นนั่งอยู่ที่อีกมุมหนึ่ง มือขาวและดูสะอาดสะอ้านของเขาถือแก้วกาแฟไว้ด้วยความสง่างามเธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเขา แต่มันกลับถูกบดบังด้วยแสงสลัว ลาน่าไม่มั่นใจ เธอจึงตัดสินใจแอบขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อหาตำแหน่งที่ดีกว่านี้ในการมองหน้าของชายคนนั้น แต่เมื่อกำลังจะเงยหน้าขึ้นมอง เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นขณะที่ชายคนนั้นกำลังดื่มกาแฟ อยู่ดี ๆ เขาก็นิ่งไปแล้วจ้องมองไปที่โยริคอย่างเย็นชาโยริคลงไปด้านล่างแล้วพบกับลาน่าที่กำลังพยายามขึ้นไปชั้นบน"ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?" โยริคถามและพยายามดึงลาน่าไปด้านล่างลาน่าดิ้นด้วยความไม่พอใจ “คนนี้เองเหรอ? เขาเป็นใคร? เขากล้าสั่งพี่ได้ยังไงกัน?”“คิดให้ดีก่อนพูดจะดีกว่านะ” โยริคเตือน“ฮึ่ม” ลาน่าเย้ยหยันอย่างอวดดี “โยริค พี่เป็นอะไรไป? พี่เป็นผู้นำของสเตเจี่ยน จอห์นสัน แต่นี่อะไร พี่กำลังรับคำสั่งจากคนอื่นงั้นเหรอ? ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใคร!”เพียะ!“โอ๊ย!”ลาน่าไม่เคยถูกตบจนเจ็บขนาดนี้มาก่อน แล้วนี่ก็ยังเป็นตบที่มาจากโยริคผู้เป็นพี่ชายของเธออีกด้วย มันแรงจนตอนนี้เธอรู้สึกได้ถึงรสเลือดที่กำลังไหลซึมออกมาตรงมุมปาก“กลับไปซะ!”
“ลาน่า!” โยริคดูโกรธเป็นอย่างมาก “พรุ่งนี้สิ่งแรกที่เธอต้องทำก็คือบินกลับไปที่เมืองเอฟซะ! แล้วฉันก็ไม่อนุญาตให้เธอกลับมาที่เกลนเดลอีก!”ลาน่ากัดฟันกรอด เธอเตะโต๊ะกาแฟแล้ววิ่งออกไปหลังจากที่ลาน่าจากไป ฟาเบียนก็เดินเข้ามาหาโยริค “จริงหรือเปล่า? ที่มีคนมีอำนาจเหนือกว่าหัวหน้าแก๊งสเตเจี่ยน จอห์นสันจนพี่ต้องหงอและคอยเอาอกเอาใจเขาแบบนี้?”โยริคมองฟาเบียนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยสายตาที่คมกริบ“ฟาบ นายเองก็ควรกลับไปเมืองเอฟกับเธอ”“ไม่ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการที่นี่” ฟาเบียนปฏิเสธ ก่อนเอ่ยถาม “ทำไมถึงบอกไม่ได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? ฉันรู้จักหรือเปล่า?”“ทางที่ดีนายไม่รู้จะดีกว่า” โยริคเอ่ยอย่างหวังดี ก่อนจะสังเกตเห็นผมสีน้ำตาลของอีกฝ่าย “ช่วงนี้นายเปลี่ยนลุคไปเยอะนี่ กำลังคบกับใครอยู่หรือเปล่า?”“คบกับใคร?” เฟเบียนเย้ยหยัน "ไม่มีทาง ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกนี้คู่ควรกับฉัน” ชายหนุ่มเอ่ยเย้ยหยัน แต่เมื่อนึกถึงการที่เขาถูกปฏิเสธช่อโลลิป๊อบเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ การได้ลิ้มรสความโรแมนติกอันแสนหวานนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขา…ลาน่าขับรถไปที่บาร์โดยมี
เมื่อรู้สึกถึงร่างสูงที่อยู่ด้านหลังของเธอ หัวใจของลาน่าก็เต้นไม่เป็นจังหวะหญิงสาวหันศรีษะไปมองช้า ๆ จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาทว่ามีรังสีน่ากลัวแผ่ออกมาของเจเรมี่ก็สะท้อนอยู่ในดวงตาของเธอชายหนุ่มยืนหันหลังบังแสงสว่างที่ลอดเข้ามา การมีอยู่ของเขากำลังกดดันผู้หญิงสองคนอย่างมหาศาล จนคนมองรู้สึกได้ถึงความสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมาลาน่ารู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นรัว แต่เธอก็สงบลงได้อย่างรวดเร็วและเอ่ยออกมาอย่างอวดดี “เจเรมี่ คุณลักพาตัวฉันมาทำไม? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”น้ำเสียงของเธออวดดีเหมือนเคย แน่นอน ลาน่ารู้ว่าเธอไม่สามารถหลอกเจเรมี่ได้อีกต่อไป เพราะเขาจำทุกอย่างได้แล้วลาน่ามองชายผู้ไร้อารมณ์คนนั้นและเชิดหน้าขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้“คุณเป็นคนฉลาดเจเรมี่ แต่คุณยังไม่รู้อีกเหรอว่าใครที่เข้ากับคุณมากกว่า? เอวลีนไม่เหมาะกับคุณหรอกนะ ตราบใดที่คุณอยู่กับฉันและยอมเป็นผู้ชายของฉัน ฉันจะให้คุณสัมผัสความสุขที่แท้จริงของการเป็น…”เพียะ! เจเรมี่ตบลาน่าเข้าอย่างแรง“โอ๊ย!”ลาน่าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทว่าใบหน้าของเจเรมี่ก็ยังไม่มีความรู้สึกใด ๆทว่ายิ่งเขาดูนิ่งเงียบและเย็นชาเท่าไหร่ ก็ยิ่