Home / โรแมนติก / บ่วงเล่ห์บำเรอรัก / บทที่4.การใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้าที่หล่อเหลือร้าย 3

Share

บทที่4.การใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้าที่หล่อเหลือร้าย 3

last update Huling Na-update: 2025-07-30 18:50:13

“ไปพ่อหนุ่ม ร้านหน้าปากซอยมีทุกอย่าง มีงบเท่าไรล่ะ”

“มีไม่เยอะ อยากได้ที่นอนกับของใช้บางอย่าง” ให้นอนบนพื้นแข็งๆ เขาจะไม่ทน ไหนๆ ก็ต้องทนลำบาก ขอความสบายช่วงนอนหลับหน่อยก็แล้วกัน สาวใหญ่เดินนำ เขามองบั้นท้ายเป็นปั้นๆ ของนางแล้วจึงส่ายศีรษะ...

ร้านเครื่องนอนมีให้เลือกมากมาย แต่หากเป็นตัวแวซ็องเลือกเอง เขาไม่มีทางชายตาแลของคุณภาพต่ำเช่นนี้แน่ เมื่อจำเป็นจริงๆ ก็ต้องทน...หากไม่อยากนอนบนพื้นแข็งๆ เย็นๆ

“เอาแบบนี้ล่ะ...พร้อมอุปกรณ์ด้วยนะ ผ้าห่ม พัดลม และหมอน...” ใจของชายหนุ่มอยากจะติดแอร์คอนนิชั่น แต่มันจะหรูหราอลังการจนอาจจะทำให้เมวิกายิ่งขยับหนีไปไกลๆ อีก...เอาเท่าที่ได้ก็แล้วกัน

สภาพห้องพักดูดีขึ้นกว่าเดิม หลังจากร้านเครื่องนอนเอาของมาส่ง...ชายหนุ่มจ่ายค่าแรงให้ผู้หญิงชื่อเขียว หล่อนส่งสายตาฉ่ำหวานให้เขา จนต้องรีบชิ่งหนี แวซ็องกลัวหล่อนกระโจนปล้ำ เมื่อดวงตาของหล่อนฉายแววเช่นนั้น

กลิ่นผ้าใหม่ที่ยังไม่ผ่านการทำความสะอาด...เขาต้องทำใจให้ชิน ไม่ได้อยู่ในสภาพเดิมๆ คงต้องทนไปก่อน แต่ไม่นานหรอก...ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนบนฟูกนอนของใหม่ มันก็พอใช้ไม่ถึงกับกระด้างจนเจ็บหลัง...ก่อนจะหลุบตาลงมโนภาพเมวิกาในสมอง...หากจับหล่อนใส่ชุดนอนสุดเซ็กซี่!! ผิวของหญิงสาวคงลออองค์จนเขาขนลุกซู่ ชายหนุ่มยื่นมือหมายจะคว้ารูปโฉมที่สร้างขึ้นเองในจินตนาการแต่ทุกอย่างหายวับ!! ไปกับอากาศ เมื่อเผลอตัวลืมตาขึ้นมอง...

“โว๊ะ!” ดวงตาคมกล้าดุดัน ฉายแววไม่พอใจ เขายกมือขึ้นปิดใบหน้าพลางคิดในใจด้วยความสับสนในตัวเอง เขาเป็นหนักขนาดนี้เชียวเหรอ?

ทางที่ดีที่สุดสำหรับเขา คือต้องจัดการรวบหัว รวบหางเมวิกาให้ได้ในเร็ววัน ไม่เช่นนั้นตัวเองนั่นแหละที่จะแย่

หากเผลอตัวหลงเสน่ห์หล่อนเข้า!!

ความเสี่ยงค่อนข้างสูง...เมื่อตัวเองไม่เคยเป็นเช่นนี้ มันอาจจะเป็นเพราะหล่อนท้าทายเขา เลือดนักล่าจึงพล่าน...

“ใจเย็นๆ น่าแวซ็อง ยังไงหล่อนก็หนีแกไม่พ้นหรอก”

ความผยองทำให้ชายหนุ่มมั่นใจ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ตัวเองหมายตาจะหลุดรอดไปได้ ต่อให้หล่อนดื้อด้านขนาดไหน...พอตกอยู่ใต้ร่างกายเขาส่วนมากจะพร่ำเพ้อ หลงละเมอตามเกาะหนึบ...เขามีเวลาให้หล่อนสุขจนพอใจ1อาทิตย์จากนั้นก็เหมือนกันหมด...เมวิกาก็เช่นกัน

ในขณะที่แวซ็องกำลังไม่เข้าใจตัวเอง เมวิกาเองก็เช่นกัน

หัวใจสาวเริ่มไหวหวั่นตามประสาผู้หญิง...ชายหนุ่มใช่ว่าจะขี้ริ้วเมื่อไรล่ะ เขามีสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา หรือพลังดึงดูดที่ไร้รูปทรง แต่ทุกคนจะรู้สึกหากอยู่ใกล้เขา...เธอจะทำอย่างไรถึงจะดี เมื่อรู้สึกถึงรางแพ้...ไม่หวั่นไหวสิแปลก ก็ชายหนุ่มเหมือนภาพในฝัน เขาทำให้คนอยู่ใกล้รู้สึกอบอุ่น เมื่อตัวเขาเข้มแข็งแม้จะตกระกำลำบาก...ชายหนุ่มไม่ได้ปริปากบ่น...เขายังยิ้มได้...

มันเป็นการยากที่จะห้ามความสนใจที่เกิดขึ้น แม้จะรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ลักษณะบางอย่างของผู้ชายคนนั้นบ่งบอกว่าเขากับเธอห่างกันคนละชั้น แม้เขาจะไม่เปิดปากบอก แต่พฤติกรรมบางอย่างของเขาบอกเช่นนั้น ดูท่าทางเขาไม่เดือดร้อนใจเลย หากเป็นคนธรรมดาคงกำลังทุกข์ ถูกชิงทรัพย์ในต่างแดน...ไม่มีที่นอน ไม่มีความหวัง แต่เขาก็ยังอยู่มาได้ แถมมีสมบัติติดตัวชนิดที่ราคาแพงระยับ เขาเป็นใครกันแน่?

“คุณเป็นใครก็ช่าง...เมจะพยายามอยู่ให้ห่างคุณที่สุด...เพื่อตัวเอง”

หญิงสาวตั้งปณิธานไว้กับตัวเอง...เธอต้องระวังตัวและหัวใจตัวเองอย่างดี ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่แคล้วที่จะเป็นฝ่ายเสียใจ เมื่อรู้สึกว่าการที่เขายังรีรออยู่ทั้งที่มีสตางค์มากพอที่จะกลับไปยังที่เดิมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ไป...เธอพยายามจะไม่ใส่ใจแต่ก็อดไม่ได้สักที...

บทที่5.เกมสนุกๆ ของเศรษฐีขี้เบื่อ

แค่ย่างเข้าต้นเดือนพฤษภาคมของปี ฝนก็พรำไม่หยุด เหมือนกับว่ามันอั้นมานาน...ปีก่อนระหว่างทางกลับบ้านเธอไม่เคยเจอฝนสักวัน เพราะเทวดาของฤดูฝนทำเหมือนจะอู้งาน...เขาลืมหน้าที่ตัวเอง จนเกิดภัยแล้งไปทั่วทั้งประเทศ พอนึกขึ้นได้ท่านก็เร่งทำหน้าที่ชดเชย มากมายเสียจนคนทำมาหากินพลอยลำบากไปด้วย เมื่อต้องคอยตั้งท่ารับกับสายฝนเย็นชื่นที่เทกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา...

แล้วมันก็เป็นเหมือนทุกวัน เมวิกาเดินออกมาจากที่ทำงานพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองละอองฝนที่โปรยลงมาจากฟากฟ้า

“ตกอีกแหละ!!” เธอบ่น พร้อมกับล้วงมือเขาไปในย่ามสะพายไหล่ กระเป๋าโดเรม่อนของเธอเมื่อมีทุกสิ่งที่ต้องการ ใครๆ ก็ชอบว่าแบบนั้น

ร่มราคาถูกแม้จะคุ้มฝนได้ไม่มากพอ แต่ก็ทำให้เธอไม่ต้องกลายเป็นลูกหมาตกน้ำเหมือนทุกวัน...

พรึ่บ! เธอกดปุ่มที่ปลายคันร่ม จนสวิตช์ทำงานดีดผึ่งออกไป ร่มกาง แต่ก็ได้แค่นั้น พอลมกรรโชกมาแรงๆ ครั้งเดียว ‘กร็อบ!!’ ไม่ต้องเดาก็พอรู้ เสียงลั่นแบบนั้น ขาร่มคงหักก็มันแค่ร่มถูกๆ อันละไม่ถึงร้อย หญิงสาวโยนมันทิ้งถังขยะใกล้ตัวโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพ เธอเตรียมพร้อมเก็บของที่เปียกน้ำไม่ได้ใส่ในซองพลาสติก...เงยหน้ามองสายฝนครั้งสุดท้าย...เมื่อตัดสินใจจะวิ่งสู้ฝน จะเปียกเหมือนลูกหมาก็ช่าง เพราะเธอกำลังจะกลับบ้าน

“เดี๋ยวสิ! ฝนตกไม่เห็นเหรอ?”

มือแข็งๆ รั้งไว้ พร้อมกับเสียงห้าวๆ เอ่ยท้วงดังๆ

หญิงสาวผ่อนลมหายใจช้าๆ “เห็น...แต่หากยืนรอตรงนี้ ก็ไม่ได้กลับกันพอดี ฝนแบบนี้คงอีกนานกว่าจะหยุด ฉันอยากนอนพัก” กว่า12 ชั่วโมงในการทำงาน เธอยืนทนจนเมื่อยขา...อยากจะกลับไปพักก่อนที่จะล้มพับไป

“ทำเหมือนไม่รักตัวเอง...ตากฝนทุกวันเดี๋ยวก็ไม่สบายไปหรอก”

ความรู้สึกอุ่นวาบแทรกเข้ามาในใจ น้ำตาร้อนๆ ไหลเอ่อ...จนต้องรีบสะบัดทิ้ง เพราะหากเธออ่อนแอเช่นนี้อาจจะเผลอตัวเข้าสักวัน...และคนที่เสียใจคือตัวเอง

“ฉันหัวแข็งค่ะ ว่าแต่คุณเถอะมาทำอะไรแถวนี้” เธอย้อนถามพร้อมกับหยุดรอคำตอบ

“มารับ...เห็นฝนตกเลยเป็นห่วง” กระแทกเข้ามาอีกครั้งกับความรู้สึกร้อนวาบ เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เธอยังมีเพื่อน แม้จะยังไม่ไว้ใจเจตนาของเขาเลย

“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันชินเสียแล้วล่ะ...วันหลังไม่ต้องนะคะ คุณเองก็อาจจะไม่สบาย ฉันแน่ใจว่าคุณคงไม่ชิน”

หญิงสาวติงเสียงเรียบ ความเป็นอยู่ของเขากับเธอน่าจะแตกต่างกัน...และเมวิกาคิดว่าเขาไม่น่าจะคุ้นกับเหตุการณ์แบบนี้...

3วันกับความเฉยชาที่ยังคงเส้นคงวา แวซ็องเริ่มหงุดหงิดเขาไม่เคยต้องเสียเวลานานเท่านี้ หากคิดจะ ‘ฟัน’ ใครสักคน ขณะนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ยัยดื้อตรงหน้าเขานี่พยายามถอยหนี...แทบทุกครั้ง หล่อนขีดเส้นชัดเจน...จนเขาชักเบื่อ แต่กลับไม่คิดถอดใจ...คงเพราะอยากจะเอาชนะนั่นแหละ...ชายหนุ่มคิดแบบนั้น มันไม่น่าจะมีอย่างอื่น เมื่อตัวเองไม่เคยคิดจะผูกติดอยู่กับใคร? ผู้หญิงทุกคนคือทางผ่าน หล่อนทั้งหมดคือเครื่องบันเทิงอารมณ์ และจุดจบของพวกหล่อนย่อมเหมือนกัน...

“ใช่! ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน...แต่ฉันคิดว่าตัวเองสามารถผ่านมันไปได้”

ชายหนุ่มพูดย้ำ บอกทั้งตัวเองและเมวิกา เขาต้องผ่านมันไปได้สิ ไอ้ความรู้สึกน่ารำคาญแบบนี้จะได้หมดไปเสียที

“ฉันจะวิ่งฝ่าฝนไปล่ะ...คุณจะรอตรงนี้ก็เชิญนะ...ฉันอยากนอน เพลียจะแย่”

ชีวิตคนทำงานมีรายได้ไม่แน่นอน...เธอแกร่งพอและมั่นใจว่าแค่ฝนตกคงไม่ทำให้ตัวเองถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่20.ความรักเพรียกหา... 2

    “ดีๆ ฉันจะได้มีหลานเต็มบ้านไงสกาเล็ต” นางพูดพร้อมกับหัวเราะ “พาฉันไปนอนเถอะ อยู่ตรงนี้เดี๋ยวจะพลอยตาเป็นกุ้งยิง หนุ่มสาวสมัยนี้ชอบเล่นอะไรแผลงๆ”ดีนะที่มาดามแลงก้ารีบกลับเข้าไปด้านในเสียก่อน ไม่อย่างนั้นนางคงได้เห็นภาพสวีทหวานของเซดริก กับรำเพยเป็นแน่“ปล่อยค่ะคุณ!!” รำเพยกระโจนหนีออกมาจากห้องนอน หมู่นี้เซดริกไม่รู้เป็นอะไร เขากินจุบจิบ...ไม่เลือกเวลา และเธอเหนื่อยเพลียเกินกว่าจะทนไหวชายหนุ่มย่างสามขุมเข้าหาหญิงสาว ดวงตาของเขาพราวฉ่ำด้วยไฟปรารถนา จนรำเพยขนลุก ขนชัน!!“จะหนีไปไหนจ๊ะ ไม่รอดหรอก” เสียงแหบปร่าเพราะความปรารถนารุมเร้า“เซดริก รำเพยไม่ไหวแล้วนะคะ คุณจะหื่นไปถึงไหน?” หญิงสาวต่อว่าเสียงอุบอิบ ผิวแก้มร้อนฉ่า เพราะรู้ความนัยในสายตาของเขาดี“ไม่ดีเหรอไง...เธอก็รู้นะรำเพย ฉันกลัวไม่ทันพี่ชาย” ชายหนุ่มหอบหายใจแรงๆ ความปรารถนาอัดแน่นในอกจนแทบระเบิด มันเกิดขึ้นกับแม่สาวตัวเล็กนี่คนเดียว แค่อยู่ใกล้ๆ เขากลายเป็นคนบ้าพลังเต็มขั้น อยากจะฟัด!! อยากจะจับหล่อนฟาดแทนอาหาร จะล

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่20.ความรักเพรียกหา... 1

    บทที่20.ความรักเพรียกหา...แวซ็องสวมกอดเมวิกา มือของเขาวางอยู่บนหน้าท้องนูนนิดๆ ของเธอ พลางลูบไปมาเพื่อสัมผัสหนึ่งชีวิตเล็กๆ ที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ในนั้น“ชีวิตคู่ของเรา จะรอดหรือไม่? ไม่ได้อยู่ที่คนภายนอกเลย มันขึ้นอยู่ที่ตัวเราสองคน ฉันสัญญานะเม...ฉันจะรัก และซื่อสัตย์กับเธอเพียงคนเดียว จะไม่ยอมให้อดีตย้อนกลับมาทำร้ายเราสองคนเด็ดขาด”มันไม่ใช่เพราะอารมณ์พาไป จนเขาอยากบอกรักเมวิกา แวซ็องมั่นใจว่า เขาสามารถบอกรักเธอได้ทุกๆ วันเมื่อแน่ใจว่าในหัวใจของเขา มีหญิงเดียวแค่นั้น คือ...เมวิกาเพียงผู้เดียว“เมเองก็ด้วยค่ะ เมจะจงรักภักดี และจะพยายามฝึกตัวเองให้เหมาะสมกับคุณ โดยไม่มีใครกล้าแย้ง หรือกังขา” หญิงสาวเอนซบแผ่นอกกว้างของสามี พลางพึมพำตอบ เธอรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยทุกครั้ง หากได้อยู่ในอ้อมกอดของเขา“ไม่จำเป็นเลยเม...แค่เป็นเมเหมือนทุกวัน เท่านี้ก็พอแล้ว” ชายหนุ่มโยกตัวช้าๆ เขาคลี่ยิ้ม เมวิกาไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งเพิ่ม หล่อนมีดีในตัวเอง และเหมาะที่จะเคียงข้างเข

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่19.นางพญายอมยกธง 4

    มาดามแลงก้าเห็นด้วย นางใส่ชุดพวกนี้ทีไร ต้องนอนซมเป็นอาทิตย์เพราะร่างกายอ่อนล้า ไม่รู้เป็นอะไรสิเล่า พอจัดงานราตรีใหญ่ๆ ก็มักจะขนชุดแบบนี้มาอวดประชันกัน สวยก็จริงแต่หนักเกินกว่าคนอายุมากจะทานไหวเมวิกากับรำเพยหันหน้ามายิ้มให้กัน...สองสาวผุดลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมกับเดินมาหยุดตรงหน้ามาดามแลงก้ารอยยิ้มสนุกๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก งานนี้มาดามโจนส์ได้ภาพข่าวมาประโคมให้ลั่นเมืองแน่...“คุณแม่เคยเดินชมร้านรวงแถวๆ นี้ทั้งหมดบ้างไหมคะ?”มาดามแลงก้าขมวดคิ้ว นั่นสิ นางไม่เคยเดินเที่ยวชมแฟชั่นบนถนน…นานมากแล้วสิ!!ชองป์เอลิเซ่!! ได้รับขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก เป็นถนนในเขตที่ 8 ของกรุงปารีส เป็นย่านการค้าที่ประกอบด้วยโรงละคร ร้านค้าเสื้อผ้าหรูหรา สองข้างทางมีต้นเซสนัดปลูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ภาพบรรยากาศเก่าย้อนเข้ามาในความคิด สมัยสาวๆ นางไม่เคยพลาดที่จะเดินย่ำเท้าเพื่อสอดส่องหาเสื้อผ้าสวย สไตล์แปลกตามาสวมใส่ นางเลิกทำแบบนั้นไปตั้งแต่ตอนไหนกัน? มาดามแลงก้ายิ้มกว้าง...นึกสนุกขึ้นมาเมื่อตามความคิดของว่าที่ศรีสะใภ้ทั้ง2คนทัน&ldquo

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่19.นางพญายอมยกธง 3

    มาดามแลงก้าไม่ได้แจงบอกความต้องการจริงๆ สองสาวนี่ไม่เสียแรงที่นางสั่งสอน...รถยนต์ประจำที่มาดามแลงก้าใช้ยามออกไปภายนอกบ้าน จอดเทียบหน้าโถงประตู นางเดินนำสองสาว มีสายตาของเหล่าบริวารแอบมองและคอยลุ้นระทึก!!ร้านตัดเสื้อเจ้าดัง!! ได้ต้อนรับการมาเยือนของมาดามแลงก้า พร้อมกับหญิงสาวสองนาง ที่ความงดงามไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แม้จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแสนจะธรรมดา แต่ออร่าของสองสาว ก็ยังผ่องจนมิสซิสแองเจลีต้องรีบถลาเข้ามาต้อนรับด้วยตัวเอง!!“อุ้ยตาย!! มาดาม มีอะไรให้แองเจลีรับใช้คะ” มีใครบ้างในปารีสไม่รู้จักมาดามแลงก้า หล่อนร่ำรวยและมีลูกชายสุดหล่อ2 คน ผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนในปารีสอยากเสนอตัวให้ ไม่เว้นแม้แต่ตัวมิสซิสแองเจลีเอง“มาดูชุดราตรีสำหรับงานกลางคืนน่ะ”มาดามแลงก้าตอบอย่างไว้ตัว นางคลี่พัดเล็กๆ ในมือขึ้นโบกพัดลมให้ตัวเอง เมื่อสายตาของมิสซิสแองเจอลีเขม้นมองอย่างจริงจัง...เจ้าของร้านหรูขมวดคิ้วแน่น นางแหล่มองสองสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกล ไม่มีการแนะนำตัวในสถานะของสองนาง แต่มิสซิสแองเจลีแ

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่19.นางพญายอมยกธง 2

    “แหนะๆ ยังจะคุณท่าน ฉันได้ยินอีกครั้ง...ฉันจะถือว่าหล่อนรังเกียจฉันนะย่ะ” มาดามแลงก้าสอดเสียงแข็ง แม่สะใภ้คนโตแสนเจียมตัว ยังเรียกนางด้วยสรรพนามเดิมๆ นับตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเมวิกายิ้มแหย...แต่สามีหนุ่มเกือบหัวเราะบทนางพญาจะยอมลงให้ ก็ลงเสียง่ายๆ ทั้งที่ต่อต้านมาตั้งนานสองนาน“ชิ!! แกกำลังนินทาแม่ในใจ ...ไม่ต้องมาเถียงแม่มองตาแก...ก็รู้แล้ว” นางหันไปว่ากระทบบุตรชาย เพราะแววตาของแวซ็องพราวระยิบระยับ“โธ่!! แม่ครับ...ใครจะกล้า”“อย่ามาทำเป็นปากดีหน่อยเลย...ทั้งแกแล้วก็ไอ้แสบนั่น ล้วนแล้วแต่ชอบขัดใจและก็ตะแบงเถียงฉัน”สองหนุ่มลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปทรุดนั่งเบื้องหน้ามาดามแลงก้าพร้อมกับก้มลงกราบที่ตักของนาง“ผมรักแม่ครับ...แต่บางอย่างที่ผมขัดคำสั่งแม่ เพราะผมจนใจจริงๆ” แวซ็องรีบกล่าวแก้ มีเรื่องเดียวที่เขาขัดคำสั่งมารดา คือเรื่องของเมวิกา“ถึงผมจะเถียงกับแม่บ่อยๆ แต่ผมก็ยังรักแม่เหมือนเดิม...ไม่เคยเปลี่ยนนะครับ”เซดริกรีบแย้ง!! เขายิ้มเผล่ก่อนที่จะก้มกราบบนตั

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่19.นางพญายอมยกธง 1

    บทที่19.นางพญายอมยกธงมาดามแลงก้านั่งนิ่งๆ นางตรึกตรองเรื่องของศรีสะใภ้ทั้งสองอีกครั้ง ต่อให้นางต่อต้านหัวชนฝา...ไอ้ลูกชายหัวดื้อทั้งสองคนก็คงไม่ฟัง...เหมือนเดิม...เมื่อเธอเลี้ยงบุตรชายทั้งคู่มาด้วยสองมือตัวเอง...มีหรือจะไม่รู้ใจไอ้ตัวแสบ เห็นๆ อยู่ว่าทั้งสองคน ‘รัก’ เมียจนหน้ามืด ทางที่ดี...นางควรคล้อยตามและหาทางแก้ทีหลังมันคงไม่ทำให้ ‘ออกัสตัส’ ล่มจมหรอกมั้ง!!แค่ยอมรับลูกสะใภ้ต่ำศักดิ์เข้ามาในตระกูล!!อีกอย่างมีลูกสะใภ้หัวอ่อนมันก็ดีอีกแบบ...นางจะได้ควบคุมได้...ไม่ปวดหัวเพราะความมากเรื่อง...มองๆ ดูแล้วศรีสะใภ้ทั้งสองคน ออกจะรักและเทิดทูนบุตรชายของนางเป็นอย่างดี...แบบนี้คงไม่ยากหากจะขัดเกลาเสียใหม่...เอาให้หาข้อติไม่ได้เวลาพาออกงานในสังคม...เพื่ออนาคตตอนที่สองนางเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ สองสาวจะเป็นหลังบ้านที่มั่นคง เข้มแข็ง สามารถประคับประคองครอบครัวไปได้ตลอดรอดฝั่ง...“มันก็ดีกว่าลูกท่าน หลานเธอ ที่เห็นๆ อยู่แหละน่า ถึงจะมาจากตระกูลสูง...แต่มารยาทไม่ไหว”มา

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status