“ไปพ่อหนุ่ม ร้านหน้าปากซอยมีทุกอย่าง มีงบเท่าไรล่ะ”
“มีไม่เยอะ อยากได้ที่นอนกับของใช้บางอย่าง” ให้นอนบนพื้นแข็งๆ เขาจะไม่ทน ไหนๆ ก็ต้องทนลำบาก ขอความสบายช่วงนอนหลับหน่อยก็แล้วกัน สาวใหญ่เดินนำ เขามองบั้นท้ายเป็นปั้นๆ ของนางแล้วจึงส่ายศีรษะ...
ร้านเครื่องนอนมีให้เลือกมากมาย แต่หากเป็นตัวแวซ็องเลือกเอง เขาไม่มีทางชายตาแลของคุณภาพต่ำเช่นนี้แน่ เมื่อจำเป็นจริงๆ ก็ต้องทน...หากไม่อยากนอนบนพื้นแข็งๆ เย็นๆ
“เอาแบบนี้ล่ะ...พร้อมอุปกรณ์ด้วยนะ ผ้าห่ม พัดลม และหมอน...” ใจของชายหนุ่มอยากจะติดแอร์คอนนิชั่น แต่มันจะหรูหราอลังการจนอาจจะทำให้เมวิกายิ่งขยับหนีไปไกลๆ อีก...เอาเท่าที่ได้ก็แล้วกัน
สภาพห้องพักดูดีขึ้นกว่าเดิม หลังจากร้านเครื่องนอนเอาของมาส่ง...ชายหนุ่มจ่ายค่าแรงให้ผู้หญิงชื่อเขียว หล่อนส่งสายตาฉ่ำหวานให้เขา จนต้องรีบชิ่งหนี แวซ็องกลัวหล่อนกระโจนปล้ำ เมื่อดวงตาของหล่อนฉายแววเช่นนั้น
กลิ่นผ้าใหม่ที่ยังไม่ผ่านการทำความสะอาด...เขาต้องทำใจให้ชิน ไม่ได้อยู่ในสภาพเดิมๆ คงต้องทนไปก่อน แต่ไม่นานหรอก...ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนบนฟูกนอนของใหม่ มันก็พอใช้ไม่ถึงกับกระด้างจนเจ็บหลัง...ก่อนจะหลุบตาลงมโนภาพเมวิกาในสมอง...หากจับหล่อนใส่ชุดนอนสุดเซ็กซี่!! ผิวของหญิงสาวคงลออองค์จนเขาขนลุกซู่ ชายหนุ่มยื่นมือหมายจะคว้ารูปโฉมที่สร้างขึ้นเองในจินตนาการแต่ทุกอย่างหายวับ!! ไปกับอากาศ เมื่อเผลอตัวลืมตาขึ้นมอง...
“โว๊ะ!” ดวงตาคมกล้าดุดัน ฉายแววไม่พอใจ เขายกมือขึ้นปิดใบหน้าพลางคิดในใจด้วยความสับสนในตัวเอง เขาเป็นหนักขนาดนี้เชียวเหรอ?
ทางที่ดีที่สุดสำหรับเขา คือต้องจัดการรวบหัว รวบหางเมวิกาให้ได้ในเร็ววัน ไม่เช่นนั้นตัวเองนั่นแหละที่จะแย่
หากเผลอตัวหลงเสน่ห์หล่อนเข้า!!
ความเสี่ยงค่อนข้างสูง...เมื่อตัวเองไม่เคยเป็นเช่นนี้ มันอาจจะเป็นเพราะหล่อนท้าทายเขา เลือดนักล่าจึงพล่าน...
“ใจเย็นๆ น่าแวซ็อง ยังไงหล่อนก็หนีแกไม่พ้นหรอก”
ความผยองทำให้ชายหนุ่มมั่นใจ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ตัวเองหมายตาจะหลุดรอดไปได้ ต่อให้หล่อนดื้อด้านขนาดไหน...พอตกอยู่ใต้ร่างกายเขาส่วนมากจะพร่ำเพ้อ หลงละเมอตามเกาะหนึบ...เขามีเวลาให้หล่อนสุขจนพอใจ1อาทิตย์จากนั้นก็เหมือนกันหมด...เมวิกาก็เช่นกัน
ในขณะที่แวซ็องกำลังไม่เข้าใจตัวเอง เมวิกาเองก็เช่นกัน
หัวใจสาวเริ่มไหวหวั่นตามประสาผู้หญิง...ชายหนุ่มใช่ว่าจะขี้ริ้วเมื่อไรล่ะ เขามีสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา หรือพลังดึงดูดที่ไร้รูปทรง แต่ทุกคนจะรู้สึกหากอยู่ใกล้เขา...เธอจะทำอย่างไรถึงจะดี เมื่อรู้สึกถึงรางแพ้...ไม่หวั่นไหวสิแปลก ก็ชายหนุ่มเหมือนภาพในฝัน เขาทำให้คนอยู่ใกล้รู้สึกอบอุ่น เมื่อตัวเขาเข้มแข็งแม้จะตกระกำลำบาก...ชายหนุ่มไม่ได้ปริปากบ่น...เขายังยิ้มได้...
มันเป็นการยากที่จะห้ามความสนใจที่เกิดขึ้น แม้จะรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ลักษณะบางอย่างของผู้ชายคนนั้นบ่งบอกว่าเขากับเธอห่างกันคนละชั้น แม้เขาจะไม่เปิดปากบอก แต่พฤติกรรมบางอย่างของเขาบอกเช่นนั้น ดูท่าทางเขาไม่เดือดร้อนใจเลย หากเป็นคนธรรมดาคงกำลังทุกข์ ถูกชิงทรัพย์ในต่างแดน...ไม่มีที่นอน ไม่มีความหวัง แต่เขาก็ยังอยู่มาได้ แถมมีสมบัติติดตัวชนิดที่ราคาแพงระยับ เขาเป็นใครกันแน่?
“คุณเป็นใครก็ช่าง...เมจะพยายามอยู่ให้ห่างคุณที่สุด...เพื่อตัวเอง”
หญิงสาวตั้งปณิธานไว้กับตัวเอง...เธอต้องระวังตัวและหัวใจตัวเองอย่างดี ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่แคล้วที่จะเป็นฝ่ายเสียใจ เมื่อรู้สึกว่าการที่เขายังรีรออยู่ทั้งที่มีสตางค์มากพอที่จะกลับไปยังที่เดิมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ไป...เธอพยายามจะไม่ใส่ใจแต่ก็อดไม่ได้สักที...
บทที่5.เกมสนุกๆ ของเศรษฐีขี้เบื่อ
แค่ย่างเข้าต้นเดือนพฤษภาคมของปี ฝนก็พรำไม่หยุด เหมือนกับว่ามันอั้นมานาน...ปีก่อนระหว่างทางกลับบ้านเธอไม่เคยเจอฝนสักวัน เพราะเทวดาของฤดูฝนทำเหมือนจะอู้งาน...เขาลืมหน้าที่ตัวเอง จนเกิดภัยแล้งไปทั่วทั้งประเทศ พอนึกขึ้นได้ท่านก็เร่งทำหน้าที่ชดเชย มากมายเสียจนคนทำมาหากินพลอยลำบากไปด้วย เมื่อต้องคอยตั้งท่ารับกับสายฝนเย็นชื่นที่เทกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา...
แล้วมันก็เป็นเหมือนทุกวัน เมวิกาเดินออกมาจากที่ทำงานพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองละอองฝนที่โปรยลงมาจากฟากฟ้า
“ตกอีกแหละ!!” เธอบ่น พร้อมกับล้วงมือเขาไปในย่ามสะพายไหล่ กระเป๋าโดเรม่อนของเธอเมื่อมีทุกสิ่งที่ต้องการ ใครๆ ก็ชอบว่าแบบนั้น
ร่มราคาถูกแม้จะคุ้มฝนได้ไม่มากพอ แต่ก็ทำให้เธอไม่ต้องกลายเป็นลูกหมาตกน้ำเหมือนทุกวัน...
พรึ่บ! เธอกดปุ่มที่ปลายคันร่ม จนสวิตช์ทำงานดีดผึ่งออกไป ร่มกาง แต่ก็ได้แค่นั้น พอลมกรรโชกมาแรงๆ ครั้งเดียว ‘กร็อบ!!’ ไม่ต้องเดาก็พอรู้ เสียงลั่นแบบนั้น ขาร่มคงหักก็มันแค่ร่มถูกๆ อันละไม่ถึงร้อย หญิงสาวโยนมันทิ้งถังขยะใกล้ตัวโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพ เธอเตรียมพร้อมเก็บของที่เปียกน้ำไม่ได้ใส่ในซองพลาสติก...เงยหน้ามองสายฝนครั้งสุดท้าย...เมื่อตัดสินใจจะวิ่งสู้ฝน จะเปียกเหมือนลูกหมาก็ช่าง เพราะเธอกำลังจะกลับบ้าน
“เดี๋ยวสิ! ฝนตกไม่เห็นเหรอ?”
มือแข็งๆ รั้งไว้ พร้อมกับเสียงห้าวๆ เอ่ยท้วงดังๆ
หญิงสาวผ่อนลมหายใจช้าๆ “เห็น...แต่หากยืนรอตรงนี้ ก็ไม่ได้กลับกันพอดี ฝนแบบนี้คงอีกนานกว่าจะหยุด ฉันอยากนอนพัก” กว่า12 ชั่วโมงในการทำงาน เธอยืนทนจนเมื่อยขา...อยากจะกลับไปพักก่อนที่จะล้มพับไป
“ทำเหมือนไม่รักตัวเอง...ตากฝนทุกวันเดี๋ยวก็ไม่สบายไปหรอก”
ความรู้สึกอุ่นวาบแทรกเข้ามาในใจ น้ำตาร้อนๆ ไหลเอ่อ...จนต้องรีบสะบัดทิ้ง เพราะหากเธออ่อนแอเช่นนี้อาจจะเผลอตัวเข้าสักวัน...และคนที่เสียใจคือตัวเอง
“ฉันหัวแข็งค่ะ ว่าแต่คุณเถอะมาทำอะไรแถวนี้” เธอย้อนถามพร้อมกับหยุดรอคำตอบ
“มารับ...เห็นฝนตกเลยเป็นห่วง” กระแทกเข้ามาอีกครั้งกับความรู้สึกร้อนวาบ เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เธอยังมีเพื่อน แม้จะยังไม่ไว้ใจเจตนาของเขาเลย
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันชินเสียแล้วล่ะ...วันหลังไม่ต้องนะคะ คุณเองก็อาจจะไม่สบาย ฉันแน่ใจว่าคุณคงไม่ชิน”
หญิงสาวติงเสียงเรียบ ความเป็นอยู่ของเขากับเธอน่าจะแตกต่างกัน...และเมวิกาคิดว่าเขาไม่น่าจะคุ้นกับเหตุการณ์แบบนี้...
3วันกับความเฉยชาที่ยังคงเส้นคงวา แวซ็องเริ่มหงุดหงิดเขาไม่เคยต้องเสียเวลานานเท่านี้ หากคิดจะ ‘ฟัน’ ใครสักคน ขณะนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ยัยดื้อตรงหน้าเขานี่พยายามถอยหนี...แทบทุกครั้ง หล่อนขีดเส้นชัดเจน...จนเขาชักเบื่อ แต่กลับไม่คิดถอดใจ...คงเพราะอยากจะเอาชนะนั่นแหละ...ชายหนุ่มคิดแบบนั้น มันไม่น่าจะมีอย่างอื่น เมื่อตัวเองไม่เคยคิดจะผูกติดอยู่กับใคร? ผู้หญิงทุกคนคือทางผ่าน หล่อนทั้งหมดคือเครื่องบันเทิงอารมณ์ และจุดจบของพวกหล่อนย่อมเหมือนกัน...
“ใช่! ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน...แต่ฉันคิดว่าตัวเองสามารถผ่านมันไปได้”
ชายหนุ่มพูดย้ำ บอกทั้งตัวเองและเมวิกา เขาต้องผ่านมันไปได้สิ ไอ้ความรู้สึกน่ารำคาญแบบนี้จะได้หมดไปเสียที
“ฉันจะวิ่งฝ่าฝนไปล่ะ...คุณจะรอตรงนี้ก็เชิญนะ...ฉันอยากนอน เพลียจะแย่”
ชีวิตคนทำงานมีรายได้ไม่แน่นอน...เธอแกร่งพอและมั่นใจว่าแค่ฝนตกคงไม่ทำให้ตัวเองถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ
“ไปพ่อหนุ่ม ร้านหน้าปากซอยมีทุกอย่าง มีงบเท่าไรล่ะ”“มีไม่เยอะ อยากได้ที่นอนกับของใช้บางอย่าง” ให้นอนบนพื้นแข็งๆ เขาจะไม่ทน ไหนๆ ก็ต้องทนลำบากขอความสบายช่วงนอนหลับหน่อยก็แล้วกัน สาวใหญ่เดินนำ เขามองบั้นท้ายเป็นปั้นๆ ของนางแล้วจึงส่ายศีรษะ...ร้านเครื่องนอนมีให้เลือกมากมาย แต่หากเป็นตัวแวซ็องเลือกเอง เขาไม่มีทางชายตาแลของคุณภาพต่ำเช่นนี้แน่ เมื่อจำเป็นจริงๆ ก็ต้องทน...หากไม่อยากนอนบนพื้นแข็งๆ เย็นๆ“เอาแบบนี้ล่ะ...พร้อมอุปกรณ์ด้วยนะ ผ้าห่ม พัดลม และหมอน...” ใจของชายหนุ่มอยากจะติดแอร์คอนนิชั่น แต่มันจะหรูหราอลังการจนอาจจะทำให้เมวิกายิ่งขยับหนีไปไกลๆ อีก...เอาเท่าที่ได้ก็แล้วกันสภาพห้องพักดูดีขึ้นกว่าเดิม หลังจากร้านเครื่องนอนเอาของมาส่ง...ชายหนุ่มจ่ายค่าแรงให้ผู้หญิงชื่อเขียว หล่อนส่งสายตาฉ่ำหวานให้เขา จนต้องรีบชิ่งหนี แวซ็องกลัวหล่อนกระโจนปล้ำ เมื่อดวงตาของหล่อนฉายแววเช่นนั้นกลิ่นผ้าใหม่ที่ยังไม่ผ่านการทำความสะอาด...เขาต้องทำใจให้ชิน ไม่ได้อยู่ในสภาพเดิมๆ คงต้องทนไปก่อน แต่ไม่นานหรอก...ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนบน
“ฝากเธอไว้ได้ไหมล่ะ?” ชายหนุ่มลองหยั่งเชิงหากเมวิกาเป็นคนหิวเงินเธอคงรีบกระโจนใส่“ไม่เอา!!” เธอรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ “ฉันกลัวหาย...แล้วไม่มีปัญญาหามาใช้คืนด้วย...มันเยอะเกินไป”หญิงสาวปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด เธอส่ายหน้าจนผมกระจาย“คุณรักษามันไว้ดีๆ ล่ะ”หญิงสาวเตรียมหมุนตัวหนี“ถ้าฉันจะอยู่อีกสักพัก...รอจนกว่าญาติจะมารับเธอคิดว่าไง?”ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมีแต่น้ำเสียงเฉยชาตอบกลับมา“มันแล้วแต่คุณ! ฉันไม่เกี่ยว”หล่อนรีบเดินกลับเข้าห้องตัวเองไม่สนใจเงินเยอะๆ ที่หล่อนพูดถึงสักนิด นอกจากไม่สนใจเงินแล้วหล่อนไม่สนใจเขาด้วยนี่สิ มันทำให้หนุ่มเสน่ห์แรงเคือง!! หากแวซ็องคิดจะเด็ดปีกความผยองของหล่อนให้สมกับฉายา 'นักล่ามือทอง' เขาไม่ผิดใช่ไหม? ก็เมวิกายั่วยุให้สัญชาตญาณนักล่ามือฉมังของเขาตื่นเพลิดขึ้นมาเอง...มันช่วยไม่ได้ชายหนุ่มเดินอ้อมไปหาป้าเจ้าของบ้าน ตอนนี้เขามีเงินทุนสำหรับการลวงล่อเมวิกา หล่อนไม่สนเงินเขาก็จะใช้อย่างอื่นแทนเริ่มต้นที่ ‘ร่างกา
บทที่4.การใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้าที่หล่อเหลือร้ายเมวิกาขอเวลานอกหัวหน้างาน เพื่อทำธุระส่วนตัว ของที่รับฝากไว้ นอนอุ่นอยู่ก้นกระเป๋ากางเกงของเธอ คงต้องบากหน้าเข้าโรงจำนำครั้งแรกในรอบ24ปี“เห้อ!!”หญิงสาวถอนใจดังๆ เธอเดินหมุนไปหมุนมา จนอาเฮียหลังคอกกั้นขยับแว่นตามอง“อีหนูเข้ามาไม่ต้องอาย...เร็วๆ ขวางทางคนอื่นเขา”ประสบการณ์ยาวนานเท่ากับอายุตัวเอง....ทำให้อาเฮียรู้เองโดยไม่ต้องเดาเมวิกาตัดสินใจเดินเข้าไปด้านใน เธออายสายตาคนมองจนหน้าชา แต่ช่างเถอะ! เธอทำครั้งนี้ครั้งเดียวเพราะอยากช่วยคน“ฉันเอาเจ้านี่มาจำนำ เฮียคิดว่ามันจะได้สักเท่าไรคะ?”หญิงสาวล้วงหยิบนาฬิกาโรแล็กซ์วางตรงช่อง พร้อมกับผ่อนลมหายใจช้าๆ รอฟังคำของอาเฮีย เมื่อเธอรู้ดีว่ามันหยุดเดินเสียงตอบกลับเรียบๆ “จะเอาเท่าไรล่ะ”ของดีราคาแพง หรือของก็อปราคาถูก ผ่านมือเป็นพันๆ ชิ้น อาเฮียรำพึงในใจดูท่าชิ้นนี้จะราคาแพงที่สุด...ตั้งแต่เปิดโรงรับจำนำมา ของแท้กับของปลอ
สายใจตั้งใจฟัง แม้ไม่ได้คำตอบที่เธอถามออกไป... “เลยออกไปอีกนิดมีร้านขายอยู่ เดี๋ยวสายใจพาไปเอง เดี๋ยวพี่ฝรั่งจะหลงทางน่ะจ้ะ” ได้ควงฝรั่งรูปหล่อ มันโก้หยอกที่ไหน สายใจเลยรีบอาสา เพื่อหวังผล หากฝรั่งรูปหล่อนี่สนใจเธอ แหมๆ มันคงเหมือนขึ้นสวรรค์“แม่...หนูพาพี่ฝรั่งรูปหล่อไปซื้อของนะแม่ เดี๋ยวมา” หล่อนหันไปร้องสั่งผู้หญิงที่อาวุโสกว่า นางขยับปากด่าไม่ต่างอะไรกับบุตรสาว... “ไม่รู้เลือดใคร เห็นผู้ชายหล่อไม่ได้สิ! ระริกระรี้ขึ้นมาเชียว”ชายหนุ่มเดินตามแรงจูงของสายใจ เขาจดจำภูมิทัศน์ เมื่อแถวนี้ตรอกซอก ซอยแทบจะเหมือนกัน หากเขาหลง คงไม่มีโอกาสได้เจอกับเมวิกาอีก เพราะฉะนั้นแวซ็องต้องระวังตัวดีๆ“อีสาย!! จะไปไหน” ผู้ชายหน้าเหี้ยม ร้องถามเสียงดังลั่นสายใจแอบเบ้ปาก...ยังไม่มีคำจำกัดความระหว่างความสัมพันธ์ของตัวเองกับ พี่วินมอเตอร์ไซน์หน้าเข้ม แต่ดูเขาจะออกตัวแรง!! ใบหน้าอวบอูมนั่นแดงก่ำ เธอจึงจำใจถอยห่างฝรั่งรูปหล่อ เสียดายใจแทบขาดแต่เมื่อประเมินผลได้ ผลเสีย เธอต้องเลือกที่มั่นคงมากกว่า“ไปด้วยไม่ได้แล้วล่ะนะ เดี๋ยวเขาไม่พอใจเอา” หล่อนส่งยิ้มแหยๆ ให้และแวซ็องก็พยักใบหน้ารับรู้เขาไปคนเดียวก็สบายใ
บทที่3.ผู้ชายที่มาพร้อมกับสายฝนชายหนุ่มปั้นหน้าใสซื่อ เขาส่งยิ้มให้อีกฝ่ายและพยายามทำตัวน่าสงสาร“ฉันไม่แน่ใจนะคะว่ามันจะขายได้...” นาฬิกามันหยุดเดิน แล้วเมวิกาก็ดูไม่เป็นเสียด้วยว่ามันคือของแท้ หรือของปลอม แต่เธอจะพยายามช่วย“ขอบใจนะ” ชายหนุ่มยิ้มแป้น เขารู้ว่ามันขายได้ อาจจะถูกกดราคา แต่รุ่นนี้ใครเห็นก็ต้องรีบตะครุบ เมื่อมันคือรุ่นอันลิมิเต็ด!! ไม่ได้มีเกลื่อนกลาด คนรับซื้อคงตาวาวเพราะฟันกำไรเหนาะๆ“เห้อ! ฉันต้องไปทำงานแล้วนะคุณ...อยู่แถวนี้ไปก่อนล่ะ นี่เอาไว้ซื้อข้าวกิน ฉันช่วยได้เท่านี้ละ อยู่กับไอ้ตูบไปแล้วกันนะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจ แต่ต้องเข้าใจฉันด้วย” หญิงสาวอธิบายยืดยาว ถึงจะมีน้ำใจ แต่ใครล่ะจะให้คนแปลกหน้าเข้าห้อง เมื่อไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า หากถูกยกเค้าเธอคงไม่มีอะไรเหลือ เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้“ไม่เป็นไร”ลมเย็นพัดโชย ไม่มีที่นอนนุ่มๆ มีแค่เพิงสังกะสีเก่าๆ คุ้มหัว...ก็ยังดีกว่าออกไปแล้วถูกตามล่าหญิงสาวหมุนตัวกลับเข้าห้องพัก เธอเดินย้อนกลับมาอีกครั้งกับน้ำขวดหนึ่งในมือแล้วก็หมอนนุ่มๆ ที่หนีบมาในซอกรักแร้ ก่อนจะยื่นให้กับเขา... “เดินออกไปตรงหัวมุม มีร้านตามสั่ง คุณหิว
ปัญหายังไม่หมด...เวลานี้แวซ็องเริ่มหนาว...เสื้อ กางเกงเขาเปียกชุ่ม มันทำให้อุณหภูมิในร่างกายเริ่มลดลง เขากำลังหนาว และอาจจะจับไข้...ชายหนุ่มระบายลมหายใจที่เริ่มมีไอร้อน เขาคงต้องหาตัวช่วยให้ตัวเองก่อน กว่าจะเช้ายังอีกนาน ตอนนี้เวลาเท่าไรแล้วก็ไม่รู้? เมื่อนาฬิกาเรือนโปรดของเขาดันหยุดเดินเสียอย่างนั้น “เชี่ยเอ๋ย! แพงเสียเปล่า” ชายหนุ่มสบถอย่างฉุนเฉียว หน้าสิ่วหน้าขวาน ทุกสิ่งรอบตัวเขาเหมือนจะอยู่ผิดที่ผิดทาง เขาต้องการความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้คงต้องช่วยเหลือตัวเองก่อนที่จะหนาวตายและอาจจะมีไข้รุมเสื้อสีขาวตัวใหญ่พาดอยู่บนราวแขวน กางเกงหูรูดที่แวซ็องคะเนด้วยสายตาเขาน่าจะใส่ได้ ชายหนุ่มคว้าทั้งเสื้อและกางเกงลงมาจากราว เขาเหลียวซ้าย แลขวา ก่อนจะรีบปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตถอดออกจากตัวสะบัดขึ้นไปแขวนไว้บนราวแทนเสื้อยืดเก่าๆ กางเกงคือเป้าหมายต่อไป ไม่ถึง5นาทีเขาก็สามารถจัดการกับตัวเองเสร็จจากผู้ชายที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า...ตอนนี้หากดิดิเย่ร์ หรือเซดริกหาเขาเจอ คงไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อยืดเก่าๆ คอย้วย กับกางเกงหูรูดราคาถูก สวมรองเท้าแตะแต่กลับเดาะใส่นาฬิกาโรเล็กซ์ที่มันหยุดเดินไปเสียแ