Beranda / รักโบราณ / บ่าวหญิงของศิษย์รัก / บทที่ 48 : เขาอยากให้นางสำเร็จพิธีโดยดี

Share

บทที่ 48 : เขาอยากให้นางสำเร็จพิธีโดยดี

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-30 15:31:42

กลุ่มควันสีเทาเริ่มจางลงหลังการต่อสู้ที่รุนแรงสิ้นสุดลง เฉินอี้ยืนอยู่กลางลาน ไอพลังสีขาวรอบกายยังคงแผ่ซ่าน ดวงตาของเขายังคงจับจ้องร่างอวี้เซี่ยหงที่ลุกขึ้นมายืนขึ้นอีกครั้งพร้อมบอกว่านี่เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดมนุษย์

ทว่ามันไม่เหมือนท่ายืนของคนปกติ แขนห้อยข้างลำตัวอย่างไร้พลัง สายตาเลื่อนลอย สีหน้าไร้อารมณ์ ร่างกายเคลื่อนไหวอย่างกระตุก ราวกับไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป

ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นอะไรบางอย่างที่เพิ่งได้สังเกต เส้นใยสีม่วงอ่อนบางเฉียบที่มองแทบไม่เห็นผูกอยู่ทั่วร่างของนาง มันเรียวเล็กเท่าเส้นผมยากต่อการสังเกต เส้นใยเหล่านั้นหลายเส้นเชื่อมต่อกับสักที่ที่ไกลออกไป คอยส่งต่อกระแสพลังมายังร่างของนาง ทว่าตอนนี้มันขาดสะบั้นไปหลายเส้น เช่นที่แขนสองข้าง อาจเพราะการต่อสู้กับเขาเมื่อครู่ จึงทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายนี้ผิดปกติไปมาก

“เหมือนเจ้าจะเห็นเส้นใยพลังปราณแล้วสินะ…” เจ้าของเสียงนั้นกล่าวขึ้นมา “ใช้แล้ว ร่างที่เจ้าสู้ด้วย เป็นเพียงหุ่นเชิดมนุษย์ เป็นสมุนในพรรคที่ที่แต่งตัวเหมือนข้า กับได้รับการถ่ายลมปราณบางส่วนจากตัวข้ามาให้เท่านั้น แล้วข้าคอยควบคุมระยะไกลเท่านั้น เจ้าล้มมัน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 50 : เขาขอบคุณข้า

    ล่วงเข้าสู่ยามเย็น แสงแดดอ่อนคล้อยทาบลงบนแนวหลังคาโรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋น เงาไม้ทอดยาวอยู่บนพื้นไม้เรียบ เสียงลมกระทบหน้าต่างเบา ๆ กล่อมให้บรรยากาศอบอุ่นขึ้นเล็กน้อยหลังความวุ่นวายในยามสายจางหายในห้องพักด้านใน ร่างของเสี่ยวซุ่ยนั่งพิงหมอนอิง ดวงตายังดูเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากอาการที่เพิ่งฟื้น ทว่าริมฝีปากกลับคลี่ยิ้มบาง ๆ เมื่อบานประตูถูกเคาะเบา ๆ ก่อนที่เฉินอี้จะก้าวเข้ามาด้วยท่าทางระมัดระวัง เขามีผ้าห่มบางผืนหนึ่งพับอยู่ในมือ ใบหน้าแม้จะยังมีร่องรอยของความอ่อนล้า แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและโล่งใจ“เจ้าไม่แล้วหรือ? ท่านหมอว่าเจ้าควรพักดูอาการอีกคืน” เขาเอ่ยเสียงเบา เสี่ยวซุ่ยหันมามองเขา สบตาเพียงครู่ ก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ“ข้านอนมานานพอแล้วเจ้าค่ะ” นางตอบเบา ๆเฉินอี้เดินเข้ามาใกล้ วางผ้าห่มไว้บนเก้าอี้ตัวข้างฟูก ก่อนจะนั่งลงบนพื้นข้างร่างนาง ใบหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย“เสี่ยวซุ่ย… ข้ามีเรื่องต้องบอกเจ้า” เขาเริ่ม นางก็เลิกคิ้วน้อย ๆ“เจ้าจำไม่ได้ใช่ไหม ว่าตอนที่ข้าจะถูกสังหารในลานนั่น... อยู่ ๆ ก็มีแสงพลังสีฟ้าสว่างวาบออกจากฝ่ามือของเจ้า แล้วพลังในร่างของข้า… มันระเบิดขึ้น เหม

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 49 : เขาเป็นห่วงข้า

    ยามบ่าย โรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋นกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง หลังความโกลาหลวุ่นวายเมื่อคืนสิ้นสุดลง ท้องฟ้าแจ่มใส ลมอ่อนพัดผ่านชายผ้าม่าน เสียงนกร้องจาง ๆ ลอยมากับแสงแดดอุ่นที่ลอดผ่านหน้าต่างไม้บานเล็กในห้องพักชั้นบนของอาคารหลัก หมอจากสำนักคุ้มภัยเทียนเฟิงที่มาด้วยกัน กำลังตรวจดูอาการบาดเจ็บของผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อตอนสายอย่างละเอียดจ้าวหยางนอนอยู่บนเตียงไม้สาน ร่างของเขาถูกพันผ้าไว้หลายแห่ง ดามด้วยเฝือกไม้ โดยเฉพาะช่วงไหล่ และซี่โครง ที่โดนบีบขยี้ด้วยมือขนาดยักษ์“ซี่โครงด้านซ้ายร้าวห้าซี่ ขาวสองซี่ กระดูกไหล่ขวาเคลื่อน... ถ้าเป็นคนธรรมดาต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนในการพักรักษาตัว กว่าจะเริ่มเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง” หมอวัยกลางคนพยายามอธิบายอาการบาดเจ็บให้เหล่าสำนักคุ้มภัยที่เหลือ รวมถึงเฉินอี้ได้ฟัง “โชคดีที่พลังภายในของเขาสูงมากกว่าคนทั่วไป ร่างกายจึงยังพอเยียวยาตัวเองได้... อาจใช้เวลาน้อยกว่านั้น แต่ไม่ใช่วันสองวันนี้”จากนั้นหมอก็พาทุกคนไปยังในอีกห้องหนึ่ง อวี้ไป๋เฉินเพิ่งรู้สึกตัวขึ้นหลังหมดสติไประยะใหญ่ ข้างกายเขาคือเสี่ยวผิงหลานชายพี่หลินที่มาดูแล เขาขยับตัวช้า ๆ ใช้มือยันร่างขึ้นนั

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 48 : เขาอยากให้นางสำเร็จพิธีโดยดี

    กลุ่มควันสีเทาเริ่มจางลงหลังการต่อสู้ที่รุนแรงสิ้นสุดลง เฉินอี้ยืนอยู่กลางลาน ไอพลังสีขาวรอบกายยังคงแผ่ซ่าน ดวงตาของเขายังคงจับจ้องร่างอวี้เซี่ยหงที่ลุกขึ้นมายืนขึ้นอีกครั้งพร้อมบอกว่านี่เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดมนุษย์ทว่ามันไม่เหมือนท่ายืนของคนปกติ แขนห้อยข้างลำตัวอย่างไร้พลัง สายตาเลื่อนลอย สีหน้าไร้อารมณ์ ร่างกายเคลื่อนไหวอย่างกระตุก ราวกับไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นอะไรบางอย่างที่เพิ่งได้สังเกต เส้นใยสีม่วงอ่อนบางเฉียบที่มองแทบไม่เห็นผูกอยู่ทั่วร่างของนาง มันเรียวเล็กเท่าเส้นผมยากต่อการสังเกต เส้นใยเหล่านั้นหลายเส้นเชื่อมต่อกับสักที่ที่ไกลออกไป คอยส่งต่อกระแสพลังมายังร่างของนาง ทว่าตอนนี้มันขาดสะบั้นไปหลายเส้น เช่นที่แขนสองข้าง อาจเพราะการต่อสู้กับเขาเมื่อครู่ จึงทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายนี้ผิดปกติไปมาก“เหมือนเจ้าจะเห็นเส้นใยพลังปราณแล้วสินะ…” เจ้าของเสียงนั้นกล่าวขึ้นมา “ใช้แล้ว ร่างที่เจ้าสู้ด้วย เป็นเพียงหุ่นเชิดมนุษย์ เป็นสมุนในพรรคที่ที่แต่งตัวเหมือนข้า กับได้รับการถ่ายลมปราณบางส่วนจากตัวข้ามาให้เท่านั้น แล้วข้าคอยควบคุมระยะไกลเท่านั้น เจ้าล้มมัน

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 47 : เขาไล่ต้อนประมุขพรรคมาร?

    อวี้เซี่ยหงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มควันจาง ๆ ที่ยังลอยล่อง มือเทียมพลังปราณสีม่วงเข้มขนาดใหญ่ที่ยังเหลืออยู่สี่เส้น วางสองผู้กล้าลง ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความแปลกใจปนไม่เชื่อสายตา เมื่อเห็นร่างของเฉินอี้ที่ควรจะอ่อนล้าและสิ้นหวังในก่อนหน้า บัดนี้กลับยืนตรงด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว พลังลมปราณแผ่พุ่งออกจากกายสีขาวนวลราวหมอกยามเช้า กล้ามเนื้อทุกส่วนกระชับราวกับฝึกมานาน แผ่นหลังตั้งตรง นิ่งเหมือนยอดเขาใหญ่“กล้ามาก ที่เจ้าคิดว่าจะมาต่อกรกับข้าได้ด้วยตัวคนเดียว... เจ้าบ่าวกระจอก!”เสียงของนางเปล่งออกมา ก่อนที่แขนเทียมยาวแปดวาเส้นหนึ่งจะฟาดมาทางเขาด้วยพลังมหาศาล ทว่าเฉินอี้กลับก้าวเท้ากระชับตัว มือขวาหมุนวนปัดแรงพุ่งของแขนยักษ์ด้วยความแม่นยำ ส่งไปยังมือซ้ายที่แบรออยู่จากนั้นมือซ้ายของเขาก็จับแน่นตรงข้อมือเทียมของแขนพลังปราณนั้น ตามด้วยมือขวาที่ตามมาประกบเหมือนพนมมือ แล้วพลันพุ่งลอดผ่านใต้แขนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก้าวพร้อมกับก็หมุนสะโพก หมุนเอว บิดลำตัวทั้งร่างด้วยจังหวะที่แม่นยำราวสายน้ำหมุนวน!แขนเทียมที่เชื่อมต่อกับร่างต้นถูกบิดจนผิดรูป เขาหมุนต่ออีกรอบ สองรอบ สามรอบ ด้วยท่าเท้าปทุมยาตรา ข้อมือ

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 46 : เขาตื่นขึ้น

    เปลวเพลิงที่ลามเลียผนังโรงเตี๊ยมค่อย ๆ ถูกควบคุมลงจนดับไปในที่สุด ผู้คนของสำนักคุ้มภัยเทียนเฟิงต่างหอบเหนื่อย หลังระดมสาดน้ำดับไฟจนสำเร็จ เหลือเพียงกลุ่มควันลอยเอื่อย ๆ และกลิ่นไหม้ที่ตลบอบอวลในอากาศ และเมื่อควบคุมเปลวเพลิงได้สำเร็จ พวกเขาจึงได้มีโอกาสหันไปมอง การปะทะกันที่ดุเดือดซึ่งเกิดขึ้นที่ลานกว้าง ห่างจากตัวอาคารออกไปไกลพอสมควรอวี้เซี่ยหงยืนนิ่งแผ่นหลังของนางมีแขนพลังปราณสีม่วงเข้มขนาดใหญ่ยักษ์สี่เส้นงอกออกมา ราวกับแขนปีศาจแหวกมิติออกมาจากโลกปีศาต แขนเทียมสองในสี่กำลัง รวบคออวี้ไป๋เฉินและจ้าวหยางที่ไม่ได้สติเอาไว้แน่น ทั้งคู่สิ้นสติไปแล้ว จึง ไม่อาจขัดขืนได้อีก และกำลังจะกลายเป็นเหยื่อของนางโดยสมบูรณ์ตรงนั้นเอง เฉินอี้ยืนหอบหายใจอยู่ไม่ไกล เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง เลือดไหลอาบข้างแก้ม ใจเขาเต้นแรงจนเจ็บหน้าอกจากการพยายามฝืนร่างกายก่อนหน้านี้เขาพยายามทุกทางแล้วที่จะหยุดนาง เมื่อครู่ตอนนางสะบัดแขนยักษ์ยาวแปดวามาโจมตี เขาก็ใช้กระบวนท่าฝ่ามือเคลื่อนปทุม ปัดเบี่ยงแรง หลบ และผลักใส่แขนเทียมยักษ์ข้างนั้นอย่างแม่นยำ แต่การผลักของเขาก็ทำให้แขนขยับไปเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลต่อร่างต้นแต่อ

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 45 : เขาเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง

    กลิ่นไม้ที่ถูกเผาไหม้โชยตลบไปทั่วหน้าโรงเตี๊ยม พร้อมกับเสียงเปลวไฟที่แตกดังเปรี๊ยะ ๆ ไม่หยุด ทำให้จ้าวหยางรู้สึกปราหลาดใจ เขารีบสั่งการให้คนในสังกัดไปดูที่มาของกลิ่นควัน ก่อนจะพบว่ามีธนูเพลิงปักอยู่ที่ผนังด้านหน้าของอาคารโรงเตี๊ยมนับสิบ และไกลออกไปที่ลานกว้าง อวี้ไป๋เฉินนอนนิ่ง โดยมีอวี้เซี่ยหงเอาเท้าเขี่ยร่างของเขาอย่างเหยียดหยันคนจากสำนักรีบวิ่งมารายงานภาพที่เห็นให้จ้าวหยาง เขาชะงักไปพริบตาหนึ่ง ก่อนตั้งสติรีบสั่งการทันที“ไฟไหม้! เราโดนธนูไฟโจมตี!” เขาตะโกนก้อง ลมปราณในร่างแผ่พุ่งออกมาหุ้มกาย เข้าสู่สภาพเตรียมปะทะทันที ก่อนจะสั่งการคนในสังกัด“หน่วยห้า พาคนบาดเจ็บที่ไม่ได้สติทั้งหมดไปที่ลานหลังโรงเตี๊ยม! หน่วยสี่รีบช่วยกันเอาน้ำออกไปดับไฟเร็ว! ข้าจะออกไปจัดการพวกที่โจมตีพวกเรา!”ดวงตาของจ้าวหยางลุกวาบด้วยโทสะ เขาคว้าพลองเหล็กคู่ใจ วิ่งออกไปหน้าโรงเตี๊ยมทันที“กล้าลอบโจมตีผู้ที่ข้าจะคุ้มกันงั้นรึ? ถึงเป็นน้องสาวก็ไม่มีข้ออ้าง!” จ้าวหยางพุ่งเข้าหาเซี่ยหงที่ยืนอยู่ไกลออกไป หวดไม้พลองเต็มข้อในแนวนอน หมายฟาดศีรษะของนาง ทว่าอวี้เซี่ยหงยิ้กลับยิ้มบาง ๆ ก่อนสะบัดแขน ปราณสีม่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status