Share

5

last update Last Updated: 2025-09-03 03:27:38

บทที่ 5 คนเดิม

ฮึ่ม! ชายหนุ่มถึงกับทำหน้าไม่ถูก เมื่อได้ยินเด็กสาววัยละอ่อนพูดออกมาตรงๆ แบบนั้น แต่เมื่อเห็นอาการของเธอก็เข้าใจ จึงก้มตัวลงให้ต่ำกว่าเธอแล้วมองไปยังจุดที่เธอบอกพร้อมกับส่องไฟฉาย

“แค่แมงพลัดน่ะคุณ ไม่มีพิษหรอก ไม่ต้องกลัว”

“เอามันออกไปที ชาร์มกลัว ฮือๆๆ ฮือๆๆ” เธอขอร้องทั้งน้ำตาเมื่อเขาไม่ยอมทำอะไรกับมันสักที

คำขอของเธอทำเอาเขาหายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว เขาจะทำแบบนั้นได้อย่างไร ในเมื่อมันเลือกที่เกาะได้เหมาะเจาะแบบนั้น แล้วเสื้อของเธอก็เป็นแบบพอดีตัว ถ้าเขาจับไป.. สุดท้ายเขาจึงใช้ไฟฉายเขี่ยมันให้หนี แต่เพราะขามันเหนียวหรือเพราะมันชีกอก็ไม่รู้ มันจึงไม่ยอมบินหนีไปจากตรงนั้นเลย

“จับมันสิคะ อย่าเขี่ยแบบนั้นเดี๋ยวมันบินใส่ชาร์ม ชาร์มกลัว ฮือๆๆ ฮือๆๆ” เธองอตัวลงต่ำยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาสะกิดมันแบบนั้น

ความกลัวของเธอทำให้วิโมกข์ตัดสินใจจับแมลงตัวนั้นด้วยมือของเขา พยายามไม่ให้สัมผัสโดนเธอแต่มันก็ยังมีบ้างแผ่ว ๆ เพราะเธออยู่ไม่นิ่งเลย

“ผมจับมาแล้ว” เขาบอกกับคนที่ยังหลับหูหลับตาร้องไห้

ชาร์มมิ่งค่อย ๆ หยุดร้องแล้วมองไปที่มือของเขา เมื่อเห็นแมลงตัวนั้นถูกจับออกไปแล้วจริง ๆ จึงยืดตัวเต็มความสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสี่เซนติเมตร

“ขะ..ขะ..ขอบคุณค่ะ” เสียงของเธอยังมีแววสะอื้นเจืออยู่ “จะไปไหนเหรอคะ”

“ผมจะเอามันไปปล่อย” เพราะเห็นว่าเธอกลัวจึงคิดจะเดินไปปล่อยที่ต้นไม้แทนการโยนออกไป

“อย่าเพิ่งปล่อยนะคะ ให้ชาร์มหาที่ซ่อนตัวได้ก่อนแล้วค่อยปล่อย ชาร์มกลัวมันจะบินกลับมาอีก” เธอขอร้องเขาแล้วรีบวิ่งหาที่ซ่อนที่ห่างออกไปอีกด้านหนึ่ง

วิโมกข์ยิ้มขันกับท่าทางเก้งก้างของเด็กสาว แล้วโยนแมลงทิ้งไปทั้งที่เธอยังหาที่ซ่อนไม่ได้ แต่แล้วก็ต้องขบฟันกลั้นเสียงหัวเราะสุดกำลัง เมื่อเห็นแมลงตัวนั้นบินไปทางทิศที่เธออยู่

“กรี๊ดดดด...” ชาร์มมิ่ง แอนนาเบล เครน กระโดดเหยงๆ เกร็งนิ้วมือนิ้วเท้าด้วยความขยะแขยงเจ้าตัวที่มาเกาะอยู่บนศีรษะ

วิโมกข์ทั้งขำทั้งสงสาร รีบวิ่งไปเอาแมงพลัดออกจากหัวเธอ ก่อนที่เธอจะช็อกหมดสติไปเสียก่อน

เช้าวันใหม่

ปราณีคลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าเกลี้ยงเกลา ไร้หนวดเครากวนตา ทรงผมที่เคยยุ่งเหยิงถูกแต่งทรงสวย เสื้อผ้า หน้า ผม สรุปแล้วทุกอย่างดูดีไร้ที่ติ กลับมาเป็นวิโมกข์คนเดิม

“สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่โมก วันนี้พี่โมกหล่อมากค่ะ” วิเวียนทักทายพี่ชายด้วยน้ำเสียงแจ่มใสกว่าทุกวัน พึงพอใจกับรูปลักษณ์ของเขาจนต้องเอ่ยปากชม

“ไอ้หยา! คุณหนูของหวังจริง ๆ หรือคะเนี่ย” เจ๊หวังวางโถข้าว จับชายหนุ่มหมุนซ้ายหมุนขวา แล้วน้ำตาก็ร่วงเผาะด้วยความดีใจ “คุณหนูของหวังจริง ๆ ด้วย คุณหนูคนเดิมของหวังกลับมาแล้ว”

“ผมขอโทษนะครับป้าหวัง ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำให้ป้าหวังเสียใจอีกแล้ว”

“รับปากหวังแล้วก็ทำให้ได้นะคะ รู้ไหมว่านอกจากหวังแล้วยังมีคุณแม่และน้องสาวของคุณหนูอีกนะคะที่เสียใจ”

“ผมคิดได้แล้วครับป้าหวัง ผมขอโทษนะครับคุณแม่ พี่ขอโทษนะวิเวียนที่ทำให้ต้องเป็นห่วง”

“มากินข้าวเถอะลูก เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นซะหมด” ปราณีเรียกลูกชายให้มานั่งโดยไม่พูดอะไร นอกจากมอบรอยยิ้มอ่อนโยนให้เขา

“ครับคุณแม่” วิโมกข์นั่งลงแล้วมองหาใครบางคนที่หายไป “ลูกศิษย์ของแม่ไม่ลงมาทานข้าวเหรอครับ”

“เธอปวดหัวนิดหน่อยจ้ะลูก เมื่อคืนคงโดนน้ำค้างเยอะไปหน่อย”

“กระหม่อมบางแบบนี้ไม่ต้องพาไปหาหมอเหรอครับคุณแม่”

“วิเวียนเพิ่งให้ชาร์มมิ่งเขาทานยาไปค่ะพี่โมก เดี๋ยวก็คงดีขึ้น ปกติชาร์มมิ่งเขาไม่ใช่คนอ่อนแอนะคะ ถึงเขาจะเป็นลูกคุณหนูทุกกระเบียดนิ้วก็เถอะ” นี่คือครั้งแรกในรอบสิบวันตั้งแต่เดินทางมาที่นี่ ที่พี่ชายของเธอถามถึงแขกผู้มาเยือน

“เธอเป็นลูกคุณหนูจริงๆ นั่นแหละ แค่แมลงตัวเล็กๆ ก็ร้องซะลั่นป่า” บางทีเธออาจจะป่วยเพราะกลัวแมลงพวกนั้นก็ได้ เมื่อคืนเขาก็มัวแต่ตกใจกับอาการของเธอจนลืมเรื่องที่โดนเธอตำหนิไปสนิท คิดๆ แล้วก็น่าโมโหอยู่เหมือนกัน แต่เธอก็พูดถูกของเธอจนเขาไม่มีหน้าจะไปโต้เถียง

“แต่พี่โมกก็เป็นฮีโร่ช่วยเธอจากแมลงตัวนั้นนี่คะ พี่สร้างความประทับใจให้เธออีกแล้วนะ”

“อีกแล้วเหรอ..” วิโมกข์ข้องใจกับคำว่าอีกแล้ว “หมายความว่าไง”

“พี่จำได้ไหมคะ ตอนที่พี่ไปเรียนอยู่ที่อเมริกา แล้วพี่เคยช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจากสุนัขที่กำลังจะกัดเธอแถว ๆ บ้านเรา พี่อุ้มเธอแล้วก็เตะสุนัขจนวิ่งหนีหางจุกตูดไปเลย” วิเวียนเท้าความ ฟื้นฟูความทรงจำของพี่ชาย

“อย่าบอกนะว่าเด็กคนนั้นคือเธอ” วิโมกข์จำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ดี เพราะก่อนจากกันเธอยังกอดเขาไว้แน่นพร้อมกับจุ๊บที่แก้มของเขาทั้งซ้ายและขวา แต่เรื่องนี้เธอคงไม่ได้เล่าให้ใครฟัง หึๆๆ ยายเด็กแก่แดดนั่นเองเหรอ

“ค่ะ พอพี่ช่วยเธอเสร็จพี่ก็ไปเรียน ส่วนเธอก็แวะมาหาวิเวียนที่บ้าน เธอเห็นรูปพี่เธอก็เลยเล่าให้เราฟัง แล้วยังบอกว่าพี่เป็นรักแรกของเธอ เธออยากแต่งงานกับพี่”

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ววิเวียน ตอนนั้นชาร์มมิ่งเขายังเด็ก เขาก็คิดแบบเด็กๆ แหละลูก อย่าไปถือสาคำพูดเธอเลยนะลูก”

“ผมรู้ครับแม่” วิโมกข์ตอบรับพร้อมรอยยิ้ม นึกถึงเด็กสาวสูงโย่ง หน้าตาเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาเมื่อคืนนี้ “ไม่น่าเชื่อนะครับว่าเด็กคนนั้นจะสูงได้ขนาดนี้”

“แม่ก็ไม่คิดเหมือนกัน เมื่อก่อนเธอตัวเล็กกว่าน้องสาวลูกอีก แต่พอขึ้นเกรดหกเท่านั้นตัวเธอก็พุ่งแซงน้องเราไปเลย แม่ว่าเธอน่าจะสูงกว่านี้อีกนะลูกเพราะตอนนี้เธอเพิ่งอายุสิบเจ็ด” ปราณีเล่าถึงลูกศิษย์คนโปรดด้วยความรักและเอ็นดู “พรุ่งนี้พอมีใครว่างบ้างไหมลูก”

“ทำไมเหรอครับคุณแม่”

“แม่อยากให้ขับรถไปส่งที่สนามบินหน่อยจ้ะ”

“คุณแม่จะกลับแล้วเหรอครับ” วิโมกข์ตกใจที่ได้ยินดังนั้น พอเขาเริ่มคิดได้ท่านก็จะกลับทันทีเลยเหรอ

“เปล่าหรอกลูก แม่จะอยู่ต่ออีกสองอาทิตย์ แต่แม่จะส่งชาร์มมิ่งเขาขึ้นเครื่องไปกรุงเทพจ้ะ เธอจะไปเยี่ยมคุณตาคุณยายของเธอ” ปราณีอธิบายให้ลูกเข้าใจ

“อ๋อ คุณแม่จะไปกี่โมงครับ ผมจะขับรถให้เอง”

“แม่โทรเช็คเที่ยวบินแล้วจะบอกอีกทีนะ”

“ครับคุณแม่” ...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บ้านไร่สายสวาท   10

    หัวคิ้วของชายหนุ่มขมวดเข้าหากัน แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย มันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ นางถึงตัดสินใจเองไม่ได้แบบนี้ “ใครมาขอเงินอีกเหรอครับป้า” เขาเดาสุ่ม นึกถึงบรรดาเมียเล็กเมียน้อยของบิดาที่ชอบตีหน้าเศร้ามาขอเงินลงทุน “ไม่ใช่หรอกค่ะคุณหนู อีนางพวกนั้นหวังจัดการเองได้ค่ะ แต่คนนี้หวังจัดการยากจริง ๆ ค่ะ คุณหนูไปดูเองเถอะค่ะ รีบ ๆ ไปสิคะ” “ก็ได้ครับ ขึ้นรถสิครับป้า” เขาเรียกนางให้ขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ เขยิบก้นไปข้างหน้าเพื่อให้มีที่ว่างเพิ่มมากขึ้นอีกหน่อย เจ๊หวังไม่ได้อยากจะขึ้นซ้อนท้ายรถเครื่องคันเล็กนี้สักนิด แต่เพราะความเร่งรีบทำให้นางตัดใจก้าวขาขึ้นไปนั่งคร่อมแล้วกอดเอวคุณหนูเอาไว้แน่น “ผมจะไปแล้วนะ กอดแน่น ๆ นะครับ ระวังมอเตอร์ไซค์ทำหล่นนะครับ” เขาแซวแล้วค่อย ๆ บิดคันเร่งขี่ออกไป เพียงแค่เห็นแผ่นหลังของแขกผู้มาเยือน วิโมกข์ก็ถึงกับยืนนิ่งเป็นหินไปชั่วขณะ เพราะจำได้ติดตา ก่อนจะเดินไปนั่งประจันหน้ากับเธอ “ต้องการพบผมเรื่องอะไร” เขาถามเธอ แต่สายตานั้นไปมองอยู่ที่เด็กชายตัวน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังแทน และเดาได้ทันทีว่

  • บ้านไร่สายสวาท   9

    สุดท้ายเขาก็หนีเธอไม่พ้น แต่เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ “ไงมีน เจอกันอีกแล้วนะ” บารมีกล่าวทักทาย ไม่ยอมปล่อยแขนเพื่อนรักเพราะกลัวเขาจะชิ่งหนีไป “สวัสดีโมก” มีนาทักทายอดีตคนรักที่เมินหน้าหนีไปทางอื่น ไม่ยอมกล่าวแม้คำทักทายกับตน “เราต้องรีบไปประชุม ขอตัวนะมีน” บารมีเอ่ยขึ้นแล้วดันวิโมกข์ให้เดินนำหน้า “แล้วเรื่องหุ้นจะว่ายังไง” มีนาตั้งคำถามตามหลังคนที่พยายามจะเดินหนี บารมีจับแขนเพื่อนรักแล้วหยุดเดิน หันไปทางหญิงสาวด้วยท่าทางใสซื่อ “ทำไมเหรอมีน คุณอยากจะขอซื้อคืนจากเราใช่ไหม” “ทำไมมีนต้องซื้อด้วยล่ะ ในเมื่อหลุยส์เขาไม่ได้ขายให้พวกคุณนี่” มีนาสังเกตท่าทีของชายหนุ่มทั้งสองเมื่อพูดจบ แน่นอนว่าบารมีทำหน้าแปลก ๆ อย่างเห็นได้ชัด แต่กับอดีตคนรักไม่มีแววหวั่นไหวแม้แต่น้อย “โอนหุ้นคืนมาให้มีน มีนรู้นะว่าหลุยส์แค่โอนหุ้นให้พวกคุณสองคนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่เขาดันมาตายเสียก่อน พวกคุณก็เลยจะฮุบมันเอาไว้เอง” สามีที่ทุ่มเทกับบริษัทมีหรือที่จะยอมลาออกอย่างง่ายดาย เขาต้องดีดลูกคิดลูกรางเอาไว้เรียบร้อยแล้วก่อนที่จะทำแบบนั้น “ทำไมถึงมาก

  • บ้านไร่สายสวาท   8

    และก็เป็นจริงอย่างที่วิโมกข์กังวล เขาและบารมีต้องบินไปและกลับระหว่างประเทศไทยกับประเทศสิงคโปร์เป็นว่าเล่นในช่วงสองเดือนแรกหลังจากงานศพหลุยส์ เพื่อชี้แจงเรื่องหุ้นที่ได้รับโอนจากคนตายและวันนี้พวกเขากลับมาเพื่อเข้าประชุมในฐานะผู้ถือหุ้น ร่วมกับผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ท่ามกลางสายตากังขาของทุกคน “ทำไมเขามองเราแบบนั้นวะ” บารมีกระซิบเบา ๆ ให้ได้ยินกันสองคน “ก็อยู่ดี ๆ มึงกับกูกลายเป็นผู้ถือหุ้นคนสำคัญขึ้นมาน่ะสิ” วิโมกข์คุยภาษาไทยโทนเสียงปกติห้านาทีต่อมาการประชุมก็เริ่มต้นขึ้น แต่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นที่หน้าประตู และมันก็ถูกเปิดออกด้วยมือของผู้ที่บุกรุกเข้ามา “อะไรกันนี่ เธอเข้ามาได้อย่างไร ที่นี่ห้องประชุมนะ ไม่ใช่บ่อนที่เธอจะเดินเข้าออกได้ตามใจ” บิดาของหลุยส์ เซียะ ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุมเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นลูกสะใภ้นอกคอกบุกเข้ามา “นึกว่าหนูอยากจะมานักเหรอคะคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อยอมตกลงกับหนูดี ๆ ตั้งแต่แรก หนูคงไม่ทำถึงขนาดนี้หรอกค่ะ” “ฉันไม่มีอะไรต้องตกลงกับเธอ กลับไปซะ” “แต่หนูมี ถ้าวันนี้หนูไ

  • บ้านไร่สายสวาท   7

    บทที่ 7 ผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้โกรธนายหรอก“ถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะ” หลุยส์ตอบทันที มองเพื่อนทั้งสองคนด้วยสายตาจริงจัง “ครอบครัวของฉันเป็นตระกูลใหญ่ที่คอยแต่ชิงดีชิงเด่นกันเอง ถึงฉันจะไว้ใจพ่อแม่แต่ฉันก็เชื่อใจพวกท่านไม่ได้ เพราะท่านยังมีลูกและหลานอีกหลายคน ถ้าท่านไม่ยอมแบ่งผลประโยชน์ให้ลูกชายฉันอย่างที่ท่านพูดจริงๆ ล่ะ ลูกฉันก็คงไม่ต่างไปจากขอทาน ฉันคิดว่าวิธีนี้ดีที่สุดแล้วโมก ทศ อย่างน้อยลูกฉันก็ยังได้เงินปันผลทุกปี พวกนายช่วยฉันด้วยนะ ฉันเชื่อว่านายสองคนจะไม่โกงลูกฉันหรอก”“ถ้านายไว้ใจฉัน ฉันก็จะยอมช่วยนาย” วิโมกข์รับปากเป็นคนแรกเพราะเห็นแก่เด็กและอยากแก้แค้นอดีตคนรักอยู่ในที“ถ้าโมกมันรับปากฉันก็เอาด้วยคน” บารมีรับปากอย่างกลัดกลุ้ม นึกสงสัยว่าคนรวยมากๆ นี่เขาสุขหรือทุกข์กันแน่ “แล้วพ่อกับแม่นายจะไม่เคืองฉันสองคนเหรอ”“เขาคงจะโกรธฉันจนไม่อยากมองหน้าเลย ลูกชายคนโตของครอบครัวขายหุ้นให้เพื่อนเพื่อแก้แค้นที่ถูกตัดออกจากกองมรดก” หลุยส์ เซียะ กล่าวอย่างขมขื่นในโชคชะตาของตัวเอง “ฉันขอบใจนายสองคนมากนะ ฉันจะรีบไปจัดการเรื่องเอกสารแล้วเราจะนัดเจอกันที่นี่อีกที”หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ทุกคนก็กลับมา

  • บ้านไร่สายสวาท   6

    บทที่ 6 ทำเพื่อลูกหลายปีผ่านไปหลังจากผิดหวังจากความรัก วิโมกข์ก็ทุ่มเทกับการบริหารสวนยางและฟาร์มหอยเป๋าฮื้อของเขาเต็มที่ ภายในระยะเวลาไม่ถึงห้าปี เขาก็สามารถใช้หนี้เงินกู้ธนาคารหลายร้อยล้านได้หมด กลายเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่ได้รับการยกย่องจากหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน แต่เขาก็ไม่ยอมหยุดความร่ำรวยของตัวเองไว้แค่นั้น ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างต่อเนื่องออกสู่ตลาดโลก“ฉันคิดว่าชาตินี้แกจะอยู่แต่ในสวนในไร่ซะอีก” บารมีประชดใส่เพื่อนรักที่มาเยี่ยมถึงหาดใหญ่ สี่ปีที่ผ่านมาเพื่อนของเขาคนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก จากชายหนุ่มที่ร่าเริง ขี้เล่น พูดจาดี กลายเป็นคนเคร่งขรึม ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร พูดจาขวานฝ่าซาก กลายเป็นคนหยิ่งๆ ดิบๆ เถื่อนๆ ไปเลย กอปรกับรูปร่างเหมือนนายแบบ และหน้าตาคมเข้มแบบคนใต้แต่ได้ความขาวแบบคนจีน จึงทำให้รูปลักษณ์เขาดูสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ เพียงแต่.. “ถ้านายยิ้มง่ายกว่านี้อีกสักนิด สาวๆ ทั้งสงขลาคงเสร็จนาย”“หน้าตาไม่มีประโยชน์เท่ากับเงินหรอกไอ้ทศ” วิโมกข์ยิ้มเยาะ หยิบขวดเบียร์กรอกใส่ปาก “ต่อให้มึงขี้เหร่จนหมาเมิน แต่ถ้ามึงมีเงินนางงามยังยอมเป็นเมียน้อยมึงเลย”“มึงอคติกับชีวิตไ

  • บ้านไร่สายสวาท   5

    บทที่ 5 คนเดิมฮึ่ม! ชายหนุ่มถึงกับทำหน้าไม่ถูก เมื่อได้ยินเด็กสาววัยละอ่อนพูดออกมาตรงๆ แบบนั้น แต่เมื่อเห็นอาการของเธอก็เข้าใจ จึงก้มตัวลงให้ต่ำกว่าเธอแล้วมองไปยังจุดที่เธอบอกพร้อมกับส่องไฟฉาย“แค่แมงพลัดน่ะคุณ ไม่มีพิษหรอก ไม่ต้องกลัว”“เอามันออกไปที ชาร์มกลัว ฮือๆๆ ฮือๆๆ” เธอขอร้องทั้งน้ำตาเมื่อเขาไม่ยอมทำอะไรกับมันสักทีคำขอของเธอทำเอาเขาหายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว เขาจะทำแบบนั้นได้อย่างไร ในเมื่อมันเลือกที่เกาะได้เหมาะเจาะแบบนั้น แล้วเสื้อของเธอก็เป็นแบบพอดีตัว ถ้าเขาจับไป.. สุดท้ายเขาจึงใช้ไฟฉายเขี่ยมันให้หนี แต่เพราะขามันเหนียวหรือเพราะมันชีกอก็ไม่รู้ มันจึงไม่ยอมบินหนีไปจากตรงนั้นเลย“จับมันสิคะ อย่าเขี่ยแบบนั้นเดี๋ยวมันบินใส่ชาร์ม ชาร์มกลัว ฮือๆๆ ฮือๆๆ” เธองอตัวลงต่ำยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาสะกิดมันแบบนั้นความกลัวของเธอทำให้วิโมกข์ตัดสินใจจับแมลงตัวนั้นด้วยมือของเขา พยายามไม่ให้สัมผัสโดนเธอแต่มันก็ยังมีบ้างแผ่ว ๆ เพราะเธออยู่ไม่นิ่งเลย“ผมจับมาแล้ว” เขาบอกกับคนที่ยังหลับหูหลับตาร้องไห้ชาร์มมิ่งค่อย ๆ หยุดร้องแล้วมองไปที่มือของเขา เมื่อเห็นแมลงตัวนั้นถูกจับออกไปแล้วจริง ๆ จึงยืดตั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status