หน้าหลัก / โรแมนติก / บ้านไร่ในฝัน / ตอนที่ 1: คำสัญญาใต้ต้นลำไย

แชร์

บ้านไร่ในฝัน
บ้านไร่ในฝัน
ผู้แต่ง: ลินญาร์

ตอนที่ 1: คำสัญญาใต้ต้นลำไย

ผู้เขียน: ลินญาร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-08 05:38:25

แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายคล้อยสาดส่องลงมาต้องยอดต้นลำไยที่ทอดตัวเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา เสียงจักจั่นเรไรร้องระงมเป็นจังหวะตามลมที่พัดเอื่อย ๆ พาเอากลิ่นดอกลำไยอ่อน ๆ ลอยมาแตะจมูก

เดือน เด็กหญิงตัวน้อยในชุดเสื้อยืดตัวเก่ากับกางเกงขาสั้นเปื้อนดินแดง กำลังวิ่งซุกซนไปทั่วแนวสวนที่อยู่ติดกับบ้านของเธอ ดวงตากลมโตเป็นประกายเมื่อเห็นดอกลำไยสีขาวนวลเริ่มผลิบานเป็นพุ่มสวย

ไม่ไกลจากนั้น ขุน เด็กชายรุ่นพี่อายุราวสิบสองปี กำลังปีนป่ายอยู่บนกิ่งลำไยใหญ่ มือหนากำลังเด็ดลำไยสุกสีเหลืองทองส่งลงมาให้ พี่เข้ม ที่ยืนรออยู่ด้านล่างอย่างคล่องแคล่ว

“พี่ขุน! ดูนี่สิคะ!” เสียงเล็ก ๆ ของเดือนดังเจื้อยแจ้ว เธอวิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดอยู่ใต้ต้นลำไยที่ขุนกำลังอยู่ แล้วชี้ไปที่ดอกลำไยเล็ก ๆ ช่อหนึ่งด้วยความตื่นเต้น

ขุนชะงักมือ เขาก้มลงมองเดือนที่ยืนตาแป๋วอยู่ด้านล่าง “อะไรเดือน?”

“ดอกลำไยสวยไหมคะ!” เดือนเงยหน้ามองเขา ดวงตาเปล่งประกายด้วยความไร้เดียงสา “หนูชอบดอกไม้ค่ะ โตขึ้นหนูจะมีสวนดอกไม้ของตัวเองเลย!”

ขุนยิ้มบาง ๆ เขากระโดดลงจากต้นไม้มายืนข้างเดือน แล้วเอื้อมมือไปลูบหัวเธอเบา ๆ “สวยสิ…ดอกไม้ก็สวยเหมือนเดือนนั่นแหละ”

แก้มของเดือนแดงขึ้นเล็กน้อย เธอเขินกับคำชมนั้น แต่ก็ยังยิ้มกว้าง เธอเอื้อมมือไปเก็บดอกเข็มสีแดงสดที่ร่วงอยู่บนพื้นยื่นให้เขา

“พี่ขุน…ถ้าหนูโตขึ้น หนูจะแต่งงานกับพี่ขุน!” เดือนพูดเสียงใสซื่อ ดวงตากลมโตเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่นและจริงจัง ราวกับเป็นคำมั่นสัญญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ

ขุนหัวเราะเบา ๆ เสียงหัวเราะที่สดใสและอบอุ่น “จริงเหรอครับ ถ้าพี่ขุนแก่แล้ว เดือนจะยังอยากแต่งงานกับพี่ขุนไหม”

“จริงสิคะ! หนูจะแต่งงานกับพี่ขุนคนเดียว!” เดือนยืนยันหนักแน่น เธอโผเข้ากอดขาของขุนแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปไหน

ขุนก้มลงลูบหัวเดือนอีกครั้ง เขายิ้มอย่างอ่อนโยน เขารับรู้ถึงความรู้สึกใสซื่อของน้องสาวตัวเล็ก ๆ คนนี้ และไม่เคยคิดว่าคำพูดนั้นจะกลายเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในใจของเดือนไปอีกนานแสนนาน

พี่เข้มที่ยืนมองอยู่ไม่ไกล ยิ้มมุมปาก เขาเห็นความผูกพันของน้องชายกับเด็กหญิงข้างบ้านมาตั้งแต่พวกเขายังเล็ก แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะลึกซึ้งได้ถึงเพียงนี้

วันเวลาในไร่ลำไยไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่เต็มไปด้วยความสุขสำหรับเดือน

ทุกเช้าหลังอาหารเช้า เดือนจะรีบวิ่งตรงไปที่บ้านของพี่เข้ม ซึ่งก็คือบ้านของพี่ขุนด้วยเสมอ เธอจะแอบมองอยู่หลังพุ่มดอกพุดซ้อนหน้าบ้าน รอจนเห็นพี่ขุนเดินออกมาจากบ้านนั่นแหละ เธอถึงจะโผล่หน้าออกไปทักทาย

“พี่ขุน! ไปไหนคะ!” เสียงเล็ก ๆ ของเดือนดังเจื้อยแจ้วไปทั่วบริเวณ

ขุนที่กำลังจะเดินไปช่วยพี่เข้มดูงานในไร่ ชะงักเท้า เขาหันมามองเดือนที่วิ่งหน้าตั้งมาหาด้วยรอยยิ้มสดใส

“จะไปดูไร่กับพี่เข้มครับ เดือนจะไปด้วยเหรอ” ขุนถามพลางย่อตัวลงลูบหัวเดือนเบา ๆ

“ไปสิคะ! หนูอยากไปช่วยพี่ขุน” เดือนตอบอย่างกระตือรือร้น ดวงตาเป็นประกาย

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของกิจกรรมประจำวันของเดือน เธอจะตามติดขุนไปทุกที่ในไร่ลำไย ไม่ว่าขุนจะไปช่วยพี่เข้มรดน้ำต้นไม้ พรวนดิน หรือแม้แต่ซ่อมแซมอุปกรณ์การเกษตร เดือนก็จะอยู่ข้าง ๆ เสมอ

บางครั้งเดือนก็ช่วยเก็บเศษใบไม้แห้ง บางครั้งก็ช่วยถืออุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว เธอจะนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา มองดูขุนทำงานอย่างตั้งใจ

“พี่ขุนเก่งจังเลยค่ะ” เดือนชมเชยเมื่อขุนซ่อมเครื่องพ่นยาเสร็จ

ขุนยิ้ม เขายื่นมือที่เปื้อนดินและคราบน้ำมันเล็กน้อยมายีหัวเดือน “เดือนก็เก่งเหมือนกันนะ นั่งเป็นเพื่อนพี่ได้ทั้งวันเลย”

ในยามบ่ายที่แดดร่มลมตก เดือนกับขุนจะพากันไปที่ลำห้วยท้ายไร่ พวกเขาจะนั่งอยู่บนก้อนหินริมน้ำ ปล่อยเท้าแช่น้ำเย็น ๆ คุยกันเรื่องสัพเพเหระ

“พี่ขุน…โตขึ้นพี่ขุนจะทำอะไรคะ” เดือนถามพลางเอาเท้าเตะน้ำเล่น

ขุนมองผิวน้ำที่กระเพื่อมเป็นวง “พี่ก็คงอยู่ช่วยพี่เข้มทำไร่ลำไยนี่แหละมั้ง”

“แล้วพี่ขุนจะอยู่กับเดือนตลอดไปเลยใช่ไหมคะ” เดือนเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

ขุนยิ้ม “แน่นอนสิครับ พี่ก็จะอยู่ตรงนี้แหละ”

คำพูดของขุนเป็นเหมือนคำมั่นสัญญาที่ทำให้หัวใจของเดือนพองโต เธอเชื่อมั่นในคำพูดของเขาอย่างหมดใจ

ในบางวัน เดือนจะแอบเอาขนมที่แม่ทำมาให้ขุนกิน ขุนจะยิ้มรับด้วยความเอ็นดู แล้วแบ่งขนมนั้นกินกับเดือนอย่างมีความสุข

“อร่อยไหมคะพี่ขุน” เดือนถามพลางมองหน้าขุนตาแป๋ว

“อร่อยที่สุดเลย” ขุนตอบพลางขยี้ผมเดือนเบา ๆ

วันคืนในไร่ลำไยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะใส ๆ ของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ และรอยยิ้มอบอุ่นของเด็กชายรุ่นพี่ ความผูกพันของทั้งคู่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ ลึกซึ้ง และมั่นคง ราวกับรากของต้นลำไยที่หยั่งลึกลงไปในผืนดิน

เดือนไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่ง…รอยยิ้มอบอุ่นและเสียงหัวเราะสดใสของพี่ขุน จะหายไปจากไร่แห่งนี้อย่างกะทันหัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 14 คืนแห่งการเฉลิมฉลอง

    บรรยากาศในบ้านของ พี่เข้ม เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสียงหัวเราะ ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองให้กับ บัณฑิตใหม่ อย่าง ขุนพอล และ ลินดา เดินทางมาร่วมงานด้วย พวกเขานำไวน์ชั้นดีและขนมเค้กมาเป็นของขวัญ ข้าวหอมช่วยจัดเตรียมอาหารเย็นชุดใหญ่ มีทั้งอาหารพื้นบ้านและอาหารที่ขุนชอบเป็นพิเศษโต๊ะอาหารถูกจัดวางไว้นอกชานบ้าน ใต้แสงไฟสลัว ๆ ที่ห้อยระย้าจากต้นไม้ใหญ่ เสียงดนตรีเบา ๆ คลอเคล้าไปกับเสียงพูดคุยและเสียงแก้วกระทบกันเดือน มาถึงพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส เธอสวมชุดที่เรียบง่ายแต่ดูสง่างาม ดวงตาเป็นประกายเมื่อมองมาที่ขุน“ยินดีด้วยอีกครั้งนะคะพี่ขุน” เดือนเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่จริงใจขุนยิ้มตอบ “ขอบคุณนะเดือน” เขารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดเมื่อได้เห็นเธออยู่ตรงนี้ทุกคนนั่งล้อมวงกันที่โต๊ะอาหาร พี่เข้มรินไวน์ให้ทุกคน พอลยกแก้วขึ้น“ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ของเราด้วยนะขุน” พอลกล่าว “นายเก่งมากจริง ๆ”ทุกคนยกแก้วขึ้นชนกัน เสียง “ไชโย!” ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงลินดายิ้มให้ขุน “ดีใจด้วยนะคะขุน ที่ดิน 50 ไร่ที่พี่เข้มให้…อยู่ติดกับไร่ดอกไม้ของลินดาเลยนะ” เธอเอ่ยขึ้น “ถ้ามีอะไรให้ช่วย บอกได้เลยนะ”ขุนพยั

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 13 วันแห่งความสำเร็จ

    หลังจากวันนั้นที่คาเฟ่ ขุน ตัดสินใจที่จะกลับไปเรียนต่อในเมืองตามคำแนะนำของ พี่เข้ม แม้ในใจลึก ๆ จะมีความรู้สึกบางอย่างที่อยากจะอยู่ใกล้ เดือน และไร่ลำไย แต่เขาก็รู้ว่าการเรียนคือโอกาสสำคัญที่พี่ชายมอบให้ และเป็นสิ่งที่เขาเคยใฝ่ฝันมาตลอดขุนเดินทางกลับเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยอีกครั้ง เขาทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างหนัก ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องสมุดและห้องปฏิบัติการ ความรู้ใหม่ ๆ ที่ได้รับทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เขามองเห็นอนาคตที่สดใสขึ้นเรื่อย ๆ และตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนา "บ้านไร่ในฝัน" ของเขาให้เป็นจริงตลอดช่วงเวลาที่ขุนเรียนอยู่ในเมือง เขาจะโทรศัพท์กลับมาคุยกับพี่เข้มและข้าวหอมเป็นประจำ เพื่อสอบถามสารทุกข์สุกดิบและข่าวคราวของไร่ลำไย และแน่นอนว่าเขามักจะแอบถามถึง เดือน เสมอเดือนเองก็ใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็งและมีความสุขกับการทำงานที่คาเฟ่ดอกไม้ของ ลินดา เธอเติบโตเป็นหญิงสาวที่มั่นใจในตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในใจลึก ๆ ก็ยังคงเฝ้ารอคอยการกลับมาของขุนเสมอเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว…ในที่สุด วันที่ ขุน รอคอยก็มาถึง วันรับปริญญา ของเขาพี่เข้มและข้าวหอมพร้อมด้วย ต้นฝัน ลูกสา

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 12 แววตาที่ไม่เหมือนเดิม

    เสียงเรียกชื่อของ เดือน แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้โลกทั้งใบของ ขุน หยุดนิ่ง ดวงตาของทั้งคู่สบกัน ขุนเห็นความตกใจและแปลกใจในแววตาของเดือน ส่วนเดือนก็เห็นความรู้สึกบางอย่างที่เธออ่านไม่ออกในดวงตาของเขาลูกค้าหนุ่ม ๆ ที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างก็หันมามองขุนด้วยความสงสัยเล็กน้อย เดือนที่ตั้งสติได้ก่อน รีบส่งยิ้มให้ลูกค้าพร้อมรับออเดอร์อย่างเป็นธรรมชาติ“พี่ขุนมาเมื่อไหร่คะ” เดือนถามขณะที่เธอกำลังชงกาแฟให้ลูกค้า มือของเธอดูคล่องแคล่ว แต่ขุนก็สังเกตเห็นว่ามันสั่นไหวเล็กน้อย“เมื่อวาน” ขุนตอบสั้น ๆ สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่เดือน ไม่ได้สนใจลูกค้าคนอื่น ๆ เลยเมื่อเดือนชงกาแฟเสร็จและส่งให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว เธอก็หันมาเผชิญหน้ากับขุนอย่างเต็มที่“มาเที่ยวคาเฟ่เหรอคะ” เดือนพยายามยิ้มให้เขาอีกครั้ง รอยยิ้มนั้นยังคงสวยงาม แต่ดูต่างไปจากรอยยิ้มสดใสในวัยเด็กอย่างสิ้นเชิง มันคือรอยยิ้มของหญิงสาวที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย“มาเยี่ยมหลาน” ขุนตอบ และในที่สุดเขาก็เดินเข้าไปยืนที่หน้าเคาน์เตอร์ “พี่เข้มมีลูกสาวแล้ว ชื่อต้นฝัน”ดวงตาของเดือนเป็นประกายด้วยความยินดี “จริงเหรอคะ! ดีใจด้วยจังเล

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 11: ดอกไม้บานในใจเดือน

    หลังจากวันที่ ขุน จากไปอีกครั้งพร้อมกับคำสัญญาที่ยังค้างคา เดือน ใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ เธอปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาจนหมดสิ้น ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เดือนรู้ดีว่าชีวิตต้องดำเนินต่อไป และเธอจะต้องเข้มแข็งให้ได้เวลาผ่านไป เดือนเริ่มเติบโตเป็นสาวเต็มตัว ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา แต่เป็นความคิดและจิตใจ เธอตัดสินใจที่จะไม่จมอยู่กับความเศร้า แต่จะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด เพื่อรอคอยวันที่ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ด้วยความช่วยเหลือของ พี่เข้ม และ ข้าวหอม เดือนได้มีโอกาสเข้าไปทำงานใน ไร่ดอกไม้เรือนกระจกของลินดา ซึ่งอยู่ทางเหนือของไร่ลำไย เธอเริ่มต้นจากการเป็นผู้ช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เรียนรู้การดูแลดอกไม้ การจัดดอกไม้ และการบริหารจัดการคาเฟ่ดอกไม้ที่สวยงามลินดา มองเห็นความตั้งใจและความมุ่งมั่นในตัวเดือน เธอเอ็นดูเดือนเหมือนน้องสาวคนเล็ก คอยสอนงาน ให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษาในทุก ๆ เรื่อง ลินดาไม่ได้สอนแค่เรื่องงาน แต่ยังสอนเรื่องการใช้ชีวิต การจัดการกับอารมณ์ และการมองโลกในแง่บวก“ดอกไม้ก็เหมือนใจคนนะเดือน” ลินดาเคยพูดขึ้นในวันหนึ่งขณะที่ทั้งคู่กำลังจัดดอกไม้อยู่ในเรือนกระจก “ถ้าเราดูแลมันดี

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 10 อ้อมกอดแห่งการจากลา

    วันเดินทางมาถึง ท้องฟ้าแจ่มใสผิดกับคืนก่อน ๆ ที่มืดครึ้ม ขุน ตื่นแต่เช้า จัดกระเป๋าเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชุดลงในกระเป๋าเดินทางใบเก่า ความรู้สึกตื่นเต้นระคนสับสนยังคงวนเวียนอยู่ในใจหลังจากทานอาหารเช้าที่ ข้าวหอม เตรียมไว้ให้ ขุนก็เดินออกมาที่หน้าบ้าน พี่เข้ม ยืนรออยู่แล้ว ข้าง ๆ เขาคือรถกระบะคันเก่าของไร่ สีซีดจางไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังดูดีและใช้งานได้“รถคันนี้…พี่ให้แกเอาไปใช้ในเมือง” พี่เข้มพูดขึ้น น้ำเสียงของเขานิ่งเรียบ แต่แววตาเต็มไปด้วยความห่วงใย “มันอาจจะเก่าหน่อย แต่ก็ยังวิ่งได้ดี ดูแลมันดี ๆ นะ”ขุนมองรถคันนั้นด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ เขาไม่คิดว่าพี่เข้มจะให้รถเขาไปใช้ในเมือง “ขอบคุณครับพี่”พี่เข้มวางมือบนไหล่น้องชาย “ไปถึงแล้วก็ตั้งใจเรียนนะ ไม่ต้องห่วงทางนี้”ขุนพยักหน้า เขารับกุญแจรถมาจากพี่เข้ม ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถ เตรียมตัวที่จะก้าวเข้าไปก่อนที่จะสตาร์ทรถ ขุนเหลือบมองไปยัง บ้านของเดือน ที่อยู่ไม่ไกลนัก เขาสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบที่ปกคลุมอยู่ แต่ในใจก็อดคิดถึงเธอไม่ได้เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเสียบกุญแจและบิดสตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงเครื่องยนต์เก่า ๆ ดังกระหึ่มขึ้นมาใน

  • บ้านไร่ในฝัน   ตอนที่ 9 การชดเชยของพี่ชาย

    เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความคิดคำนึงถึงคำสัญญาในวัยเด็ก ขุน ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ยังหนักอึ้ง แต่เขาก็พยายามฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นมาช่วยงานในไร่ลำไยเหมือนเช่นเคยขณะที่ขุนกำลังช่วย พี่เข้ม ตัดแต่งกิ่งลำไยอยู่กลางไร่ พี่เข้มก็วางกรรไกรลง เขามองไปยังขุนด้วยแววตาที่จริงจังกว่าปกติ“ขุน…แกอยากกลับไปเรียนไหม” พี่เข้มเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหันขุนชะงักมือที่กำลังตัดกิ่งไม้ เขาเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าพี่เข้มจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา“เรียนเหรอครับพี่” ขุนทวนคำถามพี่เข้มพยักหน้า “ใช่…พี่รู้ว่าแกอยากเรียนมาตลอด พี่…พี่ขอโทษนะที่วันนั้นพี่พูดไม่ดี” น้ำเสียงของพี่เข้มแผ่วลงเล็กน้อย แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่เก็บงำมานาน “พี่อยากจะชดเชยให้แก”ขุนยืนนิ่ง เขามองพี่ชายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งแปลกใจ ตื้นตัน และสับสน เขาไม่เคยคิดว่าพี่เข้มจะพูดคำว่าขอโทษ และไม่เคยคิดว่าพี่ชายจะยังจำความฝันเรื่องการเรียนของเขาได้“พี่ได้คุยกับ อาจารย์สมศักดิ์ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว ท่านเป็นเพื่อนเก่าของพ่อเรา ท่านบอกว่าถ้าแกสนใจ ท่านจะช่วยดูเรื่องทุนการศึกษาให้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status