จากวันเป็นเดือนความสัมพันธ์ของนารีกับนักรบ ได้แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองมิอาจปฏิเสธได้ว่า ความสุขที่มีในทุกวันอยู่เพื่อกันและกัน จะไม่มีวันพรากจากจนกว่าชีวิตจะหาไม่
"หนูนารีมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้" ป้านวลเอ่ยถามออกมา ในขณะที่นารีนั้น กำลังเปิดดูอัลบั้มรูปพวกนั้นอยู่
"พอดีว่านาเก็บของในห้องเปลี่ยนมุมใหม่ แล้วบังเอิญไปเจอรูปภาพพวกนี้เข้า มีเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมันคืองานแต่งของคุณนักรบ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคะป้านวล" นารีเอ่ยถามออกมา ในขณะที่น้ำตาคลอ เขาเคยแต่งงานมาแล้ว เมื่อเทียบกับงานของเธอ ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว
ในภาพนั้นมีงานเลี้ยงที่มีสักขีพยานเป็นร้อยเป็นพัน แต่งานของเธอกับเขามีไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ ที่สำคัญภาพเหล่านั้นดูนักรบมีความสุขมาก เมื่อรอยยิ้มที่เปื้อนใบหน้ากับแววตาเวลาที่เขามองผู้หญิงคนนั้น ช่างแตกต่างกับเธอ ซึ่งเขาคงเห็นเป็นเพียงแค่เงาของใครบางคนเท่านั้น
"คุณหนูนารี นั่นมันคือภาพในอดีต อย่าคิดมากเลยนะ อีกอย่างเทเรซ่าได้หายไปจากชีวิตของคุณนักรบนานแล้ว" ป้านวลไม่รู้จะพูดปลอบใจนารียังไงดี ความสวยความเซ็กซี่ของเทเรซ่า นำพาให้นักรบตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเจอ ทั้งคู่คบกันไม่นานจึงตัดสินใจแต่งงานกัน แต่แล้วรักแรกต้องขาดสะบั้นลง เมื่อเทริซ่าแอบนอกใจสามีไปมีชายอื่น
จากวันนั้นเป็นต้นมา หัวใจนักรบก็ด้านชา เขาไม่ชอบผู้หญิงเซ็กซี่ นั่นคืออีกหนึ่งเหตุผลที่เขาเลือกนารี เพื่อแต่งงานครั้งนี้ภายใต้เงื่อนไขในสัญญา แต่แล้วความดีของเธอบวกกับความใกล้ชิดค่อยๆ ซึมซับให้นักรบรักเธอจนหมดหัวใจ ลืมสิ้นซึ่งเทเรซ่าผู้หญิงที่เคยเป็นภรรยาและรักแรกของเขา
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเยื่อใยที่เคยมีให้กับเทเรซ่านั้นจะขาดสิ้น เมื่อตัดบัวยังเหลือใยคงไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกของนักรบ แต่ป้านวลก็เชื่อว่านารีจะสามารถทำให้ชายหนุ่มลืมเทเรซ่าได้ เพราะดูจากที่เขายอมเธอในหลายๆ เรื่อง ทั้งที่ไม่เคยยอมใครมาก่อน
"เธอดูสวยจังเลยนะคะป้านวล เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ใบหนาดอย่างนาคงสู้เธอไม่ได้" นารีพูดด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อออกมา เมื่อเธอรู้ดีว่าไม่คู่ควรกับนักรบเลยสักนิด เมื่อเทียบกับผู้หญิงในรูป
"ใบหนาดอะไรกัน คุณนารีมีคุณค่ามากกว่าผู้หญิงคนไหน ที่เคยเข้ามาในชีวิตของคุณนักรบ แม้แต่เทเรซ่าเองก็แทบจะไม่เหลือคุณค่าให้นายน้อยของพวกเราถวิลหา อย่าคิดมากนะคะ อดีตก็คืออดีต" นารีคิดว่าสิ่งที่ป้านวลพูดออกมานั้น หญิงสูงวัยแค่กลั่นกรองประโยคให้ดูสวยงาม เพื่อให้คนฟังอย่างเธอนั้นสบายใจ
"แต่เขาก็เก็บภาพเหล่านี้เอาไว้ ถ้าหากไม่มีเยื่อใยหลงเหลืออยู่ในใจ คุณนักรบก็คงทิ้งไปแล้ว" นารีพูดพร้อมกับวางอัลบั้มรูปภาพเหล่านั้นไว้ที่โต๊ะของห้องนั่งเล่น ก่อนจะเดินออกไปที่สวน เพื่อเก็บดอกไม้มาร้อยมาลัย เผื่อมันจะทำให้เธอนั้นผ่อนคลายสบายใจลงไปได้บ้าง
พลบค่ำนักรบกลับเข้าบ้านมาพร้อมกับเจสัน ทั้งสองมีสีหน้าที่เคร่งเครียด เมื่อเงินในบัญชีของนารีได้ถูกถอนไปจนเกลี้ยง
"มันไม่ใช่ความผิดของนายหญิงนะครับ คุณนารีรู้หรือเปล่าว่านายน้อยเอาเงินเข้าบัญชีให้เธอ" เจสันพูดเพื่อเตือนสติเจ้านายหนุ่ม เพราะเขารู้ดีว่านักรบไม่ชอบคนโกหก ตั้งแต่วันที่เทเรซ่าหักหลังทรยศต่อความรักที่เขามีให้ เธอได้หลอกเอาเงินจากนักรบไปใช้ปรนเปรอชู้รัก
"ไม่ได้บอก แต่ฉันเองก็ยังไม่กล้าถาม เพราะกลัวคำตอบที่ได้จากนารี จะมีเพียงแค่คำพูดปดมดเท็จ ซึ่งฉันไม่อยากได้ยินคำเหล่านั้นจากปากของเธอ ฉันกลัวเจสัน ฉันกลัวว่าจะต้องผิดหวังซ้ำๆ อีกครั้ง" นักรบพูดพร้อมกับนั่งลงที่ห้องรับแขก ก่อนที่ป้านวลจะถืออัลบั้มรูปเดินเข้ามาหาเจ้านายหนุ่ม ที่นางนั้นรักไม่ต่างจากลูกในอุทร
"เทเรซ่าอาจจะเป็นความทรงจำที่ตอกย้ำให้คุณหนูได้นึกถึงแผลเก่า แต่อย่าลืมว่าคนที่รักษาแผลให้ อาจจะเจ็บปวด เพราะความพลั้งเผลอ หรือจากความบังเอิญที่คุณได้ฝากแผลในใจเธอเอาไว้ โดยไม่ได้ตั้งใจ ยังไงป้าก็ขอร้อง คุณหนูอย่าทำร้ายหนูนารีให้เจ็บช้ำน้ำใจเป็นเด็ดขาด" พูดจบป้านวลก็เดินออกไป พร้อมกับวางอัลบั้มรูปไว้บนโต๊ะ เจสันรีบนั่งลงที่โซฟา พร้อมกับเปิดอัลบั้มรูปนั้นดู
"นายน้อย! จะเก็บรูปพวกนี้เอาไว้เพื่ออะไร ทำไมไม่เผาทิ้งไป ผมยอมใจจริงๆ ผมว่าถ้าจะมีใครโกหก นายน้อยควรมองกลับมาที่ตัวเอง นายหญิงควรรับรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก เธอคงรู้สึกแย่ไม่น้อยที่เห็นรูปภาพบาดตาบาดใจเหล่านี้" พูดจบเจสันก็เดินขึ้นห้อง ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มได้นั่งคิดเพียงลำพัง นักรบยอมรับว่าเขาผิดที่ไม่ได้บอกความจริงกับเธอ เรื่องที่เขาเคยแต่งงานกับเทเรซ่า เพราะคิดว่ามันไม่สำคัญอะไร แม้เทริซ่าจะสร้างความเจ็บปวดให้เขามากมายเพียงใด แต่ลึกๆ ภายในใจรักแรกก็ยากที่จะลืมเลือน
เขาค่อยๆ เปิดดูรูปในอัลบั้ม ภาพแห่งความทรงจำได้ลอยเข้ามา พร้อมกับความเจ็บปวดที่มันด้านชา ที่เขายอมรับว่ามันยากที่จะลืมเลือน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะลืมเธอไม่ได้
บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารมื้อค่ำช่างอึมครึมไปหมด ชายหนุ่มแอบชำเลืองมองอาการของภรรยาเป็นระยะ ใบหน้าของนารีเหมือนกับคนไม่สบายใจ ดวงตาที่เคยสดใสเป็นประกายกับหม่นหมองลงอย่างชัดเจน เธอคงมีคำถามมากมายในใจ แต่ไม่กล้าถามเขาออกมา นั่นคือสิ่งที่นักรบกำลังอ่านใจนารีอยู่ในตอนนี้
"อาหารมื้อนี้ไม่อร่อยเหรอคะ ทำไมทุกคนถึงต้องทานอย่างเงียบไป หรือว่าฝีมือสองนารีตกซะแล้ว" รวียังคงลอยหน้าลอยตาพูดออกมา ไม่พ้นที่จะกระแนะกระแหนน้องสาวจนได้
"เก็บปากไว้กินข้าวเถอะครับคุณรวี คุณไม่พูดก็ไม่มีใครเขาหาว่าคุณเป็นใบ้หรอก" เจสันรู้ดีว่านายหญิงของเขารู้สึกอย่างไรในเวลานี้ มิหนำซ้ำรวียังจะมาพูดจาซ้ำเติมอีก เขาจึงพูดตอกกลับรวีออกไปจนเธอมองมาอย่างไม่ชอบใจ
ส่วนนารีเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทานข้าว เธอไม่อยากมองหน้าสามี เพราะกลัวว่าจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ เมื่อมีความในใจมากมายอยากจะระบายออกมา แต่ก็ไม่กล้าได้แต่เก็บมันไว้ภายในใจต่อไป
"นาอิ่มแล้ว วันนี้รู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอเสียมารยาทขึ้นไปพักก่อนนะคะ" นารีพูดพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ออกลุกขึ้นยืน
"เป็นอะไรมากหรือเปล่าหนูนารี ไปหาหมอไหม" เสียงของป้านวลทำให้เธอนั้นแทบน้ำตาไหล ในขณะที่นักรบไม่ได้สนใจ อย่างน้อยเขาก็น่าจะถามเธอสักคำก็ยังดี เพราะตั้งแต่เลิกงานมาเขาก็เลี่ยงที่จะพูดจา และไม่กล้าเผชิญหน้ากับเธอ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้านวล พักผ่อนเดี๋ยวก็หาย แค่นารู้สึกปวดหัวนิดหน่อยเอง ขอตัวนะคะ" พูดจบนารีก็เดินขึ้นไปบนห้องทันที จนทำให้รวีแอบสังเกตอาการของสองสามีภรรยา ปกติชายหนุ่มจะพูดจาเป็นห่วงเป็นใยนารี แต่วันนี้เขากลับทำเฉยชา เวลานี้รวีกำลังคิดว่าทั้งสองต้องมีเรื่องอะไรทะเลาะกันแน่
"คุณอาร์มันโด้ ไปทำอะไรให้นารีไม่พอใจหรือเปล่าคะ เธอถึงมีทีท่างอนเป็นเด็กๆ แบบนั้น" รวียังคงจีบปากจีบคอพูด ไม่ได้แยแสต่อบรรยากาศอึมครึมนี้เลยสักนิด
"เย้! คุณพ่อใจดีที่สุดในโลกเลยครับ" เด็กชายร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับกำมือชูขึ้นสองข้าง จนนารีแอบฉีกยิ้มที่มุมปาก ที่พ่อกับลูกนั้นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย "คุณหนูพบรักไปบ้านคุณยาย ย่านวลคงจะเหงาน่าดูเลย รีบไปรีบกลับนะครับคนเก่ง" น้ำเสียงของป้านวลช่างออดอ้อนให้เด็กน้อยนั้นอยากเอาใจ จนนักรบและนารียิ้มไม่หุบให้กับในความน่ารักของย่ากับหลาน "ผมไปบ้านคุณยายไม่กี่วันก็กลับแล้วครับคุณย่านวล เดี๋ยวพบรักจะเอาผลไม้มาฝาก ที่บ้านของคุณตาคุณยายมีผลไม้เยอะแยะเลย "ช่างพูดช่างเจรจาจังเลยนะเราเนี่ย อย่างนี้จะไม่ให้ย่ารักอย่าหลงได้ยังไง" หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะของพบรักไปมาเบาๆ ก่อนที่เด็กชายจะส่งยิ้มร่าให้ย่านวล พลอยทำให้ทุกคนยิ้มตามออกมา เมื่อพบรักมีความน่ารักสมวัยรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านกะสิเทพ ก่อนจะมีเด็กชายเปิดประตูวิ่งแจ้นออกมาจากรถ จนทำให้นักรบนั้นรีบเปิดประตูลงมาคว้าตัวลูกชายมาอุ้มเอาไว้
สักพักปลายลิ้นร้อนลากผ่านลงมาที่หน้าท้องของภรรยา เขาได้จุมพิตอย่างทะนุถนอมลงไปเบาๆ เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ภายในนี้ ซึ่งมันคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่นักรบตั้งใจไม่คิดป้องกันตั้งแต่แรก เพราะชายหนุ่มนั้นหวังจะได้ทายาท ตามที่ใจเคยปรารถนาเอาไว้ และภรรยาของเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยแม้เพียงนิด "พ่อรักหนูนะ รักแม่ของหนูด้วย" สิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม เขาได้สัมผัสไปที่มังกรยักษ์ก่อนจะค่อยๆ สอดมันเข้าไปในช่องแคบของภรรยาอย่างเบามือ "อืม แน่ใจนะคะว่าจะไม่มีผลต่อลูกของเรา" แม้ความต้องการของเธอจะมีมาก แต่นารีก็ยังเป็นห่วงลูกมากมายเช่นกัน "ไม่เป็นไรหรอกหนูนา ท่าเบสิกอย่ากลัวไปเลย ผมจะทำเบาๆ นะครับคนดี" นักรบพูดในขณะที่สะโพกของเขาเริ่มทำการขยับโยกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แม้ว่ามันจะไม่หนักหน่วงหรือรุนแรง แต่ทว่าความคับแน่นของช่องแคบ เมื่อมังกรยักษ์ผลุบเข้าผลุบออกก็ได้สร้างความเสียวซ่านให้กับสองสามีภรรยาไม่น้อยเลย "อ้า อ๊าคุณนักร
"ลูกของพ่อเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ทำไมแม่ถึงได้ดุจังเลย" การกระทำของสามีหนุ่ม ทำให้นารีนั้นรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตัวเธอเองก็โหยหาเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืนกี่วัน ผู้ชายคนนี้ก็มักจะทำให้เธอรู้สึกดีเสมอ โดยที่เขานั้นไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ "เงยหน้าขึ้นมาสิ เดี๋ยวไม่ทำแผลให้เปลี่ยนใจไปนอนไม่รู้ด้วยนะ" นารียังคงใช้คำพูดแข็งกระด้าง มีใบหน้าที่เรียบเฉยอีกตามเคย แต่นักรบก็รู้ว่าเธอใจอ่อนลงไปบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เดินมาหาเขา เพื่อขอดูแผลแบบนี้หรอก สามีหนุ่มยอมทำตามภรรยาอย่างว่าง่าย ยอมแหงนหน้าขึ้นไปให้เธอทำแผลให้ พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตากลมโต ที่เวลานี้ความหมองหม่นได้หายไปสิ้น "แผลบวมนูนขึ้นมาแบบนี้ ฉันว่าคุณไปเย็บแผลดีกว่า ไม่อย่างนั้นต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ" คราวนี้นารีพูดออกมาจากใจด้วยความรู้สึกผิด เมื่อแผลมันลึกและกว้างอยู่มาก และที่สำคัญเลือ
วันนี้ทั้งวัน ตั้งแต่เธอเดินไปหาอะไรกิน ในตอนเช้านารีไม่ยอมเดินออกจากห้องอีกเลย เพราะไม่อยากเจอนักรบ หญิงสาวขังตัวเองไว้ในห้องที่ชั้นบนของบ้าน ส่วนข้าวปลาอาหารนั้นมีรินสาวใช้คนสนิทของพี่สาวคอยบริการเธอทุกอย่าง ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบยี่สิบนาฬิกาแล้ว นารีไม่ได้สนใจใครทั้งสิ้น เธออาบน้ำแล้วเตรียมตัวจะเข้านอน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! "นารีขอแม่เข้าไปหน่อยได้ไหมลูก" เสียงของผู้เป็นมารดาดังแว่วมา หลังจากที่เสียงเคาะประตูเงียบไป ทำให้นาทีนั้นค่อยๆ ลุกจากเตียง เพื่อเดินไปเปิดประตูให้กับมารดา และเธอก็ต้องแปลกใจ เมื่อชายร่างสูงใหญ่รีบเบี่ยงตัวเข้ามาในห้องของเธอทันที พร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆ "แม่... แม่ แม่ค่ะ" นารีร้องเรียกหามารดา แต่จะดูเหมือนว่าเธอนั้นโดนหลอกเข้าให้ซะแล้ว "คุณไม่ต้องเรียกหรอก คุณแม่เดินเข้าห้องไปแล้ว" นักรบพูดพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด จนทำให้นารีนั้นมองเขาตาเขียว "ออกไปให้พ้นจากห้องฉันเลยนะ คุณแม่นะ
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน สายแล้วนะคุณ ลุกไปอาบน้ำจะได้มาทานข้าวพร้อมกัน" เจสันกระซิบลงไปที่ข้างหูของรวี ทำให้หญิงสาวรู้สึกคุ้นกับเสียงทุ้มนี้เป็นอย่างมาก เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้น ก่อนจะหลับลงอีกครั้ง เมื่อแสงมันแยงมา และคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป จากนั้นรวีค่อยๆ ปรือตาลืมขึ้นมาอีกครั้ง "ว้าย! เจสัน! คุณเข้ามาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไงออกไปเลยนะ" รวีพูดพร้อมกับหยิบหมอนตีลงไปที่ลำตัวของเจสัน ชายหนุ่มรีบเอามือขึ้นมาป้องตัวเอาไว้ พร้อมกับจับหมอนไว้แน่น ก่อนที่ทั้งสองจะยื้อกันไปมา "นี่คุณ! ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย แรงอย่างกับช้างหยุดก่อนได้ไหม" เจสันพยายามพูดปรามรวีให้หยุดดึงหมอน แต่ดูท่าทีของเธอแล้วไม่น่าจะยอมเขาง่ายๆ "ใครอยู่ข้างนอก ทำไมปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของฉันแบบนี้ รินอยู่ไหมเข้ามาช่วยหน่อยซิ" รวีตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนว่าคนข้างนอกจะไม่ใส่ใจ เพราะไม่เห็นมีใครตอบกลับมาเลยสักคน"ผมจะบอกอะไรให้นะ คุณไม่ได้ลงกลอน ผมแค่เปิดประตูเดินเข้ามา ตอนแรกพ่อของคุณกำลังจะไปหากุญแจสำรองมาเปิดใ
"ดูสิของเด็กเล่นพวกนั้น เขาสั่งมาเป็นคันรถเชียวนะ เขาไม่รู้หรือไงว่านาเพิ่งท้องได้เดือนกว่า" คำถามของมารดาทำให้นารีเริ่มสงสัย นักรบรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์ได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่เคยบอกให้ใครที่บ้านนั้นทราบ"บอกให้เขาขนกลับไปค่ะพ่อ นาไม่ขอรับอะไรจากเขาทั้งนั้น คนแบบนี้ตบหัวแล้วลูบหลัง อย่าฝันว่าเอาของพวกนี้มาล่อแล้วนาจะใจอ่อน ลูกของนาไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนั้นหรอกค่ะ เสื้อผ้านาตัดเย็บให้ลูกเองก็ได้ ส่วนของเล่นก็ประดิษฐ์ขึ้นเอง ไม่เห็นยากอะไร ไม่ต้องใช้เงินซื้อมาให้ฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำ" นารีพูดระบายออกมาซะยาวเหยียด เมื่อเธอนั้นยังรู้สึกโกรธและน้อยใจในตัวของสามี ซึ่งนารียังไม่คิดว่าจะคืนดีกับเขาง่ายๆ เมื่อชายหนุ่มพาภรรยาเก่ามาหยามน้ำใจ จนทำให้เธอต้องนอนร้องไห้สามเวลา "พ่อว่ามีอะไรก็พูดกันดีๆ สามีของลูกเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้ว เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก นาควรจะหันไปปรับความเข้าใจกันนะ ยังไงลูกก็ต้องมีพ่อ พ่อกับแม่ไม่อยากเห็นหลานเป็นกำพร้า เพราะสาเหตุที่หนูกับสามี ผิดใจกันเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย" นักรบได้เล่าทุกอย่างให้กับบิดาและมารดาของนารีได้รับฟัง ยกเว้นเร