"ลูกของพ่อเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ทำไมแม่ถึงได้ดุจังเลย" การกระทำของสามีหนุ่ม ทำให้นารีนั้นรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตัวเธอเองก็โหยหาเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืนกี่วัน ผู้ชายคนนี้ก็มักจะทำให้เธอรู้สึกดีเสมอ โดยที่เขานั้นไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ
"เงยหน้าขึ้นมาสิ เดี๋ยวไม่ทำแผลให้เปลี่ยนใจไปนอนไม่รู้ด้วยนะ" นารียังคงใช้คำพูดแข็งกระด้าง มีใบหน้าที่เรียบเฉยอีกตามเคย แต่นักรบก็รู้ว่าเธอใจอ่อนลงไปบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เดินมาหาเขา เพื่อขอดูแผลแบบนี้หรอก
สามีหนุ่มยอมทำตามภรรยาอย่างว่าง่าย ยอมแหงนหน้าขึ้นไปให้เธอทำแผลให้ พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตากลมโต ที่เวลานี้ความหมองหม่นได้หายไปสิ้น
"แผลบวมนูนขึ้นมาแบบนี้ ฉันว่าคุณไปเย็บแผลดีกว่า ไม่อย่างนั้นต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ" คราวนี้นารีพูดออกมาจากใจด้วยความรู้สึกผิด เมื่อแผลมันลึกและกว้างอยู่มาก และที่สำคัญเลือดมันยังไหลซิบออกมาอีกด้วย
"ไม่เป็นไรหรอกครับ แผลแค่นี้เองอย่ากังวลไปเลย ถ้ามันจะเป็นรอยแผลเป็นก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้ระลึกเอาไว้ อย่าทำให้เมียโกรธเพราะไม่เช่นนั้น แผลที่สามที่สี่ที่ห้าจะตามมา" นับรบพูดพร้อมกับจ้องมองไปที่ใบหน้าของภรรยาด้วยแววตาที่หวานฉ่ำ ในขณะที่เธอเอาผ้าก๊อซมาปิดให้เขา ทำให้คนทั้งคู่ได้สบตากันอย่างจัง ภายใต้ดวงตาคมนัยน์ตาสีฟ้ากำลังจะทำให้ภรรยาสาวตรงหน้าหัวใจละลาย เมื่อเขาได้ถ่ายทอดความรู้สึกมากมายผ่านม่านตาคู่นั้นออกมา บ่งบอกให้เธอรับรู้ได้ว่า เขารักและปรารถนาในตัวเธอเพียงใด ในเวลานี้คงไม่มีใคร มาทำให้เขาและเธอต้องพรากจากกันได้
ในเวลานี้ความรู้สึกของคนทั้งคู่ ที่มีให้กันและกันนั้น ความโกรธเคืองไม่อาจขวางกั้น เมื่อพวกเขาทั้งสองปรารถนาที่จะเดินร่วมทางไปด้วยกัน เพียงแค่ระยะทางที่ผ่านมาอาจจะขรุขระสะดุดไปบ้าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะหยุดเดิน เพื่อให้ไปถึงปลายอุโมงค์ดั่งที่ใจปรารถนา ถึงแม้ว่าจะมีขวากหนามมาขวางกั้น มันก็ไม่ใช่อุปสรรคหากคนทั้งคู่ตั้งใจจะฝ่าฟันไปด้วยกัน เพื่อจุดหมายปลายทางที่หวังเอาไว้ตั้งแต่แรก
"หนูนาผมรักคุณนะครับ รักแบบไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนมาก่อน นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะไม่มีวันทำให้คุณเสียใจ ผมสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย ว่าจะรักและซื่อสัตย์กับคุณเพียงคนเดียว เราดีกันเถอะนะ" นักรบพูดขณะที่เขายังคงโอบกอดเอวคอดของภรรยาเอาไว้ พร้อมกับซุกจมูกคม พร้อมกับริมฝีปากจุมพิตลงไปที่หน้าท้องของเธอ
"ฉันไม่เชื่อหรอก ผู้หญิงของคุณเยอะจะตาย ไหนจะลูกค้าคนสำคัญ และก็ยังมีนางแบบคนสวยนั่นด้วย ฉันคงสู้รบตบมือผู้หญิงของคุณไม่ไหวหรอก" คำพูดของภรรยาทำให้นักรบเงยหน้าขึ้นไปมองเธอ แต่คราวนี้เขาได้ลุกขึ้นยืน พร้อมกับใช้อุ้งมือหนาทั้งสองข้าง ประคองไปที่ใบหน้างามของเธอเอาไว้ แล้วจ้องมองเข้าไปที่ดวงตาคู่งามนั้นอีกครั้ง เพื่อยืนยันความรู้สึกทั้งหมดที่มีในหัวใจ เมื่อดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ นั่นหมายความว่าความรู้สึกทั้งหมด ลมหายใจที่มี มันจะเป็นของนารีแต่เพียงผู้เดียว
"คุณจะไม่ทำให้นา เสียใจอีกใช่ไหมคะ" นารีตั้งคำถามออกไป เพื่อความมั่นใจในตัวของผู้ชายตรงหน้า เธอไม่รู้ว่าหากวันหนึ่งเขาคิดพาผู้หญิงคนอื่นเข้าบ้านอีก เธอจะทนได้แค่ไหน และอาจจะหนีเตลิดไปไกล และหัวใจเธออาจจะชินชาจนไม่สามารถรับชายคนนี้ เข้ามาในหัวใจอีกก็เป็นได้
"ไม่มีวัน เพราะชีวิตของผมขาดคุณไม่ได้ แค่ไม่ได้เจอหน้าเมียไม่กี่วัน ผมก็แทบจะบ้าตายอยู่แล้ว ขอนอนกอดให้หายคิดถึงหน่อยนะ"
"ว้าย! นี่คุณจะทำอะไร" นารีอุทานออกมาเสียงหลง เมื่อสามีหนุ่มช้อนตัวเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว ก่อนที่เขาจะวางเธอลงที่เตียงนุ่มอย่างเบามือ "คิดถึงจัง ผมอยากกลืนกินคุณไปทั้งตัวจังเลยหนูนา ทำเมียผมน่ารักแบบนี้" นักรบพูดพร้อมกับพยายามเปลื้องชุดของภรรยาออก
"นาท้องอยู่นะ คุณคิดจะทำอะไร ขยับออกไปเลยนะ" ดูเหมือนคำพูดของนารีจะไม่เป็นผล เมื่อสามีหนุ่มได้โน้มใบหน้าลงต่ำ ริมฝีปากของเขาประกบเข้าหาเรียวปากอิ่มน้ำที่กำลังเผยอขึ้นมา เพื่อจะท้วงติงการกระทำของสามี แต่ทว่าเสียงหวานกลับถูกกลืนกินไปกับสัมผัสจากชายร่างสูงใหญ่ เขากดทับริมฝีปากลงไป เพื่อควานหารสชาติหวานปานน้ำผึ้ง จากจูบเบาๆ ค่อยเป็นค่อยไป กลายเป็นฉกชิมความหอมหวานอย่างละโมบโลภมาก เมื่อความต้องการในแก่นกายของเขามันทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ เพราะอยากสานสัมพันธ์สวาทกับภรรยาสาวตรงหน้า จนยากที่จะยับยั้งชั่งใจไว้ได้
"พ่อขอเข้าไปเยี่ยมลูกหน่อยนะครับ" นักรบพูดพร้อมกับสอดมือลงไปใต้ชุดนอนของภรรยา ก่อนจะลูบลงเบาๆ ที่หน้าท้องเนียนของเธอ ไม่นานเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่ได้หลุดลอยไปอยู่ใต้เตียง รวมทั้งชุดนอนของเขาด้วย เวลานี้ทั้งสองได้เปลือยเปล่าล่อนจ้อน
"หยุดก่อนได้ไหมคะคุณนักรบ คือว่า นากลัวค่ะ" เธอจะรู้หรือไม่ว่า เวลานี้สามีหนุ่มไม่สามารถหยุดได้แล้ว เมื่อร่างกายที่ไร้อาภรณ์เผยให้เห็นผิวขาวผ่องเปล่งออร่า เธอช่างประจักษ์ต่อสายตาของเขาเหลือเกิน มือหนาได้ลูบไล้ไปทั่วเรือนกายของเธอ ริมฝีปากของเขาไล้เลียชิมไปที่เม็ดบัวอย่างเมามัน เนื่องจากอกอิ่มอวบขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ด้วยขนาดของมันที่ใหญ่กลมโตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้สามีหนุ่มพึงพอใจ กับความงามของสองเต้า ที่เวลานี้เขากำลังเอาแต่ใจ ดูดดื่มที่เม็ดบัวอย่างเพลิดเพลิน
"อ้า อ๊าย คุณนักรบ" เสียงหวานเอ่ยชื่อสามีหนุ่มออกมา เมื่อความต้องการของเธอ กำลังก่อตัวและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนยากที่จะหยุดได้เช่นกัน
"ผมสัญญาจะทำเบาๆ อย่ากลัวไปเลย ลูกของเราอยากให้ผมเข้าไปเยี่ยมจะแย่แล้ว" สิ้นเสียงทุ้มเขาได้จูบลงไปที่เรียวปากของเธออย่างหนักหน่วงและดูดดื่มมากกว่าครั้งแรก แต่ทว่าความอ่อนโยนละมุนก็ยังคงมีอยู่มากเช่นกัน จนนารีไม่อาจขัดขืนยอมตามใจให้สามีตักตวงเอาความหอมหวานจากปากของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าได้ตามอำเภอใจ
เวลาเดียวกันมือหนาลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอรชร ในขณะที่แก่นกายของความเป็นชายกำลังพองตัวใหญ่ขึ้น จนแข็งขึงพร้อมที่จะออกรบเฉกเช่นชื่อของเขา สามีหนุ่มได้ผละจูบออกจากเรียวปากของเธอ เปลี่ยนมาเป็นไล้เลียวนรอบใบหู ก่อนจะขบเม้มเบาๆ ลงไปที่ติ่งนุ่ม นั่นเป็นการเรียกเสียงหวานให้ร้องครางออกมาพอให้ชื่นใจ เมื่อภรรยาของเขาไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืน
"อ๊ะอาย! คุณ...นาขนลุกซู่ไปหมดแล้ว อ้า!" เสียงครางกับประโยคบอกเล่าดังออกมา เมื่อผู้เป็นสามีกำลังกระตุ้นให้เธอนั้นมีความต้องการไม่หยุดหย่อน จนยากที่จะหยุดได้
"ผมรักคุณนะ นารี"
เสียงกระซิบจากริมฝีปากแนบชิดข้างใบหู จนเธอนั้นสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ยิ่งสร้างความเสียวซ่านไปทั้งร่างอรชร จากนั้นนักรบได้พรมจูบไปที่ซอกคอหอมกรุ่นของภรรยา ก่อนจะเลียไล้ลงมาหยอกล้อกับเม็ดบัวทั้งสองข้าง เขาใช้มือเคล้นที่สองเต้ากลมไปมา ก่อนจะอมแล้วดูดสลับทีละข้างอย่างเมามัน ราวกับบุตรกำลังกระหายนมจากมารดาก็ไม่ปาน การกระทำของเขานั้นช่างเอาแต่ใจ
"เย้! คุณพ่อใจดีที่สุดในโลกเลยครับ" เด็กชายร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับกำมือชูขึ้นสองข้าง จนนารีแอบฉีกยิ้มที่มุมปาก ที่พ่อกับลูกนั้นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย "คุณหนูพบรักไปบ้านคุณยาย ย่านวลคงจะเหงาน่าดูเลย รีบไปรีบกลับนะครับคนเก่ง" น้ำเสียงของป้านวลช่างออดอ้อนให้เด็กน้อยนั้นอยากเอาใจ จนนักรบและนารียิ้มไม่หุบให้กับในความน่ารักของย่ากับหลาน "ผมไปบ้านคุณยายไม่กี่วันก็กลับแล้วครับคุณย่านวล เดี๋ยวพบรักจะเอาผลไม้มาฝาก ที่บ้านของคุณตาคุณยายมีผลไม้เยอะแยะเลย "ช่างพูดช่างเจรจาจังเลยนะเราเนี่ย อย่างนี้จะไม่ให้ย่ารักอย่าหลงได้ยังไง" หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะของพบรักไปมาเบาๆ ก่อนที่เด็กชายจะส่งยิ้มร่าให้ย่านวล พลอยทำให้ทุกคนยิ้มตามออกมา เมื่อพบรักมีความน่ารักสมวัยรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านกะสิเทพ ก่อนจะมีเด็กชายเปิดประตูวิ่งแจ้นออกมาจากรถ จนทำให้นักรบนั้นรีบเปิดประตูลงมาคว้าตัวลูกชายมาอุ้มเอาไว้
สักพักปลายลิ้นร้อนลากผ่านลงมาที่หน้าท้องของภรรยา เขาได้จุมพิตอย่างทะนุถนอมลงไปเบาๆ เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ภายในนี้ ซึ่งมันคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่นักรบตั้งใจไม่คิดป้องกันตั้งแต่แรก เพราะชายหนุ่มนั้นหวังจะได้ทายาท ตามที่ใจเคยปรารถนาเอาไว้ และภรรยาของเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยแม้เพียงนิด "พ่อรักหนูนะ รักแม่ของหนูด้วย" สิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม เขาได้สัมผัสไปที่มังกรยักษ์ก่อนจะค่อยๆ สอดมันเข้าไปในช่องแคบของภรรยาอย่างเบามือ "อืม แน่ใจนะคะว่าจะไม่มีผลต่อลูกของเรา" แม้ความต้องการของเธอจะมีมาก แต่นารีก็ยังเป็นห่วงลูกมากมายเช่นกัน "ไม่เป็นไรหรอกหนูนา ท่าเบสิกอย่ากลัวไปเลย ผมจะทำเบาๆ นะครับคนดี" นักรบพูดในขณะที่สะโพกของเขาเริ่มทำการขยับโยกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แม้ว่ามันจะไม่หนักหน่วงหรือรุนแรง แต่ทว่าความคับแน่นของช่องแคบ เมื่อมังกรยักษ์ผลุบเข้าผลุบออกก็ได้สร้างความเสียวซ่านให้กับสองสามีภรรยาไม่น้อยเลย "อ้า อ๊าคุณนักร
"ลูกของพ่อเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ทำไมแม่ถึงได้ดุจังเลย" การกระทำของสามีหนุ่ม ทำให้นารีนั้นรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตัวเธอเองก็โหยหาเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืนกี่วัน ผู้ชายคนนี้ก็มักจะทำให้เธอรู้สึกดีเสมอ โดยที่เขานั้นไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ "เงยหน้าขึ้นมาสิ เดี๋ยวไม่ทำแผลให้เปลี่ยนใจไปนอนไม่รู้ด้วยนะ" นารียังคงใช้คำพูดแข็งกระด้าง มีใบหน้าที่เรียบเฉยอีกตามเคย แต่นักรบก็รู้ว่าเธอใจอ่อนลงไปบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เดินมาหาเขา เพื่อขอดูแผลแบบนี้หรอก สามีหนุ่มยอมทำตามภรรยาอย่างว่าง่าย ยอมแหงนหน้าขึ้นไปให้เธอทำแผลให้ พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตากลมโต ที่เวลานี้ความหมองหม่นได้หายไปสิ้น "แผลบวมนูนขึ้นมาแบบนี้ ฉันว่าคุณไปเย็บแผลดีกว่า ไม่อย่างนั้นต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ" คราวนี้นารีพูดออกมาจากใจด้วยความรู้สึกผิด เมื่อแผลมันลึกและกว้างอยู่มาก และที่สำคัญเลือ
วันนี้ทั้งวัน ตั้งแต่เธอเดินไปหาอะไรกิน ในตอนเช้านารีไม่ยอมเดินออกจากห้องอีกเลย เพราะไม่อยากเจอนักรบ หญิงสาวขังตัวเองไว้ในห้องที่ชั้นบนของบ้าน ส่วนข้าวปลาอาหารนั้นมีรินสาวใช้คนสนิทของพี่สาวคอยบริการเธอทุกอย่าง ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบยี่สิบนาฬิกาแล้ว นารีไม่ได้สนใจใครทั้งสิ้น เธออาบน้ำแล้วเตรียมตัวจะเข้านอน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! "นารีขอแม่เข้าไปหน่อยได้ไหมลูก" เสียงของผู้เป็นมารดาดังแว่วมา หลังจากที่เสียงเคาะประตูเงียบไป ทำให้นาทีนั้นค่อยๆ ลุกจากเตียง เพื่อเดินไปเปิดประตูให้กับมารดา และเธอก็ต้องแปลกใจ เมื่อชายร่างสูงใหญ่รีบเบี่ยงตัวเข้ามาในห้องของเธอทันที พร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆ "แม่... แม่ แม่ค่ะ" นารีร้องเรียกหามารดา แต่จะดูเหมือนว่าเธอนั้นโดนหลอกเข้าให้ซะแล้ว "คุณไม่ต้องเรียกหรอก คุณแม่เดินเข้าห้องไปแล้ว" นักรบพูดพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด จนทำให้นารีนั้นมองเขาตาเขียว "ออกไปให้พ้นจากห้องฉันเลยนะ คุณแม่นะ
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน สายแล้วนะคุณ ลุกไปอาบน้ำจะได้มาทานข้าวพร้อมกัน" เจสันกระซิบลงไปที่ข้างหูของรวี ทำให้หญิงสาวรู้สึกคุ้นกับเสียงทุ้มนี้เป็นอย่างมาก เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้น ก่อนจะหลับลงอีกครั้ง เมื่อแสงมันแยงมา และคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป จากนั้นรวีค่อยๆ ปรือตาลืมขึ้นมาอีกครั้ง "ว้าย! เจสัน! คุณเข้ามาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไงออกไปเลยนะ" รวีพูดพร้อมกับหยิบหมอนตีลงไปที่ลำตัวของเจสัน ชายหนุ่มรีบเอามือขึ้นมาป้องตัวเอาไว้ พร้อมกับจับหมอนไว้แน่น ก่อนที่ทั้งสองจะยื้อกันไปมา "นี่คุณ! ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย แรงอย่างกับช้างหยุดก่อนได้ไหม" เจสันพยายามพูดปรามรวีให้หยุดดึงหมอน แต่ดูท่าทีของเธอแล้วไม่น่าจะยอมเขาง่ายๆ "ใครอยู่ข้างนอก ทำไมปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของฉันแบบนี้ รินอยู่ไหมเข้ามาช่วยหน่อยซิ" รวีตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนว่าคนข้างนอกจะไม่ใส่ใจ เพราะไม่เห็นมีใครตอบกลับมาเลยสักคน"ผมจะบอกอะไรให้นะ คุณไม่ได้ลงกลอน ผมแค่เปิดประตูเดินเข้ามา ตอนแรกพ่อของคุณกำลังจะไปหากุญแจสำรองมาเปิดใ
"ดูสิของเด็กเล่นพวกนั้น เขาสั่งมาเป็นคันรถเชียวนะ เขาไม่รู้หรือไงว่านาเพิ่งท้องได้เดือนกว่า" คำถามของมารดาทำให้นารีเริ่มสงสัย นักรบรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์ได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่เคยบอกให้ใครที่บ้านนั้นทราบ"บอกให้เขาขนกลับไปค่ะพ่อ นาไม่ขอรับอะไรจากเขาทั้งนั้น คนแบบนี้ตบหัวแล้วลูบหลัง อย่าฝันว่าเอาของพวกนี้มาล่อแล้วนาจะใจอ่อน ลูกของนาไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนั้นหรอกค่ะ เสื้อผ้านาตัดเย็บให้ลูกเองก็ได้ ส่วนของเล่นก็ประดิษฐ์ขึ้นเอง ไม่เห็นยากอะไร ไม่ต้องใช้เงินซื้อมาให้ฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำ" นารีพูดระบายออกมาซะยาวเหยียด เมื่อเธอนั้นยังรู้สึกโกรธและน้อยใจในตัวของสามี ซึ่งนารียังไม่คิดว่าจะคืนดีกับเขาง่ายๆ เมื่อชายหนุ่มพาภรรยาเก่ามาหยามน้ำใจ จนทำให้เธอต้องนอนร้องไห้สามเวลา "พ่อว่ามีอะไรก็พูดกันดีๆ สามีของลูกเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้ว เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก นาควรจะหันไปปรับความเข้าใจกันนะ ยังไงลูกก็ต้องมีพ่อ พ่อกับแม่ไม่อยากเห็นหลานเป็นกำพร้า เพราะสาเหตุที่หนูกับสามี ผิดใจกันเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย" นักรบได้เล่าทุกอย่างให้กับบิดาและมารดาของนารีได้รับฟัง ยกเว้นเร