"เย้! คุณพ่อใจดีที่สุดในโลกเลยครับ" เด็กชายร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับกำมือชูขึ้นสองข้าง จนนารีแอบฉีกยิ้มที่มุมปาก ที่พ่อกับลูกนั้นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย
"คุณหนูพบรักไปบ้านคุณยาย ย่านวลคงจะเหงาน่าดูเลย รีบไปรีบกลับนะครับคนเก่ง" น้ำเสียงของป้านวลช่างออดอ้อนให้เด็กน้อยนั้นอยากเอาใจ จนนักรบและนารียิ้มไม่หุบให้กับในความน่ารักของย่ากับหลาน
"ผมไปบ้านคุณยายไม่กี่วันก็กลับแล้วครับคุณย่านวล เดี๋ยวพบรักจะเอาผลไม้มาฝาก ที่บ้านของคุณตาคุณยายมีผลไม้เยอะแยะเลย
"ช่างพูดช่างเจรจาจังเลยนะเราเนี่ย อย่างนี้จะไม่ให้ย่ารักอย่าหลงได้ยังไง" หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะของพบรักไปมาเบาๆ ก่อนที่เด็กชายจะส่งยิ้มร่าให้ย่านวล พลอยทำให้ทุกคนยิ้มตามออกมา เมื่อพบรักมีความน่ารักสมวัย
รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านกะสิเทพ ก่อนจะมีเด็กชายเปิดประตูวิ่งแจ้นออกมาจากรถ จนทำให้นักรบนั้นรีบเปิดประตูลงมาคว้าตัวลูกชายมาอุ้มเอาไว้
"หยุดเลยนะไอ้แสบ! รอแม่ก่อน แล้วเราค่อยเดินไปพร้อมกัน เดี๋ยวพลัดตกบันได" นักรบพูดออกมาอย่างห่วงใย เพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะพลัดตกจากบันได เพราะที่บ้านกะสิเทพยังคงเป็นบ้านไม้เรือนไทยเหมือนเดิม และทุกคนมักจะนั่งเล่นอยู่ที่ชานเรือน เพราะมันโล่งและบรรยากาศดี
"พบรักแม่บอกกี่ครั้งแล้ว เวลาที่พ่อจอดรถห้ามเปิดประตูวิ่งลงไปก่อน ต้องรอให้พ่อหรือแม่เปิดประตูให้ แล้วถึงจะลงไปได้เข้าใจไหมครับ" นารีพูดเอ็ดลูกชายออกไป จนพบรักทำหน้ามุ่ยออกมา พร้อมกับซบหน้าเข้าหาอกของผู้เป็นบิดาอย่างน่าเอ็นดู
"ฟังแม่ด้วยนะครับคนเก่ง หนูพรวดพราดลงไปแบบนั้นมันอันตรายนะครับ เข้าใจไหมเอ่ย" นักรบพูดออกมาด้วยความห่วงใย บวกกับน้ำเสียงที่อ่อนโยนนั้น ทำให้ลูกชายพยักให้กับเขาด้วยท่าทางที่น่าเอ็นดู
"เข้าบ้านกันเถอะค่ะ นาง่วงอีกแล้ว" คนท้องพูดพร้อมกับหาวออกมา จนทำให้นักรบฉีกยิ้มที่มุมปาก เมื่อภรรยาของเขาดูอวบมีน้ำมีนวลขึ้นมาก ที่สำคัญเธอนั้นได้กลายเป็นคุณแม่จอมขี้เซาไปแล้ว กินแล้วก็นอนทั้งวัน สมกับที่เป็นภรรยานักธุรกิจหนุ่ม ที่ชีวิตของเธอนั้นแสนจะสบายไม่ต้องทำอะไรก็มีกินมีใช้ไปทั้งชาติ
"อ้าว! เควินดูซินั่นใครมาหา" คุณนายพิกุล ซึ่งเป็นคุณยายของเด็กๆ พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นนักรบอุ้มลูกชาย เดินตามหลังภรรยาของเขาขึ้นมาบนบ้าน
"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ / สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่" นารียกมือไหว้เป็นบิดามารดา พร้อมกับนักรบที่ทำความเคารพทักทายพ่อตาแม่ยายของเขาเช่นกัน ก่อนที่นารีจะนั่งลงข้างๆ หญิงสูงวัย ในขณะที่นักรบนั่งลงที่โซฟาอีกตัว
"สวัสดีจ้าสบายดีนะนักรบนารี พบรักตากับยายกำลังบ่นหาอยู่พอดีเลย" คุณนายพิกุลพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ในขณะที่นายศรเทพก็ยิ้มร่าออกมาไม่แพ้ภรรยา เมื่อลูกสาวทั้งสองเป็นฝั่งเป็นฝามีครอบครัวที่อบอุ่น
"สวัสดีครับคุณตาคุณยาย นักรบไปเล่นกับน้องเควินก่อนนะครับ" เด็กชายพบรักไหว้ผู้เป็นตากับยาย ก่อนจะวิ่งไปเล่นกับน้องชายที่เวลานี้เควินกำลังเล่นของเล่นอยู่กลางชานเรือน เควินเป็นน้องของพบรักไม่กี่เดือน ทั้งคู่อยู่ในช่วงวัยเดียวกัน จึงเข้ากันได้ดี
"เควินก็บ่นคิดถึงพบรักทุกวัน เจสันเกือบจะพาไปแล้ว แต่รวีได้ห้ามเอาไว้ เพราะวันนี้ได้นัดส่งผลไม้ให้กับลูกค้า" เวลานี้เจสันกับรวีได้กลายเป็นชาวสวนเต็มตัว อาณาบริเวณของบ้านที่กว้างขวาง ทำให้คนทั้งคู่สามารถทำไร่นาสวนผสมได้ ทั้งทำนา เลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก และผลไม้ เพราะบ้านหลังนี้อยู่นอกเมือง มิหนำซ้ำเจสันยังกว้านซื้อที่แถวนี้รอบๆ อาณาเขตที่ติดกับที่ดินของพ่อตาไปเกือบหมด และยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้ทุกคนนั้นแปลกใจก็คือรวี เมื่อสาวเจ้าสำอางอย่างรวีได้กลายมาเป็นผู้หญิงสายลุย เพราะเธอนั้นเบื่อสังคมข้างนอก เจสันเองจึงต้องลาออกจากงานที่ทำ เพื่อมาช่วยภรรยาดูแลสวน ส่วนคนที่ไปทำหน้าที่แทนเขาคือคาวี ที่ดูเหมือนว่าพี่ชายของนารีจะทำหน้าที่ผู้ช่วยนักรบได้อย่างดี เมื่ออดีตทำให้เขาได้รับบทเรียนอะไรหลายๆ อย่าง จนอยากจะใช้ชีวิตให้มีคุณค่าสมกับที่ไปร่ำเรียนนอกเมืองนามา
"อ้าว! หนูนา มานานหรือยังท้องโตขึ้นมากแล้วนะเราเนี่ย เควินกับพบรักดูท่าทางจะคิดถึงกันมากเลยนะ สองพี่น้องคู่นี้" รวีเพิ่งออกมาจากสวน เมื่อเธอนั้นให้คนงานจัดการกับผักและผลไม้ขึ้นรถให้กับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว
"ใช่เลยค่ะพี่รวี พบรักงอแงจะมาหาน้องเควินตั้งแต่เช้าเลย แล้วนี่งานที่สวนเสร็จแล้วเหรอ แล้วคุณเจสันละคะพี่รวี" นารีฉีกยิ้มกว้างทักทายพี่สาวออกไป ในขณะที่สายตาของเธอจ้องมองไปที่เด็กชายทั้งสอง ที่กำลังแลกเปลี่ยนของเล่นกัน ด้วยท่าทางที่น่ารัก
"เพิ่งเสร็จเมื่อกี้นี้เอง ตอนนี้คุณเจสันกำลังสั่งคนงานในสวน เดี๋ยวก็คงตามมา พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ" ก่อนจะไปอาบน้ำ รวีได้แวะไปยืนดูเด็กทั้งสองเล่นกัน แล้วเธอก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกมา หญิงสาวไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมีวันนี้กับเขาด้วย เธอช่างมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบไม่ต่างกันกับน้องสาว แถมเจสันยังหล่อเหลาไม่แพ้ชายใดเสียด้วย ที่สำคัญเขาแสนดีกับเธอมากกว่าที่คาดคิดเอาไว้ และรวีคิดว่าชาตินี้คงหาผู้ชายคนไหนรักเธอได้เท่าเจสันไม่ได้อีกแล้ว
"นารีง่วงแล้วขอตัวไปนอนพักก่อนนะคะคุณแม่" นารีพูดพร้อมกับดันตัวลุกขึ้นยืน โดยมีสามีของเธอรีบลุกขึ้นจับประคองภรรยาเอาไว้ เพราะกลัวว่าเธอจะล้มลงไป
"ผมฝากดูพบรักด้วยนะครับคุณพ่อคุณแม่" นักรบพูดขึ้นเมื่อเขานั้น จะพานารีไปนอนพักผ่อน
"ไปเถอะ! เดี๋ยวพ่อกับแม่จะดูหลานๆ เอง ไม่ต้องห่วงหรอก พานารีไปพักเถอะ" เมื่อพ่อตาพูดออกมาแบบนั้น นักรบจึงโอบภรรยาตรงไปที่ห้องนอน เมื่อนารีนั้นนั่งหาวไปหลายรอบแล้ว
เมื่อคนทั้งคู่เดินออกไป ทำให้บิดากับมารดาฉีกยิ้มออกมาด้วยความสุขใจ นับตั้งแต่นารีและรวีมีครอบครัวดูเหมือนว่าลูกสาวของตระกูลกสิเทพจะโชคดีทั้งสองคน ที่มีสามีที่ดีอย่างนักรบ(อาร์มันโด้)และเจสัน
"นั่งก่อนครับคนดี ค่อยๆ นอนลงนะครับ" นักรบไม่พูดเปล่า แต่มือหนาของเขาได้ประคองลงไปที่แผ่นหลังของภรรยา ก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวเธอลงนอน หญิงสาวท้องกลมโต นอนลงด้วยท่าตะแคงซ้าย สามีหนุ่มหยิบผ้าขึ้นมาห่มให้เธอ จากนั้นเขาได้นอนลงข้างๆ ลำแขนของเขาพาดไปที่เอวกลมของเธอ ก่อนจะใช้ฝ่ามือลูบลงไปที่หน้าท้องนูน
"ลูกสาวของพ่อ ทำไมถึงได้ทำให้แม่ขี้เซาจังเลย" เสียงพูดที่ดังอยู่ข้างหู ทำให้นารีนั้นอมยิ้มด้วยความสุขใจ ที่เธอนั้นกำลังจะให้กำเนิดทายาทของเขาอีกคนในไม่กี่เดือนนี้ข้างหน้านี้
"ได้ลูกสาวคุณพ่อต้องไว้หนวดหรือเปล่าเนี่ย ยิ่งผู้ชายทุกวันนี้มีแต่เสือทั้งนั้น" คำพูดที่แผ่วเบาของภรรยา แต่นักรบก็ได้ยินอย่างชัดเจน เพราะเวลานี้เขาได้นอนซ้อนเธอจากทางด้านหลัง แนบชิดจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
"แต่เสือตัวนี้ ได้กลายเป็นแมวเหมียว เพราะคุณนารีคนเดียวรู้ตัวหรือเปล่า รักคุณแม่คุณลูกนะครับ" นักรบพูดพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าไปจุมพิตที่หน้าผากของภรรยา ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนนักรบก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงได้เสมอ
อานุภาพแห่งรัก และความอ่อนหวาน ความดีของสตรี มักจะทำให้ผู้ชายตกหลุมรักได้ไม่ยาก เฉกเช่นเธอคนนี้ ที่ทำให้อสุรกายร้ายอย่างเขาพ่ายนารีอย่างเธอจนสิ้น และเวลานี้เขาได้สยบต่อเธอทุกกรณี เมื่อหัวใจของเขานั้นปรารถนาเพียงแค่นารีคนเดียว
The End
"เย้! คุณพ่อใจดีที่สุดในโลกเลยครับ" เด็กชายร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับกำมือชูขึ้นสองข้าง จนนารีแอบฉีกยิ้มที่มุมปาก ที่พ่อกับลูกนั้นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย "คุณหนูพบรักไปบ้านคุณยาย ย่านวลคงจะเหงาน่าดูเลย รีบไปรีบกลับนะครับคนเก่ง" น้ำเสียงของป้านวลช่างออดอ้อนให้เด็กน้อยนั้นอยากเอาใจ จนนักรบและนารียิ้มไม่หุบให้กับในความน่ารักของย่ากับหลาน "ผมไปบ้านคุณยายไม่กี่วันก็กลับแล้วครับคุณย่านวล เดี๋ยวพบรักจะเอาผลไม้มาฝาก ที่บ้านของคุณตาคุณยายมีผลไม้เยอะแยะเลย "ช่างพูดช่างเจรจาจังเลยนะเราเนี่ย อย่างนี้จะไม่ให้ย่ารักอย่าหลงได้ยังไง" หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะของพบรักไปมาเบาๆ ก่อนที่เด็กชายจะส่งยิ้มร่าให้ย่านวล พลอยทำให้ทุกคนยิ้มตามออกมา เมื่อพบรักมีความน่ารักสมวัยรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านกะสิเทพ ก่อนจะมีเด็กชายเปิดประตูวิ่งแจ้นออกมาจากรถ จนทำให้นักรบนั้นรีบเปิดประตูลงมาคว้าตัวลูกชายมาอุ้มเอาไว้
สักพักปลายลิ้นร้อนลากผ่านลงมาที่หน้าท้องของภรรยา เขาได้จุมพิตอย่างทะนุถนอมลงไปเบาๆ เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ภายในนี้ ซึ่งมันคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่นักรบตั้งใจไม่คิดป้องกันตั้งแต่แรก เพราะชายหนุ่มนั้นหวังจะได้ทายาท ตามที่ใจเคยปรารถนาเอาไว้ และภรรยาของเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยแม้เพียงนิด "พ่อรักหนูนะ รักแม่ของหนูด้วย" สิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม เขาได้สัมผัสไปที่มังกรยักษ์ก่อนจะค่อยๆ สอดมันเข้าไปในช่องแคบของภรรยาอย่างเบามือ "อืม แน่ใจนะคะว่าจะไม่มีผลต่อลูกของเรา" แม้ความต้องการของเธอจะมีมาก แต่นารีก็ยังเป็นห่วงลูกมากมายเช่นกัน "ไม่เป็นไรหรอกหนูนา ท่าเบสิกอย่ากลัวไปเลย ผมจะทำเบาๆ นะครับคนดี" นักรบพูดในขณะที่สะโพกของเขาเริ่มทำการขยับโยกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แม้ว่ามันจะไม่หนักหน่วงหรือรุนแรง แต่ทว่าความคับแน่นของช่องแคบ เมื่อมังกรยักษ์ผลุบเข้าผลุบออกก็ได้สร้างความเสียวซ่านให้กับสองสามีภรรยาไม่น้อยเลย "อ้า อ๊าคุณนักร
"ลูกของพ่อเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ทำไมแม่ถึงได้ดุจังเลย" การกระทำของสามีหนุ่ม ทำให้นารีนั้นรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตัวเธอเองก็โหยหาเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืนกี่วัน ผู้ชายคนนี้ก็มักจะทำให้เธอรู้สึกดีเสมอ โดยที่เขานั้นไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ "เงยหน้าขึ้นมาสิ เดี๋ยวไม่ทำแผลให้เปลี่ยนใจไปนอนไม่รู้ด้วยนะ" นารียังคงใช้คำพูดแข็งกระด้าง มีใบหน้าที่เรียบเฉยอีกตามเคย แต่นักรบก็รู้ว่าเธอใจอ่อนลงไปบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เดินมาหาเขา เพื่อขอดูแผลแบบนี้หรอก สามีหนุ่มยอมทำตามภรรยาอย่างว่าง่าย ยอมแหงนหน้าขึ้นไปให้เธอทำแผลให้ พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตากลมโต ที่เวลานี้ความหมองหม่นได้หายไปสิ้น "แผลบวมนูนขึ้นมาแบบนี้ ฉันว่าคุณไปเย็บแผลดีกว่า ไม่อย่างนั้นต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ" คราวนี้นารีพูดออกมาจากใจด้วยความรู้สึกผิด เมื่อแผลมันลึกและกว้างอยู่มาก และที่สำคัญเลือ
วันนี้ทั้งวัน ตั้งแต่เธอเดินไปหาอะไรกิน ในตอนเช้านารีไม่ยอมเดินออกจากห้องอีกเลย เพราะไม่อยากเจอนักรบ หญิงสาวขังตัวเองไว้ในห้องที่ชั้นบนของบ้าน ส่วนข้าวปลาอาหารนั้นมีรินสาวใช้คนสนิทของพี่สาวคอยบริการเธอทุกอย่าง ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบยี่สิบนาฬิกาแล้ว นารีไม่ได้สนใจใครทั้งสิ้น เธออาบน้ำแล้วเตรียมตัวจะเข้านอน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! "นารีขอแม่เข้าไปหน่อยได้ไหมลูก" เสียงของผู้เป็นมารดาดังแว่วมา หลังจากที่เสียงเคาะประตูเงียบไป ทำให้นาทีนั้นค่อยๆ ลุกจากเตียง เพื่อเดินไปเปิดประตูให้กับมารดา และเธอก็ต้องแปลกใจ เมื่อชายร่างสูงใหญ่รีบเบี่ยงตัวเข้ามาในห้องของเธอทันที พร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆ "แม่... แม่ แม่ค่ะ" นารีร้องเรียกหามารดา แต่จะดูเหมือนว่าเธอนั้นโดนหลอกเข้าให้ซะแล้ว "คุณไม่ต้องเรียกหรอก คุณแม่เดินเข้าห้องไปแล้ว" นักรบพูดพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด จนทำให้นารีนั้นมองเขาตาเขียว "ออกไปให้พ้นจากห้องฉันเลยนะ คุณแม่นะ
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน สายแล้วนะคุณ ลุกไปอาบน้ำจะได้มาทานข้าวพร้อมกัน" เจสันกระซิบลงไปที่ข้างหูของรวี ทำให้หญิงสาวรู้สึกคุ้นกับเสียงทุ้มนี้เป็นอย่างมาก เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้น ก่อนจะหลับลงอีกครั้ง เมื่อแสงมันแยงมา และคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป จากนั้นรวีค่อยๆ ปรือตาลืมขึ้นมาอีกครั้ง "ว้าย! เจสัน! คุณเข้ามาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไงออกไปเลยนะ" รวีพูดพร้อมกับหยิบหมอนตีลงไปที่ลำตัวของเจสัน ชายหนุ่มรีบเอามือขึ้นมาป้องตัวเอาไว้ พร้อมกับจับหมอนไว้แน่น ก่อนที่ทั้งสองจะยื้อกันไปมา "นี่คุณ! ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย แรงอย่างกับช้างหยุดก่อนได้ไหม" เจสันพยายามพูดปรามรวีให้หยุดดึงหมอน แต่ดูท่าทีของเธอแล้วไม่น่าจะยอมเขาง่ายๆ "ใครอยู่ข้างนอก ทำไมปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของฉันแบบนี้ รินอยู่ไหมเข้ามาช่วยหน่อยซิ" รวีตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนว่าคนข้างนอกจะไม่ใส่ใจ เพราะไม่เห็นมีใครตอบกลับมาเลยสักคน"ผมจะบอกอะไรให้นะ คุณไม่ได้ลงกลอน ผมแค่เปิดประตูเดินเข้ามา ตอนแรกพ่อของคุณกำลังจะไปหากุญแจสำรองมาเปิดใ
"ดูสิของเด็กเล่นพวกนั้น เขาสั่งมาเป็นคันรถเชียวนะ เขาไม่รู้หรือไงว่านาเพิ่งท้องได้เดือนกว่า" คำถามของมารดาทำให้นารีเริ่มสงสัย นักรบรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์ได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่เคยบอกให้ใครที่บ้านนั้นทราบ"บอกให้เขาขนกลับไปค่ะพ่อ นาไม่ขอรับอะไรจากเขาทั้งนั้น คนแบบนี้ตบหัวแล้วลูบหลัง อย่าฝันว่าเอาของพวกนี้มาล่อแล้วนาจะใจอ่อน ลูกของนาไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนั้นหรอกค่ะ เสื้อผ้านาตัดเย็บให้ลูกเองก็ได้ ส่วนของเล่นก็ประดิษฐ์ขึ้นเอง ไม่เห็นยากอะไร ไม่ต้องใช้เงินซื้อมาให้ฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำ" นารีพูดระบายออกมาซะยาวเหยียด เมื่อเธอนั้นยังรู้สึกโกรธและน้อยใจในตัวของสามี ซึ่งนารียังไม่คิดว่าจะคืนดีกับเขาง่ายๆ เมื่อชายหนุ่มพาภรรยาเก่ามาหยามน้ำใจ จนทำให้เธอต้องนอนร้องไห้สามเวลา "พ่อว่ามีอะไรก็พูดกันดีๆ สามีของลูกเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้ว เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก นาควรจะหันไปปรับความเข้าใจกันนะ ยังไงลูกก็ต้องมีพ่อ พ่อกับแม่ไม่อยากเห็นหลานเป็นกำพร้า เพราะสาเหตุที่หนูกับสามี ผิดใจกันเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย" นักรบได้เล่าทุกอย่างให้กับบิดาและมารดาของนารีได้รับฟัง ยกเว้นเร