LOGINท่ามกลางแสงดาวระยิบระยับและสายลมเย็นที่พัดโชยในยามค่ำคืน เสียงดนตรีบรรเลงแผ่วเบาจากเวทีกลางสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์ ผู้คนยังคงเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน
ในจังหวะหนึ่งของการเต้นรำ เมื่อเพลงกำลังจะจบลง ทั้งคู่หมุนตัวสลับคู่กันอย่างงง ๆ โดยไม่มีใครทันตั้งตัว ธนา ที่กำลังเต้นรำอยู่กับ จี๊ด ได้เหวี่ยงจี๊ดไปอย่างแรงและไม่นุ่มนวลนัก ซึ่งถูกเหวี่ยงมาจากอีกทางด้านของ เมฆ เขาต้องรีบเข้ามารับเธอไว้ด้วยความงุนงง
ในจังหวะที่วงแขนของเมฆโอบรับจี๊ดไว้แน่น ธนา ก็ดึงตัว ริสา ซึ่งเป็นคู่เต้นรำของเมฆเข้ามาหาอย่างรวดเร็วและจงใจ การสลับคู่ครั้งนี้เต็มไปด้วยความรุนแรงและเจตนาที่ชัดเจน
เมื่อบทเพลงใหม่บรรเลงขึ้น ห่างออกไปไม่ไกลนัก เมฆ และ จี๊ด กำลังเต้นรำอยู่ แม้ว่าจี๊ดจะยังคงเต้นผิดจังหวะและเหยียบเท้าเมฆไปหลายรอบ แต่เขาก็ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน คอยประคองให้เธอเต้นไปตามจังหวะอย่างช้า ๆ
จี๊ด: "ขอโทษนะคะพี่เมฆ... จี๊ดเต้นรำไม่ค่อยเก่งเลยค่ะ" (ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย)
เมฆ: (ยิ้มอบอุ่น) "แบบนี้เขาไม่เรียกไม่ค่อยเก่งครับน้องจี๊ด... เขาเรียกว่าไม่เป็นเลยต่างหาก" (หัวเราะเบา ๆ อย่างเป็นกันเอง) "ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวพี่นำให้เอง... ไม่ต้องตื่นเต้น"
จี๊ด: (เงยหน้ามองผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้า หัวใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย) ผู้ชายคนนี้...ช่างเป็นสุภาพบุรุษที่สมบูรณ์แบบจริงๆ
ความตึงเครียดที่เร่าร้อน
ในขณะที่คู่อื่น ๆ ยังคงสนุกสนานกับบทเพลง ธนา โอบ ริสา ไว้แน่นในวงแขน ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดราวกับมีเพียงแค่สองคนในโลกนี้
ธนา: "ขายของน่ะ... แล้วเธอคิดว่าฉันหมายถึงขายอะไร?" น้ำเสียงกระซิบข้างหูของริสา เย้ยหยันราวกับเป็นเพียงเรื่องตลก
ริสา: (พยายามดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการ) "ปล่อยนะ!"
ธนา: (ยิ้มเหยียด) "ทำไม... หวงเนื้อหวงตัวเหรอ? เมื่อกี้ยังอ่อยไอ้เมฆอยู่เลย... พออยู่กับพี่ชายตัวเอง ทำเป็นห่วงเนื้อหวงตัว"
ริสา: "ก็พี่เมฆเขาเป็นสุภาพบุรุษ! ไม่เหมือนคนบางคน... หยาบคาย! ไม่ให้เกียรติผู้หญิง!"
ธนา: (กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีกนิด จนริสารู้สึกได้ถึงความร้อนจากร่างกายของเขา) "ฉันเลือกให้เกียรติผู้หญิงเฉพาะคนที่น่าให้เกียรติ... อย่างเธอ..." (ดวงตาคมกริบของธนามองสำรวจริสาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ก่อนจะกลับมาสบตาเธอด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดูถูก) "ทำไม... เต้นรำกับพี่ชายตัวเองแล้วมันร้อนรนขนาดนั้นเลยเหรอ น้องสาวคนใหม่... ดูเหมือนเธอจะลืมไปว่าตัวเองเป็นแค่ของแถมที่แม่เธอเอามาฝากไว้ในบ้านฉัน"
ริสา: (พยายามยันตัวออก ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ) "ดิฉันไม่ได้ลืมค่ะ คุณธนา... แต่ดิฉันก็ไม่ได้ลืมว่าความเป็นพี่ชายของคุณมีค่าแค่เศษสตางค์ ไม่มีความน่าเคารพเลยแม้แต่นิดเดียว! ดิฉันไม่ได้อยากได้พี่ชายใจแคบอย่างคุณ!"
ธนา: (หัวเราะในลำคออย่างเยือกเย็น ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบจนริมฝีปากเกือบสัมผัสใบหู) "โอ๊ย... ปากกล้าขนาดนี้ คงต้องสั่งสอนกันหน่อยแล้ว น้องสาว... ดูเหมือนร่างกายของเธอจะซื่อสัตย์กว่าปากนะ... มันกำลังสั่น... ไม่ทราบว่าสั่นเพราะกลัว... หรือเพราะรู้สึกดีกันแน่"
ริสา: (หายใจติดขัด) "ปล่อยนะ! คุณเป็นพี่ชายของฉันนะ!"
ธนา: (ยิ้มเหยียด) "กฎข้อไหนบอกว่าลูกเลี้ยงต้องเป็นน้องสาวที่แสนดี? เธอเป็นแค่... เหยื่อในบ้านนี้... และฉันจะทำให้แน่ใจว่าเธอจะไม่มีความสุข"
มื่อดนตรีเริ่มแผ่วเบาลง เป็นสัญญาณว่าเพลงกำลังจะจบ และแขกเริ่มปรบมือ แต่ธนายังคงดึงริสาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
ธนา: (มองลึกเข้าไปในดวงตาของริสาด้วยความเย้ยหยันและอำมหิต ก่อนจะโน้มตัวลงมา... และจุมพิตที่หน้าผากของเธอ อย่างรวดเร็วและหนักแน่น)
ธนา: (ถอนริมฝีปากออก แต่กระซิบด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่สุด) "ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวนะ... น้องสาว"
ริสา: (กัดฟันกรอด สัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวบนหน้าผากที่เขาสัมผัสราวกับโดนประทับตราด้วยเหล็กร้อน พูดเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ทุกคำเต็มไปด้วยความเดือดดาล) "ถ้าการต้อนรับของพี่ชายคือการคุกคาม... ฉันก็ขอยืนยันว่าฉันไม่มีวันนับถือคนอย่างคุณเป็นพี่! อย่าแตะต้องตัวฉันอีก!"
(ในวินาทีที่เพลงจบลงอย่างสมบูรณ์ แขกเริ่มปรบมือและส่งเสียงชื่นชม)
ริสา: (เธอต้องฉีกยิ้มที่ดูเป็นมิตรที่สุดออกไป เธอถอนมือออกจากมือของธนาทันที ก่อนจะโค้งคำนับให้เขาตามมารยาทอย่างรวดเร็วและเย็นชา) "ขอบคุณมากค่ะ คุณธนา สำหรับการเต้นรำที่... น่าจดจำ"
ริสาใช้รอยยิ้มที่เหมือนหน้ากากนี้เพื่อซ่อนความรู้สึกที่อยากจะตบหน้าเขา ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกำลังหนีจากเปลวไฟที่ธนาเป็นคนจุดขึ้น
ริสายังไม่ทันเดินไปไหนไกล เสียงแหลมปนตื่นเต้นของ จี๊ด ก็ดังขึ้นทันที จี๊ดวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาริสาด้วยรอยยิ้มกว้าง ราวกับเธอเพิ่งได้ดูละครรักโรแมนติก
จี๊ด: (จับแขนริสาไว้แน่น พลางมองย้อนกลับไปที่ธนาด้วยดวงตาเป็นประกาย) "อุ๊ยแก! ช่างเป็นการต้อนรับน้องสาวคนใหม่ที่แสนอบอุ่นจากพี่ชายสุดหล่อ เห็นแล้วฉันอยากเป็นน้องสาวพี่เขาเลย อิจฉาแกอ่ะ!"
ริสา: (บังคับรอยยิ้มให้คงอยู่ แต่สีหน้าซีดลงเล็กน้อย) "จี๊ด... พูดอะไรบ้า ๆ"
จี๊ด: "บ้าอะไรล่ะ! ก็ดูสิ! พี่ธนาสุดหล่อจูบหน้าผากต้อนรับน้องใหม่เลยนะ! เป็นฉันคงละลายไปแล้ว นี่แหละค่ะ... เสน่ห์ของผู้ชายสายแบด! ไปแก เราไปหาอะไรเย็น ๆ ดื่มกันเถอะ!" (จี๊ดจูงมือริสาเดินออกจากบริเวณนั้นไปอย่างร่าเริง โดยไม่ทันสังเกตว่ามือของริสากำลัง เย็นเฉียบ และสั่นเล็กน้อย แม้จะถูกจูงด้วยความสนิทสนม)
ในใจริสา กลับเต็มไปด้วยความขุ่นมัวและรังเกียจ ความรู้สึกอยากอาเจียน จากการถูกกระทำที่ทั้งคุกคามและน่าอับอายเธอยังคงรู้สึกถึงความร้อนจากริมฝีปากของธนาที่ประทับอยู่บนหน้าผาก ราวกับเป็นสัญลักษณ์ประกาศว่าเธอคือ ของเล่นชิ้นใหม่ ในบ้านหลังนี้
ทางด้าน เมฆ ที่เห็นการกระทำของเพื่อนรักอย่างธนาตั้งแต่ต้นจนจบก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เขาก้าวมายืนข้างธนาที่ยังคงยืนมองแผ่นหลังของริสาด้วยรอยยิ้มเหยียด ๆ
เมฆ: (สีหน้าเต็มไปด้วยความงุนงงและรู้สึกแปลก ๆ) "อะไรของแกวะธนา? ต้อนรับน้องสาวใหม่ทำไมต้องทำเหมือน... จะกินหัวน้องด้วยวะ? ดูน้องเขาตกใจนะเว้ย"
ธนา: (หันมามองเมฆด้วยสายตาเย็นชา แต่ในแววตามีประกายบางอย่างที่อ่านไม่ออก) "ก็แค่อบอุ่นกับน้องสาวคนใหม่ไงวะ... หรือแกอยากให้ฉันขึ้นไปประกาศบนเวทีวะ?"
เมฆ: (ยิ้มเจื่อน ๆ) "ฉันว่าแกทำเกินไปว่ะ... ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีกับท่าทางของแกเมื่อกี้... เหมือนมแกกำลังพยายามประกาศสิทธิ์บางอย่าง"
ธนา: (ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างไม่แยแส) "คิดมากน่า... เมฆ... แกไม่ต้องห่วงน้องสาวฉันหรอก... ห่วงน้องจี๊ดของแกเถอะ...ดูจะชอบการเต้นรำของแกนะ"
เมฆส่ายหน้าด้วยสีหน้า ไม่สบายใจ เขาหันไปมองริสาที่ถูกจี๊ดจูงออกไปจากงานเลี้ยงด้วยความรู้สึก เป็นห่วงอย่างประหลาด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนรักของเขาถึงเลือกแสดงความเกลียดชังต่อลูกเลี้ยงคนใหม่ของพ่อด้วยวิธีที่ซับซ้อนและเร่าร้อนถึงขนาดนี้...
ในขณะที่ทั้งคู่ที่ยืนสบตากันธนา รุกด้วยท่าทีที่นุ่มนวล "ทำอะไรกันอยู่ครับ ไม่เห็นชวนพี่มาบ้างเลย อุตส่าห์รอให้ชวน ก็ไม่เห็นชวน เลยต้องเดินมากดกริ่ง"ริสาถึงกับเขิน ธนาจับไปที่แก้มสีชมพูของคนตรงหน้า "หน้าแดงใหญ่เลย เขินพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ"ริสาที่ยังอึ้งรีบดึงสติแล้วเดินกลับไปนั่งที่โซฟา "ริสาแค่ทำตัวไม่ถูกค่ะ พี่จะกลับมาทำไมไม่บอกล่วงหน้า ยังส่งข้อความคุยกันอยู่เลย กลับมาแล้วน่าจะบอกริสาหน่อย"ธนา เดินตามมานั่งลงตรงข้ามเธอ "ก็พี่ยุ่งๆ กับห้องใหม่อยู่เลยยังไม่เข้าที่เข้าทาง... ทำไม ถ้ารู้ว่าเป็นพี่ย้ายมาอยู่ข้างห้อง จะช่วยพี่จัดของเหรอ"ริสา "เปล่าสักหน่อย ริสาก็แค่... แค่ทำตัวไม่ถูก ที่พี่มาอยู่ตรงหน้าแบบกะทันหันแบบนี้"ธนา เสียงนุ่มนวลและจริงใจ "หลายเดือนที่ผ่านมา พี่ขอโทษริสานะ ที่พี่ไม่ได้อยู่ข้างๆ ริสา"ริสา "จะขอโทษทำไมคะ มันเป็นความต้องการของริสาเอง มันทำให้ริสาทำใจง่าย การที่ไม่เจอหน้าพี่ในช่วงนั้น... ถ้าริสาต้องเจอพี่ในตอนนั้นมันมีแต่ความเจ็บปวดของการสูญเสีย"ธนานั่งนิ่งเงียบ สีหน้าเริ่มเศร้าลงมา พร้อมกับคำถามที่แสนจริงใจ "แล้วตอนนี้... เจอหน้าพี่... แล้วยังเจ็บปวดอยู่ไห
หกเดือนผ่านไป...หลังเหตุการณ์ที่พลิกผันชีวิต ริสา เลือกที่จะย้ายออกจากบ้านตามความต้องการของตัวเอง ทว่าเพื่อคลายความกังวลของของแม่ เธอจึงยอมรับข้อเสนอของพ่อเลี้ยงที่มอบคอนโดมิเนียมให้เป็นที่พักพิง และรอคอยวันที่เธอพร้อมจะกลับมาริสาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่คอนโด เธอทำงานรับงานรีวิวบ้าง ขายของออนไลน์บ้าง พยายามดำเนินชีวิตให้กลับสู่ภาวะปกติ ทว่าบาดแผลจากการสูญเสียครั้งใหญ่ยังคงฝังลึกในใจ ไม่มีวันลบเลือนเสียงตะกุกตะกักดังมาจากห้องข้างๆ ริสาเปิดประตูออกไปดูด้วยความแปลกใจ "อ้าว! ห้องนี้มีคนซื้อแล้วเหรอ... เพื่อนบ้านใหม่จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนะ" เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะปิดประตูและกลับมานั่งดูทีวีต่อหลังจากที่ริสาปิดประตู... ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว คิ้วเข้มคมคาย ก้าวออกมาจากลิฟต์ เขาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของตน แต่สายตาและใบหน้ากลับจับจ้องไปยังประตูห้องข้างๆ ที่เพิ่งปิดลง รอยยิ้มเล็กๆ แห่งความหวังฉายชัดบนใบหน้า ก่อนที่เขาจะเดินเข้าสู่ห้องใหม่ที่เพิ่งขนข้าวของเข้ามา เขาเปิดม่านรับแสงแดดยามบ่ายอ่อนๆ ยืนเท้าเอวทอดสายตาไปยังวิวเบื้องหน้าอันกว้างไกล ก่อนจะหันมาพึมพำกับตัวเอง"นี่แหละค
ริสาหลับไปได้ราว 3 ชั่วโมง จากความอ่อนเพลียและความเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ จนเสียงสะอื้นเงียบลงไปธนานั่งเฝ้าไม่ห่าง ค่อยๆ ขยับเข้าไปมองใบหน้าเธอใกล้ๆ ความรู้สึกเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจเขา... เขาใช้ปลายนิ้วแตะไปที่ผ้าปิดแผลด้วยความรู้สึกผิดและลูบกลุ่มผมของเธอเบาๆ สัมผัสรอยน้ำตาข้างแก้มที่ยังไม่แห้งกรัง ปากเขาพึมพำแต่คำว่า "ขอโทษ" อย่างไม่หยุดหย่อนน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ยอมรับความรู้สึกผิดอย่างแท้จริงชั่วขณะต่อมา ริสารู้สึกเหมือนมีบางสิ่งสัมผัสกายและใบหน้า เธอสะดุ้งเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้น พบว่าเป็นธนา ชายที่เธอรักมากที่สุด สายตาอ่อนล้าและเจ็บปวดในใจของเธอสบกับเขา เป็นสายตาที่ผสมผสานระหว่างความรักและความทนทุกข์ริสาไม่ได้ถาม ไม่ด่าทอ หรือแม้แต่ไล่เขาไป เธอกลับเงียบสนิทราวกับเขาไม่มีตัวตน ยิ่งทำให้ธนารู้สึกทรมานในหัวใจมากขึ้น"ริสา... ทำไมต้องเงียบแบบนี้ด้วย จะด่า จะว่า จะไล่พี่ก็ยังดี! พูดกับพี่สักคำได้ไหม พี่ขอร้อง พี่ขอโทษนะ อย่าเงียบแบบนี้เลย ให้โอกาสพี่สักครั้ง พี่ยอมรับผิดทุกอย่าง จะว่าพี่ยังไงก็ได้ แต่อย่าเงียบแบบนี้" ธนาอ้อนวอนด้วยเสียงสั่นเครือและใบหน้าเปื้อนน
ทันทีที่ธนาก้าวออกมาจากห้องพักฟื้น เขาเหมือนสูญสิ้นเรี่ยวแรง ร่างสูงใหญ่ทรุดฮวบลงนั่งคุกเข่าต่อหน้ามณีและศักดิ์ชัย ด้วยความรู้สึกผิดที่กัดกินหัวใจจนแทบจะแหลกสลายเมฆที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รับรู้ถึงบรรยากาศอันหนักอึ้ง เขาเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกไปอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้ครอบครัวได้เผชิญหน้าและสะสางเรื่องราวกันเองธนาก้มหน้าต่ำ ติดพื้นห้องเย็นเฉียบ น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะเริ่มกล่าวคำขอโทษและสารภาพผิดทั้งหมดออกมาอย่างยากลำบาก"ผมขอโทษครับคุณน้า... ทุกอย่างเป็นความผิดของผมคนเดียว ถ้าผมชัดเจนและทำให้น้องมั่นใจในความสัมพันธ์ของเรามากกว่านี้... เรื่องของเราคงไม่ต้องปิดบังใคร... เป็นเพราะผม... ตั้งแต่แรก..."ธนาหยุดหายใจ พยายามรวบรวมสติ "ทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นตั้งแต่ที่เรายังไม่รู้จักกัน... ผมน่าจะทำให้มันถูกต้องตั้งแต่ทีแรก..."คำว่า 'ความผิดพลาดตั้งแต่ทีแรก' ทำให้มณีที่กำลังปวดร้าวอยู่แล้วยิ่งชะงักงัน"อะไรคือความผิดพลาดตั้งแต่ครั้งแรก... ตั้งแต่ยังไม่รู้จักกัน... น้าไม่เข้าใจ !" มณีเอ่ยถามเสียงสั่นเทาแฝงความประหลาดใจธนาเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มณีฟังอย่างละเอียดยิบ พ
ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นญาติของคนไข้หรือเปล่าครับ...ทุกคนเงียบกริบ ธนา, มณี, และศักดิ์ชัย ก้าวเข้าไปหาคุณหมอพร้อมกันด้วยความหวังอันริบหรี่คุณหมอ สีหน้าเคร่งเครียดและเศร้าสร้อย"ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ..."คำพูดนั้น... ทำให้ ธนา ทรุดตัวลงกับพื้น มณีร้องไห้โฮอย่างสุดเสียงธนา เสียงแตกพร่า คุณหมอ... หมายความว่ายังไงครับ! ริสา... !คุณหมอ "คนไข้ปลอดภัยครับ แต่เนื่องจากคนไข้ได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงจากการตกบันได... ทำให้... เราไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กในครรภ์ไว้ได้ครับ คนไข้มีภาวะแท้งคุกคามจากการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง..."ความเงียบเข้าปกคลุมทุกคนศักดิ์ชัยถึงกับกุมขมับอย่างเคร่งเครียด ส่วนธนาคุกเข่าตัวสั่นงันงกลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดมณีหยุดร้องไห้ชั่วขณะด้วยความสับสนมณี เสียงแหบแห้ง "เด็ก... เด็กอะไรคะ! ลูกสาวฉัน... ริสา... ริสาท้องเหรอคะ...!"ศักดิ์ชัยหันไปมองธนาอย่างไม่เชื่อสายตา "ธนา... นี่แก... เป็นแก...แกทำอะไรลงไป...!"ธนา ไม่สามารถตอบได้ เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดจากการสูญเสียที่มาพร้อมกับการรับรู้ถึงการมีอยู่ของลูก! และการสูญเสียครั้งนี้เกิดจ
จีน่า รีบวิ่งตามออกมา "เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป!"ริสาไม่สนใจรีบเดินลิ่ว จีน่า รีบวิ่งตามมาคว้าแขนเธอไว้"ฉันบอกว่าหยุด!" นี่เธอมีปัญหากับพี่ชายของเธอเพราะรูปถ่ายใบนั้นเหรอ! ฉันไม่คิดว่าเขาจะยังเก็บไว้อยู่! และอีกอย่างนึง รูปนั้น..."ริสา ไม่ฟังสะบัดแขนจีน่าออกอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งไปที่ลิฟท์ แต่ลิฟท์ไม่เปิด เธอจึงวิ่งไปทาง บันไดหนีไฟ ทันที เพื่อที่จะรีบออกจากที่น่ารังเกียจนี้ให้เร็วที่สุดธนา ที่วิ่งตามมาเห็นคนรักที่ตกบันไดไปต่อหน้าต่อตา หัวใจของเขาร่วงหล่นตามร่างเธอลงไป เขาตกใจจนแทบหยุดหายใจ ริสากลิ้งลงไปจนถึงขั้นสุดท้ายของบันได แล้วเธอก็ แน่นิ่งไปทันทีที่ ธนา วิ่งมาถึงร่างของเธอ เขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่มือของตัวเอง รีบช้อนร่างบางของเธอขึ้นมา... เลือด ที่ไหลออกมาจากไรผมของเธอ และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ เลือดที่ไหลออกมาจากช่วงล่างของเธอ เต็มไปถึงขา"ริสา... ริสา..." เขาพยายามเรียกชื่อเธอและเขย่าเบาๆ แต่เธอก็ไม่ได้สติน้ำตาเขาไหลพรากออกมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด ราวกับมีดนับพันเล่มกรีดแทงกลางอก เขาไม่มีเวลาเสียใจ ความหวาดกลัวเข้ากัดกินจนไร้สติ รีบอุ้มร่างของเธอขึ้น







