Mag-log inโรงพยาบาลเอกชนเวลาต่อมา
“สวัสดีค่ะ มาชำระค่ารักษาคุณพิมพา ชราวรทันกุลค่ะ” หน้าห้องการเงิน อลิซแจ้งความประสงค์แล้วเงียบรอฟัง “ รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะเช็คยอดชำระให้” เจ้าหน้าที่ดูข้อมูลในคอมพิวเตอร์ไม่นาน ก็ยื่นใบเสร็จแจ้งยอดมาที่เธอ “ ยอดชำระทั้งหมด 158,000 บาทถ้วนค่ะ” พอได้ยินยอดชำระ เข่าเธอแทบทรุด พี่สาวให้มา 150,000 บาท เธอยังต้องควักกระเป๋าเพิ่มอีก8,000 “นี่ค่ะ ” อลิซส่งเงินที่ถืออยู่ในมือให้เจ้าหน้าที่อย่างไม่เสียดาย ถ้ามันสามารถยื้อชีวิตแม่ได้เธอก็ยินดี “ ชำระเรียบร้อยแล้วนะคะ นี่เป็นใบเสร็จ และก็วันที่ 20 เดือนหน้า ให้ญาติเตรียมเงินค่าผ่าตัด 350,000 บาทในรอบแรก ส่วนถัดไปอีกสองเดือนค่าผ่าตัดก็จะอยู่ที่ 350,000 บาทเท่ากันค่ะ ” สิ้นเสียงเจ้าหน้าที่อลิซยืนอึ้ง เงิน700,000 แล้วเธอจะไปหาจากไหน อลิซเดินคอตกกลับมาที่ห้องพักฟื้นของแม่ เห็นป้าพรกำลังป้อนข้าวให้แม่อยู่ เธอรีบปรับสีหน้าเป็นยิ้มทันทีแล้วผลักประตูเข้าไป “ว่าไงคะคนไข้ อร่อยรึเปล่า” เธอยิ้มกว้างแกล้งแซวแม่ไปตั้งแต่หน้าประตู “ก็กินไปงั้นๆแหละ กับข้าวโรงพยาบาลมันจะไปอร่อยอะไร แม่อยากกลับบ้านเต็มแก่” พิมพาพูดกับลูกสาวอย่างเหนื่อยๆ อ้างับข้าวที่พี่สาวป้อนช้าๆ ป้าพรกับอลิซมองหน้าอย่างรู้กัน ก่อนที่อลิซจะวางกระเป๋าแล้วนั่งลงข้างๆเตียง “แม่ต้องอยู่อีกหลายวันนะ รักษาหายแล้วค่อยกลับ” มือเล็กจับแขนผู้เป็นแม่เบาๆ “อยู่หลายวันแล้วจะเอาค่าหมอที่ไหนละ แม่บอกว่าให้ย้ายไปของรัฐ แกก็ไม่เคยเชื่อแม่หรอก ” พิมพาพูดอย่างหงุดหงิดตามประสาคนป่วย ที่ได้แต่นอนอุดอู้อยู่บนเตียง “มีสิจ๊ะ เรื่องค่ารักษาแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงหนูต้องหาเงินมารักษาแม่ได้อยู่แล้ว” ต่อให้แพงแค่ไหนเธอก็ต้องหามาให้ได้ ชีวิตแม่สำคัญที่สุด “เฮ้อ!!แกนี่มันรั้นจริงๆ” พิมพาส่ายหัวเบาๆ “เชื่ออลิซมันเถอะ รักษาที่นี่แหละ ” ป้าพรช่วยพูดอีกแรง “เอ่อ ป้าคะหนูฝากแม่ด้วยนะคะ ใกล้เวลาเข้างานแล้ว” เมื่อเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังห้อง อีกไม่ถึง2ชั่วโมงเธอต้องเข้างานแล้ว “รีบไปเถอะลูก เดี๋ยวไปไม่ทันหัวหน้าจะว่าเอา” ป้าพรบอกอย่างใจดี “งั้นหนูไปนะคะป้าพร หนูไปแล้วนะแม่ ” บอกป้ากับแม่เสร็จ ก็รีบนั่งแท็กซี่กลับห้องเช่าเล็กๆ เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงานเป็นเด็กเอนเตอร์เทน ที่ผับดังกลางกรุง ซึ่งเธอทำงานที่นี่ได้2เดือนแล้ว Happy Nana club “เร็วหน่อยอลิซ วันนี้เพื่อนคุณศิวามา เดี๋ยวพี่ให้อลิซกับพราวฟ้าดูแล ใส่ชุดนี้นะ ” เสียงพี่จ๋าผู้จัดการร้านบอกอย่างเร่งรีบ “พี่จ๋าว่าไงนะ ทำไมต้องให้อลิซกับพราวฟ้าดูแลเพื่อนคุณศิวา ทั้งที่ปกติเอมมี่กับปีใหม่ดูแลลูกค้ากลุ่มนี้มาตลอด” เอมมี่ vipตัวท็อปรีบค้าน ปกติเธอดูแลลูกค้ากลุ่มนี้มาตลอด และที่สำคัญทิปเยอะมีแต่ระดับเศรษฐี รูปหล่อโปรไฟล์ดี และที่สำคัญอายุเพิ่งจะ 28-29 เรียกได้ว่ากำลังดีเลยทีเดียว “เอ่อ!!พี่จ๋าคะ ให้พี่เอมมี่ไปก็ได้ค่ะ เดี๋ยวอลิซไปดูแลห้องอื่นก็ได้ ” อลิซรีบบอกปัด เพราะไม่อยากมีปัญหากับตัวแม่ตัวมัม เดี๋ยวจะผิดใจกันเปล่าๆ “ไม่ได้!!” ผู้จัดการร้านยื่นคำขาด “ทำไมคะพี่จ๋า ” เอมมี่ถามเสียงแข็ง “นั่นนะสิ ในเมื่ออลิซก็ไม่มีปัญหา แล้วพี่จ๋ายังติดอะไร” ปีใหม่ยืนกอดอกถามผู้จัดการร้านอย่างไม่เกรงกลัว เพราะทำงานที่นี่มาหลายปี จึงแทบไม่เคารพผู้จัดการร้านเลยด้วยซ้ำ “เจ้าสัวกำพลจองตัวพวกเธอแล้วนะสิ” เจ้าสัวกำพลคืออีกหนึ่งในลูกค้าvip ที่ไม้ว่าจะมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็เรียกใช้บริการตัวท็อปของร้านตลอด “ไอ้แก่นี่มาอีกและ ฉันละอยากจะรู้จริงๆ ถ้าไอ้แก่หื่นนี่ไม่มีเงิน จะมีผู้หญิงคนไหนอยากเข้าใกล้ป่ะ” เอมมี่บ่นอย่างหัวเสีย แต่ก็ขัดไม่ได้ เพราะเสี่ยกำพลคืออู่ข้าวอู่น้ำขนาดใหญ่ของเธอ “นั่นหนะสิ และขยันมาด้วยนะ ” ปีใหม่เบ้ปาก ลูกค้ากลุ่มที่พูดถึง เรียกได้ว่าแก่คราวพ่อกันทั้งนั้นในเย็นของวันนี้เลิกงานแล้วฉันก็ไปเลือกชุดตามที่เขาบอก เดินดูไปสักพักก็ได้ตัวที่สวยสุภาพมา2ชุด ราคาก็แพงเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไรคุณภูวินทร์ให้งบมาเพียบ เลือกเสร็จฉันก็เดินไปจ่ายเงิน และดูของที่จำเป็นต้องใช้อีกนิดหน่อย ก่อนที่จะกลับคอนโด ”ป้าพรคะวันนี้หนูอยากกินแกงเขียวหวานฝีมือป้าค่ะ หนูซื้อของมาให้ครบหมดแล้วป้าทำให้กินหน่อยนะคะ“ ฉันเดินเข้าไปในครัวแล้ววางวัตถุดิบ และอุปกรณ์ทั้งหมดลงโต๊ะ ”ได้ลูก เดี๋ยวป้าทำให้กินนะจ๊ะ“ ป้าพรยิ้มแล้วเดินไปล้างมือเตรียมที่จะทำอาหาร ”เอ่อ…คือ ป้าคะหนูต้องไปต่างจังหวัดสัก3-4วันนะคะ“ ฉันลังเลที่จะบอกป้า กลัวแกเป็นห่วงไม่อยากให้ไป ”อื้อ ไปสิลูก“ ป้าไม่ว่าอะไรแล้วถามต่อ ”ไปกับบริษัทใช่มั้ย“ ”ใช่ค่ะป้า เดี๋ยวหนูจะทำตัวดีๆแล้วรีบกลับมานะคะ“ ฉันดีใจมากคิดว่าจะไม่ได้ไปแล้วซะอีก เมื่อก่อนป้ากับแม่เป็นห่วงฉันมาก แต่เดี๋ยวนี้แกเริ่มปล่อย เห็นว่าฉันโตแล้วมั้ง ฮ่าๆๆ แล้วฉันก็ไปนั่งดูทีวีที่โซฟาราคาแพง สักพักก็เริ่มได้กลิ่นหอมลอยมาจากในครัว ”โห หอมขนาดนี้ถ้าป้าทำขายคงจะขายดีมากแน่เลยค่ะ“ ฉันแซวป้าไปจากโซนน้่งเล่น ”ป้าก็คิดว่าจะเปิดร้านขายอาหารตาม
17.00น. “อลิซ ขึ้นรถไปกับฉันเลยมั้ย เดี๋ยวเมลล์จะไปรอที่ร้าน” ทับทิมเดินมาถาม หลังจากเลิกงานตึก ตึก ตึก ”จะไปไหนกัน“ ได้ยินเสียงเดินมาจากด้านหลังทั้งสองคนก็หันไปมองพร้อมกัน พรึบ ”ก็ไปกินข้าวไงคะอาภู จะไปด้วยกันมั้ยคะ“ ทับทิมถามอาอย่างกวนๆ ส่วนอลิซหลบหน้าไม่กล้าสบตาเขา”ไร้สาระ“ เขาพูดแล้วเดินไปยังลิฟต์ ติ๊ง ”ป้ะ ฉันไปกับแกนี่แหละ“ อลิซตัดสินใจ แล้วตกลงกับทับทิม”โอเค ไปกัน“ ทับทิมยิ้มสดใสแล้วลากแขนอลิซลงไป อลิซที่วิ่งตามอย่างช้าๆก็ยิ้มออกมาเบาๆณ ร้านชาบู“นั่นไงเมลล์“ อลิซเห็นเพื่อนนั่งอยู่ในร้านเลยบอกทับทิม”โอเคไปกันเถอะ“ ทั้งคู่เดินไปยังโต๊ะที่เมลล์จองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว”โอ้ย ไม่เจอพวกแกนานคิดถึงมาก“ เมลล์ยิ้มทักทายขึ้น”วันนี้ใครมีเรื่องจะเล่าป้ะ“ อลิซถามเพื่อนทั้งสองคนอย่างรู้กัน”ฉันมี/ฉันมี!!“ เมลล์และทับทิมพูดขึ้นพร้อมกัน โดยไม่ได้นัดหมาย ”ฮ่า ฮ่า ฮ่า“ ทั้งสามสาวหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขเมื่อชาบูมาเสริฟ ทั้งสามคนก็ได้กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากหม้อชาบู “หื้มม หอมจัง” อลิซสูดดมแล้วหันไปหัวเราะกับเพื่อน“โอ้ย หอมมากแก ไม่ได้กินนานเลยแหละ ช่วงนี้ไม่ว่างเลย” ทับทิมพูดเชิงดราม
ภูวินทร์ให้เฟยหนูชอบถุงกระโปรงตามตัวเองขึ้นมายังห้องทำงาน ผ่านโต๊ะที่ทำงานของแพรววา “บอสคะ ถุงอะไรหรอคะทำไมมันของเยอะขนาดนั้น ให้พี่ช่วยมั้ย“ ”อ๋อไม่ต้องครับ จะถึงแล้ว“เขาเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่าในถุงนั้นคืออะไร ”วางไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันถือเข้าไปเอง“เขากลัวว่าคนอื่นจะเห็นอลิซในสภาพนั้น เปิดประตูเข้าไปในห้อง ”โห คุณซื้ออะไรมาเยอะแยะขนาดนี้คะ“ อลิซถามด้วยความตกใจ ”ก็ผมไม่รู้นิ่ ว่าคุณให้ซื้อแบบไหน เอาไปให้หมดนี่เลย” เขาวางถุงไว้ที่โซฟาแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานต่อ -ซื้อมาเยอะขนาดนี้กะจะให้ฉันใส่ถึงปีหน้าเลยหรอ- แล้วเธอก็เปิดถุงออกดู หยิบดูตัวนั้นตัวนี้ “โห ตัวนี้สวยจัง” เธอเลือกดูไปมา “ตัวนี้สวยมาก ตัวนี้คอลเลคชั่นใหม่นิ่ ตัวนี้แพงมาก คุณซื้อหมดกี่บาทเนี่ย“ เธอเลือกไปยิ้มไป ด้วยความตื่นเต้น แล้วหันไปถามเขา ทั้งคู่ก็สบตากันพอดี เธอเห็นเขายิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนจะหุบยิ้มลงเมื่อเธอจับได้ ”อ๋อก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่นี้เองเธอชอบฉันซื้อให้ได้อีกเป็นสิบ“ แล้วหน้าหล่อก็ก้มลงเขียนงานต่อ ”คุณภูวินทร์คะ ตัวนี้สวยมั้ย“ เธอใส่แล้วยืนขึ้นให้เขาดู -โหสวยมาก ตัวนี้เหมาะกับเธอจริงๆ- ”ก็งั้นๆ
”รู้สึกยังไง เมื่อวานดื้อนักไม่ใช่หรอ ทำไมต้อนนี้ทำท่าเหมือนคนจะตา-“ ภูวินทร์สะใจที่วันนี้แกล้งเธอสำเร็จ หัวเราะแล้วกำลังหันไปมอง พบว่าเธอกำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างลุกลี้ลุกลน “เอ้า อย่าทำแบบนี้” เขารีบวิ่งไปห้ามเธอไว้ แต่ก็ห้ามไม่อยู่ เมื่อยาออกฤทธิ์แล้วไม่มีอะไรแก้ได้ นอกจากหาคู่นอนเท่านั้น ”ช่วยฉันแก้พิษยาหน่อยนะคะ คุณภูวินทร์“ เธอทำเสียงออดอ้อน แล้วปลดเสื้อตัวเองออกจนหมด มองเห็นแต่เต้าอวบนั่นที่ล้นทะลักออกมาจากชุดชั้นในราคาแพงตัวสีดำ แล้วอลิซก็โน้มตัวเข้ามาจูบภูวินทร์ ชายหนุ่มตกใจเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองก็เคลิบเคลิ้มตามอารมณ์ แล้วจูบตอบเธออย่างเร่าร้อน อลิซผละเขาออก ”หืมมม~ คุณวางยาอลิซเองนะคะ วันนี้คุณต้องรับผิดชอบ” ก่อนจะจูบต่ออย่างดูดดื่ม ทั้งคู่แลกลิ้นกันครั้งแรก -ทำไมลิ้นของเธอมันหวานจัง- สองมือของชายหนุ่มจับไปที่ท้ายทอยของเธอ ล็อกไว้ไม่ให้ขยับหัวออกไปไหน หลังจากทั้งคู่หลุดจากพันธะแล้ว อลิซก็ถอดกางเกงภูวินทร์ออก แล้วคุกเข่าลงไป รวบผมตัวเองไว้อย่างหลวมๆ แล้วยื่นให้ภูวินทร์เป็นคนจับไว้ “จับไว้ค่ะ” จากนั้นเธอก็อ้าปากเล็ก งับเอาแท่งเอ็นลำใหญ่ แทงลึกลงไปจนสุดลำ
เช้าวันต่อมา ณ บริษัทภูทัชชัยกรุ๊ป ภูวินทร์ที่ตื่นสายเลยมาช้ากว่าปกติ“สวัสดีค่ะคุณภูวินทร์/สวัสดีครับประธาน” เสียงเอ่ยสวัสดีดังขึ้นตามหลังมาตลอดทางที่เดินเข้าบริษัท ชายหนุ่มที่กำลังเดินไปยังห้องทำงานด้วยความเร่งรีบก็ตกใจมาก“คุณพ่อ!!” เมื่อเห็นว่าชายที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์ในทางที่ไปห้องทำงานคือพ่อของตนเอง ที่มีคนรับใช้หนึ่งคนคอยเข็นให้“ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมวันนี้มาสาย ฉันให้แกมาดูแลบริษัทไม่ได้ให้มาทำตัวเหลวไหล” ภูวินทร์ทำหน้าเจื่อนเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขอโทษ“ผมขอโทษครับ เมื่อคืนผมแค่…”“ไม่ต้องมาแก้ตัว” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร พ่อของเขาก็พูดตัดบทขึ้นมาซะงั้น “ฉันเป็นพ่อแก รู้หมดนั่นแหละว่าแกทำอะไรลงไปบ้าง ไป!! รีบไปเอาแผนงานของบริษัทในเดือนนี้มาอ่านให้พ่อฟัง”– เหมือนจะดุแต่ก็ไม่ใช่ เพราะคนที่เข้าใจผมมากที่สุดก็คือพ่อ“ครับคุณพ่อ ผมจะรีบรายงานเดี๋ยวนี้เลย” เขายิ้มแล้วรีบเดินไปหยิบแผนงานของบริษัทมาพูดให้พ่อฟังแอ๊ด~ เสียงเปิดประตูดังขึ้น“คุณปู่!! คิดถึงหนูมั้ยยย” ทับทิมรีบวิ่งมาแต่ไกลก่อนจะโผล่เข้ากอดปู่ ซึ่งเธอรักปู่ของเธอมากที่สุด เพราะปู่เป็นคนใจดีแล้วตามใจเธอที่สุด“คิดถึงสิ ห
ณ ร้าน Happy NaNa Club “มึงจัดเด็กมาให้ไอ้ภูดิ้” ศิวาเห็นเพื่อนรักอย่างภูวินทร์ทำหน้าเครียด เลยหาเด็กมาให้ “เด็กๆ” ศิวาปรบมือเป็นสัญญาณให้พีอาร์เข้ามาในห้อง VIP3 แล้วผู้หญิงสวยสี่คนก็เดินเข้ามา ทั้งสี่คนเดินไปชงเหล้าอย่างรู้งาน ก่อนจะมาประกบคู่ของตัวเอง -ผู้หญิงพวกนี้ก็สวยอยู่ แต่สู้อลิซไม่ได้สักคน เห้ย กูคิดอะไรอยู่ ยัยนั่นก็แค่เด็กเลี้ยง จะไปรู้สึกอะไรได้ไงวะเนี่ย- ภูวินทร์เถียงกับความคิดตัวเองอยู่ครู่ ก่อนเอ่ยว่า “คือ…ผมไม่ดื่มครับวันนี้” พีอาร์ที่ยื่นแก้วให้ทำหน้าเจื่อนทันที เธอวางแก้วลงก่อนจะขยับเข้ามาซบอก คลอเคลียเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองเพิ่งโดนปฏิเสธ “พี่ภูวินทร์ขา วันนี้ทำไมอารมณ์ไม่ดีคะ” เธอพูดพร้อมลูบไล้หน้าอกแกร่งของเขา “หงุดหงิดนิดหน่อย” เขาตอบแต่สีหน้าไม่เปลี่ยน สายตาจับจ้องโทรศัพท์ ไม่สนใจคนข้างตัวแม้แต่นิดเดียว “โถ่ไอ้ภู มึงจะเครียดอะไรนักหนาวะ สาวงามก็อยู่ตรงนี้ สนใจน้องเขาหน่อยดิวะ” ราเมศแซวเมื่อเห็นเพื่อนซึม -ไอ้พวกนี้นี่ จะอะไรกันนักหนา ก็บอกว่าไม่ได้อยากสนุก มันก็บังคับอยู่นั่นแหละ ถึงยังไงผมก็รู้ว่ามันหวังดี- “มึงว่างั้นมั้ยคิม” นั่นมันยังหาพรร







