Share

บทที่ 5

ฝานเฉินซีมองไปยังลี่ถิงเชินอย่างงงงวย เธอไม่เคยได้ยินเรื่องที่ลี่ถิงเชินแต่งงาน

“คุณลี่ พวกเราใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศหลายปี ไม่รู้ข่าวภายในประเทศ ลูกสาวของฉันกับคุณเกี่ยวข้องอะไรกัน?”

ลี่ถิงเชินนิ่งเฉย พูดออกมาด้วยสีหน้าเฉยเมย “ต่อให้มีความเกี่ยวข้องนั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้ผมกำลังดำเนินการหย่าร้างอยู่”

ซูชิงอวี่คิดไม่ถึงว่าความจริงใจที่มอบให้หลายปีมานี้ ถึงตอนสุดท้ายกลายเป็นเพียงอดีตเขาพูดออกอย่างง่ายดาย

โมโหไหม? โมโหแน่อยู่แล้ว

ที่มากกว่านั้นคือผิดหวัง ตัวเองตาบอดที่หาตัวเหี้ยอะไรมาเป็นสมบัติล้ำค่าแบบนี้

ซูชิงอวี่ล้วงกล่องแหวนออกมา ขว้างไปยังหน้าผากของลี่ถิงเชินอย่างแรง “ไอ้ผู้ชายเฮงซวยเอ๊ย ในชีวิตนี้เรื่องที่ฉันเสียใจมากที่สุดก็คือมีความสัมพันธ์กับคุณ พรุ่งนี้เก้าโมงเจอกันที่อำเภอ ใครไม่ไปคนนั้นเป็นลูกหมา!”

กล่องกระแทกหน้าผากของเขาจนแดงแล้วตกลงบนพื้น แหวนหลุดร่วงอยู่ข้างเท้า ครั้งนี้ซูชิงอวี่ไม่ได้เหลือบมองแม้แต่น้อย เธอเหยียบแหวนแล้วผลักประตูออกไป

สองปีมานี้รอบตัวซูชิงอวี่เกิดเรื่องขึ้นมากมาย เรื่องนี้ก็เหมือนกับฟางเส้นสุดท้ายที่จะทนได้ เธอวิ่งไปได้ไม่ไกลก็หมดสติไปตรงข้างทาง

มองดูเม็ดฝนบนท้องฟ้าที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับว่าโลกนี้เป็นศัตรูกับเธอ

เธอคิดว่าตายไปแบบนี้ก็ดี

โลกที่เต็มไปด้วยแผนการเธอไม่มีอะไรจะอาลัยอาวรณ์

ตอนที่ตื่นมาอีกครั้งก็อยู่ในห้องที่แปลกตา ไฟสีเหลืองอบอุ่นช่วยขจัดความมืด เครื่องทำความร้อนในห้องอุ่นเหมือนกับฤดูใบไม้ผลิ

“เธอฟื้นแล้วเหรอ?”

ซูชิงอวี่ลืมตาขึ้นก็เห็นดวงตาที่อ่อนโยนของหลินเหยียน “รุ่นพี่ คุณช่วยฉันไว้งั้นเหรอ?”

“ผมเลิกงานกลับบ้านเห็นคุณเป็นลมอยู่ข้างทาง ก็เลยพาคุณกลับมา เห็นคุณตัวเปียก ผมจึงให้คนรับใช้เปลี่ยนชุดให้คุณน่ะ”

ดวงตาของชายหนุ่มใสสะอาด เปิดเผยและไม่มีความคิดอนาจารสักนิด

“ขอบคุณรุ่นพี่นะคะ”

“ผมต้มโจ๊กไว้ คุณดื่มน้ำอุ่นก่อนนะ”

ซูชิงอวี่เลิกผ้าห่มลงจากเตียง “ไม่ต้องค่ะรุ่นพี่ ดึกขนาดนี้แล้วฉันไม่รบกวนคุณแล้ว”

เธอที่ร่างกายอ่อนแอเท้าเพิ่งสัมผัสโดนพื้นร่างกายก็ล้มลงไปบนพื้น หลินเหยียนมือไวตาไวประคองเธอไว้ กลิ่นหอมของน้ำยาซักผ้าบนตัวของชายหนุ่มอบอวลอยู่ในจมูก

เหมือนกับน้ำยาซักผ้าที่บ้านเธอ เมื่อก่อนบนตัวลี่ถิงเชินก็เป็นกลิ่นนี้

เมื่อนึกถึงลี่ถิงเชินก็เจ็บจี๊ดหัวใจ

“ตอนนี้คุณอ่อนแอเกินไปแล้ว อยากมีชีวิตอยู่อีกช่วงหนึ่งก็อย่าทรมานร่างกายตัวเองแบบนี้เลยนะ” หลินเหยียนเตือนอย่างอ่อนโยน “ถือว่าทำเพื่อพ่อของคุณก็แล้วกัน”

ดวงตาเหม่อลอยของซูชิงอวี่ถึงได้เกิดความหวังขึ้นมาเล็กน้อย “งั้นก็รบกวนคุณแล้วนะคะ”

เธอมองดูชายหนุ่มที่เดินไปเดินมาในห้องครัว อันที่จริงเธอกับหลินเหยียนไม่ได้มีความข้องเกี่ยวอะไร อย่างมากก็แค่ตอนที่เธออยู่ปี 1 เขาอยู่ปี 4 ตอนที่ได้รับเลือกให้เป็นนักเรียนดีเด่น เขาเป็นคนมอบรางวัลให้กับเธอนั่นเอง

ตอนนั้นเขาได้ฝึกงานอยู่ที่โรงพยาบาลชื่อดัง เวลาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยน้อยมาก ภายหลังก็ได้เจอกับเขาที่โรงพยาบาล การติดต่อของซูชิงอวี่กับเขาก็มากขึ้นมาหน่อย

ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่สามารถเป็นเหตุผลที่เธอจะรบกวนหลินเหยียนได้ตลอด

ทานข้าวเสร็จก็กินยากระเพาะ จากนั้นเธอก็รู้สึกสบายขึ้นมาเล็กน้อย

หลินเหยียนเอ่ยเรื่องการทำคีโมขึ้นมาอีก “การแพทย์ในตอนนี้พัฒนามาก คุณแค่ช่วงปลายระยะกลาง คนไข้โรคมะเร็งระยะสุดท้ายบางคนยังมีชีวิตต่อไปได้ คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเอง คีโมเป็นวิธีรักษาที่มีผลอย่างมาก”

ซูชิงอวี่ส่ายหน้า “ฉันเคยเรียนหมอ ฉันรู้ถึงผลดีและผลข้างเคียงของคีโมดีค่ะ”

หลินเหยียนพูดโน้มน้าวอีก “หลังจากทำคีโมอัตราการผ่าตัดรักษาหายขาดสูงมาก ถึงแม้ผลข้างเคียงจะเยอะ เพียงแค่คุณมีความมั่นใจยืนหยัด…”

ซูชิงอวี่เงยหน้าขึ้นช้าๆ ในดวงตาแอบซ่อนน้ำตาไว้ เธอใช้แรงทั้งหมดถึงได้กลั้นน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลออกมา ริมฝีปากพึมพำพูดด้วยเสียงสั่นคลอน “…แต่ฉันฝืนต่อไม่ไหวแล้ว”

คำพูดปลอบใจของหลินเหยียนค้างอยู่ที่ปากพูดไม่ออก สบตากับดวงตาแดงก่ำของเธอ ในใจรู้สึกอัดอั้น

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาถาม “ชิงอวี่ บนโลกนี้ไม่มีคนที่คุณรักเลยเหรอ?”

เธอนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วตอบกลับช้าๆ “มีแต่พ่อของฉัน”

“งั้นก็ถือว่าทำเพื่อคุณลุงนะ คุณต้องมีชีวิตอยู่ให้ดี”

ซูชิงอวี่ยิ้มอย่างขมขื่น “ขอบคุณรุ่นพี่ ฉันรู้สึกดีขึ้นมาแล้ว ไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ”

หลินเหยียนพบว่าแหวนที่ไม่เคยห่างจากมือของเธอหายไป เขาอ้าปาก สุดท้ายก็พูดไม่ออกสักคำ

“คุณจะไปไหน? ผมไปส่งคุณดีกว่านะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเรียกรถแล้ว ใกล้จะมาถึงแล้ว” เธอปฏิเสธอย่างแน่วแน่ หลินเหยียนทำได้แค่ยินยอม แต่เขาก็รู้สึกระแวง ใบหน้าของซูชิงอวี่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและก็พูดคำพูดแบบนั้น เขากลัวเธอคิดสั้นฆ่าตัวตาย แอบตามอยู่หลังรถของซูชิงอวี่

รถขับไปถึงข้างแม่น้ำ ซูชิงอวี่เหม่อมองไปยังแม่น้ำเพียงลำพัง ถึงแม้ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว อุณหภูมิก็ต่ำมาก เดิมทีหลินเหยียนอยากจะเข้าไปเกลี้ยกล่อมเธอ รถตู้ผู้บริหารสีดำจอดลงข้างเธอ

ประตูรถเปิดออก ชายผู้สง่างามซึ่งครองอันดับนิตยสารเศรษฐกิจการคลังมายาวนานปรากฏตัวใต้ไฟข้างถนน

หลินเหยียนตกตะลึง หรือว่าสามีของซูชิงอวี่คือเขา!

ลมแม่น้ำพัดผมของซูชิงอวี่ เธอที่เดิมทีซีดเซียวยิ่งเพิ่มความเศร้าระทมมากขึ้น ลี่ถิงเชินยกมือขึ้นด้วยสัญชาตญาณอยากจะทัดไรผมไปยังหลังใบหูให้เธอ แต่ในไม่ช้าเขาก็ระงับความคิดนี้ไว้

“มีธุระ?”

ซูชิงอวี่จ้องมองเขาอย่างเย็นชา เหมือนกับจะต้องการจดจำใบหน้าของเขาให้ชัดเจน

“ตระกูลซูล้มละลายเกี่ยวข้องกับคุณใช่ไหม?”

“ใช่”

เธอถามอย่างชัดเจน เขาต้องกลับเด็ดขาดยิ่งกว่า

“เด็กคนนั้นเป็นลูกชายของคุณ?” ซูชิงอวี่ถามคำถามที่สองออกมา

เธอจ้องมองเขาโดยไม่กะพริบตา เธอคิดมากไปเองตัวเองคิดมากไป แต่ทว่าลี่ถิงเชินก็ไม่คิดจะปฏิเสธ ยังคงเอ่ยปากอย่างนิ่งเฉย “ใช่”

ซูชิงอวี่ก้าวเดินเข้าไป ฝ่ามือฟาดไปยังใบหน้าของเขา “ลี่ถิงเชิน คุณมันไร้ยางอาย!”

ชายหนุ่มจับข้อมือของเธอไว้อย่างง่ายดาย มือข้างหนึ่งลูบคราบน้ำตาบนใบหน้าของเธอ “เจ็บไหม?”

“คุณมันสารเลว คุณทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้? พวกเราตระกูลซูทำผิดอะไรต่อคุณ!”

ดวงตาภายใต้ขนตางอนยาวของลี่ถิงเชินเย็นชาไร้อารมณ์ เสียงของเขาเผยความเยือกเย็น “ซูชิงอวี่ อยากรู้คำตอบไม่ลองกลับไปถามพ่อของคุณดูล่ะว่าเขาได้ทำอะไรไว้บ้าน”

เธอถามอย่างสะอื้น “ลี่ถิงเชิน คุณเคยรักฉันบ้างไหม?”

ดวงตาดำคู่นั้นมีแต่ความเหี้ยมโหด เขาค่อยๆ อ้าปาก “ไม่เคย ตั้งแต่แรกเริ่ม คุณก็คือหมากในมือของผมก็แค่นั้น”

น้ำตาของซูชิงอวี่ไหลพราก กระทบโดนหลังมือของเขา ลมเย็นพัดผ่าน ความอบอุ่นที่เหลือกลายเป็นความเย็นชา

“คุณเกลียดฉัน ใช่ไหม?”

“ใช่ นี่เป็นสิ่งที่ตระกูลซูของพวกคุณติดค้างผม ซูชิงอวี่ ใครใช้ให้คุณเป็นลูกสาวของซูฉี่ผิงล่ะ ผมจะให้คุณมีชีวิตอย่างทรมานในทุกวันเพื่อไถ่โทษให้น้องสาวผม!”

“น้องสาวของคุณเสียชีวิตไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ? เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลซูของพวกเรา?”

เขามองซูชิงอวี่อย่างเหยียดหยาม เหมือนเป็นการพิพากษาจากพระเจ้าเหนือสวรรค์ทั้งเก้า “ซูชิงอวี่ ในตอนที่คุณเสพสุขกับความรักของทุกคน น้องสาวผมกลับถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม คุณไปเดาเอาเถอะ ผมไม่มีทางบอกความจริงกับคุณ ผมจะให้คุณอยู่กับความหวาดกลัวตลอดไป ลิ้มลองรสชาติความขมขื่นที่น้องสาวของผมเคยเจอ!”

ลี่ถิงเชินก้าวขึ้นรถด้วยความเย็นชาแล้วพูดทิ้งไว้ประโยคหนึ่ง “พรุ่งนี้เก้าโมง ผมจะรอคุณที่อำเภอ”

ซูชิงอวี่รีบตามมาแล้วตบประตูรถไม่หยุด “คุณพูดให้ชัดเจน น้องสาวคุณเกิดอะไรขึ้น?”

รถเหยียบคันเร่งออกไปอย่างเร็ว ซูชิงอวี่เสียการทรงตัวล้มลงบนพื้นอย่างแรง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status