Share

บทที่ 6

ลมแม่น้ำเย็นเยือกพัดมา เหมือนกับมีดที่เย็นเฉียบทะลุเข้ากระดูก ซูชิงอวี่ลุกขึ้นวิ่งไล่ตามไป

แต่เธอประเมินค่าร่างกายในตอนนี้ต่ำไป วิ่งได้ไม่กี่เมตรก็ล้มลงบนพื้นอย่างแรง ประตูรถเปิดออก รองเท้าหนังแฮนด์เมดแวววาวคู่หนึ่งหยุดลงตรงหน้าของเธอ

เธอค่อยๆ มองไปยังกางเกงตรงทื่อของชายหนุ่มช้าๆ จากนั้นสบตากับดวงตาเย็นชาของลี่ถิงเชิน

“ลี่…” ซูชิงอวี่เอ่ยปากอย่างอ่อนแอ

มือคู่หนึ่งที่ข้อต่อกระดูกชัดเจน ชั่วขณะซูชิงอวี่เหมือนเห็นวัยรุ่นชุดขาวในอดีตที่ทำให้เธอตกตะลึง เธอยื่นมือไปทางเขาโดยไม่รู้ตัว

ในตอนที่สองมือจะสัมผัสกัน ลี่ถิงเชินดึงมือกลับอย่างแรง ให้ความหวังกับเธอแล้วก็ดึงกลับอย่างไม่ไว้หน้า ทำให้ร่างกายของเธอที่ลุกขึ้นล้มลงบนพื้นอย่างแรงอีกครั้ง

เธอที่เดิมทีไม่ได้บาดเจ็บเมื่อล้มลงครั้งนี้ฝ่ามือทับเศษแก้วที่แตกอยู่บนพื้นพอดี รอยเลือดที่สะดุดตาไหลลงมาตามฝ่ามือ

ดวงตาดำของเขาหยุดนิ่ง แต่กลับไม่มีท่าทางใดๆ

ซูชิงอวี่งุนงงอยู่ครู่หนึ่ง เธอนึกถึงเมื่อก่อนตัวเองนิ้วโดนบาดแผลเล็กก็ถูกเขาพาไปโรงพยาบาลตอนดึก

หมอที่เข้าเวรยังหัวเราะ “คุณผู้ชายท่านนี้ โชคดีที่คุณมาเร็ว ถ้ามาช้ากว่านี้หน่อยบาดแผลจะหายแล้ว”

คนในความทรงจำกับผู้ชายตรงหน้าทับซ้อนกัน ดวงตายังคงเหมือนกับในอดีต ไม่เหมือนกันตรงที่จากเป็นห่วงเปลี่ยนเป็นไปเย็นชาไร้ความรู้สึก

ลี่ถิงเชินพูดอย่างเฉยเมย “ซูชิงอวี่ คนอื่นไม่รู้ผมก็ไม่รู้จักคุณงั้นเหรอ? คนที่วิ่งหนึ่งพันห้าร้อยเมตรเสร็จยังสามารถตีลังกาได้ วิ่งแค่ไม่กี่ก้าวถึงกับล้มเลยเหรอ?”

สายตาที่เขามองไปทางเธอเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน เหมือนกับความเหน็บหนาวกรีดลงบนตัวเธอซ้ำๆ

ซูชิงอวี่กัดปากที่ซีดขาวอธิบาย “ไม่ใช่นะ ฉันไม่ได้โกหกคุณ ฉันแค่ป่วย อ่อนแอ…”

ยังอธิบายไม่จบชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก้มตัว จับคางของเธอเงยขึ้น นิ้วมือที่เรียวยาวลูบริมฝีปากแห้งผากของเธอ “เป็นอย่างที่คิดแม่ปูเดินอย่างไรลูกก็เดินอย่างนั้น เหมือนกับพ่อที่จอมปลอมของคุณ เพื่อเงินน้อยนิด ยอมที่จะแสดงละครโง่ๆ แบบนี้”

คำพูดของเขาทำร้ายคนยิ่งกว่าลมหนาว ทิ่มแทงหัวใจของเธออย่างแรง

ซูชิงอวี่ปัดมือของเขาออกอย่างแรง “พ่อของฉันทำอะไรเปิดเผยตรงไปตรงมา ฉันเชื่อว่าเขาไม่มีทางทำเรื่องอะไรที่ไร้มโนธรรมอย่างแน่นอน!”

“หึ” ลี่ถิงเชินยิ้มเยาะ เหมือนไม่อยากโต้เถียงเรื่องนี้กับเธอ แต่หยิบเช็คใบหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าเงิน เขาเขียนตัวเลขสุ่มๆ ลงไป สองนิ้วคีบเช็ควางไว้ตรงหน้าเธอ

“อยากได้ไหม?”

ยี่สิบห้าล้านบาท นั่นเป็นตัวเลขที่พอดูทีเดียว อย่างน้อยสามารถทำให้เธอไม่ต้องกังวลค่ารักษาพยาบาลของซูฉี่ผิงไปได้อีกนาน

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้หวังดีขนาดนั้น ซูชิงอวี่ไม่ได้รับไป

“เงื่อนไข”

ลี่ถิงเชินพูดเสียงเบาข้างหูเธอ “เพียงแค่คุณพูดว่าซูฉี่ผิงคือสัตว์เดียรัจฉานที่สู้หมูสู้หมาไม่ได้ เงินก้อนนี้ก็เป็นของคุณทันที”

ซูชิงอวี่ฟังแล้วสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอง้างมือขึ้นจะตบหน้าเขา ลี่ถิงเชินจับข้อมือของเธอไว้ มือข้างที่บาดเจ็บของซูชิงอวี่ขัดขืนจนตบไปโดนเสื้อเชิ้ตของเขา เกิดเป็นรอยมือเปื้อนเลือด

ลี่ถิงเชินออกแรงแล้วพูดขึ้น น้ำเสียงก็เปลี่ยนไปเคร่งขรึมขึ้นมา “ทำไม? ไม่ยอมเหรอ? งั้นก็ให้เขาตายไปในโรงพยาบาลก็ดีแล้ว สถานที่ฝังศพผมเลือกไว้เรียบร้อยแล้ว”

“ลี่ถิงเชิน ทำไมคุณถึงกลายเป็นแบบนี้?” ซูชิงอวี่ร้องไห้ถามขึ้น

เมื่อก่อนผู้ชายที่บอกว่าจะปกป้องเธอตลอดชีวิต ไม่ให้เธอเสียน้ำตาคนนั้นเหมือนกับเธอฝันไป ตอนนี้น้ำตาของตัวเองเป็นเพียงเครื่องมือสร้างความสุขของเขา

แม้แต่แสงสีเหลืองสลัวจากโคมไฟข้างถนนที่สองไปยังใบหน้าของเขาก็ไม่มีความรู้สึกอบอุ่นสักนิด ใบหน้าเต็มไปด้วยความรำคาญ “ไม่ยอมพูดใช่ไหม?”

เขาปล่อยซูชิงอวี่ ฉีกเช็คอย่างช้าๆ

ซูชิงอวี่พุ่งเข้าไปอยากจะห้ามปราม กลับถูกเขาผลักออก เขาที่เหมือนกับเทพเจ้าเหนือสวรรค์ทั้งเก้ามองเหยียดลงมาอย่างเย็นชา “ผมเคยให้โอกาสคุณแล้ว”

กระดาษที่ถูกฉีกขาดเหมือนความหวังของเธอที่แตกเป็นเสี่ยงๆ สุดท้ายกลายเป็นผีเสื้อที่บินร่อนอยู่ข้างกายเธอ

“ไม่ ไม่นะ!” ซูชิงอวี่เก็บเศษกระดาษเหล่านั้นขึ้นมาด้วยความร้อนรน น้ำตาหยดลงบนพื้นอย่างต่อเนื่อง

เธอลนลานเหมือนกับเด็กที่สูญเสียทุกอย่างไป ไร้ที่พึ่งและสับสนอลหม่าน

ลี่ถิงเชินหันหลังจากไป ในตอนที่เขากำลังจะขึ้นรถก็มีเสียง “ตุ่บ” ดังขึ้นข้างหู เขาหันกลับไปมองคนที่สลบอยู่บนพื้น

เสี่ยวเฉินคนขับรถสีหน้าเป็นกังวล “ประธานลี่ครับ คุณนายเหมือนเป็นลมไปแล้ว ไปส่งเธอที่โรงพยาบาลไหมครับ?”

ลี่ถิงเชินเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา “แกเป็นห่วงเธอมากเหรอ?”

เสี่ยวเฉินติดตามอยู่ข้างกายลี่ถิงเชินนานแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนประธานลี่ชอบคุณผู้หญิงอย่างมาก ตั้งแต่ที่เขาไปยืนยันศพกลับมาก็นิสัยเปลี่ยนไปมาก

อย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องในครอบครัวคนอื่น เขาก็ไม่กล้าถามอะไรมาก จากนั้นขับรถออกไปแต่โดยดี

หลังจากที่รถแล่นไกลออกไป ลี่ถิงเชินจ้องมองผ่านกระจกหลังไปที่ผู้หญิงที่ยังไม่ลุกขึ้นมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าเพิ่มมากขึ้น

ไม่เจอกันหลายวัน เธอยิ่งอยู่ยิ่งเล่นละครเก่ง

ถึงจะพูดว่าซูชิงอวี่กินอยู่กินดีโตมา เพื่อไม่ให้ผู้หญิงคนนี้ถูกรังแก ซูฉี่ผิงก็ให้เธอฝึกซ้อมสมรรถภาพร่างกายประเภทต่างๆ ตั้งแต่เด็ก

เธอที่เทควันโดสายดำ ต่อยมวย ผู้หญิงที่แข็งแกร่งอย่างกับวัวจะหมดสติง่ายๆ ได้อย่างไร?

ในสายตาของเขาซูชิงอวี่แสดงละครเพื่อเงินก็แค่นั้น

เมื่อคิดแบบนี้ลี่ถิงเชินดึงสายตาเย็นชากลับ ไม่หันไปมองอีก

เห็นรถของลี่ถิงเชินหายลับไป หลินเหยียนถึงได้เดินเหยาะๆมาหาซูชิงอวี่

ซูชิงอวี่ตื่นมาอีกครั้ง ภาพที่เห็นก็คือห้องนอนที่เพิ่งออกไปก่อนหน้านี้ หลังมือของเธอเจาะเข็มอยู่ ของเหลวเย็นเยือกไหลซึมเข้าไปในเส้นเลือดเขียวม่วงทีละนิด บาดแผลที่มือข้างซ้ายก็ถูกพันด้วยผ้าพันแผลไว้เรียบร้อยแล้ว

นาฬิกาเขากวางที่อยู่บนผนังบอกเวลาตีสาม ยังไม่รอให้เธอเอ่ยปาก เสียงอ่อนโยนของหลินเหยียนดังขึ้น “ขอโทษด้วย ก่อนหน้านี้ผมกลัวว่าคุณจะทำเรื่องโง่ๆ จึงสะกดรอยตามคุณไปน่ะ”

ซูชิงอวี่อยากจะลุกขึ้น หลินเหยียนรีบยัดหมอนอีกใบหนึ่งเพิ่มให้เธอ และก็ป้อนน้ำให้เธอ ซูชิงอวี่ถึงได้รู้สึกสบายขึ้นมาหน่อยแล้วเอ่ยปาก “รุ่นพี่เห็นหมดแล้วเหรอ?”

“ขอโทษด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจแอบดูเรื่องส่วนตัวของคุณนะ”

หลินเหยียนบริสุทธิ์เหมือนกับกระดาษเปล่า เพียงแวบเดียวก็มองออกได้ ไม่เหมือนกับลี่ถิงเชิน

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเป็นภรรยาของเขา ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์ที่คนอื่นรู้ไม่ได้”

เห็นใบหน้าของหลินเหยียนเผยความตะลึงงัน ซูชิงอวี่พูดอย่างขมขื่น “ก็ถูก ทุกคนต่างคิดว่าไป๋หยวนหยวนถึงจะเป็นภรรยาที่เขาจะแต่งเข้าบ้าน คุณไม่เชื่อฉันก็…”

หลินเหยียนรีบขัดคำพูดของเธอ “ไม่ ผมเชื่อ แหวนแต่งงานของคุณผมรู้จัก เป็นรุ่นลิมิเต็ดของ SL ที่ออกมาเมื่อสามปีก่อน ทั้งโลกมีแค่วงเดียว นิตยสารเคยรายงานว่านั่นเป็นแหวนที่ประธาน SL ออกแบบให้ภรรยาของตัวเอง ผมรู้ว่าประธานที่อยู่เบื้องหลัง SL ก็คือลี่ถิงเชิน”

ในอดีตเขาเคยคิดถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคน เพียงแต่เห็นข่าวฉาวของลี่ถิงเชินกับไป๋หยวนหยวน บวกกับสองปีมานี้ไม่เคยเห็นลี่ถิงเชินปรากฏตัวที่ในโรงพยาบาล เขาจึงปฏิเสธความคิดนี้

ซูชิงอวี่ลูบนิ้วที่สวมใส่แหวนก่อนหน้านี้ด้วยจิตใต้สำนึก ตรงนั้นว่างเปล่า ผิวขาวกว่าบริเวณโดยรอบเล็กน้อย เหมือนเตือนเธอว่านั่นเป็นช่วงการแต่งงานที่น่าขำ

“ฉันเป็นภรรยาเขาหรือไม่มันไม่สำคัญแล้ว พรุ่งนี้เก้าโมงพวกเราจะหย่ากัน”

“เขารู้เรื่องการป่วยของคุณหรือเปล่า?”

“เขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรับรู้หรอกค่ะ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status