ซูชิงอวี่ก้มหน้าดู บนกระดาษสีขาวเขียนที่อยู่ของสุสานเอาไว้หรือว่าน้องสาวของเขาเสียชีวิตแล้ว? แต่การตายของน้องสาวของเขาเกี่ยวข้องอะไรกับพ่อของเธอด้วย? จากที่ซูชิงอวี่รู้เกี่ยวกับซูฉี่ผิง เขาไม่มีทางทำร้ายเด็กสาวคนหนึ่งได้รู้ว่าทั้งสองไม่มีทางเปิดเผยอะไรมาก ซูชิงอวี่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งสองคนลำบากใจต่อไป เธอเงียบสงัดจนถึงคฤหาสน์ตระกูลลี่ในตอนที่มาถึงสถานที่คุ้นเคยอีกครั้ง ซูชิงอวี่มีความรู้สึกมากมายเฉินเฟิงถามอย่างสุภาพ “คุณนายจะลงไปไหมครับ?”“ไม่แล้วล่ะ ฉันรอเขาอยู่ตรงนี้ดีกว่า”การเจอหน้ากันครั้งสุดท้ายของเธอกับเขาเหลือเพียงการหย่าร้าง เธอไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายแทรกซ้อน ยิ่งกว่านั้นทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่แบกรับความทรงจำของทั้งสองคนไว้ เธอยิ่งไม่อยากเกิดความสัมพันธ์กับสถานที่ตรงหน้าถ้าจะโทษก็ต้องโทษผู้ชายคนนั้นที่ประคบประหงมเธอเอาไว้กลัวจะบินหนีไปต่อให้ตอนนี้เขาเย็นชามากขึ้นทุกครั้ง เธอก็จดจำแต่ความดีของเขาทั้งๆ ที่ควรจะเป็นคนที่เกลียดเข้ากระดูกดำ แต่เธอกลับเกลียดไม่ลงรถยังสตาร์ทอยู่ให้แอร์ร้อนกับเธออย่างต่อเนื่อง ในรถเหลือเพียงแค่เธอคนเดียว ซูชิงอวี่รู้สึกปวดกระเพาะขึ้
ในรถเงียบสงัด เป็นเพราะไป๋หยวนหยวนร้อนใจเสียงจึงดังมาก ซูชิงอวี่ได้ยินคำว่า “ชิงเฉิน” อย่างชัดเจนยังจำวันที่เธอได้ผลการตรวจการตั้งครรภ์ได้ เธอพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของลี่ถิงเชินที่เต็มไปด้วยความหวัง “อาเชิน คุณจะได้เป็นพ่อแล้ว! พวกเรามีลูกแล้ว! ฉันคิดชื่อลูกไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากเป็นผู้หญิงชื่อลี่ฉิงเฉิน เด็กผู้ชายชื่อลี่ชิงเฉิน ตั้งมาจากชื่อของพวกเราสองคน คุณว่าดีไหม?”เธอหวังเป็นอย่างมากว่าตัวเองฟังผิดไป แต่ลี่ถิงเชินไม่ได้หลบสายตาของเธอแต่ตอบกลับอย่างฉะฉาน “เขาชื่อลี่ชิงเฉิน”“สารเลว!”ซูชิงอวี่ง้างฝ่ามือตบ ครั้งนี้เขาไม่หลบ ให้เธอตบเต็มๆ“คุณให้เด็กที่เธอเกิดมาใช้ชื่อลูกของพวกเรา!”ลูกคือแนวต้านทานสุดท้ายของซูชิงอวี่ และน้ำตาก็พรั่งพรูราวกับลูกปัดที่ด้ายขาด ซูชิงอวี่โผเข้าไปหาเขาอย่างบ้าคลั่ง “คุณมันปีศาจชั่ว ทำไมสวรรค์จะต้องช่วงชิงชีวิตของลูกไป ทำไมคนที่ตายไม่ใช่คุณนะ?”ซูชิงอวี่ที่เสียสติทุบตีลี่ถิงเชินครั้งแล้วครั้งเล่า “เขาไม่คู่ควรกับชื่อนี้!”ลี่ถิงเชินจับมือสองข้างของเธอไว้แล้วสั่งเฉินเฟิง “ไปวิลล่าลู่ไห่จวี”ซูชิงอวี่อารมณ์วู่วามยิ่งขึ้น “ใกล้ถึงอำเภอแล้ว ถ้าคุณจะ
ซูชิงอวี่บ่นพึมพำที่หลุมศพอยู่นานถึงได้กลับไป เธอไม่มีเวลาโศกเศร้า เพราะเธอจำเป็นต้องตามสืบต่อจากรูปภาพที่เธอได้มาผู้หญิงที่พ่อพบเจอส่วนมากเป็นที่บริษัท ในตอนที่เธอเตรียมเริ่มต้นจากพนักงานของบริษัท เธอได้รับสายโทรศัพท์เป็นสายของอู๋เริ่นเด็กจากพื้นที่ภูเขาที่พ่อเคยช่วยเหลือ เสียงของเขาร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด “คุณหนูซู ผมเพิ่งกลับจากต่างประเทศก็ได้ยินข่าวที่คุณซูป่วยหนัก เขาเป็นยังไงบ้างครับตอนนี้?”“ขอบคุณในความเป็นห่วงนะ พ่อของฉันยังรับการรักษาที่โรงพยาบาล”“เฮ้อ คนดีแบบคุณซูสวรรค์ทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้? ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเขาช่วยเหลือพวกเรา พาพวกเราออกมาจากภูเขา พวกเราจะมีชีวิตแบบทุกวันนี้ได้อย่างไร?”ซูชิงอวี่มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว หลายปีก่อนซูฉี่ผิงเริ่มช่วยเหลือเด็กๆ ในพื้นที่ภูเขาที่ยากจน หากลี่หลานหลุ่ยถูกจับตัวไปขายในเขาลึก เป็นไปได้ไหมว่าจะรู้จักกับคุณพ่อเพราะเหตุนี้?“พี่อู๋ พี่รู้จักนักเรียนเหล่านั้นที่คุณพ่อช่วยเหลือไหม?”“ผมติดต่อพวกเขาแทนคุณซูมาโดยตลอด ส่วนมากก็รู้จัก เพียงแต่หลายปีนี้ออกนอกประเทศขาดการติดต่อกัน หากคุณหนูซูต้องการความช่วยเหลืออะไร ไม่ว่าทรัพย
เพื่อไม่ให้อาการป่วยของเธอเลวร้ายไปกว่านี้ หลินเหยียนจึงกำหนดเวลาคีโมระยะแรกสำหรับเธอเป็นวันมะรืนผลข้างเคียงของคีโมค่อนข้างจะหลากหลาย โดยที่สองสัปดาห์แรกหลังการทำคีโมร่างกายจะอ่อนแออย่างมากและผมร่วง ซูชิงอวี่จึงต้องจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ติดตัวไว้ให้อย่างเรียบร้อยล่วงหน้าซูฉี่ผิงไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นในขณะนั้น โชคดีที่เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล จึงชำระค่ารักษาพยาบาลแล้วกลับบ้านเดิมทีห้องแต่งงานเป็นของเธอและลี่ถิงเชิน เมื่อคิดว่าตัวเองจะย้ายออกไปไม่นานนี้แล้ว เธอกลัวว่าร่างกายของตัวเองจะอ่อนแอยิ่งขึ้นหลังจากทำคีโม จึงหาบริษัทขนย้ายบ้านมาล่วงหน้าโดยที่ฉินโอวเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอก็มาด้วยเช่นกัน เธอสวมชุดสูทและรองเท้าส้นสูงพร้อมกระเป๋า และยังพกมันเทศเผาสองหัวมาอีกด้วยและเสียงของเธอก็ดังขึ้นมาแต่ไกลว่า "เพื่อนซู ในที่สุดเธอก็ออกจากไอ้หมอนั่นได้สักทีนะ! ฉันเพิ่งรับค่าคอมมิชชั่นขายบ้านเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนกลางคืนฉันจะพาเธอไปเที่ยวที่ไนต์คลับเฮยหม่านะ คางคกมีสามขามันหายาก แต่ผู้ชายมีสองขามีทุกที่ "สัปดาห์นี้เมื่อซูชิงอวี่หายไป เธอเพิ่งบินไปต่างประเทศเพื่อหาแฟนของเธอ เธอจ
ทั้งสองสาวที่เพิ่งอกหักมีเรื่องที่เสียใจมากมายที่คล้ายกัน โดยที่ฉินโอวได้เลือกช่างตัดผมหนุ่มหล่อมาสองคน และเมื่อช่างตัดผมเห็นซูชิงอวี่ ดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที จากนั้นก็แนะนำทรงผมที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วงนี้ให้กับเธออย่างรวดเร็วแต่ซูชิงอวี่กลับปฏิเสธโดยตรง "ตัดให้สั้นก็พอค่ะ ยิ่งสั้นยิ่งดี""คุณลูกค้าครับ แม้ว่าตอนนี้ทุกคนมักจะชอบแต่งตัวให้ดูดีและดูเท่ แต่ตามความคิดของเรานั้น ถ้าผมตัดสั้นเกินไป การทำทรงผมก็จะมีข้อจำกัดบางอย่างนะครับ ผมว่าเราลองตัดให้เท่าไหล่ดีไหมครับ ทรงนี้จะทำให้ดูเด็กลง และไปทุกๆ ที่ได้นะครับ""ไม่จำเป็นหรอกค่ะ"“คุณลูกค้ามีผมสลายมาก แค่ดูก็รู้ว่าไว้ผมยาวมาหลายปีแล้ว ถ้าตัดสั้นมันจะน่าเสียดายมากเลยนะครับ” ช่างตัดผมส่ายหน้าด้วยความเสียดายซูชิงอวี่มองตัวเองในกระจก ถึงแม้ช่วงนี้เธอจะพักผ่อนน้อยและหน้าซีด แต่หน้าตาของเธอก็ยังสวยเหมือนเดิม สวนผมดำขลับที่ไม่ได้รักษามานานนั้นก็ขยับปลิวไสว ทำให้เธอดูสวยสง่าเป็นอย่างมากลี่ถิงเชินชอบผมยาวของเธอ เธอไม่ได้ตัดมันมาสองสามปีแล้ว และเมื่อเห็นว่าช่างตัดผมไม่อยากจะลงมือตัด ซูชิงอวี่ก็หยิบกรรไกรมาด้วยรอยยิ้ม "งั้นฉัน
ลี่ถิงเชินถลึงตาใส่เฉินหลิ่งด้วยสายตาเย็นชา เฉินหลิ่งรีบอธิบายไปว่า "ประธานลี่ครับ ตอนนี้คุณนายอยู่กับฉินโอวครับ"ฉินโอวเป็นเพื่อนซี้ของซูชิงอวี่ การที่พวกเขาทั้งสองอยู่ด้วยกันนั้นเป็นเรื่องปกติ ตอนแรกเพื่อที่จะรู้ว่าซูชิงอวี่อยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่ ลี่ถิงเชินจึงให้เฉินหลิ่งแอดไลน์ของเธอเฉินหลิ่งอธิบายพลางหยิบมือถือของเธอออกมา เลื่อนไปเจอไทม์ไลน์ล่าสุดของฉินโอว ฉินโอวดัดผมเป็นผมดัดลอนสีดอกซากุระมันน่าหลงใหลมาก ลี่ถิงเชินแค่ดูแวบหนึ่งก็เห็นว่าซูชิงอวี่ที่อยู่ข้างๆ เธอต่างกับสไตล์ประจำวันของเธอมันดูราวฟ้ากับดิน ผมยาวเกือบเท่าเอวจะกลายเป็นผมซอยแบบแสกกลาง เหมาะมากกับหน้าเรียวของเธอ ปกติเธอยิ้มเหมือนพระอาทิตย์ดวงน้อย นิสัยเบิกบานแจ่มใสของเธอก็กลายเป็นเศร้าลงในรูปนี้ เธอก้มหน้าอยู่ สวมเสื้อเชิ้ตของผู้ชายตัวใหญ่ กระดูกไหปลาร้าที่งดงามก็โผล่ให้เห็น ทั้งตัวของเธอดูมีความสวยและทรงเสน่ห์แบบโทนเย็นที่เปล่งออกมาแคปชั่นคือ คืนชีพลี่ถิงเชินไม่รู้ตัวว่ามือของตัวเองที่กุมมือถืออยู่นั้นสั่นเบาๆ ถูกเธอก่อกวนมาตลอดหนึ่งปี ตอนนี้เธอเลือกที่จะปล่อยมือ เห็นๆ อยู่ว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น แต่ทำไ
เดิมคิดว่าฉินโอวกินเหล้าแล้วยังมีสติอยู่ แต่ไม่คิดว่าเธอจะเมาจนบ้าไปแล้วถ้าไม่ใช่ซูชิงอวี่ขวางเธอเอาไว้ เธอก็คงจะได้มีอะไรกับชายหนุ่มในห้องส่วนตัวไปแล้วล่ะ ถึงอย่างไรก็ตามซูชิงอวี่เอง ยังไม่เคยเห็นว่ามีชายหน้าไหน ที่เธอไปโอบกอดมาหาว่าเป็นหญิงแก่ที่ไม่มีลูกหลานดูแลเมื่อเห็นเธอเมาจนหัวราน้ำ ซูชิงอวี่ก็พาเธอกลับไปที่คอนโดที่เช่าใหม่ของเธอไม่นานมานี้แม่บ้านในโรงพยาบาลพบว่าเธอกำลังหาบ้านอยู่ และแนะนำคอนโดของญาติตัวเองให้เธอ ซูชิงอวี่คิดว่าเธอสามารถประหยัดค่านายหน้าได้ พร้อมยังมีแม่บ้านช่วยรับรอง เธอตกปากรับคำไปเจ้าของบ้านต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะกลับประเทศ ดังนั้นทั้งสองคนจึงยังไม่ได้ลงนามสัญญา ซูชิงอวี่คุยกับเขาในไลน์เกือบจะเรียบร้อยแล้ว หลังจากเจ้าของบ้านยอมให้เช่า เธอจึงเริ่มทำความสะอาดและย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะเธอยังไม่ลงนามสัญญาเช่าบ้าน ลี่ถิงเชินจึงไม่สามารถหาเธอได้ในเวลานี้จริงๆแม้ว่าคอนโดขนาดเล็กจะไม่ดีเท่ากับวิลล่าของตระกูลซูที่ยังไม่ล้มละลาย และไม่ดีเท่ากับห้องแต่งงานของเธอด้วย แต่มันดูอบอุ่นมาก เธอชอบที่นี่มาก โดยเฉพาะเธอยังเลี้ยงปลาเขตร้อนที่พ่อชอบพอเธอผลักหน้าต่างก็เห
ซูชิงอวี่มองหลินเหยียนแวบหนึ่งด้วยความขอบคุณ หลินเหยียนพยักหน้ารับและหันกลับไปเพื่อทำตามขั้นตอนให้กับเธอพยาบาลสาวอธิบายอย่างอดทนต่อเธอ "คุณซูคะ คืออย่างนี้ค่ะ คุณจะต้องรับการรักษาเป็นเวลานาน เนื่องจากยาคีโมเป็นยาฉีด เมื่อฉีดยาเราจะต้องแทงเข็มเข้าเส้นเลือด ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดได้รับความเสียหาย อาจมีการรั่วซึมของยาจากหลอดเลือดเกิดขึ้นบางที ยาบางชนิดของคีโมมีความเป็นกรดเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ เราแนะนำว่าคุณควรคาสายสวนหลอดเลือดดำก่อนเริ่ม เพื่อให้ยาสามารถเข้าสู่เส้นเลือดและอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เราจะคาเข็มทางหลอดเลือดดำสำหรับให้ยาเข้าเส้นเลือด ข้อดีคือ เมื่อใช้เวลานาน ครั้งต่อไปที่ฉีดยาคีโมจะไม่ต้องหาเส้นเลือดอีกและไม่เสี่ยงต่อการที่เข็มจะหลุด สะดวก ปลอดภัย แต่ข้อเสียคือ หลังจากนี้มือนี้จะไม่สามารถยกของหนักได้อีกซูชิงอวี่เห็นด้วยกับคำแนะนำของพยาบาลสาว ก่อนที่จะเริ่มทำคีโม เธอได้ทำการผ่าตัดเล็กๆ คือตั้งสายสวนหลอดเลือดดำในแขนของเธอ ร่างกายของเธอมีความต้านทานต่อยาชา เลยปฏิเสธฉีดยาชา เมื่อมีดกรีดเนื้อตัวเธอ เธอเพียงแค่ขมวดคิ้วและไม่มีเสียงออกมาหมอถามว่า "ไม่ค่อยจะมีเด็กสาวคนไหนทนเจ