Share

บทที่ 7

ตอนที่ซูชิงอวี่เอ่ยถึงคนคนนั้นน้ำเสียงเรียบเฉยมาก เหมือนกับปล่อยวางแล้ว

แต่หลินเหยียนรู้ดีว่าเคยรักใครจริงๆ สักคนเป็นไปได้อย่างไรที่พูดว่าปล่อยวางก็ปล่อยวางได้? เธอก็แค่เก็บซ่อนบาดแผลเอาไว้ ตอนที่ไม่มีคนถึงจะปลอบใจตัวเอง

หลินเหยียนไม่ได้ถามอะไรมาก แต่เปลี่ยนเรื่องคุย “ค่าผ่าตัดของคุณลุงคุณยังไม่ได้จ่ายเงิน ถือว่าเป็นเพื่อน ผมให้คุณยืมก่อน ต่อไปคุณค่อยคืนผมก็ได้”

เขารู้ว่าซูชิงอวี่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ หาเงินอย่างลำบาก เคยอยากจะยื่นมือเข้ามาช่วยครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ซูชิงอวี่ก็ปฏิเสธมาโดยตลอด

ครั้งนี้ซูชิงอวี่ยังคงส่ายหน้า “ไม่ต้องค่ะรุ่นพี่”

“ชิงอวี่ อาการป่วยของคุณลุงเป็นเรื่องที่เร่งด่วน หรือคุณยอมที่จะถูกคนชั่วคนนั้นดูถูกแต่ไม่ยอมรับความหวังดีจากผมงั้นเหรอ? ผมเพียงแค่อยากช่วยคุณ คุณรู้ว่าถึงแม้บ้านผมจะเทียบกับตระกูลลี่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดาๆ เงินแค่นี้สำหรับผมขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก คุณไม่ต้องลำบากใจ”

ซูชิงอวี่สองมือประคองแก้วน้ำหันมองไปทางเขาช้าๆ สีหน้าของเธอขาวซีด มองแล้วทำให้คนรู้สึกสงสาร

“รุ่นพี่ ฉันรู้ว่าพี่เป็นคนดี แต่…ฉันไม่มีอนาคตแล้ว”

บุญคุณนี้ก็ดี เงินเหล่านี้ก็ดี เธอไม่มีปัญญาชดใช้

เห็นของเหลวในขวดน้ำจะหมดแล้ว ซูชิงอวี่ถอดเข็มออกมาอย่างไม่ลังเล ไม่มีสำลีห้ามเลือด เลือดสดพุ่งออกมา

เธอกลับลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมโดยไม่สนใจใดๆ “รุ่นพี่คะ เรื่องเงินคุณไม่ต้องกังวล เพียงแค่ฉันกับเขาได้ทะเบียนหย่าแล้ว เขาจะให้เงินฉันห้าสิบล้าน เมื่อวานพ่อของฉันทำการผ่าตัด ฉันไปดูเขาที่โรงพยาบาลหน่อย”

เธอนิสัยดื้อรั้น ก็เหมือนกับตอนนั้นที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอที่ได้รับยกย่องเป็นอัจฉริยะจะทอดทิ้งการเรียนไปแต่งงานได้อย่างไร

แม้แต่อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ ทุกครั้งที่ทานข้าวกับตัวเองก็จะบ่นเสียดาย ต้นอ่อนที่ดีมากๆ น่าเสียดาย ไม่รู้เหมือนกันว่าถูกใครถอนไป

เหมือนรู้ว่าตัวเองจะเอ่ยคำพูดที่จะไปส่งเธอ ซูชิงอวี่โบกโทรศัพท์ไปมา “รถที่ฉันเรียกมาถึงแล้วค่ะ”

ดักทางของหลินเหยียนเอาไว้มิดชิด

เธอกระชับเสื้อคลุม ในตอนที่นิ้วมือวางลงบนที่จับประตูหลินเหยียนเอ่ยปาก “ชิงอวี่ คุณเคยเสียใจไหมที่ทิ้งทุกอย่างไปแต่งงานกับเขา?”

เสียใจเหรอ?

เขาทำลายตระกูลซูจนเป็นแบบนี้ พ่อซูถูกผลกระทบบวกกับอุบัติเหตุถึงได้นอนอยู่บนเตียง ตัวเองสูญเสียลูกที่น่ารักไป

เธอควรจะเสียใจ แต่เมื่อหลับตาลงก็นึกถึงเรื่องที่เรือสำราญล่ม ผู้ชายที่พยุงเธอท่ามกลางฝนพายุ เป็นเด็กวัยรุ่นชุดขาวที่เธอเคยเห็นในโรงเรียน

เธอกลั้นร้องไห้พูดขึ้น “ไม่เสียใจค่ะ”

ในตอนที่ประตูปิดลง หลินเหยียนมองดูเธอที่จากไป ในใจรู้สึกหลากหลายอารมณ์

มาถึงโรงพยาบาล ซูฉี่ผิงยังคงอยู่เฝ้าอาการที่ห้องไอซียู เธอทำได้แค่มองดูเขาอยู่ไกลๆ คำพูดพวกนั้นที่อยากถามจุกอยู่ในลำคอ

ในความทรงจำซูฉี่ผิงเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนน้อมถ่อมตน ก่อนที่พ่อแม่จะหย่ากันทั้งคู่ไม่เคยพูดแรงๆ ใส่กันด้วยซ้ำ

หลายปีนี้ที่ฝานเฉินซีจากไปเขาก็ไม่ได้แต่งงานใหม่ เวลาที่นอกเหนือจากการทำงานก็มาอยู่เป็นเพื่อนตัวเอง

ลี่ถิงเชินเอ่ยถึงพ่ออย่างเต็มปาก แสดงว่าคนที่เขาเกลียดจริงๆ ไม่ใช่ตัวเอง

เมื่อก่อนตอนที่คบกันก็เคยได้ยินเรื่องน้องสาวของเขา ตอนเด็กหายตัวไป จึงทำให้แม่ของเขาเสียใจจนป่วยทางจิตและไปอยู่ต่างประเทศระยะยาว

น้องสาวที่หายตัวไปเกี่ยวข้องอะไรกับพ่อ?

ซูชิงอวี่ตัดสินใจลงมือจากคนที่อยู่ใกล้ตัวของพ่อ ฟ้ายังไม่สางเธอก็รีบไปยังบ้านของคนขับรถเหล่าจางกับพ่อบ้านเหล่าหวัง

น่าแปลกตรงที่คนเหล่านี้ที่ติดตามพ่อมาทั้งชีวิตไม่ใช่เกิดอุบัติเหตุอย่างน่าแปลกประหลาด ก็ไปต่างประเทศติดต่อไม่ได้

พ่อที่รู้ความจริงเพียงคนเดียวก็ยังไม่ได้สติ ทำให้เธอเหมือนกับแมลงวันหัวขาด ยืนหยัดตั้งแต่ฟ้ามืดจนฟ้าสว่าง

เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้เห็นได้ชัดว่าจะเรียกบังเอิญไม่ได้ นี่มีคนตั้งใจทำชัดๆ

ทางด้านตระกูลซูสืบไม่เจอข้อมูล ซูชิงอวี่ก็ไม่โง่ เปลี่ยนเป้าหมายเบาะแสไปยังเฉินเฟิงคนขับรถกับเฉินหลิงผู้ช่วยของลี่ถิงเชินทันที

เธอดูนาฬิกาข้อมือ เพิ่งเจ็ดโมง เวลานี้พวกเขาน่าจะอยู่ระหว่างทางไปรับลี่ถิงเชิน ซูชิงอวี่โทรศัพท์หาเฉินหลิง

ยังดีที่เสียงดังไม่กี่ครั้งอีกฝ่ายก็รับสายและยังคงมีมารยาทต่อเธอเหมือนอย่างเคย “คุณนายครับ”

ซูชิงอวี่ได้ยินคำเรียกที่เกรงอกเกรงใจนี้ ข่มความปวดร้าวในใจไว้แล้วพูดขึ้น “ผู้ช่วยเฉิน ฉันนัดลี่ถิงเชินมาทำการหย่าน่ะ คุณช่วยมารับฉันไปด้วยได้ไหม?”

อีกฝ่ายเงียบขรึม พวกเขาเหมือนกับลี่ถิงเชินที่ไม่ชอบเรื่องที่นอกเหนือความคาดหมาย

ซูชิงอวี่รีบพูดเสริมประโยคหนึ่ง “นายอย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้คิดอย่างอื่น ฉันแค่กลัวว่าวันนี้เกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นทำให้การหย่าล่าช้า ฉันยังไม่ได้จ่ายค่ารักษาของพ่อที่โรงพยาบาล ฉัน…”

ในด้านความสัมพันธ์เธอกับพี่น้องตระกูลเฉินเข้ากันได้ดี ไม่เคยใจร้ายกับทั้งสองคน ดังนั้นในตอนที่เธอแสดงความอ่อนแอเฉินหลิงก็ตอบตกลง “คุณนายอยู่ที่ไหน? ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

ซูชิงอวี่บอกที่อยู่ที่ใกล้กับพวกเขา ที่นี่ก็คือทางที่ต้องผ่านวิลล่าลู่ไห่จวี วิลล่าลู่ไห่จวีเป็นที่อยู่ของไป๋หยวนหยวน

ถึงแม้ซูชิงอวี่ไม่อยากยอมรับ ลี่ถิงเชินถูกสื่อถ่ายภาพที่พักค้างคืนอยู่ที่นั่นหลายครั้ง หลายเดือนที่แยกกับตัวเองเขาต้องอยู่ที่นี่แน่นอน

“ขอโทษนะครับคุณนาย พวกเราใกล้ถึงถนนซานจงแล้ว อาจจะต้องรบกวนคุณรอยี่สิบนาที”

“ได้” ซูชิงอวี่ประหลาดใจเล็กน้อย ถนนซานจง?

นั่นเป็นถนนใกล้คฤหาสน์ตระกูลลี่ พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน?

ซูชิงอวี่ปัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาอยู่หรือไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่เกี่ยวข้องกับตัวอง

เฉินเฟิงมาถึงอย่างรวดเร็ว เฉินหลิงเปิดประตูด้วยความเคารพเช่นเคย “ขอโทษที่ให้รอนานนะครับคุณนาย”

ซูชิงอวี่พยักหน้าขึ้นรถแล้วตอบกลับ “ไม่ได้รอนานเท่าไหร่”

เทียบกับความเงียบขรึมของเฉินหลิง เฉินเฟิงร่าเริงกว่าเยอะ “อากาศหนาวขนาดนี้คุณนายทำไมไม่พักผ่อนให้เยอะหน่อย? ไก่ยังไม่ขันเลยนะครับ”

เฉินหลิงถลึงตาใส่เขา เฉินเฟิงหยุดพูดอย่างรวดเร็ว ซูชิงอวี่ขึ้นรถแล้วก็แสดงบรรยากาศที่โศกเศร้า สุดท้ายถึงได้เอ่ยปากช้าๆ “ก่อนหน้านี้ฉันคิดมาตลอดว่าที่เขาเปลี่ยนใจเป็นเพราะไป๋หยวนหยวน ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าไม่เพียงเพราะความสัมพันธ์ของผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น พวกนายติดตามอยู่ข้างกายเขา น่าจะรู้เรื่องน้องสาวของเขา”

“เอี๊ยดดด”

รถเบรกกะทันหัน เฉินเฟิงยกมือขึ้นจากพวงมาลัย รีบโบกมือพูดขึ้น “คุณนาย ห้ามพูดเรื่องนี้นะครับ”

เฉินเฟิงตอบกลับอย่างนิ่งเฉย “คุณนาย คุณรู้ว่าเรื่องของประธานลี่พวกเราไม่กล้าถามอะไรมาก อย่าว่าพวกผมไม่รู้ ต่อให้รู้ก็ไม่กล้าบอกคุณ ได้โปรดเข้าใจด้วยนะครับ”

ซูชิงอวี่สองมือปิดหน้า น้ำตาไหลออกมาจากร่องนิ้ว “ฉันรู้ว่าพวกนายลำบากใจ แต่ฉันหมดหนทางแล้วจริงๆ ลี่ถิงเชินไม่พูด พ่อของฉันเพิ่งผ่าตัดยังไม่ฟื้น ตอนนี้ตระกูลซู่ล่มสลายกลายเป็นแบบนี้ เบาะแสทุกอย่างหายไปหมด ต่อให้ตายฉันแค่อยากจะตายอย่างกระจ่าง ดีกว่าถูกเขาทรมานทั้งวันทั้งคืน”

“คุณนาย เรื่องของคุณหนูคือเขตหวงห้ามของประธานลี่ พวกเรารู้เรื่องไม่มาก”

เหมือนรู้ว่าซูชิงอวี่อยากจะขอร้องต่อ เฉินเฟิงเขียนที่อยู่แห่งหนึ่งลงบนกระดาษ “คุณนาย เห็นแก่มิตรภาพที่ได้รู้จักกัน ผมช่วยคุณได้เท่านี้”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status