“จะนอนได้หรือยัง จะดิ้นไปดิ้นมาอีกนานไหม”
หลังจากทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน คนทั้งคู่ที่ต่อหน้าคนอื่นเป็นเจ้านายกับลูกน้อง ลับหลังคนอื่นรับบทเป็นสามีภรรยากัน ก็จบลงที่เตียงนอน
ที่มีการแบ่งการนอนเป็นคนล่ะฝั่งอย่างชัดเจนด้วยหมอนข้างอันใหญ่
แต่ทว่าก็ยังคงเป็นเตียงเดียวกันที่นอนเดียวกันอยู่ดี ทำให้พอหญิงสาวขยับตัวพลิกไปมา ชายหนุ่มเจ้าของเตียงอย่างเขาก็รู้สึกไปด้วย
จนทำเอาเขานั้นที่พยายามข่มตานอนให้หลับตามเวลาที่ควรจะหลับได้แล้วเพราะประเดี๋ยวจะตื่นไปทำงานสายก็ยังคงนอนไม่หลับตามเธอ
เริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาจนต้องเอ่ยปากพูดออกไป ขืนปล่อยให้เธอพลิกตัวอย่างเอาแต่ใจต่อไป เขาคงไม่ต้องนอนกันพอดีคืนนี้
“ใครจะไปหลับง่ายเหมือนนายล่ะ หัวถึงหมอนก็หลับได้เลย”
คนกำลังอึดอัดเพราะต้องมาใส่เสื้อในนอนบ่นออดๆแอดๆกลับไป เมื่อเธอนั้นกำลังประสบปัญหานอนไม่หลับแต่เขากลับนอนนิ่งราวกับหลับลงได้อย่างสบายใจ
ผู้ชายก็มักเป็นแบบนี้เสมอสินะ อะไรๆก็ดูง่ายไปหมด ขนาดนอนบางครั้งก็ใส่แค่กางเกงตัวเดียวก็นอนได้แล้ว ในขณะที่ผู้หญิงต้องใส่อะไรเยอะแยะมากมายหลายชิ้นเพื่อความปลอดภัย
“ก็หัดนอนให้มันนิ่งๆสิ เดี๋ยวมันก็หลับไปเองนั่นแหละ พลิกตัวไปมาแบบนี้เมื่อไหร่มันจะหลับลง”
นนท์ธิวรรธน์บ่นหญิงสาวกลับไปบ้าง เมื่อเธอเอาแต่นอนดิ้นพล่านไปมาทั้งที่ควรนอนนิ่งร่างกายจะได้เริ่มเข้าสู่การพักผ่อนยามค่ำคืน
“ก็คนมันอึดอัดหนิ่ จะให้หลับได้ยังไงกันล่ะ”
“อึดอัดอะไร”
“เออ ช่างเหอะ”
พราวลลิลที่กำลังจะเปิดปากพูดอะไรบางอย่างออกไปกลับต้องปิดปากให้สนิทลง เมื่อเรื่องที่จะพูดนั้นมันพูดให้ผู้ชายอย่างเขาฟังไม่ได้
นอกจากเขาจะเป็นผู้ชายแล้วยังอยู่ในห้องนอนสองต่อสองกับเธออีก ขืนเธอพูดมากอะไรออกไปแล้วเขาเกิดคิดไม่ดีกับเธอขึ้นมา เธอจะมีแต่เสียกับเสีย
“ว่าแต่ นายไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ”
แล้วคนใคร่รู้ไปเสียทุกเรื่องก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ เมื่อตะกี้นึกไปถึงการอยู่กันสองต่อสองในห้องนอนไปแล้ว แต่จะว่าไปแล้วนี่ก็คืนที่สามแล้ว เขาไม่คิดอะไรกับเธอบ้างเลยหรือไง
“รู้สึกอะไร”
“แบบว่า ความเป็นผู้ชายอ่ะ ไม่รู้สึกเลยเหรอ”
หรือเขาจะไม่รู้สึกอะไรไปแล้ว เพราะทำงานหนักเกินไปจนทุกอย่างในร่างกายมันหยุดทำงาน เป็นพวกนกเขาไม่ขันตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น
“นอนได้แล้ว”
เขาไม่ได้เป็นพวกนกเขาไม่ขัน เขาไม่ได้ไม่คิดอะไรเกินเลยกับเธอไม่อย่างนั้นสองสามวันที่ผ่านมานี่เขาคงไม่แอบมองเธอเวลาออกมาจากในห้องน้ำหรอก
แต่ที่เขานิ่งอยู่ได้ก็เพราะพยายามหักห้ามใจบวกกับออกกำลังกายให้หนักเข้าไว้จะได้หลับง่ายๆ
“หรือว่านายตายด้าน เป็นพวกนกเขาไม่ขัน พอหัวถึงหมอนก็หลับได้เลยเพราะคิดอะไรมันก็ไม่ขันแล้ว”
“นี่เธอ”
“ไหนๆเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ไม่ต้องอายหรอก เดี๋ยวฉันช่วยพาไปหาหมอรักษาเอง”
“เงียบ แล้วก็หลับได้แล้ว ถ้าเธอไม่หลับละก็”
ถ้าขืนเธอยังพูดอะไรออกมาอีก เขาอาจจะห้ามใจตัวเองไม่ได้ และอาจทำหน้าที่สามีให้เธอได้รับรู้ว่านกเขาของเขานั้นมันขันดีแค่ไหน
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องอาย เดี๋ยวฉันช่วยคุณเอง”
ร่างเล็กเริ่มลุกขึ้นนั่งและเริ่มคุยกับเขาอย่างจริงจังถึงการที่โรคนี้มันรักษาหายไป และพร้อมที่จะช่วยเขาถ้าเกิดเขาต้องการเพื่อนพาไปรักษา
“เธอ”
“ขอเงินปิดปากซักก้อนก็พอ ไม่มากไม่น้อยแค่พองาม รับรองเรื่องนี้จะปิดให้เงียบที่สุดเลย และฉันรับประกันเลยนะว่าคุณจะหาย”
แต่ทุกอย่างนั้นจำเป็นต้องมีค่าตอบแทน ไม่มากไม่น้อยแค่ตามความเหมาะสมกับค่าเหนื่อยของเธอเท่านั้น ไม่เรียกร้องเยอะแถมรับปากด้วยว่าจะพาไปหาหมอจนกว่าเขาจะหายดี
ทั้งหมดที่ทำลงไปก็เพื่อสมทบทุนค่าตั๋วเครื่องบินในการบินหนีของเธอในครั้งนี้จากการที่ถูกเพื่อนรักโกงเงินไป
“ถ้ายังไม่นอนฉันจะไล่เธอออกไปนอนในครัว”
ร่างหนาที่นอนหงายพูดคุยกับเธออยู่ดีๆหันหลังให้เธอด้วยความโกรธที่เธอมาดูถูกความเป็นชายของเขาอย่างรุนแรงจนแทบไม่เหลืออะไร และส่งคำพูดที่เรียกได้ว่าร้ายที่สุดออกไปตอบโต้เธอ ไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรมากไปกว่านั้นแม้ในหัวจะเริ่มคิดประกาศให้เธอรู้ว่านกเขาของเขามันขันแรงแค่ไหนก็ตาม
แล้วเขาก็ผล็อยหลับไปจริงๆด้วยความเหนื่อยล้าที่ต้องใช้สมองทำงานหนักมากทั้งวัน บวกกับก่อนหน้านี้ก็ออกกำลังกายไปอย่างหนักนั้นด้วย
เหลือเพียงแต่เธอยังคงนอนไม่หลับแต่ทว่าก็ไม่กล้าพลิกตัวไปมาเพราะก่อนหน้านี้ทำเขาโกรธไปแล้วรอบหนึ่งก็ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอีกเดี๋ยวจะโดนจับโยนออกไปนอนในห้องครัว เธอไม่อยากเสี่ยงลำบากอะไรแบบนั้น
กว่าเธอจะหลับได้ก็ปาเข้าไปเวลาตีหนึ่งกว่าๆเห็นจะได้ แถมหลับก็ไม่ค่อยสนิทอีกตั้งหากต่างจากเขาที่หลับลึกจนหายใจเสียงดังออกมาให้เธอได้ยิน
“เฮ้อ”
พอถึงตอนเช้ากว่าหญิงสาวจะลุกขึ้นจากเตียงไหว ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวออกไปนอกห้องนอนก่อนเธอไปแล้ว
ทำเอาเธอนั้นพอลุกขึ้นมาได้ก็ถอดถอนหายใจแต่เช้า เมื่อพอจะรับรู้ได้ว่าเขานั้นยังโกรธเธออยู่
เธอทั้งต้องอดเงินที่น่าจะได้ก้อนใหญ่อยู่เพราะเขาก็รวยไม่ใช่เล่นๆ แถมยังนอนไม่เต็มอิ่มเพราะอึดอัดด้วยต้องใส่เสื้อในนอน
กรรมซ้ำกรรมซ้อนซะจริงๆ จนแทบไม่อยากไปทำงานเลยล่ะ
“หาวววว”
และกรรมนั้นก็ลากยาวมาจนถึงที่ทำงาน เธอยังคงมาง่วงเหงาหาวนอนอยู่ตลอดเวลา อยากจะฟุบหลับไปกับโต๊ะทำงานให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“สักนิดคงไม่มีใครมาเห็น”
แล้วโอกาสนั้นมันก็มาถึง เมื่อเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเพียงลำพัง กล้าหาญก็ไม่อยู่เพราะตามเจ้านายของเขาไปพบลูกค้ารายใหญ่คู่กับผู้จัดการฝ่ายขายที่ทำงานพลาดเมื่อวันก่อน แต่เธอไม่ได้ไปเพราะว่ายังเป็นเด็กใหม่อยู่ และเขาก็คงยังโกรธเธออยู่เลยไม่อยากให้เธอไปทำเขาอารมณ์เสียตอนคุยงาน
ร่างเล็กๆเลยหมอบนอนไปกับโต๊ะทำงาน หวังพักสายตาสักสิบนาทีก่อนที่ทุกคนจะกลับเข้ามา
“แปะ ฉันจ้างเธอมานั่งหลับหรือไง”
นิ้วชี้ของผู้ชายตัวสูงอย่างนนท์ธิวรรธน์ดีดเข้าไปไม่เต็มแรงมากนักตรงหน้าผากของเลขาตัวดีที่หลับในเวลางาน เพื่อปลุกเธอ
“โอ๊ย ใครวะ”
ร่างเล็กสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ กวาดสายตาหวานๆมองไปรอบๆในทันทีเพื่อหาเรื่องคนที่มาทำฝันหวานตอนกลางวันของเธอพัง
“นี่คุณ”
แต่แล้วก็ต้องรีบหดตัวให้เล็กลงเมื่อคนที่มาปลุกเธอคือเจ้านายที่นกเขาไม่ขันนั้นเอง
ที่บริษัทแห่งนี้เขาใหญ่ และเธอก็เป็นแค่ลูกจ้างเขา ไม่อาจลุกขึ้นไปดีดหน้าผากเขาคืนได้
“ถ้าอยากหลับก็กลับบ้านไปซะ”
“ก็เมื่อคืนมันอึดอัดนอนไม่หลับ จะให้ฉันมานั่งถางตาที่ทำงานไหวได้ยังไงล่ะ ใครจะไปนอนหลับอย่างสบายใจได้เหมือนคุณ”
“ควรเป็นฉันมากกว่าที่จะต้องพูดคำนั้น”
“ก็คุณไม่ได้ใส่เสื้อในนอน คุณมันจะไปรู้อะไร”
ความอึดอัดเมื่อคืนที่ทำเอาเธอนอนไม่หลับทำให้เธอเผลอปริปากพูดออกไป ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่า เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะมาพูดกับผู้ชายโดยเฉพาะเขา
“เธอจะถอดฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมันคงไม่มีอะไรให้มองเห็นนักหรอก”
“นี่คุณ”
“หึๆ เล็กปานลูกเกด จับไปแล้วยังหาแทบไม่เจอเลย”
“ไอ้.....
“หึๆ”
ได้เอ่ยเอาคืนเธอไปบ้าง คนตัวสูงก็เดินกลับไปยังห้องทำงานอย่างอารมณ์ดีขึ้นผิดหูผิดตา อันที่จริงนมเธอก็ไม่ได้เล็กอะไรแบบนั้นหรอกเท่าที่เคยจับมาก็ใหญ่เต็มไม้เต็มมืออยู่
แต่คนอย่างเธอเคยดูถูกเขาเอาไว้ ก็สมควรแล้วล่ะที่เขาจะเอ่ยเอาคืนออกไปบ้าง
“เจ้านายอารมณ์ดีอะไรอ่ะ ทำไมหัวเราะไปแบบนั้น เมื่อตะกี้ยังดุผู้จัดการฝ่ายขายอยู่เลย”
กล้าหาญเดินตามเจ้านายมาติดๆ พอเห็นว่าเจ้านายหัวเราะแล้วเดินจากไปจากโต๊ะแม่เลขา ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“คนบ้า คนปากหมา”
แทนที่พราวลลิลจะตอบคำถามของกล้าหาญ เธอกลับเอ่ยด่าคนตัวสูงตามหลังเขาไป ทั้งที่รู้ว่าเขาจะไม่มีทางได้ยินแต่เธอก็ห้ามปากตัวเองไม่ได้เพราะมันถูกหยามศักดิ์กันเกินแล้ว
“เอ้า แล้วทำไมหลอนมาอารมณ์เสียใส่ฉันล่ะ”
“นี่อีเจ้ลองจับนมหนูหน่อยสิ ว่ามันเล็กมากไหม จะต้องไปเสริมไหม”
“อีชะนี อีบ้า ประสาทเสียไปแล้วหรือไง ฉันไม่จับของหลอนให้เสียมือหรอกย่ะ ไปทำงานต่อดีกว่า”
กล้าหาญที่จะไม่มีวันจับหน้าอกของหญิงสาวเป็นอันขาดไม่ว่าเธอจะขอร้องด้วยเงินหรือทองรีบเดินหนีไปทำงานต่อ เมื่อเขานั้นมีงานที่จะต้องคุยกับท่านประธาน ไม่อยู่พูดคุยกับหญิงสาวที่ท่าจะบ้าไปแล้ว
“ก็ไม่ได้เล็กซะหน่อย แม่ฉันก็ให้ฉันมาเยอะอยู่หรอก ใครจะเหมือนของนายนิ่มๆอยู่ในกางเกงแบบนั้น”
พราวลลิลยกมือของเธอขึ้นมาวัดขนาดหน้าอกของตัวเองดูเพื่ออยากจะรู้ว่ามันเล็กจริงไหม แต่มันก็ไม่เล็กนะเพราะมันก็ใหญ่กว่ามือเธอ
ใครมันจะไปเหมือนของเขาล่ะ ที่นิ่มๆซ่อนตัวอยู่ในกางเกง ไม่กล้าบอกใครว่าป่วยแบบนั้นอ่ะ
“พี่นนท์คะ”เสียงหวานเอ่ยเรียกสามีของเธอที่นั่งรออยู่บนเตียงนอนอย่างเย้ายวนพร้อมกับค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้าออกมาจากภายในห้องแต่งตัว ด้วยชุดนอนแบบที่เรียกได้ว่าใส่แล้วคงไม่ได้นอน เป็นผ้าลื่นๆมันๆตัดขอบด้วยผ้าลูกไม้สีดำทั้งชุดร่างบางที่ตุ้ยนุ้ยขึ้นพร้อมกับท้องโตๆที่ใกล้คลอดเต็มแก่แล้วนั่งลงบนตักใหญ่ของสามีอย่างจงใจยั่วยวนเขาแม้ใกล้คลอดเต็มทนไม่ควรจะมาทำอะไรแบบนี้กัน แต่ทว่าบรรยากาศมันก็พาไปทำให้เธออดใจเอาไว้ไม่ไหวจริงๆอีกอย่างการอยู่ใกล้ท่านประธานที่หล่อเหลากว่าหนุ่มโฮสเป็นไหนๆแบบนี้ ใครล่ะจะไปอดใจถือศีลไหวกัน“หืม นมหวาน”นนท์ธิวรรธน์วางมือหนาบนท้องโตๆของเมียคนสวยแล้วลูบวนเบาๆอย่างอดใจต่อไปไม่ไหว ก่อนจะขยับปลายมือมาบีบขย้ำไปตามอกอวบของเธอที่มันใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากการเตรียมตัวเป็นแม่คนไม่คาดคิดเลยว่าของขวัญวันเกิดในปีนี้ที่ได้เมียมานั้นจะแสนถูกใจเสียจนห้ามใจเอาไว้ไม่ไหวเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจเป็นพ่อที่ดีไม่ไปเร่งรัดให้ลูกน้องคลอดออกมาก่อนกำหนด“แบบนี้พอจะเป็นของขวัญของพี่นนท์ได้ไหมคะ”พราวลลิลเอนกายซบพิงไปกับร่างกำยำของผู้เป็นสามีพร้อมกับเปิดชายของชุดนอนขึ้นมาเล็กน้อยให้พ
ชีวิตหลังแต่งงานของนนท์ธิวรรธน์ไม่ต่างอะไรจากชีวิตก่อนแต่งงานเลยสักนิดเดียว เขายังคงทำตัวเหมือนเดิม เหมือนเมื่อตอนที่มีเธอเดินเข้ามาในชีวิตวันแรกไม่มีเปลี่ยนไปเลยเขาตื่นแต่เช้าออกไปทำงานทุกวัน บางวันก็พาเมียไปทำงานด้วย บางวันก็ไม่ได้พาเธอไปด้วยอย่างเช่นตอนนี้เพราะเธอนั้นท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทนแล้ว เขาก็เลยให้เธอพักอยู่บ้านซะมากกว่า จะมีพาไปบ้างก็แค่บางวันที่เธอดูจะเบื่อการอยู่บ้านเท่านั้นและเขาก็จะรีบกลับจากที่ทำงานเพื่อมาที่บ้านในทันทีหลังจากที่เลิกงาน ไม่เคยแวะข้างทางที่ไหนเพื่อจะมาหาเมียให้เร็วที่สุด หรือถ้ามีเธอไปด้วยเขาก็รีบกลับบ้านอยู่ดีถ้าเธออยากกลับหรือพาเธอออกไปใช้ชีวิตหลังเลิกงานด้วยกันบ้างถ้าเธออยากไปและในวันนี้เขาก็เลิกงานค่อนข้างดึกพอสมควรเพราะอาทิตย์หน้าเจ้าตัวน้อยในท้องเมียน่าจะลืมตาดูโลกแล้วตามที่หมอคาดการณ์เอาไว้ เขาก็เลยคิดว่าน่าจะต้องลางานอีกหลายวันเลยละก็เลยเริ่มที่จะเคลียร์งานออกไปบ้างแล้ว แล้วก็รีบกลับบ้านมาหาเมียในทันที“ทำอะไรอยู่ครับ”ร่างสูงรีบเดินขึ้นมายังห้องนอนที่เมียขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วหลังจากที่เขานั้นให้เธอกินมื้อเย็นล่วงหน้าไปก่อนไม่ต้องรอเขาด้วยวันน
“วันนี้นมหวานสวยจังเลย”เสียงของนนท์ธิวรรธน์เอ่ยชมเมียคนสวยของเขาไม่ขาดปากในขณะที่กำลังเริ่มแต่งหน้าสำหรับงานเลี้ยงในรอบเย็น หลังจากที่เมื่อเช้านั้นเพิ่งจะจัดงานแต่งกันแบบไทยๆกันไปเมื่อในสายตาของเขานั้นเห็นว่าเมียสวยอยู่ตลอดเวลา เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกก็ว่าได้“สวยตรงไหน สิวเม็ดเท่าช้างอยู่บนหน้าเนี้ยนะ”คนสวยตอบกลับด้วยความจริงเมื่อฮอร์โมนของคนท้องทำให้สิวหัวช้างขึ้นหน้าเธอตรงกลางหน้าผากพอดิบพอดีหัวสิวนั้นใหญ่เสียจนแต่งหน้ากลบยังไม่มิดเลย จะมีความสวยที่ไหนกันได้ล่ะ“สวยทุกตรงนั้นแหละ และก็สวยทุกวันเลยด้วย”ท่านประธานหนุ่มก็ยังคงไม่เลิกที่จะเอ่ยชมเมียตัวเล็กตัวน้อยของเขาที่สวยที่สุดสำหรับเขาอยู่ดี“หน้าก็ยังไม่ได้แต่ง ชุดก็ยังไม่ได้ใส่เนี้ยนะ”ถึงเขานั้นจะมองข้ามเรื่องสิวไปได้ก็ต้องเห็นเรื่องแต่งหน้าทำผมใส่ชุดของเธอบ้างแหละ ไม่ใช่มาหลับหูหลับตาชมเธอจนช่างแต่งหน้าอายแทนได้แบบนี้“เจ้าบ่าวออกไปรออีกห้องได้แล้วจ้ะ”นนท์ธิวรรธน์ยังไม่ทันได้เอ่ยชมเมียอีกสักรอบก็ถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงของแม่เขาที่เปิดประตูเข้ามาพอดี“ครับคุณแม่”และนั้นทำให้นนท์ธิวรรธน์ต้องรีบออกจากห้องแต่ง
“วันนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยหรือเปล่า”เสียงหวานๆเอ่ยทักทายผู้เป็นสามีพร้อมกับเดินเข้าไปหาเพื่อช่วยเขาถอดเสื้อสูทออกจากตัวหลังจากที่เขาเพิ่งจะกลับมาจากทำงานทำหน้าที่ภรรยาเป็นอย่างดีแต่ช่วงนี้ไม่ได้ไปทำหน้าที่เลขาเลย ด้วยเธอนั้นยังคงมีอาการแพ้ท้องอยู่ ท่านประธานก็เลยเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ก็เลยสั่งหยุดงานเธออย่างไม่มีกำหนดไปก่อนเธอก็เลยทำได้แค่ส่งเขาออกไปทำงานในตอนเช้า และก็รอรับเขากลับเข้าบ้านในตอนเย็นเท่านั้น“อืม ก็นิดหน่อย”นนท์ธิวรรธน์เอ่ยตอบไปตามความจริงพร้อมกับหอมแก้มเมียไปอีกฟอดใหญ่เพื่อเติมเมียเข้าปอดให้ได้ชื่นใจ หลังจากที่เขาต้องนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดมาทั้งวัน“ปวดหัวไหมคะ ให้หนูนวดให้ไหม”พราวลลิลขันอาสาเป็นหมอนวดให้เขาอีกครั้งเมื่ออาการแพ้ท้องของเธอนั้นเริ่มดีขึ้นมากแล้ว และก็อยากจะช่วยเขาแบ่งเบาความเครียดหลังเลิกงานด้วย“ก็ดีเหมือนกันนะ”ท่านประธานรีบประคองเมียให้เดินไปที่โซฟาในทันที ให้เธอนั่งลงอย่างนุ่มนวลภายใต้การคอยมองของเขา ก่อนที่เขาจะลงนอนหนุนตักเธอรีบหลับตาพริ้มในทันทีเพื่อรอมือเล็กๆของเธอนั้นมากดนวดให้ตามจุดต่างๆที่มักรู้สึกปวด
“เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ตื่นสายจัง”หลังจากที่เมื่อวานครอบครัวของเขาและก็ของเธอนั้นได้รวมตัวกันกินข้าวมื้อใหญ่เพื่อประกาศข่าวดีกันที่บ้านของคุณยายเธอ เขากับเธอก็กลับมานอนกันที่บ้านตามปกติด้วยตอนเช้านั้นเขามีประชุมต้องเดินทางออกจากบ้านแต่เช้า ก็เลยไม่ได้อยู่ค้างกันที่นู่นแต่พอในเช้าวันใหม่นี้ก็มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น เมื่อคนตัวเล็กที่มักตื่นนอนพร้อมกับเขาหรือบางทีก็ตื่นก่อนเขา วันนี้กลับไม่เหมือนวันอื่นๆเขานั้นอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจะเพิ่งตื่นขึ้นมา แถมสีหน้ายังไม่สดชื่นอีกตั้งหาก“สงสัยเมื่อวานหนูจะกินขาหมูมากเกินไป เช้านี้ก็เลยไขมันขึ้น”พราวลลิลมีอาการพะอืดพะอมตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาเลยก็ว่าได้ และก็เวียนหัวจนแทบไม่อยากลุกจากที่นอนเลยล่ะเป็นอาการไม่สบายที่ทำให้นึกถึงคุณยายเป็นอย่างมากในเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูงจนต้องพาไปพบหมออยู่บ่อยๆ“อาการมันเป็นยังไง ทำไมถึงรู้ว่าตัวเองไม่สบายแบบนั้นล่ะ”มือหนาๆวางลงบนศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะลูบเบาๆด้วยความเป็นห่วง “ก็หนูเวียนหัวเหมือนคุณยายเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูง”“พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะ”อาการของเธอไม่น่าจะใช้ไขมันขึ้นสูงแบบที่เธอกำลังค
“เป็นอะไรไป”เสียงหนาเอ่ยถามอย่างอบอุ่นเช่นเคยในเช้าวันหยุดที่เขากับเธอยังคงนอนเล่นกันอยู่บนเตียงไม่ได้รีบร้อนลุกไปทำงานเหมือนทุกวันเมื่อเขาเห็นว่าเธอดูจะหงอยเหงาผิดปกติไปจากเช้าวันอื่นๆที่ถึงแม้รีบเร่งไปทำงานก็ยังดูสดชื่นกว่าวันนี้เป็นเท่าตัวอาการเหล่านี้มันออกหลังจากที่เธอนั้นหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูแจ้งเตือนบางอย่างที่ส่งเสียงร้องอยู่สักพัก ก่อนจะวางมือถือนั่งลงแล้วก็ถอดถอนหายใจยาวออกมาเขาไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรแต่มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นพราวลลิลที่เปรียบเสมอความสดใสนั้นคงไม่ดูหม่นหมองถึงเพียงนี้“เปล่า”มือเล็กๆยกขึ้นปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆไม่ให้คนที่นอนอยู่ข้างๆรับรู้เรื่องราวของเธอไปด้วย ก่อนหน้านี้เธอเคยตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ แต่พอมาถึงวันนี้ในระยะเพียงสั้นๆเท่านั้นเธอกลับเสียใจตั้งแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้เด็ดเดี่ยวเลยด้วยซ้ำไป“ไม่เป็นอะไรแล้วร้องไห้ทำไมคะ”ท่าทางของเธอไม่ได้โจ่งแจ้งสักเท่าไหร่แต่ทว่าเขานั้นอยู่ใกล้เธอมากจนไม่อาจมองข้ามไปได้ถึงแม้ว่าเธอจะนอนหันหลังให้เขาอยู่ก็ตาม เขาก็ยังรับรู้ได้อยู่ดี“ฮืออออ”พราวลลิลก็ปล่อยเสียงร้องไห้