Share

มาขอพบนาง

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-07-23 00:44:04

นางจึงเล่าเรื่องที่นางหมดสติไปในเกี้ยวของเจ้าสาว เหมือนตัวนางหลุดไปอีกโลก โลกที่มีแต่ความเจริญทั้งด้านการค้า ภาษา และวัฒนธรรม

บุรุษ สตรีล้วนแต่เท่าเทียม เรื่องหย่าร้างมีพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ใช่เรื่องผิดแปลก เมื่อสองคนใช้ชีวิตร่วมกันได้ ก็เพียงแต่แยกกันไปเริ่มชีวิตใหม่ การร่ำเรียนก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ปิดกั้นไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี

ตำราก็หาอ่านได้ง่าย เมื่อมีห้องสมุดกลางที่ผู้ใดจะสามารถเข้าไปใช้ก็ได้

“เมื่อลูกตื่นขึ้นอีกครั้งก็พบว่า เกี้ยวเจ้าสาวใกล้ถึงจวนตระกูลซูแล้วเจ้าค่ะ”

คำพูดของซุนเหยาทำให้จ้าวกงหยวนปวดใจยิ่งนัก เมื่อรู้ว่าเกือบจะเสียบุตรีของตนในวันที่ส่งตัวเจ้าสาวเสียแล้ว

แต่เรื่องราวที่ออกมาจากปากของนาง ก็ทำให้จ้าวกงหยวนตกตะลึงกับความแปลกใหม่ที่ได้รับ

ไหนจะเป็นห้องตำราส่วนกลาง หรือแม้แต่สิ่งที่นางเรียกว่าธนาคาร เพื่อใช้ฝากเงิน กู้เงิน

“เจ้าพูดเรื่องธนาคารของเจ้าให้กระจ่างเสียหน่อย”

เพราะธนาคารหากจ้าวกงหยวนสร้างขึ้นมาได้จริง จะยิ่งเพิ่มชื่อเสียงให้ตัวเขา เรื่องนี้เขาจึงสนใจเป็นอย่างมาก

ซุนเหยานางก็บอกรายละเอียดทั้งหมดของธนาคาร ทั้งเรื่องรับฝากเงิน เพื่อให้ผู้ฝากได้ดอกเบี้ยเพิ่ม ทางธนาคารยังสามารถนำเงินก้อนที่ฝากระยะยาวมาปล่อยกู้ เพื่อกินดอกเบี้ยอีกต่อหนึ่ง ไหนจะเรื่องจำนำที่ดิน หรือกู้เงินซื้อที่ดินซื้อเรือนเพื่ออยู่อาศัย

ทั้งวันสองพ่อลูกพูดคุยกัน จนซุนเหยานางไม่ได้ไปที่เหลาอาหาร จึงไม่ได้รู้ว่ามีคนมารอพบนางอยู่ที่เหลาอาหาร

หงอี้ วันนี้นางกลับไปแต่งตัวเหมือนตอนที่อยู่ในค่ายทหาร เมื่อมาถึงเหลาอาหารเหม่ยสือ นางก็แจ้งกับหลงจู๊ว่าต้องการพบซุนเหยา

หลงจู๊จึงพานางมานั่งรอที่ห้องรับรอง ทั้งยังยกอาหารเข้ามาให้นางด้วย เพราะเรื่องที่ซุนเหยานางเป็นเจ้าของเหม่ยสือมีคนล่วงรู้น้อยนัก หลงจู๊หมานจึงคิดว่าหงอี้นางเป็นสหายของซุนเหยา

“แล้วท่านจะตามข้ามาทำไม” หงอี้หันไปมองซูเซวียนอย่างไม่สบอารมณ์

ไม่รู้ว่าหากซุนเหยานางรู้ว่าซูเซวียนมาจะยอมมาพบนางหรือไม่

เป็นไปตามคาด เมื่อทั้งสองทานอาหารเสร็จเรียบร้อย หลงจู๊หมานก็เข้ามาแจ้ง

“นายหญิงไม่เข้ามาที่ร้านขอรับวันนี้”

“ข้าว่าแล้ว เพราะท่าน นางจึงไม่ยอมมาพบข้า ข้าไปละ ท่านจ่ายค่าอาหารด้วย”

“ไม่ต้องขอรับ นายหญิงให้แจ้งว่า แม่นางฟู่จะมากินเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ขอรับ”

“ฝากขอบคุณอาเหยาด้วย ไว้ข้าจะมาพบนางใหม่”

หงอี้เดินออกจากร้านไปทันที โดยไม่คิดจะเรียกซูเซวียนให้ออกไปด้วย

"เหตุใดนางถึงไม่ยอมมา" เขาเอ่ยถามหลงจู๊ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่า เขาอยู่ที่เหลาอาหารจึงทำให้นางไม่ยอมออกมาพบหงอี้

“ท่านเสนาบดีจ้าว มาพบนายหญิงที่จวนขอรับ นางจึงไม่สะดวกออกมาพบแม่นางฟู่ที่เหลาอาหาร”

“เข้าใจแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของซูเซวียนก็ผ่อนคลายลง แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ หากซุนเหยานางรู้ว่าเขาอยู่นางก็จะไม่ออกมาพบหงอี้จริงๆ

ซุนเหยาเมื่อส่งบิดากลับไปแล้ว นางก็เข้าไปอยู่ในโกดังเพื่อจัดการเรื่องเครื่องปรุงที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพราะอยู่ที่จวนหลังใหม่แล้ว นางจะใช้เวลาอยู่ด้านในนานเท่าใดก็ได้ โดยไม่มีใครว่า

แต่เมื่อถึงตอนเวลาอาหารเย็น เสี่ยวกุ้ยจำต้องไปตามคุณหนูของนางออกมารับมื้อเย็น

เพราะคำสั่งของซุนเหยา ห้ามให้ผู้ใดเข้าไปด้านในโกดังตอนที่นางอยู่เด็ดขาด เสี่ยวกุ้ยจึงได้แต่ร้องเรียกนางอยู่ด้านนอก

“คุณหนูเจ้าค่ะ รับมื้อเย็นได้แล้วเจ้าค่ะ”

“ตั้งโต๊ะเลย ประเดี๋ยวข้าออกไป” ซุนเหยานางรีบเก็บถุงพลาสติกเข้าไปในช่องเก็บของ ของนางทันที

ก่อนที่จะเดินออกมาจากโกดังเพื่อไปรับมื้อเย็น การเปลี่ยนถ่ายเครื่องปรุงทำให้นางเหนื่อยล้าจนไม่อยากจะยกตะเกียบในมือขึ้น

ทั้งหมดด้านในเป็นนางที่ต้องจัดการด้วยตนเอง ทั้งยกไห แยกประเภทเครื่องปรุงแต่ละชนิด เพื่อให้บ่าวเคลื่อนย้ายไปที่เหลาอาหารได้สะดวก เมื่ออาบน้ำเสร็จนางก็เข้านอนทันที

ซูเซวียนเมื่อเห็นว่าด้านในห้องดับไฟแล้วเขาก็งัดหน้าต่างเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ยิ่งเห็นซุนเหยานางนอนอยู่บนเตียงอย่างสบายใจก็คิดอยากจะจับตัวนางขึ้นมาตีก้นเสียทีสองที

เพราะผิดกลับตัวเขาที่นอนไม่หลับสักคืน พอเมื่อหลับตากับคิดถึงแต่คำพูดและแววตาที่โกรธเคืองของซุนเหยาจนต้องมาพบนางที่จวนให้ได้

“ซุนเหยา” ซูเซวียนเอ่ยเรียกนางเสียงเบา เพื่อปลุกให้นางลุกขึ้นมาคุยกับเขาให้รู้เรื่อง

แต่ซุนเหยานางเพียงขยับตัว แล้วซุกลงไปใต้หมอนของนางเท่านั้น ในตอนแรกซูเซวียนก็กลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บ เพราะหมอนที่พวกเขาใช้กันส่วนมากเป็นหมอนที่ทำมาจากหยกทั้งก้อน หรือไม้หอม

แต่เมื่อมือของเขาสัมผัสไปที่หมอนของซุนเหยาก็พบว่ามันนุ่มนิ่มไม่ต่างจากตัวของนางเลย ซูเซวียนสะกิดเรียกเท่าไหร่ซุนเหยานางก็ไม่คิดจะตื่น เขาจึงทำหน้าหนาขึ้นไปนอนบนเตียงกับนาง

ยิ่งได้สูดดมเส้นผมของนางที่มีกลิ่นหอมประหลาด ซูเซวียนก็ผ่อนคลายกับเรื่องที่พบเจอสองวันที่ผ่านมาทั้งหมด

ซุนเหยาเมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นนางก็เผลอตัวซุกเข้าหา ซูเซวียนจังดึงตัวนางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนแล้วหลับลง

เขาแทบไม่อยากเชื่อตัวเอง เพียงแค่มีนางนอนอยู่ข้างกาย เขาจะหลับสนิทมากเพียงนี้ ซุนเหยาเมื่อถูกกอดรัดเป็นเวลานานนางก็รู้สึกไม่สบายตัวจึงผลักตัวซูเซวียนออก แต่ซูเซวียนก็ยังพลิกตัวตามไปกอดด้านหลังของนางไม่ยอมปล่อย

เกือบฟ้าสางซูเซวียนก็จำต้องกลับจวนของเขาไปอย่างอาลัยอาวรณ์ “ข้าไม่ได้ตั้งใจหลอกเจ้า แต่เป็นเจ้าที่เสียใจกับงานแต่งงานครั้งนี้” ก่อนที่เขาจะออกไป ยังกระซิบข้างหูของซุนเหยา

ซุนเหยานางคิดว่านางฝันไป เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วคำพูดของซูเซวียนยังก้องในหูของนาง

“ประสาท จะไปนึกถึงบุรุษเช่นนั้นเพื่ออันใด” ซุนเหยาสลัดเรื่องของซูเซวียนทิ้ง แล้วนางก็จัดการตัวเองเพื่อไปที่เหลาอาหาร

เมื่อหลงจู๊หมานเห็นนางเข้ามาทางประตูหลัง ก็รีบเดินเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว

“นายหญิงท่านมาเสียที ท่านแม่ทัพมารอท่านตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็มาขอรับ” หลงจู๊ไม่กล้าเอ่ยปากไล่ ห้องรับรองยังมีลูกค้าที่จองไว้ต้องการใช้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ตอนจบ

    หลี่น่านางรู้จากพี่ชายของนาง เรื่องว่าที่คู่หมั้นของซิ่งอิง เป็นสหายของสองฝาแฝด การสอบจิ้นซื่อในครั้งนี้ เขาก็ได้ตำแหน่ง ปั๋งเหยี่ยน ที่ได้อันดับที่สองมาครองคุณชายหวัง หวังจื่อเฉิน บุตรชายของสนาบดีหวัง เสนาบดีกรมโยธาเพราะนิสัยที่เหมือนกับหลิงเฮ่อ บิดาของซิ่วอิงนางจึงไม่ค่อยจะพอใจนัก แต่กลายเป็นหวังจื่อเฉินที่พึงใจต่อนาง จนแทบจะมาพบหน้านางที่จวนอยู่เสมอ ซิ่วอิงนางก็พึงใจต่อหวังจื่อเฉินเช่นกัน แต่นางไม่ยอมรับความจริงก็เท่านั้น“เพ้ย เจ้าจะอยากรู้ไปไย บัณฑิตที่สนใจแต่ตำรา จะสู้อันใดกับว่าที่สามีของเจ้าได้” หลี่น่าถูกซิ่วอิงหยอกล้อก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอายซุนเหยาก็พูดคุยกับหงอี้อย่างสนุกสนาน พอทุกคนได้มาอยู่รวมกันเช่นนี้ หลีซื่อก็เริ่มที่จะชวนทั้งสามตั้งวงเล่นไพ่อย่างเสียไม่ได้ฝ่ายบุรุษที่นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องตำรา ก็เป็นเพียงเรื่องของเลี่ยงหรงและเลี่ยงหวงที่ทั้งคู่จะเลือกทางเดินอย่างไรต่อไปซูเซวียนให้บุตรชายทั้งสองเลือกหนทางเดินของตนเองได้เต็มที่ ในเมื่อเลี่ยงหรงต้องการเป็นขุนนางฝ่ายบู๋เช่นเขาก็ย่อมได้“อาหรง เจ้าคงไม่ได้มาประจำที่ชายแดนอย่างแน่นอน ฝ่าบาทต้องให้เจ้าเป็นองครักษ์เสื้อแพรเ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ทาบทามสู่ขอ

    ฮ่องเต้ให้ฮองเฮาจัดการเรื่องสู่ขอบุตรีของท่านแม่ทัพซูให้เป็นเรื่องเป็นราว โดยที่พระองค์ให้เกียรติซูเซวียนโดยไม่คิดจะพระราชทานสมรสให้เพื่อบังคับให้แต่งานท่านด้านซูเซวียนกับฉางเทียนที่อยู่ในค่ายทหารก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ วันนี้มีการประลองวรยุทธ์เพื่อเลื่อนตำแหน่งภายในกองทัพฉางเทียนย่อมทำได้อย่างดี เพราะอาจารย์ที่มาสอนเขาถูกคัดเลือกมาแล้ว ทหารในค่ายต่างไม่มีใครคิดว่าฉางเทียนที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในค่ายได้ไม่นานจะเก่งกาจมากเพียงนี้ยามที่ฝึกซ้อมเขาไม่ได้แสดงฝีมือของตนออกมาอย่างเต็มที่ ก็ไม่แปลกที่ผู้อื่นจะดูไม่ออกถึงวรยุทธ์ของเขาฉางเทียนสามารถเอาชนะรองแม่ทัพทั้งสี่ของซูเซวียนได้ง่าย ทุกคนจึงไม่กังขาหากเขาจะขึ้นมารับตำแหน่งรองแม่ทัพ เพราะจะมีรองแม่ทัพที่เกษียณกลับบ้านเกิดของตน เขาจึงได้ตำแหน่งนี้ไปครองแต่เรื่องนี้ทำให้ซูเซวียนไม่พอใจนัก เพราะเขาเคยพูดไว้ว่า หากฉางเทียนขึ้นเป็นรองแม่ทัพได้ก่อนหลี่น่านางอายุสิบหกหนาว เขาจะพิจารณาเรื่องสู่ขอของนางฉางเทียนยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อขึ้นรับตำแหน่งรองแม่ทัพ เขามองมาที่ว่าที่พ่อตาอย่างมีเลศนัย เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ขบวนสู่ขอที่ฮองเฮาส่งมาจากเมืองหลวงก

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   หยกพกของว่าที่พระชายา

    หลี่น่าเมื่อรู้ว่าพี่ชายทั้งสองของนางกลับมาจากเมืองหลวงก็รีบมาหาทั้งคู่ที่ห้องโถงเรือนหลัก สองฝาแฝดนำของที่ทั้งสองตระกูลฝากมาให้กับตนนำมามอบให้หลี่น่าในวันงานด้วยซิ่วอิงที่อยากจะเดินทางมาด้วยแต่มาไม่ได้ เพราะนางก็ต้องอยู่จัดงานปักปิ่นของนางเช่นกัน ก็เขียนจดหมายตัดพ้อมาด้วยเสียมากมายฉางเทียนที่อยู่ค่ายทหารก็เดินวนอยู่ที่หน้ากระโจมของซูเซวียนหลายรอบแล้ว ในค่ายทหารน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาเป็นองค์ชาย จึงได้รับการปฏิบัติเช่นทหารใหม่ทั่วไป กินนอนอย่างเช่นทุกคนไม่มีอำนาจใดในค่ายทหารทั้งสิ้น“เข้ามา” ซูเซวียนนึกรำคาญจึงได้เอ่ยเสียงเข้มอนุญาตให้ฉางเทียนเข้ามาด้านใน“พระองค์มีสิ่งใดก็ตรัสเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เมื่ออยู่กันเพียงลำพังซูเซวียนมักจะพูดอย่างเป็นทางการกับฉางเทียน“เปิ่นหวางฝากสิ่งนี้ให้คุณหนูซูด้วย” ฉางเทียนยื่นกล่องไม้ที่เคยให้หลี่น่ามาแล้วครั้งหนึ่งให้กับซูเซวียน“พระองค์ตัดสินพระทัยดีแล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ซูเซวียนเอ่ยถามอย่างจริงจัง“นับตั้งแต่ที่เปิ่นหวางให้นางในครั้งนั้น ก็ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนใจ” สายตาแน่วแน่ของฉางเทียนทำให้ซูเซวียนไม่มีคำโต้แย้งต่อเขาอีกฉางเทียนต้องการให้หลี่น่าแ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   ผู้ร่วมเดินทางที่คาดไม่ถึง

    เมื่อซูเซวียนกำลังจะพาคนทั้งหมดออกเดินทาง เขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นฉางเทียนขี่ม้ามาที่ขบวนของเขา พร้อมทั้งรถม้าที่ขนข้างของอีกถึงห้าคันรถม้า“องค์ชายห้า ท่านจะไปที่ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวกงหยวนอดที่จะเอ่ยถามมิได้“เปิ่นหวาง ได้รับราชโองการจากเสด็จพ่อให้เดินทางไปเป็นทหารในกองทัพของท่านแม่ทัพใหญ่ซู” เขายกยิ้มน้อยๆ บอกกล่าวกับจ้าวกงหยวนซูเซวียนที่เห็นเช่นนั้นมุมปากของเขาก็กระตุกอย่างห้ามไม่อยู่ เขาจะรู้ไม่ทันความคิดของฉางเทียนได้อย่างไร คงเป็นเพราะจะติดตามบุตรีของตนไปต่างหากฉางเทียนมองไปที่หลี่น่าอย่างแฝงความหมาย ก่อนจะเก็บสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว หลี่น่าที่เห็นเช่นนั้นก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอายนับตั้งแต่เกิดเรื่องกับนางครั้งนั้น นางก็ไม่ได้ออกจากจวนอีกเลย จึงไม่ได้พบกับฉางเทียน ถึงกระนั้นนางก็ยังไม่รับของจากเขาอยู่ไม่ขาดในเมื่อเป็นราชโองการจากฮ่องเต้ ทั้งยังถูกส่งมาให้ซูเซวียนอย่างกระชั้นชิดแล้วตัวเขาจะทำสิ่งใดได้อีก จำต้องให้ฉางเทียนเดินทางร่วมกับเขาไปชายแดนเหนือด้วยซูเซวียนให้ฉางเทียนควบม้าอยู่ข้างเขา เพื่อจับตามองไม่ให้ฉางเทียนได้เข้าใกล้บุตรีของตน แต่เมื่อเขาเผลอฉางเทียนก็ควบม้าอยู่ใ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   เตรียมตัวกลับชายแดนเหนือ

    หลักฐานที่ได้มาทำให้ฮ่องเต้เกือบจะกระอักพระโลหิตออกมา เพราะเรื่องสงครามเมื่อสิบแปดปีก่อน ผู้ที่ค้าแร่เหล็กให้แคว้นต้าอู๋จนทำให้อาจหาญคิดกล้าทำสงครามกับแคว้นต้าฉีก็เป็นเสนาบดีตู้จวนตระกูลตู้แทบลุกเป็นไฟ เมื่อหลงจู๊หอพนันมาแจ้งเรื่องคลังเก็บสมบัติถูกโจรปล้นไปจนสิ้น เมื่อให้พ่อบ้านตรวจดูคลังในจวนของตนก็พบว่าไม่มีสมบัติเหลืออยู่เลยเช่นกันเรื่องภายในจวนยังไม่ได้สอบสวนให้แล้วเสร็จ องครักษ์เสื้อแพรก็เข้าล้อมจวนตระกูลตู้ไว้ พร้อมทั้งราชโองการคุมตัวเสนาบดีตู้ ตู้หานชิง เข้าคุกหลวงเจ้านายในจวนตระกูลตู้ทั้งหมดล้วนแล้วแต่โดนควบคุมตัวไว้เพื่อรอการตัดสินโทษ ตู้เสียนเฟยคุกเข่าอ้อนวอนอยู่หน้าตำหนักของฮ่องเต้นับสองชั่วยามแล้ว แต่พระองค์ก็มิยินยอมให้เข้าเฝ้าทั้งยังให้พาตัวตู้เสียนเฟยไปคุมขังไว้ภายในตำหนักห้ามออกมานอกตำหนักแม้แต่ก้าวเดียว องค์ชายรองก็ไม่ต่างจากมารดาของพระองค์ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในตำหนัก เพื่อรอสอบสวนว่าพระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดหรือไม่เมื่อองครักษ์เสื้อแพรเข้าค้นจวนเพื่อยึดทรัพย์สินของเสนาบดีตู้ก็ต้องตกตะลึง ในคลังสมบัติของตระกูลล้วนว่างเปล่า รวมทั้งของตู้หานชิงด้วยสอบ

  • ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย   เรียกค่าทำขวัญให้บุตรี

    แม้ตระกูลตู้จะไม่มีกองกำลังลับอย่างที่ตระกูลไป๋ทำ แต่พวกเขาก็ลอบค้าเกลือและแร่เหล็กลับหลังฮ่องเต้อยู่ไม่น้อย“ท่านพี่ ท่านพาข้าไปที่หอพนันได้หรือไม่” ซุนเหยาเอยถามซูเซวียนเมื่อทั้งคู่กำลังจะเข้านอน“เจ้าจะไปทำอันใด” เขาเอ่ยถามอย่างสงสัย“ข้าจะไปเรียกค่าทำขวัญให้บุตรสาวข้าเสียหน่อย”คำพูดของซุนเหยาทำให้ดวงตาของซูเซวียนเปล่งประกายอย่างพอใจ เขาลืมไปได้อย่างไรว่าเมียรักของตนมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ ที่ผู้ใดก็ตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ได้“ที่หอพนันอย่างเดียว จะไปพออันใด คลังของตระกูลตู้ก็คงมีอยู่ไม่น้อย” สองสามีภรรยายิ้มให้กันอย่างรู้ใจ ก่อนที่ทั้งคู่จะไปเปลี่ยนชุดเป็นสีดำสนิท เพื่ออำพรางร่างกายหากสองฝาแฝดเข้ามาได้ยินสิ่งที่บิดามารดาพวกเขาพูดคุยกัน ทั้งคู่ต้องบอกว่าความเจ้าเล่ห์ของพวกเขาก็ได้มาจากท่านทั้งสองอย่างไรเล่าวรยุทธ์ของซูเซวียนไม่เป็นรองผู้ใดในเมืองหลวง เขารวบเอวซุนเหยาแล้วใช้วิชาตัวเบากระโดดไปทางหอพนันเสียงนักพนันดังไปทั่วหอพนันที่ไม่เคยหลับใหล ความวุ่นวายด้านใน ทำให้ผู้บุกรุกที่มาเยือนอยู่ชั้นติดินไม่ค่อยจะมีผู้ใดสนใจนัก ซูเซวียนจัดการผู้คุ้มกันที่เฝ้าคลังสมบัติลงได้อย่างง่ายดายก่อนท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status