LOGIN“แว่ะ...”
ทำเสียงเหมือนจะอ้วกพร้อมกับเบ้หน้ารังเกียจขยะแขยง ทำเอาคนที่เชื่อว่าตัวเองมีเสน่ห์และลีลาเด็ดไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธมาก่อนถึงกับอ้าปากค้าง
“อยากอ้วก...พอเถอะ...ฉันไม่ไหวจริงๆ...ถุ๊ย!”
แถมยังทำท่าถุยใส่หน้าเขาอีก ไม่เคยมีใครหยามเขาได้เจ็บแสบเช่นนี้มาก่อน หล่อนผลักร่างเขาอย่างแรงวิ่งเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงบ้วนปากและเสียงสบถราวกับผู้ชาย
เบอร์นาโดมองตามแทบไม่เชื่อสายตา ชายหนุ่มยกมือขึ้นอังปากแล้วเป่าลมออกมาพิสูจน์กลิ่น
“ออกจะหอม”
เสียงห้าวพึมพำกับตัวเอง ยกมือขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิด เจ้าน้องชายตื่นตัวในกางเกงตั้งแต่ได้สัมผัสร่างนุ่มของหล่อน ตั้งแต่เจอกันหล่อนทำให้เขาอารมณ์ค้างเติ่งเสียทุกครั้งไป
ครั้งแรกก็ทำให้หนูมินดี้ตกใจชักลอกคลองให้เขาได้เพียงครึ่งทางก็วิ่งหนีไป ท่อนเอ็นปวดหนึบแทบจะยัดลงไปในกางเกงไม่ได้ ต่อมาหล่อนก็แกล้งยั่วเขาในรถจนเขาเกิดอารมณ์แต่หล่อนก็ส่งอารมณ์ต่อให้ด้วยการแจกเท้า และครั้งล่าสุดก็ตอนฮาน่ากำลังดูดไอติมแท่งยักษ์ของเขาอย่างเมามัน เจ้าหล่อนก็ดันมาปรากฎร่างให้เขาได้วิ่งตามชวดการไปเยือนสวรรค์อีกครั้ง
อมิยาเดินกลับออกมาใบหน้าเปียก หล่อนคงล้างหน้า เบอร์นาโดสังเกตว่าหล่อนไม่แต่งหน้าเลย...แม่งเอ๊ย...ทอมจริงๆ หรือนี่ รู้สึกโมโหและหงุดหงิดภายในใจเหลือจะกล่าว
“เธอเจ้าเล่ห์แกล้งหรือเปล่า” เขายังไม่หายคลางแคลงใจ แอบคิดว่าหล่อนกำลังเล่นตุกติก และแอบหวังเหลือเกินว่าหล่อนแกล้งกุเรื่องโกหกเพื่อให้หลุดพ้นจากการตกเป็นผู้หญิงของเขา
“นี่จะบอกให้เอาบุญ ฉันชอบเซ็กส์มาก ถ้าเกิดอารมณ์ไปกับคุณฉันคงไม่ยั้งไว้หรอก แต่บอกแล้วว่ากับผู้ชายมันอยากอ้วกและขยะแขยงมาก ฉันคุ้นกับสัมผัสของผู้หญิง เข้าใจหรือยัง”
หล่อนเดินไปนั่งตรงมุมโต๊ะทำงานของเขา เบอร์นาโดกอดอกมองแล้วครุ่นคิด จะว่าไปแล้วท่าทางหล่อนเป็นทอมจริงๆ นั่นแหละ เพราะไหนจะยิงปืนเป็น ศิลปการต่อสู้ป้องกันตัว เพียงดูท่าก็รู้ว่าหล่อนชำนาญหลายแขนง และที่สำคัญไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ถูกเขาจูบแล้วอยากอ้วกมาก่อน มีแต่อยากให้เขาเปลื้องผ้าหล่อนแล้วทำต่อให้จบม้วนร้องครางระงมเรียกขอให้เขาสัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่า
“โอเค ฉันพูดคำไหนก็เป็นคำนั้น ฉันจะรับเธอมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว เธอมาอยู่กับฉันบนห้องชุดข้างบนเป็นเวลาหกเดือน”
ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ร่างสูงเดินมานั่งบนโต๊ะเคียงข้างหล่อน ตกลงกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ปรายตามองร่างเพรียวที่เขารู้ว่านุ่มและหอม ในใจเกิดความรู้สึกท้าทายยิ่งนัก... อยากได้อยากครอบครองเป็นเจ้าของ...
บางทีหล่อนก็อาจจะหลอกเขาจริงๆ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ต้องเอาตัวมาไว้ใกล้ๆ เพื่อพิสูจน์ให้รู้กันให้กระจ่างแจ้ง เบอร์นาโดคิดได้ดังนั้นก็จุดยิ้มหมายมาดออกมาอย่างเงียบๆ
“เดี๋ยวให้เมอร์ฟีไปช่วยเธอขนของ”
“ฉันมีกระเป๋าใบเดียวเอามาด้วยแล้ว”
หล่อนตอบทันที ทำเอาเบอร์นาโดหันขวับมามอง นี่เจ้าหล่อนมั่นใจขนาดนี้เชียวหรือว่าเขาจะรับหล่อนเข้าทำงาน?
“ก็ดี ไอ้ฟี่” เสียงห้าวตะโกนเรียกลูกน้องคิดว่าอยู่หน้าประตูแต่ก็เงียบ ชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากด
“มึงอยู่ไหน”
เสียงเจ้านายถามทันทีที่บอดี้การ์ดรับโทรศัพท์ เมอร์ฟีกำลังยืนพิงรถคุยกับไทสันที่กำลังเช็ดรถอยู่ตรงลานด้านหลังซึ่งเป็นที่จอดรถส่วนตัวของเจ้านาย
“เอ่ออยู่กับไทสันข้างล่างครับ”
“มึงช่วยยกกระเป๋าของอมิยาขึ้นไปบนเพนต์เฮาส์หน่อย” สั่งลูกน้องเสร็จก็วางสาย
เมอร์ฟีเก็บโทรศัพท์แล้วพยักหน้ากับเพื่อนรัก
"กูบอกมึงแล้วมั้ยล่ะ ไม่มีทางปล่อยให้กลับออกไปเด็ดขาด มึงไม่เห็นท่าเจ้านาย จ้องตาไม่กระพริบเลยมึงเอ๊ย ก็เล่นสวยเฉียบ สวยหล่อและสวยเด็ดขาดมารวมกันอยู่ในผู้หญิงคนเดียวแบบนั้น กูขอทายอนาคตไว้เลยไอ้ไท...ฮ่าๆ"
เมอร์ฟีกล่าวกับเพื่อน หลังจากคาบข่าวมาเล่า ไทสันพยักหน้า
"โอเค กูรับทราบแล้ว มึงรีบขึ้นไปเถอะ ขืนช้า กูขอทายอนาคตของมึงไว้เลยว่า มึงจะโดนตีนนายเป็นของแถมมื้อค่ำ"
ไทสันกล่าวเตือนเพื่อนรักด้วยสีหน้าเรียบและน้ำเสียงขรึมตามแบบฉบับบอดี้การ์ดปากหนัก เมอร์ฟีจึงตบบ่าเพื่อนก่อนจะรีบเดินเข้าไปในล็อบบี้
****
“เดี๋ยวฉันจะพาเธอขึ้นไปข้างบนแล้วเราจะเริ่มพูดเรื่องงานและหน้าที่กัน”
เบอร์นาโดเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ อมิยาพยักหน้า ภายในใจรู้สึกโล่งอกที่แผนการสำเร็จ ท่าทางเขาจริงจังและไม่แตะต้องหล่อนอีก หญิงสาวลอบถอนหายใจยาวออกมา
เมื่อไปถึงเพนต์เฮาส์ชั้นบนสุด เขากดรหัสประตูผลักเปิดเข้าไป อมิยากวาดตาสำรวจอย่างรวดเร็ว โทนสีน้ำตาลไล่สีตั้งแต่อ่อนจนถึงแก่ ลักษณะตกแต่งสำหรับผู้ชายแท้
“เธออยู่ห้องริมด้านในสุด ส่วนห้องนั้นเป็นห้องของฉัน” เขาชี้ไปยังห้องนอนใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า
“อันที่จริงเธอเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวควรนอนห้องเดียวกับฉัน”
เขาแกล้งกล่าวพร้อมกับหันมาจ้องเขม็ง อมิยาหันมามองตอบ
“เผื่อคุณพาผู้หญิงมาล่ะ อยู่คนละห้องน่ะดีแล้ว”
เพราะหล่อนมีภารกิจลับเฉพาะอีกมากมายที่ได้วางแผนเอาไว้ว่าเข้ามาถึงถ้ำเสือเช่นนี้จะต้องทำอะไรบ้าง แทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะยอมหล่อนอย่างง่ายดาย แต่อมิยาไม่คิดมาก ขอแค่เข้ามาได้ก่อนแล้วค่อยหาทางต่อไป ถ้าหากเขาเล่นตุกติกในภายหลังหล่อนเชื่อว่าจะดูแลปกป้องตัวเองได้อยู่แล้วอย่างไม่มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน
“ไม่ต้องมาทำประจบแม่ ดื้อด้านก็เท่านั้น เจ้านิคนั่นก็อีกคน นี่โทรมาคุยกับแม่สามประโยคหลังจากหายไปสามเดือน พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง”มารดาบ่นเลยไปถึงนิโคลัส น้องชายของเขา เบอร์นาโดยกมือมารดาขึ้นแนบแก้ม“เชิญแม่พิสูจน์เมียเบิร์นตามสบาย แต่ห้ามตีนะ เบิร์นไม่ยอม”เขากล่าวด้วยน้ำเสียงปกป้องและหวงแหน เดเลียต้องพยายามปั้นหน้าดุซ่อนหน้าขบขันเอาไว้เต็มที่ นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นมุมนี้ของลูกชายคนโต“พูดอะไรของแกตาเบิร์น ถึงแม่จะเข้มงวดแต่ก็ไม่ใช่ตัวอิจฉาในละครนะ ไปได้แล้ว แม่จะเอนหลัง ตอนเย็นจะไปเดินดูสวนหลังบ้านหน่อย ให้มาร์โคลงดอกไม้ตอนมาครั้งก่อน ไม่รู้ว่าโตถึงไหนแล้วหวังว่าคงไม่ตายเสียทั้งหมดนะ ถ้าอมิยาว่างก็บอกให้ลงไปเดินกับแม่หน่อย”มารดากล่าวเป็นการสั่งกลายๆ นั่นเองว่าท่านต้องการพบและสัมภาษณ์อมิยาในเวลานั้น“เดี๋ยวผมจะบอกเขาให้ครับ”ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับหอมแก้มมารดาก่อนจะลุกเดินออกจากห้องท่านอมิยาสะดุ้งลุกขึ้นยืนเมื่อร่างสูงของเบอร์นาโดเปิดประตูเข้ามา ชายหนุ่มทำหน้าเคร่งขรึมเพื่อแกล้งหล่อน อมิยาใจเสียทันที“เป็นยังไงบ้างคะเบิร์น”หล่อนเอ่ยถามเสียงแผ่วเบาอย่างหวาดหวั่นกับคำตอบ ร่างระหงเดิ
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวเอ่ยทักทายอย่างนอบน้อม เดเลียชะงักกึกกับคำแนะนำของลูกชาย หากก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เพราะอยู่ต่อหน้าคนรับใช้ เดเลียเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วของจริง คือเธอจะไม่มีทางคุยเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องครอบครัวต่อหน้าคนรับใช้เด็ดขาด ไม่มีการโวยวายวี้ดว้ายเหมือนในละครน้ำเน่าใดๆ ทั้งสิ้นสายตาคมกวาดมองอมิยาตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างสูงระหงยืนหลังตรง ไม่มีทีท่าว่าจะแข็งกระด้างและก็ไม่มีท่าว่าจะอ่อนข้อ หรือนบนอบจนเกินไป... สวยมาก เดเลียยอมรับอยู่ในใจ แต่เรื่องความสวยงามภายนอกนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ใช่ส่วนสำคัญที่สุดที่เธอมองหาในตัวผู้ที่จะมาเป็นลูกสะใภ้คนโต“สวัสดีอมิยา ชื่อแปลกดี” เธอเอ่ยทักนิดหนึ่ง อมิยายิ้มรับอย่างสุภาพ“จีน่า นี่อมิยาครับ จีน่าสนใจเรื่องเมืองไทยคุยกับอมิยาได้นะ เขาเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน”เบอร์นาโดกล่าวกับสาวน้อยตาโตที่ดูตื่นๆ นิดหนึ่ง เคยได้ยินจากมารดาว่าจีน่าชอบเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทย หล่อนดูเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสาถูกผู้ใหญ่บงการชีวิต เบอร์นาโดยิ้มเอ็นดูให้ อมิยาเองก็ยื่นมือไปให้จีน่าจับ เดเลียฟังออกว่าลูกชายนั้นภาคภูมิใจในตัวผู้หญิงของตัวเองมาก“ยิ
“คิดอะไรอยู่” เขาประคองหล่อนไปนั่งตรงโซฟาข้างหน้าต่าง“ทำไมคุณถึงเลือกแอมคะเบิร์น เพราะผู้หญิงที่เหมาะสมกับคุณควรจะเป็นพวกไฮคลาสหรูหราและเป็นผู้ดีตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมาะกับตำแหน่งนายหญิงของบ้านนี้มากกว่าแอมซึ่งเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง”หญิงสาวเอ่ยถามออกไปตามความรู้สึก เบอร์นาโดทำหน้าขมวดมุ่น คิ้วชนกันทันที“พูดอะไรของเธอ ฉันรักเธอ รักทุกอย่างที่เป็นเธอ นั่นคือคำตอบของทุกอย่าง ทำไมพูดเหมือนดูถูกตัวเอง พลอยดูถูกรสนิยมของฉันไปด้วย เธอเพอร์เฟค เหมาะสมกันฉันทุกอย่าง ฉันรักที่เธอเป็นเธอแบบนี้แหละ ห้ามพูดอะไรไร้สาระแบบนี้อีกเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นจะถูกลงโทษแบบนี้”เขากล่าวเสร็จก็ใช้สองมือกุมหน้าหล่อนและบดจูบอย่างเร่าร้อนครู่ใหญ่จนพอใจ“ฉันจะโทรหาคุณแม่ จะเชิญท่านมาเที่ยวที่นี่ เธอพร้อมเมื่อไหร่”เขาเอ่ยถาม อยากตามใจหล่อน ให้หล่อนพักผ่อนจนพร้อมเสียก่อน“แล้วแต่คุณสิคะ”อมิยาตอบ หญิงสาวทำใจมาแล้วว่าจะทำทุกอย่างเพื่อเขา ดั่งเช่นที่เขาได้ทำมาแล้วเพื่อหล่อน เบอร์นาโดยิ้มพอใจ“เห็นไหม เมียฉันเก่งและกล้าหาญพร้อมเดินหน้าชนเสมอ” เขาทำเสียงชม“พูดเหมือนกับว่าคุณแม่คุณจะเขี้ยวมากจนแอมต้องเ
เบอร์นาโด อมิยาและสองบอดี้การ์ดบินกลับด้วยเครื่องบินส่วนตัว มาถึงลาสเวกัสในเวลาต่อมา คนของเบอร์นาโดเอารถมาจอดรอไว้เรียบร้อย“ไปบ้าน” เขาสั่งสั้นๆ เมื่อเข้าไปนั่งในรถ ไทสันเข้าประจำที่คนขับตามหน้าที่โดยมีเมอร์ฟีนั่งข้างๆ“บ้าน?” อมิยาหันมาถาม เขาโอบแขนไปรอบไหล่แล้วดึงหล่อนเข้าไปหอมแก้ม“ใช่ บ้านของฉันเอง แต่ก่อนอยู่ที่นั่น แต่ช่วงหลังๆ ตอนที่มีเรื่องบ่อยเลยย้ายมาอยู่ที่เพนต์เฮาส์เสียเป็นส่วนใหญ่”เบอร์นาโดอธิบายให้หญิงสาวฟัง อมิยาพยักหน้ารับรู้“หวังว่าเธอจะชอบมัน” เขาเอ่ย อมิยายิ้มกว้าง“แอมอยู่ไหนก็ได้หมดค่ะถ้าหากมีคุณอยู่ด้วย”อมิยากล่าวอย่างอ่อนหวาน เบอร์นาโดยิ้มกว้างทันที เมียเขาบทจะหวานน่ารัก เจ้าหล่อนก็ทำเอาเขาหัวใจแทบละลายเลยทีเดียว“เมียฉัน จะทำเอาผัวรักผัวหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยหรือยังไง”เสียงห้าวกล่าวสัพยอกก่อนจะก้มมาจุ๊บปากเร็วๆ เมอร์ฟีค่อยกดปุ่มเลื่อนกระจกกั้นระหว่างโซนหน้ากับโซนเบาะหลังปิดอย่างเกรงใจเจ้านาย เพราะเจ้านายไม่เกรงใจและไม่แยแสเลยว่ามีลูกน้องนั่งหัวโด่อยู่ตรงเบาะหน้าถึงสองคนอมิยาหน้าแดงเรื่อรู้สึกอายเมอร์ฟีกับไทสัน แต่เห็นคนตั
“ไม่เคยมีใครเรียกมีนาแบบนั้น”“ดีสิ ผมจะได้เอาไว้เรียกคนเดียว คุณแทนตัวเองว่า มีนกับผมคนเดียวเท่านั้นนะ ห้ามใช้กับใครผมจองแล้ว”เสียงนุ่มเอ่ยเหมือนสั่ง มีนภาพยายามไม่ทำหน้าแดง เขาอุตส่าห์ขอเป็นเพื่อน ซึ่งมีจุดประสงค์ออกจะชัดเจนขนาดนี้ หล่อนก็ไม่ควรจะหน้าแดงและหัวใจเต้นแรง เพราะเพื่อนย่อมไม่ควรเขินเพื่อนและหัวใจก็ไม่ควรวูบวาบและหวั่นไหว หญิงสาวได้ข้อสรุปบอกกับตัวเองภายในใจ“ฟี่ปล่อยมีนเถอะค่ะ กอดทำไมกัน”“เพื่อนกอดเพื่อนไง ไม่ได้เหรอ”“แต่เพื่อนไม่ควรนอนตัวล่อนจ้อนกอดกันแบบนี้”หล่อนเอ่ยท้วงเสียงอ้อมแอ้มอุบอิบ เมอร์ฟีหัวเราะใช้นิ้วเชยคางมนขึ้นแล้วจ้องสบไปในดวงตาดำขลับ“เหตุสุดวิสัย...แต่เพื่อนหอมแก้มเพื่อน จะเป็นไรไหม”เขาก้มมาถาม มีนภารีบส่ายหน้า ซึ่งหล่อนหมายถึงไม่ได้ แต่เขาคิดตีขลุมเอาว่าหล่อนตอบว่า...ไม่เป็นไร... ใบหน้าหล่อจึงก้มมาหอมแก้มนวลเบาๆ“ฟี่...บ้าแล้ว เพื่อนอย่าถือโอกาสกับเพื่อนแบบนี้สิ” หล่อนต่อว่าทันที“เพื่อนอยากตัวหอมแก้มนุ่มทำไมล่ะ”ชายหนุ่มโต้ตอบไม่ยอมจนมุม ชักรู้สึกสนุกและมีความสุขที่ได้หยอกล้อกับหล่อนแบบนี้ เมอร์ฟีไม่เข้าใจตัวเองนัก รู้แต่ว่าเขาชอบเป็นเพื่อนกับหล่อ
“บ้าแล้วไอ้ฟี่” ก่นด่าตัวเองเบาๆ สลัดความคิดเตลิดเปิดเปิงของตัวเองออกไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มพยายามข่มตาให้หลับ ซึ่งต่อมาก็ผล็อยหลับไปในที่สุดมีนภาขยับตัวอย่างขี้เกียจ รู้สึกหลับสนิทและหลับสบายทั้งคืน ร่างกายรู้สึกโล่งๆ พิกล หญิงสาวค่อยลืมตาขึ้นมาก็ปะทะเข้ากับแผงอกกว้างของใครบางคน มีนภาสะดุ้งเบิกตากว้างด้วยความตกใจหล่อนซุกหน้ากับอกเขาราวกับลูกนกต้องการความอบอุ่น มือวางตรงเอวสอบของเขา ส่วนเขาเองก็พาดแขนไปบนสะโพกของหล่อน หญิงสาวเงยหน้าขวับขึ้นทันที“โอ๊ย” เสียงร้องโอ๊ยด้วยความเจ็บดังขึ้นเพราะศีรษะของหล่อนชนเข้ากับคางของเขาอย่างจัง“คุณฟี่!”มีนภาอุทานออกมาด้วยความตกใจกับสภาพของเขาและของหล่อน...ร่างกายเปลือยเปล่าล่อนจ้อนด้วยกันทั้งคู่!หญิงสาวรีบขยับออกห่างด้วยใบหน้าแดงเรื่อ ดวงตาโตจ้องมองเขาอย่างช็อกตกตะลึง“อย่าตกใจมีน...”เมอร์ฟีตื่นเต็มที่จากที่ถูกหล่อนชนคางอย่างจัง เวลานี้หล่อนท่าทางกำลังตกใจมากกับสภาพที่ลืมตาตื่นมาพบเขากับหล่อนอยู่บนเตียงด้วยกันเช่นนี้“อีตาบ้า คนฉวยโอกาส!” หล่อนได้สติก็ร้องด่าลั่นพร้อมกับยกกำปั้นทุบรัวไปบนลำตัวของเขา“เฮ้ย เดี๋ยว ฟังผมก่อนมีน มันไม่ใช่อย่างที่คุณ







