แชร์

chapter 18

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-03 14:36:15

“ยังมิได้รังแก...เลย”

“ก็ที่ท่านทำอยู่นี่ไง” เก้าเทียนรุ่ยได้แต่ข่มกัดฟันโต้ตอบกลับไปเสียงสั่น ด้วยนิ้วของท่านแม่ทัพที่เคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายมันทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ จนแทบมิกล้าหายใจ

“มิได้รังแก แค่...อยากกินเจ้า”

ว่าแล้วท่านแม่ทัพก็โน้มใบหน้าลงมาแนบปากลงบนไหล่และขบกัด!

“ท่าน!”

“อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าถูกรังแก”

ปากหนาขบกัดเคลื่อนวนเวียนไปมาบนผิวเนื้อเนียนนุ่ม ขณะที่มือก็เริ่มลูบไล้จากหน้าอกเคลื่อนลงไปทีละน้อย...ทีละน้อย หยอกเย้ากับพุงน้อย ๆ จนเขาเริ่มหายใจมิทั่วท้อง

“หรืออย่างนี้...”

“ไม่! หยุดนะท่านแม่ทัพ” เก้าเทียนรุ่ยรีบร้องเรียกเสียงดังก่อนที่นิ้วยาวจะสอดเข้าไปใต้กางเกง

“หือ...แลกเปลี่ยน”

อะไรกันอีกละเนี่ย! เก้าเทียนรุ่ยได้แต่มึนงงจนคิดอะไรมิออก 

“ข้าหยุดรังแก...เจ้าจะให้สิ่งใดล่ะ”

“แล้ว...แล้วแต่ท่านต้องการ” ตอนนี้ไม่ว่าจะต้องแลกกับสิ่งใด เขาคิดว่าควรจะต้องตอบตกลงไปก่อน เพราะมันดีกว่าถูกท่านแม่ทัพปีศาจกินเต้าหู้จนมิเหลือ

“จริง”

“ฮื่อ...ข้ารับปาก” ว่าจะมิทำตามที่กล่าวและจะรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดด้วย

“มิน่าเชื่อ...เท่าไหร่”

โว้ย! อะไรกันวะเนี่ย เก้าเทียนรุ่ยได้แต่งึมงำแผ่วเบา พลางส่ายหน้าหนีปากหนาที่ขบเคลื่อนจากลำคอขึ้นมาอย่างเชื่องช้า

“ข้า...ข้ายังต้องรักษาท่านให้ดีกว่านี้นะ อย่างไรก็ยังต้องทำตามที่ท่านต้องการอยู่แล้วไง ทำไมถึงมิน่าเชื่อถือล่ะ อีกทั้งท่านเองก็เป็นผู้มีอำนาจ...มีทหารอยู่ในมือตั้งมากมาย จะกลัวอะไรกับมดตัวน้อยนิดอย่างข้ากันล่ะ”

“เต่า...เชื่องช้า แต่อดทนรอเก่ง”

“แล้วท่านจะเอายังไง อันโน้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่ได้ ข้าปวดหัวไม่อยากทะเลาะ ไม่อยากถูกท่านรังแก...”

กล่าวมิทันจะจบปากของเขาก็ปิด ที่คราวนี้การจู่โจมทำเอาเขาหัวหมุนเพราะกลีบปากนุ่มที่ถูกบดคลึง ขบกัดสลับดูดเม้ม ก่อนจะเปิดแยกพร้อมสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปภายในโพรงปากนุ่ม จูบที่เหมือนจะช่วงชิงลมหายใจของเขาไป...ที่หนักหน่วง เว้าวอนและเรียกร้อง หากแฝงไว้ด้วยความอบอุ่น อ่อนโยนและอ่อนหวานจนเก้าเทียนรุ่ยเผลอหลุดเสียงครางออกมา มิเพียงเท่านั้นเขายังจะเผลอจูบตอบไปอย่างมิรู้ตัวด้วยซ้ำ เนิ่นนานกับสัมผัสที่มันทำให้เขาตื่นตัว เกิดความอยากรู้ว่าหากมากไปกว่าจูบ มันจะเป็นเช่นไร

แย่แล้ว! เขามิควรคิดเช่นนี้ หากว่า...ปากที่บดคลึงสลับขบกัดอย่างหนักหน่วง พอเขาประท้วงสัมผัสนั้นก็อ่อนโยนลง ลิ้นอุ่นชื้นที่สอดแทรกเข้ามาในโพรงปากหยอกเย้าด้วยการตวัดเกี่ยวรัด ขณะที่มือก็เคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายเพื่อทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคย

“แค่เจ้า...อยู่ด้วย”

“เรื่องแค่นี้เอง ทำอย่างกับเรื่องใหญ่โตอย่างกับฟ้าพลิกดินถล่มอย่างนั้นแหละ ข้ายังต้องอยู่รักษาท่านอีกนาน มิต้องห่วงไปหรอก” ถึงอยากจะหนีไปจากที่นี่ให้เร็วแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็ยังมีคุณธรรมพอที่จะรักษาคนที่ป่วยให้หายดีเสียก่อน หากมันก็ยังมีอะไรบางอย่างที่เก้าเทียนรุ่ยไม่เข้าใจ เขาคิดว่ามันมิถูกต้อง เป็นเพราะสายตาของท่านแม่ทัพที่มองมาเหมือนกับยังมิพึงพอใจในคำตอบที่เขาให้ไป แต่ตอนนี้...ในเมื่ออีกฝ่ายยอมปล่อยและยังจะลุกขึ้นไปยืนอยู่ห่างจากตัวเขามันดีที่สุดแล้ว

เก้าเทียนรุ่ยโล่งใจจนเผลอยิ้มหวานออกมา ขณะเดียวกันที่รีบพาตนเองถอยไปอยู่มุมหนึ่งของเตียงพร้อมกับคว้าเอาผ้าห่มของท่านแม่ทัพนั่นแหละมาคลุมกายที่สั่นเอาไว้ ขณะตาก็มิยอมคลาดจากกายแกร่งที่ยังยืนนิ่งมิไหวติง

“ท่าน...ไปจัดการตนเองให้เรียบร้อยเถอะ ข้า...ข้ามิคิดหนีไปไหน แค่จะแต่งกายให้เรียบร้อยเท่านั้น” หากยังอยู่เช่นนี้ ใครจะไปรับประกันได้ละว่าเขาจะมิถูกท่านแม่ทัพปีศาจหื่นกามทำเช่นเมื่อครู่อีกนะ ปลอดภัยเอาไว้ก่อนเป็นดีที่สุด

“ข้าต้องไปจัดการปรุงยาให้ท่านดื่มด้วย” เก้าเทียนรุ่ยรีบบอกเสียงสั่น ถึงท่านแม่ทัพแม้จะเดินไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายแล้วก็ตาม หากเขาก็ยังรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายยังคงคอยจับตามองอยู่

“ข้ามิได้คิดหนีนะ”

“นาน”

เก้าเทียนรุ่ยขมวดคิ้วเข้าหากัน หลายครั้งแล้วที่วาจาของท่านแม่ทัพทำให้เขาต้องคอยคิดทบทวนว่าอีกฝ่ายกำลังกล่าวถึงเรื่องอะไร อย่างเช่นครั้งนี้...ที่ว่านาน หมายความว่าอย่างไร

“ต้มยา...รสชาติแปลก”

“อ๋อ...ท่านจะกล่าวว่า ข้าไปต้มยานานแค่ไหนใช่ไหม ก็มินานนะ สักประมาณสองชั่วยามกว่า ๆ เท่านั้นเอง” เอาเข้าจริงเขาต้มยาจนชำนาญมากแล้ว มีกลวิธีการสับเปลี่ยนเรื่องการใช้เวลาเป็นช้าหรือเร็วได้แล้ว แต่เพราะต้องการอยู่ให้ห่างจากท่านแม่ทัพปีศาจหื่นกามให้นานที่สุด ก็เลยคิดว่าเวลาที่กล่าวออกไปเหมาะสมแล้ว ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอยากหายตัวไปโดยไม่ต้องกลับมา นี่ต่างหากเล่าเป็นสิ่งที่เขาปรารถนายิ่งนัก

“นาน...ครึ่งชั่วยามพอ”

หะ! “ท่านบ้าหรือเปล่า ต้มยามันก็ต้องใช้เวลาสิ จะให้รีบได้อย่างไรกันเล่า”

“หรือมิต้องไป”

เพราะวาจาของอีกฝ่ายมิมีแววล้อเล่นแม่แต่น้อย เก้าเทียนรุ่ยก็เลยต้องรับคำไปด้วยความหงุดหงิด

“ได้ ๆ แล้วแต่ท่านเลยละกัน” เก้าเทียนรุ่ยได้แต่สะบัดศีรษะอย่างจนใจ ถือโอกาสที่ท่านแม่ทัพอาบน้ำชำระล้างร่างกายอยู่วิ่งไปเปิดประตูและรีบวิ่งไปหาท่านแม่โดยเร็ว

อา...สบายจังเลย เก้าเทียนรุ่ยขยับกายไปเพื่อซุกกับไออุ่นที่โอบรัดกายอยู่ ช่างน่าแปลกใจยิ่งนักที่เตียงนอนของเขาช่างนุ่มและอบอุ่นเช่นเดียวกับผ้าที่ใช้ห่ม มันสบายจนยังมิอยากจะตื่น สบายจนอยากจะนอนอีกสักหน่อย

“ท่านแม่ขอรับ ข้ารู้สึกตัวแล้วนะ แต่ขอนอนต่อสักหน่อยนะขอรับ”

หากคำตอบที่เก้าเทียนรุ่ยได้รับมิใช่เสียงที่หวานเย็นฉ่ำชื่นใจ กลับกลายเป็นเสียงหัวเราะของใครบางคนที่มันไปกระตุ้นต่อความคิดของเขาทำให้ต้องรีบตื่นลืมตาในทันใด เมื่อได้สบกับดวงตาเข้มดุที่เปล่งประกายระยิบระยับเหมือนกำลังหัวเราะขบขันที่ทอดมองมา

จากที่ยังสะลึมสะลือเพราะเมื่อคืนกว่าที่จะได้นอนเข้านอนและมีเหตุให้กว่านอนหลับได้นานมาก ด้วยมีเรื่องให้กลุ้มใจและคิดมากที่มีผลมาจาก...ถูกบังคับให้นอนร่วมเตียงเดียวกับท่านแม่ทัพปีศาจจอมเอาแต่ใจนั่นเอง

“ท่านเข้าใจบ้างไหม ท่านเป็นนายและเป็นคนป่วย ส่วนข้าเป็นแค่บ่าวไพร่ที่มาดูแลรักษาให้ท่านหายดี หยุดเอาแต่ใจสักทีได้ไหมท่านแม่ทัพ” เขาละเหนื่อยใจเหลือเกิน ถกเถียงกับท่านแม่ทัพปีศาจน่าจะเกินหนึ่งชั่วยาม แต่ก็มิอาจเอาชนะได้ อีกฝ่ายยังยืนยันคำเดิม...จะต้องมีเขานอนร่วมเตียงเท่านั้น!  

“นอนกอดกัน ถือว่ารักษาไหม”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 124 - จบ

    “แล้วเด็กสองคนนั้น” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยถามเพราะหนานชวนส่งข่าวให้รู้บ้างแล้ว“ดูเป็นเด็กดีอยู่ขอรับ” นับตั้งแต่ที่เขาอยู่กับเสวียนลิ่วหลางมา มิเพียงแค่ร่างกายที่เปลี่ยนไป หากรับรู้ว่าภายในกายเริ่มมีพลังลมปราณมากพอที่จะสัมผัสได้ว่าใครมีวรยุทธ์และพอจะมองออกว่าผู้ใดมาดีหรือร้าย ทำให้มองออกว่าเด็กน้อยสองคนเป็นเด็กดีจริง ๆ จึงยินดีเป็นอย่างมากที่มารดามีคนดี ๆ มาคอยดูแล“แล้วท่านพี่ละขอรับ พบเจอเรื่องใดหรือไม่”หากเสวียนลิ่วหลางมิทันจะได้บอกกล่าวเรื่องที่ได้ไปตรวจสอบมา...มิได้มีสิ่งใดร้ายแรง ก็เป็นพวกมารปลายแถวกับเผ่าปีศาจที่มิชอบหน้ากันมาทะเลาะกัน แล้วกลุ่มจอมยุทธ์รุ่นใหม่เขาอยากแสดงว่าตนมีฝีมือเท่านั้น ก็มีบางคนเดินเข้ามา“มาทำไม” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยเสียงเข้มดุ หากเด็กน้อยตรงหน้ากลับมิสนใจแล้วยังจะส่งยิ้มให้กับเก้าเทียนรุ่ยเพื่อยั่วโทสะยักษ์ใหญ่ตรงหน้าอีกด้วย“มิได้มาหาเจ้าเสียหน่อย มาหานั่น...” ปากเล็กสีแดงสดบุ้ยใบ้ไปทางเก้าเทียนรุ่ย “ต่างหากล่ะ...คิดถึงมากเลย”“ที่นี่เรือนข้า...ไปคิดถึงไกล ๆ หากมิอยากถูกจับโยนออกไป”“กล้ารึ...ข้าพี่ชายสองนะ เจ้ากล้าทำร้ายพี่ชายเมียเจ้ารึ”“ฮึ! พี่ชายที่นอก

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 123

    “อึก...อ้ายฉี!” ชิงชวนร้องเรียกด้วยความเกรี้ยวกราดเพราะยังมิทันได้เตรียมกายรับอ้ายฉีก็แทรกแท่งใหญ่ร้อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วยังจะหัวเราะร่าพร้อมกับกลั่นแกล้งเขาด้วยการขยับกายออกแล้วเคลื่อนกลับเข้าไปใหม่จนสุด“ไอ้เจ้าบ้าอ้ายฉี!”“อา...ข้ามันคนบ้านี่น่า เขาว่าคนบ้าทำอะไรก็มิผิด” ว่าแล้วอ้ายฉีก็เร่งเคลื่อนกายจู่โจมเข้าในพื้นที่เร้นลับของชิงชวนอย่างหนักหน่วงซ้ำแล้วซ้ำเล่า...จากนุ่มนวลกลับเป็นรุนแรงเมื่อถูกผนังอ่อนนุ่มบีบรัด“เจ้าว่า...ข้าจะบ้าได้มากกว่านี้ไหมอาชวน”“หยุดทำอย่างที่เจ้าคิดเลยนะอ้ายฉี” ชิงชวนห้ามปรามเมื่อพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดทำการสิ่งใด เขามิอยากเดินออกจากห้องพักอย่างอับอายเพราะถูกอีกฝ่ายจับกดจนเตียงพังอย่างเช่นโรงเตี้ยมที่ก่อนหน้าอ้ายฉีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะกล่าวออกไป “ข้ายังมิได้คิดอะไรสักหน่อย”“ฮึ! เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะมิล่วงรู้ ข้าอยู่กับเจ้ามานานเท่าใดแล้ว ยามนี้หากมิใช่เพราะคิดว่าเดินทางกันพอแล้วกับในยุทธภพมีเรื่องมากมายชวนปวดหัว คิดว่าเจ้ากับข้าจะคิดกลับไปหาท่านแม่ทัพ...นายท่านกับคุณชายหรือไงกัน”“ครั้งนี้ข้ายอมก็ได้” หากมิใช่เพราะจะทำให้ชิงชวนอับอาย แต่เขาสัมผัสได้ว

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 122

    “ใบหน้าเมียข้ายามนี้ช่างงดงามเหลือเกิน เร่งอีกหน่อยสิท่านพี่ ข้าอยากได้ยินเสียงร้องของอาเหว่ย” จวินต้าเกอเอ่ยยามทอดสายตามองใบหน้าที่แสดงออกถึงความสุขสมยามถูกกระแทกด้วยความต้องการ“ได้สิน้องข้า” เฮยต้าเกอตอบรับ ผนังอ่อนนุ่มช่างบีบรัดเสียจนเขาถึงหายใจหอบแรงทำให้เขาขยับโยกกายด้วยความหนักหน่วงรุนแรงตามความต้องการที่มันเพิ่มมากขึ้น...และมากขึ้นจางเหว่ยสัมผัสได้ถึงกระแสความร้อนที่ไหลพุ่งเข้าสู่ร่างกายพร้อมกับเสียงครางของเฮยต้าเกอ ก่อนคลื่นความร้อนครั้งใหม่จะถาโถมเข้าหา“ข้าถูกพี่ใหญ่กลั่นแกล้ง แล้วยังจะต้องพาหมูป่ากลับมา ระหว่างทางก็ยังจะพลัดตกลงไปในแม่น้ำด้วย กว่าจะถึงบ้านก็เหนื่อยมิใช่น้อย เมียข้าช่วยปลอบโยนข้าหน่อยนะ” จวินต้าเกอเอ่ยขณะสองมือใหญ่ลูบคลำไปทั่วร่างกายพร้อมกับใช้แท่งใหญ่ยักษ์ของตนเองกดรุกล้ำเข้าไปในร่องทางด้านหลังของจางเหว่ยยามถูกผนังอบอุ่นห่อหุ้มและรัด ความต้องการของจวินต้าเกอก็เพิ่มมากขึ้น เขาขยับกายตัวราวกับพายุฝนที่กำลังกระหน่ำสาดซัดอย่างรุนแรง“หากเมียข้ายังจะทำสีหน้าเช่นนั้น...วันนี้เราคงจะมิได้ไปหานายท่านกับคุณชายเป็นแน่” เฮยต้าเกอกล่าวขณะวางมือลูบไล้บนอกเมียรัก“ข้า

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 121

    “ท่าน...ท่านพี่” จางเหว่ยเอ่ยทักสองบุรุษที่เดินเข้ามาในบ้านเสียงแผ่วเบา ด้วยอย่างไรเขาก็ยังมิชินกับการเป็นฟูเหรินของบุรุษด้วยกัน แต่มิใช่เพราะเขาจำต้องผูกพันธสัญญาหรือมิเต็มใจอยู่กับกระทิงสองพี่น้องหรอกนะ แต่เพราะใจของเขาก็รู้สึกดีกับทั้งสองคนอยู่มิน้อย ยิ่งเมื่อผ่านพ้นค่ำคืนผูกพันธสัญญาไปแล้ว เฮยต้าเกอและจวินต้าเกอก็ดูแลเขาอย่างดี“มิสบายหรือเมียข้า” เฮยต้าเกอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“ข้ามิได้เป็นอะไร หากแต่ท่านพี่กับท่านพี่จวิน เหตุใดถึงได้กลับมาเรือนเร็วเช่นนี้ ยังมิทันจะเที่ยงเลย ท่านมิสบาย...บาดเจ็บใช่หรือไม่” จางเหว่ยเอ่ยถามพลางมองดูว่าบุรุษตรงหน้ามีบาดแผลที่ส่วนใดของร่างกายบ้าง“มิได้เป็นเช่นนั้น วันนี้โชคดี ได้หมูป่าตัวใหญ่มา เลยคิดกันว่ารีบกลับบ้านจะดีกว่า หมูป่าตัวใหญ่เช่นนี้ถ้าได้นั่งล้อมวงกินกันหลาย ๆ คนคงจะดีมิใช่น้อย อาเหว่ยอยากพามันไปกินกับนายท่านกับคุณชายหรือไม่” เฮยต้าเกอกล่าวถึงเสวียนลิ่วหลางกับเก้าเทียนรุ่ย“แต่กว่าท่านพี่จะจับมันได้...มิง่ายเลยนะขอรับ” แม้จะดีใจที่กระทิงสองพี่น้องยังคิดถึงความรู้สึกของเขา“สัตว์มีอยู่เต็มป่า จะจับเมื่อไหร่ก็ได้ แต่นายที่ดีอย่างนายท่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 120

    “อ่า...รอค่ำคืนนี้ก่อนนะเมียรักของข้า รุ่งสางแล้วเราต้องเร่งทำเวลา” ยามนี้จวนแม่ทัพยังมีงานให้เขาทำอยู่ อีกทั้งยังบางคนที่มิอยากให้เขาออกไปใช้ชีวิตที่อื่นก็มาคอยอ้อนวอนขอร้อง“อื้อ...” เก้าเทียนรุ่ยรับคำก่อนจะยกตนเองขึ้นเพื่อตอบรับเจ้ายักษ์ใหญ่ที่ค่อย ๆ สอดดันเข้ามาในร่างก่อนจะถอนออกอย่างเชื่องช้า แล้วย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งจะลึกขึ้นเรื่อย ๆร่างเล็กบางไหวโยกตามแรงเคลื่อนไหว ผนังด้านในรับรู้สึกแท่งร้อนที่บุกรุกเข้ามาในกายครั้งแล้วครั้งเล่า บ้างก็เชื่องช้า บ้างก็รวดเร็ว“ท่านพี่”ใบหน้าแดงระเรื่อของเก้าเทียนรุ่ย ดวงตากลมใสที่ยามนี้ฉายแววปรารถนาอย่างชัดเจนทำให้เสวียนลิ่วหลางยิ่งถาโถมแท่งร้อนบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามด้วยความปรารถนาที่รุนแรง เสียงสะท้อนของร่างกายที่กระทบกันดังทั่วห้องเช่นเดียวกับเสียงหอบของสองคนที่ดำดิ่งกับความใกล้ชิดเสวียนลิ่วหลางพลิกกายบางให้ลงนอนคว่ำ ใบหน้าเก้าเทียนรุ่ยแนบกับหมอนหนุน แขนแกร่งสอดรัดเอวเล็กขณะกดสะโพกพาแท่งเหล็กร้อนให้ดำดิ่งสอดแทรกไปในช่องทางที่อ่อนนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเสียงคำรามจะแผดดังขึ้นพร้อมกระแสความร้อนไหลพุ่งเข้าสู่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 119

    “เอาเป็นข้า...” เด็กน้อยเคลื่อนไหวกายเพียงเล็กน้อยแต่กลับรวดเร็วเสียจนแทบจะมองมิทัน เพียงแค่มิถึงหนึ่งจิบชาดูเหมือนว่าทุกคนที่ยังคงอ่อนแรงยกเว้นเสวียนลิ่วหลางก็ดีขึ้น“ข้าช่วยพวกเจ้าได้เพียงแค่นี้ ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของพวกเจ้าเองแล้ว”“เดี๋ยว!” เก้าเทียนรุ่ยร้องเรียกเด็กน้อยตรงหน้าที่หันกายจะจากไป“มีอะไรอีก ข้ามิได้คิดร้ายกับพวกเจ้านะ”“เปล่า ข้ามิได้คิดเช่นนั้น แต่...” เก้าเทียนรุ่ยขบเม้มปากเข้าหากัน มิรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกของเขาเองหรือเปล่าที่รู้สึกคุ้นเคยกับเด็กน้อยตรงหน้าประมาณหนึ่ง จนมันอดที่จะคิดมิได้“หากเจ้ามิพูดอะไร ข้าจะไปแล้วนะ”“เจ้า...คุณเป็นหนึ่ง” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยเสียงแผ่วเบา“หือ...” คิ้วของเด็กน้อยเลิกขึ้น“ใช่หรือไม่”เด็กน้อยคลี่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “จะใช่หรือมิใช่ จะมีสิ่งใดแตกต่างไปล่ะ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมิอาจย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งใดได้แล้ว เจ้านั่นแหละ...ได้โอกาสแล้วก็ใช้ชีวิตนับจากนี้ไปให้มีความสุขเถอะ” กล่าวจบเด็กน้อยที่มิบอกกล่าวให้ทุกคนรู้เป็นผู้ใดจากไปพร้อมกับร่างของเสวียนลิ่วหลางที่ทรุดล้มลงศีรษะแนบชิดกับลำคอเก้าเทียนรุ่ย“ท่านพี่!”“ท่านแม่ทัพ!”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status