ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
"แสนดีๆ ทางนี้" ลินายืนโบกมืออยู่ใต้ร่มไม้ตรงทางเข้าคณะ "ลินา แกอ่านหนังสือมาไหม" แสนดีกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาทางหญิงสาวที่ยืนรอเธออยู่พักหนึ่งแล้ว "อ่านมาอยู่เหมือนกัน รีบไปกันเถอะเดี๋ยวไม่ทัน" ลินาดึงแขนเพื่อนให้เดินตามเธอมา แสนดีเป็นเพื่อนที่สนิทกับลินามากที่สุดเพราะทั้งสองเรียนคณะเดียวกันและรู้จักกันตอนปีหนึ่งตอนรับน้อง หลังจากที่ทั้งสองสอบเสร็จช่วงเย็นก็นัดไปกินชาบูร้านประจำกับแสนดี เพราะถ้าสองคนได้ทำงานแล้วอาจจะไม่ค่อยเจอกันอีกก็ได้ นี่เลยเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองเพื่อนสนิทจะได้ไปสังสรรค์ด้วยกัน ที่ร้านชาบู "แก ว่าเราจะสอบผ่านไหม" แสนดียังคงกังวลเกี่ยวกับผลสอบของตัวเอง "ผ่านอยู่แล้ว เชื่อฉันสิ" ลินาคีบเนื้อติดมันที่สุกแล้วใส่ไปในจานของแสนดี ผมยาวที่ดัดลอนหน่อยๆ เงยหน้ามามองเพื่อนสนิท "แกเองก็ต้องกินเยอะๆ ด้วยนะลินา ช่วงนี้แกดูผอมไปมากเลย" แสนดีพูดพลางทำท่ายกหน้าอกตัวเองขึ้นล้อเลียนลินา "ฉันซ่อนรูปย่ะถึงน้ำหนักจะลด แต่ก็สะบึ้มเหมือนเดิม" ลินาก็ไม่ยอมยืดหน้าอกใส่หน้าของแสนดีโดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีผู้ชายโต๊ะข้างๆ มองพวกเธอสองคนอยู่ "อินคา" ลินาพูดเบาๆ พร้อมกับมองหน้าผู้ชายที่อยู่โต๊ะข้างๆ แล้วก็ยิ้มอย่างอายๆ ทำให้แสนดีหันไปมองตามบ้าง "หวัดดีอินคา" แสนดีร้องทักก่อน "หวัดดีแสนดี หวัดดีลินา" อินคายกมือทักทาย พร้อมทั้งโปรยยิ้มหวานๆ มาทางลินากับแสนดี ลักยิ้มบุ๋มๆ ที่แก้มของอินคาทั้งสองข้างทำให้ใจของลินาเต้นตึกตักๆ หัวใจเต้นแรงเป็นบ้าเลยคนอะไรหล่อขนาดนี้เนี่ย จนเธออยากจะม้วนตัวลงไปใต้โต๊ะซะเดี๋ยวนี้เลย "เก็บอาการหน่อยลินาน้ำลายไหลหมดแล้ว" แสนดีเอื้อมมือมาเช็ดมุมปากของเพื่อนสาวที่กำลังมองชายหนุ่มที่อยู่โต๊ะข้างๆ "อินคา เราไม่น่าเป็นเพื่อนกันเลยเนอะ" ลินาก้มหน้าก้มตาบ่นกับถ้วยน้ำจิ้มที่อยู่ตรงหน้า "แกก็บอกเขาไปสิว่าชอบเขาน่ะ จะมาเก็บไว้ทำไม" แสนดีพูดเสียงดัง จนลินาต้องรีบเอามือปิดปากของเพื่อนเอาไว้ "อย่าเสียงดังไปแสนดี" แล้วลินาก็หันไปมองอินคาที่กำลังมองมาที่หญิงสาวทั้งสอง "อิ่มแล้ว อยากกลับแล้ว กลับกันเถอะ" ลินาบอกพร้อมลุกขึ้นพรวดพราดจากโต๊ะที่นั่งอยู่ "ฉันยังไม่อิ่มเลย นั่งลงก่อน" แสนดีดึงลินาให้นั่งลงอย่างใจเย็น "ฉันจะคลั่งตายเพราะลักยิ้มน่ารักๆ นั้นอยู่แล้วนะแสนดีไปกันเถอะ" ลินานั่งลนลานอยู่ไม่ติด คงจะเขินอายเพื่อนชายที่กำลังมองมาจนเก็บอาการไม่อยู่ "อืม จริงสิ อินคานี่หล่อจริงๆ นะ เขามีแฟนหรือยังเหรอ" แสนดีพูดพร้อมกับคีบเนื้อเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ "มีแล้ว ฉันไง" ลินาพูดแล้วชี้มาที่ตัวเอง พร้อมทำหน้าทะเล้นใส่ "อย่าพูดแบบนั้น ฉันจะอ้วก" แสนดีทำท่าพะอืดพะอม "รู้แล้วน่า กลืนเข้าไปเลย" มันก็จริง อินคาหล่อระดับพระเอกซีรีส์เกาหลี สูงขาว แถมยังเรียนเก่ง ได้ข่าวว่ามีโมเดลลิ่งเข้ามาติดต่อให้ไปเป็นนายแบบอีก รูปหล่ออนาคตไกลขนาดนี้ แล้วดูเธอสิ แค่คิดหญิงสาวก็เตรียมอกหักรอแล้วแหละ "อ้าว เป็นไรแกนั่งเงียบเลย ฉันแค่แซวเล่น แกน่ะเหมาะสมกับอินคาที่สุดแล้ว ผมยาว ตากลมโต ปากนิดจมูกหน่อย แถมยังมีเสน่ห์เวลายิ้มอีกด้วย ใครได้แกเป็นแฟนนะ โชคดีไปทั้งชาติลินาเอ๊ย" แสนดีพูดพลางพินิจใบหน้าของเพื่อนสาวที่นั่งหน้ายู่อยู่ "แกหยุดเลย ฉันจะอ้วกกับคำพูดเลี่ยนๆ ของแก" ลินาบีบแก้มสองข้างของแสนดีจนร้องดังลั่น "โอ๊ย เจ็บนะ" แสนดีตีมาที่แขนของลินาจนสุดแรงนี่อาจจะเป็นการทานเนื้อย่างที่โหดที่สุดแล้วล่ะ หนึ่งสัปดาห์ต่อมา 'ผลตรวจของพ่อเป็นยังไงบ้างคะแม่' ลินาพูดเมื่อคนปลายสายรับ 'แม่แทบไม่อยากจะเชื่อ ว่าพ่อจะหายป่วยจากโรคร้าย พ่อแข็งแรงดี ไม่ได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งเหมือนที่หมอบอก แม่โล่งใจมากลินาเอ๊ย' 'จริงเหรอคะแม่ หนูดีใจที่สุดเลย' 'เพราะปาฏิหาริย์มีจริง แม่เชื่ออย่างนั้น' 'ปาฏิหาริย์เหรอคะ' 'ใช่ ก่อนหน้านั้นพ่อป่วยเป็นมะเร็งจริงๆ แต่พ่อไม่ได้บอกใครในบ้านเลย แม่เองก็เสียใจที่ดูแลพ่อไม่ดี แล้วรอบนี้ผลตรวจกลับตรวจไม่พบก้อนมะเร็งนั่น ปาฏิหาริย์มีจริงลินา' น้ำเสียงที่แม่ของเธอพูดกึ่งจะร้องไห้ ทำให้ลินาเองก็น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน แล้วเธอก็กดวางสายไป "ปาวกะ" จู่ ๆ หญิงสาวก็พูดชื่อนี้ออกมาและเดินตรงไปยังร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อบะหมี่ นมและขนมไว้กินตอนมื้อค่ำนี้ ระหว่างเดินไปความคิดลึกๆ ในใจของลินาเองก็หวังว่าจะได้เจอเขาด้วย ไม่ว่าจะเป็นปาวกะหรืออคิราห์ก็ได้ทั้งนั้น แต่เธอคงไม่บังเอิญเจอเขาถึงสองครั้งในร้านสะดวกซื้อแบบนี้หรอกแต่ลึกๆ ในใจก็หวังว่าจะได้เจอเขาอยู่บ้าง เมื่อเธอเดินตรงไปยังโซนพวกน้ำและกาแฟ ก็เห็นเขาคนที่เธออยากจะเจอมาซื้อกาแฟแก้วใหญ่ และเครื่องดื่มชูกำลังที่อยู่ในตะกร้าจำนวนหลายสิบขวดและตอนนี้ลินามั่นใจแล้วว่าเขาไม่ใช่คน และไม่ใช่ผี อาจจะเป็นยมทูตหรือพวกเทพแบบในหนังที่เคยดูแต่มันมีอยู่จริงๆ เหรอ เทพแห่งไฟอะไรทำนองนั้นน่ะ "ปาวกะ" หญิงสาวเรียกชื่อของเขาที่กำลังบรรจงกดกาแฟแก้วใหญ่ถึงสองแก้ววางไว้หน้าตู้กดน้ำ "ข้าชื่อ…อคิราห์ ทำไมเจ้าถึงสอนไม่จำ" ชายหนุ่มตรงหน้าทำหน้าหงุดหงิดใส่หญิงสาวอย่างอดไม่ได้ "อ่อ อคิราห์" ลินายืนเกาหัวงงๆ แล้วมันจะสำคัญอะไรล่ะเพราะยังไงเขาก็คนเดียวกันอยู่แล้ว "นี่คุณดื่มพวกนี้คนเดียวเหรอ" เธอชี้ไปที่ตะกร้าที่มีเครื่องดื่มชูกำลังเกือบสิบขวด และกาแฟแก้วใหญ่อีกสองแก้วที่เขาถืออยู่ในมือ "อือ ทำไม" เขาเอียงคอพูดหน้าตาย "หัวใจคุณอาจจะวายตายได้นะคะ" "หัวใจข้าจะวายตายเพราะการข้อพรพร่ำเพรื่อของเจ้านี่แหละ" เขาชะโงกหน้ามาใกล้หญิงสาว เธอร้อนวูบวาบที่ใบหน้าทันที ไม่ใช่ว่าอายนะ ไอร้อนออกมาจากตัวของเขาตลอดเวลา อย่างกับถ่านร้อนๆ ที่มาอยู่ใกล้หน้าอย่างนั้นแหละ "ถ้าหนูขอพร…หนูจะได้เจอคุณบ่อยๆ ใช่ไหมคะ" ลินาจับตะกร้าที่เขาถือไว้เพราะกลัวว่าเขาจะเดินหนีไปซะก่อน "ขอบคุณนะคะที่ช่วยพ่อของหนูไว้" ลินายกมือไหว้ผู้ชายที่น่าเกรงขามที่ยืนอยู่ตรงหน้า "เจ้ามันน่ารำคาญ" เสียงทุ้มใหญ่พูดเสียงเรียบเฉยพร้อมกับเดินเข็นรถไปอีกทาง "แต่ถึงยังไงหนูก็ขอบคุณนะคะ จากใจเลย" *แจ้งรี้ดค่ะ นิยายเรื่องปาวกะมี40ตอนนะคะ ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ“ลินาคุยกับใครอ่ะ เปิดประตูเลยนะเรย์ได้ยินเสียงผู้ชาย ถ้าไม่เปิดเรย์จะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” เป็นน้องชายของเธอนั่นเองที่มาเคาะประตู“ขัดจังหวะข้าจริงๆ อยากให้ข้าเผาคนมาเคาะไหม” เขาถามหญิงสาวพร้อมกับเสียงจิปาก“ไม่ได้ค่ะ นั่นมันน้องของหนูนะเขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่าสงสารจะตาย”“เรย์ พี่ดูหนังในโทรศัพท์น่ะ มีผู้ชายที่ไหนล่ะ” ลินารีบเปิดประตูออกมา“แล้วไป เรย์คิดว่าแอบพาผู้ชายมาจะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” หญิงสาวรู้ว่าน้องชายของเธอพูดไปแบบนั้นเอง เพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอมากแค่ไหนถ้าจะคบกับใครสักคน แบบพี่อาร์มเธอก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นลูกคนรวยแล้วเขาก็กลับไปอยู่กับพ่อของเขาแล้วซึ่งก็เป็นเจ้าของบริษัทที่เธอเคยทำอยู่เพราะตอนนี้เธอลาออกจากบริษัทแล้ว แม้อาร์มจะชวนไปทำงานด้วยแค่ไหนเธอเองก็ปฏิเสธเขาอยู่ดีและก็เพราะเธออีกน่ะแหละเรย์ถึงได้จมน้ำ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงที่จมน้ำอยู่ในสระตรงสวนสาธารณะเป็นเธอ จึงกระโดดลงไปช่วยแต่เขาไม่รู้ว่าบ่อนั้นมันลึกแถมยังลึกเป็นขั้นบันไดอีก โชคดีที่พี่อาร์มมาช่วยได้ทันไม่งั้นน้องชายของเธอคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่ แม้เรย์จะบอกว่าอาร์มสามารถไล่ผีไปได้ เธอก็ไม่อยาก
เมื่อลินาเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยก็เดินสวนกับอาร์มพอดี ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะพุ่งเข้ากอดเธอในทันทีจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลาไปด้านหลังเพราะขนาดตัวของชายหนุ่มที่ใหญ่กว่าเธอมาก“ลินา ไปไหนมาพี่แทบจะบ้าตายแล้วรู้บ้างไหม พี่จะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มสวมกอดเธอจนแน่นพร้อมกับร้องไห้ ใช่แล้วเขาร้องไห้“พี่อาร์ม” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอบคุณนะขอบคุณที่กลับมา” เขาใช้สองมือจับลูบผมของเธอขึ้นลงแล้วจูบไปที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างลืมตัวและสวมกอดร่างเล็กอีกครั้งจนเธอแทบหายใจไม่ออก“พี่อาร์ม หนูกลับมาแล้วแต่พี่จูบหนูทำไมคะ” หญิงสาวผลักเขาออกในทันที“พี่ขอโทษ พี่ดีใจไปหน่อย” ชายหนุ่มเกาท้ายทอยอย่างเขินอายเมื่อกี้เขาเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ“ลินา เป็นแฟนกับพี่ไหม เรามาคบกันเถอะนะ” ชายหนุ่มที่เดินนำเธอไปนิดหน่อยหยุดดักเธอไว้และสารภาพความในใจทั้งหมดที่มี เพราะเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปอีกแล้ว“คะ” หญิงสาวยังงงๆ“พี่รักลินานะ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหมให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้ดูแลเธอได้ไหม” ชายหนุ่มที่ยืนรอฟังคำตอบจากหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวจนห่างกันแค่คืบ
แผ่นกระดาษลอยลงมาจากท้องฟ้าและกลายเป็นผืนผ้าที่ไม่มีตัวอักษรตกมาอยู่ในมือของเจ้าของในทันทีที่เขาแบมือรับ“เทพเจ้าเล่ห์ ทำให้มนตร์ข้าเสื่อมจนได้สินะ” เขาขย้ำผืนผ้านั้นและปาลงไปกับพื้น“จะให้ข้าทำอย่างไรต่อดีคะท่านธารา” นางรับใช้ของธารายืนก้มหน้าพร้อมฟังคำสั่งของเจ้านายอย่างจงรักภักดี“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เจ้าคอยดูเถอะผลที่ตามมาจะทำให้เจ้าปาวกะถึงกับกระอักเลือดตายเลยทีเดียว ฮึๆ”ที่โรงพยาบาล“อาการของพ่อไม่ดีเลยเรย์ ฮือๆ” เสียงร่ำไห้ของแม่ที่นั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้เมื่อลูกชายของเธอมาถึง“พ่อต้องไม่เป็นอะไรครับแม่ หมอต้องช่วยพ่อได้แน่ๆ” เรย์นั่งสวมกอดแม่ของตนเองที่ร้องไห้ดูเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้เขาเองก็ไม่ต่างกันแถมพี่สาวของเขายังมาหายตัวไปอย่างปริศนาอีก“แล้วลินาล่ะลูก กลับมาหรือยัง” คนเป็นแม่ถามลูกชายเมื่อเห็นว่าไม่ได้มาพร้อมกัน“เออ…ลินาติดงานไปต่างจังหวัดกำลังจะมาครับ” เรย์ตอบไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้แม่ของเขาต้องคอยเป็นห่วงลินาไปด้วย แล้วถ้าพี่สาวกลับมาไม่ทันเขาจะตอบแม่ว่าอย่างไรดีจนผ่านไปสองชั่วโมงที่สองแม่ลูกกลับต้องมาพบกับข่าวร้าย พ่อเสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย เหมือนดั่
ชายหนุ่มร่างสูงอุ้มหญิงสาวมายังเตียงนอนของเขาแล้วค่อยๆ วางนางลงอย่างช้าๆ อย่างทะนุถนอมฝ่ามือหนาค่อยๆ เขี่ยแก้มของนางอย่างหวงแหนเพียงแค่คิดว่าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่นเขาก็รู้สึกอึดอัดและอยากจะเผาทุกคนให้มอดไหม้ที่บังอาจเข้ามาใกล้มนุษย์ตัวเล็กๆ แบบนี้“ข้าคงตกหลุมรักเจ้าจริงๆ ลินา” เขาค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกและก้มลงประทับริมฝีปากไปที่เรียวปากสวยของหญิงสาวที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ“อือ” หญิงสาวที่ถูกเขาจูบพูดอู้อี้ในลำคอเมื่อชายหนุ่มสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานของหญิงสาว“ข้าทำผิดอย่างมหันต์ลินา ข้าถึงถูกลงโทษอย่างนี้” เขาพูดพร้อมกับค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวล้ำเธอมากขนาดนี้“คุณ” ลินาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ“ข้ากำลังมีกิเลสกับเจ้า ข้ามีความรู้สึกแปลกๆ อยู่ภายในตัวของข้า” ปาวกะพูดพร้อมกับก้มลงไปจูบหญิงสาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ลินาที่นอนอยู่กลับโอบกอดต้นคอที่แข็งแรงของเขาเอาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะหนีหายไป“เจ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่…รู้ไหม” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าพูดกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวที่กำลังโอบรั้งต้นคอแข็งแรงให้ก้มหน
เช้าวันใหม่ที่บริษัทที่ลินาทำงานอยู่ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นนายแบบที่กำลังถูกช่างแต่งหน้ารุมล้อมอยู่เพราะว่าเขามีถ่ายแบบหลายชุดกับการออกนิตยสารเล่มใหม่เพื่อขอบคุณแฟนคลับพร้อมแจกลายเซ็นในงานมีตติ้งของอินคาหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยุ่งกับการทำงานอยู่หันไปมองอินคาด้วยแววตาที่ชื่นชมเขา ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลขนาดนี้แต่แปลกที่หัวใจของลินาไม่ได้เต้นแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในทางกลับกันเธอกลับรู้สึกหัวใจพองโตเมื่อนึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของปาวกะและรสจูบที่เทพอย่างเขามอบให้แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ไม่เป็นไร ก็เขาเป็นเทพเย็นชานี่เนอะ เพียงแค่คิดแบบนี้ก็ทำให้หญิงสาวเผลอยิ้มออกมา แต่รู้ไหมว่าการกระทำของเธออยู่ในสายตาของธาราตลอด ใช่แล้วเขาตามเธอไปทุกหนทุกแห่งเพื่อกดดันปาวกะให้ดึงคัมภีร์ออกมาจากตัวของเธอเองยังไงล่ะ“เทพที่มีกิเลสกับมนุษย์สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตตนเองและสูญสลายไปเป็นเถ้าธุลีตลอดกาลสินะ งั้นข้าจะช่วยให้เจ้ารีบหายไปแล้วกันเจ้าเทพแห่งไฟ” เมื่อคิดดังนั้นธารากับร่ายมนตร์ไปที่หญิงสาวที่กำลังยุ่งกับงานตรงหน้า จู่ๆ เธอก็เกิดล้มลงหมดสติไปในทันที แล้วตัวที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของหญิงสาวกลับถูกอุ้มข
“คุณจ้องหนูทำไมคะ” ลินาถามปาวกะเมื่อเขายังคงมองเธอไม่ละสายตา“เพราะเจ้าขี้เหร่ไง ข้าเลยสงสัยว่าทำไมชายผู้นั้นถึงมาวนเวียนแต่กับเจ้า” ปาวกะพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาวที่กำลังเดินไปซื้อข้าวกล่องมาทานเพราะเธอยังไม่อยากกินขนมที่เขาซื้อมาให้“ใครคะ”“นั่นไง” ปาวกะพูดเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เขากำลังพูดถึงเดินเข้ามาใกล้ลินา“ลินามาซื้อข้าวเหรอ มากินในร้านด้วยกันไหม” อาร์มเดินเข้ามาทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับดีใจที่ได้พบเธอแบบนี้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเขาเห็นปาวกะก้าวขามายืนอยู่ข้างๆ ลินาแบบแขนแนบชิดกัน“ได้ค่ะพี่” เธอตอบรับทันทีเพราะว่าหญิงสาวอยากจะรู้ว่าปาวกะที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอนั้นจะมีอาการเป็นอย่างไร“ไหนเจ้าบอกว่าจะกลับไปกินที่ห้องกับข้าไง” เขาโอบไหล่ของหญิงสาวราวกับมนุษย์ที่หึงหวงคนรักของตัวเองอยู่“คุณบอกไม่ชอบกินของพวกนี้นี่คะ” เธอหันไปว่าเขาจนปาวกะถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อหญิงสาวขัดใจเขาเวลาอยู่ต่อหน้าของมนุษย์ที่เขาไม่ชอบหน้าสักเท่าไหร่“ก็ได้ งั้นเจ้ากินที่นี่เลย” ปาวกะไม่พูดเปล่ากับเดินนำเข้าไปในร้านและลินากับอาร์มก็ตามเข้าไปนั่งด้วย ตลอดเวลาที่ทั้งสองทานอาหารกัน ปาวกะสังเก