ลินากลับมาที่ห้องเช่าพร้อมกับขนม นมและบะหมี่ที่เธอซื้อมาเมื่อครู่นี้ และไขกุญแจเข้าไปในห้อง
"ทำไมวันนี้อากาศมันร้อนจังนะ" หญิงสาวเดินเหงื่อท่วมตัวเข้าไปในห้องนอนแล้วเปิดแอร์ทิ้งเอาไว้ เพื่อที่ว่าเวลาอาบน้ำเสร็จจะได้กระโดดขึ้นเตียงเลย หญิงสาวร่างบางในชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอรัดติ้ว เปิดห่อบะหมี่แกะใส่ชามแล้วจัดการต้มน้ำร้อนและทิ้งซองบะหมี่ลงในถังขยะ แต่เธอก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งอยู่ในนั้น "เครื่องดื่มชูกำลัง" หญิงสาวเห็นขวดพวกนั้นอยู่ในถังขยะในห้องครัว หรือว่าเธอจะเข้าห้องผิด แต่ของใช้ภายในห้องก็ของเธอทั้งนั้น หรือว่าจะเป็นขโมย หญิงสาวเริ่มใจคอไม่ดีเพราะช่วงหลังมานี้มีอะไรเกิดขึ้นแปลกๆ กับเธอเยอะมาก เธอจึงเลยเดินสำรวจรอบห้องอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีขโมยเข้ามาแอบแฝงจริงๆ ไม่มีอะไรที่ผิดปกตินอกจากเครื่องดื่มชูกำลังที่อยู่ในถังขยะเท่านั้น อาจจะเป็นแสนดีที่เข้ามาเมื่อครั้งก่อนแล้วกินของพวกนี้ก็ได้ เธอเองอาจไม่ทันได้เห็น แต่มันไม่ควรจะเยอะแบบนี้ไหม ไม่หรอกแสนดีมาบ่อยเลยกินเยอะก็แค่นั้น ความคิดในหัวของหญิงสาวกำลังต่อสู้กันไปมาจนเกิดความกลัวขึ้นมานิดๆ แต่ก็ต้องยอมแพ้เพราะขโมยที่ไหนจะเข้ามาในห้องของเธอไม่มีอะไรให้ขโมยสักหน่อย หลังจากที่ลินากินบะหมี่เสร็จจึงเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำที่อยู่แยกห้องนอนมาอีกที เพราะห้องเช่าที่เธออยู่ถูกจัดแบ่งเป็นโซนให้เธอได้สะดวกสบายอยู่บ้างถึงพื้นที่จะเล็กแต่การใช้สอยถือว่าคุ้ม กรุ๊งกริ๊งๆๆๆ เสียงกังสดาลที่แขวนอยู่ตรงประตูหน้าห้องดังขึ้นอีกแล้ว มันเป็นกังสดาลที่เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ตั้งแต่กลับมาจากบ้านที่ต่างจังหวัด เพราะเธอก็เริ่มชอบเสียงของมันซะแล้ว ถึงศีรษะของหญิงสาวจะสูงไม่ถึง แต่เวลาเดินผ่านประตูเธอก็ชอบเอามือไปตีกังสดาลให้เกิดเสียงใสๆ นั้นอยู่เสมอ หญิงสาวรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วแล้วออกมาใส่เสื้อผ้าด้วยใจ ตุ๋มๆ ต่อมๆ กังวลไปต่างๆ นานากลัวว่าจะเป็นขโมยที่บุกเข้ามาจริงๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอจะทำอย่างไรดี ลินาเดินผ่านห้องนั่งเล่นไปก็เหลือบไปเห็นแก้วกาแฟสองแก้วที่วางอยู่บนชั้นวางหนังสือ มันแทบจะทำให้หัวใจของเธอจะกระเด็นออกมาให้ได้ ปาวกะคือคนแรกที่เธอสงสัย หรือว่าเขาจะอยู่ที่นี่งั้นหรือ หญิงสาวค่อยๆ เดินไปเปิดไฟในห้องนอน เมื่อเธอเดินเข้าไปภายในห้องนอนของตัวเองแอร์ที่เปิดมันเย็นฉ่ำจนเธอต้องกอดตัวเองเพราะความหนาวเย็นสะท้าน "นี่ฉันเปิดแอร์จนหนาวขนาดนี้เลยเหรอ" หญิงสาวหยิบรีโมทขึ้นมาดูตัวเลขที่ขึ้นหน้าจอใสๆ แล้วเหลือบมองไปยังเตียงนอนของตัวเอง มีแมวสีขาวนอนอยู่ เธอรู้สึกคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี แมวตัวนี้อาจจะเป็นแมวของปาวกะ แต่เธอก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นแมวที่นอนอยู่บนเตียงกลับเดินไปที่หน้ากระจกและทาโลชั่นตามซอกคอและแขนขา ก่อนจะดึงยางรัดผมออกปล่อยผมให้สยายไปตามแผ่นหลังบางที่ใส่ชุดนอนแขนยาวสีขาวกางเกงขาสั้นและแอบมองแมวตัวนั้นผ่านกระจก มันยังคงนอนนิ่งไม่ขยับเปลี่ยนท่าแต่อย่างใด แถมยังหายใจจนท้องกระเพื่อมเป็นจังหวะอีกด้วย ลินากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แล้วค่อยๆ เดินตรงไปยังเตียงนอนที่มีแมวนอนอยู่ "ไม่หรอก พี่ไม่อุ้มหนูแล้วแหละแล้วก็ไม่จูบด้วย พี่ไม่ชอบไฟดับแบบนั้นอีกแล้ว" เธอค่อยๆ แทรกตัวลงนอนไปในผ้าห่ม อุณหภูมิในห้องเย็นฉ่ำจนเธอรู้สึกแสบจมูก ร่างเล็กจึงพลิกตัวนอนตะแคงข้างหันหน้าไปทางแมวสีขาวที่นอนนิ่งอยู่ มันคงเชื่องมากจริงๆ เพราะไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยสักนิด "คงเป็นแมวของปาวกะสินะ เจ้าของไปไหนแล้วล่ะทำไมถึงเอามาทิ้งไว้ที่นี่ พี่ได้ยินว่าปาวกะถูกลงโทษ แต่ยังไงก็ขอบคุณเขานะที่ช่วยพ่อของพี่เอาไว้" ลินาพูดไปพร้อมกับเอามือลูบไปที่คางของมันอย่างเบามือ พึ่บ! ไฟดับ "สาบานว่าเมื่อกี้ไม่ได้จูบ" ลินาพูดพร้อมกับรีบลุกจากเตียงนอนอย่างลนๆ แต่ทันใดนั้นก็มีมือหนาใหญ่มารั้งเอวของเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอลุกไปจากอ้อมแขนที่แข็งแรงนั้นได้ “ปล่อยนะ คุณเป็นใครโจรเหรอ ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ” ลินาดิ้นคลุกอยู่ในอ้อมแขนที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครที่เข้ามาถึงในห้องของเธอขนาดนี้ “ข้าเอง อคิราห์” เสียงแหบพร่าพูดอย่างอ่อนแรงแต่เขาก็ยังไม่คลายอ้อมแขนนั้นออกจากหญิงสาว “ปาวกะเหรอ” หญิงสาวพูด “อย่าเรียกข้าว่าปาวกะ เดี๋ยวมีใครมาได้ยิน เรียกข้าอคิราห์” “จะปาวกะหรืออคิราห์ยังไงก็คนเดียวกันอยู่แล้ว ทำไมต้องให้หนูเรียกอคิราห์ให้สับสนด้วย” “จงเรียกข้าว่า อคิราห์” หญิงสาวไม่ตอบได้แต่ฟังนิ่งเงียบในห้องที่มันมืดแต่ยังโชคดีที่พอจะมีไฟจากทางหน้าต่างสาดส่องเข้ามาสลัวๆ ทำให้มองเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าอยู่บ้าง ทั้งที่อุณหภูมิห้องเย็นขนาดนี้ แต่ทำไมตัวของเขาถึงอุ่นได้ถึงเพียงนี้ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของเขาลอยเข้ามาแตะจมูกของหญิงสาวจนเธอเผลอหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มไปกับความรู้สึกที่ผ่อนคลายอย่างไม่ถูก "หนูไม่ชอบความมืดแบบนี้ คุณช่วยทำให้ไฟติดได้ไหม" หญิงสาวดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขาและเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มที่มีกลิ่นหอมตลอดเวลา พร้อมกับลมหายใจที่ร้อนผ่าวของเขาที่มากระทบกับหน้าผากของหญิงสาวพอดี และแล้วไฟภายในห้องก็ติดทำให้เห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ชัดขึ้นมาอีก “ใบหน้าของคุณ” ลินาเอามือปิดปากเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเพราะเธอแทบจะไม่เคยเห็นเขาในสภาพแบบนี้เลย“ลินาคุยกับใครอ่ะ เปิดประตูเลยนะเรย์ได้ยินเสียงผู้ชาย ถ้าไม่เปิดเรย์จะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” เป็นน้องชายของเธอนั่นเองที่มาเคาะประตู“ขัดจังหวะข้าจริงๆ อยากให้ข้าเผาคนมาเคาะไหม” เขาถามหญิงสาวพร้อมกับเสียงจิปาก“ไม่ได้ค่ะ นั่นมันน้องของหนูนะเขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่าสงสารจะตาย”“เรย์ พี่ดูหนังในโทรศัพท์น่ะ มีผู้ชายที่ไหนล่ะ” ลินารีบเปิดประตูออกมา“แล้วไป เรย์คิดว่าแอบพาผู้ชายมาจะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” หญิงสาวรู้ว่าน้องชายของเธอพูดไปแบบนั้นเอง เพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอมากแค่ไหนถ้าจะคบกับใครสักคน แบบพี่อาร์มเธอก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นลูกคนรวยแล้วเขาก็กลับไปอยู่กับพ่อของเขาแล้วซึ่งก็เป็นเจ้าของบริษัทที่เธอเคยทำอยู่เพราะตอนนี้เธอลาออกจากบริษัทแล้ว แม้อาร์มจะชวนไปทำงานด้วยแค่ไหนเธอเองก็ปฏิเสธเขาอยู่ดีและก็เพราะเธออีกน่ะแหละเรย์ถึงได้จมน้ำ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงที่จมน้ำอยู่ในสระตรงสวนสาธารณะเป็นเธอ จึงกระโดดลงไปช่วยแต่เขาไม่รู้ว่าบ่อนั้นมันลึกแถมยังลึกเป็นขั้นบันไดอีก โชคดีที่พี่อาร์มมาช่วยได้ทันไม่งั้นน้องชายของเธอคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่ แม้เรย์จะบอกว่าอาร์มสามารถไล่ผีไปได้ เธอก็ไม่อยาก
เมื่อลินาเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยก็เดินสวนกับอาร์มพอดี ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะพุ่งเข้ากอดเธอในทันทีจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลาไปด้านหลังเพราะขนาดตัวของชายหนุ่มที่ใหญ่กว่าเธอมาก“ลินา ไปไหนมาพี่แทบจะบ้าตายแล้วรู้บ้างไหม พี่จะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มสวมกอดเธอจนแน่นพร้อมกับร้องไห้ ใช่แล้วเขาร้องไห้“พี่อาร์ม” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอบคุณนะขอบคุณที่กลับมา” เขาใช้สองมือจับลูบผมของเธอขึ้นลงแล้วจูบไปที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างลืมตัวและสวมกอดร่างเล็กอีกครั้งจนเธอแทบหายใจไม่ออก“พี่อาร์ม หนูกลับมาแล้วแต่พี่จูบหนูทำไมคะ” หญิงสาวผลักเขาออกในทันที“พี่ขอโทษ พี่ดีใจไปหน่อย” ชายหนุ่มเกาท้ายทอยอย่างเขินอายเมื่อกี้เขาเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ“ลินา เป็นแฟนกับพี่ไหม เรามาคบกันเถอะนะ” ชายหนุ่มที่เดินนำเธอไปนิดหน่อยหยุดดักเธอไว้และสารภาพความในใจทั้งหมดที่มี เพราะเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปอีกแล้ว“คะ” หญิงสาวยังงงๆ“พี่รักลินานะ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหมให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้ดูแลเธอได้ไหม” ชายหนุ่มที่ยืนรอฟังคำตอบจากหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวจนห่างกันแค่คืบ
แผ่นกระดาษลอยลงมาจากท้องฟ้าและกลายเป็นผืนผ้าที่ไม่มีตัวอักษรตกมาอยู่ในมือของเจ้าของในทันทีที่เขาแบมือรับ“เทพเจ้าเล่ห์ ทำให้มนตร์ข้าเสื่อมจนได้สินะ” เขาขย้ำผืนผ้านั้นและปาลงไปกับพื้น“จะให้ข้าทำอย่างไรต่อดีคะท่านธารา” นางรับใช้ของธารายืนก้มหน้าพร้อมฟังคำสั่งของเจ้านายอย่างจงรักภักดี“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เจ้าคอยดูเถอะผลที่ตามมาจะทำให้เจ้าปาวกะถึงกับกระอักเลือดตายเลยทีเดียว ฮึๆ”ที่โรงพยาบาล“อาการของพ่อไม่ดีเลยเรย์ ฮือๆ” เสียงร่ำไห้ของแม่ที่นั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้เมื่อลูกชายของเธอมาถึง“พ่อต้องไม่เป็นอะไรครับแม่ หมอต้องช่วยพ่อได้แน่ๆ” เรย์นั่งสวมกอดแม่ของตนเองที่ร้องไห้ดูเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้เขาเองก็ไม่ต่างกันแถมพี่สาวของเขายังมาหายตัวไปอย่างปริศนาอีก“แล้วลินาล่ะลูก กลับมาหรือยัง” คนเป็นแม่ถามลูกชายเมื่อเห็นว่าไม่ได้มาพร้อมกัน“เออ…ลินาติดงานไปต่างจังหวัดกำลังจะมาครับ” เรย์ตอบไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้แม่ของเขาต้องคอยเป็นห่วงลินาไปด้วย แล้วถ้าพี่สาวกลับมาไม่ทันเขาจะตอบแม่ว่าอย่างไรดีจนผ่านไปสองชั่วโมงที่สองแม่ลูกกลับต้องมาพบกับข่าวร้าย พ่อเสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย เหมือนดั่
ชายหนุ่มร่างสูงอุ้มหญิงสาวมายังเตียงนอนของเขาแล้วค่อยๆ วางนางลงอย่างช้าๆ อย่างทะนุถนอมฝ่ามือหนาค่อยๆ เขี่ยแก้มของนางอย่างหวงแหนเพียงแค่คิดว่าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่นเขาก็รู้สึกอึดอัดและอยากจะเผาทุกคนให้มอดไหม้ที่บังอาจเข้ามาใกล้มนุษย์ตัวเล็กๆ แบบนี้“ข้าคงตกหลุมรักเจ้าจริงๆ ลินา” เขาค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกและก้มลงประทับริมฝีปากไปที่เรียวปากสวยของหญิงสาวที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ“อือ” หญิงสาวที่ถูกเขาจูบพูดอู้อี้ในลำคอเมื่อชายหนุ่มสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานของหญิงสาว“ข้าทำผิดอย่างมหันต์ลินา ข้าถึงถูกลงโทษอย่างนี้” เขาพูดพร้อมกับค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวล้ำเธอมากขนาดนี้“คุณ” ลินาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ“ข้ากำลังมีกิเลสกับเจ้า ข้ามีความรู้สึกแปลกๆ อยู่ภายในตัวของข้า” ปาวกะพูดพร้อมกับก้มลงไปจูบหญิงสาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ลินาที่นอนอยู่กลับโอบกอดต้นคอที่แข็งแรงของเขาเอาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะหนีหายไป“เจ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่…รู้ไหม” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าพูดกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวที่กำลังโอบรั้งต้นคอแข็งแรงให้ก้มหน
เช้าวันใหม่ที่บริษัทที่ลินาทำงานอยู่ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นนายแบบที่กำลังถูกช่างแต่งหน้ารุมล้อมอยู่เพราะว่าเขามีถ่ายแบบหลายชุดกับการออกนิตยสารเล่มใหม่เพื่อขอบคุณแฟนคลับพร้อมแจกลายเซ็นในงานมีตติ้งของอินคาหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยุ่งกับการทำงานอยู่หันไปมองอินคาด้วยแววตาที่ชื่นชมเขา ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลขนาดนี้แต่แปลกที่หัวใจของลินาไม่ได้เต้นแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในทางกลับกันเธอกลับรู้สึกหัวใจพองโตเมื่อนึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของปาวกะและรสจูบที่เทพอย่างเขามอบให้แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ไม่เป็นไร ก็เขาเป็นเทพเย็นชานี่เนอะ เพียงแค่คิดแบบนี้ก็ทำให้หญิงสาวเผลอยิ้มออกมา แต่รู้ไหมว่าการกระทำของเธออยู่ในสายตาของธาราตลอด ใช่แล้วเขาตามเธอไปทุกหนทุกแห่งเพื่อกดดันปาวกะให้ดึงคัมภีร์ออกมาจากตัวของเธอเองยังไงล่ะ“เทพที่มีกิเลสกับมนุษย์สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตตนเองและสูญสลายไปเป็นเถ้าธุลีตลอดกาลสินะ งั้นข้าจะช่วยให้เจ้ารีบหายไปแล้วกันเจ้าเทพแห่งไฟ” เมื่อคิดดังนั้นธารากับร่ายมนตร์ไปที่หญิงสาวที่กำลังยุ่งกับงานตรงหน้า จู่ๆ เธอก็เกิดล้มลงหมดสติไปในทันที แล้วตัวที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของหญิงสาวกลับถูกอุ้มข
“คุณจ้องหนูทำไมคะ” ลินาถามปาวกะเมื่อเขายังคงมองเธอไม่ละสายตา“เพราะเจ้าขี้เหร่ไง ข้าเลยสงสัยว่าทำไมชายผู้นั้นถึงมาวนเวียนแต่กับเจ้า” ปาวกะพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาวที่กำลังเดินไปซื้อข้าวกล่องมาทานเพราะเธอยังไม่อยากกินขนมที่เขาซื้อมาให้“ใครคะ”“นั่นไง” ปาวกะพูดเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เขากำลังพูดถึงเดินเข้ามาใกล้ลินา“ลินามาซื้อข้าวเหรอ มากินในร้านด้วยกันไหม” อาร์มเดินเข้ามาทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับดีใจที่ได้พบเธอแบบนี้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเขาเห็นปาวกะก้าวขามายืนอยู่ข้างๆ ลินาแบบแขนแนบชิดกัน“ได้ค่ะพี่” เธอตอบรับทันทีเพราะว่าหญิงสาวอยากจะรู้ว่าปาวกะที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอนั้นจะมีอาการเป็นอย่างไร“ไหนเจ้าบอกว่าจะกลับไปกินที่ห้องกับข้าไง” เขาโอบไหล่ของหญิงสาวราวกับมนุษย์ที่หึงหวงคนรักของตัวเองอยู่“คุณบอกไม่ชอบกินของพวกนี้นี่คะ” เธอหันไปว่าเขาจนปาวกะถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อหญิงสาวขัดใจเขาเวลาอยู่ต่อหน้าของมนุษย์ที่เขาไม่ชอบหน้าสักเท่าไหร่“ก็ได้ งั้นเจ้ากินที่นี่เลย” ปาวกะไม่พูดเปล่ากับเดินนำเข้าไปในร้านและลินากับอาร์มก็ตามเข้าไปนั่งด้วย ตลอดเวลาที่ทั้งสองทานอาหารกัน ปาวกะสังเก