Share

(๕) หู่ชิงไปคนใหม่ก็มา

last update Last Updated: 2025-05-13 10:44:38

หู่ชิงไปคนใหม่ก็มา

         

         กลางดึกชินอ๋องมารับหู่ชิงถึงที่ เฟิ่งเฟยส่งหู่ชิงตรงหน้าประตูโดยมีสายตาของชินอ๋องจับจ้องตาไม่กะพริบ

         “รอข้ากลับมา”

         “เจ้าค่ะ”

         เฟิ่งเฟยตอบรับด้วยรอยยิ้ม หู่ชิงให้นางเข้าจวนไปแล้วลั่นกลอนให้สนิท เขาถึงยอมจากไปแต่โดยดี

         เฟิ่งเฟยเดินเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะสลัดชุดสาวใช้ทิ้งแล้วเปลี่ยนไปใส่ชุดนอนเบาบางสีขาว บางถึงขนาดไม่อาจปกปิดเต้างามได้

         เมื่อล้มตัวลงนอน ยังไม่ทันที่เตียงจะอุ่นดี ก็มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอกดังขึ้น

         “ชะ ช่วยด้วย”

         เป็นเสียงของบุรุษ เสียงของเขาแผ่วเบานัก ชัดเจนว่าได้รับบาดเจ็บมา

         “ดวงข้าเป็นอะไรกับชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายนักหนา คนนี้หนีอะไรมาอีกล่ะ”

         เฟิ่งเฟยคล้ายพร่ำบ่นแต่ใบหน้ากลับผุดรอยยิ้มขึ้น ร่างระหงหยิบชุดตัวนอกมาคลุมทับก่อนที่จะเดินออกไปเปิดประตูให้

         “แม่ นะ นาง ช่วย ข้า ด้วย...”

         เอ่ยเพียงเท่านี้แล้วสลบไปในทันที ผ้าเนื้อดีที่ชายหนุ่มร่างบางสวมอยู่บ่งบอกว่าเป็นผู้รากมากดีที่ประสบภัยมา

         “ข้าจะช่วยสุดความสามารถก็แล้วกัน”

         เฟิ่งเฟยดีดนิ้วหนึ่งครั้ง สมุนปีศาจของนางก็ปรากฏกายขึ้น

         “ยกเขาเข้าไปในเรือนข้า”

         “ขอรับ”

         เฟิ่งเฟยเดินนำเข้าไปในเรือนพร้อมตระเตรียมชุดใหม่ให้ชายหนุ่ม นางสะบัดมือเพียงครั้งเดียว เสื้อผ้าชุ่มเลือดก็หายไปเหลือเพียงร่างเปล่าเปลือยที่มีกล้ามเนื้อดูแข็งแรงแบบพอดี

         ชัดเจนว่าบุรุษคนนี้สายบุ๋น ใช้สมองมากกว่าร่างกายทำงาน

         “ทำแผลให้เขาด้วย”

         “ขอรับ”

         สมุนปีศาจรับคำ เฟิ่งเฟยจึงกลับไปยังเรือนนอนของตน นางไม่ได้ลงกลอนในห้องตนเอง จงใจแง้มประตูเอาไว้ ถอดชุดคลุมตัวนอกออก เหลือเพียงชุดซับในอันเบาบาง คนงามหลับไปด้วยรอยยิ้มติดใบหน้า

         รุ่งเช้าบุรุษหนุ่มผู้ประสบภัยก็ได้สติ เพราะการรักษาแบบปีศาจ ทำให้ร่างกายเขาฟื้นตัวได้เร็ว แทบไม่รู้สึกเจ็บแผลจากการถูกลอบสังหารเลยสักนิด

         “ที่นี่...”

         เขาลุกขึ้นนั่ง หรี่ตาเล็กน้อยเมื่อแสงกระทบหน้าเข้ากับใบหน้า ในหัวพยายามประมวลความคิดก็นึกขึ้นได้ว่าคนสุดท้ายที่เขาเห็นคือสตรีผู้หนึ่ง

         เมื่อมองดูแผลบนกายจึงทราบว่าสตรีให้การช่วยเหลือ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ท่อนบนเปล่าเปลือย ท่อนล่างสวมเพียงกางเกงไว้ 

         “อื้อ~”

         เขาได้ยินเสียงของสตรีจึงได้ก้าวเท้าไปตามเสียง เท้าหยุดอยู่หน้าห้อง ๆ หนึ่งซึ่งประตูแง้มออกเกือบครึ่ง เผยให้เห็นสตรีใบหน้างดงามกำลังบิดขี้เกียจอยู่

         สองแขนเล็กชูขึ้น เสื้อแขนกว้างลู่ลงจนเห็นผิวขาวใส สายตาของเขาไล่มองลงต่ำ ดวงตาเบิกโพลงเมื่อเห็นปทุมถันดุนดันซับในตัวบาง

         เขาเป็นหนุ่มแรกรุ่นอายุเพียง 20 หนาวเท่านั้น เพิ่งผ่านพิธีสวมกวานมาหมาด ๆ ยังไม่เคยแตะต้องสตรีคนใด ใบหน้าหล่อเหลาพลันขึ้นสีแดงระเรื่อ

         “ฟื้นแล้วหรือ”

         เขาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของสตรีดังขึ้น นางในตอนนี้ได้สวมชุดเรียบร้อยแล้ว ผมชี้ฟูเล็กน้อยเพราะเพิ่งตื่น แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่าภาพนี้ช่างน่าหลงใหลยิ่ง

         “เอ่อ ข้านามว่าชิงป๋าย ขอบคุณแม่นางที่ช่วยเหลือ ข้าขอทราบนามแม่นางได้หรือไม่”

         “เฟิ่งเฟย”

         หญิงสาวตอบเสียงเบาก่อนจะเดินไปยังโต๊ะชารินน้ำชาล้างปากยามเช้า เฟิ่งเฟยส่งสายตาให้เขามานั่งสนทนากัน

         “ข้าถูกลอบสังหาร บุญคุณในครั้งนี้จะไม่ลืมโดยเด็ดขาด”

         “อือ แล้วคุณชายจะกลับเมื่อใด”

         เฟิ่งเฟยถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่ในใจกลับกู่ร้อง...

         ก็ไม่ใช่ตระกูลนี้หรอกหรือที่หู่ชิงขอให้ข้าไว้ไมตรี!

         “ขอข้ากบดานอยู่ที่นี่สักพักได้หรือไม่ มิทราบว่าจวนนี้มีใครอยู่บ้าง”

         “ตอนนี้ข้าอยู่คนเดียว คุณชายจะอยู่ที่นี่ย่อมได้ อย่างไรเสียสหายชายของข้าก็ไปออกรบแล้ว”

         ชิงป๋ายสีหน้าตั้งคำถาม เดิมทีเขาเป็นคนรู้มารยาท แต่ยามนี้อดใจให้ถามไม่ได้จริง ๆ

         “สหายชายหรือ“

         เฟิ่งเฟยพยักหน้า เอ่ยตอบด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนสีเลยสักนิด

         “ก็ทำเรื่องอย่างว่ากัน แต่ไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณชายล่ะ มีคู่หมั้นคู่หมายหรือไม่“

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๖) ตำนานตลอดไป //จบบริบูรณ์

    ๔๖ตำนานตลอดไป งานแต่งงานของเฟิ่งเฟยและตานติ่งเฮ่อถูกเนรมิตให้เป็นดั่งดินแดนบุปผาจากฝีมือของปีศาจบุปผา ดอกไม้นานาชนิดเป็นสีดำ แดง ม่วงและน้ำเงินถูกจัดไว้อย่างลงตัวในห้องโถง แขกที่มาร่วมงานต่างเพลิดเพลินไปกับการชมดอกไม้ขณะรอพิธีการเริ่ม พิธีการแต่งงานของแดนปีศาจไม่มากขั้นตอน บ่าวสาวเพียงใส่ชุดแต่งงานแล้วร่วมกรีดเลือดสาบานตนต่อหน้าแขกเหรื่อทั้งงาน เลือดที่กรีดจากกริชเงินจะถูกหยดลงศิลานิรันดร์กาล เครื่องหมายอันแสดงว่าชายหญิงได้ร่วมพิธีสาบานตนกันแล้ว หากใครผิดคำสาบานจะโดนศิลานิรันดร์กาลสำเร็จโทษเอง “บ่าวสาวมาถึงแล้ว” เมื่อฤกษ์ยามมาถึง ผู้ดำเนินการในพิธีก็เบิกตัวบ่าวสาวเข้าสู่ห้องโถง แขกในงานอยู่ในความเงียบสงบ หันไปทางเข้าประตูห้องโถงใหญ่ เมื่อสองเท้าต่างขนาดก้าวเข้ามาด้านใน ทุกคนก็ปรบมือต้อนรับเป็นการให้เกียรติตัวเอกของงาน เฟิ่งเฟยใส่ชุดสีแดงบ่อยแล้ว นางจึงขอเจ้าบ่าวใส่ชุดแต่งงานสีขาวทั้งตัวแทน ดอกไม้และชุดของแขกเป็นโทนทึบ เมื่อเห็นบ่าวสาวอยู่ในชุดสีขาวกันทั้งคู่ทำให้ดูสว่างไสวโดดเด่นราวกับมีแสงตกกระทบ “ท่านพ่อ”

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๕) มือเย็นใจอุ่น

    ๔๕มือเย็นใจอุ่น เฟิ่งเฟยกำลังอึ้งกับสารที่เพิ่งได้รับมาเมื่อครู่นี้ เดินใจลอยในหัวคิดโน้นนี่นั่น รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ตานติ่งเฮ่อพานางมาหยุดอยู่ที่รังไหมด้านหลังตำหนักประมุขปีศาจ “เฮ่อเกอพาข้ามาที่นี่ทำไมเจ้าคะ” นางหลุดออกจากภวังค์ได้เพราะมือหนากระตุกมือนางเบา ๆ เพราะความจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นผลให้สมองของนางประมวลผลได้ช้า ลืมไปแล้วว่ารังไหมที่อยู่ตรงนี้มีไว้สำหรับทำอะไร “มนุษย์สองคนนั้นอย่างไรเล่า ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในช่วงฟักตัว เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาต้องใช้เวลาเท่าไรกว่าจะสามารถเป็นภูตได้” หู่ชิงกับชิงป๋ายเช่นนั้นหรือ “พวกเขา อยู่ในนี้หรือเจ้าคะ” ตานติ่งเฮ่อไม่ตอบเป็นคำพูด มือหนาข้างหนึ่งสะบัดหนึ่งครั้ง ก็เห็นว่ามีร่างมนุษย์ชายสองคนกำลังหมุนวนอยู่ในรังไหมใหญ่เท่าต้นไม้สามคนโอบ “อยู่รังไหมเท่ากับเป็นภูตพฤกษา หากตั้งใจบำเพ็ญเพียรก็มีสิทธิ์เป็นปีศาจโอสถได้ ซึ่งที่กล่าวมานี้ต้องใช้เวลา เจ้ารอพวกเขาได้หรือไม่” เฟิ่งเฟยมองตานติ่งเฮ่อว่าเขากล่าวคำพูดนี้ด้วยความรู้สึกใด จนแล้วจนรอดนางก็อ่านสายตาของเขาไ

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๔) พูดแล้วไม่คืนคำ

    ๔๔พูดแล้วไม่คืนคำ ตานติ่งเฮ่อนิ่งไปกับคำพูดของเฟิ่งเฟย ตอนแรกเขาคิดไว้แล้วว่านางอาจจะรู้สึกดีกับเขามากขึ้น แต่ไม่คิดว่านางจะลั่นวาจานี้ออกมา ไม่สิ! มิใช่ไม่คิด แต่ไม่ ‘กล้า’ คิดต่างหาก “เจ้าเอ่ยคำพูดนี้ออกมา จริงจังเพียงกี่ส่วน เชื่อถือได้แค่ไหน” “ข้าจริงจัง ที่ข้าเคยบอกว่ายังไม่อยากแต่งงาน ความจริงแล้วอาจเพราะว่ายังไม่เจอใครให้สามารถฝากชีวิตได้เท่าเฮ่อเกอ วันที่รู้ว่าเฮ่อเกอคือเจ้าบ่าวที่รอมานาน มุมมองการแต่งงานของข้าก็เปลี่ยนไป ท่านดีต่อข้าเพียงนี้ หากข้าไม่ขอท่านแต่งงานแล้วจะไปขอใคร” ท่าทางจริงจังของนางทำให้ตานติ่งเฮ่อพูดไม่ออก เริ่มสับสนว่านางใช้ใจหรือใช้สมองนำทางถึงได้กล้าเอ่ยขอเขาแต่งงาน “ข้าจะเชื่อเพราะข้าอยากเชื่อเช่นนี้ พูดแล้วห้ามคืนคำนะ” แม้จะคิดเช่นนั้นเขาก็เลือกจะเชื่อว่านางใช้หัวใจนำทาง “ไม่คืนคำแน่นอนเจ้าค่ะ” เฟิ่งเฟยให้คำมั่น “เช่นนั้น...เราสองคนแต่งงานกันเถิด!” ตานติ่งเฮ่อเอ่ยขอเฟิ่งเฟยอีกหนซึ่งนางก็พยักหน้ารับ เอื้อมมือไปจับมือใหญ่ไว้แล้วใช้เวทเคลื่อนกายกลับมาที่ตำหนักประมุขปีศ

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๓) ยินดีหรือไม่

    ๔๓ยินดีหรือไม่ เฟิ่งเฟยกลับแดนปีศาจด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นไม่สม่ำเสมอ ในหัวสับสนไปหมด ทั้งยังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ตั้งแต่แรกเริ่มที่นางได้ไปเยือนแดนมนุษย์โดยง่ายทั้ง ๆ ที่ผ่านมาประมุขปีศาจไม่เคยปล่อยให้นางออกนอกเขตปีศาจเลย เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นหลังจากนางกลับจากแดนปีศาจก็ด้วย “เฮ่อเกออยู่หรือไม่เ” เฟิ่งเฟยมาหาตานติ่งเฮ่อถึงตำหนัก ที่นี่มีเพียงพ่อบ้านปีศาจดูแลอยู่เท่านั้น ไม่มีบ่าวรับใช้ปีศาจเพราะเจ้าของตำหนักเชี่ยวชาญอาคมศาสตร์มืด ค่ายกลและเวทย์ทั่วไป ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีสมุนรับใช้ “อยู่ขอรับท่านหญิง ในห้องหนังสือ” “ไปเรียนให้หน่อยได้หรือไม่ว่าข้าขอพบ” พ่อบ้านปีศาจยิ้มพร้อมผายมือเข้าไปยังด้านใน “นายท่านกล่าวว่าหากท่านหญิงมาให้เชิญด้านในได้เลยขอรับ” ขนาดข้าจะมาวันนี้ เขาก็คาดคะเนไว้แล้ว “อือ” เฟิ่งเฟยพยักหน้ารับแล้วเดินไปทางห้องหนังสือของตานติ่งเฮ่อ นางเคยมาที่นี่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่มาจะมีพ่อบ้านปีศาจเข้ามาขออนุญาตก่อน หากได้รับอนุญาตแล้วนางจึงสามารถเข้ามาที่นี่ได้

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๒) ดินแดนพิภพ

    ๔๒ดินแดนพิภพ ณ แดนพิภพดินแดนที่มีไว้สำหรับการคัดกรองดวงวิญญาณมนุษย์ วิญญาณที่ถึงแก่ฆาตและทำกรรมดีไว้มากจะสามารถขึ้นเป็นเซียนฝึกหัดได้ในทันที แต่หากวิญญาณดวงนั้นทำกรรมชั่วไว้มาก ก็จะถูกส่งไปยังแม่น้ำชำระล้าง ดำผุดดำว่ายอยู่เช่นนั้นจนกว่าจะล้างกรรมหมด วิญญาณที่ดวงยังไม่ถึงฆาต ผู้นำดวงวิญญาณจะพาดวงวิญญาณเข้าห้องพิพากษา เทพพิภพจะให้ทางเลือกระหว่างจะเป็นสัมภเวสีผีเร่ร่อนหรือว่าจะเลือกสายปีศาจ การเลือกเป็นสัมภเวสีสามารถกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง มีโอกาสสร้างบุญเพื่อหนทางสู่การเป็นเซียน แต่การเลือกสายปีศาจจะไม่อาจเปลี่ยนเป็นเผ่าสวรรค์ได้ ต้องกลายเป็นภูตหรือปีศาจตลอดไป “เป็นครั้งแรกเลยที่ข้ามาที่นี่” ดินแดนพิภพไร้สิ่งมีชีวิตใดแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้า เป็นดินแดนที่ปกคลุมด้วยไรฝุ่นหนาทึบ ตอนเดินเข้ามาเฟิ่งเฟยเห็นดวงวิญญาณมากมายกำลังเดินเข้ามาที่นี่พร้อมกับนาง บ้างก็โดนผู้นำวิญญาณกระชากลากถูดุจสัตว์เดรัจฉาน สภาพของพวกเขาคือช่วงเวลาสุดท้ายตอนถึงแก่กรรม บ้างก็มีเลือดอาบเต็มใบหน้า บ้างก็ร่างกายไม่ครบส่วน น่าสยดสยองยิ่งแล้ว “นั่

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๑) เหมาะเจาะเพียงนี้

    ๔๑เหมาะเจาะเพียงนี้ ณ เรือนลอยฟ้า เฟิ่งเฟยมาหาสถานที่เงียบ ๆ เพื่อขบคิดถึงสิ่งที่ตานติ่งเฮ่อบอก คิ้วใบหลิวแทบจะขมวดเข้าหากันยุ่ง รู้สึกกลัดกลุ้มมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยเป็นมา “เรื่องการแต่งงานมิใช่ว่าต้องใช้หัวใจนำทางหรอกหรือ ไฉนให้ข้าลองกลับมาคิดดู” ตั้งคำถามพร้อมถอนหายใจ “หือ” แต่แล้วก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่ง! เพราะตรงหัวใจซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำพันธะสัญญาไว้กับหู่ชิงและชิงป๋ายร้อนผ่าว ความนี้สื่อได้สองอย่าง ไม่บาดเจ็บหนักก็ถึงแก่ชีวิต นางรีบบินลงจากเรือนลอยฟ้า เร่งเดินทางออกจากแดนปีศาจโดยเร็วที่สุด ใช้เวลานานพอสมควรกว่านางจะออกจากแดนปีศาจได้ เมื่อเท้าแตะดินแดนมนุษย์ ดวงตาคู่งามหลับตาพริ้มหาตำแหน่งของทั้งคู่ “เหตุใดไปอยู่ที่วังหลวงอีกแล้ว!” นางเคลื่อนกายไปยังวังหลวงแคว้นตง ในหัวคิดว่าชินอ๋องจะต้องเล่นแง่อะไรอีก เพื่อความรวดเร็วครั้งนี้นางยอมใช้ปีกของตนเดินทางไปยังจุดหมาย ร่ายเวทไม่ให้มนุษย์สามารถมองเห็นร่างจริงของนางได้ “เฟิ่งเฟย!” แต่กับปีศาจและเทพด้วยกันแล้วยังสามารถมองเห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status