Share

(๙) กลับจวนตระกูลชิง

last update Last Updated: 2025-05-13 15:59:16

กลับจวนตระกูลชิง

ณ จวนตระกูลชิงแห่งเมืองหลวง

ทันทีที่ทราบข่าวว่าหลานชายสุดรักกลับมาได้อย่างปลอดภัย ฮูหยินผู้เฒ่าก็ดีใจยิ่งนัก

แต่ไม่นานก็รู้สึกดั่งฟ้าผ่า เมื่อคนที่ติดตามหลานชายนางมาด้วยคือสตรีหน้าตาโดดเด่น

ทว่าไร้หัวนอนปลายเท้า!

“ท่านย่า เฟิ่งเฟยเป็นสตรีของหลานและจะเป็นคนเดียวตลอดไป ท่านย่าจัดงานแต่งให้หลานเถิดขอรับ”

ชิงป๋ายคุกเข่าขอร้องต่อหน้าท่านย่าและบิดามารดาตน

บิดาของชิงป๋ายเป็นคนหัวไม่ดี แต่บุตรชายกลับฉลาดโดดเด่นที่สุดในบรรดาหลานชายของนาง ส่วนมารดาของเขาเป็นสะใภ้ ย่อมไร้สิทธิ์ไร้เสียงในจวนแห่งนี้อยู่แล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่าลมแทบจับ ไม่อาจทนมองว่าที่หลานสะใภ้ได้อีกต่อไป จึงให้ลูกสะใภ้คนที่สามของตนพาเฟิ่งเฟยไปที่เรือนพัก ซึ่งแน่นอนว่าคนละเรือนกับชิงป๋าย

“ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ”

เฟิ่งเฟยย่อกายให้มารดาชิงป๋าย หว่างคิ้วของสตรีวัยสี่สิบต้น ๆกระตุก ชัดเจนว่าไม่พอใจ แต่ก็ไม่เอ่ยวาจาใด ไม่ต่อว่าเฟิ่งเฟยลับหลังบุตรชายตนเลยสักนิด

เฟิ่งเฟยอดคิดในใจไม่ได้ว่า...

แบบนี้อย่างไรเล่า แม่ผัวถึงได
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๖) ตำนานตลอดไป //จบบริบูรณ์

    ๔๖ตำนานตลอดไป งานแต่งงานของเฟิ่งเฟยและตานติ่งเฮ่อถูกเนรมิตให้เป็นดั่งดินแดนบุปผาจากฝีมือของปีศาจบุปผา ดอกไม้นานาชนิดเป็นสีดำ แดง ม่วงและน้ำเงินถูกจัดไว้อย่างลงตัวในห้องโถง แขกที่มาร่วมงานต่างเพลิดเพลินไปกับการชมดอกไม้ขณะรอพิธีการเริ่ม พิธีการแต่งงานของแดนปีศาจไม่มากขั้นตอน บ่าวสาวเพียงใส่ชุดแต่งงานแล้วร่วมกรีดเลือดสาบานตนต่อหน้าแขกเหรื่อทั้งงาน เลือดที่กรีดจากกริชเงินจะถูกหยดลงศิลานิรันดร์กาล เครื่องหมายอันแสดงว่าชายหญิงได้ร่วมพิธีสาบานตนกันแล้ว หากใครผิดคำสาบานจะโดนศิลานิรันดร์กาลสำเร็จโทษเอง “บ่าวสาวมาถึงแล้ว” เมื่อฤกษ์ยามมาถึง ผู้ดำเนินการในพิธีก็เบิกตัวบ่าวสาวเข้าสู่ห้องโถง แขกในงานอยู่ในความเงียบสงบ หันไปทางเข้าประตูห้องโถงใหญ่ เมื่อสองเท้าต่างขนาดก้าวเข้ามาด้านใน ทุกคนก็ปรบมือต้อนรับเป็นการให้เกียรติตัวเอกของงาน เฟิ่งเฟยใส่ชุดสีแดงบ่อยแล้ว นางจึงขอเจ้าบ่าวใส่ชุดแต่งงานสีขาวทั้งตัวแทน ดอกไม้และชุดของแขกเป็นโทนทึบ เมื่อเห็นบ่าวสาวอยู่ในชุดสีขาวกันทั้งคู่ทำให้ดูสว่างไสวโดดเด่นราวกับมีแสงตกกระทบ “ท่านพ่อ”

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๕) มือเย็นใจอุ่น

    ๔๕มือเย็นใจอุ่น เฟิ่งเฟยกำลังอึ้งกับสารที่เพิ่งได้รับมาเมื่อครู่นี้ เดินใจลอยในหัวคิดโน้นนี่นั่น รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ตานติ่งเฮ่อพานางมาหยุดอยู่ที่รังไหมด้านหลังตำหนักประมุขปีศาจ “เฮ่อเกอพาข้ามาที่นี่ทำไมเจ้าคะ” นางหลุดออกจากภวังค์ได้เพราะมือหนากระตุกมือนางเบา ๆ เพราะความจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นผลให้สมองของนางประมวลผลได้ช้า ลืมไปแล้วว่ารังไหมที่อยู่ตรงนี้มีไว้สำหรับทำอะไร “มนุษย์สองคนนั้นอย่างไรเล่า ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในช่วงฟักตัว เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาต้องใช้เวลาเท่าไรกว่าจะสามารถเป็นภูตได้” หู่ชิงกับชิงป๋ายเช่นนั้นหรือ “พวกเขา อยู่ในนี้หรือเจ้าคะ” ตานติ่งเฮ่อไม่ตอบเป็นคำพูด มือหนาข้างหนึ่งสะบัดหนึ่งครั้ง ก็เห็นว่ามีร่างมนุษย์ชายสองคนกำลังหมุนวนอยู่ในรังไหมใหญ่เท่าต้นไม้สามคนโอบ “อยู่รังไหมเท่ากับเป็นภูตพฤกษา หากตั้งใจบำเพ็ญเพียรก็มีสิทธิ์เป็นปีศาจโอสถได้ ซึ่งที่กล่าวมานี้ต้องใช้เวลา เจ้ารอพวกเขาได้หรือไม่” เฟิ่งเฟยมองตานติ่งเฮ่อว่าเขากล่าวคำพูดนี้ด้วยความรู้สึกใด จนแล้วจนรอดนางก็อ่านสายตาของเขาไ

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๔) พูดแล้วไม่คืนคำ

    ๔๔พูดแล้วไม่คืนคำ ตานติ่งเฮ่อนิ่งไปกับคำพูดของเฟิ่งเฟย ตอนแรกเขาคิดไว้แล้วว่านางอาจจะรู้สึกดีกับเขามากขึ้น แต่ไม่คิดว่านางจะลั่นวาจานี้ออกมา ไม่สิ! มิใช่ไม่คิด แต่ไม่ ‘กล้า’ คิดต่างหาก “เจ้าเอ่ยคำพูดนี้ออกมา จริงจังเพียงกี่ส่วน เชื่อถือได้แค่ไหน” “ข้าจริงจัง ที่ข้าเคยบอกว่ายังไม่อยากแต่งงาน ความจริงแล้วอาจเพราะว่ายังไม่เจอใครให้สามารถฝากชีวิตได้เท่าเฮ่อเกอ วันที่รู้ว่าเฮ่อเกอคือเจ้าบ่าวที่รอมานาน มุมมองการแต่งงานของข้าก็เปลี่ยนไป ท่านดีต่อข้าเพียงนี้ หากข้าไม่ขอท่านแต่งงานแล้วจะไปขอใคร” ท่าทางจริงจังของนางทำให้ตานติ่งเฮ่อพูดไม่ออก เริ่มสับสนว่านางใช้ใจหรือใช้สมองนำทางถึงได้กล้าเอ่ยขอเขาแต่งงาน “ข้าจะเชื่อเพราะข้าอยากเชื่อเช่นนี้ พูดแล้วห้ามคืนคำนะ” แม้จะคิดเช่นนั้นเขาก็เลือกจะเชื่อว่านางใช้หัวใจนำทาง “ไม่คืนคำแน่นอนเจ้าค่ะ” เฟิ่งเฟยให้คำมั่น “เช่นนั้น...เราสองคนแต่งงานกันเถิด!” ตานติ่งเฮ่อเอ่ยขอเฟิ่งเฟยอีกหนซึ่งนางก็พยักหน้ารับ เอื้อมมือไปจับมือใหญ่ไว้แล้วใช้เวทเคลื่อนกายกลับมาที่ตำหนักประมุขปีศ

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๓) ยินดีหรือไม่

    ๔๓ยินดีหรือไม่ เฟิ่งเฟยกลับแดนปีศาจด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นไม่สม่ำเสมอ ในหัวสับสนไปหมด ทั้งยังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ตั้งแต่แรกเริ่มที่นางได้ไปเยือนแดนมนุษย์โดยง่ายทั้ง ๆ ที่ผ่านมาประมุขปีศาจไม่เคยปล่อยให้นางออกนอกเขตปีศาจเลย เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นหลังจากนางกลับจากแดนปีศาจก็ด้วย “เฮ่อเกออยู่หรือไม่เ” เฟิ่งเฟยมาหาตานติ่งเฮ่อถึงตำหนัก ที่นี่มีเพียงพ่อบ้านปีศาจดูแลอยู่เท่านั้น ไม่มีบ่าวรับใช้ปีศาจเพราะเจ้าของตำหนักเชี่ยวชาญอาคมศาสตร์มืด ค่ายกลและเวทย์ทั่วไป ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีสมุนรับใช้ “อยู่ขอรับท่านหญิง ในห้องหนังสือ” “ไปเรียนให้หน่อยได้หรือไม่ว่าข้าขอพบ” พ่อบ้านปีศาจยิ้มพร้อมผายมือเข้าไปยังด้านใน “นายท่านกล่าวว่าหากท่านหญิงมาให้เชิญด้านในได้เลยขอรับ” ขนาดข้าจะมาวันนี้ เขาก็คาดคะเนไว้แล้ว “อือ” เฟิ่งเฟยพยักหน้ารับแล้วเดินไปทางห้องหนังสือของตานติ่งเฮ่อ นางเคยมาที่นี่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่มาจะมีพ่อบ้านปีศาจเข้ามาขออนุญาตก่อน หากได้รับอนุญาตแล้วนางจึงสามารถเข้ามาที่นี่ได้

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๒) ดินแดนพิภพ

    ๔๒ดินแดนพิภพ ณ แดนพิภพดินแดนที่มีไว้สำหรับการคัดกรองดวงวิญญาณมนุษย์ วิญญาณที่ถึงแก่ฆาตและทำกรรมดีไว้มากจะสามารถขึ้นเป็นเซียนฝึกหัดได้ในทันที แต่หากวิญญาณดวงนั้นทำกรรมชั่วไว้มาก ก็จะถูกส่งไปยังแม่น้ำชำระล้าง ดำผุดดำว่ายอยู่เช่นนั้นจนกว่าจะล้างกรรมหมด วิญญาณที่ดวงยังไม่ถึงฆาต ผู้นำดวงวิญญาณจะพาดวงวิญญาณเข้าห้องพิพากษา เทพพิภพจะให้ทางเลือกระหว่างจะเป็นสัมภเวสีผีเร่ร่อนหรือว่าจะเลือกสายปีศาจ การเลือกเป็นสัมภเวสีสามารถกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง มีโอกาสสร้างบุญเพื่อหนทางสู่การเป็นเซียน แต่การเลือกสายปีศาจจะไม่อาจเปลี่ยนเป็นเผ่าสวรรค์ได้ ต้องกลายเป็นภูตหรือปีศาจตลอดไป “เป็นครั้งแรกเลยที่ข้ามาที่นี่” ดินแดนพิภพไร้สิ่งมีชีวิตใดแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้า เป็นดินแดนที่ปกคลุมด้วยไรฝุ่นหนาทึบ ตอนเดินเข้ามาเฟิ่งเฟยเห็นดวงวิญญาณมากมายกำลังเดินเข้ามาที่นี่พร้อมกับนาง บ้างก็โดนผู้นำวิญญาณกระชากลากถูดุจสัตว์เดรัจฉาน สภาพของพวกเขาคือช่วงเวลาสุดท้ายตอนถึงแก่กรรม บ้างก็มีเลือดอาบเต็มใบหน้า บ้างก็ร่างกายไม่ครบส่วน น่าสยดสยองยิ่งแล้ว “นั่

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๑) เหมาะเจาะเพียงนี้

    ๔๑เหมาะเจาะเพียงนี้ ณ เรือนลอยฟ้า เฟิ่งเฟยมาหาสถานที่เงียบ ๆ เพื่อขบคิดถึงสิ่งที่ตานติ่งเฮ่อบอก คิ้วใบหลิวแทบจะขมวดเข้าหากันยุ่ง รู้สึกกลัดกลุ้มมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยเป็นมา “เรื่องการแต่งงานมิใช่ว่าต้องใช้หัวใจนำทางหรอกหรือ ไฉนให้ข้าลองกลับมาคิดดู” ตั้งคำถามพร้อมถอนหายใจ “หือ” แต่แล้วก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่ง! เพราะตรงหัวใจซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำพันธะสัญญาไว้กับหู่ชิงและชิงป๋ายร้อนผ่าว ความนี้สื่อได้สองอย่าง ไม่บาดเจ็บหนักก็ถึงแก่ชีวิต นางรีบบินลงจากเรือนลอยฟ้า เร่งเดินทางออกจากแดนปีศาจโดยเร็วที่สุด ใช้เวลานานพอสมควรกว่านางจะออกจากแดนปีศาจได้ เมื่อเท้าแตะดินแดนมนุษย์ ดวงตาคู่งามหลับตาพริ้มหาตำแหน่งของทั้งคู่ “เหตุใดไปอยู่ที่วังหลวงอีกแล้ว!” นางเคลื่อนกายไปยังวังหลวงแคว้นตง ในหัวคิดว่าชินอ๋องจะต้องเล่นแง่อะไรอีก เพื่อความรวดเร็วครั้งนี้นางยอมใช้ปีกของตนเดินทางไปยังจุดหมาย ร่ายเวทไม่ให้มนุษย์สามารถมองเห็นร่างจริงของนางได้ “เฟิ่งเฟย!” แต่กับปีศาจและเทพด้วยกันแล้วยังสามารถมองเห

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๔๐) พี่ก็คือพี่

    ๔๐พี่ก็คือพี่ ไม่เอานะ! ร่างงามพลันลุกขึ้นเต็มความสูง ส่ายหน้าไปมาช้า ๆ แววตาแฝงด้วยอารมณ์หลากหลาย ด้วยที่ผ่านมานางมองเขาเป็นพี่ชายมาตลอด แล้วจะเปลี่ยนไปเป็นเจ้าบ่าวได้อย่างไร! “นั่งลงก่อน เรายังพูดเรื่องนี้กันไม่จบ” ประมุขปีศาจสั่งเสียงเข้ม เฟิ่งเฟยอยากขัดขืน แต่เมื่อเห็นสายตาคมดุของตานติ่งเฮ่อ นางจึงนั่งลงตามเดิม สายตาแบบนี้ของเขา ชัดเจนว่ากำลังโมโห! “ที่เจ้ายังไม่อยากแต่งงานเพราะอะไร เพราะรักอิสระหรือ” คำถามจากบิดาทำเอาเฟิ่งเฟยเงียบไป หากเป็นเมื่อก่อนนางคงเอ่ยเหตุผลนี้ออกไปอย่างไม่ลังเล แต่พอตอนนี้โดนถามด้วยคำถามนี้อีกครั้ง นางกลับตอบได้ไม่เต็มปาก “ข้า…” “หากเจ้าต้องการอิสระ อาเฮ่อให้เจ้าได้อยู่แล้ว ไม่มีใครกักขังเจ้าได้หรอก อีกอย่างพ่อเองก็ไม่ไว้ใจใครนอกจากอาเฮ่อ” เฟิ่งเฟยไม่เถียง หลุบตาลงต่ำซ่อนความรู้สึกนึกคิดในแววตา ตานติ่งเฮ่อส่งสายตาไปยังประมุขปีศาจ อารมณ์ประมาณว่าวันนี้พอเท่านี้ก่อน “เจ้าลองเก็บไปคิดดู ไปเถอะ พ่อจะทำงานต่อ” เฟิ่งเฟยลุกขึ้นพร้อมตานติ่ง

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๓๙) เจ้าบ่าวผู้รอมานาน

    ๓๙เจ้าบ่าวผู้รอมานาน ณ แดนปีศาจเฟิ่งเฟยกลับมายังแดนปีศาจหลังจากที่ไม่ได้กลับมานานหลายวัน คนแรกที่นางได้พบหลังจากย่างกรายข้ามสะพานมาก็คือ... “เฮ่อเกอ! มานานแล้วหรือเจ้าคะ” เฟิ่งเฟยถามด้วยน้ำเสียงสดใส เดินเข้าไปหาพี่ชายต่างสายเลือดด้วยรอยยิ้ม “ท่านประมุขปีศาจให้ข้ามารอรับเจ้า” รอยยิ้มบนใบหน้างามหายไปทันควัน ท่าทางกระอักกระอ่วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตอนแรกนางยังไม่คิดจะกลับตำหนักประมุขปีศาจ วางแผนว่าจะไปกลบดานที่เรือนลอยฟ้า ให้พี่ชายรับหน้าไปก่อน “ข้า...ทำอะไรผิดไปหรือเจ้าคะ” ด้วยไม่อยากคาดเดาจึงเอ่ยถามไปตามตรง “หึ!” คนถูกถามยิ้มมุมปาก หันหลังให้นางแล้วเดินจากไป “เอา! ไม่ตอบแต่มาส่งยิ้มปริศนาให้กัน” แม้จะแอบมองค้อนชายหนุ่มไล่หลัง แต่สุดท้ายก็ก้าวตามหลังเขาไปเพราะยังต้องการคนไกล่เกลี่ยกับบิดาอยู่ ที่ผ่านมาเป็นเช่นนี้เสมอ เมื่อใดที่นางทำผิดมักจะมีตานติ่งเฮ่อคอยแก้ต่างให้ ในชีวิตข้าไม่มีเขาไม่ได้ ณ ตำหนักของประมุขปีศาจ สองร่างต่างเพศในชุดสีดำแ

  • ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง   (๓๘) ในวันที่หมู่บ้านมีสมาชิก

    ๓๘ในวันที่หมู่บ้านมีสมาชิก ณ หมู่บ้านกลางน้ำ เฟิ่งเฟยนั่งอยู่ในโถงรับแขกของเรือนหลักท่ามกลางสายตาหู่ชิง ชิงป๋าย เทพปราการและเหลียนฮวาเยา พวกเขาล้วนเป็นบุรุษที่นางเคยสานสัมพันธ์ทางกายด้วย แม้คนหนึ่งอาจจะไม่ได้สอดใส่ ส่วนอีกคนก็เปลี่ยนฐานะจากมนุษย์มาเป็นเทพแล้วก็ตาม อยู่ ๆ นางก็รู้สึกอึดอัดกับสายตาของพวกเขา “อึดอัด” สตรีหนึ่งเดียวในที่นี้ทนไม่ไหวเอ่ยขึ้นมาจนได้ ท่าทางของพวกเขาคล้ายมีสิ่งใดอยากจะสนทนากับนาง มิหนำซ้ำยังจริงจังมาก “ข้าขอเป็นตัวแทนของพวกเขาถามเจ้าเองก็แล้วกัน” เทพปราการผู้อาวุโสที่สุดมองหน้าเฟิ่งเฟยนิ่ง ๆ “ว่ามาเลย” เมื่อเฟิ่งเฟยทำใจได้แล้วนางก็เอ่ยขึ้น “ตอนนี้พวกเรา อะแห่ม! ข้าหมายถึงพวกเขาเข้าใจถึงสถานะของตนเองดีเลยอยากรู้ว่าเจ้าจะรับผิดชอบพวกเขาอย่างไร” คำถามตรงไปตรงมารวมถึงสายตาคาดหวังของพวกเขาทำเอาเฟิ่งเฟยเผลอกลืนน้ำลายลงคอดังอึก “ข้ายัง...ไม่ได้คิด” เฟิ่งเฟยตอบออกไปตามตรง สายตาของพวกเขาแฝงความผิดหวังในคำตอบชัดเจน ชิงป๋ายชัดเจนกว่าใคร หากให้เทียบกับทุกคนแล้ว น

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status