ใครใช้ให้คนอื่นเขามีวิชาเก้าเข็มลึกล้ำกันล่ะ?แม่งเอ๊ย!ทนเท่านั้น!หลังจากพ่นลมหายใจออกมายาวๆ หนึ่งครั้ง ฮว่าจิ่วหยางข่มกลั้นต่อไฟโทสะที่ใกล้จะปะทุออกมา พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ผู้กำกับฟาง เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คุณส่งที่อยู่ของเขาให้ผม ผมจะไปเชิญด้วยตัวเอง”หา?ฟางเซิ่งเซวียนได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มนั่งไม่ติดไอ้เด็กฉู่เฉินนั่นมันดีเด่นมาจากไหน อาวุโสฮว่าถึงขั้นจะไปเชิญเขาด้วยตัวเอง?นี่มัน…“ผู้กำกับฟาง คุณฟังอยู่หรือเปล่า?”ผ่านไปครู่หนึ่ง พอเห็นว่าฟางเซิ่งเซวียนที่อยู่ปลายสายไม่พูดอะไรสักที ฮว่าจิ่วหยางจึงถามย้ำอย่างหงุดหงิด“ครับๆๆ…อาวุโสฮว่า ผมจะส่งที่อยู่ไปให้คุณเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้เลย”ฟางเซิ่งเซวียนวางสายด้วยความรู้สึกตกตะลึง เขารีบถามที่อยู่บ้านใหญ่ตระกูลฉู่จากนักข่าวแนวหน้า จากนั้นก็ส่งให้ฮว่าจิ่วหยางทันที“บอกซูซูด้วยว่า ต่อจากนี้ห้ามโจมตีคุณฉู่ รายการของเราต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เขา”หลังจากส่งข้อความเสร็จ ฟางเซิ่งเซวียนก็ออกคำสั่งโดยสัญชาตญาณพอได้รับข้อความจากทางทีมงานอีกครั้ง ซูซูเองก็ถึงกับตะลึงเช่นกัน!ต้องสร้างภาพลักษณ
“คุณปู่ รอผมด้วยครับ!”ฮว่าเทียนอวี่จ้องแผ่นหลังของอาวุโสฮว่าที่เดินไกลออกไป เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบตามไปเวลานี้ ข่าวที่อาวุโสฮว่ากำลังจะไปเยี่ยมเยือนบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งรายการแล้ว“แม้แต่อาวุโสฮว่ายังยอมรับฝีมือการแพทย์ของฉู่เฉินขนาดนี้เลยเหรอ?”สวี่ถิงถิงอ่านข้อความในมือถือ ก่อนจะจมสู่ภวังค์ความคิดเช่นกันที่จริงตัวเธอเองก็มีโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายมาหลายปีแล้ว หนำซ้ำหลายปีที่ผ่านมา เธอเองก็เคยไปหาหมอที่มีชื่อเสียงมาหลายคน แต่กลับไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อย อาการกลับยิ่งย่ำแย่ลงด้วยซ้ำเธอลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็เดินเข้าไปหาฉู่เฉินพร้อมกับรอยยิ้ม และเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า “คุณฉู่ ทักษะด้านการแพทย์ของคุณน่าเลื่อมใสมาก ไม่ทราบว่าช่วยฉันดู…”ฉู่เฉินตวัดสายตามองเธอแวบหนึ่ง ไม่คิดจะเสวนากับเธอแม้แต่น้อยสวี่ถิงถิงไม่คิดว่าฉู่เฉินจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย เธอถึงขั้นขอร้องฉู่เฉินขนาดนี้ ถ้าเป็นคนอื่น คงเป็นฝ่ายเสนอตัวมาช่วยรักษาให้เธอตั้งนานแล้วหลังจากตั้งสติ สวี่ถิงถิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า “คุณฉู่ ฉันชื่อสวี่ถิงถิงค่ะ เมื่อกี้ฉันได้เห็นฝีมือด้
หลายคนในหมู่พวกเขา ทันทีที่เงินเดือนออกจะรีบเข้ามาส่งของขวัญให้ซูซูในช่องไลฟ์สด แม้ว่าตัวเองต้องกลับมาซื้อมาม่ากินที่ห้องก็ตามแต่ว่า ซูซูในดวงใจของพวกเขาที่ทั้งฉลาด สวย แล้วก็ใจดี กลับทอดสะพานให้ไอ้ลูกคนรวยแซ่ฉู่นั่น?!ไม่ใช่แค่พวกแฟนคลับชายแท้พวกนั้นที่กระทบกระเทือนทางใจอย่างรุนแรง แม้แต่กู้รั่วเสวี่ยที่กำลังดูไลฟ์สดก็จ้องหน้าจอมือถืออย่างไม่อยากเชื่อเหมือนกันเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอเข้าใจดีว่าซูซูต้องการจะสื่ออะไรผ่านคำพูดนั้นปากบอกว่าต้องการขอบคุณฉู่เฉินที่ช่วยเพื่อนร่วมงานของเธอ ถึงได้เลี้ยงข้าวฉู่เฉิน แต่นั่นเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นถ้าไม่ใช่ว่าอยู่ต่อหน้าแฟนคลับมากมาย เกรงว่านางจิ้งจอกตัวนี้คงวิ่งโผเข้าใส่ฉู่เฉินไปนานแล้วนึกได้อย่างนั้น กู้รั่วเสวี่ยอดกำหมัดไม่ได้ฉู่เฉินลังเลครู่หนึ่ง ก่อนหันไปมองสวี่ถิงถิง ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “แค่โรคหอบหืด ร้ายแรงอย่างที่คุณพูดขนาดนั้นเลยเหรอ?”ซี้ด!สวี่ถิงถิงมองฉู่เฉินอย่างตกตะลึงเธอเป็นโรคหอบหืดจริงๆ เพียงแต่เธอปิดบังไว้อย่างมิดชิด ขอแค่ไม่ได้อยู่ด้วยกันทั้งวัน ก็ไม่มีใครดูออกว่าเธอเป็นโรคนี้เพียงแต่ ปีนี้โรคหอบหืดของเธอเริ่มม
คำเตือนของฮว่าเทียนอวี่ทำให้อาวุโสฮว่าอดรู้สึกไม่ได้ว่าที่หลานชายของเขาก็พูดมีเหตุผลเหมือนกันเหมือนที่ว่ากันว่า หมอเทวดาแค่ดูสีหน้าก็รู้อาการป่วยแล้วหรือพูดอีกอย่างก็คือ มีเพียงหมอเทวดาตัวจริงเท่านั้นที่จะทำเหมือนฉู่เฉินได้ แค่มองหน้าอีกฝ่ายแวบเดียว ก็รู้อาการป่วยแม้วิชาฝังเข็มของฉู่เฉินจะยอดเยี่ยม แต่อย่างมากเขาก็แค่ได้รับการถ่ายทอดมาจากยอดฝีมืออีกทีเมื่อวงการแพทย์แผนจีนเริ่มถดถอย จากที่ฮว่าจิ่วหยางรู้มาก ทั่วทั้งประเทศจีน แทบไม่มีใครที่สามารถรู้อาการป่วยจากการดูแค่สีหน้าอย่างเดียวแล้วส่วนหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงกันอยู่ในปัจจุบัน แท้จริงแล้วห่างชั้นจากหมอเทวดาจริงๆ ตั้งไม่รู้กี่ขุมนึกมาถึงตรงนี้ ฮว่าจิ่วหยางหยิบมือถือขึ้นมาโทรศัพท์หาฟางเซิ่งเซวียน“อาวุโสฮว่า มีอะไรเหรอครับ?”น้ำเสียงนอบน้อมของฟางเซิ่งเซวียนดังมาจากปลายสายฮว่าจิ่วหยางพยักหน้าเล็กน้อย “อืม ผมแค่จะถามอะไรคุณหน่อย เมื่อกี้คนที่ขอให้ฉู่เฉินช่วยรักษาให้ เป็นแค่การแสดงที่ทางทีมงานจัดฉากขึ้นมาหรือเปล่า?”ฟางเซิ่งเซวียนรีบแก้ต่างให้ตนเองทันทีถึงเขาจะอยาก แต่เวลาอันกระชั้นชิดกลับไม่อำนวยให้เขาหลังได้ฟังคำอธิบา
ซุนเซี่ยวเหรินที่กำลังจับตาดูสถานการณ์ในไลฟ์สดอยู่ก็ขมวดคิ้วแน่นเช่นกันถึงแม้ฉู่เฉินจะมีฝีมือด้านการแพทย์ที่โดดเด่น แต่การประกาศกร้าวต่อหน้าคนมากมายว่าจะรักษาโรคหอบหืดให้หายภายในห้านาทีจะไม่เป็นการอวดอ้างเกินจริงไปหน่อยเหรอ?ในเวลานี้ ในโรงพยาบาลประชาชนเจียงจงก็มีผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์หลายคนกำลังดูไลฟ์สดอยู่เหมือนกันตอนที่ฉู่เฉินประกาศว่าจะรักษาโรคหอบหืดให้หายภายในห้านาที ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทั้งหลายต่างก็หัวเราะออกมาอย่างดูแคลน“ตาคนแซ่ฉู่คนนี้ คงอยากดังจนบ้าไปแล้วมั้ง?”“ขอแค่มีความรู้ด้านการแพทย์นิดหน่อยก็คงรู้ โรคหอบหืดเป็นโรคที่ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา แม้แต่เครื่องมือและตัวยาใหม่ที่นำเข้ามาล่าสุดยังรักษาไม่ได้ เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกันน่ะ?”“ถ้าเขารักษาหายได้จริงๆ ฉันจะลาออกพรุ่งนี้ แล้วไปคุกเข่าคารวะเขาเป็นอาจารย์เลย!”คนแรกที่พูดอย่างนี้ คือหมอเจ้าของไข้ของสวี่ถิงถิงนั่นเอง เขารู้ดีกว่าใครอยู่แล้วว่าอาการป่วยของสวี่ถิงถิงเป็นอย่างไรตั้งแต่ที่ป่วยจนถึงตอนนี้ เป็นเวลาเกือบสามปีแล้ว อีกอย่างเพราะอาชีพที่ต้องระวังเป็นพิเศษบวกกับหน้าตาที่สะสวยของสวี่ถิงถิง เธอจึงต้
ซูซูโค้งตัวเล็กน้อยให้จางเฉิงหลง เอ่ยอย่างสุภาพว่า “สวัสดีตอนเย็นค่ะ รองผู้อำนวยการจาง ฉันคือพิธีกร ซูซู” “สวัสดีตอนเย็นครับ ผมกับเพื่อนร่วมงานหลายคนของโรงพยาบาลเรากำลังดูไลฟ์สดของคุณอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เมื่อกี้คนแซ่ฉู่พูดจาอวดดีเกินไปแล้ว! ”“ผมคิดว่าผู้ชมส่วนใหญ่น่าจะยังไม่ทราบว่าโรคหอบหืดนี้รักษายากแค่ไหน อันที่จริงหลัก ๆ แล้วโรคหอบหืดเกิดขึ้นจากเซลล์ของถุงลมปอดที่ตายเป็นจำนวนมาก” “พูดอีกอย่างก็คือ หากต้องการรักษาโรคหอบหืดจำเป็นจะต้องให้เซลล์ถุงลมปอดของผู้ป่วยฟื้นคืนชีพจากความตาย” เมื่อคำพูดนี้กล่าวออกมา แม้แต่เจ้าหน้าที่ในช่องไลฟ์สดล้วนพากันสูดลมหายใจเย็นยะเยือก “เท่าที่ผมทราบมา แม้แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์กับยาโมเลกุลที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกก็ไม่สามารถฟื้นฟูการทำงานของ เซลล์ถุงลมปอดที่ตายไปได้ เขาเป็นแค่คุณชายเศรษฐีจะไปมีความสามารถอะไร?” เมื่อฟังเขาพูดจบ ซูซูก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “พูดอีกอย่างก็คือ เมื่อเป็นโรคหอบหืดแล้ว อย่างน้อยในแง่ของการแพทย์สมัยใหม่ก็เท่ากับถูกตัดสินประหารชีวิตแล้ว ทำได้เพียงกินยาไปตลอดชีวิต เป็นแบบนี้เหรอคะ รองผู้อำนวยการจาง?”
นี่ยังไม่จบ ในขณะที่สวี่ถิงถิงตกใจจนหน้าถอดสี ฉู่เฉินก็หยิบน้ำแร่ขึ้นมาหนึ่งขวดแล้วอมน้ำคำเล็ก ๆ ไว้ในปาก จากนั้นก็ประกบปาก ค่อย ๆ ส่งน้ำแร่คำนี้ตรงเข้าไปในปากของสวี่ถิงถิงเชี่ย! ไอ้เวรนี่กำลังทำอะไรอยู่?! ซูซูที่เป็นพิธีกรสาวของช่องไลฟ์สดตกตะลึงจนตาค้างโดยสิ้นเชิง ผู้ชมสองสามล้านคนก็มองอย่างอึ้ง ๆ เช่นกัน “กลืนลงไป!”ฉู่เฉินพูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ อึก! แม้ว่าสวี่ถิงถิงจะทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่เธอยังคงกลืนน้ำแร่คำนั้นลงไปในท้อง เวลานี้สมองของเธองุนงงไปหมดแล้ว! ในช่องไลฟ์สดยังมีผู้ชมสองล้านกว่าคนกำลังดูอยู่ ฉู่เฉินก็ทำตัวเหิมเกริมขนาดนี้เชียวเหรอ? แต่ว่าทำไมถึงรู้สึกแปลก ๆ ความรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อกี้ก็ดีขึ้นมากทันทีเหมือนกัน?ส่วนในช่องไลฟ์สด หลิ่วหรูเยียนที่เห็นฉากนี้กลับอดหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้ เธอเคยเห็นการรักษาแบบตบตี และก็เคยเห็นการฝังเข็มครอบแก้วเพื่อรักษาโรคเรื้อรัง แต่ไม่เคยเห็นการรักษาแบบฉู่เฉินมาก่อนเลย “โคตรเชี่ย! นี่แม่งกำลังลวนลามไม่ใช่หรือไง!” “ถ้านี่รักษาโรคหอบหืดได้ งั้นยังจะมีแผนกหูตาคอจมูกปากไปอีกทำไม!” “เวรเอ๊ย ป
อย่าว่าแต่จางเฉิงหลงไม่เชื่อเลย แม้แต่ซุนเซี่ยวเหรินกับฮว่าจิ่วหยางก็รู้สึกเหมือนกำลังฝันไปพวกเขาต่างก็เป็นคนที่หมกมุ่นกับแพทย์แผนจีนมาหลายสิบปี แม้แต่พวกเขาก็ดูไม่ออกว่าฉู่เฉินใช้วิธีการรักษาแบบใดกันแน่ หลิ่วหรูเยียนยิ่งทำหน้าตะลึงงัน หรือว่าแมวตาบอดอย่างฉู่เฉินจะโชคดีเจอหนูตายอีกแล้ว? เขาแม่งโชคดีจริง ๆ! และในคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว หลิ่วชิงเหอที่กำลังดูไลฟ์สดเช่นเดียวกันก็มีสีหน้าซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆฉู่เฉินตรงหน้านี้ยังเป็นไอ้สวะเมื่อตอนนั้นอยู่อีกหรือเปล่า? ตอนนี้เธอไม่เข้าใจฉู่เฉินมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไลฟ์สดคืนนี้ การแสดงความสามารถที่โดดเด่นของฉู่เฉินเกินกว่าที่เธอจินตนาการไว้มากถ้าเกิดแค่ครั้งสองครั้งอาจพูดได้ว่าฉู่เฉินเดาสุ่ม หรือไม่ก็อาศัยโชคล้วน ๆ แต่พอติดต่อกันครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นไม่ใช่โชคแล้ว!“หรือว่าการเปลี่ยนแปลงพวกนี้ของเขาจะเกี่ยวข้องกับกายาโอสถสวรรค์?” หลิ่วชิงเหอจ้องมองฉู่เฉิน จมอยู่ในห้วงความคิด..... ในช่องไลฟ์สด ผู้ชมที่ยังเยาะหยันฉู่เฉินเมื่อครู่นี้ เวลานี้พวกเขาต่างพุ่งเป้าไปที่จางเฉิงหลงกับโรงพยาบาลประชาชนแล้ว“เชี่ย โรงพ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก