แชร์

บทที่ 432

ผู้เขียน: มู่โร่ว
“ดีขึ้นมากแล้ว อีกสามวันก็เริ่มออกเดินทางได้ ท่านเทพ มั่วฝานกับหลูซีสร้างความวุ่นวายให้กับท่านหรือไม่?”

“ถ้าพวกเขาไม่เชื่อฟัง ท่านส่งพวกเขากลับมา!”

เย่มู่มู่กล่าว “ไม่เป็นไร!”

ทั้งสองคนค่อนข้างเชื่อฟัง อย่างน้อยพวกเขาก็ตั้งใจทำงานในพื้นที่ก่อสร้าง

มั่วฝานมีอุดมคติอันสูงส่งเป็นของตัวเองอีกครั้ง

ก่อนกลับไปที่ต้าฉี่ อย่างน้อยเขาจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าให้ได้

และวันนี้หลูซีจับฆาตกรไว้ได้

ฆาตกรตัวเป็น ๆ ได้รางวัลเป็นเงินหนึ่งล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาท

ก่อนกลับไป เขาจะเอาเงินรางวัลแลกเป็นเสบียงอาหารและเอามาไว้ในมือ

ที่สำคัญกว่านั้นเย่มู่มู่รู้สึกว่าหลูซีมีฝีมือการต่อสู้ที่ดี ประพฤติตัวดีมากและยังเชื่อฟัง

ถ้าไม่ใช่เพราะหลูซี เธอเกือบตายถึงสองครั้งแล้ว

เธออยากให้หลูซีอยู่ต่อ ไม่ว่าจะเข้าเรียนหรือเป็นผู้พิทักษ์ของเธอ

เด็กคนนี้มีอุปนิสัยที่ดี

ปกติไม่ค่อยพูดจา แต่ชอบทำงานและมีสมาธิในการทำงานสูงมาก

หน้าตาก็ยังน่ารักมากอีกด้วย!

เย่มู่มู่นำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้บอกเล่าแก่จ้านเฉิงอิ้น

มีคนออกคำสั่งให้มาฆ่าเธอ

ถ้าไม่ใช่เพราะหลูซีช่วยเธอไว้ บางทีเธออาจถูกแจกันอันหนึ่งฟาดตายแล้ว!

เธอถ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Kit Nicasio
เอ็นดู หลูซีของพี่สาว!!!
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 433

    เย่มู่มู่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวตรงบันไดจึงหันขวับเธอเห็นหลูซียกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตาและไม่คิดว่ายิ่งเช็ดยิ่งไหลออกมาจนไม่สามารถหยุดการไหลของน้ำตาได้อีกเด็กคนนี้ อายุสิบหกปีรูปร่างและส่วนสูงไม่กี่สิบเซนติเมตร อายุไม่เกินสี่สิบห้าแน่ เขาขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ทำให้ลดอายุขัยของกระดูกและส่วนสูงชะลอลงจนกระทั่งทำให้เขาดูแล้วสูงเพียงประมาณหนึ่งเมตรกับหกสิบห้าเซนติเมตรเย่มู่มู่พลันยืนขึ้นหยิบกระดาษทิชชู่บนโต๊ะน้ำชาและเดินเข้าไปยื่นให้เขา“ร้องไห้ทำไม?”“นี่คือกระดาษทิชชู่ ใช้สิ่งนี้เช็ดน้ำตาจึงจะไม่ไหลเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ …”เขารับไว้และดึงทิชชู่แผ่นหนึ่งออกมาเช็ดน้ำตาให้สะอาดเขาเดินลงบันได วางอาหารที่ห่อกลับมาห่อใหญ่ลงบนโต๊ะ จากนั้นจัดระเบียบเสื้อผ้าเขาคุกเข่าตรงหน้าเย่มู่มู่และหมอบกราบอย่างลึกซึ้งสามครั้ง“ท่านเทพ ขอบคุณท่านที่จะให้ข้าอยู่ต่อที่นี่ ตะ แต่ว่า…”เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมดวงตาที่แดงก่ำและอ้ำอึ้งพูดต่อไปไม่ไหวเย่มู่มู่ถามเขา “เจ้าไม่อยากอยู่ต่อหรือ?”เขาส่ายหัวอย่างแรง “เปล่าขอรับ ข้าน้อยอยากอยู่มาก แต่ว่าชีวิตที่นี่ดีเกินไป!”“ได้กินของดี ได้สวมเสื้อผ้าดี ๆ ข้า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 434

    “หลูซีเขาเด็กเกินไป ข้าจะส่งหลูหมิงไปด้วย จะได้สมปรารถนาสองพี่น้อง มีเขาสองคนอยู่ทางนั้นข้าค่อยวางใจหน่อย”เย่มู่มู่ยิ้มกล่าว “จริงรึ? เช่นนั้นแล้วสถานะทาสของหลูซีกับหลูหมิง…”“ข้าจะเขียนจดหมายถึงตระกูลมั่ว แค่หน่วยกล้าตายสองคน พวกเขาจะเห็นแก่หน้าของข้า และยอมปล่อยคนพร้อมคืนสำเนาสถานะให้!”เย่มู่มู่หัวเราะอย่างมีความสุข “ดีจังเลย จ้านเฉิงอิ้น ขอบคุณเจ้านะ!”จ้านเฉิงอิ้นได้ยินเสียงหัวเราะดั่งกระดิ่งพร้อมสัมผัสได้ว่าช่วงเวลานี้เธอมีความสุขเพียงใด“ไม่เป็นไรขอรับท่านเทพ…ข้าพบโรงงานผลิตระเบิดและแหล่งขุดเหมืองแร่ของกองทัพธงเหลืองแล้ว”“ข้าจะทำลายโรงงานผลิตระเบิดโดยเร็ว กำจัดเหมืองแร่และสถานที่ผลิตอาวุธ…”“ข้าจัดกำลังพลไว้แล้วและจะเดินทางในอีกสามวันหลังจากนี้!”เย่มู่มู่พลางคิดว่าจะระเบิดโรงงานผลิตระเบิด ขั้นตอนแรกก็ต้องมีระเบิดจำนวนมาก“จ้านเฉิงอิ้น เดี๋ยวข้าไปเร่งระเบิดให้อีกครั้ง จะให้เขามาส่งภายในสามวัน จากนั้นข้าจะใส่ไว้ในที่ว่างเปล่าเป็นอันดับแรก”“เพียงแต่หินแร่เหล็ก…ข้าจะไปซื้อเศษถ่านหินอีกสองสามคันรถให้เจ้านะ!”“ท่านเทพ ตอนนี้ยังไม่ต้องใช้เศษถ่านหิน เพียงแต่ว่าจำนวนรถไม่เ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 435

    หน่วยกล้าตายสิบหกคนเดินเข้ากระโจมจ้านเฉิงอิ้นและคุกเข่าข้างเดียวทั้งหมดพวกเขาทุกคนยังหนุ่มมาก คนที่อายุมากที่สุดคือยี่สิบหกปีอายุน้อยที่สุดสิบแปดปีใส่ชุดสีดำที่เป็นหนึ่งเดียวกันของจวนรัฐทายาทและสวมรองเท้าผ้าใบที่มั่วฝานฝากเย่มู่มู่สั่งซื้อรองเท้าไม่ได้ซักมานาน ฝุ่นจึงเกาะเต็มไปหมดตั้งแต่ท่าคุกเข่ารวมถึงท่ากำดาบของพวกเขา ค่อนข้างแตกต่างจากทหารผ่านศึกแต่ทุกคนต่างหน้าม่อยคอตก สีหน้าหม่นหมองการหายตัวไปของมั่วฝานส่งกระทบพวกเขาอย่างหนักจ้านเฉิงอิ้นกวาดตามองทั้งสิบหกคนและเอ่ยถาม “ผู้ใดคือหลูหมิง?”หนุ่มวัยยี่สิบปีคนหนึ่งที่อยู่ริมสุดพลันเงยหน้าขึ้นมา ฝุ่นเกาะตามใบหน้า แต่หน้าตายังถือว่าเป็นปกติเขาตอบกลับ “แม่ทัพ ข้าน้อยคือหลูหมิง ทางฝั่งหลูซีเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือไม่ขอรับ?”จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ไม่มีอะไร เขากับมั่วฝานอยู่กับท่านเทพ พวกเขาสบายดีมาก พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง”หน่วยกล้าตายหลายคนพลันเงยหน้าขึ้นพร้อมแสดงแววตาประหลาดใจและไม่อยากเชื่อจากนั้นทุกคนหันขวับทอดมองจวงเหลียงที่ยืนข้าง ๆ พร้อมกันแม่ทัพใหญ่พูดว่ารัฐทายาทอยู่กับท่านเทพและสบายดีมากแต่ทว่าเหตุใดเขาจึงได้แส

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 436

    “ไม่ต้องขอบคุณข้า เป็นความประสงค์ของท่านเทพหน่ะ ท่านอยากให้หลูซีอยู่ต่อและได้ทำบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านของฝั่งนั้นให้หลูซี จากนี้ไปหลูซีกลายเป็นคนในโลกของท่านเทพแล้ว”“เมื่อเจ้าข้ามไป จำไว้ว่าชีวิตของเจ้ากับหลูซีเป็นของท่านเทพและต่อจากนี้ก็จงปกป้องท่านด้วยชีวิต”หลูหมิงน้ำตาไหลสองข้าง สีหน้ากลับเข็มขึงมากท่านเทพมอบชีวิตครั้งที่สองให้พวกเขา“ข้าเต็มใจสาบานด้วยชีวิตว่าจะปกป้องท่านเทพจนชีวิตจะหาไม่!”“ดี วันนี้ท่านเทพถูกลอบสังหารด้วยนักฆ่า เมื่อเจ้าข้ามไปแล้ว อย่าคิดว่าโลกของท่านเทพสันติสุขแล้วไร้ซึ่งความอันตราย”“จงระวังให้มาก ให้รู้สึกมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ ถ้าท่านเทพเป็นอะไรไป”“ข้า ผู้นำทัพทุกคน กองทัพตระกูลจ้านจวบจนต้าฉี่ล้วนอาจดับสลาย!”หลูหมิงเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้ เขาวางดาบลงและหมอบกราบจ้านเฉิงอิ้นอย่างลุ่มลึกเขาใช้กำลังที่แรงมากจนหน้าผากเปลี่ยนเป็นสีแดง“หลูหมิงขอสาบาน ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ท่านเทพก็จะอยู่!”“ดี ไปเตรียมตัวตอนนี้ พรุ่งนี้ข้าจะส่งเจ้าไป!”หลูหมิงยืนขึ้นพร้อมดวงตาที่ยังแดงเช่นเดิม เขาฉีกปากและยิ้มแย้ม“แม่ทัพใหญ่ หลูหมิงขอตัวขอรับ!”“ไปเถอะ!”หลูห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 437

    มั่วฝานบอกกล่าวไม่กี่คำเสร็จก็ไปเรียนรู้เรื่องไฟฟ้าหลูซีพาหลูหมิงขึ้นไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเดิมทีเย่มู่มู่จะจัดห้องใหม่ให้หลูหมิง แต่หลังจากที่เขาเข้ามาในห้องหลูซี เขาถึงกับชะงักห้องทั้งกว้างใหญ่และสว่างมีโคมระย้าผลึกแก้วที่แวววาว มีโทรทัศน์ผลึกแก้วที่ใหญ่มหึมาและโต๊ะเก้าอี้ที่สวยงามแม้แต่เตียงนอนก็ยังเป็นเตียงขนาดใหญ่มากในค่ายพักของหน่วยกล้าตายอย่างพวกเขา นอนหลับตามพื้นดิน ตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยได้นอนบนเตียงด้วยซ้ำห้องนอนที่สวยงามเพียงนี้ เตียงนอนที่ใหญ่ขนาดนี้ มันใหญ่พอสำหรับเขากับหลูซีแล้วเขาจึงปฏิเสธห้องที่ท่านเทพจัดให้เย่มู่มู่คิดว่าสองพี่น้องคงมีเรื่องราวที่พูดด้วยกันไม่หมดแน่ จึงไม่บังคับให้แยกกันอีกหลังจากหลูซีเข้าเรียนแล้ว ค่อยจัดห้องใหม่อีกครั้งทั้งสองคนค่อนข้างประพฤติตัวดี หลูหมิงอาบน้ำสระผมเปลี่ยนเสื้อผ้าและกินอาหารเช้าที่หลากหลายมากมายเสร็จ ก็ถูกหลูซีพาไปทำงานตรงพื้นที่ก่อสร้างพื้นที่ก่อสร้างคือบ้านหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างตรงบ้านพักตากอากาศมั่วฝานหนีไปแล้ว วันนี้หลูซีพาอีกหนึ่งคนด้วย ทุกคนจึงดีใจมากเดิมทีหลูหมิงไม่อยากไป หลูซีกล่าวว่า ทำงา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 438

    หลัวอี๋กับรถขนเสบียงห้าคัน รถบรรทุกน้ำมันหนึ่งคันและหนึ่งร้อยคนเฝ้าติดตามเหมืองแร่คืนนี้ ทุกคนจะออกเดินทางพร้อมกันโดยแยกออกเป็นสี่กลุ่มตอนที่เซี่ยเวยเหอส่งจางเฉากับหลัวอี๋ เขาใช้คำพูดที่เต็มไปด้วยความจริงจัง “สองเรื่องนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จำไว้ เมื่อชนะแล้ว จากนี้ไปพวกเราจะได้รับตำแหน่งและยศบรรดาศักดิ์ไปพร้อมกับแม่ทัพและมีชีวิตที่ดี!”“หากว่าวันหนึ่ง เขารวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเจ้าก็คือขุนนางผู้สถาปนาแคว้น!”หว่างคิ้วของจางเฉากับหลัวอี๋พลันกระตุก ไม่คิดเลยว่าแม่ทัพจะกล่าวออกมาอย่างไม่หลีกเลี่ยงถึงเพียงนี้พวกเขารู้ว่าแม่ทัพใหญ่กำลังจะก่อกบฏต่อฮ่องเต้น้อยแคว้นฉี่เรื่องนี้ได้ตอกตะปูไว้บนกระดานเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว!เพียงแต่ ถ้ารวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวกันรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกันเลยนะ!นับจากหัวเซี่ย มีบ้านเมืองและชนเผ่าจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีผู้ใดเคยรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้สักคนแม่ทัพใหญ่ เขา~จะทำได้จริง ๆ หรือ?ถ้าทำสำเร็จขึ้นมาพวกเขาก็จะกลายเป็นขุนนางผู้สถานปนาแคว้นไม่พูดถึงชื่อเสียงเลื่องลือไปสู่รุ่นหลานหรือชั่วกัลปาวสาน ถึงจะเป็นเช่นนั้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 439

    จ้านเฉิงอิ้นถามจวงเหลียง “ประชากรเมืองต้ายงก่อนเกิดทุพภิกขภัยมีจำนวนเท่าไหร่ เจ้าเมืองเป็นใคร? มีใครเฝ้ารักษาเมืองบ้าง?”“เรียนแม่ทัพ ยุคสมัยที่เมืองต้ายงเจริญรุ่งเรืองสูงสุด มีจำนวนประชากรสี่แสนแปดหมื่นคน ก่อนเกิดทุพภิกขภัยมีสี่แสนสองหมื่นคน”“เจ้าเมืองคือเหวยหง ผู้รักษาเมืองคือชิวเฉิงอวี่ จัดระดมสามพันคนคอยเฝ้ารักษาเมือง!”“ภายในเมืองมีการค้าขายที่เจริญก้าวหน้า เป็นเมืองที่นำจ่ายภาษีประจำปีสูงสุดในบรรดาหัวเมืองใกล้เคียงสิบแห่ง”จวงเหลียงประกบหนังสือรายงาน เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่และกล่าว “วันนี้ ไม่รู้เช่นกันว่าเมืองต้ายงที่ครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองนั้นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”จ้านเฉิงอิ้นถามซ่งตั๋ว “อีกนานเท่าไหร่กว่าจะถึง?”“จะเข้าเมืองหลังจากฟ้าสว่าง แม่ทัพจะส่งคนไปแจ้งเจ้าเมืองก่อนหรือไม่?”“เจ้าส่งคนไปเถอะ!”“ขอรับ”หลังจากรีบออกเดินทางตลอดทั้งคืน ทุกคนจึงมาถึงนอกเมืองก่อนฟ้าส่างยามเช้า เมื่อมองดูแต่ไกลหัวเมืองที่ครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตชีวา ตอนนี้กลับเงียบสงบไร้การเคลื่อนไหวอย่างน้อยก็ไม่เห็นใครเดินทางเข้าเมืองเลยยิ่งไปกว่านั้นไม่มีแม้แต่ทหารเฝ้ารักษากา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 440

    เฉินอู่กล่าวเตือน “ถ้าทางข้างหน้ามีกองทัพธงเหลืองขวางทาง ข้างหลังจะมีทหารไล่ตาม?”“พวกเราจะกลัวพวกมันรึ? เรามีหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและระเบิดอยู่ในมือ!”“ถ้าพวกเขากล้าไล่ตาม เราก็ฝังระเบิดไว้ที่ข้างหลัง!”เมื่อเป็นเช่นนี้ จ้านเฉิงอิ้นพลางกล่าว “ใช้ทางอ้อม ก็แค่ต้องเดินเพิ่มขึ้นไม่กี่วันแค่นั้น ไม่ทำให้ขาดแคลนละครโทรทัศน์นี่หรอก!”ซ่งตั๋วยิ้มแย้มกล่าว “แม่ทัพช่างฉลาดเลิศ!”เฉินขุยยังลืมหญิงเต้นรำจากเขตตะวันตกไม่ลืม “เสียดายจัง คงไม่ได้เห็นหน้าอีกแล้ว!”ซ่งตั๋วมองตาขวางเฉินขุยอย่างแรงหนึ่งที“ฮึ หญิงเต้นรำจากเขตตะวันตกอะไร ข้าจะบอกฮูหยินเฉินตอนนี้เลย ให้นางควบคุมเจ้าให้เข้มงวด!”กองกำลังชุดใหญ่หยุดเดินทาง ทุกคนเริ่มหาสถานที่ตั้งค่ายพักพื้นที่ผืนนี้เป็นที่ราบ ไม่มีภูเขาและถ้ำและไม่มีสถานที่ให้ความร่มเงาจึงจำต้องกางกระโจมโชคดีที่เย่มู่มู่ส่งกระโจมกันแดดมาให้ทุกคน ทุก ๆ กระโจมจะมีพัดลมตัวเล็กหนึ่งเครื่อง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ครั้นติดตั้งกระโจมเสร็จ พัดลมก็เริ่มทำงานทันที ทุกคนปูเสื่อที่พื้นและคลุมทับด้วยผ้าห่มจ้านเฉิงอิ้นให้เถียนฉินบังคับอากาศยานไร้คนขับอีกครั้งภายใ

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status