กระทั่งสื่อยังหันกล้องมาจ่อเขาหลังจากนั้นหลูหมิงและหลูซีที่อยู่บนรถก็ลงมาวันนี้ทั้งสองคนบรรจงแต่งตัว สวมชุดคลุมยาวเนื้อผ้าเดียวกับมั่วฝาน ทว่าคนละแบบ และผูกผมยาวไว้ตรงท้ายทอยหลูซีกระทั่งลวดมือหยิบกระบี่ยาววัสดุสไตล์โบราณเอาไว้ตลอดกระบี่ยาวอยู่ในมือเขา กลับกลมกลืนอย่างคาดไม่ถึง!เย่มู่มู่ให้เขาเลือกมาหนึ่งเล่ม จากในบรรดากระบี่ชื่อดังสิบกว่าเล่มที่เถ้าแก่โรงงานเลียนแบบของโบราณเคยส่งมา!เขาเลือกกระบี่มังกรเล่มหนึ่ง!ในวินาทีที่เย่มู่มู่ลงมาจากรถ เมื่อรองผู้อำนวยการจางได้ยินเสียงข่าว ก็ออกมาต้อนรับพวกเขาเข้าไปด้วยตนเอง“มู่ม่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ผมคิดว่าคุณจะมาถึงสายกว่านี้ซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะมาเร็วที่สุด!”“มา ๆ เชิญชั้นบนเลย!”“พวกผู้อาวุโสจาง ผู้อาวุโสสวี่ ผู้อาวุโสมู่เขามาหรือยังคะ?”“ยังครับ เหล่าจางยังไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน เหล่ามู่ยังเข้าสอนนักเรียนอยู่ ผู้อาวุโสสวี่อีกคนติดต่อไม่ได้ ไม่เป็นไรครับ ติดต่อกับผู้ช่วยของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ต้องมาอย่างแน่นอน เกรงก็แต่ว่าไม่ถึงวินาทีสุดท้ายของพิธีตัดริบบิ้น จะไม่โผล่หัวมา!”“คุณวางใจเถอะครับ ขอแค่คุณมาถึงแล้ว พวกเขาจะต้องมา
เย่มู่มู่ฟังแล้วตะลึงตาค้าง…นี่มัน ทำไมพูดไม่เหมือนกับผู้บรรยายเลยล่ะมีเด็กน้อยที่ยืนข้าง ๆ พวกเขาคนหนึ่งพลางยกมือขึ้น“คุณน้าผู้บรรยาย คุณน้าพูดไม่ถูก พี่ชายคนนี้ทั้งที่พูดว่าเป็นอ๋องของชนเผ่าหนึ่ง ได้พาคนของเขาไปออกล่าสัตว์ พวกเขาล่าเหยื่อได้จำนวนมาก ท่านอ๋องดีใจมากจึงสังหารทาสสามคนเพื่อเฉลิมฉลอง!”ทันใดนั้น ทุกคนก็มองมาส่วนผู้บรรยายอยากจะโต้กลับในตอนแรก แต่พอเห็นชายหนุ่มสวมชุดโบราณหน้าตาหล่อเหลากับเย่มู่มู่…พวกเขาเป็นแขกพิเศษของพิพิธภัณฑ์ รองผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สั่งไว้ว่าต้องดูแลพวกเขาให้เป็นอย่างดีเธอพลันหน้าแดงพร้อมยิ้มเขินอายและไม่ได้โต้แย้งมั่วฝานเย่มู่มู่จึงใช้โอกาสนี้พาทั้งสามคนเดินออกมาและปล่อยให้ผู้บรรยายยืนบรรยายให้คนอื่นอยู่ที่เดิม ส่วนพวกเขาจะเดินดูตามใจชอบโบราณวัตถุที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง มีของหลายราชสมัยและเป็นเครื่องลายครามส่วนใหญ่แจกัน ชามและจาน…มีลวดลายและไม่มีลวดลายและยังมีของใช้ในชีวิตประจำวันของสมัยโบราณ อย่างเช่นเครื่องปั้นดินเผาสำหรับต้มข้าว อุปกรณ์ในครัวและอุปกรณ์มีด…ของเหล่านี้ เมื่ออยู่ในยุคสองพันปีที่ต้าฉี่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปแน่นอนว่
“เสียดายจัง สวรรค์อิจฉาคนมีความสามารถ!”“ถ้าเขารอดชีวิต ประวัติศาสตร์ก็จะถูกแก้ไข ฉันสังเกตเห็นว่าในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ความสามารถการเป็นกุนซือด้านการรบของเขาแข็งแร่งที่สุด ที่สำคัญยังหนุ่มมาก ทำไมถึงได้มาเกิดในต้าฉี่บ้านเมืองที่เป็นแบบนี้กันนะ!”“ดูสิ บันทึกประวัติศาสตร์อย่างไม่เป็นทางการบันทึกไว้ว่า ฮ่องเต้โง่เขลาเบาปัญญาไร้ซึ่งศีลธรรม ยิ่งไปกว่านั้นยังขี้สงสัยมาก แต่ละวันคิดแต่จะยึดอำนาจทางทหารของเขากลับมายังไง!”“ราชวงศ์ที่สถานการณ์ไม่มีความมั่นคงและยังเกิดทุพภิกขภัย ฮ่องเต้กลับคิดจะแย่งอำนาจทางทหารของแม่ทัพกลับคืน นี่ไม่ใช่การวิ่งเข้าหาความตายเหรอ?”“ก็แค่เสียดายแม่ทัพหนุ่มผู้นี้เท่านั้น!”“นั่นสิ น่าเสียดาย ดูตอนเขาเสียชีวิตสิเพิ่งจะอายุยี่สิบเอง หนุ่มกว่าแม่ทัพขุนชนะศึกอีก!”มีเด็กคนหนึ่งถือลูกบอลไว้ในมือและอยากวางไว้ข้างหน้าภาพวาดของจ้านเฉิงอิ้น แต่ถูกพนักงานห้ามไว้เด็กน้อยพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ตอนที่พี่ชายคนนี้ตายเขาเพิ่งจะอายุยี่สิบปี ผมอยากให้ลูกบอลเขาหนึ่งลูก เขาจะต้องชอบแน่ ๆ !”และยังมีเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งวางนาฬิกาโทรศัพท์ลงไป“หนูให้นาฬิกาโทรศัพท์กับเขา ตอน
หลังจากเขากลับไป เขาไม่ควรทำตามอำเภอใจอย่างเมื่อก่อนอีกควรเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อพลเมืองและต่อต้าฉี่เขาพูดพร้อมดวงตาแดงก่ำ “ท่านเทพ ข้ารู้แล้วว่าเส้นทางหลังจากนี้ควรจะเดินอย่างไร!”เย่มู่มู่เห็นตาแดงสองข้างของเขาการพาเขามาที่พิพิธภัณฑ์ส่งผลกระทบกับเขามากเหมือนกันเขากล่าวเพิ่ม “คืนนี้ ข้าจะกลับไปเลย หลูซีกับหลูหมิงรบกวนท่านด้วย!”เย่มู่มู่ยืนยันซ้ำ ๆ “เจ้าตัดสินใจแล้ว?”“ใช่ ข้ากลับไป ถึงแม้ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ แต่ก็อยากให้จ้านเฉิงอิ้นผ่อนคลายบ้าง ข้าจะให้ไทเฮาคิดหาวิธีกำจัดฮ่องเต้น้อย!”ถ้าเขาตาย จ้านเฉิงอิ้นจะสบายขึ้นเยอะมาก“ได้ ถ้าเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าก็สนับสุน!”ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับมั่วฝานนั้นรุนแรงมาก เขายืนกรานว่าจะกลับไปวันนี้เย่มู่มู่ไม่ได้อยู่รอผู้อาวุโสมู่และคนอื่น ๆ มาร่วมพิธีเปิดงานและเธอพาพวกเขากลับไปก่อนก่อนเดินออกมา เธอได้ขอวิดีโอบรรยายห้านาทีของพิพิธภัณฑ์สองนาทีครึ่งเป็นการบรรยายเกี่ยวกับห้องโถงต้าฉี่ หนึ่งนาทีครึ่งเป็นการบรรยายเกี่ยวกับจ้านเฉิงอิ้นการบรรยายเกี่ยวกับเขา ล้วนพรรณนาด้วยคำพูดอย่างมังกรบินจากฟากฟ้า แม่ทัพหนุ่มน้อย เทพสงครามแห่งต้าฉ
เย่มู่มู่ หลูซีและหลูหมิงตาแดงทุกคนเธอขึ้นไปชั้นบนและเหลือพื้นที่ไว้ให้พวกเขาหลังจากเย่มู่มู่เดินออกไปมั่วฝานพูดกับหลูหมิง “ข้าจะกลับแล้ว ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีโอกาสกลับมาไหม พวกเจ้าต้องปกป้องท่านเทพให้ดี ท่านมีจิตใจที่เมตตา ควรมีอายุยืนร้อยปี!”หลูซีกับหลูหมิงคุกเข่าและอยากโค้งคำนับเขาเขาพยุงพวกเขายืนขึ้น “ท่านเทพเคยพูดไว้ หัวเข่าของชายหนุ่มนั้นมีทองคำ ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงยุคปัจจุบันแล้ว ก็ควรดำเนินชีวิตตามกฎระเบียบของยุคปัจจุบัน!”“ไม่ต้องเป็นห่วงข้ากับกองทัพตระกูลจ้าน!”“ถ้าทำได้ ข้าอยากส่งคนมาปกป้องท่านเทพเพิ่มอีกสองสามคน!”“ตอนนี้ปกป้องท่านเทพให้ดีมีความสำคัญยิ่งกว่าปกป้องข้า!”“เอาล่ะ ข้าจะไม่พูดไปมากกว่านี้แล้ว พวกเจ้าก็จงดูแลตัวเองให้ดี!”น้ำตาของพวกเขาหมุนวนในดวงตา สุดท้ายพวกเขาคุกเข่าและยกมือประสานกลางอกคารวะมั่วฝาน“รัฐทายาท กรุณาดูแลตัวเองด้วย!”“รัฐทายาท โปรดระมัดระวังทุกเรื่อง เรื่องของการสู้รบก็ยกให้คนอื่นไปทำ ความปลอดภัยของท่านสำคัญที่สุดต่างหาก!”มั่วฝานพยักหน้าตอนที่เย่มู่มู่เดินลงมา เจ้านายและคนรับใช้สามคนล้วนร้องไห้จนขอบตาแดงเธอไม่พูดอะไรมาก พลางหย
กลุ่มหน่วยกล้าตายได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ไม่รู้ว่าใครตะโกนเสียงดัง “รัฐทายาทกลับมาแล้ว!”ทุกคนมุ่งเข้าไปราวฝูงผึ้งโดยใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดของวิชาตัวเบาบินมาถึงข้าง ๆ มั่วฝานหัวหน้าพ่อบ้านของมั่วฝานได้ยินว่าเขากลับมา ก็ตะโกนด้วยเสียงเศร้าท่ามกลางฝูงชน “รัฐทายาท ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!”คนรับใช้สองคนพาหัวหน้าพ่อบ้านฝ่าออกจากฝูงชนจนมาถึงตรงหน้ามั่วฝานครั้นเห็นสภาพของเขา…ไม่มีเครื่องประดับมีค่าติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว หยกแขวนที่แขวนติดตัวตลอดเวลาก็หายไปศีรษะไม่มีการรวบมัดด้วยซ้ำ แต่รวบไว้ด้านหลังอย่างสบาย ๆผิวดำขึ้น!และผอมลง!เขาใช้แขนเสื้อแอบเช็ดน้ำตา “ท่านรัฐทายาท ท่านลำบากแล้ว!”ในความเป็นจริง มั่วฝานได้กินอาหารดีมากในโลกปัจจุบัน ถึงแม้เขาอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างและกินข้าวร่วมกับพวกพี่ซุนอาหารไม่ได้ทำด้วยความประณีตเท่ากับของในครัว แต่เขาก็ทนส่วนผสมที่หลากหลายและความมันเยิ้มไม่ไหว เขาเพลิดเพลินกับการกินมากเขารู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นด้วยซ้ำเขากล่าวปลอบใจพ่อบ้าน “ไม่เป็นไรเลย นี่ข้าก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วไม่ใช่เหรอ?”พ่อบ้านมองนิ้วมือแห้งกร้านของเขาต่อ หลังมือมีบาดแผลด้
“ของเหล่านี้มีค่าเป็นอย่างยิ่ง ระมัดระวังหน่อย…”บังเอิญหยางชิงเหอมาหาจ้านเฉิงอิ้นและต้องการเพิ่มกำลังคนไปช่วยทำแม่พิมพ์พอดีครั้นเธอเห็นเครื่องถ่ายเอกสารกับโน้ตบุ๊กยี่ห้อจวี๋ เธอแทบจะวิ่งเหยาะและเบียดเข้าไปท่ามกลางฝูงชน“อ๊ากกก…โน้ตบุ๊ก เครื่องถ่ายเอกสาร น้ำหมึกและกระดาษสี่เอ…”เธอต้องการใช้ของเหล่านี้เป็นอย่างมากหลังจากนี้เธอสามารถวาดพิมพ์เขียวในโน้ตบุ๊กได้แล้วและยังปริ้นท์ออกมาได้อีกด้วยทันใดนั้น เธอทอดสายตาแวววาวกับมั่วฝาน“พี่คนหล่อ ของเหล่านี้ให้ข้ายืมใช้ระยะหนึ่งได้หรือไม่ ข้าจะรีบนำมาคืนอย่างรวดเร็ว!”มั่วฝานได้ยินหยางชิงเหอเรียกเขาพี่คนหล่อและส่งสายตามองมาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดสีคราม ผิวพรรณแห้งกร้าน หน้าตาเป็นเอกลักษณ์ สายตาแวววาวเป็นอย่างยิ่งทอดมองมาจนมั่วฝานขุนลุกไปทั้งตัวแววตาของนางคล้ายหมาป่าเกินไป“เจ้าคือหยางชิงเหอ?”เขาเคยได้ยินท่านเทพกล่าว มีผู้หญิงจากยุคปัจจุบันชื่อหยางชิงเหอทะลุมิติข้ามมายังยุคโบราณ ตอนนี้ถูกจ้านเฉิงอิ้นรับเอาไว้มาอยู่ใต้ล่างเป็นคนมีความสามารถที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเธอพยักหน้าด้วยความเร่งรีบและหนักแน่นแม้ว่าเขายังไม่เคยสัมผัสโน
จ้านเฉิงอิ้นแสดงหน้าเย็นชาสะบัดแขนเสื้อเดินจากไปเขาอิจฉาจริง ๆ นะ!สีหน้าของมั่วฝานน่าทุบตีมาก เขากลัวควบคุมตนเองไม่ได้…เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความรู้สึกอิจฉาอย่างรุนแรงท่านเทพดีกับเขาเกินไป!ดีจนมากเกินไปจ้านเฉิงอิ้นเดินมาถึงข้าง ๆ แจกัน เขาเคที่แจกัน ไม่สนใจว่าฝั่งของเย่มู่มู่จะได้ยินหรือไม่เขาพลางกล่าวด้วยความน้อยใจเต็มล้น “ท่านเทพ ของขวัญมากมายที่มอบให้มั่วฝาน…”เขาอยากได้เหมือนกัน!เพียงแต่ว่า เขาคือแม่ทัพใหญ่ ไม่รู้จะปริปากขออย่างไร“ของขวัญสวยงามมาก เหล่าแม่ทัพชอบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ค เครื่องถ่ายเอกสารหรือว่านาฬิกา ถะ ถ้าหาก…”อีกฝั่งของแจกันไม่มีข้อความส่งกลับมาและได้ยินเพียงเสียงลมหายใจเบา ๆเย่มู่มู่ส่งคนเป็น ๆ ข้ามไปทั้งคน เธอเหนื่อยมากเหนื่อยจนจะเป็นอัมพาตทันทีที่ล้มลงบนโซฟา เธอนอนหลับทันทีหลูซีกับหลูหมิงสองคนช่วยกันห่มผ้าให้และไม่รบกวนเธออีก!หลูซีไปเรียนพิเศษแบบตัวต่อตัวหลูหมิงไปทำหน้าที่ลาดตระเวนไม่มีใครได้ยินเสียงของจ้านเฉิงอิ้น!จ้านเฉิงอิ้นพูดเป็นเวลานาน สุดท้ายแล้วก็ไม่มีการตอบกลับจากเย่มู่มู่สุดท้าย เขาจึงดึงเสียงกลับมาเขาแค่ไม่ม
เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล
เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด
“คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ
“แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ
ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล
หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล
แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา
ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ