Share

บทที่ 546

Author: มู่โร่ว
เขามาผิดทางแล้ว จะทำภารกิจใดไม่แล้วเสร็จเลยไม่ได้

เมื่อเทียบแคว้นฉู่และแคว้นเยี่ยน ในด้านกองกำลังแคว้นฉู่เหนือกว่า!

หลังจากนั้นคำบอกเล่าของเถ้าแก่เจ้าของร้าน ก็ทำเอาเขาตกตะลึงไปเลย

“ท่านแม่ทัพหลี่ เกรงว่าครั้งนี้ท่านจะคว้าน้ำเหลวแล้ว! ที่พวกท่านโจมตีเข้ามาในแคว้นฉู่ได้ ไม่ใช่เพราะทหารคุ้มกันของเมืองหลวงหละหลวม ทว่าทหารคุ้มกันในเมืองส่วนใหญ่ ตามฉู่อ๋องไปเซ่นไหว้ที่เขาเทพยดาต่างหาก!”

“ราชวงศ์ตระกูลชนชั้นสูง ตระกูลทรงอิทธิพล ขุนนางใหญ่ในราชสำนัก ลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์...ต่างไปในครานี้ ยกขบวนกันไปอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรสามแสนคน!”

“เพื่อให้พวกเขาได้กินดีอยู่สบาย จึงนำข้าทาสส่วนใหญ่และทหารรักษาการณ์ไปด้วย!”

หลี่หยวนจงปรบมือทีหนึ่ง “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!”

เช่นนี้ก็จัดการได้ง่ายมิใช่หรือ?

พวกเขาไปเซ่นไหว้ที่เขาเทพยดา เช่นนั้นเขาไปขวางไว้กลางทาง ก็เท่ากับกวาดเรียบไม่มีเหลือไม่ใช่หรือ!

เยี่ยม นี่เป็นวิธีที่ดี!

เขารู้สึกว่าตนฉลาดหลักแหลมเป็นที่สุด!

“แต่ว่าท่านแม่ทัพ นอกจากองครักษ์ในวังแล้ว ยังมีทหารประจำจวน และยังมีกองทหารหนึ่งแสนคนติดตามไปด้วย!”

“ในสามแสนนายนี้ มีสองแสนนายเป็นทหาร
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 547

    บางครั้งองครักษ์ที่เฝ้าเมืองก็คิดจะไล่พวกเขาเช่นกันทว่าสู้ไม่ได้แล้วจะทำอะไรได้!ทำได้เพียงมองดูพวกเขาปล้นคนรวยไปช่วยคนจนในเมือง และตั้งโรงทานโจ๊ก!กระทั่งชาวบ้านที่เข้าแถวซื้อโจ๊กยังขวางพวกเขา ตั้วตนเป็นศัตรูกับพวกเขา!ตอนนี้ คำสรรเสริญจากประชาชนในเมืองต่อพวกเขาดีเป็นอย่างมากหนึ่งคือเรื่องที่พวกเขาทำ ล้วนเป็นการผดุงธรรมแทนสวรรค์ แม้จะเป็นเสบียงอาหารที่ปล้นออกมาจากแต่ละจวนก็ตาม ทว่าล้วนแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ไม่ได้กินข้าว มอบทางรอดชีวิตให้แก่พวกเขาและเนื่องจากผลพลอยจากการได้รับคำสรรเสริญของประชาชนในเมือง กระทั่งมีคนคิดจะเข้าร่วมกับพวกเขาตรงนั้นเลยภายในเวลาสองวัน จำนวนของผู้ที่เข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านมีมากถึงหนึ่งแสนคนมิหนำซ้ำหลี่หยวนจงไม่ปฏิเสธผู้ที่เข้ามา เพียงมีรูปร่างดีหน่อยก็สามารถเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านได้แล้วเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนคน ทหารที่เฝ้าเมืองยิ่งไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่าม เพียงแต่รีบส่งข่าวให้ฮ่องเต้แคว้นฉู่อย่างรวดเร็ว ให้เขารีบกลับมา!ไม่นานบัลลังก์ของเขาจะเปลี่ยนเจ้าของแล้วไม่นานหัวเมืองของเขาก็ถูกกองทัพตระกูลจ้านยึดครองจนหมดใช่แล้ว เหลวไหลสิ้นด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 548

    ขณะหลี่หยวนจงเขียนจดหมาย ยังมีความกังวลใจเล็กน้อยว่ากันตามเหตุผล ทำความผิดเช่นนี้ เมื่อออกคำสั่งทางทหาร ที่ร้ายแรงอาจถูกบั่นคอสองทัพทำศึกใหญ่ ผู้บัญชาการพามาผิดทาง ความผิดที่ได้ทำร้ายแรงเพียงใดฉะนั้น ในจดหมายเขาอธิบายให้ตัวเองสารพัด วันนี้ยังดึงคนกองกำลังมาได้หนึ่งแสนคนนับว่าชดเชยความดีความชอบแล้ว!ไม่ว่าอย่างไร แม่ทัพใหญ่ก็ไม่คงลงโทษเขากระมัง!อันที่จริงอาจจะยังน่าเดือดดาลอยู่ เขาจึงหอบความหวังไปไว้ที่การซุ่มโจมตีสองหมื่นคน อีกฝ่ายสามแสนคน!จำนวนคนเหลื่อมล้ำ ไม่แน่ว่าเขาจะควบคุมได้ทว่า ไม่ลองจะรู้ได้อย่างไร ระเบิดกองทัพแคว้นฉู่ไม่ตาย?มิหนำซ้ำ ข่าวในเมืองก็คงไหลรั่วออกไปฮ่องเต้แคว้นฉู่คงได้รับข่าว และรีบกลับมาโดยเร็วเขาได้แต่รอจะถูกโบยลงโทษหรือนับเป็นผลงานทางทหาร จะสำเร็จหรือคว้าน้ำเหลวอยู่ที่ตรงนี้*ภูเขาเหมือง!จ้านเฉิงอิ้นได้รับจดหมายของหลี่หยวนจงในวันที่สิบห้าไม่คิดเลยว่าเขาจะไปผิดทาง?เขาไปเมืองหลวงแคว้นฉู่?ไม่คิดเลยว่ายังจะโจมตีเข้าไปด้วย!มิหนำซ้ำยังรับคนเข้ามาหนึ่งแสนคน!เรื่องไร้สาระเช่นนี้ เขาทำสำเร็จเสียด้วยนี่เป็นเมืองหลวงแคว้นฉู่เลยนะ!

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 549

    จ้านเฉิงอิ้นรีบส่งจดหมายของหลี่หยวนจงให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่กำลังกลับจากโกดังไปยังคฤหาสน์เธอคำนวณวัน อีกสองสามวันก็จะกลับมหาวิทยาลัยแล้ว หากเธอยังเลื่อนออกไปอีก เธอก็ไม่สามารถอธิบายกับมหาวิทยาลัยได้แล้ว!เธอครุ่นคิด ในท้ายที่สุดก่อนจะกลับมหาวิทยาลัย จะซื้อของให้จ้านเฉิงอิ้นล็อตหนึ่งเกรงว่าหากกลับไปมหาวิทยาลัยแล้ว จะไม่สะดวกส่งของไป!ไม่คิดเลยว่า แค่คิดเล่น ๆ จะเป็นประโยชน์จริง ๆส่งไปในตอนที่จ้านเฉิงอิ้นต้องการที่สุดทั้งสามคนเพิ่งกลับถึงคฤหาสน์ กระดาษแผ่นหนึ่งก็ปลิวตกลงมาหลูซีหยิบขึ้นมา แล้วส่งให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่เห็นคำอธิบายในกระดาษ ก็พลันหัวเราะออกไหล่สั่น...“ฮ่า ๆ ๆ อายุเท่านี้ทำศึกยังหลงทางได้อีก หลี่หยวนจงเขาโง่เรื่องทิศทางหรือ?”“ไม่คิดเลยว่าเขาจะวิ่งแจ้นไปแคว้นฉู่ มิหนำซ้ำยังรวบรวมกองกำลังได้กองหนึ่ง”“พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ไม่คิดเลยว่าเขาจะบุกเข้าเมืองหลวงแคว้นฉู่!”“ฮ่า ๆ ๆ เรื่องเข้าใจผิดนี่ น่าขำชะมัด!”เย่มู่มู่ส่งจดหมายให้หลูซีและหลูหมิงอ่าน...ครั้นทั้งสองคนอ่าน ใบหน้าก็เปี่ยมไปด้วยความหมดคำพูดเหตุใดหลี่หยวนจงจึงหลงทาง แม้แคว้นฉู่กับแคว้นเยี่ยนจะเชื่อ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 550

    “แต่หนูยังคิดจะเอามากมายขนาดนี้อีก นี่มันพาอาไปซวยชัด ๆ!”เย่มู่มู่คิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของอาเซียวหัวจะรุนแรงขนาดนี้แต่ว่า ด่านเจิ้นกวนขาดวัตถุระเบิด รอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวจริง ๆเธอเองก็ต้องกลับมหาวิทยาลัยแล้วไม่สะดวกจะออกไปซื้อของและขนย้ายของในปริมาณมากเย่มู่มู่ตอบ “อาเซียวหัว หนึ่งร้อยตันห้าร้อยล้าน หามาได้เท่าไร ก็พยายามโยกย้ายมา”“มีเวลาแค่สามวันเท่านั้น ขอเพียงทำเรื่องใหญ่ ชีวิตนี้ก็ต้องเป็นแบบนี้ อาดูแล้วจัดการเองแล้วกันค่ะ หนูจะไม่บังคับอา!”พูดจบเย่มู่มู่ก็ตัดสายทิ้งหลังจากนั้นก็ติดต่อเถ้าแก่โรงงานเลียนแบบของโบราณแล้วตัดสินใจสั่งอุปกรณ์สวมใส่อีกสามแสนชุด...ดาบม่อเตาสามแสน ดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังสามแสน หน้าไม้ราชวงศ์ฉินหกแสน ปีกลูกธนูสิบล้านชิ้นโล่ หอก ปืนยาว เกอ ง้าวอื่น ๆ...อย่างละห้าหมื่นชุดและยังมีกระบี่ชื่อดังใช้เลียนแบบของโบราณ ต้องการอย่างละหนึ่งพันเล่มหินทับทิมที่ฝังพลอยไว้ด้านบน ซื้อฝังเพชรสีและพลอยเทียมกระบี่ชุดนี้ เย่มู่มู่ส่งให้จ้านเฉิงอิ้นซื้อใจคนไม่แคว้นเยี่ยนก็แคว้นฉู่ จะต้องเอามาได้สักแคว้นซื้อตัวทหารและแม่ทัพเบื้องล่าง ตบรางวัลเป็นกร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 551

    ตัวแทนจำหน่ายรถท้องถิ่นไม่สามารถทำให้เธอพึงพอใจได้อีกแล้วเธอเปิดคอมพิวเตอร์ เข้าไปที่เว็บไซต์ทางการ แล้วค้นพบช่องทางการติดต่อของผู้จัดการฝ่ายขายเธอโทรศัพท์ไปผู้ที่ให้คำปรึกษาไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ เมื่อผู้จัดการฝ่ายขายได้ฟังว่าเธอต้องการซื้อรถห้าร้อยคันก็ตกใจอย่างหนักต่อมารู้ว่าเธอเป็นเจ้าของบริษัทไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกร ต้องการสร้างหน่วยขนส่ง เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั่วประเทศจึงตกลงขายให้เธอรถบรรทุกขนาดใหญ่เมื่อลดราคาแล้ว ขายให้เธอในราคาคันละหนึ่งล้านแปดแสนบาททั้งหมดก็เก้าร้อยล้านบาท!เดิมทีผู้จัดการฝ่ายขายจะให้คนขับรถของหน่วยขนส่งของเธอมาขับรถบรรทุกกลับไปแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเย่มู่มู่จะให้อีกฝ่ายเป็นคนส่งมาคนขับรถบรรทุกห้าร้อยคน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นโรงงานก็จัดการได้ยากมากเย่มู่มู่บอกว่าสามารถจ่ายเงินเดือนให้เป็นสองเท่าได้ แต่ต้องขับรถมาที่นี่!สุดท้ายผู้จัดการก็ตอบตกลงมีเงินเดือนสองเท่า ทั้งยังเบิกเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้ว!เย่มู่มู่จ่ายเงินมัดจำ...ผู้จัดการบอกว่ารถห้าร้อยคันมีอยู่ในสต็อก พรุ่งนี้จะส่งมาให้เธอให้เธอหาสถานที่สำหรับจอดร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 552

    ของสิ่งนี้ล้วนแล้วแต่อยู่ในหอนิทรรศการขนาดใหญ่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าในบรรดาสมบัติล้ำค่าของด่านเจิ้นกวนที่มั่วฝานส่งมา จะมีของสิ่งนี้อยู่ด้วยเย่มู่มู่ให้หลูหมิงและหลูซี ดึงกระถางสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ออกมา!กระถางสัมฤทธิ์สีเขียว หูลวดลายมังกร ด้านบนแกะสลักลวดลายโบราณที่ซับซ้อนเธอนำกระถางสัมฤทธิ์วางไว้ใต้แสงไฟ มองเห็นว่าด้านล่างของกระถางสัมฤทธิ์มีอยู่ตัวอักษรอยู่แน่นขนัด มองดูจากสายตามีประมาณ 1000 กว่าตัวอักษรเย่มู่มู่ถามลู่หมิง “พวกเจ้ารู้จักตัวอักษรที่อยู่ด้านบนนี้ทั้งหมดหรือไม่!”เธอเพียงแค่ถามไปอย่างนั้นเอง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะรู้จักตัวอักษรภาพพวกนี้ และแปลออกมาให้เธอกระถางสัมฤทธิ์นี้ไม่ได้หล่อขึ้นในราชวงศ์ต้าฉี่ แต่จักรพรรดิองค์แรกของต้าฉี่ ทำศึกสงครามไปทั่วสารทิศ และได้สังหารราชาของชนเผ่าเล็ก ๆ ผู้หนี่งในเวลานั้นชนเผ่ากำลังขอฝน และกระถางสัมฤทธิ์ที่ใช้ในการขอฝนก็คือกระถางใบนี้ต่อมากระถางสัมฤทธิ์ใบนี้ก็ถูกเก็บไว้ในพระคลังของวังหลวงหลายปีต่อมา ไทเฮาทรงเข้าไปตรวจสอบในพระคลัง และพบกระถางสัมฤทธิ์ที่ถูกผู้คนเพิกเฉยใบนี้เข้า จึงมอบมันให้กับบ้านมารดาตระกูลมั่วไปเสียตระกูลมั่ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 553

    ที่บันทึกไว้บนกระดาษเป็นอาวุธทั้งหมด เริ่มต้นที่จำนวนสามแสน...เมื่อมองเห็นจำนวนที่น่าตกใจเช่นนี้ ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็เบิกกว้างจ้านเฉิงอิ้นรับกระดาษแผ่นนั้นมาเมื่อเขามองไปที่ตัวเลขที่อยู่บนนั้น ทั่วทั้งร่างก็สั่นเทาโดยฉับพลัน!ต่อให้เย่มู่มู่ส่งเสบียงให้กับพวกเขามานับครั้งไม่ถ้วนส่งธัญพืชกับสรรพาวุธมาอย่างไม่ขาดสายปริมาณที่ส่งมาในแต่ละครั้ง ตัวอย่างเช่นดาบม่อเตา ที่จะส่งมาสองถึงสามหมื่นเล่ม แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่มากที่สุด เริ่มต้นที่ห้าหมื่นเล่มและตอนนี้ท่านเทพปูพื้นสิ่งของที่ส่งมาทั้งหมดไว้ที่สามแสนสามแสน! นางรวมทหารใหม่ทั้งหมดเข้าไปด้วย!หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน สามแสนคันลูกธนู สิบล้านดอก...ลูกธนูสามารถเก็บกลับมาใช้ใหม่ได้ ทว่าก็สามารถเสียหายได้เช่นกัน และมีอัตราการเสื่อมที่สูงมากดาบม่อเตา สามแสนเล่มดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง สามแสนเล่มหอก ปืนยาว โล่ และเกอ...อาวุธจำพวกนี้เริ่มต้นที่ห้าหมื่นและยังมีชุดเกราะอีกสามแสนชุด!เกราะกันกระสุนสามแสนเกราะกันกระสุนแบบเต็มรูปแบบ เป็นของดียิ่งนักเมื่อทหารอยู่ในสนามรบอัตราการรอดชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างมากและที่ทำให้ทุกคนซาบซึ้งใ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 554

    ฮ่องเต้น้อยเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างที่มีเพื่อที่จะเอาชนะเขา พวกเขาล้วนคิดเช่นนั้น ผู้คนจำนวนมากล้อมปราบ แม้ว่าจ้านเฉิงอิ้นจะเก่งกาจสักเพียงใดก็ยากที่จะหนีพ้นพวกเขาไม่เคยศึกษาเรื่องราวในอดีต รวมถึงจุดหักเหในทุก ๆ โชคชะตาของจ้านเฉิงอิ้นเลยตั้งแต่แรก ไม่รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเขาเลยแม้แต่น้อยพวกเขาคิดว่าสามารถเอาชนะได้ด้วยจำนวนคนพวกเขาประเมินความแข็งแกร่งของจ้านเฉิงอิ้นต่ำไปตามที่กล่าวไว้ในจดหมาย อีกภายในสามวันกองทัพจะบุกประชิดชายแดนที่นี่ไม่ใช่ด่านเจิ้นกวนแต่เป็นเชิงเขาของภูเขาเหมืองไม่มีกำแพงเมืองสูงตระหง่านสกัดกั้น ไม่มีกองทัพคอยเตรียมพร้อมที่คอยเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาแม้แต่กำแพงเมืองที่สร้างขึ้นมาอย่างเร่งรีบยังเตี้ยมากถึงเพียงนี้ ไม่มีผลในการป้องกันอันใดและกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้นก็มีคนเพียงแค่ห้าหมื่นคนเท่านั้น ต่อให้รวมกับทหารใหม่เข้าไปแล้ว อย่างมากก็มีเพียงหนึ่งแสนคนเท่านั้นทว่าบรรดาทหารใหม่ที่หลบหนีมาตลอดทางจนมาถึงที่นี่ ส่วนใหญ่ทำศึกสงครามเป็นครั้งแรก พวกเขาไม่มีประสบการณ์เลยแม้แต่น้อยทหารที่สามารถต้านทานศัตรูภายนอกได้ มีเพียงกองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่

Pinakabagong kabanata

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status