ส่วนหยางชิงเหอนั่งยอง ๆ ลงกับพื้น ใช้กระบี่คู่กายขุดลงไป ลึกประมาณครึ่งเซนติเมตรก็พบกับหญ้าแห้ง...“นี่ไม่ใช่สภาพทะเลทรายที่เกิดจากความแห้งแล้งของผืนดิน แต่เป็นเพราะไม่มีพืชพรรณปกคลุม ลมพัดพาทรายจากทะเลทรายมาทับถมบนทุ่งหญ้าเดิม”“หากผืนดินแถบนี้ขาดน้ำเป็นเวลานาน ไม่สามารถหล่อเลี้ยงต้นหญ้าได้ อีกไม่กี่ปีจะต้องกลายเป็นทะเลทรายอย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงอิ้นใช้ปลายกระบี่เขี่ยรากหญ้าขึ้นมารากหญ้าแห้งเหี่ยวและบอบบาง ความชื้นในรากถูกดูดซับจนหมดสิ้น ใช้มือบีบเบา ๆ ก็กลายเป็นผงม่อเป่ยขาดแคลนน้ำรุนแรงยิ่งกว่าต้าฉี่เสียอีกสาเหตุที่แปดชนเผ่าใหญ่เหล่านี้ยังไม่เคลื่อนทัพลงใต้ มารุกรานดินแดนต้าฉี่ ก็เพราะพวกเขากำลังกัดกินกันเองราวกับการเลี้ยงกู่ ต่างฝ่ายต่างพยายามกลืนกินซึ่งกันและกันหากพวกเขากลืนกินกันจนเหลือผู้ชนะสุดท้าย ผู้คนถูกฆ่าจนหมดสิ้น วัวแกะถูกกินจนไม่เหลือ พวกเขาจะต้องมุ่งหน้าลงใต้บุกรุกต้าฉี่อย่างแน่นอนและปฏิบัติต่อชาวต้าฉี่เยี่ยงแพะสองขาเข่นฆ่าเพื่อกินเนื้อจ้านเฉิงอิ้นวางรากหญ้าลง “ไป เราเข้าไปให้ลึกกว่านี้”ตอนที่พวกเขาเข้ามาในม่อเป่ยช่วงแรก เส้นทางถูกทะเลทรายขวางกั้น หลัง
“ท่านผู้นำครับ เย่มู่มู่มีวัตถุโบราณในครอบครองมากจนผิดสังเกต ท่านช่วยลองตรวจสอบที่มาหน่อยได้ไหมครับ?”ผู้นำหลัวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “เคยตรวจสอบแล้ว บ้านของเธอมีแจกันอายุกว่าสองพันปีอยู่จริง เคยถูกพวกพ่อค้าของเก่าจับตามอง ทั้งยังมีคนจากพิพิธภัณฑ์มาที่บ้านเพื่อเกลี้ยกล่อมให้บริจาคด้วย!”“ตอนนั้นเป็นช่วงปีสองศูนย์กว่า ๆ พ่อของเธอก็ไม่หวั่นไหว! ไล่คนพวกนั้นกลับไปตั้งหลายครั้ง”“ของเก่าบ้านเธอ ไม่ได้มาจากการขุดสุสาน ไม่ใช่ของที่หาซื้อตามท้องตลาด บางทีบรรพบุรุษอาจจะเคยร่ำรวยมาก่อนจริง ๆ!”ฮ่าวอี้ได้ยินดังนั้น ก็นิ่งเงียบไปนานวัตถุโบราณของบ้านเย่มู่มู่ มากมายจนน่าอิจฉาจริง ๆ!แค่ลงมือครั้งเดียวก็ปาเข้าไปหนึ่งแสนล้านบาท ไม่ใช่หนึ่งร้อยบาทนะ!“เอาล่ะ นายคอยจับตาดูต่อไป รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม เบื้องบนจะเรียกตัวเธอมาพบ!”ฮ่าวอี้ตกใจ “เบื้องบนต้องการพบเธอหรือครับ?”“ใช่! เพราะฉะนั้นนายต้องคุ้มครองเธอให้ดี!”“ครับ ผมทราบแล้ว!”หลังจากฮ่าวอี้ขับรถกลับไป ก็บังเอิญเจอจางเฉินซีกลับมาพอดี เขากำลังขับซูเปอร์คาร์รุ่นลิมิเต็ด แถมยังฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีพอเห็นฮ่าวอี้ เขาก็ลงจากรถแ
คุณลองดูโรงงานทั้งสี่แห่งนี้ โดยเฉพาะโรงงานปุ๋ยกับโรงงานเครื่องมือเกษตร ที่เป็นหนี้ธนาคารอยู่หลายร้อยล้าน ทั้งสองโรงงานรวมกันพันกว่าล้าน คุณบอกว่าต้องการซื้อกิจการ ไม่มีเงิน ต่อให้ผมอยากจะช่วยคุณซื้อมา ก็หมดปัญญาครับ!“ไม่อย่างนั้นคุณเอาเงินหนึ่งหมื่นล้านออกมาเถอะครับ!”เย่มู่มู่รู้อยู่แล้วเชียว!เธอรู้อยู่แล้ว!เงินหนึ่งหมื่นล้านยังไม่ทันหายร้อน จะต้องถูกใช้จ่ายออกไปแน่ ๆเมื่อวานเธอจ่ายยอดที่ค้างชำระไปแล้วหนึ่งพันล้าน ตอนนี้เหลือเพียงเก้าพันล้านเท่านั้นเธอยังงต้องจ่ายค่าอาวุธ อุปกรณ์สวมใส่ และเกราะกันกระสุนด้วยเกราะกันกระสุนสามแสนชุด ด้วยราคาต่ำที่สุดชุดละสองหมื่นบาท สามแสนชุดก็หกพันล้านบาทยังมีอาวุธ ชุดเกราะ และหน้าไม้ราชวงศ์ฉินที่ยังต้องจ่ายเงินอีก!เดิมทีหนึ่งหมื่นล้านนี้ก็ไม่พอแล้วด้วยซ้ำ!ถ้ากองทัพตระกูลจ้านบุกโจมตีม่อเป่ย แล้วธอไม่ซื้ออาหารสัตว์และอาหารม้าแบบข้น วัว แกะ และม้าพวกนั้น…ก็จะไม่มีอะไรกินเธอขาดแคลนเงินอย่างหนัก ขาดแคลนเงินเกินไปแล้ว!ทันใดนั้นเอง เธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้ พลางควานไปยังแจกันที่อยู่ในกระเป๋าสะพายหลัง…หยิบเอาพระราชโองการสีเหลืองอร่ามออกมา
จ้านเฉิงอิ้นเชื่อมั่นในตัวเองอย่างมากเช่นนี้ เขาน่าจะมีความมั่นใจอย่างยิ่งเย่มู่มู่จึงไม่ได้พูดอะไรมากอีก เธอกล่าวว่า “ข้าจะรอฟังข่าวดีจากเจ้า จ้านเฉิงอิ้นเจ้าจะต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน!”หากว่าทำสำเร็จ พวกเขาก็จะรวบรวมดินแดนเอาไว้เป็นปึกแผ่น ได้อย่างได้ลุล่วงอีกทั้ง เผ่าหมานที่ป่าเถื่อนที่สุดยังสามารถพิชิตได้ ภาคหน้าหากพิชิตทุกแคว้นของหัวเซี่ย ยังจะมีสิ่งใดที่ยากเย็นอีกกัน?จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ขอรับ ท่านเทพ ขอให้ท่านรอฟังข่าวดีจากข้า”“เมื่อข้าพิชิตแต่ละเผ่าได้แล้ว ข้าจะบอกข่าวดีแก่ท่านขอรับ!”“ในสองสามวันนี้ลองใคร่ครวญดูสักนิดเถิด ว่าหากพิชิตม่อเป่ยได้แล้ว จะตั้งราชวงศ์และชื่อของอาณาจักรเช่นไร…”เมื่อเย่มู่มู่ได้ยินจ้านเฉิงอิ้นพูดถึงเรื่องตั้งราชวงศ์และชื่อของอาณาจักรนะ นึก…นึกไม่ถึงว่าจะให้เธอตั้งชื่ออาณาจักรเธอจะกล้าได้อย่างไรกันแต่ว่า เพียงแค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!ฮ่าฮ่า ที่แท้เธอก็ทำได้จริง ๆ ด้วย!เธอกับจ้านเฉิงอิ้นสามารถรวมแคว้นให้เป็นหนึ่งเดียวได้จริง ๆ !เธอดีใจจบแทบจะกระโดดขึ้นมา พลางกล่าวกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “ไปออกทัพได้เลยไม่ต้องกังวล เรื่องในแนวหลังปล่อยให
“นายต้องดูแลเธอให้ดี เธอเคยปกป้องชีวิตของคนจำนวนมาก!”ตั้งแต่ที่ฮ่าวอี้เห็นเย่มู่มู่ใช้แจกันดูดซับพายุฝน และรู้ว่าเป็นการช่วยชีวิตผู้คนมากมายทางอ้อมนั้น!เขาก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเธอเขากล่าวตอบ “ครับ ผมจะปกป้องเธอให้ดี!”ข้างกายของเย่มู่มู่มีหลูซีกับหลูหมิงอยู่ ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องออกหน้าเพียงแต่...“หัวหน้า ผมเคยได้ยินหลูซีพูดว่า เธอเคยถูกลอบฆ่าตอนอยู่ที่บ้านเกิด สุดท้ายมือสังหารคนนั้นก็ฆ่าตัวตายในสถานที่คุมตัว ไม่อย่างนั้นคุณลองให้คนไปตามสืบดูสักหน่อยเถิดครับ!”“ถึงหลูซีกับหลูหมิงจะมีฝีมือแค่ไหน แต่ถ้าเกิดอีกฝ่ายมีปืนล่ะครับ!”หัวหน้าตอบกลับไปว่า “อืม ฉันรู้แล้ว อันที่จริงเธอตามสืบถึงฟู่ลี่กรุ๊ปแล้ว ฉันจะให้คนไปตรวจสอบผู้บริหารระดับสูงของฟู่ลี่กรุ๊ปอย่างละเอียด!”“ครับ!”*วันนี้ต้องลำเลียงเสบียงจำนวนมากตู้เย็นหนึ่งพันเครื่อง และกระโจมบังแดดอีกห้าหมื่นหลังที่เย่มู่มู่ซื้อมาเมื่อวาน มาถึงเรียบร้อยแล้วอีกทั้งเมล็ดพันธุ์ และเครื่องมือทางการเกษตรที่สั่งมาอีกรอบหนึ่งด้วยเนื่องจากร่วมมือกับโรงงานหลายแห่ง พวกเขาจึงส่งสินค้ามาในเวลากลางวัน และวางเอาในภายในโกดังเพียงแค่
เย่มู่มู่ถือโทรศัพท์ พลางนับเลขศูนย์ที่อยู่ด้านหลัง ตอนที่ออกมาจากคฤหาสน์ของผู้อาวุโสสวี่ เธอยิ้มออกมาจนเห็นเหงือกพระราชโองการฉบับเดียวก็สามารถเปลี่ยนเป็นเงินหนึ่งหมื่นล้านได้แล้ว!หนึ่งหมื่นล้านถ้วน ๆ !ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!รวยแล้ว!เธอยังมีราชโองการอีกเก้าฉบับ!รวมกันแล้วจะไม่หนึ่งแสนล้านเลยเหรอหนึ่งแสนล้านเชียวนะ!ต่อจากนี้ไปเธอจะเป็นเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินหนึ่งแสนล้าน!หลังจากที่เธอถือโทรศัพท์ขึ้นรถไป ฮ่าวอี้ที่เป็นคนขับรถอยู่แถวด้านหน้า และหลูหมิงที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับพวกเขาเห็นเย่มู่มู่มีความสุขขนาดนี้ฮ่าวอี้จึงกล่าวถามว่า “คุณหนูเย่ คุณได้รับข่าวดีอะไรเหรอครับ? ถึงได้มีความสุขขนาดนี้?”“ฉันกับหลูหมิงจะไปทำธุระข้างนอก หาทางแยกสักที่แล้วให้พวกเราลงทีค่ะ”“ครับ!”หลังจากที่ฮ่าวอี้จอดให้เย่มู่มู่กับหลูหมิงลงจากรถที่บริเวณทางแยกแล้ว ก็นำกุญแจรถให้กับสวีเฟิง และให้เขาไปรับหลูซีเขานั่งบนรถที่หวังเสี่ยวเฉิงเช่ามาภายในรถ ทั้งสองคนกำลังมองดูเย่มู่มู่กับหลูหมิงขึ้นรถคันหนึ่งไปแท็กซี่มุ่งหน้าไปยังโกดังเก็บของชานเมืองหวังเสี่ยวเฉิงกล่าวว่า “คุณหนูเย่ไปที่โกดังเก็บของอ
ผู้อาวุโสทุกท่านโปรดดู พระราชโองการฉบับนี้เป็นพระราชโองการของแท้ของแคว้นต้าฉี่ เมื่อมองดูที่ด้านหลังจะเห็นลายถักทอมังกรทองที่ซ่อนอยู่“แบบอักษรและตราประทับของฮ่องเต้…แสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขามของราชวงศ์ พระราชโองการฉบับนี้เป็นฉบับจริง ไม่มีการปลอมแปลงแม้แต่น้อยค่ะ”“นี่เป็นพระราชโองการฉบับเดียวที่ครอบครัวของฉันเก็บสะสมไว้ หากปลอมชดใช้สิบเท่า ไม่มีการหลอกลวงใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ!”“เปิดราคามาเถิด…”ผู้อาวุโสมู่ ผู้อาวุโสจาง และผู้อาวุโสสวี่ต่างก็เบิกตากว้าง มองพราะราชโองการอย่างตื่นเต้น กลัวพระราชโองการจะหายไปหากกระพริบตาผู้อาวุโสมู่ตื่นเต้นจนนิ้วมือสั่นเทา นำเสียงตะกุกตะกัก“นะ นี่มันพระราชโองการของจริง พระราชโองการเมื่อสองพันกว่าปีก่อน!”“น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว ในแวดวงของนักสะสมภายในประเทศ ไม่เคยปรากฏพระราชโองการของเมื่อสองพันกว่าปีก่อนมาก่อนเลย!”“พระราชโองการฉบับนี้จะขายไม่ได้ ต้องบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์ จะสะสมไว้เป็นการส่วนตัวไม่ได้”ผู้อาวุโสจางกล่าวออกมาอย่างโกรธเคือง “นายไม่อยากได้ก็ไม่ต้องมาพูด เสี่ยวเย่ส่งมาให้กับพวกเรา ก็เพราะว่าเชื่อใจพวกเรา ถ้านายอยากจะเอาไปบริจาคให้
ข้าจะพาคนไปทำศึก ตอนนี้ตงโจวมีกองทัพตระกูลจ้านสองแสนคน ข้าพาคนไปบุกโจมตีเพียงหนึ่งแสนคนก็เพียงพอแล้ว!คนจำนวนหนึ่งแสนคนสามารถยกทัพไปปราบปรามทั่วทั้งม่อเป่ย และทำให้แต่ละชนเผ่าของม่อเป่ยยอมจำนนได้ทว่า ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องการเสบียงอาหารและหญ้าเลี้ยงม้าจำนวนมากทั้งยังต้องการแหล่งน้ำด้วยหากทุกเผ่าในม่อเป่ยยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา ก็จะกลายเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์เพื่อให้เขาพิชิตใต้หล้าได้ในอนาคตดังนั้น...เมื่อกองทหารของสวีหวยที่ด่านเจิ้นกวนไม่ยอมออกรบ เว้นแต่ว่าจะมีผู้สมรู้ร่วมคิดกับสวีกุ้ยเฟยภายในวังหลวงยังมีอีกสิ่งหนึ่งก็คือพวกเขาใช้สิ่งของของกองทัพตระกูลจ้านจนร่อยหรอ รวมไปถึงอาวุธและอุปกรณ์สวมใส่แต่กลับไม่เต็มใจที่จะทำงานทหารเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้อีกทั้งตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นก็ไม่ได้ขาดแคลนกำลังคนเขากล่าวกับเฉินขุยและเฉินอู่ว่า “ประเดี๋ยวเจ้าไปคัดเลือกคนมา จะพากองทัพธงเหลืองที่ฝีมือดีไปด้วยก็ได้”เฉินขุยคิดไม่ถึงเลยว่าจ้านเฉิงอิ้นจะนำคนหนึ่งแสนคนจากตงโจวไปบุกโจมตีม่อเป่ย“ท่านแม่ทัพ จากตงโจวถึงม่อเป่ยมีระยะทางหลายพันลี้ ไกลเกินไปหรือไม่ขอรับ?”เฉินอู่ก็กล่าวด้วยว่า
ซ่งตั๋วกลับคิดว่า “เหลือไว้ทำการเกษตรก็ได้ ถึงอย่างไรเผ่าหมานก็มีพลังกำลังแข็งแกร่ง แบกรับภาระได้มากกว่าคนธรรมดามากนัก!”“นั่นก็ยังต้องเลี้ยงดูพวกมันอยู่มิใช่หรือ เหลือเสบียงอาหารไว้ดูแลราษฎรของแคว้นต้าฉี่ไม่ดีกว่าหรือไร?”จวงเหลียงกลับกล่าวว่า “เหลือคนไว้ย่อมมีประโยชน์อยู่แล้ว อย่างการส่งไปขุดเหมืองแร่!”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “รองแม่ทัพจวงกล่าวถูกแล้ว ส่งทั้งแปดหมื่นคนไปขุดเหมืองให้หมด หากเกรงว่าพวกมันอยู่รวมกันแล้วจะก่อเรื่อง ก็จับแยกกันเสีย!”“กลุ่มแรก สี่หมื่นคนส่งไปที่ภูเขาเหมืองของเฉียนเซียงตัว ปฏิบัติให้ด้อยกว่าคนธรรมดาเล็กน้อย ที่พักและอาหารการกินในแต่ละวันเหมือนกัน ทว่าให้ลดเงินแต่ละเดือนลงครึ่งหนึ่ง!”มั่วฝานถามว่า “เช่นนั้นที่เหลืออีกสี่หมื่นคนเล่า?”“ส่งไปที่ภูเขาถ่านหินของเหอหง!”ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ภูเขาเหมืองถ่านหินเป็นอย่างไรบ้างแล้วนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ส่งเสบียงไป ก็ไม่ได้ข่าวคราวของเขามานานแล้วจ้านเฉิงอิ้นกล่าวกับซ่งตั๋วว่า “เมืองตงอยู่ห่างจากภูเขาเหมืองถ่านหินของเหอหงประมาณสองสามร้อยลี้ ขับรถครึ่งวันก็ถึงแล้ว พรุ่งนี้เจ้าลองตรวจนับเสบียงดู ขับรถบรรทุกร้อยค