Share

ตอนที่ 2 ฟังแล้วขัดหู

last update Last Updated: 2025-10-17 11:14:09

ณ โรงเรียนเอกชนชื่อดัง...

ขณะที่รถตู้คันหรูสีขาวจอดอยู่หน้าอาคารเรียนโดยมีบอดี้การ์ดสองคนยืนกอดอกพิงประตูรถเพื่อรอรับเด็กสาวหรือคุณหนูของพวกเขากลับบ้าน ขณะเดียวกันก็มีสายตาหลายคู่ของเหล่าบรรดาเด็กนักเรียนผู้หญิงต่างมองมาที่พวกเขาสองคนเป็นตาเดียวกัน เด็กสาวเหล่านั้นต่างกรี๊ดกร๊าดดี้ด้าในความหล่อเท่ของพวกเขากันใหญ่ โดยเฉพาะบอดี้การ์ดคนใหม่ที่เป็นจุดเด่นจุดสนใจของสาวๆ ด้วยความที่เขามีใบหน้าหล่อเหลารูปร่างดีและดูเท่ดูแบดบอยจึงเป็นที่สนใจของสาวๆและเป็นสเปกของสาวๆหมู่มาก

ด้านมิราคุณหนูตัวน้อย

"เราไปก่อนนะ พี่ภีมน่าจะมารอรับแล้ว ไว้เจอกันวันจันทร์นะ บาย" มิรา เอ่ยบอกลาเพื่อนๆของเธอด้วยใบหน้ายิ้มๆ ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายให้เพื่อนทั้งสองคนที่ยืนอยู่

"อือ ไว้เจอกัน"

"บาย~"

เพื่อนสาวสองคนก็ต่างโบกมือลาและยิ้มให้มิราเช่นกัน จากนั้นมิราก็แยกกับเพื่อน เธอรีบวิ่งไปทางรถตู้คันหรูสีขาวที่จอดอยู่หน้าอาคารเรียนตรงจุดเดิมเหมือนทุกวันทั้งตอนมาส่งและตอนมารับเธอ

ทางฝั่งของภีมที่เห็นคุณหนูตัวน้อยวิ่งมาแต่ไกลก็ถึงกับคิ้วขมวด เพราะเธอมักจะวิ่งมาแบบนี้เป็นประจำ เขากลัวว่าถ้าหากหกล้มเข้าจะเป็นเรื่องเอา และพอเด็กสาววิ่งมาถึงรถก็รีบเอ่ยเตือนประหนึ่งดุเธอทันที

"คุณหนูวิ่งมาแบบนี้อีกแล้วนะครับ ถ้าเกิดหกล้มลงไปจะทำยังไงครับ เดี๋ยวนายได้เอาผมตายเลย" ห่วงคุณหนูก็ห่วง แต่ก็ห่วงตัวเองด้วย เพราะหากคุณหนูเจ็บตัวขึ้นมา คนที่ต้องรับผิดชอบก็คือเขา

ด้านมิราไม่ได้สนใจคำพูดของบอดี้การ์ดคนสนิทอย่างภีมเลย เธอเอาแต่มองผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างภีมอย่างไม่ละสายตา ขณะที่อีกคนก็มองเธอเช่นเดียวกัน

ด้านภีมเห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยแนะนำรุ่นพี่ให้คุณหนูตัวน้อยรู้จักทันทีเพื่อไม่ให้เธอต้องสงสัยนานว่าอีกคนคือใคร

"คุณหนูครับนี่พี่วายุบอดี้การ์ดคนใหม่ครับ นายให้พี่วายุมาคอยตามดูแลคุณหนูคู่กับผมครับ" 

มิราได้ยินเช่นนั้นจึงละสายตาจากบอดี้การ์ดคนใหม่แล้วหันไปพยักหน้าให้บอดี้การ์ดคนสนิทของเธออย่างเข้าใจพลางส่งยิ้มให้ โดยมีดวงตาคมกริบของอีกคนมองเธออยู่ตลอดเวลา ซึ่งเจ้าของดวงตาคมกริมคู่นั้นไม่ชอบใจเอาซะเลยกับรอยยิ้มของเธอที่ยิ้มให้บอดี้การ์ดรุ่นน้องของเขา แต่ทว่าใบหน้าหล่อเหลาก็ยังเรียบนิ่ง ไม่ได้แสดงอาการใดๆออกมา ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยพูดขึ้น

"ขึ้นรถเถอะครับ" พูดจบวายุก็เปิดประตูรถเลื่อนไปด้านข้างจนสุดเพื่อให้คุณหนูตัวน้อยเข้าไปนั่ง

มิรามองเขาเล็กน้อยโดยไม่ได้พูดอะไร จากนั้นเธอก็ขึ้นไปนั่งบนรถตามปกติ และจังหวะตอนที่บอดี้การ์ดคนใหม่ของเธอกำลังจะปิดประตูรถ เธอก็ส่งยิ้มหวานให้เขาไปหนึ่งกรุบ 

วายุเห็นเช่นนั้นจึงชะงักนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะเลือกไม่สนใจแล้วปิดประตูรถทันที จากนั้นก็เดินไปเปิดประตูรถฝั่งตรงข้ามคนขับขึ้นไปนั่งที่ของตัวเองด้วยท่าทีปกติ ใบหน้ายังเรียบนิ่งอยู่อย่างนั้น

ภายในรถตู้คันหรูสีขาวขับเคลื่อนไปด้วยความเร็วปกติ...

ด้านมิราเมื่อนั่งรถมาได้สักพักก็รู้สึกอยากกินชาเขียวปั่นขึ้นมา เธอจึงเอ่ยบอกกับบอดี้การ์ดคนสนิทของตัวเองด้วยน้ำเสียงใสแจ๋ว

"พี่ภีมน้องมิอยากกินชาเขียวปั่นค่ะ"

แต่ทว่าสรรพนามที่เธอใช้แทนตัวเองกับบอดี้การ์ดคนสนิท ดันทำให้ต่อมหงุดหงิดของอีกคนทำงานขึ้นมาทันที ถึงเธอจะแทนตัวเองได้น่ารักมากก็ตาม แต่เขากลับฟังแล้วขัดหูยังไงก็ไม่รู้ ทว่าก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆออกมา ยังคงนิ่งเช่นเดิม

"ได้ครับ คุณหนูจะนั่งกินที่ร้านหรือจะให้ผมลงไปซื้อให้ครับ" ภีมตอบรับก่อนจะเอ่ยถามถึงความต้องการของเด็กสาว โดยที่สายตายังคงมองไปยังถนนเบื้องหน้า สองมือบังคับพวงมาลัยรถทำหน้าที่สารถี่เป็นอย่างดี ซึ่งปกติแล้วเด็กสาวจะนั่งกินที่ร้านหรือไม่ก็จะให้เขาลงไปซื้อให้แทน

"พี่ภีมลงไปซื้อให้น้องมิก็ได้ค่ะ" มิราตอบด้วยใบหน้ายิ้มๆตามปกติของเธอ

"ได้เลยครับผม" ภีมรับคำสั่งอย่างรู้หน้าที่ ก่อนจะยิ้มให้เด็กสาวผ่านกระจกมองหลังตามปกติเช่นกัน จากนั้นก็ตั้งใจขับรถทำหน้าที่สารถี่ต่อ

😝😘 งู้ยยยเค้าเจอกันแย้ววววว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 11 มากกว่านี้ผมก็ซื้อให้ได้

    (ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง)วันต่อมา09:35 น.บริเวณศาลาสวนหย่อม มิรากำลังนั่งอ่านหนังสือนิยายอยู่บนศาลา เธอมักจะมาอ่านหนังสือหรือมานั่งเล่นที่ศาลาตรงนี้เป็นประจำ เรียกได้ว่าเป็นมุมโปรดของเธอก็ว่าได้ โดยมีบอดี้การ์ดส่วนตัวอีกสองคนยืนอารักขาอยู่หน้าศาลาไม่ห่าง พวกเขาทั้งสองคนยืนคนละฝั่งของศาลาโดยหันหน้าเข้าหากันเหมือนอย่างเช่นทุกครั้งที่มายืนอารักขาเด็กสาวบริเวณนี้วันนี้มิราอ่านนิยายของนักเขียนคนใหม่ตามที่เพื่อนของเธอแนะนำมา เธอเลยตื่นเต้นเป็นพิเศษกับการที่จะอ่านมัน และการอ่านนิยายมันก็ช่วยเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำของเธอได้เยอะเลยทีเดียว แต่กระนั้นเนื้อหาของหนังสือนิยายเล่มนี้มันอ่านแล้วทำความเข้าใจได้ยากกว่านิยายของนักเขียนคนโปรดที่เธออ่านอยู่เป็นประจำและเมื่ออ่านไปได้สักพักเธอก็ต้องงงและไม่เข้าใจอีกแล้ว ซึ่งเนื้อหาในนิยายที่เธออ่านแล้วไม่เข้าใจมันคือเนื้อหาของคำพูดตัวละคร ที่พระเอกพูดขู่นางเอก เธอขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง พยายามอ่านและจิตนาการตามแล้วตามอีก อ่านแล้วอ่านอีกก็ไม่เข้าใจเสียทีว่าคำพูดที่พระเอกขู่นางเอกมันหมายความว่าอะไร และในเมื่ออ่านไม่เข้าใจเธอจึงเงยหน้าจากหนังสือนิยายแล

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 10 ดื้อ

    ด้านมิราจึงได้แต่มองตามหลังคนเป็นพ่อตาละห้อย สีหน้าหงอยเศร้าลงยิ่งกว่าเดิม ทว่าลึกๆแล้วเธอไม่ได้อยากไปเรียนต่อเมืองนอกเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่ยังเด็กเธอจึงประชดความรักที่ไม่สมหวังด้วยการหนีปัญหาไปอยู่ในที่ไกลๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องเจอเขาคนที่ทำให้ใจดวงน้อยของเธอเจ็บปวดอีกจากนั้นเธอก็หันกลับมามองข้าวในจานของตัวเองที่ไม่ได้ลดน้อยลงเลย เพราะกินไปแค่คำสองคำเป็นคำเล็กๆเพียงข้าวแค่ปลายช้อนเท่านั้น หรือแทบจะไม่ได้กินเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะเงยหน้าพูดกับสาวใช้วัยสามสิบกลางๆ มีนามว่าชมพู่ที่ยืนอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ"พี่ชมพู่เก็บจานเลยค่ะน้องมิอิ่มแล้ว" น้ำเสียงเบาราวกับคนไม่อยากพูดไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น"ได้ค่ะคุณหนู""ไม่ต้อง"ไม่ทันที่ชมพู่จะเดินมาเก็บจานตามคำสั่งของคุณหนูตัวน้อย ก็ต้องชะงักเท้าหยุดอยู่กับที่เพราะเสียงทุ้มของอีกคนดันเอ่ยห้ามเอาไว้เสียก่อน ก่อนที่ร่างสูงเจ้าของเสียงทุ้มจะเดินเข้ามาหาคุณหนูตัวน้อย แล้วหยุดยืนอยู่ข้างเธอที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาคู่คมมองใบหน้าน่ารักของเด็กสาวที่เงยหน้าขึ้นมามองเขา ซึ่งเขาไม่ชอบเลยที่แววตาของเธอตอนนี้มีแต่ความเศร้า เพราะเธอเหมาะที่จะยิ้มและมีดวงตาที่สุกใส

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 9 ขอไปเรียนต่อเมืองนอก

    ภายในห้องอาหารของคฤหาสน์หลังใหญ่ บนเก้าอี้ตำแหน่งหัวโต๊ะมีประมุขของบ้านนั่งอยู่ และยังมีบอดี้การ์ดส่วนตัวของเขาและบอดี้การ์ดส่วนตัวของลูกสาวที่ยืนประจำตำแหน่งเดิมคือข้างหลังคนเป็นเจ้านายของตัวเอง"ยัยหนูของพ่อมาพอดีเลย พ่อกำลังจะให้คนไปตามอยู่พอดี พวกเธอก็ตักข้าวสิลูกสาวฉันมาแล้ว" เดชาหันไปพูดกับลูกสาวที่กำลังเดินเข้ามาในห้องอาหาร ประโยคหลังหันไปออกคำสั่งกับสาวใช้ในบ้านที่ยืนรอรับใช้อยู่สองคนด้านภีมจึงเดินไปดึงเก้าอี้ตำแหน่งที่ประจำของคุณหนูออกเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามานั่ง ภีมทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนปกติทุกวันที่เคยทำด้านวายุที่ยืนอยู่ มองเด็กสาวตั้งแต่เห็นเธอเดินเข้ามาในห้องอาหารแล้ว แต่ครั้งนี้เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาเลยสักนิด ผิดกับทุกครั้งที่เธอมักจะลอบมองและแอบส่งยิ้มให้เขาอยู่ตลอด เมื่อเห็นท่าทีหมางเมินของเธอใจแกร่งก็กระตุกวูบทันที ทว่าใบหน้าของเขาก็ยังนิ่งเป็นปกติ ไม่ได้แสดงสีหน้าหรืออาการใดๆออกมาเลย"ไม่สบายรึเปล่ายัยหนู ทำไมตาหนูถึงดูบวมๆและแดงแบบนั้นล่ะ" เดชาเอ่ยถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง เพราะวันนี้สีหน้าของลูกสาวเขาดูไม่สดชื่นเอาเสียเลย พลางใช้หลังมือเอื้อมไปแตะหน้า

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 8 น่ารำคาญ/น้อยใจ

    "ผมเคยเตือนพี่แล้วใช่ไหมว่าอย่าเผลอใจให้คุณหนู แล้วทีนี้จะทำยังไงล่ะ มีหวังถ้านายรู้นายเอาพี่ตายแน่พี่วายุ" ภีมพูดเปิดประเด็นประหนึ่งบ่นรุ่นพี่ไปทันที เพราะเขาเป็นห่วงกลัวว่ารุ่นพี่จะโดนเจ้านายเล่นงาน อีกอย่างเขาห่วงความรู้สึกของทั้งคู่ที่คงไม่มีทางลงเอยกันได้ด้วยดีอย่างแน่นอน เพราะผู้เป็นเจ้านายคงไม่ยอมให้ลูกสาวอันเป็นที่รักมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับบอดี้การ์ดในบ้านเป็นอันขาด"มึงพูดอะไร มึงคิดอะไรของมึง กูไม่ได้คิดอะไรกับคุณหนูทั้งนั้น" วายุปฏิเสธเสียงแข็ง พูดเหมือนหลอกตัวเองทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าตนคิดไม่ซื่อกับเด็กสาว"ผมไม่ใช่เด็กอนุบาลนะพี่ที่จะดูไม่ออก พี่เล่นหึงหวงคุณหนูกับผมขนาดนี้พี่ยังจะหลอกตัวเองอีกเหรอ" ภีมเถียงกลับอย่างรู้ทัน รุ่นพี่ของเขาโมโหหึงเด็กสาวซะขนาดนั้นทำไมเขาจะดูไม่ออก "ไร้สาระ กูบอกว่ากูไม่ได้คิดอะไร กูไม่มีทางชอบคุณหนูเพราะกูไม่ชอบเด็ก สำหรับกูเด็กอย่างคุณหนูมันน่ารำคาญ" วายุยังคงพูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจ มองหน้ารุ่นน้องด้วยสายตาดุดัน เขารู้ตัวเองดีว่าคิดยังไงกับเด็กสาว ซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องมายอมรับความรู้สึกของตัวเองต่อหน้ารุ่นน้อง หรือต้องมาบอกว่าเขาชอบเด็กสาว

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 7 หึงหวง

    หลายวันต่อมาตอนนี้มิราได้สอบปิดภาคเรียนที่สองและจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงปิดเทอม โดยระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาเธอได้ส่งไลน์หาบอดี้การ์ดคนของใจทุกคืน ใจจริงเธออยากไลน์หาเขาแทบทุกเวลาที่เธอว่างเลยด้วยซ้ำ แต่กลัวว่าเขาจะรำคาญเธอเสียก่อน เลยไลน์หาเขาแค่ตอนก่อนนอนเพื่อบอกชอบบอกคิดถึงและบอกฝันดี ถึงแม้เขาจะตอบกลับบ้างไม่ตอบบ้างก็ตาม แค่เธอได้ไลน์หาเขาทุกคืนก่อนนอนและเห็นว่าเขาอ่านไลน์ทุกข้อความที่เธอส่งไป แค่นี้เธอก็พอใจแล้วบริเวณโต๊ะริมสระว่ายน้ำของคฤหาสน์หลังใหญ่"พี่ภีมคะ พี่วายุไปไหนเหรอคะ" มิราที่เดินออกมาจากในบ้าน เดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของบอดี้การ์ดคนสนิท แล้วเอ่ยถามหาบอดี้การ์ดคนของใจเมื่อไม่เห็นเขา พลางกวาดสายตามองหาร่างสูงของเขาไปด้วย ปกติบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอทั้งสองคนจะตัวติดกันตลอด แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกคนเลยด้านภีมที่นั่งอยู่ก็หันมาตามเสียง ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นไปยืนตรงหน้าเจ้าของเสียงหวานที่เอ่ยถามเขา โดยยืนอยู่ในท่ากุมมือไว้ด้านหน้าหรือท่าประจำของบอดี้การ์ด แล้วเอ่ยตอบออกไป"พี่วายุไปเข้าห้องน้ำครับ คุณหนูมีอะไรใช้ผมก็ได้

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 6 ชอบพี่คนเดียว

    เวลาอาหารมื้อเย็น ภายในห้องอาหารของคฤหาสน์หลังใหญ่ มีประมุขของบ้านหรือเดชานั่งอยู่หัวโต๊ะอาหาร และมีคนเป็นลูกสาวหรือมิรานั่งเก้าอี้ตัวถัดมาเยื้องกับผู้เป็นพ่อ"เออ จริงสิ ยัยหนูจำพี่มาตินลูกชายเพื่อนพ่อได้ไหมลูก" เดชาเอ่ยถามลูกสาวของตนเมื่อนึกขึ้นได้ถึงเด็กหนุ่มที่ตัวเองหมายปองอยากได้มาเป็นลูกเขยด้านมิราที่กำลังกินข้าวอยู่จึงเงยหน้ามาพูดกับคนเป็นพ่อด้วยท่าทีปกติ"พี่มาตินลูกชายคุณลุงมานพน่ะเหรอคะ"โดยมีสายตาคู่คมของบอดี้การ์ดคนใหม่ที่ยืนอารักขาอยู่ด้านหลังของเธอไม่ห่าง มองเธออยู่ตลอดด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง"ใช่ครับ ตอนนี้พี่เขาเรียนจบโทแล้วนะลูก เห็นว่าอาทิตย์หน้าจะกลับไทยแล้ว" ขณะที่ปากขยับพูด เดชาก็มองสังเกตท่าทีของลูกสาวไปด้วย ว่าจะมีอาการหรือแสดงความดีใจอะไรออกมาหรือเปล่าเมื่อรู้ว่าลูกชายของเพื่อนเขากำลังจะกลับไทย"ค่ะ" แต่ทว่ามิราแค่เพียงพยักหน้าตอบสั้นๆเป็นการรับรู้ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อโดยไม่ได้สนใจอะไรคนเป็นพ่อเห็นเช่นนั้นจึงแปลกใจไม่น้อยเมื่อลูกสาวดูไม่ได้ดีใจหรือตื่นเต้นกับการกลับมาของอีกคนเลย ผิดกับตอนเด็กที่เวลาลูกชายเพื่อนเขามาที่บ้าน ลูกสาวของเขาก็จะวิ่งหน้าตั้งเข้า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status