Share

ตอนที่ 25 แผนล่อหมาขโมย

last update Last Updated: 2025-11-06 08:32:23

ก๊อกๆๆๆๆ!!!!

แต่แล้วเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นด้วยฝีมือของคนนอกห้องที่กระหน่ำเคาะไม่หยุด ทำให้เด็กสาวเจ้าของห้องสะดุ้งผวาโผเข้ากอดคนตัวโตเอาไว้แน่นด้วยความตกใจ และนึกหวั่นกลัวขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในห้องแค่คนเดียว หากใครมาเห็นเข้าคงแย่

ก๊อกๆๆๆๆๆ!!!!

"ยัยหนูเปิดประตูให้พ่อเดี๋ยวนี้!"

เสียงเคาะประตูรัวๆดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงทุ้มดังกังวานของผู้เป็นพ่อ ทำให้เธอยิ่งตกใจและหวั่นกลัวหนักกว่าเดิม

"พี่วายุคุณพ่อกลับมาแล้วทำยังไงดีคะ ถ้าคุณพ่อเห็นพี่วายุอยู่กับน้องแบบนี้คุณพ่อต้องไม่ปล่อยพี่วายุไปแน่ น้องกลัวค่ะ" มิราพูดด้วยความร้อนรน น้ำเสียงสั่นไปหมด ไม่คิดว่าคนเป็นพ่อจะกลับมาไวขนาดนี้ทั้งที่บอกเธอว่าจะกลับพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เธออยู่ไม่สุขนั่งไม่ติดเลยทีเดียวเพราะกลัวว่าผู้เป็นพ่อจะทำอะไรคนรักของเธอ พลางหันไปมองทางประตูที่ตอนนี้ผู้เป็นพ่อกำลังกระหน่ำเคาะเรียกเธอไม่หยุด เธอแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้วเพราะไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ในตอนนี้

"หนูใจเย็นๆนะครับ มีพี่อยู่ตรงนี้หนูไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น มันถึงเวลาแล้วที่นายจะต้องรู้เรื่องของเราสักที" บอกกับเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางลูบศีรษะเล็กไปด้วยอย่างปลอบประโลม เขายังคงนิ่งและใจเย็น ไม่มีท่าทีตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย

ทว่าเมื่อคนนอกห้องรอไม่ไหว จึงถีบประตูเข้ามาอย่างแรง

โคร่ม!! ปั้ง!!

"กรี๊ด! ฮือ~" ทำเอามิรากรีดร้องออกมาเสียงหลงด้วยความตกใจกลัว พร้อมกับสะดุ้งผวายกมือบางขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้อัตโนมัติ ผิดกับอีกคนที่ยังคงนิ่งและยังคงใจเย็น โดยกอดคนบนตักไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

"พวกมึงไปเอาลูกกูออกมา!" เดชาสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาเสียงแข็ง เขายังคงยืนอยู่บริเวณใก้ลกับประตู มองลูกสาวตัวเองที่นั่งอยู่บนตักของลูกน้องที่เลี้ยงไม่เชื่องด้วยสายตาอำมหิต ในใจร้อนเป็นไฟแทบอยากจะฆ่าอีกฝ่ายเสียตอนนี้ที่บังอาจมาย่ำยีลูกสาวคนเดียวของเขาที่เป็นดั่งดวงใจ

"ไม่ไป หนูมิจะอยู่กับพี่วายุ ฮือ~ ไม่ไป" มิราโวยวายใส่ลูกน้องของคนเป็นพ่ออย่างเอาแต่ใจและร้องไห้ไม่หยุด กอดคอคนตัวโตไว้แน่น จนลูกน้องของพ่อเธอทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่กล้าแตะต้องลูกสาวของคนเป็นเจ้านาย 

ด้านวายุก็กอดเด็กสาวไว้แน่นเช่นเดียวกัน นาทีนี้ต่อให้ตายเขาก็ไม่มีวันปล่อยเธอ ขณะที่มือหนาลูบศีรษะเล็กอย่างปลอบประโลม ตาคู่คมก็กวาดมองเหล่าบรรดาลูกน้องของคนเป็นนายด้วยสายตาดุดัน ประหนึ่งเป็นการบอกทางสายตาว่าอย่ามาแตะต้องผู้หญิงของเขา

"หึ มึงโครตเก่งเลยไอ้วายุ หลบมุมกล้องโครตเนียน ถ้าไอ้ภาคมันไม่นึกสงสัยในตัวมึง กูคงโง่เป็นควายให้มึงหลอกไปอีกนาน มึงกล้ามากเลยนะที่บังอาจมาย่ำยีลูกสาวกู" เดชาหมดหนทางที่จะดึงรั้งลูกสาวมา เพราะเขารักและทะนุถนอมลูกมากเกินกว่าที่จะทำรุนแรงกับลูกสาวของตัวเองได้ จึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่วายุแทน ซึ่งถ้าลูกน้องคนสนิทมือขวาของเขาไม่มาเอ่ยเตือนและวางแผนจับหมาขโมย ด้วยการหลอกว่าจะไปคุยงานที่ต่างจังหวัดเพื่อล่อลูกน้องที่เลี้ยงไม่เชื่องออกมา เขาก็คงไม่มีหลังฐานคาตาเอาผิดอีกฝ่ายแบบนี้เป็นแน่

"ผมรักคุณหนู" วายุพูดสวนกลับไปทันทีด้วยน้ำเสียงจริงจัง มองคนเป็นนายอย่างแนวแน่ ไม่ได้มีความเกรงกลัวอีกฝ่ายแต่อย่างใด

"บังอาจ! มึงบังอาจมากที่มารักลูกสาวกู!" ทำเอาเดชาถึงกับเดือดดาล ในใจร้อนเป็นไฟแทบอยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายเสีย ถ้าไม่ติดว่าลูกสาวของเขานั่งอยู่ตรงนี้เขาคงฆ่าวายุไปนานแล้ว

ด้านมิราที่ฟังอยู่ ผละกอดจากคนตัวโตโดยที่ยังนั่งอยู่บนตักแกร่งของเขา ก่อนจะเอ่ยพูดกับคนเป็นพ่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"หนูมิก็รักพี่วายุค่ะคุณพ่อ คุณพ่ออย่าโกรธอย่าว่าอะไรพี่วายุเลยนะคะ หนูมิผิดเอง หนูมิเป็นคนไปรักพี่วายุก่อน" เธอมองคนเป็นพ่อด้วยสายตาอ้อนวอนประหนึ่งอยากให้คนเป็นพ่อเข้าใจในความรักของเธอกับเขา

ด้านวายุที่มองอยู่รู้สึกเอ็นดูเด็กสาวเข้าไปใหญ่พลางกระชับกอดเธอให้แน่นขึ้นอีก เธอยังเด็กแถมตัวก็เล็กนิดเดียวยังจะมาปกป้องเขาอีก ช่างน่ารักน่าเอ็นดูอะไรอย่างนี้

"แต่หนูยังเด็ก มันแก่กว่าลูกสาวพ่อเป็นสิบปีเลยนะ หนูอาจจะหลงในคารมของมันก็ได้ หนูไม่ได้รักมันหรอกเชื่อพ่อนะ มาหาพ่อเร็วเด็กดี" น้ำเสียงอ่อนลงทันทีเมื่อพูดกับลูกสาว เดชาพยายามพูดกล่อมเพื่อให้ลูกสาวเข้าใจ เพราะคิดว่าลูกสาวยังเด็กเลยไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของอีกฝ่าย พลางยื่นแขนแกร่งทั้งสองข้างไปด้านหน้าเพื่อรอรับลูกสาวเข้ามาสู่อ้อมกอดของคนเป็นพ่ออย่างเขา แต่ทว่าก็ต้องลดแขนลงทันทีเพราะลูกสาวของเขาส่ายหน้าเป็นพัลวันและนั่งนิ่งอยู่บนตักของอีกฝ่าย ไม่มีทีท่าว่าจะลุกเดินมาหาเขาเลยแม้แต่น้อย ทำให้คนเป็นพ่ออย่างเขารู้สึกจุกอกเป็นอย่างมาก จนต้องยอมอ่อนข้อให้ในที่สุด

"ได้ ถ้าไอ้วายุมันผ่านด่านทดสอบของพ่อไปได้ พ่อจะยอม" แต่อย่าหวังว่าจะผ่านด่านทดสอบของเขาไปได้ง่ายๆ เพราะเขาไม่มีทางยกลูกสาวให้ง่ายๆแน่นอน

มิราได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มดีใจจนแก้มแทบปริ ก่อนจะหันไปยิ้มกับคนตัวโตโดยไม่ได้นึกเอะใจถึงด่านทดสอบของคนเป็นพ่อเลย เพราะความดีใจมันมีมากกว่าที่จะต้องสนใจเรื่องที่มันยังมาไม่ถึง

ด้านวายุก็ดีใจมากเช่นกัน เขายิ้มอบอุ่นให้เด็กสาว ยังคงใจเย็นและนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่ได้นึกหวั่นกลัวกับด่านทดสอบของผู้เป็นนายเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าคนเป็นนายจะให้เขาทำอะไร เขาก็พร้อมจะทำตามทุกอย่างเพื่อเด็กน้อยบนตักของเขา

ด้านเดชาไม่อยากอยู่มองภาพบาดตาบาดใจไปมากกว่านี้ เพราะยิ่งอยู่นานเขาก็ยิ่งจุกอก ความรู้สึกหวงลูกสาวมันอัดแน่นอยู่ในอกของเขาแทบจะระเบิดออกมาอยู่รอมร่อ เขาจึงเดินออกไปจากห้องเงียบๆ ไม่เอ่ยลาลูกสาวสักคำ ประหนึ่งนอยด์และน้อยใจคนเป็นลูกที่เห็นคนอื่นสำคัญกว่าพ่ออย่างเขา โดยมีลูกน้องปลายแถวเดินตามหลังไปติดๆ จะเหลือก็แต่ลูกน้องคนสนิทมือขวาหรือภาคและน้องชายของเขาหรือภีมที่ยังยืนอยู่ในห้องของเด็กสาว

"รีบตามไปที่ห้องใต้ดิน อย่าให้นายต้องรอนาน" ภาคบอกกับวายุน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากใบหน้า บอกกล่าวจบก็เดินออกไปจากห้องทันที ซึ่งภาคเป็นลูกน้องคนหนึ่งที่ภักดีต่อเจ้านายมาตลอด หากใครทำอะไรที่ไม่ถูกต้องและเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำผิดต่อผู้เป็นเจ้านาย เขาก็ต้องรายงานตามหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายกับรุ่นน้องหรือวายุแต่อย่างใด ซึ่งข้อนี้วายุก็เข้าใจดีถึงเจตนาของภาค และไม่ได้นึกโกรธเคืองภาคแต่อย่างใด

ส่วนภีมตอนนี้ก็ได้แต่ยืนหน้าหงอยเพราะช่วยอะไรรุ่นพี่ไม่ได้เลย ได้แต่ส่งสายตาให้รุ่นพี่เชิงว่าสู้ๆนะพร้อมกับชูสองนิ้วให้รุ่นพี่ แล้วเดินออกไปจากห้องตามหลังคนเป็นพี่ชายไปติดๆ ไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องประหนึ่งอยากให้คนทั้งคู่ที่อยู่ในห้องได้ใช้เวลาด้วยกันก่อนที่จะรับศึกใหญ่ ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง ภีมเองก็โดนผู้เป็นเจ้านายสวดไปชุดใหญ่ที่รู้เห็นเป็นใจกับวายุ แถมยังโดนบาทาของเจ้านายและพี่ชายไปคนละหนึ่งที ตอนนี้ยังเจ็บก้นปวดระบมไม่หาย

"หนูรอพี่อยู่ที่นี่นะ ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด เดี๋ยวพี่กลับมา" เมื่ออยู่กันตามลำพัง วายุจึงเอ่ยกำชับคนบนตักทันที เพราะเขากลัวว่าเด็กสาวจะแอบตามเขาไป ซึ่งมันคงไม่ดีแน่ถ้าเธอต้องมารู้เห็นเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาในอีกไม่ช้า ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะไม่รู้ว่าคนเป็นนายจะทดสอบอะไรกับเขา แต่กระนั้นการที่ไม่ให้เด็กสาวรู้มันย่อมดีกว่า

"ทำไมล่ะคะ น้องไปด้วยไม่ได้เหรอ น้องเป็นห่วงพี่วายุ ให้น้องไปด้วยนะคะ" เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงห้ามไม่ให้เธอไปด้วย แถมยังกำชับเธออีกว่าห้ามออกไปไหน มันยิ่งทำให้เธอกังวลและยิ่งเป็นห่วงเขาเข้าไปใหญ่ ซึ่งเธอรู้ดีว่าพ่อของตัวเองเป็นคนยังไง และคิดว่าบททดสอบของพ่อเธอคงไม่พ้นเรื่องของการใช้กำลังอย่างแน่นอน ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเป็นห่วงคนรักจับใจ

"พี่ไม่เป็นไร หนูไม่ต้องเป็นห่วงพี่นะ อยู่แต่ในห้องน่ะดีแล้ว ไม่ดื้อกับพี่นะครับ เข้าใจไหมเด็กดีของพี่" พูดจบก็ประคองดวงหน้าเล็กอย่างทะนุถนอมก่อนจะประทับริมฝีปากบนปากบางอมชมพูเบาๆอย่างอ่อนโยนแล้วผละออกอย่างอ้อยอิ่ง

ซึ่งคำพูดและสัมผัสที่อ่อนโยนของเขา ทำให้ใจดวงน้อยของเด็กสาวอ่อนยวบลงทันทีคล้ายจะเหลวเป็นน้ำเสียให้ได้ เธอจึงยอมที่จะอยู่ในห้องแต่โดยดี

"ก็ได้ค่ะ แต่พี่วายุต้องรีบกลับมาหาน้องไวๆนะคะ อย่าให้น้องต้องเป็นห่วงนานนะ" อดไม่ได้ที่จะกำชับเสมือนเป็นคำสั่ง แต่น้ำเสียงและใบหน้าของเธอกลับออดอ้อนขณะที่ยังคงกอดเอวสอบเอาไว้ เกยคางบนอกแกร่ง ดวงตากลมโตมองเขาตาปริมๆ

"ครับ แล้วพี่จะรีบกลับมา" บอกก่อนจะอุ้มเด็กสาวลงจากตักวางร่างบางลงบนเตียงแทน ก่อนจะลุกขึ้นยืนตรงหน้าเด็กสาว แล้วโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงไปจูบซับหน้าผากมนอย่างอ่อนโยนแล้วผละออก จากนั้นก็หยัดกายขึ้นยืนตัวเต็มความสูง ลูบศีรษะเล็กเบาๆอย่างทะนุถนอมก่อนจะเดินออกไป แต่ทว่าก่อนที่จะปิดประตูห้องก็หันมาส่งยิ้มอบอุ่นให้เด็กสาวที่นั่งมองเขาอยู่บนเตียง

จากนั้นก็ตัดใจปิดประตูแล้วเดินไปยังเป้าหมายคือห้องใต้ดินที่อยู่ใต้บันใดใหญ่หรือบันใดกลางบ้าน ถึงเขาจะเข้ามาอยู่ที่นี่ได้แค่ไม่อีกวัน แต่เขาก็เป็นคนหูตาว่องไวและอีกอย่างเขามีคู่หูรุ่นน้องอย่างภีมที่พร้อมจะเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับที่นี่ให้เขาฟังโดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยถามเลยด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกที่เขาจะรู้ว่าห้องใต้ดินอยู่ตรงไหนของคฤหาสน์หลังนี้...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 27 ได้คืบจะเอาศอก

    (ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง)"พี่วายุเป็นไงบ้างพี่" เมื่อคนเป็นนายและพี่ชายออกไปจากห้องนี้แล้ว ภีมก็รีบพุ่งตัวเข้าไปหารุ่นพี่อย่างไว แล้วช่วยประคองกายแกร่งของรุ่นพี่ให้ลุกขึ้นนั่ง "กู โอเค" วายุตอบรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงเบาหวิว แทบจะไม่มีแรงพูด ร่างกายไร้เรี่ยวแรง สมองยังปวดหนึบด้วยฤทธิ์ยา "อดทนอีกนิดนะพี่ เดี๋ยวยาก็หมดฤทธิ์แล้ว" ภีมไม่สามารถช่วยอะไรรุ่นพี่ได้เลย เขาทำได้แค่บอกให้รุ่นพี่อดทน เพราะยาชนิดนี้ไม่มียาแก้หรือยาต้านใดๆ สุดแล้วแต่ร่างกายและความอดทนของคนที่ได้รับยานี้เข้าไปว่าจะอดทนต่อฤทธิ์ของมันได้หรือไม่"มึงอย่าปากสว่างไปบอกหนูมิล่ะ กูไม่อยากให้เมียกูต้องเป็นห่วง" วายุไม่ได้สนใจคำพูดของรุ่นน้องแต่อย่างใด เขาเลือกที่จะเอ่ยประหนึ่งเป็นคำสั่งกับรุ่นน้องแทนขณะที่ใบหน้ายังคงเหยเกด้วยความเจ็บปวด มือหนาข้างหนึ่งกุมขมับเอาไว้ มือหนาอีกข้างวางค้ำยันลงบนพื้นเพื่อเป็นหลักให้ตัวเอง"โธ่พี่ ผมไม่บอกคุณหนูหรอกหน่า อีกอย่างพี่ห่วงตัวเองก่อนเถอะ สภาพพี่ตอนนี้ดูไม่ได้เลย" ภีมรู้ดีว่าเรื่องไหนควรพูดไม่ควรพูด แต่รุ่นพี่ของเขานี่สิ ห่วงแต่คุณหนูตัวน้อยทั้งที่สภาพตัวเองตอนนี้แย่มากแทบดูไม่ได

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 26 อดทนเพื่อคนที่รัก

    (ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง)ภายในห้องใต้ดินหรือห้องเชือดผัวะ!ทันทีที่วายุโผล่หน้าเข้ามาในห้องเชือด เดชาก็ปล่อยหมัดหนักๆใส่ใบหน้าข้างขวาของวายุเต็มแรง จนใบหน้าหันไปตามแรงหมัดพร้อมกับเซไปด้านหลังจนเกือบเสียหลักล้มลงไป แต่ไม่ทันที่จะได้ตั้งหลักดี หมัดที่สองก็ตามมาใส่ใบหน้าอีกข้างเต็มแรงผัวะ!ใบหน้าของวายุหันไปตามแรงหมัดเกือบจะเสียหลักล้มลงไปอีกครั้งแต่ก็ทรงตัวเอาไว้ได้ ก่อนจะใช้หลังมือปาดน้ำคาวสีแดงที่ซึมออกมาตรงมุมปากทั้งสองข้างออกลวงๆ แล้วมองไปยังผู้เป็นนายนิ่งๆ โดยไม่พูดหรือไม่คิดจะตอบโต้กลับไป เขายอมให้ผู้เป็นนายกระทำแต่โดยดี"สองหมัดนี้แค่น้ำจิ้ม หลังจากนี้มึงเตรียมตัวรับบททดสอบของกูให้ได้ก็แล้วกันไอ้วายุ หึ" เดชาพูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำ พูดจบก็กระตุกยิ้มร้ายเย้ยหยันคนเป็นลูกน้องที่เลี้ยงไม่เชื่อง"ผมพร้อมครับ" วายุพูดสวนไปทันทีด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากใบหน้า เขายังคงใจเย็น ไม่ได้มีความเกรงกลัวผู้เป็นเจ้านายและสิ่งที่ตัวเองกำลังจะเผชิญเลยแม้แต่น้อย"อวดเก่ง! ถ้ามึงพร้อมมากขนาดนี้กูก็พร้อมจัดให้มึงแบบชุดใหญ่ จัดให้แบบสมเกียรติคนเก่งอยากมึง" เดชาไม่เคยเจอใครที่กล้าหือกับเขาแ

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 25 แผนล่อหมาขโมย

    ก๊อกๆๆๆๆ!!!!แต่แล้วเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นด้วยฝีมือของคนนอกห้องที่กระหน่ำเคาะไม่หยุด ทำให้เด็กสาวเจ้าของห้องสะดุ้งผวาโผเข้ากอดคนตัวโตเอาไว้แน่นด้วยความตกใจ และนึกหวั่นกลัวขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในห้องแค่คนเดียว หากใครมาเห็นเข้าคงแย่ก๊อกๆๆๆๆๆ!!!!"ยัยหนูเปิดประตูให้พ่อเดี๋ยวนี้!"เสียงเคาะประตูรัวๆดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงทุ้มดังกังวานของผู้เป็นพ่อ ทำให้เธอยิ่งตกใจและหวั่นกลัวหนักกว่าเดิม"พี่วายุคุณพ่อกลับมาแล้วทำยังไงดีคะ ถ้าคุณพ่อเห็นพี่วายุอยู่กับน้องแบบนี้คุณพ่อต้องไม่ปล่อยพี่วายุไปแน่ น้องกลัวค่ะ" มิราพูดด้วยความร้อนรน น้ำเสียงสั่นไปหมด ไม่คิดว่าคนเป็นพ่อจะกลับมาไวขนาดนี้ทั้งที่บอกเธอว่าจะกลับพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เธออยู่ไม่สุขนั่งไม่ติดเลยทีเดียวเพราะกลัวว่าผู้เป็นพ่อจะทำอะไรคนรักของเธอ พลางหันไปมองทางประตูที่ตอนนี้ผู้เป็นพ่อกำลังกระหน่ำเคาะเรียกเธอไม่หยุด เธอแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้วเพราะไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ในตอนนี้"หนูใจเย็นๆนะครับ มีพี่อยู่ตรงนี้หนูไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น มันถึงเวลาแล้วที่นายจะต้องรู้เรื่องของเราสักที" บอกกับเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 24 แฟนเก่าที่ไม่เคยรัก

    "อ้าวพี่ หายไปไหนมาตั้งนาน" ภีมเอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นรุ่นพี่กำลังเดินมาทางเขาวายุไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับมองหาเด็กสาวที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้อย่างที่เขาคิดไว้ หรือเธอคงอาจจะเสียใจและวิ่งขึ้นห้องนอนของเธอไปแล้ว เช่นนั้นก็ดี ดีกว่าที่เธอมานั่งอยู่กับไอ้หน้าตี๋"ตัวเล็กไปเข้าห้องน้ำนานจัง เดี๋ยวฉันไปตามดีกว่า" พูดจบมาตินก็ตั้งท่าจะลุกขึ้น แต่ทว่าวายุก็ดันกดไหล่ของมาตินให้นั่งลงเช่นเดิม ก่อนจะเอ่ยพูดออกไปน้ำเสียงแข็ง ใบหน้าเรียบนิ่ง"ไม่ต้องไปตามหรอก คุณหนูบอกว่าง่วง เลยขอตัวขึ้นห้องไปนอนแล้ว ส่วนคุณก็กลับบ้านไปได้แล้ว""นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน ฉันจะไปดูตัวเล็ก" มาตินปัดมือของวายุออกจากไหล่ตัวเอง ขณะมองหน้าวายุอย่างไม่พอใจที่บังอาจมาสั่งเขา แถมท่าทางก็ยังกำแหง ดูไม่ให้เกียรติและไม่เกรงใจเขาเลยด้านภีมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดแทรกสถานการณ์ตรงหน้า"เอ่อ ผมว่าคุณมาตินกลับไปก่อนดีกว่านะครับ คุณหนูหลับไปแล้วคงไม่มีประโยชน์ถ้าคุณจะขึ้นไปหาคุณหนูตอนนี้ อีกอย่างมันก็ไม่เหมาะสมที่คุณจะขึ้นไปหาคุณหนูบนห้องด้วย"พรึ่บ!สิ้นเสียงของภีม มาตินก็ลุกพรวดขึ้นมาแล้วพูดสวนกลับภีมอย่างไม่พอใจ"ไม่เหมาะสมยังไง อีกไม่นาน

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่ 23 รอยลิปสติก

    บริเวณสวนหย่อมข้างบ้านหลังจากมื้ออาหารเช้าจบลง มิราก็พาแขกที่ไม่ได้รับเชิญมานั่งเล่นบริเวณสวนหย่อมข้างบ้าน แต่กลับไม่มีบอดี้การ์ดคนของใจตามเธอมาด้วย ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน หลังจากที่ทานข้าวเสร็จเธอก็ไม่เห็นเขาอีกเลย ตอนนี้ก็ได้แต่หันซ้ายหันขวา ชะเง้อมองหาคนรักจนคอยาวเป็นยีราฟแล้ว"มีอะไรรึเปล่าครับ มองหาใครอยู่เหรอ" มาตินเอ่ยถามเพราะท่าทางของคนตัวเล็กทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ด้านมิราถึงกับชะงักกับคำถามของอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยตอบเขาไปด้วยอาการเลิ่กลั่กเล็กน้อย"ปะ เปล่าค่ะ ไม่ได้มองหาใคร"ด้านมาตินได้ยินเช่นนั้นก็เลือกที่จะไม่ถามเซ้าซี้อะไรอีก ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยพูดต่อ"พี่มาตินนั่งตรงนี้ไปก่อนนะคะ มิราขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน พี่ภีมฝากดูแลพี่มาตินด้วยนะคะเดี๋ยวน้องมิมา" พูดจบมิราก็ดันตัวลุกขึ้นเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในบ้านทันที ทิ้งให้มาตินได้แต่มองตามหลังอย่างนึกสงสัยกับท่าทางที่ผิดปกติของเธอ แต่ไม่ใช่กับบอดี้การ์ดคนสนิทอย่างภีม เพราะภีมรู้ดีว่าคุณหนูตัวน้อยเป็นอะไร...ซึ่งภีมก็ได้รู้แล้วว่ารุ่นพี่ของเขากับเด็กสาวมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนไปถึงขั้นผัวเมียกันแล้ว และที่เขารู้ได้นั้นก็เพราะเมื่

  • ป่วนหัวใจนายบอดี้การ์ดหน้านิ่ง   ตอนที่22 หวงเมีย

    ในเวลาหกโมงเช้ามิราเปิดประตูออกมาจากห้องนอนของตัวเอง ก็เห็นคนเป็นพ่อเหมือนกำลังจะเดินทางไปไหน เพราะเธอเหลือบไปเห็นกระเป๋าลากใบใหญ่ที่บอดี้การ์ดคนสนิทของพ่อเธอกำลังถืออยู่ เธอจึงเอ่ยถามคนเป็นพ่อไป"นั่นคุณพ่อจะไปไหนแต่เช้าคะ"เดชาหยุดชะงักเท้าแล้วหันมาตอบคำถามของลูกสาว"พ่อต้องไปคุยงานที่ต่างจังหวัด หนูอยู่บ้านก็อย่าดื้ออย่าซนนะลูก ถ้าจะออกไปข้างนอกก็ให้ไอ้ภีมกับไอ้วายุมันพาไป แต่ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าออกไปไหน เข้าใจไหมครับ""ค่ะ แล้วคุณพ่อจะไปกี่วันคะ" ซึ่งคนเป็นพ่อก็มักจะไปคุยงานต่างจังหวัดแบบนี้อยู่บ่อยๆจนมิราชินไปเสียแล้ว เธอเลยไม่ได้กังวลอะไรกับการที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวโดยไม่มีผู้เป็นพ่ออยู่ด้วย"ถ้าไม่มีปัญหาอะไร พรุ่งนี้พ่อก็น่าจะกลับแล้วครับ"สิ้นคำตอบของคนเป็นพ่อ มิราก็พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเข้าไปกอดเอวสอบของพ่ออย่างออดอ้อน โดยที่คนเป็นพ่อก็กอดตอบลูกสาวของตนทันที"เดินทางปลอดภัยนะคะคุณพ่อสุดหล่อของหนู เอ๊ะ ว่าแต่คราวนี้จะหิ้วสาวๆกลับมาด้วยรึเปล่าคะเนี้ย" เอ่ยแซวคนเป็นพ่อไปอย่างนั้น ทั้งที่รู้ดีว่าคนเป็นพ่อไม่มีทางพาผู้หญิงเข้าบ้านแน่นอน อย่างมากก็พาไปโรงแรมหรือที่ไหนก็แล้วแต่ที่ไม่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status