หลังจากวันนั้นกลอยใจก็ไปเล่นกับเด็ก ๆ ที่ชุมชนบ้านพักคนงานเป็นประจำ เพราะมีลูกคนงานหลายคนที่ยังไม่ได้ไปโรงเรียน เธอเอาของเล่นมาให้บ้าง ขนมแล้วก็เสื้อผ้า บางทีก็มากินส้มตำกับคนงานผู้หญิงชาวอีสานโดยเฉพาะส้มตำปูปลาร้าอย่างแซ่บ เธอมาเพราะเหงาด้วยส่วนหนึ่ง แล้วอีกอย่างก็อยากมาหาข้อมูลเพื่อเอาไปเป็นวัตถุดิบในการเขียนนิยายของเธอด้วย
ตอนนี้กลอยใจรู้แล้วว่ากันต์เป็นเจ้าของสวนผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด ในตอนแรกที่เธอรู้ความจริงนั้นเธอยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่เธอคิดว่ากันต์แต่งเรื่องเพื่อให้เธอสบายใจ เธอพูดเกลี้ยกล่อมให้เขาบอกความจริงมาว่าเขาเป็นแค่หัวหน้าคนงาน จนเขาต้องพาเธอไปถามป้าสุนีย์กลอยใจถึงได้เชื่อ "คุณกลอยได้แล้วจ้ะ" กุหลาบ สาวน้อยวัยยี่สิบยกถาดส้มตำมาวางลงตรงหน้าของกลอยใจ "ว้าวว..น่าทานจัง ไม่เผ็ดใช่ไหมคะ ?" "บ่อเผ็ดจ้า" ตอบกลอยใจไปแล้วก็หันไปเรียกน้ำผึ้งเพราะเธอเดินผ่านมาพอดี "อ้าว..พี่ผึ้ง มากินส้มตำด้วยกันจ้ะ" "ไม่ล่ะ เหม็นปลาร้า" พูดจบก็สะบัดหน้าเดินผ่านกุหลาบแล้วก็กลอยใจไปที่ร้านค้า กุหลาบทำหน้างงเพราะเมื่อก่อนน้ำผึ้งก็เคยกินส้มตำปูปลาร้ากับเธอบ่อย ๆ ส่วนกลอยใจก็ได้แต่นึกขำกับท่าทางของน้ำผึ้ง กลอยใจคุยกับกันต์จริงจังแล้วเรื่องน้ำผึ้ง กันต์ไม่ได้คิดอะไรกับเธอจริง ๆ ถ้าคิดเกินเลยกับเธอเขาจะประกาศหาเมียผ่านแอพหาคู่ทำไม "แซ่บบ่อจ้า" กุหลาบถามกลอยใจถึงรสชาดของส้มตำฝีมือเธอ "อร่อยมากเลย" "ถ้าเผ็ดกว่านี้จะดีมาก" "ฉันทานเผ็ดไม่ได้ เดี๋ยวมันจะปวดท้อง เดี๋ยววันหลังเราค่อยแยกครกตำเนาะ" "จ้า" งานในสวนจะมีทุกวันแต่ว่าหาญกล้าจะจัดวันหยุดให้ทุกคนอาทิตย์ละวันสลับกันไป ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันหยุดของกุหลาบพอดี กลอยใจชอบคุยกับกุหลาบเพราะมีกุหลาบและน้ำผึ้งที่อายุไล่เลี่ยกับเธอ นอกนั้นก็เป็นคุณป้าและมีครอบครัวกันหมด แต่ว่าน้ำผึ้งนั้นคงไม่อยากคุยกับเธอแน่นอน ช่วงนี้กันต์ยุ่ง ๆ เพราะว่าเป็นช่วงเก็บผลไม้ทั้งลองกอง เงาะแล้วก็ทุเรียน โดยเฉพาะทุเรียนนั้นกันต์ต้องไปดูแลเองทุกขั้นตอนเพราะว่าได้ทำสัญญาส่งขายให้ประเทศจีนด้วย กลอยใจจึงไม่ได้เจอหน้าเขามาสองสามวันแล้ว เขากลับมาดึกตอนที่เธอหลับไปแล้วเวลาออกจากบ้านก็ไปตั้งแต่ไก่โห่เธอยังไม่ตื่น "คุณกลอย" เด็กผู้ชายสามคนหนึ่งในนั้นมีเกด้วยเดินตรงมาที่เธอซึ่งทานส้มตำอิ่มและกุหลาบเก็บโต๊ะพอดี เธอกับกลอยใจนั่งทานส้มตำที่โต๊ะหน้าร้านค้าในชุมชนบ้านพักคนงาน "ว่าไงคะ เอาขนมมั้ย ?" "เอาครับ" "ไปหยิบเลย" เด็กทั้งสามคนจึงเดินไปหยิบขนมมาคนละห่อ กลอยใจจ่ายเงินแล้วก็พาเด็ก ๆ กลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม แกะขนมให้เด็กชายทั้งสามคน "ที่นี่ไม่มีเด็กผู้หญิงเลยเหรอกุหลาบ ?" "มันใหญ่จนไปโรงเรียนกันหมดแล้วจ้ะ เหลือแต่พวกลิงพวกนี้แหละคุณกลอย" กลอยใจนึกขำกับคำเปรียบเทียบของกุหลาบ จะว่าไปแล้วเด็ก ๆ พวกนี้ก็ซนจริงแหละ ปีนป่ายต้นไม้ก็เก่ง หน้าตามอมแมมเลอะเทอะเพราะเล่นดินเล่นโคลน "มา ๆ เดี๋ยวน้ากลอยอ่านนิทานให้ฟัง" เธอสั่งหนังสือนิทานอีสปมาจากร้านค้าออนไลน์เพื่อมาอ่านนิทานให้เด็ก ๆ ฟังโดยเฉพาะ แต่รู้สึกว่าเด็ก ๆ จะไม่ชอบเท่าไหร่ พวกเขาชอบเล่นรถของเล่นแล้วก็ชอบปั้นดินน้ำมันมากกว่า กลอยใจอยู่กับกันต์อย่างมีความสุข แม้ชีวิตที่นี่จะเรียบง่ายแต่ก็สงบ เผลอแป๊บเดียวเธอมาอยู่กับเขาได้สองเดือนแล้ว ข่าวคราวของเกมส์กับน้ำฟ้าก็มีมาให้เห็นบ้างในหน้าฟีดเฟสบุค แต่น่าแปลกที่เธอแทบจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว เธอเลือกที่จะไม่บล็อคบุคคลทั้งสองเพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย เกมส์ยังโทรมาหาเธอบ้างแต่เธอไม่เคยรับสาย เรื่องราวในอดีตของเธอนั้นยังไม่ได้เล่าให้กันต์ฟัง กลอยใจคิดว่าอีกไม่นานเธอต้องเล่าให้เขาฟัง แต่ขอเวลาอีกสักหน่อยละกัน อยู่เล่นกับเด็ก ๆ และคุยกับกุหลาบจนบ่ายคล้อยเธอจึงขอตัวกลับ ขี่รถเครื่องที่กันต์ซื้อให้เพื่อเอาไว้ให้เธอไปไหนมาไหนใกล้ ๆ แถวนี้กลับ วันหยุดคราวหน้าของกุหลาบสองสาวนัดกันว่าจะพากันเข้าเมืองเพื่อไปตลาดนัด กลอยใจอยากไปหาซื้อเสื้อผ้าสักหน่อยไม่ได้ช็อปนานแล้ว เมื่อมาถึงบ้านเธอก็พบว่าสามีของเธอกลับมาแล้วและเขากำลังทำกับข้าวอยู่ กลอยใจรีบวิ่งไปกอดเขาด้วยความคิดถึง กันต์เองก็หัวใจพองโตเพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเข้าหาเขาก่อน กอดตอบเธอด้วยอารมณ์คิดถึงไม่แพ้กัน "ทำไมไม่โทรบอกกลอยล่ะว่ากลับมาแล้ว" "ฮื้อ..เหม็นจังไปกินอะไรมา ?" กันต์ไม่ตอบคำถามแต่หอมแก้มเธอฟอดใหญ่แทน แล้วย่นจมูกและถามเธอกลับ "ตำปูปลาร้า เหม็นจริงเหรอคะ ?" "จริงสิ ไปอาบน้ำไปแล้วมากินข้าว ไข่เจียวหมูสับเสร็จแล้ว" กันต์ตอบเธอยิ้ม ๆ เหม็นที่ไหนล่ะเมียเขาหอมจะตาย เธอทำตามอย่างว่าง่ายเดินเข้าห้องไปอาบน้ำเพื่อมากินกับข้าวฝีมือสามี กันต์ทำไข่เจียวหมูสับเพราะได้น้ำพริกกะปิมาจากบ้านป้าสุนีย์ น้ำพริกกะปิทานกับผักสดเช่นแตงกวา ลูกตอแล้วก็ลูกเนียงอร่อยอย่าบอกใคร "งานเสร็จแล้วเหรอคะ ?" ระหว่างทานข้าวก็สอบถามถึงเรื่องงานของเขาไปด้วย "ส่งทุเรียนล็อตแรกออกไปแล้วก็มีเวลาพักอีกสองสามวัน" ทานข้าวอิ่มเก็บล้างจานชามก็เกือบหกโมงเย็น กันต์ไปอาบน้ำอาบท่าส่วนกลอยใจเขียนนิยายต่อ งานเขียนของเธอคืบหน้าไปมากเพราะอยู่ที่นี่บรรยากาศที่เงียบสงบทำให้ไอเดียบรรเจิดเขียนได้น้ำไหลไฟดับ อาบน้ำเสร็จแล้วกันต์ก็มาทำบัญชีประจำเดือนและเตรียมเงินไว้สำหรับจ่ายเงินเดือนให้กับคนงาน กลอยใจเห็นสามีทำหน้ายุ่ง ๆ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เธอจึงเข้าไปดูเขา "มีอะไรให้กลอยช่วยไหมคะ ?" "กลอยช่วยเอาเงินใส่ซองตามรายชื่อและจำนวนที่ผมทำรายการไว้ให้หน่อยครับ" "ได้ค่ะ แต่กลอยว่าคุณกันต์น่าจะปริ๊นท์ออกมานะคะจะได้ดูง่ายกว่า" มิน่าเขาถึงทำหน้ายุ่ง เพราะรายการเงินเดือนและรายชื่อนั้นมันอยู่ในเครื่อง จ้องไปจ้องมาก็ตาลาย เมื่อก่อนก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่พักหลังมานี่เป็นเพราะมีเมียหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้สึกว่ากำลังวังชาจะถดถอยสายตาก็เหนื่อยล้าง่าย กันต์หัวเราะหึในลำคอ 'มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกาย' เพลงนี้ลอยเข้ามาในความคิดของเขาทันที "เครื่องปริ๊นท์มันเสีย" "อ้อ..ค่ะ เดี๋ยวกลอยจัดการเอง" กันต์ขยับลุกจากเก้าอี้กลอยใจนั่งลงแทนเขา "ต้องเอาเครื่องปริ๊นท์ไปซ่อม" ระหว่างเอาเงินใส่ซองเธอก็บอกกับเขาไปด้วย "ถ้างั้นพรุ่งนี้ค่อยเอาไป" "ดีมาก เชื่อฟังเมียแล้วจะเจริญ" สองผัวเมียยิ้มให้กันอย่างมีความสุขแล้วก็ช่วยกันนำเงินใส่ซอง พรุ่งนี้จะได้ให้หาญกล้าเอาไปจ่ายให้กับคนงาน กว่าจะเสร็จก็เกือบสี่ทุ่มกลอยใจหาวแล้วหาวอีกเพราะง่วงนอน "ฮ้าววว..ง่วงจัง" ปิดปากหาว กันต์จึงโอบไหล่เธอพาเดินเข้าไปในห้องนอน ปิดไฟก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียง "คุณกันต์" ล้วงมือเข้าไปในเสื้อนอนของกันต์และลูบไล้หน้าอกแกร่งของเขาอย่างซุกซน ท่าทางง่วงงุนหายไปเป็นปลิดทิ้ง กันต์รีบตะครุบมือเธอเอาไว้ก่อนที่มันจะเลื้อยต่ำลงไปกว่านี้ "ไม่นอนแล้วไง ?" "ไม่นอนแล้ว อยากทำอย่างอื่นมากกว่า""พี่หาญ พี่แน่ใจแล้วใช่ไหมที่เลือกฉัน ?"น้ำผึ้งเอ่ยถามหาญกล้า ทั้งสองนั่งอยู่บนเตียงกว้าง หาญกล้าพาเธอมาเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานเพื่อกระชับความสัมพันธ์ โดยที่ขออนุญาติป้าสายแม่ของน้ำผึ้งเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ตกลงคบหาดูใจกันกับเขา น้ำผึ้งก็รู้สึกไม่สบายใจมาตลอด เพราะเธอเคยมีแฟนมาก่อน และยังเคยแอบชอบนายหัวกันต์เจ้านายของเธอ แล้วเขาก็เป็นเจ้านายของหาญกล้าด้วย เคยทำตัวไม่น่ารักและอ้อร้อมาก ๆ เรียนก็แทบไม่จบ เพราะใจแตกคบผู้ชายตั้งแต่วัยเรียน แต่สุดท้ายก็ถูกถีบหัวส่ง ต้องซมซานกลับมาหาแม่และยังดีที่นายหัวกันต์ให้เธอทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสวน และคนที่คอยปลอบใจเธอมาตลอดก็คือผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้"ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ ?"หาญกล้าไม่ตอบคำถามของเธอ แต่กลับถามคำถามเธอกลับ น้ำผึ้งสบตากับเขา พร้อมกับถอนหายใจออกมา"ก็..ฉันไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เคยมีผัวมาแล้วพี่ก็รู้ มีผู้หญิงที่ดี ๆ กว่าฉันตั้งเยอะแยะที่พร้อมจะเป็นเมียพี่"หาญกล้าแม้ไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ขยันขันแข็ง เขามีที่ดินหลายสิบไร่ที่ซื้อจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง มีเงินเก็บไม่น้อย และที่สำคัญหน้าตาของเขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าใคร ผิวคล้ำที่เกิดจากการทำงานใน
วันนี้กลอยใจตื่นขึ้นมาแต่เช้า อาการแพ้ท้องของเธอหายไปแล้วตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพ ฯ เธอตัดสินใจขายบ้านหลังนั้นเพราะอยากทิ้งทุกอย่างเอาไว้ให้เป็นแค่ความทรงจำ เธอจะลงหลักปักฐานที่นี่ อยู่กับคนที่เธอรักตลอดไป"คุณกลอย"เสียงของกุหลาบเรียกเธอให้ออกจากภวังค์ กุหลาบเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำผึ้ง"แต่งตัวเสร็จแล้วใช่ไหมคะ พี่ผึ้ง กุหลาบ ?""เสร็จแล้วจ้ะคุณกลอย"น้ำผึ้งเป็นคนตอบ กลอยใจจึงหันไปสำรวจความเรียบร้อยของสองสาว น้ำผึ้งกับกุหลาบในชุดเดรสตัวยาวสีโอโรส เปิดไหล่โชว์ผิวสีน้ำผึ้งได้อย่างชวนมอง"สวยจัง สวยกว่าเจ้าสาวอีกนะเนี่ย"กลอยใจเอ่ยชม"ไม่จริงหรอกจ้ะ คุณกลอยสวยที่สุด ใช่ไหมพี่ผึ้ง ?"กุหลาบพูดแย้งออกมา พร้อมกับขอความเห็นจากน้ำผึ้ง "ใช่ วันนี้คุณกลอยสวยมาก ผู้หญิงทั้งจังหวัดก็ไม่มีใครสู้"กลอยใจหัวเราะให้กับคำชมที่จริงใจของน้ำผึ้ง เธออยู่ในชุดเจ้าสาว สีขาวบริสุทธิ์ แม้ว่าตอนนี้จะท้องได้สิบหกสัปดาห์หรือสี่เดือนแล้ว แต่หน้าท้องของเธอก็ยังแบนราบราวกับคนไม่ได้ท้อง ป้าสุนีย์บอกว่าเป็นเพราะท้องสาว"เราออกไปกันเถอะ"กลอยใจเอ่ยชวนสองสาว ทั้งสามคนจึงได้เดินออกไปจากห้องพร้อมกัน งานแต่งของกันต์กับกลอ
หาญกล้ากับเมธีได้แต่มองหน้ากันเมื่อเห็นพฤติกรรมของกันต์ คนที่เมียกำลังท้องจะมีอาการแปลก ๆ แบบนี้ทุกคนล่ะมั้งเมื่อน้ำผึ้งกับกุหลาบเห็นนายหัวโผล่หน้าเข้าไปในห้องพวกเธอจึงหยุดเลือกชุด แล้วก็พากันหลบออกมาจากห้องนั้น ปล่อยให้สองผัวเมียได้อยู่กันตามลำพังกันต์ปีนขึ้นไปบนเตียงเขาค่อย ๆ ก้มลงจูบที่ริมฝีปากของเมียรัก เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกได้ว่ามีคนรบกวน ในตอนแรกกลอยใจคิดว่าเป็นกุหลาบกับน้ำผึ้งแต่พอเป็นกันต์ซึ่งตอนนี้เขาใช้ร่างกายใหญ่โตคร่อมร่างเธอเอาไว้ เธอจึงหลับตาลงและคิดจะนอนต่อ แต่กันต์ก้มลงซุกไซ้ซอกคอของเธอ กลอยใจขนลุกซู่และเข้าใจได้ทันทีว่าสามีต้องการอะไร"พี่กันต์.."เอ่ยออกมาเสียงแผ่วใช้สองแขนคล้องคอเขาและโน้มตัวของสามีลงมา ก่อนจะเผยอปากรับรอยจูบจากเขา กันต์แทรกลิ้นร้อน ๆ เข้าไปในโพรงปากของเธอ กลอยใจก็ใช้ลิ้นเล็กดูดดึงลิ้นของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ ทั้งสองคนส่งเสียงอือในลำคอ ตั้งแต่กลอยใจท้องทั้งสองคนก็ไม่ได้ใกล้ชิดหรือแสดงความรักต่อกันเลย แลกจูบกันเนิ่นนานเหมือนกันต์จะรู้ตัวเพราะนึกถึงคำพูดของคุณหมอขึ้นมาได้ จึงผละริมฝีปากบางออกจากริมฝีปากนุ่ม "พอก่อน"กันต์เอ่ยปากออกมาเสียงแหบพร่
เมื่อมาถึงผับของนทีแล้วเขาก็เปิดห้อง VIP ให้กับทุกคน และสั่งเครื่องดื่มมาให้แบบจัดเต็ม หาญกล้าชอบใจมาก เมธีเองก็สนุก ส่วนกันต์นั้นในตอนแรกเขาก็ไม่กล้าเมาได้แต่หันไปมองหน้าภรรยา "พี่กันต์อยากดื่มก็ดื่มเลยค่ะ"กลอยใจบอกกับสามีเสียงอ่อนโยน เธอเองก็นึกเห็นใจเขาไม่น้อย เพราะตั้งแต่รู้ว่าเธอตั้งครรภ์เขาก็เข้าหน้าเธอไม่ติดเลย เพราะนอกจากเธอจะเหม็นกลิ่นตัวเขาแล้วยังเข้าหน้าเธอไม่ติดอีกด้วย เพิ่งจะมีสองสามวันมานี่แหละที่เธอการดีขึ้นเธอจึงไม่ค่อยหงุดหงิดใส่เขาเมื่อเมียรักอนุญาติกันต์จึงจัดเต็ม ชนแก้วกับเมธี หาญกล้าแล้วก็นทีด้วยความสนุกสนาน แหกปากร้องคาราโอเกะแบบไม่สนคีย์ ดูท่าทางสนุกสนานของสามีแล้วกลอยใจก็พลอยมีความสุขไปด้วย เธอเข้าไปเช็คยอดวิวของนิยายและใช้โอกาสนี้เขียนนิยายสักหน่อย ตั้งแต่แพ้ท้องเธอก็ไม่ได้อัพนิยายมาเป็นอาทิตย์แล้ว มีรี้ดเข้ามาคอมเมนต์ทวงตอนต่อไปอยู่หลายคน แม้จะมีเสียงดังอยู่รอบตัวก็ไม่ใช่ปัญหา ขอแค่อารมณ์มาไอเดียผุด กลอยใจก็สามารถเขียนนิยายได้ทุกที่"เป็นไงบ้าง ?"เมธีถามกุหลาบอย่างเป็นห่วง เห็นท่าทางพะอืดพะอมของเธอแล้วเขาก็ทั้งขำแล้วก็สงสาร "ไม่เป็นไร ดีขึ้นแล้วค่ะ"เธอย
เมื่อหนุ่ม ๆ ขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว จึงไปรับสามสาวที่ร้านเสริมสวย กลอยใจมองสามีไม่วางตาเพราะลุคนี้เขาดูหล่อเหลา ชุดสูทพอดีตัวสีเทาเข้มส่งให้ร่างสูงกำยำของกันต์ดูเปลี่ยนไป แม้ความหล่อคมเข้มยังอยู่ แต่ที่เพิ่มมาอีกก็คือความอ่อนละมุนอบอุ่นอบอวลไปทั่วร่าง กันต์เองก็เขินกับสายตาของเมียรักและก็อดตะลึงกับความสวยของเมียไม่ได้ ชุดราตรีสีชมพูอ่อน เปิดไหล่เนียนละมุน เอวคอดกิ่วและหน้าท้องแบนราบแม้ตอนนี้เธอจะท้องได้เกือบสองเดือนแล้วก็ตาม แต่รูปร่างก็ยังเพรียวระหงอยู่เช่นเดิม ส่วนน้ำผึ้งกับกุหลาบก็สวยมากเช่นกันในชุดราตรีโทนสีฟ้าอ่อนขับผิวสีน้ำผึ้งของทั้งสองให้ดูเนียนละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะกุหลาบแทบดูไม่ออกเลยว่าเป็นเพียงสาวน้อยในสวนในไร่คนหนึ่งเท่านั้น เมธีมองกุหลาบตาไม่กระพริบ เมื่อสามสาวขึ้นรถเรียบร้อยแล้วรถก็เคลื่อนตัวตรงไปที่โรงแรมที่จัดงานแต่งของเกมส์กับน้ำฟ้า ทั้งหกคนเดินเข้าไปในงาน ต่างก็ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกลอยใจนั้นต่างก็มีสายตาอยากรู้อยากเห็นของหลายคนมองตาม"นั่นมันยัยกลอยนี่"เสียงกระซิบกระซาบของอดีตเพื่อนร่วมงานของเธอพูดคุยกัน เกมส์กับน้ำฟ้าคงเชิญคนทั้งบริษัท กลอยใจคล
"โอ้..ว่าแล้ว"หลังจากที่กลอยใจเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้านเธอก็อุทานออกมา บริเวณหน้าบ้านในตอนนี้หญ้าขึ้นรก ดอกไม้ต้นไม้ก็เหี่ยวเฉา ฝุ่นเกาะเต็มตรงระเบียงหน้าบ้าน และขอบหน้าต่าง และภายในบ้านก็คงไม่ต่างกัน"นี่แหละค่ะบ้านของกลอย เชิญทุกคนค่ะ"เมื่อเธอพูดจบก็ดันประตูหน้าบ้านให้เปิดกว้างออก น้ำผึ้ง กุหลาบ กันต์แล้วก็หาญกล้าจึงลากกระเป๋าเสื้อผ้าเดินเข้าไปบ้านของกลอยใจเป็นบ้านเดี่ยว สามห้องนอนสองห้องน้ำลักษณะเหมือนบ้านในหมู่บ้านจัดสรรทั่วไป เธอซื้อบ้านหลังนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เมื่อก่อนเธออยู่กับยายแต่พอยายเสียเธอก็เลยอยู่คนเดียว บ้านของน้ำฟ้าก็อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้แต่อยู่ถัดไปอีกซอย"คุณกลอย ต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่เลยนะเนี่ย"กุหลาบเอ่ยขึ้นมา เพราะมองดูสภาพแล้วถ้าไม่ทำความสะอาดก่อนคงเข้าพักไม่ได้แน่ ๆ กลอยใจพยักหน้าเห็นด้วย เธอไปอยู่กับกันต์ก็สี่ห้าเดือนแล้ว อีกอย่างตอนไปก็ไปอย่างกะทันหันจึงไม่ได้ฝากให้ใครช่วยดูแล ค่าน้ำค่าไฟเธอก็อาศัยจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เอา"เดี๋ยวกลอยโทรหาบริษัทรับทำความสะอาดมาช่วยจัดการ""ไม่ต้องหรอกคุณกลอย พวกเราช่วยกันทำก็ได้จ้ะ"น้ำผึ้งพูดขึ้นมา กุหาบกับหาญก