Share

6/2 เจ้าเมืองโจวอี้

last update Last Updated: 2024-12-18 15:59:11

เจ้าเมืองจะมีจวนของตนเอง เขาจึงพักอยู่ที่นั่น โดยแวะเวียนกลับมาหาน้องชายอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เด็ก ดังนั้นทันทีที่กลับเข้าเมืองมา สิ่งแรกที่ฉู่ซีห่าวทำคือกลับมาหาน้องชาย

ทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันนานจึงชวนร่ำสุราด้วยกัน ฉู่ซีเย่นำสุราชั้นดีที่บ่มไว้ออกมาฉลองล่วงหน้าให้กับฉู่ซีห่าว พูดคุยรำลึกความหลังหนเก่า จนพูดมาถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อสามปีก่อน ในฤดูหนาวที่จะถึงในเดือนหน้า

ใกล้จะถึงวันล่วงลับของเจ้าเมืองฉู่คนก่อนแล้ว...

“อิ่นจื่อ เรื่องเมื่อสามปีก่อนเจ้าได้บอกนางหรือเปล่า” นางในความหมายของฉู่ซีห่าวคือเหยาอี้เหยา ส่วนเรื่องเมื่อสามปีก่อน คือเรื่องเหตุการณ์ลอบสังหารที่ทำให้ฉู่หลินเสียชีวิต เขาในตอนนั้นอยู่ชายแดนกับท่านปู่ กว่าจะกลับมาได้ ท่านพ่อก็ไม่อยู่แล้ว

“ต้องบอกด้วยหรือ”

“วันนี้นางมองข้าด้วยความรู้สึกผิด” เมื่อครู่ฉู่ซีห่าวพบนางที่ตรอกในเมือง “ทั้งๆ ที่คนที่ควรรู้สึกผิดต่อนางควรเป็นพวกเรา”

“ชาวฮั่นเป็นคนลงมือ ชาวฮั่นเป็นคนสร้างข่าวลือกลบความจริง เช่นนี้ย่อมต้องให้ชาวฮั่นรับผิดชอบ” เพราะเหตุการณ์ในอดีตทำให้สกุลเหยาต้องแบกรับความผิด ถูกตัดขาดจากสังคมและกีดกัน ทว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉู่ซีเย่ เขาไม่สนใจว่าสกุลเหยาที่บริสุทธิ์ว่าต้องประสบพบเจอกับอะไร

“ร่างแม่ทัพหลินยังถูกฝั่งอยู่นอกด่าน เป็นเพียงศพไร้ญาติ แม้ว่าข้าจะทำให้วีรชนได้กลับคืนสู่ดินแดนอย่างสมเกียรติไม่ได้ แต่ความจริงของเรื่องนี้สามารถบอกให้หลานสาวอย่างนางรู้ได้”

ฉู่ซีเย่รินสุรา ก่อนจะกระดกทีเดียว “ข้าไม่อยากให้นางรู้”

“อิ่นจื่อ เจ้าอย่าได้ลืมว่าแม่ทัพหลินช่วยเจ้าอย่างไรบ้าง”

“ข้าไม่เคยลืม”

“เช่นนั้นเจ้าดีกับนางหน่อย” ฉู่ซีห่าวพยายามพูดหยุดยั้งแผนการอำมหิตของฉู่ซีเย่ที่มีต่อนาง “อย่าฆ่านาง ถึงนางจะเป็นสายของไท่จื่อก็ตาม”

ฉู่ซีเย่ไม่ตอบอะไร เขาลิ้มรสชาติสุราอุ่นๆ ท่ามกลางสายลมโชยอันหนาวเหน็บ

“อิ่นจื่อ รับปากข้าสักคำได้หรือไม่”

ไร้เสียงตอบกลับใดๆ จากฉู่ซีเย่

การประชุมก่อนหน้านี้เพื่อแต่งตั้งเจ้าเมืองโจวอี้ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาวเมืองให้ขึ้นเป็นเจ้าเมืองคือแม่ทัพฉู่ ฉู่ซีห่าว การแต่งตั้งอย่างเป็นทางการมีขึ้นในอีกไม่กี่วันเพื่อให้ทันงานฤดูหนาวประจำปีในเดือนหน้า

เหยาอี้เหยาจากกรมสำรวจสำมโนครัวตรอกซ้ายได้รับหน้าที่สำคัญในการรวบรวมรายชื่อของประชาชนเพื่อจัดระเบียบสำมโนครัว หลังจากที่ไม่ได้ลงทะเบียนกันอย่างเป็นทางการมาเกือบสี่ปีแล้ว นับตั้งแต่เจ้าเมืองโจวอี้คนก่อนเสียชีวิต

การรวบรวมรายชื่อไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะตรอกซ้ายที่มีคนอาศัยกันหลากหลาย บางส่วนเดินทางเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายด้วย ทำให้ไม่กล้าเข้ามาลงทะเบียนรายงานตัว เหยาอี้เหยากับผู้ดูแลจิ่งจึงส่งรายชื่อล่าช้ากว่ากำหนด ทั้งสองจึงทำงานอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะสำรวจรายชื่อของประชาชนในตรอกซ้ายได้ครบ

วันนี้เป็นสุดท้ายก่อนกำหนดการส่งรายชื่อ ทว่างานก็ยังไม่เสร็จ แต่ทางส่วนกลางให้คนมารับรายงานแล้ว ทำให้ต้องส่งไปอย่างนั้น

เหยาอี้เหยานั่งรถม้ากลับจวนกับจางลี่ ด้วยความเหน็ดเหนื่อยสะสมนับสิบวันทำให้นางเผลอหลับทันทีที่ขึ้นรถม้า จวบจนถึงสกุลฉู่ จางลี่จึงปลุกนาง

“คุณหนูเหยา ถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ”

“อืม” นางลืมตาขึ้นมา ขยับหมวกที่เอียงให้ตรงเพื่อลงจากรถม้า อากาศหนาวด้านนอกทำให้นางต้องกระชับเสื้อกันลมเข้าไว้ด้วยกัน ก่อนจะเร่งฝีเท้าเพื่อรีบกลับเรือน แต่จินเฟย องครักษ์ของสกุลฉู่ถือโคมไฟรอนางอยู่ที่ข้างกำแพง ท่าทางมีธุระกับนางอย่างเห็นได้ชัด

“คุณหนูเหยา ซื่อจื่อให้มาเรียกท่านไปพบ”

ตั้งแต่วันที่แม่ทัพฉู่กลับมา ฉู่ซีเย่ไม่เคยเรียกพบนางเป็นการส่วนตัวเช่นนี้ ทำให้นางคาดเดาไม่ถูกว่าเขามีเรื่องสำคัญใดจึงอยากพบนาง

“ที่ใดเจ้าคะ”

“ที่เรือนขอรับ”

“ได้เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”

“คุณหนูเหยา ข้าน้อยขอเสียมารยาท ท่านควรล้างมือล้างไม้สักหน่อยก่อนพบซื่อจื่อ” จินเฟยกล่าว

“จริงด้วย ถ้าเช่นนั้นอีกครึ่งชั่วยามข้าจะไปพบเขา” นางยังอยู่ในชุดทำงานที่ไม่ได้อาบน้ำมาสองวันแล้ว เนื้อตัวหรือนิ้วมือมีแต่หมึกดำ สภาพเช่นนี้ไม่เรียบร้อยอย่างยิ่ง

“ขอรับ” จินเฟยล่าถอยไป เหยาอี้เหยาเร่งฝีเท้าเพื่อกลับเรือน นางต้องรีบเพื่อให้ทันเวลา

“จางลี่ เตรียมชุดให้ข้าที ข้าจะไปอาบน้ำก่อน” นางปลดเข็มขัด แขวนเสื้อคลุมไว้ที่ไม้แขวน

“ไม่รอน้ำร้อนหรือเจ้าคะ”

“ไม่มีเวลาแล้ว” น้ำเย็นจากถังถูกเทลงไป นางตักราดใส่ตัวพร้อมกับกลั้นใจไปด้วย หลังชำระร่างกายให้สะอาดแล้ว นางก็รีบเช็ดตัวสวมใส่เสื้อผ้าโดยลืมดูไปว่าวันนี้จางลี่เตรียมชุดให้นางงดงามเกินไป แต่จะเปลี่ยนชุดก็ไม่ทันเสียแล้ว

“วันหลังไม่เอาชุดแบบนี้แล้วนะ” นางอยากสวมชุดเรียบๆ ไปพบฉู่ซีเย่มากกว่า เขาจะได้ไม่คิดว่านางพยายามเข้าหาเข้าในแง่นั้น

“ทำไมละเจ้าคะ” จางลี่ช่วยนายตนเองเช็ดผมให้แห้งหมาดๆ “แต่งกายเช่นนี้ท่านจะได้น่ารักน่าเอ็นดูขึ้น”

“ข้าไม่ต้องการดูน่ารักน่าเอ็นดู” เหยาอี้เหยาปฏิเสธการใส่เครื่องหอมบนผม “เท่านี้พอแล้ว ไม่ต้องใส่เครื่องหอมให้ข้า”

“ได้เจ้าค่ะ” จางลี่เก็บน้ำมันเครื่องหอมตามที่เหยาอี้เหยาต้องการ ก่อนจะจุดโคมเพื่อนำทางนายของตนไปยังเรือนของฉู่ซื่อจื่อ

เรือนของฉู่ซีเย่อีกอีกด้านของจวน ตัวเรือนใหญ่รองลงมาจากเรือนของฉู่อ๋อง จินเฟยยืนอยู่หน้าจวนคอยต้อนรับนาง

“เจ้าคอยอยู่ข้างนอกก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จธุระแล้วข้าจะออกมา” เหยาอี้เหยาบอกจางลี่ นางยกชายผ้าขึ้นขณะก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปยังเรือนของฉู่ซีเย่ รอยเท้าของนางทิ้งร่องรอยไว้บนพื้น

เรือนด้านในของฉู่ซีเย่จุดเตาไฟให้ความอบอุ่นน้อยกว่าเรือนของนาง แต่อุณหภูมิโดยรอบกลับอุ่นอย่างยิ่ง เหยาอี้เหยารู้ว่าฉู่ซีเย่อยู่ห่างไม่มากแล้ว เมื่อสัมผัสได้ถึงกระแสอุ่นๆ ที่นางเคยรู้สึกเมื่อตอนอยู่ใกล้เขา นางหยุดเท้าเมื่อถึงประตู

“ซื่อจื่อ ข้าน้อยมาแล้วเจ้าค่ะ”

เสียงของฉู่ซีเย่ดังออกมาจากด้านใน “เข้ามา”

“เจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยาเปิดประตูเข้าไป ฉู่ซีเย่นั่งอยู่บนตั่งนุ่ม เบื้องหน้าของเขามีเตาไฟที่กำลังมอด สุราอุ่นอยู่ในกาสีเทา จอกเหล้าสองจอดบ่งบอกว่าเมื่อครู่ฉู่ซีเย่ได้นั่งดื่มกับคนผู้หนึ่ง

“พี่ชายข้า” ฉู่ซีเย่บอก ก่อนหน้านี่เขาได้นั่งดื่มสุราอยู่กับฉู่ซีห่าว แต่กลับไปแล้ว

“อ่อ เจ้าค่ะ” นางเอ่ยถามถึงธุระที่เขาเรียกนางมาพบ “จินเฟยบอกว่าท่านมีธุระจึงอยากพบข้าน้อย”

“ไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใด เพียงแต่มีจดหมายมาถึงเจ้า” ฉู่ซีเย่นำจดหมายออกมา ทั้งช่วงก่อนหน้านี้หรือตอนนี้ เขาให้คนคอยรับจดหมายแทนนางมาตลอด เผื่อว่าหย่งสวินอาจจะส่งจดหมายโดยตรงถึงนาง แต่อีกฝ่ายน่าจะคาดเดาได้ว่าฉู่ซีเย่ให้คนดักจดหมาย จึงไม่เคยส่งมา หากมีเรื่องใดๆ จะผ่านลู่หมิงตลอด

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” เหยาอี้เหยารับจดหมายจากพี่ชายมา นางค่อนข้างมั่นใจว่าฉู่ซีเย่ได้อ่านจดหมายก่อนแล้ว หลังเห็นว่าไม่มีเรื่องใดๆ จึงมอบต่อให้นาง

“ไม่อ่านหน่อยรึ”

“ข้าน้อยจะกลับไปอ่านที่เรือนเจ้าค่ะ” นางเตรียมตัวกลับแล้ว “หากท่านไม่มีเรื่องใดแล้ว เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวก่อน”

“ข้ามีอีกเรื่อง” ฉู่ซีเย่รินสุรา สายตามองนางที่สวมชุดสีชมพูอ่อน กลิ่นหอมหลังอาบน้ำใหม่ๆ ของนางให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนเขาประหลาดใจ “เหยาอี้ร่างเขียนมาว่าใกล้จะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพแล้ว คาดว่าเป็นฝีมือของไท่จื่อเพื่อส่งสัญญาณถึงเจ้า”

เหยาอี้เหยาคิดไม่ผิด ฉู่ซีเย่อ่านจดหมายก่อนนางแล้วจริงๆ

“ความจริงท่านพี่ควรจะได้เลื่อนตำแหน่งนานแล้ว หากไม่ติดว่าต้องรับเคราะห์แทนข้า” เพื่อไม่ให้ชาวแดนเหนือขุ่นข้องหมองใจ สามสี่ปีมานี้สกุลเหยาได้รับการปฏิบัติไม่เป็นธรรมมาตลอด

“ข้าไม่สนเรื่องนั้น สิ่งที่ข้าสนใจคือหลังจากนี้” ฉู่ซีเย่ดื่มสุรา “อีกไม่กี่วันพี่ชายข้าจะขึ้นรับตำแหน่งแล้ว แน่นอนว่าด้วยนิสัยของไท่จื่อแล้วคงไม่ยอมอยู่เฉย ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนนี้ เขาต้องมอบหมายงานให้เจ้าทำแน่”

“ไท่จื่อกำลังจับตาข้าน้อยอยู่ ข้าน้อยเกรงว่าครั้งนี้อาจจะทำตามสิ่งที่ท่านต้องการไม่ได้” นับตั้งแต่เดือนก่อนที่นางขัดคำสั่งไท่จื่อ ลู่หมิงก็สอดแนมนางบ่อยขึ้น อีกทั้งการมอบยศเลื่อนตำแหน่งให้ท่านพี่ในครั้งนี้ คือการออกปากเตือนกลายๆ ว่าถ้านางไม่ทำตามในสิ่งที่ไท่จื่อสั่ง คนที่ต้องรับเคราะห์คือเหยาอี้ร่าง

พี่ชายดีกับนางเหลือเกิน นางไม่อยากทำให้เขาต้องมารับเคราะห์ในเรื่องนี้

“เจ้าจะทำยังไงก็ได้ แต่...พี่ชายข้าต้องได้ขึ้นเป็นเจ้าเมือง”

“แล้วถ้าหากสิ่งที่ไท่จื่อต้องการคือการขัดขวางแม่ทัพฉู่ขึ้นเป็นเจ้าเมืองเล่า” ย่อมต้องเป็นเรื่องนี้ไม่ผิดแน่ ไม่เช่นนั้นฉู่ซีเย่คงไม่เรียกนางมาขู่

“เจ้ากล้าขัดขวางหรือ” คำถามนั้นเรียบๆ แต่สายตาของฉู่ซีเย่เย็นชา

“ท่านอยากให้แม่ทัพฉู่ได้เป็นเจ้าเมือง ข้าน้อยก็อยากให้ท่านพี่ได้เป็นแม่ทัพ” นางพูดออกไปด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคง ด้วยรู้ตัวดีว่าสถานะและสถานการณ์ตอนนี้ นางไม่สามารถเลือกได้

“เจ้ามีสิทธิคิดหรือต้องการเช่นนั้น แต่ปล่อยให้มันเป็นเพียงความคิดเพ้อฝันเถอะ ไม่เช่นนั้นมันอาจจะทำร้ายเจ้าได้” กระแสอำมหิตสายหนึ่งจากนัยน์ตาฉู่ซีเย่ส่งถึงนาง

เหยาอี้เหยาเม้มปาก ไม่สามารถตอบโต้หรือทำอันใดได้ นอกจากทำตามคำสั่งของฉู่ซีเย่ไปก่อน

การคาดเดาของฉู่ซีเย่ไม่ผิดพลาด วันต่อมาลู่หมิงมาบอกนางว่าไท่จื่อหย่งสวินต้องการพบนาง แต่ยามนี้คนของฉู่ซีเย่อยู่รายล้อมตัวนาง นางจึงไม่สามารถไปพบพระองค์ได้ จึงได้สื่อสารกันผ่านจดหมาย คำสั่งง่ายๆ เพียงหนึ่งบรรทัด

‘ขัดขวางฉู่ซีห่าว’

คืนนั้นเหยาอี้เหยานอนไม่หลับ นางลุกขึ้นมาอ่านจดหมายของพี่ชายอีกรอบ เนื้อความในจดหมายของพี่ชายเต็มไปด้วยความเป็นห่วงนาง พร้อมทั้งถามไถ่ว่านางเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนการเลื่อนตำแหน่งเขาพูดถึงเพราะต้องการบอกนางว่าอีกไม่นานเขาจะมีอำนาจมากพอเพื่อปกป้องนางแล้ว อีกทั้งท่าทีของสกุลหลิวเมื่อทราบว่าเขาจะได้เลื่อนตำแหน่งก็มีท่าทีดีขึ้น ไม่ยกเลิกการหมั้นหมายแล้ว

แต่ถ้านางขัดขวางฉู่ซีห่าวไม่สำเร็จ ท่านพี่นางไม่มีทางได้เลื่อนตำแหน่งหรือแต่งงานแน่ นอนจากนี้นางยังขาดยาไม่ได้ แล้วอีกสองวันนางต้องกินยาแล้ว แต่ไท่จื่อคงไม่มอบให้หากนางทำงานไม่สำเร็จ

เหยาอี้เหยาคิดไม่ตก นางรู้ว่าตอนนี้กำลังถูกต้อนจนมุมแล้ว นางไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งฉู่ซีเย่และไม่มีความสามารถมากพอที่จะขัดขวางไม่ให้ฉู่ซีห่าวรับตำแหน่ง

นางพึ่งจะเก้าขวบ นางจะทำถึงขั้นนั้นได้อย่างไรกัน

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางรู้สึกว่าตนเองมืดแปดด้าน ไม่สามารถคิดหาหนทางใดๆ ต่อไปได้อีก ในตอนที่นางกำลังเคร่งเครียด องค์หญิงหย่งเยี่ยนที่นางคอยดูแลส่งมอบของใช้และอาหารการกินก่อนหน้านี้ได้ให้คนส่งจดหมายลับๆ มาที่กรมสำมโนครัว นางเปิดอ่านด้วยความสงสัยว่าจดหมายฉบับนี้ผ่านฉู่ซีเย่มาได้อย่างไร

‘มาหาข้าหน่อย ข้าอยากเจอเจ้า’

เหยาอี้เหยาเหมือนได้ค้นพบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ นางไม่รอช้ารีบออกไปจากด้านหลังกรมเพื่อมุ่งหน้าไปยังตรอกขวา นางไม่รู้ว่าองค์หญิงเรียกนางทำไม แต่พระองค์คือไพ่ในมือที่ฉู่ซีเย่ไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีอยู่

“จางลี่ ถ้าลู่หมิงมารู้นะว่าต้องทำยังไง” จางลี่รับคำ หลังๆ มานี่นางต้องเอาตัวรอดเช่นกัน และการอยู่กับเหยาอี้เหยาคือทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่ง

ตรอกขวาเป็นเช่นที่เคยเป็น ยังคงเต็มไปด้วยเรื่องราวด้านมืดที่ไม่น่าเข้าใกล้ จนเหยาอี้เหยาเองก็ไม่ค่อยรู้สึกไม่อยากมา แล้วองค์หญิงที่อาศัยหลบซ่อนอยู่ในตรอกมานับเดือนเช่นนี้ จะทนได้อย่างไร

“องค์หญิง ทรงเรียกข้าน้อยมามีอะไรจะรับสั่งหรือเพคะ”

“นั่งก่อนสิ ข้ามีเรื่องจะขอให้เจ้าช่วย”

หย่งเยี่ยนพักฟื้นมานับปีจนร่างกายเกือบหายดีแล้ว ก่อนหน้านี้พระองค์เป็นองค์หญิงที่เย่อหยิ่งและดื้อรั้น ครั้นถูกฝ่าบาทสั่งให้มาสมรสกับฉู่ซีเย่นางก็ไม่ต้องการ จึงทำตัวเหลวแหลกสารพัดกับซานตี๋จนตั้งครรภ์ ทว่าถึงขั้นนั้นฝ่าบาทก็ยังส่งนางมาสมรสกับฉู่ซีเย่อยู่ดี นางจึงหลบหนี แล้วกลับไปหาเขาที่นางรักที่สุด

แต่ความจริงไม่สวยงามอย่างที่คิด นางลำบากลำบนอยู่ในเรือนผุพังกับซานตี๋ที่คิดว่ารักนาง ในตอนนั้นเองที่เสด็จพี่อย่างหย่งสวินมาพบนาง เพื่อพากลับมาสมรสกับฉู่ซีเย่ ซึ่งไม่รู้ว่าผีตนใดเข้าสิงนาง ทำให้นางปฏิเสธที่จะสมรสกับซื่อจื่อแดนเหนือ เสด็จพี่จึงให้คนกรอกยาพิษให้นางกิน ส่วนบุรุษที่บอกว่ารักนางนักหนา กลับหนีเอาตัวรอดอย่างรวดเร็ว...

หย่งเยี่ยนคิดว่าจะตายเสียแล้ว แต่คนของฉู่ซีเย่มาช่วยนางก่อน วิชาแพทย์ของสกุลฉู่ยอดเยี่ยมเหนือสามัญ นางจึงรอดพ้นความตายมาได้โดยสูญเสียทารกในครรภ์ไป

วินาทีที่นางฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าฉู่ซีเย่มีรูปโฉมเหนือกว่าคนทั้งหมดที่นางเคยพานพบมา นางถึงกลับอยากจะกลับไปตบหน้าตนเองเพื่อเรียกสติว่ากล้าดียังไงถึงได้ปฏิเสธการสมรสกับคนเช่นเขา แต่อนาคตยังมีอยู่ นางต้องทะนุถนอมชีวิตใหม่ให้ดี

ใครที่ช่วยเหลือนางไว้ นางจะตอบแทนอย่างดีที่สุด...

“ข้าอยากให้เจ้าส่งจดหมายให้เสด็จพ่อหน่อย แบบนั้นข้าคงพอจะช่วยเจ้าได้”

“องค์หญิง ข้าน้อยเกรงว่าด้วยความสามารถของข้าน้อย คงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้” การลักลอบส่งจดหมายขององค์หญิงไม่ได้เสี่ยงแค่จะทำให้ฉู่ซีเย่เกิดโทสะ แต่ยังเสี่ยงจะกระตุ้นให้ไท่จื่ออยากฆ่านางเร็วขึ้นเพื่อปิดปาก

“เจ้าไม่มีแผนการอะไรเลยรึ ไหนว่าต้องขัดขวางไม่ให้แม่ทัพฉู่ขึ้นรับตำแหน่ง”

“ที่จริงก็มีอยู่” เหยาอี้เหยาคิดและพูดอย่างระมัดระวัง “องค์หญิง อีกสองวันจะเป็นวันแต่งตั้งเจ้าเมืองโจวอี้ ท่านกล้าเสี่ยงปรากฏตัวต่อสาธารณชนในวันนั้นหรือไม่เจ้าคะ ข้าน้อยรับรองว่าไม่ว่าจะเป็นฉู่ซื่อจื่อหรือไท่จื่อ ก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องท่านอีกแน่”

เหยาอี้เหยาได้เลือกแล้วว่านางจะขัดขวางการขึ้นรับตำแหน่งของฉู่ซีห่าว เพื่อให้พี่ชายได้รับตำแหน่งแม่ทัพ ส่วนนางจะเป็นอย่างไรต่อจากนั้น ค่อยคิดก็แล้วกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status