Share

ตอนที่3 จอมยุทธ์

last update Last Updated: 2025-04-07 11:05:44

สามวันผ่านไป

เสี่ยวหนี่ที่นั่งอยู่บนแท่นนอนมองรอบๆ บริเวณหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาเสี่ยวอี้นั่งโบกพัดไปมา นี่ฉันคงอ่านนิยายจีนมากไปใช่ไหม หลุดเข้ามาในซีรีส์จีนสินะตายแล้วเรื่องอะไรดังหรือเปล่านี่ ไม่มีหน้าต่างระบบคอยให้เควสหรอกหรอ 

“คุณหนูรองเจ้าขา อย่าเพิ่งลุกเจ้าค่ะ” น่านไงคุณหนูรอง เจ้าคะเจ้าขาพูดซะเพราะเลย เป็นคุณหนูรองสินะทำไมไม่เป็นคุณหนูสามจะได้พูดได้ว่าข้านี่แหละคุณหนูสามฮ่าาาา 

“บัณทิตย่อมมีมือมีตีน (ไม่เป็นไรฉันลุกเองได้) ” อย่ามาลองภูมิแหมภาษาจีนนี่คล่องเคยดูมาเยอะ

เสี่ยวอี้รีบเข้ามาพยุง ฮูหยินใหญ่จี้เหยากับจี้เหวินเข้ามาในห้องท่าทีหยิ่งผยองเชิดหน้าเบ้ปากชัดเจนว่าตั้งใจมาหาเรื่องต่อ เสี่ยวหนี่จ้องมองอ้าปากค้างยิ่งตอกย้ำว่านี่คือซีรีส์จีน สองสาวแต่งกายพีเรียดจีนขนาดนี้ นี่ไม่ใช่อโยธยาเป็นแน่แท้

“เหอะยังไม่หายใช่ไหม” จี้เหยาเบ้ปาก

“เป็นท่านเองนับถือมานาน (อีเ-ี้ยนี่ใคร) ” อดไม่ได้ยิ้มอย่างภูมิใจที่จำคำพูดแบบจอมยุทธ์ได้แม่นยำ ฮูหยินใหญ่จี้เหยาส่ายหน้าไปมากับคำพูดของเสี่ยวหนี่

“เป็นอย่างไร เห็นๆ อยู่ว่าเอาใจท่านพ่อจนพวกเราเข้าไม่ถึง วันนี้กลับมาทำทีลุกไม่ไหว เฮอะ” จี้เหยาฮูหยินใหญ่พูดขึ้นเมื่อเข้ามาในห้อง

“ขี้เสือกแท้วะ”

“เจ้าพูดอะไรของเจ้าน่ะ”

“โอ้ข้าหมายถึง หูตาท่านกว้างไกลยิ่งนัก นับถือ นับถือ”

เสี่ยวหนี่ยิ้มแป้นอย่างเป็นมิตร จี้เหวินเอามือป้องปากกระซิบกระซาบข้างหูจี้เหยา

“ท่านแม่ข้าว่าเสี่ยวหนี่นางเพี้ยนไปแล้ว คงโดนตีจนสมองเลอะเลือน ท่าทางรอยยิ้มนางอย่างกับคนโง่ ก่อนนั้นนางวางตัวนิ่งเฉยราวกับนางหงส์มาบัดนี้นางกลับพูดจาไร้แก่นสาร” 

เสี่ยวหนี่มายืนตะแคงหูฟังสองคนแม่ลูกกระซิบกระซาบกันได้ยินชัดแจ้งโดยเฉพาะคำด่า อ้าวอินี่ คนอุตส่าห์ยิ้มให้วอนนักนะ เสี่ยวหนี่หุบยิ้มฉับเชิดหน้ามองต่ำทันที ขยับตัวถอยหลังไปข้างๆ เสี่ยวอี้ป้องปากกระซิบกระซาบบ้าง

“เรียนถามคนผู้นั้นคือใคร”

“ห๊ะ? อะไรนะคะคุณหนูรอง “

” ลำบากท่านแล้วข้าน้อยถามท่านว่า สองตัวประหลาดนั้นมีนามว่าอย่างไร “

“คุณหนูรองเจ้าขานั้นคือฮูหยินใหญ่กับคุณหนูใหญ่ จี้เหยากับจี้เหวิน นี่คุณหนูจำไม่ได้แล้วหรือเจ้าคะ”

เสี่ยวอี้กระซิบตอบอย่างซื่อๆ 

“อ๋อสองแม่ลูกตระกูลจี่ จี่หอยนี่เองพีสะเดิดก็มา” จี้เหยาขมวดคิ้วตวาดทันที

“บังอาจมากระซิบกระซาบอะไรกัน นี่เจ้าไม่เกรงใจข้าเลยหรือไรกล้านินทาซึ่งหน้า” ข้าวนึ่งถอนหายใจ

“มิกล้ามิกล้า (ก็มาดิคร้าบบ) เมื่อครู่ท่านยังกระซิบกันนินทาข้า “ซีรีส์เรื่องนี้ชื่อเรื่องว่าอะไรนะ จะต้องสนุกแน่ๆ เพราะมีข้าวนึ่งเป็นนักแสดง

“ท่านแม่ข้าว่านางบ้าไปแล้วแน่ๆ”

“มิมีผู้ใดอาจหาญเทียบเคียงมารดาท่านแล้ว (ไม่มีใครเก่งเท่าแม่มึงแล้ว) ”

ง “นี่เจ้าบังอาจ!”

“บังอาจคือผู้ใด ที่นี่มีบังอาจมาขายโรตีด้วยหรือ” 

“คงจะพูดกับนางไม่รู้เรื่องแล้วแบบนี้ “

” เสี้ยวอี้ส่งแขก! ข้าไม่ส่งแล้วนะ (มึงกลับบ้านมึงไปเลย) ” 

นับตั้งแต่วันนั้นสองแม่ลูกตระกูลจี๋หอยก็ไม่เคยแวะเวียนมาสร้างความรำคาญใจ เสี่ยวหนี่หรือข้าวนึ่งของเราก็ใช้ชีวิตในตระกูลโจวอย่างมีความสุข

จบบริบูรณ์…

ขอได้รับคำขอบคุณ จันทร์ส่องแสง…

.

.

เดือนเมษายนปีถังเจี้ยนที่24

ขบวนเสด็จประพาสเดินทางถึงเมืองหนานจิงเพื่อล่าสัตว์ หยางลี่ฮ่องเต้ในอาภรณ์สีดำสนิท ใบหน้าหล่อเหลาราวกับภาพวาดของจิตรกรเอกแห่งยุค ท่าทียิ่งองอาจทว่าใบหน้าซูบผอมอิดโรยแต่ก็ยังหล่อเหลาคมคายหาผู้ใดเทียบเคียงได้ แม้จะดูหม่นหมองลงไปบ้างแต่สีหน้าท่าทางยังคงองอาจโดดเด่นกว่าใครๆ 

“พวกเจ้าทั้งหมดตามอารักขาฝ่าบาท” 

หัวหน้าองครักษ์ตงเจี้ยน รูปงามหนึ่งในสามขององครักษ์เสื้อแพรและเกราะทองที่ล้วนมีใบหน้าหล่อเหลาไม่ต่างกันผิดแต่ตงเจี้ยนจะโดดเด่นเกินหนึ่งในสามหากจัดอันดับแล้วตงเจี้ยนย่อมเป็นที่หนึ่ง เพียงแต่วันนี้ตงเจี้ยนสวมอาภรณ์ในสีทึมทึบตะโกนดังๆ ให้เหล่าองครักษ์มากฝีมือที่ตามเสด็จประภาสป่าในครั้งนี้จัดขบวนตามเสด็จ หยางลี่โบกมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจ

“ไม่ต้องมากพิธี แค่สองสามคนไม่ต้องมากความ” ขันทีกวงซุนส่ายหน้าไปมา

กวงซุนชักม้าตามไปห่างๆ

“ฝ่าบาท ทรงแน่ใจหรือว่าอยากชิมเนื้อไก่ป่า”

ขันทีข้างกายนามกวงซุนเอ่ยปากเบาๆ เมื่อชักม้าเทียบข้างหยางลี่

“ก่อนหน้านั้นข้ากินเนื้อไก่ป่าย่างกับพริกเสฉวน (จะกล่าวถึงวิธีการปรุงในตอนต่อๆ ไป) รสชาติดีไม่น้อย” ขันทีกวงซุนยิ้ม

“เช่นนั้นกระหม่อมให้คนเตรียมพริกเสฉวนชั้นดีจากเป่ยจิง ดีไหมพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้อง ไม่รู้ว่าจะเจอไก่ป่าหรือไม่” ถอนหายใจ

“ฝ่าบาทก็ทรงให้ทหารทั้งกองร้อยที่มาด้วย มายิงไก่ป่าไปถวาย” หยางลี่ส่ายหน้าไปมา

“แล้วข้าจะสำราญหรือ ล่าเอง กินเอง จึงเรียกว่าสำราญ” ควบม้าพุ่งตัวออกจากตรงนั้นองครักษ์ไล่ตามแทบไม่ทัน 

เกือบสิบลี้จากกระโจมที่พัก เนินหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตาเบื้องหน้านั้นมีเพียงทุ่งดอกไม้สีสวยแต่กลับไร้ซึ่งกระต่ายป่าเลาะเล็มหญ้าสีเขียวเหมือนที่ตั้งใจไว้

“ฝ่าบาท กระต่ายป่าคงมาจะมายามค่ำคืนพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นก็ควรมีกวางป่า นกหรือไก่ป่าบ้างสิ”

“นั่นสิพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีเงยหน้ามองดวงอาทิตย์บอกเวลาเที่ยงเสียงท้องร้องจ้อกแจ้ก

“ข้าเหนื่อยแล้ว เราควรจะพักที่นี่”

“ฝ่าบาทด้านล่างนั่นมีธารน้ำไหลผ่าน ไปพักที่นั่นดีไหม” 

ขันทีกวงซุนชี้มือลงไปที่ด้านล่างเนินเขา หยางลี่พยักหน้าขึ้นลงควบม้าลงไปด้านล่างเนินเขา กระโดดลงจากหลังม้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่150คืนเข้าหอ

    ในห้องที่เต็มไปด้วยความหรูหราและอบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้สด ผ้าม่านสีทองยาวสลวยตกลงมาจากเพดานจนถึงพื้น ปูพื้นด้วยพรมแดงเนื้อนุ่ม นั่งอยู่บนแท่นนอนอันใหญ่โต หยางชินอวี้ในชุดอาภรณ์สีทองที่สวมใส่ในพิธีแต่งตั้งสนมอันดับหนึ่งของพระองค์ ดูสง่างามอย่างที่สุด แต่ภายใต้สีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงบและความสง่างามนั้น กลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวลที่ไม่สามารถปิดบังได้“ฝ่าบาทกำลังจะมาถึงแล้วเพคะ” เสียงนางกำนัลคนหนึ่งบอกดังๆ ออกมาจากนอกห้องหอสีแดงมีริ้วผ้าสีแดงมงคลในห้องที่เต็มไปด้วยความหรูหราและอบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้สด ผ้าม่านสีแดงสลวยตกลงมาจากเพดานจนถึงพื้น ปูพื้นด้วยพรมแดงเนื้อนุ่ม หยางชินอวี้ค่อยๆ นั่งลงบนแท่นนอนกว้าง มองผ่านผ้าแดงคลุมหน้าไปรอบๆ เฝ้ารอการมาของเจ้าบ่าวหรือหยางลี่เวลาผ่านไปนานอย่างไม่เคยมีมาก่อน แม้ว่าหยางชินอวี้จะได้ยินเสียงฝีเท้าของขันทีหรือใครก็แล้วแต่ด้านนอกแต่หยางลี่ก็ยังไม่มา ไม่ใช่เสียงฝีเท้าของหยางลี่หยางชินอวี้ขยับตัวบนแท่นนอน มือกำผ้าคลุมเตียงแน่นจนกลายเป็นสีขาวซีด เรียวแขนสั่นเล็กน้อย หยางชินอวี้นั่งนิ่งทั้งที่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ร้าวลึกลงไปในหัวใจ ความรู้สึกข

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่149รักมั่นหนึ่งเดียว

    เสียงเปิดประตูดังขึ้น ขันทีกวงซุนเดินเข้ามาพร้อมกับหยางชินอวี้ที่ถือบัวลอยน้ำขิงเข้ามาในห้อง ดวงตาของหยางชินอวี้ส่องแสงสดใสเหมือนต้องการแสดงความห่วงใย“ฝ่าบาท ข้าทำบัวลอยน้ำขิงมาให้ลองชิมดูหน่อยดีไหมเพคะ” เสียงของหยางชินอวี้ดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ แสนหวานหยางลี่เหลือบตามองมาที่หยางชินอวี้ แต่ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกที่พยายามยับยั้งไว้ได้ บนใบหน้าของหยางลี่มีเพียงสีหน้าเรียบเฉย พยายามไม่ให้ความโกรธที่มีในใจแสดงออกมาหยางลี่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างนิ่งเฉยไร้อารมณ์“กวงซุน ข้าไม่ได้เรียกให้ใครยกของหวานเข้ามา พานางออกไป”ขันทีกวงซุนที่ยืนอยู่ข้างๆ รับรู้ถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดระหว่างสองคน จึงรีบพูดขึ้นด้วยความเกรงกลัว “คุณหนูหยาง โปรดทำตามที่ฝ่าบาท...”หยางชินอวี้ไม่ได้สนใจคำพูดแต่เดินเข้าใกล้โต๊ะหยางลี่ มองเห็นจดหมายที่วางอยู่ใกล้ๆ มือของหยางลี่ รอยยิ้มในดวงตาของหยางชินอวี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป“ฝ่าบาท... ดูสิเพคะ... ข้าคิดว่าฝ่าบาทคงชอบนะเพคะของหวานยามค่ำที่ฝ่าบาทเคยชอบ” หยางชินอวี้พยายามพูดด้วยเสียงที่อ่อนหวานอีกครั้ง หยางลี่มองหยางชินอวี้ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกด้วยเสียงที่ค่อน

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่148ความคิดถึงล่องลอย

    ท่ามกลางความเงียบสงบในห้อง อวี่หรงยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะของหยางลี่ อวี่หรงมองมองหยางลี่ที่กำลังพิจารณาจดหมายจากเสี่ยวหนี่ที่เขานำกลับมาจากเมืองโจวแต่ยังไม่ยอมเปิดออกดู มันเหมือนกับการเฝ้าดูการพบปะระหว่างความคิดถึงและความเศร้าโศกที่ซ่อนไว้ลึกภายในของทั้งสองอวี่หรงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มๆ"เสี่ยวหนี่ตอนนี้นางกลายเป็นเฒ่าแก่เนี๊ยะไปเสียแล้ว นางอะนะทำทุกอย่างเพื่อตระกูลโจวและกำลังไปได้สวยทีเดียว นางยังฝากคำพูดให้ข้ามาพูดกับฝ่าบาท… ขอให้ฝ่าบาท...มีความสุขกับชีวิต…'"คำพูดที่ออกมาจากปากของอวี่หรงทำให้หยางลี่เงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาทอแสงเศร้าราวกับแสงไฟที่เริ่มริบหรี่ จ้องไปที่จดหมายในมือของตัวเอง ท่ามกลางความเงียบที่แผ่ไปรอบๆ หยางลี่ยิ้มออกมา... แต่เป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้า เหมือนกับการทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้ข้างหลังอวี่หรงมองไปยังหยางลี่ด้วยแววตาที่เข้าใจ ก่อนจะพูดต่อไป"อาจจะเพราะเสี่ยวหนี่กลัวว่า...ฝ่าบาทจะรอไม่ไหวนางจึงพูดแบบนี้ การที่จะฟื้นฟูบ้านโจวให้รุ่งเรืองเหมือนครั้งที่บิดานางยังไม่ล้มป่วย มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากสำหรับสตรีตัวเล็กๆ อย่างเสี่ยวหนี่ แต่นางก็พ

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่147 ส่งความคิดถึง

    ไทเฮาจากไปแล้วตงเจี้ยนขยับตัวอีกครั้งอย่างผ่อนคลาย“ฝ่าบาท” ตงเจี้ยนเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ระมัดระวัง“ตงเจี้ยนขอถามคำถามสักข้อ... เรื่องการแต่งตั้งหยางชินอวี้เป็นสนมนั้น...ท่านไม่คิดที่จะคัดค้านหรือ”หยางลี่เงยหน้าขึ้นจากช้าๆ ตาคมที่เคยแสดงความเย็นชาไม่ได้เผยความรู้สึกใดออกมาแต่ในใจรู้ดีว่าตงเจี้ยนคงจะคิดเรื่องนี้มาตลอด มันเป็นคำถามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะทุกคนรอบๆ กายหยางลี่รู้ว่าเสี่ยวหนี่คือคนที่หยางลี่ใส่ใจมากที่สุด แล้วการที่เขายินยอมในเรื่องนี้อย่างง่ายดายนั้น…“เจ้าคิดว่าข้าควรคัดค้านหรือ คัดค้านแล้วไม่ต้องทำได้หรือ” หยางลี่ถามกลับด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความนิ่งเฉย ตงเจี้ยนทำท่าทางลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดต่อ “ข้าน้อยรู้ดีว่า... ฝ่าบาทมีใจให้เสี่ยวหนี่คนเดียวแต่เหตุใดฝ่าบาทถึงยอมให้หยางชินอวี้ได้ตำแหน่งนี้ไป ทั้งที่มันจะทำให้เสี่ยวหนี่ต้องเจ็บปวดหากนางรู้เข้า...”คำถามของตงเจี้ยนสะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยที่ตงเจี้ยนมีต่อหยางลี่และเสี่ยวหนี่ ความห่วงใยที่ใครๆ ก็พอจะเข้าใจได้ แต่สำหรับหยางลี่แล้วมันก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาระหน้าที่ที่ท่านต้องทำหยางลี่มองไปที่ตงเจี้ยนอย่าง

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่146 ไม่คัดค้าน

    ในตำหนักชิงหลานที่บัดนี้เงียบงันอย่างน่าใจหาย กุ้ยเฟยชวีหยากำมือแน่นเมื่อได้ยินข่าวจากขันทีที่มารายงานเรื่องการแต่งตั้งหยางชินอวี้เป็นสนมอันดับหนึ่งของฝ่าบาท หัวใจหนักอึ้งรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ ทิ้งลงมาทับบนอกทำให้หายใจไม่ออก"อะ…อะไรนะ ทำไมเป็นแบบนี้ ไหนฝ่าบาทเคย…เคยบอกว่าไม่ให้หยางชินอวี้ถวายตัว…" กุ้ยเฟยถามเสียงแหบแห้งแต่ก็ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกได้อีกต่อไป ซบหน้าลงบนฝ่ามือปล่อยให้หยดน้ำตาไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว"หยางชินอวี้...จะขึ้นมาอยู่ในตำแหน่ง…สนมอันดับหนึ่งได้อย่างไร ฮือออออ" น้ำเสียงของชวีหยาสั่นสะท้านเต็มไปด้วยความเจ็บปวดหรูซินยืนอยู่ข้างๆ รีบเขามาโอบกอด ด้วยความสงสารมองกุ้ยเฟยที่ร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของตนอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไร ถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะพูดเสียงนุ่มกับชวีหยา"หยางชินอวี้เพียงแค่สนมที่ไทเฮายัดเยียดให้ฝ่าบาทเท่านั้นเจ้าค่ะ กุ้ยเฟยอย่าได้กังวลไปเสียก่อน"ชวีหยาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นจากฝ่ามือ น้ำตายังคงไหลรินแต่ท่าทีของชวีหยากลับแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย"เจ้าบอกว่าอย่างไรนะ เจ้า...บอกว่าไทเฮาทำให้ฝ่าบาทยอมรับหยางชินอวี้เป็นสนมหรือ" เสียงของชวีหยายังสั่นสะท้าน แต่แววตา

  • ฝ่าบาทอย่าเพึ่งรักข้าแค่กินข้าวให้หมดก่อน!   ตอนที่145อิจฉา

    โรงเตี๊ยมบ้านโจวเสี่ยวหนี่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารในครัวของโรงเตี๊ยมบ้านโจว ความร้อนอบอ้าวจากเตาและกลิ่นเครื่องเทศต่างๆ ทำให้เหงื่อไหลรินจากหน้าผากไปจนถึงคาง แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความมั่นใจและดีใจ ทุกอย่างที่ตั้งใจไว้กำลังสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี“สำเร็จแล้ว!” เสี่ยวหนี่พูดกับตัวเองเบาๆ พร้อมยิ้มออกมาอย่างพอใจในความพยายามที่ผ่านมา เมื่อได้ยินเสียงน้ำเดือดในหม้อเครื่องเทศที่ต้องปรุงรสก็รีบหยิบชามใบใหญ่ขึ้นมารินน้ำซุปใส่ในถ้วย ราดด้วยซอสที่เพิ่งปรุงเสร็จใหม่ๆ ก่อนจะจัดจานออกไปยังโต๊ะลูกค้า ที่กำลังรอคอยความอร่อยอยู่“ยกไปเลยใช่ไหมเจ้าค่ะคุณหนู” เสี่ยวอี้ถาม “ยกไปได้เลยกำลังร้อนๆ หอมๆ โต๊ะริมหน้าต่างทางซ้ายบน”แต่ยังไม่ทันที่เสี่ยวหนี่จะได้พักหายใจหรือทำอะไรเพิ่มเติม เสียงของเหม่ยซูก็ดังขึ้น“เสี่ยวหนี่มีคนอยากจะคุยกับเจ้า” บุรุษสองคนก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เสี่ยวหนี่หันไปมองคนของแคว้นซีเป่ยยืนอยู่ที่ทางเข้าพร้อมกับประสานมือนอบน้อม“คุณหนูเสี่ยวหนี่... ข้านำบัญชาของไท่จือโจวชัวมาเพื่อขอซื้อผงปรุงรสโจวรสเด็ดจำนวนมากขอรับ” ชายคนนั้นพูดเสียงเข้มขรึมแต่ก็มีความสุภาพในตัวเสี่ยวหนี่ตาโตด้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status