Share

15

Auteur: RainyStarSea
last update Dernière mise à jour: 2025-09-21 19:30:43

เสียงเหล่าขุนนางขานรายงานลากยาวราวบทสวดอันซ้ำซาก อวี้เหยียนนั่งบนบัลลังก์มังกร สายพระเนตรเย็นเยียบไล่ไปทีละคน…จนถึงเงาร่างหนึ่งที่นั่งเคียงข้าง ผ้าคลุมไหล่สีเข้มของฮองเฮาอวิ๋นซินเยว่สะท้อนเข้าตาเขาพอดี ดวงตาเธอก้มต่ำ ฟังรายงานอย่างสงบ แต่นิ้วเรียวแอบหมุนกำไลหยกบนข้อมือซ้ายไปมาอย่างเบื่อหน่ายเพียงท่าทางเล็กน้อยนั้น กลับสะกิดของเขายิ่งนัก มุมปากหยักหนายกขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว แต่เพียงแวบเดียวเท่านั้น เขารีบตวัดสานตากลับไปยังขุนนางที่กำลังเถียงกันเรื่องการเก็บภาษีชายแดน หลี่กงกงที่ยืนก้มหน้าอยู่ด้านล่าง มองเห็นแววตานั้นชัดกว่าใคร คนที่นั่งสูงสุดบนบัลลังก์ มังกรยังเป็นมังกร แต่แววตานั้น…ไม่เหมือนเดิม

ฮ่องเต้หนุ่มที่ดึงสติกลับมา ได้ยินเสียงขุนนางหนุ่มฝ่ายบุ๋นดังขึ้นอย่างกล้าหาญเกินวัย

“ทูลฝ่าบาท หากยังเก็บภาษีเช่นนี้ต่อไป ชาวบ้านชายแดนจะอดตายพะย่ะค่ะ”

“เงียบ” พระสุรเสียงดังก้องไปทั่วท้องพระโรงขุนนางหนุ่มหน้าซีดเผือด รีบก้มลงคุกเข่า ทุกสายตาในท้องพระโรงตึงเครียด แต่ละคนไม่กล้าเงยหน้าทั้งห้องเงียบรางกับไร้ผู้คน…ยกเว้นเพียงคู่ดวงตาของผู้ที่นั่งข้างบัลลังก์ อวิ๋นซินเยว่ยังคงก้มพินิจแผ่นคำสั่งที่ถูกส่งมา เธอเอียงคอเล็กน้อย มุมปากเหมือนจะขยับรอยยิ้มบาง ๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาวใด ๆ

อวี้เหยียนที่เผลอมองนางก็รีบดึงสายตาดลับมาอีกครั้ง ดวงตาแข็งกร้าวดังเดิม “คำสั่งเก็บภาษีตามเดิม หากผู้ใดไม่พอใจ…ให้ไปคุกเข่าที่หน้ากำแพงเมืองแทน”

เสียงรับสั่ง “เพคะ/พ่ะย่ะค่ะ” ดังลั่นพร้อมเพรียง ทุกคนต่างก้มหัว ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าอีก แต่ภายในอกของผู้ครองบัลลังก์หัวใจเขาสั่นสะท้านรัวแรง จังหวะไม่เหมือนดังเช่นทุกวัน เขาเกลียดความรู้สึกนี้ ความลังเลที่ไม่ควรเกิดในใจจักรพรรดิผู้มีอำนาจเหนือใครในแผ่นดิน

‘สายตานาง…ทำไมจึงต่างไปนัก’

........

เสียงฝีเท้าขุนนางเดินกลับออกไปทีละก้าว เสียงโลหะของอาวุธทหารเวรเสียดสีกัน แต่สำหรับอวี้เหยียนแล้ว ทุกสิ่งพลันหายไปจากครรลองสายตา เหลือเพียงเสียงในอกที่ดังโครมคราม…และภาพความทรงจำหนึ่งก็ปรากฏในห้วงความคิด

ห้องมืดอับชื้น มีกลิ่นเลือดจาง ๆ ชวนคลื่นเหียน องค์ชายสิบสี่ในวัยเยาว์ ถูกซ่อนตัวในคุกใต้ดินหลังเกมการเมืองพลิกผัน ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาไว้ใจ นางคือนางข้าหลวงที่เคยรับใช้ใกล้ชิดเขาคอยอยู่ดูแลทุกคืนยามฝึกอักษร แต่กลับเป็นคนที่ลอบสังหารเขาเสียเอง

“ข้า…ขอโทษ องค์ชาย” เสียงนางสั่นเครือ น้ำตาอาบแก้ม แต่มือกลับถือกริชแน่น ความเจ็บปวดนั้นไม่ได้มาจากคมมีด หากแต่มาจากรอยยิ้มที่เขาเคยคิดว่าอบอุ่นที่สุด อวี้เหยียนหนีรอดวันนั้นมาได้ เพราะองค์ชายสิบสามโผล่มาช่วยทันเวลา แต่ตั้งแต่วินาทีนั้น…นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย เขาเลือกจะปิดใจตลอดกาล ไม่ว่าผู้หญิงคนใดก็เหมือนกันหมด เจ้าเล่ห์เพทุบาย เข้าหาด้วยผลประโยชน์และจุดมุ่งหมายแอบแฝงทั้งนั้น

“การไว้ใจใคร…ก็เหมือนการยื่นดาบให้เขาหันกลับมาแทงเราเองในสักวันหนึ่ง”

เขาหลับตา สูดลมหายใจลึก เมื่อดวงตาเปิดขึ้นอีกครั้ง แสงแดดยามสายส่องต้องบัลลังก์มังกรและเงาร่างของซินเยว่ายังนั่งอยู่ตรงนั้น เธอเอียงคอถามนางกำนัลข้างกายด้วยเสียงเบา ๆ ด้วยความประหม่า ผุดลุกผุดนั่งราวกับลังเลว่าจะออกไปตอนนี้ดีหรือไม่

ครืน…!

ท้องฟ้าเหนือวังหลวงหม่นลงฉับพลัน เสียงฟ้าร้องสะเทือนกำแพงหินอ่อน ก่อนละอองฝนจะร่วงหล่นโปรยลงสู่ลานพระราชฐาน

ขันทีรีบกางร่มผ้าแพรสีดำเหนือพระเศียรอวี้เหยียน ซินเยว่ก้าวตามข้าง ๆ อย่างเงียบเชียบ ร่มไม้ไผ่สีอ่อนที่นางกำนัลส่งให้อยู่ในมือเธอ

ฝีเท้าจักรพรรดิหนักแน่นดั่งค้อนเหล็กกระทบบนหิน แต่หยดฝนบางสายกลับสาดเฉียงเข้าด้านข้างจนปลายฉลองพระองค์เปียก นางลังเลอนู่ครู่เดียว ก่อนขยับร่มในมือครอบคลุมพระกรนั้นแทน ส่งผลให้มือของเธอเผลอแตะกับแขนที่เปียกชื้นของเขา ความเย็นชื้นของฝนและความอบอุ่นจากฝ่ามือเล็กทำเขาสะดุ้ง อวี้เหยียนหยุดก้าว สายตาคมตวัดมาที่เธอรวดเร็วราวคมดาบ เสียงรอบข้างเหมือนดับสิ้นไป อวิ๋นซินเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนยิ้มบางเบา

“ฝนสาดเพคะ หากเปียกแล้วทรงประชวรขึ้นมา จะให้หม่อมฉันชดใช้ด้วยวิธีใด” ถ้อยคำนั้นแสนธรรมดา…แต่กลับทำเอาใจคนฟังเต้นรัว เพราะไม่มีผู้ใดในวังหลวงแห่งนี้กล้าเอ่ยกับจักรพรรดิในทำนองห่วงใยจริงใจเช่นนี้ อวี้เหยียนมองร่างเล็กที่สูงเพียงอกของเขาที่เงยหน้ามองด้วยแววตาใสกระจ่าง ริมฝีปากเล็กนั่นก็ส่งยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก ช่างต่างกันเหลือเกิน

ขณะที่เขามองฮองเฮาของตนอยู่นั้น ภาพของฮองเฮาในความทรงจำก็ผุดขึ้นมา นางช่างอำมหิตใร้หัวใจ ลงมือสังหารคนก็ทำได้เด็ดขาด เจ้าแผนการเป็นที่สุด แต่ละครั้งยามเขาเผลอมองใบหน้านั้นก็รู้สึกสะอิดสะเอียนเป็นที่สุด ดวงตานั้นบ่งบอกถึงความกระหายในอำนาจ กระหายในตัวเขา ไหนเลยจะมีแววตาใสซื่อเช่นนี้ได้

ร่างสูงเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีก่อน เขาเม้มปากแน่น ก่อนข่มแววตากลับไปเย็นเฉียบดังเดิม พระสุรเสียงเรียบนิ่ง “เจ้าคิดว่าข้าจะอ่อนแอถึงเพียงนั้นหรือ” แต่เมื่อสายตามองกลับไปยังนางอีกครั้ง เขากลับเห็นว่าร่างบางนั้นเองก็เปียกเช่นกันเพราะเอียงร่มเข้าหาเขามากเกินไป

"น่ารำคาญ!" เขาสะบัดชายเสื้อก่อนเดินต่อโดยไม่เอ่ยอะไรอีก ทิ้งให้อวิ๋นซินเยว่ยืนงงอยู่ตรงนั้น

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   15

    เสียงเหล่าขุนนางขานรายงานลากยาวราวบทสวดอันซ้ำซาก อวี้เหยียนนั่งบนบัลลังก์มังกร สายพระเนตรเย็นเยียบไล่ไปทีละคน…จนถึงเงาร่างหนึ่งที่นั่งเคียงข้าง ผ้าคลุมไหล่สีเข้มของฮองเฮาอวิ๋นซินเยว่สะท้อนเข้าตาเขาพอดี ดวงตาเธอก้มต่ำ ฟังรายงานอย่างสงบ แต่นิ้วเรียวแอบหมุนกำไลหยกบนข้อมือซ้ายไปมาอย่างเบื่อหน่ายเพียงท่าทางเล็กน้อยนั้น กลับสะกิดของเขายิ่งนัก มุมปากหยักหนายกขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว แต่เพียงแวบเดียวเท่านั้น เขารีบตวัดสานตากลับไปยังขุนนางที่กำลังเถียงกันเรื่องการเก็บภาษีชายแดน หลี่กงกงที่ยืนก้มหน้าอยู่ด้านล่าง มองเห็นแววตานั้นชัดกว่าใคร คนที่นั่งสูงสุดบนบัลลังก์ มังกรยังเป็นมังกร แต่แววตานั้น…ไม่เหมือนเดิม ฮ่องเต้หนุ่มที่ดึงสติกลับมา ได้ยินเสียงขุนนางหนุ่มฝ่ายบุ๋นดังขึ้นอย่างกล้าหาญเกินวัย “ทูลฝ่าบาท หากยังเก็บภาษีเช่นนี้ต่อไป ชาวบ้านชายแดนจะอดตายพะย่ะค่ะ” “เงียบ” พระสุรเสียงดังก้องไปทั่วท้องพระโรงขุนนางหนุ่มหน้าซีดเผือด รีบก้มลงคุกเข่า ทุกสายตาในท้องพระโรงตึงเครียด แต่ละคนไม่กล้าเงยหน้าทั้งห้องเงียบรางกับไร้ผู้คน…ยกเว้นเพี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   14

    เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังดังระงมรอบลานชมบุปผา “ฮองเฮาเป็นผู้จัดงานจะปฏิเสธความผิดได้อย่างไร!”“สนมขั้นผินถึงกับเกือบสิ้นใจเช่นนี้ มิใช่เรื่องเล็กแล้ว!”หมอหลวงยังคงคุกเข่า รายงานเสียงหนักแน่นว่าเป็นอาการแพ้ดอกไม้ที่ใช้ประดับงานซึ่งทั้งหมดล้วนผ่านมือฮองเฮาจัดการทั้งสิ้นสายตาของเหล่าสนมพุ่งมาที่อวิ๋นซินเยว่ไม่วาง ราวกับเธอเป็นอาชญากรตัวจริง ร่างบางกำมือแน่น หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุอก ไม่ว่าจะคิดทางไหน ก็ไร้ทางรอด…ทันใดนั้น เสียงเล็ก ๆ ดังเจื้อยแจ้วขึ้นในโสตประสาทของเธอ เสี่ยวหลิง![หม่าม๊า…ทุกคนกำลังตัดสินท่านผิดแน่ ๆ แล้วครับ แต่ถ้าหม่าม๊าอยากให้ช่วย เสี่ยวหลิงก็พอมีวิธีขอรับ]อวิ๋นซินเยว่สะดุ้งน้อย ๆ คิ้วขมวดแน่น พลันกระซิบในใจ 'วิธีอะไร'[วิธีที่จะทำให้ท่านหลุดพ้นในวันนี้อย่างปลอดภัย… เสี่ยวหลิงสามารถปล่อยบั๊กข้อมูล ให้หลักฐานทั้งหมดเบี่ยงเบนไปหาคนอื่นได้ แต่ว่ามีข้อแลกเปลี่ยนครับ]'ข้อแลกเปลี่ยนเหรอ'เสี่ยวหลิงเงียบไปชั่วครู่ ก่อนตอบเสียงเบาลง ราวกับตัวเองก็ไม่อยากพูด[หากวันนี้หม่าม๊าใช้วิธีนี้…ท่านจะรอดพ้นก็จริง แต่ระบบจะตัด *เหตุการณ์พิเศษกับฝ่าบาท ที่ควรเกิดขึ้นหลังงานนี้ออกไปขอรับ]

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   13

    เสียงหัวเราะชื่นชมจากบรรดาสนมดังระงมไปทั่วลาน เมื่อ ซูกุ้ยเฟย ยกกลอนที่เพิ่งแต่งเสร็จขึ้นถวายไทเฮา ท่วงทำนองอ่อนหวาน เปรียบดอกโบตั๋นเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ สละสลวยจนแม้แต่ขุนนางฝ่ายในที่นั่งอยู่ด้วยยังพยักหน้ารับ ซูกุ้ยเฟยยกยิ้มบาง ก่อนหันไปทางซินเยว่พลางเอื้อนเอ่ยเสียงใส “กลอนของหม่อมฉันหาได้พิเศษอันใดไม่… ผู้ที่มีความสามารถแท้จริงด้านบทกวีคือฮองเฮาต่างหากเพคะ” ทันใดนั้นสายตาทุกคู่ก็หันมาจับจ้องยัง อวิ๋นซินเยว่ หัวใจเธอกระตุก เพราะตัวเองแต่งกลอนไม่เป็นแม้แต่นิดเดียว! [ติ๊ง! สถานการณ์อันตรายระดับ 95%! หากตอบไม่ได้ = ค่าศักดิ์ศรีฮองเฮาลดฮวบ! ถูกผู้คนหัวเราะเยาะทั้งงาน และไทเฮาจะผิดหวังในตัวท่านมากขอรับ] “เอ่อ…หม่อมฉันกลัวว่า หากแต่งกลอนออกมา…จะไปไม่ถึงครึ่งของกุ้ยเฟยเพคะ” เสียงกระซิบดังระงม หลายคนชะงักนึกว่าฮองเฮาจะถอยหนี แต่เธอกลับหันไปยิ้มกว้างต่อหน้าทุกคน ไทเฮาเลิกพระขนงเล็กน้อย คล้ายสนใจอยากฟัง อวิ๋นซินเยว่สูดหายใจลึก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงใส “ดอกไม้อาจงดงามเพราะฤดูกาล แต่ก็เหี่ยวเฉาไปเพราะฤดูกาลผันผ่านเช่นกัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   12

    และแล้ววันจัดงานชมบุปผาก็มาถึง เสียงกลองเบา ๆ จากเหล่านักดนตรีด้านนอกดังมาเป็นสัญญาณ งานเลี้ยงชมบุปผาที่ทุกคนรอคอยกำลังจะเริ่มขึ้น ภายในตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง นางกำนัลนับสิบต่างรุมล้อม ใส่เสื้อคลุมชั้นแล้วชั้นเล่า สีสันสดใสราวท้องฟ้ายามรุ่งอรุณกับกลีบกุหลาบแรกแย้ม ชุดปักดิ้นเงินลายหงส์สยายปีกโอบล้อมไปทั่วร่าง ผมดำถูกรวบขึ้นอย่างประณีต ประดับปิ่นหยกมรกตระยิบระยับ เมื่อเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายถูกเสียบลง เธอถูกดันให้นั่งต่อหน้ากระจกทองเหลืองบานใหญ่ ภาพสะท้อนเบื้องหน้าทำให้เธอถึงกับตะลึง “นี่…คือข้าจริง ๆ หรือ?” อวิ๋นซินเยว่อ้าปากค้างเล็กน้อย กะพริบตาปริบ ๆ เหมือนมองคนแปลกหน้า ผิวที่ปกติซีดขาวบัดนี้เจือสีแดงนวลอย่างสุขภาพดี ริมฝีปากทาด้วยชาดสีแดงอ่อนดูงามละมุน สายตาที่เคยสดใสราวเด็กสาวกลับกลายเป็นวาววับดั่งหญิงสูงศักดิ์ที่พร้อมจะสะกดทุกสายตาแต่แววซุกซนยังไม่หายไป ทำให้ความสง่างามนั้นยิ่งมีเสน่ห์มากกว่าใคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   11

    ลมฤดูใบไม้ผลิพัดกลีบดอกเหมยปลิวเข้ามาในตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่ท่ามกลางกองบันทึกพิธีและตำรามารยาทสูงเป็นตั้ง ดวงตาคมกวาดมองทีละบรรทัดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม นางพึมพำเบา ๆ “งานชมดอกไม้… มิใช่เพียงเรื่องความงาม หากแต่สะท้อนศักดิ์ศรีของฮองเฮา หากข้าพลาดเพียงนิดเดียว ซูกุ้ยเฟยจะต้องใช้เป็นข้ออ้างโจมตีข้าแน่” ทันใดนั้น แสงสีฟ้าใสสว่างวาบขึ้นกลางอากาศ เสี่ยวหลิง ระบบเอไออัจฉริยะปรากฏร่างจำลองขึ้นมาพร้อมเสียงแจ่มใสที่ตัดกับบรรยากาศตึงเครียด “หม่าม๊า อย่ากังวลไปเลย ข้าได้สแกนบันทึกงานราชพิธีเก่า ๆ ทั้งหมดแล้ว พบว่ามีจุดอ่อนอยู่หลายอย่างที่สามารถพลิกสถานการณ์ให้ท่านได้เปรียบ!” อวิ๋นซินเยว่เงยหน้ามองด้วยสายตาวาบประกายความหวัง “เจ้ามีแผนอะไรหรือ เสี่ยวหลิง?” ภาพเสมือนคล้ายแผนผังสามมิติถูกฉายขึ้นกลางห้อง แสดงการจัดวางตำแหน่งโต๊ะสำรับ น้ำชา ดนตรี และตำแหน่งดอกไม้ในสวน เสี่ยวหลิงเอ่ยเสียงกระตือรือร้น “หากท่านเลือกพันธุ์ดอกไม้ที่ยังไม่เบ่งบานเต็มที่ พอถึงวันงานมันจะผลิบานพร้อมกันพอดี สร้างความประทับใจได้มากกว่าซูกุ้ยเฟยที่มัวแต่เน้นความหรูหราเกินจำเป็น” นางพยักหน้าอย่างครุ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   10

    เสียงฆ้องเบา ๆ ดังขึ้นสามครั้ง ก่อนที่ม่านกำมะหยี่สีแดงขลิบทองในห้องโถงของตำหนักคุนหนิงจะถูกเลิกขึ้นอย่างช้า ๆ แสงแดดยามสายส่องลอดเข้ามาตกต้องกับอาภรณ์สีม่วงทองระยับตา ไทเฮาปรากฏกายอย่างสง่างามเรือนพระเกศาที่ขาวแซมเพียงเล็กน้อยถูกเกล้าอย่างประณีต ประดับปิ่นหยกชั้นสูง สายตาคมกริบของนางกวาดมองเหล่าสนมและพระสนมชั้นสูงที่คุกเข่าลงและนั่งเรียงรายอยู่เบื้องหน้า ทันใดนั้น บรรยากาศทั้งตำหนักอี้คุนก็เหมือนถูกตรึงด้วยไอเย็นแห่งอำนาจของสตรีที่เคยได้ชื่อว่ามีอำนาจที่สุดในวังหลังของจักรพรรดิองค์ก่อนเสียงขันทีขานพระนามกังวานก้อง “ไทเฮาเสด็จ”เหล่าสตรีในวังหลังที่มียศต่ำต่างหมอบลงจนหน้าผากแตะพื้น อวิ๋นซินเยว่เองก็ยืนขึ้นเช่นกัน เพียงประสานมือค้อมตัวลงต่ำอย่างนอบน้อม แต่ในใจกลับรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่กำลังกดทับมาบนบ่าไทเฮา ก้าวลงจากบัลลังก์ย่อม ๆ แท่นสูง เสียงรองเท้าปักมุกกระทบพื้นไม้ดังก้องอย่างสง่างามนางทอดพระเนตรมายังอวิ๋นซินเยว่ ริมฝีปากโค้งเพียงน้อย แต่เต็มไปด้วยนัยลึกล้ำ “ฮองเฮา… อีกเจ็ดวันจะมีงานเลี้ยงชมบุปผา เจ้าคงรู้ดีว่า นี่ไม่ใช่เพียงงานรื่นเริง แต่เป็นงานที่แสดงเกียรติยศและเป็

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status