ไม่รู้ว่าเจ้าคนบ้าคนนั้นจะใช้วิธีการอะไรมาจัดการกับคนในตระกูลฉู่อีกครั้งนี้ นางมิใช่เพียงต้องปรุงยาวิเศษที่สามารถเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาเท่านั้น แต่ยังต้องเตรียมยาถอนพิษไว้ให้ทุกคนด้วยกู้มั่วหลีถนัดการใช้พิษ หากนางกับฉู่จวินสิงเดินทางไปแล้ว กู้มั่วหลีมาวางยาคนในตระกูลฉู่อีก นั่นย่อมเป็นปัญหาเพราะนอกจากนางแล้ว ที่นี่ไม่มีผู้ใดสามารถทำยาแก้พิษได้เจี่ยนอันอันรีบไปยังห้องครัว หยิบเตาหลอมยาสองเตาออกมานางตั้งใจปรุงยาเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาและยาถอนพิษไปพร้อม ๆ กันขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังจดจ่อกับการหลอมยา เหยียนซวงและเหยียนอวี่ก็มาถึงบ้านตคระกูลฉู่เดิมทีทั้งสองตั้งใจจะมาชวนเจี่ยนอันอันไปตลาดเพื่อขายผักด้วยกัน แต่รออยู่นานก็ไม่เห็นนางออกจากลานเรือนเสียทีสุดท้ายสองพี่น้องจึงต้องมาหาเจี่ยนอันอันถึงที่นี่นางอยากเล่าให้เจี่ยนอันอันฟังเกี่ยวกับเรื่องที่นางเจอเสิ่นจือเจิ้งเมื่อวาน หลังจากพวกนางกลับถึงบ้าน เหยียนซวงก็ลงมือก่อไฟทำอาหารตั้งแต่ตอนที่พวกนางอาศัยอยู่ที่อำเภอไถหยาง ได้ซื้อตุนข้าวสารไว้จำนวนหนึ่งซึ่งยังเหลืออยู่เมื่อย้ายมาที่หมู่บ้านชิงสุ่ย เหยียนซวงก็นำข้าวสารเหล่านั้
เมื่อเจี่ยนอันอันเห็นเหยียนซวงและเหยียนอวี่เดินมา จึงยิ้มเล็กน้อยแล้วชี้ไปทางชามด้านข้าง“พวกเจ้าช่วยหยิบชามมาอีกสองใบ”เดิมงานเช่นนี้ให้ฉู่จวินสิงทำก็ได้ แต่บังเอิญสองคนนี้ยืนอยู่ข้างโต๊ะนางจึงให้พวกเขาช่วยเหลือเล็กน้อยเหยียนซวงดีใจยิ่งที่จะได้ทำอะไรเพื่อเจี่ยนอันอันบ้าง นางจึงรีบไปเอาชามสองใบมาให้เจี่ยนอันอันทันทีเหยียนอวี่ก็กำลังคิดจะไปหยิบ แต่ถูกพี่สาวชิงตัดหน้าเสียก่อนเขาจึงชักมือกลับ ยืนอยู่ด้านข้างไม่พูดจา สายตายังคงจับจ้องที่ร่างของเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันรับเอาชามมา พร้อมเอาเตาต้มยามาอยู่ใกล้ แล้วรินยาในนั้นออกมาบอกให้เหยียนซวงนำชามไปวางไว้มุมหนึ่ง รอผึ่งให้เย็นเหยียนซวงกำลังจะรับชามยา ครั้งนี้เหยี่ยนอวี่รีบยื่นมือออกไป ชิงรับไปเสียก่อนมุมปากเหยียดขึ้นเล็กน้อย การได้ทำงานเพื่อเจี่ยนอันอัน เป็นสิ่งที่เขายินดีอย่างยิ่งเหยียนอวี่เดินไปที่ห้องครัว วางชามยาลงที่โต๊ะหินหันกลับมากล่าว “แม่นางเจี่ยน หากมีอะไรให้ข้ารับใช้อีก เชิญสั่งมาได้เลย”เจี่ยนอันอันโบกมือ “ตอนนี้ยังไม่มีสิ่งใดให้ทำ พวกเจ้าไปรอข้าที่เรือนก่อน”เดิมเหยียนอวี่ยังคิดว่าจะได้อยู่รับใช้เจี่ยนอัน
เหยียนซวงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้าจะรีบไปหาเงิน แล้วนำห้าสิบตำลึงชดใช้คืนให้ถังหมิงเซวียน”เจี่ยนอันอันไม่คิดก้าวก่าย เพราะถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเหยียนซวง ปล่อยให้นางจัดการเองจะดีกว่าส่วนพี่ใหญ่นั้น นางย่อมรู้นิสัยของเขาดีพี่ใหญ่ไม่นิยมใกล้ชิดอิสตรี หญิงสาวโดยทั่วไปแทบไม่เคยอยู่ในสายตาเขาเลยเจี่ยนอันอันมองดูใบหน้าแน่วแน่ของเหยียนซวง จึงได้แต่ยิ้มและไม่พูดอะไรอีกเหยียนซวงเป็นคนเถรตรง ว่าไปก็นับว่าถูกชะตากับนางอีกทั้งเหยียนซวงพอรู้วรยุทธ์ เวลาทำงานไม่เคยอิดออด ข้อนี้นับว่าเหนือกว่าเจียงหว่านเอ๋อร์มากนักตอนนี้ก็ดูเพียงว่าเหยียนซวงจะเอาชนะความเย็นชาของพี่ใหญ่ได้หรือไม่?เจี่ยนอันอันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าวันหน้าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ในแง่ไหนส่วนถังหมิงเซวียนนั้น นางกลับคิดว่าเขายังไม่เป็นผู้ใหญ่พอจึงดูไม่คู่ควรกับเหยียนซวงเมื่อนึกถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันจึงได้ถาม “เจ้าคิดจะใช้วิธีใดไปหาเงิน?”นางเป็นห่วงเรื่องนี้มากกว่า เพราะยามนี้เหยียนซวงยังพำนักอยู่ในหมู่บ้านชิงสุ่ยหากนางคิดหาเงินจริง ก็ต้องไปอำเภอไถหยางระยะทางไปกลับค่อนข้างไกลอยู่ ดีที่นางได้ซื้อรถม้าไว้ค
เหยียนอวี่คิดด้วยความตื้นตัน เจี่ยนอันอันช่างดีต่อพวกเขาสองพี่น้องนักหญิงสาวที่ดีเลิศถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงได้แต่งงานเร็วนักนะ?หากมาแต่งงานกับเขาแทน คงจะดีไม่น้อยเจี่ยนอันอันปรายตามองดูเหยียนอวี่ พลางกล่าวสัพยอก “เจ้าอ้าปากกว้างมากกว่านี้ คางคงยื่นถึงพื้นแล้วกระมัง”เหยียนอวี่เพิ่งตั้งสติกลับมา แล้วรีบหุบปากเร็วพลันแต่สายตาที่จ้องมองเจี่ยนอันอันนั้นมีความแน่วแน่มากขึ้นความตั้งใจที่อยากแต่งงานกับนางก็มากขึ้นเป็นทวีคูณยามนี้เขารอเพียงเมื่อใดเจี่ยนอันอันจะมองเห็นความดีของเขา แล้วเลิกรากับฉู่จวินสิง จากนั้นก็มาแต่งงานกับเขาแทนเจี่ยนอันอันไม่รู้ทันความคิดของเหยียนอวี่ แต่หากนางรู้เข้า คงได้หัวเราะจนฟันร่วงแน่เพราะนางเห็นเหยียนอวี่เป็นเพียงอดีตผู้ป่วยคนหนึ่ง ไม่ได้คิดเลยเถิดกับเขาแม้แต่น้อยเหยียนซวงตั้งสติกลับมา พลางรีบขอบคุณเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมาก“อันอัน เจ้าช่างดีต่อข้าและเหยียนอวี่นัก จนข้าไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดี”เหยียนซวงไม่เคยคาดคิดว่า เงินที่หามาได้จะต้องแบ่งหกสี่กับเจี่ยนอันอันนางรู้เพียงหาเงินได้ครบห้าสิบตำลึงเมื่อใด เอาไปคืนให้ถังหมิงเซวียนก็เพียงพอแล้วหลั
เจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “ผ้าพวกนั้นล้วนได้มาจากจวนกั๋วกง”“ท่านพ่อไร้ยางอายของข้าให้ข้าออกเรือนแทนน้องสาว แม้แต่ผ้าสักผืนยังไม่ยอมให้ข้า”“ท่านก็รู้นิสัยข้าดี ผู้ใดดีต่อข้า ข้าจะตอบแทนเป็นร้อยเท่า แต่หากผู้ใดทำไม่ดี ข้าจะเอาคืนเป็นพันเท่าเช่นกัน”“ผ้าเหล่านี้จึงถือเป็นสินสมรสของข้า ในเมื่อท่านพ่อไร้ยางอายไม่ยอมให้ข้าสักผืน ถ้าเช่นนั้นข้าจึงขนมาทั้งหมด”สายตาที่ฉู่จวินสิงมองเจี่ยนอันอัน ยิ่งเพิ่มความรักมากขึ้นอีกนิสัยบุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระของนาง ในสายตาฉู่จวินสิงช่างน่ารักเป็นที่สุดและเจี่ยนกั๋วกงในสายตาของฉู่จวินสิง ก็ไม่เคยมีภาพลักษณ์ที่ดีเลยสมัยก่อนเจี่ยนกั๋วกงทำตัวสนิทสนมใกล้ชิดกับฉู่ชางเหยียนเป็นอย่างมาก ซ้ำยังมุ่งมั่นหนุนให้เขาได้ขึ้นครองราชย์บัดนี้ฉู่ชางเหยียนได้บรรลุเป้าหมายแล้ว คาดว่าเจี่ยนกั๋วกงน่าจะได้ผลตอบแทนไม่น้อยแต่เจี่ยนกั๋วกงก็ได้ทำความดีอยู่เรื่องหนึ่ง ก็คือยกเจี่ยนอันอันให้แต่งงานกับเขาฉู่จวินสิงเห็นปากบางของเจี่ยนอันอันยังคงเจื้อยแจ้วไม่หยุด จึงรีบดึงตัวนางมาเข้าใกล้โดยไม่สนใจรอบข้าง พร้อมประทับจุมพิตลงไป“อึ้ม...”เจี่ยนอันอันยังพูดไม่จบดี กลั
งูดำอีกตัวเตรียมจะพุ่งเข้าฉกร่างกายของฉู่จวินสิง แต่กลับถูกเขาจับเข้าที่ตำแหน่งหัวใจของมันงูดำไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน ได้แต่ปล่อยให้ฉู่จวินสิงจับตัวไว้ พร้อมฟาดกับพื้นรุนแรงซ้ำผลก็คืองูตัวที่สามก็ขดตัวเป็นวงกลมเช่นกัน และแน่นิ่งไร้การขยับเขยื้อนอีกจนถึงเวลานี้ เจี่ยนอันอันจึงกล้าเดินมาใกล้นางก้มลงไปพิจารณางูดำทั้งสามตัว จึงพบว่าพวกมันล้วนตายด้วยน้ำมือฉู่จวินสิงทั้งสิ้นสายตาที่นางจ้องมองฉู่จวินสิงจึงเพิ่มความชื่นชมขึ้นมาอีกปกติเจี่ยนอันอันไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่กลัวงูตัวใหญ่สีดำประเภทนี้ที่สุดหากไม่เพราะมีฉู่จวินสิงตามมาด้วย ป่านนี้นางคงกลัวจนยืนตัวแข็งไปแล้วเจี่ยนอันอันจับงูดำขึ้นมาตัวหนึ่ง พร้อมบีบที่หัวมัน บังคับให้อ้าปากกว้างเขี้ยวแหลมคมสองซี่ปรากฏออกมาในบัดดล ดูแล้วยังคล้ายเคลือบด้วยพิษร้ายแรงอีกเจี่ยนอันอันกำลังคิดหนักอยู่ว่าจะหาอะไรมาปรุงยาพิษดี เขี้ยวพิษของงูสามตัวนี้ มาได้จังหวะเหมาะมาก“วันนี้มาเจอสามีของข้า นับว่าพวกเจ้าเคราะห์ร้ายเอง”เจี่ยนอันอันกล่าว พลางดึงเขี้ยวพิษของงูออกมา ใส่ลงในขวดเล็กและใช้วิธีเดียวกัน ถอนเขี้ยวพิษจากงูอีกสองตัว ใส่ลงในขวดก
“พี่รอง ท่านคิดกลับไปเมืองจิงโจวจริงรึ? แต่พวกเราถูกเนรเทศมาอยู่เมืองอินเป่ย จะไม่อาจไปไหนได้อีก แล้วท่านจะกลับไปได้อย่างไร?”“อีกอย่างฮ่องเต้ต้องส่งทหารมาเฝ้าประตูเมืองจิงโจวไว้ หากท่านกลับไปเช่นนี้ อาจถูกคนของฮ่องเต้พบเห็นเข้า”“แล้วถึงตอนนั้น ท่านอาจไม่ได้รอดชีวิตกลับมาอีก”ฉู่อันเจ๋อเพิ่งกล่าวจบ กลับถูกฉู่จวินหลุนตบเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง“อย่าพูดเหลวไหล พี่รองเจ้าไม่ตายง่ายๆ หรอก”ฉู่อันเจ๋อกุมท้ายทอยที่ถูกตีจนเจ็บ พลางก้มหน้าก้มตาไม่กล้าพูดจาอีกฟางอิ๋งนึกถึงเมื่อคืนวันก่อน ฉู่จวินสิงไปที่ห้องของนางกับฉู่จวินหลุนคาดว่าสองคนคงจะหารือเรื่องนี้กระมังตอนนั้นฉู่จื่อซีได้นอนหลับไปแล้ว จึงไม่ได้ยินการพูดคุยของพวกเขาส่วนฟางอิ๋งก็ออกจากห้องไปอย่างรู้กาลเทศะ ไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยเช่นกันที่แท้ฉู่จวินหลุนรู้แต่แรกแล้วว่า ฉู่จวินสิงมีความคิดจะกลับไปเมืองจิงโจวอีกซึ่งนอกจากเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงเองแล้ว ผู้อื่นล้วนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ฉู่จวินหลุนก็เป็นห่วงว่าการไปของฉู่จวินสิงครั้งนี้ จะเสี่ยงเกินไปหรือไม่แต่เขาก็รู้นิสัยฉู่จวินสิงดี สิ่งที่เขาคิดจะทำ อย่างไรก็ต้อ
ฮูหยินรองเห็นฮูหยินใหญ่มีสีหน้ากลัดกลุ้ม แต่นางก็ไม่รู้จะปลอบใจอย่างไรเพราะหากตอนนี้เป็นนาง ก็คงห่วงใยความปลอดภัยของฉู่อันเจ๋อเช่นกันดีที่การไปเมืองจิงโจวครั้งนี้ ฉู่อันเจ๋อไม่คิดติดตามไปด้วยข้อนี้จึงทำให้ฮูหยินถอนหายใจโล่งอกหน่อยเจี่ยนอันอันกลับมาที่ห้อง และแวะไปดูห้วงมิติเห็นยาวิเศษสามเม็ดนั้นยังคงอยู่ในระหว่างเพิ่มสรรพคุณอยู่และตอนนี้ดูแล้ว ปุบปับคงยังไม่อาจปรุงได้สำเร็จเมื่อครู่หลังจากกินข้าวเสร็จ นางนำยาถอนพิษที่ปรุงออกมาวันนี้ แจกจ่ายให้แก่ทุกคนพร้อมบอกทุกคนว่า ถ้ากู้มั่วหลีคิดมาวางยาพวกเขาอีก ก็ให้กินยาถอนพิษที่อยู่ในขวดเสียและยาตัวนี้จะกินมากก็ไม่ได้ ครั้งละหนึ่งเม็ดก็เพียงพอกินมากไปจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพมากกว่า......ยามนี้กู้มั่วหลีกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง รอยแผลที่หน้าผากได้ตกสะเก็ดแล้วใบหน้าอันหล่อเหลานั้น เพราะมีรอยแผลนี้ จึงกลายเป็นตำหนิที่ทำให้ไม่สมบูรณ์แบบค่ำคืนเงียบสงัด มีเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรนอกหน้าต่างเท่านั้นไม่นานพลันได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบา และมีเงาคนปรากฏที่หน้าประตู“คุณชายกู้ ข้าเข้าไปได้หรือไม่?”ร่างกายเจี่ยนหลิงเยว่เพิ่งได
และไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ร่างกายเริ่มมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว กระดูกและข้อต่อค่อยทวีความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเสียงร้องของเขาดังยิ่งกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว แต่หัวหน้าผู้คุมและลูกน้องต่างไม่เห็นยาพิษที่เจี่ยนอันอันโยนออกไป จึงเห็นการกู่ร้องของเฝิงซานกวงเป็นเพียงการขัดขืนครั้งสุดท้ายเท่านั้นแม้พวกเราจะรู้ดีว่า เฝิงซานกวงเป็นญาติกับเจ้าเมืองตานแต่เมื่อท่านเจ้าเมืองออกคำสั่งมาแล้ว พวกเขาก็ย่อมต้องปฏิบัติตามพวกเขาคุมตัวเฝิงซานกวงไปยังห้องลงทัณฑ์ พร้อมจับมัดไว้กับม้านั่งตัวหนึ่งผู้คุมสองคนยกไม้พลองขึ้น พร้อมฟาดลงที่สะโพกเฝิงซานกวงอย่างแรง“อ๊าก โอ๊ย โอ๊ย!”เดิมทีร่างกายก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ยังมาถูกโบยซ้ำอีกเฝิงซานกวงเจ็บเสียจนเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูโดนเชือดไม่นานก็โบยครบยี่สิบไม้ พร้อมกับสะโพกเฝินซานกวงซึ่งยับเยินไม่เป็นชิ้นดีเลือดไหลซึมออกมาจนเปื้อนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเจี่ยนอันอันตามมายังห้องลงทัณฑ์ มองลอดหน้าต่างเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาและบัดนี้เฝิงซานกวงได้หมดสติไปแล้ว เสื้อผ้ายังเปื้อนด้วยเหงื่อเย็นที่โซมกายนางพอใจเป็นอย่างมากที่ผลออกมาเช่นนี้ จึงได้กล่าวต่อเจ้
เฝิงซานกวงถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน พลางกล่าวแก้ตัว “ท่านอารอง ข้าไม่เห็นว่าแร่หินจะมีปัญหาอันใด”“หากแร่เหล่านี้มีพิษจริง แล้วข้าจะอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร?”คำกล่าวนี้ย่อมทำให้เจ้าเมืองตานเกิดความกังขาเช่นกัน จึงมองไปยังฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน รู้สึกว่าคำพูดของสองคนนี้ ดูจะไม่ชอบมาพากลนักเจี่ยนอันอันยิ้มหยันพลางกล่าว “ท่านย่อมจะปลอดภัยแน่นอน เพราะรู้แต่แรกแล้วว่าแร่หินมีพิษ จึงกินยาป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า”เฝินซานกวงแอบสะดุ้งในใจ แต่ยังไม่คิดยอมรับว่าแร่หินมีพิษจริงจึงได้กล่าวแก้ตัวอีกครั้ง “เจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล ข้าเคยกินยาถอนพิษเมื่อไหร่กัน”นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าคิดเองเออเองทั้งเพ หวังนำมาซ้ำเติมให้ข้ามีโทษหนักมากขึ้น”เจี่ยนอันอันพอดูออกว่า เจ้าเมืองตานเริ่มคล้อยตามคำพูดเฝิงซานกวงบ้างแล้วนางจึงกล่าวต่อเจ้าเมืองตานว่า “หากท่านเจ้าเมืองไม่เชื่อคำพูดของข้า ก็ให้ส่งคนไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ได้ เพื่อดูว่าข้าพูดถูก หรือเฝิงซานกวงพูดถูกกันแน่”เจ้าเมืองตานจึงรีบเรียกทหารในจวนมา พร้อมสั่งให้ไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ไม่นานทหารผู้นั้นก็ได้กลับมา พร้อมรายงานว่าคนงานที่อยู่ในเหมือง ล
ครั้นเจ้าเมืองตานได้ยินว่าฉู่จวินสิงมา หัวใจก็พลันหนักอึ้งเขาสาวเท้าออกไปจากคุกในทันที “รีบเชิญพวกเขาเข้ามา”องครักษ์ได้ยินเจ้าเมืองตานใช้คำว่าเชิญ ในใจก็คิดว่าฉู่จวินสิงจะต้องเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเป็นแน่เขาไม่กล้าชักช้าจึงย้อนกลับไปโดยพลันเขากล่าวกับฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าของข้าเชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน”ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันสาวเท้าเข้าไปในจวน โดยมีองครักษ์นำทางไปยังโถงใหญ่คนทั้งสองมาถึงบริเวณนอกโถงใหญ่ก็เห็นว่าเจ้าเมืองตานรออยู่ข้างในแล้วเจ้าเมืองตานรีบออกมาต้อนรับ เขาประสานมือกล่าว “ทั้งสองท่านมาที่จวนข้าได้อย่างไร เหมืองนั่นเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีกอย่างนั้นรึ?”“เจ้าเมืองตานกล่าวไม่ผิด เหมืองนั่นเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้สองมือของเจ้าเมืองตานกำแน่นเขานึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นเรื่องดีๆ ที่เฝิงซานกวงทำอีกแล้วเป็นแน่เจี่ยนอันอันบอกเรื่องที่แร่ในเหมืองมีพิษออกมาเจ้าเมืองตานได้ยินแล้วก็ยิ่งโมโหอย่างหนักเขามีหลานแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ ถึงกับให้คนเหล่านั้นขุดแร่มีพิษเลยหรือนี่ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงเป็นหลานของเขา เขาคงส
พวกลูกน้องต่างมองหน้ากัน ความงุนงงฉายเกลื่อนใบหน้าพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองจึงไม่ถูกพิษหากไม่ใช่เพราะเจี่ยนอันอันเพิ่งพูดออกมาว่าแร่ของที่นี่มีพิษ พวกเขาก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำลูกน้องคนหนึ่งในจำนวนนั้นเอ่ยขึ้น “พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่ตอนแรกที่พวกข้ามาที่นี่เคยได้กินน้ำแกงปลาจี้ที่เจ้าเหมืองเฝิงทำ”“หรือจะเป็นเพราะน้ำแกงนั่น พวกข้าถึงได้ไม่ถูกพิษ?”ลูกน้องคนอื่นๆ ก็รีบร้อนพยักหน้าด้วยเช่นกัน“ใช่แล้ว วันแรกที่พวกข้ามาที่นี่ล้วนแต่ได้ดื่มน้ำแกงปลาจี้ไปหนึ่งถ้วย”“ข้าคิดออกแล้วเหมือนกัน ตอนที่ข้าซดน้ำแกงปลาจี้นั่นยังคิดอยู่เลยว่าเจ้าเหมืองเฝิงช่างใจกว้างนัก เพิ่งมาถึงก็ให้พวกข้าดื่มน้ำแกงปลาจี้ที่สดใหม่เช่นนี้ อาศัยน้ำแกงปลาจี้นี้ ข้าก็จะตั้งใจทำงานให้เขา”เจี่ยนอันอันมุ่นคิ้ว เมื่อครู่นางดมดูแล้ว พิษในแร่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถอนพิษได้ด้วยน้ำแกงปลาจี้ถ้วยเดียวเห็นทีเรื่องนี้คงต้องไปถามเฝิงซานกวงถึงจะรู้เรื่องในเมื่อแร่มีพิษ แต่เฝิงซานกวงและพวกลูกน้องล้วนแต่ปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบ แสดงว่าเขาจะต้องมีวิธีแก้พิษอยู่อย่างแน่นอนนา
เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน
ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล
แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร
เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน
แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ